เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 39 40 [41]
  พิมพ์  
อ่าน: 122350 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 600  เมื่อ 15 พ.ย. 25, 18:07




สืบเนื่องจาก album ชื่อ Trio  ผมเสนอผลงานของสาว country ไปแล้ว 2 คน คือ Dolly Parton กับ Linda Ronstadt  ในวาระดิถึนี้ก็จะกล่าวถึงศิลปินคนที่ 3

Emmylou Harris เป็นอีกหนึ่งราชินีเพลง country ในยุคหลังของ 70s ต่อต้น 80s  ผมสงสัยว่ามีนักฟังเพลงฯ บ้านเราสักกี่คนที่รู้จัก  อย่าว่าแต่เพลงของเธอเลย  เอาแค่ชื่อของเธอก็พอ ตัวผมได้ยินชื่อเธอครั้งแรกจากเพลงหนึ่งใน album ชื่อ Prisoner in disguise ของ Linda Ronstadt  เธอมาช่วย LR ร้องในเพลงนี้



ส่วนเพลงนี้  เป็นเพลงเปิดรายการหนึ่งของคลื่น Nite Spot ที่ดำเนินรายการโดยคุณวาสนา วีรชาติพลี ได้ฟังทุกวันจนเพราะ  ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้จากคลื่นอื่นเลย  ใครเป็นแฟนรายการ Together again ของคุณวาสนาฯ ต้องจำได้





ในยุคนั้น  สื่อทางการบันเทิงจะเน้นไปที่ดารานักร้อง  ผมว่ามีน้อยคนที่จะรู้ว่าคุณวาสนามีหน้าตาอย่างไร  ผมคนหนึ่งแหละที่ไม่เคยเห็น  จำได้ว่าเสียงหวาน (แต่เด็ดขาด)  เพิ่งมาเห็นหน้าเธอชัด ๆ ในยุค อตน.  เช่นเดียวกับพี่หมึก หรือ วิโรจน์ ควันธรรม  ที่ตอนนั้นข่าวเข้ามาตลอดว่าหล่อสุดขีด  แล้วก็ ม.ล. รุจยาภา อาภากร ที่มีข่าวว่าตัวเล็กนิดเดียว ฯลฯ

รายการ Together again นี้เก๋มากคือเพลงเปิดรายการเป็นเพลง country จากอเมริกาแต่เพลงที่เปิดมักเป็นเพลงจากฝั่งอังกฤษ 

คุณวาสนาฯ เป็นดีเจที่ผมจำได้ไม่ลืมคือ ‘โคตร’ ดุ  ใครที่โทรศัพท์เข้าไปหาเธอเพื่อขอเพลง  ถ้าสำเนียงภาษาอังกฤษไม่ดี  เธอจะสอนการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องออกอากาศให้ด้วย  และถ้าใครขอเพลง ‘โหล’ เธอจะบอกออกอากาศ (เช่นกัน) อย่างสุภาพว่า ‘ไปขอที่คลื่นอื่นนะคะ’  ผมไม่รู้ความคิดคนอื่นแต่สำหรับผมแล้ว  เธอตรงดี  และให้ข้อมูลได้ถึงกึ๋น  ดุแบบนี้  แต่แฟนรายการเธอเหนียวแน่นมาก


กลับมาที่ Emmylou Harris  เธอเป็นศิลปินสาขา country ขนานแท้คือ  ในขณะที่มี single ฮิตในอันดับเพลง country เป็นกะตั๊ก  แต่ไม่มีเพลงไหน ‘ข้ามฟาก’ มาดังในอันดับเพลง pop เลย   

ท่ามกลางเพลงที่เข้ามาไต่ในอันดับเพลง pop นี้  เพลงของเธอที่ออกอากาศทางวิทยุในบ้านเรา เป็นครั้งแรก  มาพร้อม ๆ กัน 2 เพลง  เพลงแรกเป็นเพลงร้องเดี่ยวชื่อ Mr. Sandman  เพลงฮิตในยุค 50s ของวง The Chordettes (ลงเพลงของพวกเธอไปแล้ว 1 กระบิ) 

(เธอร้องในสไตล์เดียวกับฉบับของ The Chordettes ไม่ผิดเพี้ยน)


เพลงที่ 2 เป็นเพลงร้องคู่  คู่ของเธอคือ Roy Orbison  เพลงมาจากหนังชื่อ Roadie (1980)  หนังไม่มาฉายในบ้านเรา  แต่ soundtrack มา  เป็นแผ่นคู่  ผมหยิบแล้วหยิบอีก  ถ้าเป็นแผ่นเดี่ยวคงซื้อไปแล้ว

(เป็นอีกหนึ่งในเพลงเพราะที่สุดสำหรับผมในตอนนั้น  และนี่คือสาเหตุที่ทำไมผมหยิบแผ่นเสียงชุดนั้นแบบ ‘หยิบแล้วหยิบอีก’  คือ ต้องจ่ายตังค์ตั้งร่วม 4 ร้อยบาท (ในขณะที่ผู้ปกครองจ่ายเงินเดือนเดือนละ 800 บาท) เพื่อเพลงเพลงเดียว  เข้าแผนกแผ่นเสียง (ห้างเซ็นทรัลสีลม) ทีไรก็หยิบแผ่นนี้ขึ้นมาดู  พลิกไปพลิกมา  แล้วก็วางกลับคืน  แล้ววันหนึ่งเมื่อผมไปถึงก็พบว่ามันหายไปจากช่องเก็บ  ใครซื้อวะ  อยากเห็นหน้า  ตอนนั้นผมคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางได้ฟังเพลงนี้แบบอิ่ม ๆ เสียแล้ว)




มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 601  เมื่อ 16 พ.ย. 25, 17:51

วันหนึ่งในช่วงเดียวกัน  ผมไปเดินเล่นที่แผนกแผ่นเสียงของห้างเซ็นทรับสีลมเป็นปกติ  ก็เจอแผ่นเสียงของ Emmylou Harris ตั้งหลายชุด  รู้สึกแปลกใจที่ทำไมห้างสั่งแผ่นเสียงของเธอเข้ามาเพราะน้อยคนที่จะรู้จักชื่อนี้  มันเป็นแผ่น ‘ย้อนหลัง’ คือออกมาก่อนหน้า  แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้เสียโอกาสฟังเพลงของเธอ  ผมเลือกแผ่นรวมเพลงของเธอซึ่งออกมาในปลายยุค 70s  พอกลับมาบ้านก็เปิดฟัง  โอ้โฮ... เพราะ ๆ ทั้งนั้นเลย

มาลองฟังเพลง country (แนวร่วมสมัย) กันหน่อย



(ฉบับอัดใน studio เพราะกว่า  แต่นำ clip แสดงสดมาให้ชมเธอ in action)







(เพลงนี้มาจากปลายปากกาของ Dolly Parton  เนื้อเพลงมีสาระมาก)



(เพลงนี้เธอร้องคู่กับ Nicolette Larson อีกหนึ่งศิลปินร่วมกลุ่ม west coast  NL นี่มีเสียงที่เพราะมาก เธอเริ่มต้นด้วยเพลงดัง  เพราะทั้ง album ด้วยซ้ำ  แต่แล้วไปไม่รอด  น่าเสียดายมาก  ผมเคยเสนอเพลงของเธอไปนานแล้ว  เธอตายเร็วมาก)


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 602  เมื่อ 17 พ.ย. 25, 18:06

เพิ่งนึกได้ว่า ผมได้ยินเสียงของ Emmylou Harris เป็นครั้งแรก (ทางวิทยุ) จากเพลงนี้ต่างหาก  ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าคนร้องชื่ออะไร  แล้วก็ไม่รู้ว่าต้นฉบับเพลงนี้เป็นเสียงของ The Beatles



บรรดาเพลงของ EH ที่เสนอไปเมื่อวานล้วนออกสู่ตลาดก่อนหน้าเพลง Mr. Sandman ที่เข้ามาออกอากาศในบ้านเรา  นับเป็นการดีที่ผมสามารถต่อยอดเพลงของเธอได้เลย

เพิ่งนึกได้ (อีกครั้ง) ว่าในปีที่วิทยุเปิดเพลง Mr. Sandman นั้น  ยังมีอีกเพลงที่เปิดออกอากาศ  ผมเพิ่งรู้เมื่อมีข้อมูลอยู่ในมือว่า  เพลงนี้ไม่เข้าอันดับเพลง pop  มันดังอยู่ในอันดับเพลง country  แปลกตรงที่วิทยุบ้านเราจะเปิดเพลงที่อิงจากอันดับเพลง pop เท่านั้น

(เสียงคู่ฝ่ายชายคือ Don Williams  เธอเคยมีเพลงเดี่ยวมาเปิดในบ้านเราเพลงนึง)


เพลงอยู่ใน album ที่เห็น  มันเพราะจนผมต้องแจ้นออกไปหาซื้อแผ่นเสียง  ที่ห้างเซ็นทรัลสีลม ญาติสนิทนั่นแหละ  มีวางขายอยู่หลายชุด  ในแผ่นเสียงแผ่นนี้มีเพลงอื่นอีกที่ดัง   ทางอันดับ country  แต่ไม่มีเพลงไหนมาเปิดในบ้านเรา






เป็นอีกแผ่นที่คุ้มค่าเงินผม


อีก 2-3 ปีต่อมา  Emmylou Harris ก็ออกแผ่นรวมเพลงของเธอเป็นครั้งที่ 2  ผมเจอโดยบังเอิญและไม่รีรอที่จะคว้ามันกลับบ้านในทันที  ในแผ่นนี้รวมเพลงเด็ด ๆ ที่ออกในอดีตต่อจากชุดรวมเพลงครั้งแรก  คุ้มค่าเงินเช่นเคย









Album ชื่อ The ballad of Sally Rose เป็นแผ่นสุดท้ายของ EH ที่ผมซื้อเพราะมันเป็นแผ่นล่าสุดที่ห้างเซ็นทรัลสั่งมาขาย  ปกสวยมาก  สีขาวสะอาดตา  





พามาเดินเล่นในถนนสาย country นะ  ไว้จะพาไปเที่ยวอีก  ตอนนี้สลับฉากก่อน
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 603  เมื่อ 18 พ.ย. 25, 18:10

นานมาแล้วผมเคยนำเสนอเพลงของวงจากอังกฤษชื่อ The Sweet (ทบทวนหน่อย)



เพลงของวง The Sweet ดังในบ้านเราในยุคต้น 70s  อีกแป๊บต่อมา วง rock จากอังกฤษอีกวงก็เข้ามาอาละวาดในบ้านเรา  วงนี้ดังกว่าวง The Sweet เสียอีก  ผมว่าเป็นเพราะสมาชิกมีบุคลิกเป็นที่ต้องตาสาว ๆ  หนังสือ SP และ หนังสือเพลง 3 หัว  อ้อ... ตอนนั้นมีหนังสือเพลงน้องใหม่ชื่อ Supersonic อีกหนึ่งชื่อ  ต่างลงรูปสมาชิกของวงนี้กันทุกฉบับยาวนานเป็นปี ๆ เลยละ  วงนี้ชื่อ Bay City Rollers  นึกออกแล้วใช่มั้ย

ถ้าเป็นสิงห์เพลงฝรั่งต้องจำเพลงนี้ได้อย่างแน่นอน  เปิดกันทุกคลื่นวิทยุ  นักร้องนำ Les McKeown เป็น teenage idol  ผมจำไม่ได้ว่าสาว ๆ บ้านเราคลั่งแค่ไหน  แต่ผมเฉย ๆ  โดยส่วนตัวผมว่าสมาชิกล้วนหน้าตาประหลาด ๆ แล้ว ‘ลุค’ ของพวกเขาก็... ดูเอาเอง



เพลงข้างบนเป็นเพลงประเดิมอันดับ billboard อเมริกาเป็นเพลงแรกซึ่งก็ขึ้นถึงอันดับ 1 เลย   แต่ที่บ้านเกิดพวกเขาร่อน singles ออกมาตั้งแต่ต้น 70s แล้ว  มี 2 เพลงข้างล่างครองอันดับ 1 แต่ไม่ติดโผที่อเมริกา





ช่วงนั้นเพลงอื่น ๆ ก็กระจายออกมาจากลำโพงวิทยุกันขวักไขว่  ถูกหูผมบ้างไม่ถูกบ้าง


เพลงนี้ใคร ๆ ก็นิยมเอามาร้องใหม่  โดยส่วนตัวผมว่าต้นฉบับเพราะที่สุด  ลองฟังเทียบกัน





เพิ่งเห็นจาก youtube ว่าช่วงปลายยุคของวง (เปลี่ยนสมาชิกไปแล้ว 2 คน  ข่าวแบบนี้รู้ในตอนนั้น) สมาชิกเปลี่ยน ‘ลุค’ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น  Les McKeown หล่อขึ้นมาทันตา



นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางวิทยุ  ผมว่าเพราะที่สุด



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 604  เมื่อ 19 พ.ย. 25, 17:52

ในช่วงปลายยุคของวง Bay City Rollers  สมาชิกเล่นกีต้าร์ของวงลาออก  ทางวงฯ คัดเลือกหนุ่มคนใหม่เข้ามาแทน มีชื่อว่า Ian Mitchell (1958 – 2020)




IM เป็นสมาชิกอยู่ในวงฯ แค่ราว 9 เดือนก็ลาออกแล้วกลับไปร่วมกับวงเก่าซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน  วงนี้มีชื่อว่า Rosetta Stone  บ้านเราเปิดเพลงหนึ่งของวงนี้  เป็นเพลงที่หาฟังได้ง่ายมากเพราะแทบทุกคลื่นเพลงฝรั่งล้วนพร้อมใจกันเปิด



ฟังเพลงจาก Bay city rollers แล้วนึกถึงนักร้องอีกคนจากอังกฤษเช่นกันคือ John Miles



คัดเพลงนี้มาจาก นส. อันดับเพลงของอังกฤษที่ผมมีอยู่  พอมาหา clip ฟังใน youtube  แหม... ขนลุก  เนื่องจากเพิ่งรู้เนี่ยว่าเพลงนี้เป็นเสียงร้องของคนนี้นี่เอง  ใครคุ้นหูบ้าง



แล้วก็ Alvin Stardust  วิทยุเปิดเพลงของเธอในช่วงนั้นเหมือนกัน  ผมจำได้เพลงเดียว 



ฟังแค่เสียงแล้ว  ผมว่าแนวเพลงคล้ายของวง T. Rex 

(สังเกต นักร้องดังระดับโลก Elton John เล่น piano  ตอนนั้นเธอกำลังเตาะแตะอยู่)

เป็นเพลง rock ที่ตอนนั้น  ความเป็นเด็กผมจึงยังรับความอึกทึกไม่ได้  แต่ทำนองช่วง intro ติดหูมาก  พอโตขึ้นสั่งสมประสบการณ์มามากขึ้น  มันกลายเป็นเพลงที่เพราะมาก ๆ เพลงหนึ่ง

T.Rex เป็นวงดังมาก ๆ จากอังกฤษในต้น 70s  เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ในบ้านเขา  แต่ขึ้นไปอยู่ได้แค่ใน top 10 ในตาราง billboard ของอเมริกา  ช่วงที่วงดัง หนังสือเพลง 3 หัวที่บ้านเราต่างลงรูปของพวกเขามากมาย  ดาวเด่นคือ Marc Bolan ซึ่งยึดตำแหน่งนักร้องของวง

ในเวลาต่อมา (ความรู้ในตอนนั้น  ความรู้ในตอนนี้คือ 19 ก.ย. 1977) นส. Starpics ก็ลงข่าวว่าเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์  พร้อมกับลงรูปนี้อันเป็นภาพที่ติดตาผมมาถึงปัจจุบัน



ในกาลเวลาต่อมาเช่นกัน  ผมได้มีโอกาสฟังเพลงอื่นที่ดัง ๆ (ที่บ้านของพวกเขา  บ้านเราเปิดรึเปล่า  ไม่รู้) ของวงนี้เช่น



ส่วนเพลงนี้ไม่ดังแต่แทรกอยู่ในหนังดังที่ไม่มาฉายในบ้านเรา  แต่ผมได้ดูทาง DVD  หนังชื่อ Billy Elliot  หนังเล่าถึงเด็กชายวัย 11 ที่มีความฝันอยากเต้น ballet  ผมฟังเพลงนี้ไปดูหนังไปให้อารมณ์จริง ๆ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 605  เมื่อ 20 พ.ย. 25, 17:50

แทรกตรงนี้...

เมื่อกลางวัน  เดินรับใช้ชาติอยู่ในบ้าน หูแว่วได้ยินคำหนึ่งจากข่าวทางทีวี...  rare earth  ไม่ได้ยินคำนี้มานานมาก  ที่เคยได้ยินครั้งสุดท้ายอยู่ในยุค yesterday once more ของผม  มีวงดนตรีวงหนึ่งชื่อ Rare Earth  (ตอนนั้นไม่รู้ว่า) วงไม่ดัง  รู้แต่ว่าเพลงนี้ดังมาก ประมาณเพลงโหล  

(หา clip 'ตัวเป็น ๆ' ของฉบับ single ที่ความยาวของเพลงสั้นกว่านี้  ไม่ได้  มีแต่ฉบับที่ใช้เปิดในบาร์ ฯ)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 606  เมื่อ 20 พ.ย. 25, 18:00

ครึ่งหลังของยุค 70s  มีวงจากอังกฤษอีกวงที่ดังในบ้านเรามาก ๆ ถึงขนาดเคยมาเปิดการแสดงสดที่บ้านเรา (ถ้าจำไม่ผิด) คือวง Guys ’n’ Dolls  ผมจำได้แต่เพลงที่ดังที่สุดของพวกเขา  ล้วนเป็นการนำต้นฉบับมาร้องใหม่





น้อยคนที่จะจำได้ว่า เพลงเปิดตลาดในบ้านเราคือเพลงนี้ที่ผมว่าเพราะที่สุด  ถ้าจำไม่ผิดนำเสนอโดยคลื่น Nite Spot  ส่วนเพลงอื่น ๆ ไปออกทางคลื่นอื่น ๆ  



ในยุคปลาย ๆ เพลงนี้ปิดฉากในบ้านเรา  เป็นการสั่งลาที่อยู่ในความทรงจำของผม  เพราะชอบเพลงนี้มาก  ป่านนี้ยังหา file ที่มีคุณภาพดี ๆ ไม่ได้เลย



ดูจากภาพใน clip เพลง Perfectly Well ข้างบน  จะเห็นสมาชิกเหลือแค่ 2 คู่  ถ้าย้อนขึ้นไปดู MV อื่น ๆ ของวง G&D  จะเห็นมี 3 คู่  คู่ที่ตัวเล็กที่สุดนั่นแหละ  ต่อมาแยกออกมาตั้งวง Dollar  วิทยุบ้านเราเปิดเพลงของวง G&D อยู่แล้ว  พอวงน้องใหม่ซึ่งมีความสัมพันธ์กับวงพี่ออกเพลงก็นำเพลงของพวกเขามาเปิดด้วย... ไม่รู้กี่เพลง  แต่อย่างน้อยก็ 4 เพลงนี้  ผมชอบเพลงแรกที่สุด  แต่เพลงที่ 3 ดังในบ้านเราที่สุด (วัดจากการหมุนเข็มไปมา)








บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 607  เมื่อ 21 พ.ย. 25, 18:12

นานมาแล้วเคยนำเสนอเพลง R&B จากวงประสานเสียงชายในยุค 70s  เช่น วง The Chi-lites, วง The Manhattan ฯลฯ  ต่างก็มีเพลงดังกันวงละจุ๋มวงละจิ๋ม  และดังอยู่บนตารางเพลงได้ไม่นาน

จากประสบการณ์  ในยุคนั้น  ในบ้านเรา  ไม่มีวงแนวนี้วงไหนดังเกิน The Stylistics คือออกเพลงมาให้ฟังเยอะมาก  วงนี้มีเอกลักษณ์ตรงเสียงร้องนำเป็นเสียงที่ดัดแหลมเรียกว่า falsetto  ผมจำไม่ได้ว่าเพลงดังในยุคแรก ๆ ของพวกเขาดังมาเข้าหูผมตั้งแต่เพลงไหน  แต่เพลงนี้ประเดิมความสนใจให้กับผม  มันกระจายออกมาจากลำโพงตอนผมเด้กเด็ก



แต่พอมาปี 1974 เพลงนี้กระหึ่มเลยละ



หลังจากนั้นก็มีอีก 2 singles  เพราะ ๆ ทั้งนั้น





ปีต่อมา วงฯ ออกแผ่นรวมเพลงฮิต  ผมโกยสี่ตีนออกไปหาซื้อโดยไม่รอช้า  ความที่วงดังสนั่นในบ้านเรา  แผ่นเสียงจึงหาได้ง่าย  ผมไปซื้อที่ห้างเซ็นทรัลสีลมของผม  แผ่นเสียงแผ่นนี้เยี่ยมมาก  คุ้มค่าเงิน  รวมเพลงดังระดับแผ่นเสียงทองคำในยุคแรกที่ผมจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินทางวิทยุครบถ้วน  รวมทั้ง 3 เพลงที่เล่นข้างบน







(ผมว่านักฟังเพลงฝรั่งคุ้นกับฉบับของ Diana Ross กับ Marvin Gaye มากกว่านะ)



เพลงนี้มีทำนองเปลี่ยนบรรยากาศแม้ไม่ดังแต่ไม่ใช่ว่าไม่เพราะ



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 608  เมื่อ 22 พ.ย. 25, 17:49

หลังจากออกแผ่นรวมเพลงฮิตไปแล้ว  จุด ‘ลงเขา’ ของวง The Stylistics ก็มาถึงอย่างน่าประหลาดใจว่าทำไมปุ๊บปั๊บแบบนั้น  singles ต่อ ๆ มาล้วนไต่อันดับได้ไม่ดี  แต่น่าแปลกที่เพลงเหล่านั้นล้วนข้ามไปเป็นเพลงฮิตที่อังกฤษ  แล้วข้ามฟากมากระหน่ำในบ้านเราต่อเนื่องจากเพลงฮิตทางฝั่งอเมริกา  กลายเป็นว่าบ้านเราได้ฟังเพลงฮิตของวงนี้จากทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทร

วิทยุบ้านเราแย่งกันเปิดจนพวกมันกลายจากเพลงฮิตเป็นเพลงโหล (คือเปิดกันเข้าไป)  ในตอนนั้นผมเลิกแยแสเพลงของพวกเขาไปแล้ว  แต่พอมาฟังตอนนี้ล้วนเป็นเพชรน้ำงามกันทั้งนั้น













ปิดท้ายด้วยเพลงโปรด  เพลงนี้ไม่ถือเป็นเพลงโหล เพราะวิทยุเปิดไม่บ่อยเท่า  แต่ผมช้อบชอบ  ตอนนั้นฟังจากวิทยุลำโพงกว้างเท่าถ้วยน้ำพริกก็ว่าเพราะถูกหูแล้ว  ต่อมาฟังกับเครื่องเสียงดี ๆ เสียงกลองสะเทือนรูหู
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 609  เมื่อ 23 พ.ย. 25, 18:22

Billy Swan



Gerry Rafferty กับเพลงที่มี intro เพราะสุด ๆ  ทรงพลัง


ส่วนเพลงนี้ดังกว่าเพลงแรก (เฉพาะในบ้านเรา)



C.W. McCall กับเพลงดัง Convoy ที่เป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างหนังในอีก 3 ปีต่อมา



ยุคของ Charles Aznavour จัดอยู่ในยุค golden oldies ของบ้านเรา  ผมไม่รู้ว่ามีใครเคยได้ยินชื่อเธอหรือเพลงที่เธอร้องในสมัยนั้น  

ในปลายยุค 90s  เมื่อหนัง Notting Hill ออกฉายเพลง She เป็นหนึ่งในเพลงประกอบที่ร้องโดยนักร้องชาวอังกฤษ Elvis Costello  เพลงดังในบ้านเรา  แต่มีน้อยคนที่จะรู้จักคนร้องทั้ง ๆ ที่เธออยู่ในวงการมาก่อนหน้าแล้วกว่า 20 ปี

แล้วก็เป็นไปตามประเพณีที่ต้องมีดีเจหัวคิดสร้างสรรค์ขวนขวายหาต้นฉบับของเพลงนี้มาเปิดให้ฟัง  นั่นคือฉบับของ CA  จากความเห็นส่วนตัว  ต้นฉบับดังกว่าหายห่วง



ต่อยอด...



เพลงของ David Dundas  ดังในบ้านเราพอประมาณ  โดยเฉพาะเพลงแรก





วันหนึ่ง โดยบังเอิญ  ผมได้อ่านประวัติของเธอทาง Wikiฯ  โอ้โฮ...

Dundas, Lord David Dundas, was born in Oxford, the second son of Lawrence Dundas, 3rd Marquess of Zetland, and his wife Penelope Pike. As a younger son of a marquess, he is entitled to the courtesy title 'Lord'. He was educated at Harrow and the Central School of Speech and Drama. While at the Central School, Dundas lived in a house on Albert Street that had been bought by his parents for him to live in. There were three bedrooms ... (พอแล้ว  ที่เหลือหาอ่านเอาเอง)

ในยุคนั้นไม่เห็นมีใครเอาเรื่องส่วนตัวของเธอมาลงให้อ่านเลย

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 610  เมื่อ 24 พ.ย. 25, 18:08


ตอนเพลงข้างบนนี้ออกอากาศ  ผมว่าไม่ผู้ฟังก็เหล่าดีเจคงชอบ  เพราะได้ยินบ่อยมาก  ตอนนั้นไม่คิดว่า Charlie Dore มาจากอังกฤษ  ผมว่าแนวเพลงของเธอเป็นอเมริกันจ๋า  ผมชอบเพลงที่ 2 มากกว่า



Fern Kinney ก็มาจากอังกฤษ  บ้านเราเปิด 2 เพลงดังของเธอ  เพลงแรกแนว disco ได้ฟังอีกทีในบาร์ฯ





Jackie de Shannon ... 2 เพลงนี้เป็น nostalgia ของผมเลยละ  ได้ยินมาตั้งแต่ผีเพลงยังไม่เข้าสิง





Leslie Pearl



Lois fletcher



Sheila E. กับเพลงนี้ที่วิทยุชอบเปิดอยู่พักหนึ่ง



Nana Mouskouri ... เธอเป็นชาวกรีกและดังในยุโรปมาก  แต่จากประสบการณ์  บ้านเราเปิดเพลงของเธอน้อย  เพราะเธอร้องเพลงในภาษาอื่น  ถ้าเป็นเพลงภาษาอังกฤษเธอมักจะเอาเพลงของคนอื่นมาร้องใหม่  มีแค่ 2 เพลงที่นึกออก



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 611  เมื่อ 25 พ.ย. 25, 18:35

ถ้าความจำยังไม่เลอะเลือนไปตามอายุ  ประมาณ 50 ปีขึ้นไป  สถานีวิทยุในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ออกอากาศทางคลื่น AM

ช่วงที่เรียนอยู่ชั้น ม. ต้น  ผมกำลังบ้าเพลงฝรั่งเลยละ  อาวุธคู่กายคือวิทยุทรานซิสเตอร์ยี่ห้อ ธานินทร์ ของคุณยาย  คุณยายจะใช้ฟังรายการ หนุ่มน้อยฝอยข่าว ทุกเช้าขณะเตรียมอาหารเช้าให้พวกเรากิน  หลังจากช่วงเวลานั้นวิทยุก็ตกอยู่ในความครอบครองของผม  ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมก็หลังจากผมกลับมาถึงบ้านแล้ว  ถ้าเป็นช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมละก็  ทั้งวัน

ความจริงที่บ้านยังมีวิทยุทรานซิสเตอร์อีกเครื่อง ยี่ห้อ Schaub Lorenz  เป็นของน้าสาว
 



แต่เธอห้ามผมใช้  เพราะเธอมีคลื่นฟังประจำคือรายการน้ำยาซักแห้งครอสซุปเปอร์ (เพลงโฆษณายังล่องลอยอยู่ในสมอง... ครอสซุปเปอร์หนึ่งไม่มีสอง...) เสนอเพลงของคณะสุนทราภรณ์  เธอจะเปิดฟังในตอนเช้าเช่นกันขณะแต่งหน้าเตรียมตัวไปทำงาน  ถ้าให้ผมร่วมใช้ด้วย  ผมจะหมุนเข็มหาคลื่นฟังเพลงฝรั่งมั่วไปหมด  ทำให้เธอต้องมาเสียเวลาหมุนหาคลื่นประจำทุกเช้า  ก่อให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด  (กับวิทยุของคุณยายผมก็ทำแบบเดียวกัน  ไม่เห็นท่านหงุดหงิดเลย)

ผมเคยแอบลองใช้เครื่องของเธอซึ่งมีปุ่มให้เลือก  พบว่าช่อง FM (U) มีคลื่นกระจายเสียงน้อยมาก  ซึ่งดำเนินรายการโดยฝรั่งทั้งนั้น  และเปิดเพลงฝรั่งเพราะ ๆ ทั้งนั้นด้วย  จำได้แม่นว่ารู้จักเพลง Delta Dawn ของ Helen Reddy จากที่นี่  ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้ทางคลื่น AM ที่จัดโดยคนไทยเลย  ส่วนใหญ่จะเปิดแต่ Leave me alone  เพลง Delta Dawn นี่แหละชักชวนให้ผมเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นกับ HR  และผูกสมาชิกแผ่นเสียงของเธอทุกแผ่นที่ผลิตออกมาในช่วง hot ของเธอ (เล่าผลงานของเธอไปแล้ว)




อีกไม่นานต่อมา  ฐานการกระจายเสียงเพลงฝรั่งก็ข้ามจากคลื่น AM ไปยังคลื่น FM   ส่วนเพลงไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในคลื่น AM

ตอนนี้การฟังเพลงฝรั่งเริ่มสนุกแล้ว  มีหลากหลายคลื่น  ผมเมินเครื่องธานินทร์ของคุณยายซึ่งมีแต่ภาค AM   ไปแอบใช้เครื่องของน้าสาว  จนเธอเอือมระอาเลยเซ็นสัญญากันไว้ว่าหลังจากเลิกใช้  ผมต้องหมุนเข็มกลับไปยังคลื่นประจำของเธอ  ซึ่งเธอจะใช้ดินสอสีขีดบนหน้าปัดนำทางเอาไว้

นอกจากจะมีตัวเลือกให้ได้ฟังเพลงฝรั่งแท้ ๆ จากเสียงร้องของฝรั่งแล้ว  ยังมีบางคลื่นนำเพลงฝรั่งจากเสียงของนักร้องเอเซียมาเปิดให้ฟังด้วย  เริ่มต้นด้วยวงดังในบ้านเราเอง Anne & the Cat



แล้วต้องไม่ลืม 2 เพลงดังของวง Those Fabulous Echoes





พี่ ๆ เคยบอกว่าวงนี้เคยมาเล่นในคลับในบ้านเราด้วย  เพลงที่วงร้องเป็นการนำต้นฉบับมาร้องใหม่ทั้งนั้น

(เพลงนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน  เอามาลงให้เห็นสมาชิกวงตัวเป็น ๆ ออกท่าได้มันมาก)


Freddie Aguilar


เพลงนี้วิทยุเปิดให้ได้ยินทั้ง 2 ฉบับ  คือต้นฉบับภาษา Philippines และฉบับภาษาอังกฤษ  เพลงดังสนั่นบ้านทีเดียวแหละ



Kenji Sawada



Sam Hui





Peter Chan

(เพลงนี้ชื่อ Harem Lady (เป็นการนำต้นฉบับมาร้องใหม่)  ไอ้คำว่า Harem นี่  ฟังทีไรมันได้ยินเป็น Harum ทุกครั้ง  แปลกดี  จงใจหรือออกเสียงเพี้ยนก็ไม่รู้)


เพลงของ Rebecca Pan ก็ดังในบ้านเรา





มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2330


ความคิดเห็นที่ 612  เมื่อ 26 พ.ย. 25, 18:20

เพิ่งนึกได้ว่าวิทยุเปิดเพลงของ Sam Hui อีก 2 เพลง  ซึ่งดังกว่า 2 เพลงที่เปิดให้ฟังไปเมื่อวานเสียอีก (ลืมได้ไงวะเอ็ง)





ฟังแล้วเพราะถูกใจ  ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นการนำต้นฉบับมาร้องใหม่  พอได้ฟังต้นฉบับในเวลาต่อมาก็ลืมฉบับของ SH ไปโดยสนิท

กลับมาต่อ...


พอผมโตขึ้นมาหน่อยเพลงฝรั่งจากศิลปินเอเซียก็ยังคงดังออกมาให้ได้ยิน

ดังสุดขีดก็วง The Wynners กับ 2 เพลง (นำต้นฉบับมาร้องใหม่เช่นกัน) ที่ได้ยินทุกวี่ทุกวัน





แล้วก็มาวง Ming



วง Alice มาในยุคหลัง  จำได้ว่าตอนที่ความดังของวงเริ่มขึ้นนั้นผมกำลังสอบ  





นอกจากเพลง Sukiyaki กับ Sakura ที่วิทยุเปิดให้ได้ยินมาตั้งแต่หูรับเสียงเป็น  แต่เปลี่ยนเสียงคนร้องไปเรื่อย ๆ เลยไม่รู้ว่าในยุคผมใครร้องแล้ว  ยังมีเพลงภาษาญี่ปุ่นอีกหลายเพลงที่เคยได้ยินทางวิทยุ  เท่าที่จำได้  คือมันเพราะถูกใจ









เพลงเหล่านี้ผมรู้รายละเอียดด้วยการพก file เสียง (ซึ่งจำไม่ได้ว่าได้มาได้อย่างไร) ติดไปด้วยตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น  แล้วถามเค้าไปทั่ว

แล้วยังมีเพลงแขกเพลงจีนอีกหลายเพลงที่ได้ยินมาจากที่โน่นที่นี่  บางเพลงที่ดังมาก ๆ ก็มีการนำมาแปลงเป็นเพลงไทย ทั้งลูกทุ่งลูกกรุง





ผมนึกถึงเพลงจีนเพลงหนึ่งที่ได้ยินมาตั้งแต่เล็ก ๆ  (คือครอบครัวผมเป็นคนไทย  คนที่มาเช่าบ้าน/ห้องแถวรอบ  ๆ มีแต่คนจีน)  พอโตขึ้นก็เริ่มหาเพลงนั้น  เป็นหลายสิบปีเลยละ  แล้ววันหนึ่งก็โชคดี  จำไม่ได้ว่าทำอีท่าไหนถึงรู้  เพราะทั้งชื่อเพลงและชื่อนักร้องมันเป็นภาษาจีน  ทุกคนที่รักเสียงเพลงต้องจำเพลงนี้ได้  มันดังล่องลอยอยู่ในอากาศ



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 39 40 [41]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 21 คำสั่ง