เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 3401 นักแสดงฮอลลีวู้ดยีน แฮ็คแมนเสียชีวิตพร้อมภรรยาและสุนัขเลี้ยง
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16061



ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 07 มี.ค. 25, 14:35

การตายของยีน แฮ็กแมนและภรรยา เป็นไปได้ ที่ภรรยาตายก่อน ยีนในวัย ๙๕ ปีไปเห็นเข้า แล้วหัวใจวายตายตาม

คนเราหัวใจวายตายตามกันได้ หรือตายได้เพราะความรัก ว่าเป็นฮอร์โมน (ไม่เกี่ยวข้องกับเซ็กส์เลยนะครับ) ที่มาแรงมากของมนุษย์ ไม่ว่าในวัยไหน ที่จะสร้างความเศร้าให้แก่คนอกหักหรือเสียคนรัก ในระดับหัวใจวาย

ภรรยาของเขา เบ๊ตซี่ อาราคาวา เป็นชาวฮาวาย เป็นนักเปียโนในระดับคอนเสิรท์ และแรงมากในการรักษาสุขภาพร่างกาย และ***สปีริต*** แล้วยีนเชื่อไปด้วย จนถึงขั้นย้ายกันอยู่ที่ซานตาเฟ

ซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก USA ที่เห็นจานอวกาศบินกันบ่อยมาก เช่นเดียวกับที่ฟีนิกซ์ อารีโซนา และลาสเวกัส และไวโอมิ่ง คือเยอะ ฯลฯ แต่ในที่นี้ที่ซานตาเฟ ท่านว่ามีอำนาจประหลาดลึกลับของสปีริต ดีหรือชั่วของทั้งโลก ท่านไม่บอกกล่าว แต่คงดี มาหมุนกันสร้างแรงสูงสุด (ของทั้งโลกนะครับ) อยู่กันที่ซานตาเฟ ลองอ่าน ...ทรงพลังมาก

ว่ามันเป็น A 'spiritual vortex' believed to have a concentrated flow of spiritual energy, often described as a swirling center where the earth's energy is particularly strong, creating a space for deep contemplation, self-discovery, and heightened spiritual experiences.

***swirling center where the earth's energy is particularly strong***

คุณเบ๊ตซี่เข้มขวดมากกับอนามัยของยีน ข่าวเขียนกันว่าในระบบ  extreme ทั้งโยคะ ไทจี ดูดพลังโลกดังกล่าว ยีนเคยชอบอาหารปิ้งทอด เค้ก นางตัดหมด แต่เชื่อไหมนางเชื่อถือเครื่องแกงกะหรี่แดงของอินเดีย ยีนก็ชอบ

นางชอบพลังนะครับ ไม่ใช่เรื่องเย็น เป็นเรื่องร้อน นางจะทำกับข้าวที่ยีนโปรดสองสามอย่าง กุ้ง หรือ ปลา กับผงกะหรี่แดงเผ็ดจากอินเดีย

มิน่ายีนถึงได้ผอมจนโซ แต่อาจอนามัยดีและแฮปปี้ คนแก่ชอบอยู่กับคนชอบทำกับข้าว

สภาพการณ์ที่ตำรวจผู้เชี่ยวชาญงุนงง เกี่ยวกับการตายทั้งหมดเพราะมีเม็ดยากระจัดกระจาย เต็มไปหมดบนโต๊ะ ในครัว

ยีนล้มตายข้างโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ในครัวกับพี้น เครื่องช่วยหายใจ pacemaker ของเขาหยุดทำงาน เก้าวันก่อนที่จะพบศพ    

เบ๊ตซี่ในวัย ๖๔ ปี ตายก่อนในห้องถัดไป และข่าวกระจายว่าศพเน่าแบบประหลาด ว่าแขนทั้งสองข้างเหมือนถูก mummiefied เหมือนศพที่อียิปต์ ที่ฝังอยู่ใต้ปิระมิด

ปิระมิดที่ผู้เชื่อถือเรื่องโลกต่างดาว เชื่อว่าทั้งหมดสร้าง หินหนักทั้งหมด ตัด ย้าย ยกขนตั้งทับกันเป็นชั้น ๆ จนกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของโลก ...โดยแสงเลเซอร์ของมนุษย์ต่างดาว ว่าอียิปต์ไม่มีบุคลาพลากรมากมายถึงปานนั้น ที่จะสร้างมัน ว่าที่ทาทองระยิบระยับบนฝา เป็นเรื่องของมนุษย์ แต่เรื่องก่อสร้าง เป็นงานของเอเลียน

แล้วยีนไปพบศพของภรรยา ที่เชื่อกันในตอนนี้ คือ ยีนเสมือนสบายดีตามวัย เดินเหินปรกติ จากการเช็ครอยเท้าที่มั่นคงบนพื้นครัว ที่เขาคงหัวใจเริ่มสลายตกใจ ที่เห็นภรรยาที่เขาอยู่มาด้วยแล้วนาน อ่อนกว่าเขาถึงสามสิบปี ผู้รักอนามัยและสปิริตในระดับคลั่ง มานอนตายในรูปแบบดังกล่าว

เชื่อกันว่า ...เขาเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ในครัว รอยเท้าว่าสั่นคลอน สเปะสปะ แล้วอาจพยายามกินยา เปิดขวด มันจึงกระจัดกระจาย ยาเม็ดที่เจ้าหน้าที่ไม่บอกว่าเป็นยาใด เพราะผมคิดว่าคนอนามัยจัดอย่างเบ๊ตซี่ คงจะไม่ปล่อยให้ยีนกินยาอันตราย แม้กระทั่งระงับประสาท

ข่าวว่านางควบคุม ประคบประหงมอนามัยของเขาอย่างเข้มงวด และหนัก ลูก ๆ ว่านางรักเขามาก และจะเก็บให้เขาอยู่บนโลกนี้ นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลูกกล่าวว่านางไม่ต้องการให้ยีนตายในระดับคลั่ง นางจะพาเขาไปเดินแบบปีนเขาอย่างช้า ๆ เนิ่นนาน ซึ่งต้องใช้พลังสปีริตสูงมากของคนที่กำลังประคบประหงมคนแก่ในวัยนั้น ให้พยายามเดินอยู่อย่างไม่ยอมเหนื่อยล้าถอย เพราะบ้านอยู่เหนือเขาในเนื้อที่ ๑๒ เอเคอร์ ที่ผมกลัวว่าจะไปเจอเอเลียนจากต่างดาว

แล้วเขาไปหัวใจวายตายตามภรรยาที่ฟลออร์ในครัว

นินทากาเล/ข่าวลือตามเน็ตมีว่า นางรักเขามาก พร้อมกับความเชื่อถือเกี่ยวกับสปีริตที่อาจอยู่ในระดับเพ้อเจ้อ ฉะนั้นนางอาจมีวิธีมัมมี่ไฟ เพื่อเก็บรักษายีนไว้กับนางนานเท่านาน หากยีนตาย

อยู่กันบนเขาสองคนที่ซานตาเฟ ตายแล้ว ๙ วันทางด้านยีน เบ๊ตซี่อาจนานกว่า

ว่านางอาจเผลอไผล ไปเล่นกับหรือทดลองเคมีอะไรก็ตาม ผมไม่อยากสืบเสาะ ที่คนอียิปต์ทำมัมมี่ นางตายเพราะเหตนั้น

อย่าลืมนะครับว่านางชอบผงกะหรี่แดงจากอินเดีย

เรื่องควันพิษจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเคยเกิดขึ้นและเป็นข่าวที่แฮมป์ตัน หรืออาจเกิดขึ้นได้

แต่ที่มันที่มันประหลาดในที่นี้ คือหมาเลี้ยงในบ้าน ตายไปหนึ่งตัวข้าง ๆ ภรรยา แต่อีกสองตัวรอด (จากควันพิษ?)

ฉะนั้น สิ่งเดียวที่ดีในที่นี้คืออายุของยีน แฮ็กแมน อาจไม่รอดมาถึง ๙๕ หากไม่มีเบ๊ตซี่ อาราคาวา

Please, Rest in Peace
May the Spirit Be with You both.

จาก เฟซบุ๊กของคุณกิจจา บุรานนท์

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 07 มี.ค. 25, 16:51

             
       ตรวจสอบเครื่องกระตุกหัวใจของปู่ยีน พบบันทึกการทำงานครั้งสุดท้ายวันที่ 17 ก.พ. พยาธิแพทย์ให้ความเห็นว่า
น่าจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตปู่

หมอหัวใจ -
                     เมื่อผป. เสียชีวิต,หัวใจหยุดเต้น เครื่องกระตุกหัวใจจะทำงานกระตุกหัวใจผป.ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนแบต.หมด
ดังนั้น จึงบอกได้ว่า ผป. เสียชีวิต - วันนั้นหรือวันก่อนนั้น
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16061



ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 08 มี.ค. 25, 09:35

แจ้งผลการสอบสวน ของการตายของยีน แฮ็กแมน และภรรยา

ปรากฏว่าภรรยาตายก่อนในบ้านหลังนั้นซึ่งใหญ่มาก ว่านางในวัย ๖๕ ตายเพราะสารพิษของหนู Hantavirus Pulmonary Syndrome ซึ่งอาจเป็นไปได้ แต่น่ากลัวมากครับ บ้านไหนก็มีหนูตัวเล็ก ๆ

ที่ยิ่งหวาดหวั่นใจหายใจฝ่อ ที่ว่านางตายก่อนเขา ๗ วัน

ยีนอยู่กับศพอืดเน่าของภรรยาหนึ่งอาทิตย์ ก่อนที่จะตายตาม

แล้วปรากฏว่ายีนเป็นแอลไซเมอร์หนักมาก ไม่รู้เรื่องราวอีกต่อไป

...ที่จะอยู่กับศพเมียเน่าอยู่ใบ้านตามลำพังได้ถึง ๗ วัน ในวัย ๙๕ อยู่ได้ยังไง ข้าวปลา น้ำ ไม่เข้าใจ

แต่สร้างภาพลักษณ์ที่น่าเศร้าสลดมากทีเดียวครับ 

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นคฤหาสน์ราคาสี่ล้านดอลลาร์ของยีนและเบ๊ตซี่ที่ซานตาเฟ   ที่เคยเป็นหน้าปกและลงหน้ากลาง ของ The Architectural Digest แฮ็กแมนที่มีหลักทรัพย์อีก ๘๐ ล้านเหรีญอเมริกัน

ตายไปแล้ว เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ทั้งนั้น อนิจจัง อนิจจา เน่ากันอยู่ในนั้นอีกนาน ก่อนเจ้าหน้าที่จะไปพบ 

แน่ที่ว่าจะมีการขยายรายละเอียดเพิ่ม แแต่ผมอ่านแล้วอ่อนเปลี้ยเพลียใจไปเลย อนิจจังอนิจจากับชีวิต ความแก่ และตาย

จาก เฟซบุ๊กของคุณกิจจา บุรานนท์
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16061



ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 08 มี.ค. 25, 10:35

ปรากฏว่าภรรยาตายก่อนในบ้านหลังนั้นซึ่งใหญ่มาก ว่านางในวัย ๖๕ ตายเพราะสารพิษของหนู Hantavirus Pulmonary Syndrome ซึ่งอาจเป็นไปได้ แต่น่ากลัวมากครับ บ้านไหนก็มีหนูตัวเล็ก ๆ

ทำความรู้จักกับ Hantavirus

ฮันตาไวรัส พบได้น้อยในสหรัฐอเมริกา โดยมีการระบาดส่วนใหญ่อยู่ในรัฐทางตะวันตก ได้แก่ นิวเม็กซิโก, อาริโซนา, โคโลราโด และยูทาห์ ในภาคเหนือของรัฐนิวเม็กซิโก ไวรัสนี้แพร่กระจายผ่าน อุจจาระและปัสสาวะของหนู

ไวรัสมักแพร่กระจายทางอากาศ เมื่อผู้คนทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของหนู เช่น กวาดโรงเก็บของหรือทำความสะอาดตู้ที่หนูอาศัยอยู่ อาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่สามารถลุกลามจนทำให้หัวใจและปอดล้มเหลวได้ โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ ๓๘% ถึง ๕๐%

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐนิวเม็กซิโกมีรายงานผู้ติดเชื้อปีละ ๑ ถึง ๗ ราย ตามข้อมูลด้านสาธารณสุข

ข้อมูลจาก ไทยรัฐ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 08 มี.ค. 25, 10:52

        ได้ยินแต่ชื่อไวรัสนี้มานาน...โรคหายาก  มีหนูเป็นพาหะแพร่เชื้อ ทำให้มีอาการ 2 แบบ คือแบบไข้เลือดออกและไตวาย
พบรายงานผป.ในแถบจีน เกาหลี รัสเซียตะวันออก เคยมีรายงานในไทยบ้าง

        ส่วนภรรยาปู่ยีนเป็นอีกแบบที่มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เกิดภาวะหายใจวาย หัวใจล้มเหลว เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
        พบการระบาดครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในปี พ.ศ. 2536 ที่รัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา แถบ
รัฐอะริโซนา นิวเม็กซิโก โคโรลาโด และยูทาห์ ต่อมาพบในแถบอื่นทั้งตะวันออก,ตก
        ไม่พบรายงานผป. แบบนี้ในไทย

        ในไทย ตรวจพบแอนติบอดี้ต่อเชื้อไวรัสฮันทาได้ในหนูชนิดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
มีการรตั้งสมมุติฐานว่า โรคไวรัสฮันทาในไทย อาจไม่ได้มีอาการ หรือ ไม่มีอาการรุนแรงแบบที่พบในต่างประเทศ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8426


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 08 มี.ค. 25, 12:26

             จากเว็บ CNN

           เครื่องกระตุกหัวใจบันทึกข้อมูลการเต้นของหัวใจปู่(ที่เต้นผิดจังหวะ)ครั้งสุดท้ายเมื่อ 18 กพ. ที่น่าจะเป็น
วันสุดท้ายของชีวิตปู่ ผู้ป่วยด้วยโรคความดันสูง,หลอดเลือดหัวใจระดับรุนแรง(จากการทำ CT scan หลังเสียชีวิต)
และภาวะสมองเสื่อมอย่างมาก

           ภรรยาปู่ มีผู้พบเห็นเธอครั้งสุดท้าย 1 สัปดาห์ก่อนวันที่คาดว่าเป็นวันปู่เสีย, หลังจากนั้นไม่พบว่า มีการติดต่อ
สื่อสารหรือกิจกรรมอื่นๆ ของเธออีกเลย เหตุแห่งการเสียชีวิตของเธอเกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮันทา ส่วนยาธัยรอยด์ที่พบ
เป็นของเธอ, ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิต

           ร่างกายของทั้งสอง ไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บทั้งภายนอกและภายใน ตรวจไม่พบการติดเชื้อโควิดและไวรัส
ทางเดินหายใจอื่นๆ

           มีความเป็นไปได้ว่าภรรยาเสียชีวิตก่อนหลายวัน (several days) และปู่อยู่ในบ้านกับร่างภรรยาโดยไม่รับรู้ความ

           ยังรอผลการตรวจร่างของสุนัขที่ถูกขังอยู่ในกรง(หลังการทำหัตถการรักษา)  เป็นไปได้ว่าอาจอดอาหารจนเสียชีวิต
           และข้อมูลการใช้โทรศัพท์  “We are waiting on the cell phones, but (it’s) very unlikely that the
cell phones are going to show anything else.”


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 08 มี.ค. 25, 13:20

จาก Facebook ของ ตั๋วร้อนWorldwide

ผลชันสูตรพลิกศพของปู่ยีน แฮ็กแมน กับ เบตซี่ อาราคาวะ ภรรยาของปู่ออกมาแล้ว น่าเศร้า แต่ก็โล่งไปนิดนึงที่มันไม่ใช่การฆาตกรรม แต่เป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ
หมอบอกว่าเบตซี่ อาราคาวะ เสียก่อนปู่ราวๆ 7 วัน สาเหตุจากติดเชื้อฮันตาไวรัส อันเกิดจากสัตว์ฟันแทะอย่างเช่น หนู
สันนิษฐานว่าป้าเสียชีวิตในห้องน้ำ แต่ปู่ไม่รู้ว่าป้าเสีย เพราะปู่เป็นอัลไซเมอร์ระยะที่หนักแล้ว คือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว พอไม่มีป้า ปู่จึงเหมือนไม่มีคนดูแล แล้วก็เสียชีวิตในโซนห้อง Mudroom ซึ่งเป็นโซนที่หยิบจับของทุกอย่างได้สะดวกก่อนออกจากบ้าน
สาเหตุการเสียชีวิตของปู่คือ โรคความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดแดงแข็งตัว โดยมีโรคอัลไซเมอร์เป็นปัจจัยสำคัญ หมอบอกว่าในกระเพาะของปู่ไม่มีอาหารอยู่เลย อาจเป็นได้ว่าพอป้าเสียชีวิตแล้วปู่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นั่นเอง
ส่วนหมาสามตัวที่ตๅยไปหนึ่งตัวนั้น กำลังเร่งชันสูตรสาเหตุการตๅยของมัน ตำรวจและแพทย์ยืนยันว่านี่ไม่ใช่อาชญากรรม เพราะตรวจสอบเครื่องกระตุ้นหัวใจของปู่ยังทำงานอยู่จนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ คือหลังจากป้าเสียไปแล้ว 7 วัน
จะบอกว่าโล่งอกที่ไม่ใช่การฆาตกรรมก็บอกได้ไม่เต็มปาก เพราะมันก็เป็นการเสียชีวิตที่น่าเศร้าอยู่ดี ยิ่งเศร้าไปอีกตรงหมอบอกว่าปู่ไม่น่าจะรู้ว่าเมียแกเสีย เพราะเป็นอัลไซเมอร์ระยะลุกลามไปแล้ว
*** ล่าสุดข่าวว่าหมาที่ตๅยนั้นโดนขังกรงไว้ เพราะเพิ่งผ่าตัดไป แล้วไม่ได้ปล่อยออกมา พอป้ากับปู่เสียชีวิตก็เลยเป็นอะไรที่น่าเศร้า
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.031 วินาที กับ 17 คำสั่ง