โคลงนิราศนรินทร์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '<tpoem> ๑ ๏ ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลง…')
แถว 1: แถว 1:
 +
[[หมวดหมู่:วรรณคดีไทย]]
 +
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
 +
[[หมวดหมู่:โคลง]]
 +
[[หมวดหมู่:นิราศ]]
 +
'''ผู้แต่ง:''' [[นายนรินทร์ธิเบศร์(อิน)]]
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 07:15, 8 กรกฎาคม 2552

ผู้แต่ง: นายนรินทร์ธิเบศร์(อิน)

๏ ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ ฯ
             
๏ อยุธยายศล่มแล้วลอยสวรรค์ ลงฤๅ
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้าฝึกฟื้นใจเมือง ฯ
๏ เรืองเรืองไตรรัตน์พ้นพันแสง
รินรสพระธรรมแสดงค่ำเช้า
เจดีย์ระดะแซงเสียดยอด
ยลยิ่งแสงแก้วเก้าแก่นหล้าหลากสวรรค์ ฯ
๏ โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้นไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลานพระแผ้ว
หอไตรระฆังขานภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้วก่ำฟ้าเฟือนจันทร์ ฯ
๏ เสร็จสารพระยศซ้องสรรเสริญ
ไป่แจ่มใจจำเริญร่ำอ้าง
ตราตรอมตระโมจเหินวนสวาท
อกวะหวิวหวั่นร้างรีบร้อนการณรงค์ ฯ
๏ แถลงปางบำราศห้องโหยครวญ
เสนาะเสน่ห์กำสรวลสั่งแก้ว
โอบองค์ผอูนอวลออกโอษฐ์ อรเอย
ยามหนึ่งฤๅแคล้วแคล้วคลาดคล้ายขวบปี ฯ
๏ รอยบุญเราร่วมพ้องพบกัน
บาปแบ่งสองทำทันเท่าสร้าง
เพรงพรากสัตว์จำผันพลัดคู่ เขาฤๅ
บุญร่วมบาปจำร้างนุชร้างเรียมไกล ฯ
๏ จำใจจากแม่เปลื้องปลิดอก อรเอย
เยียวว่าแดเดียวยกแยกได้
สองซีกแล่งทรวงตกแตกภาค ออกแม่
ภาคพี่ไปหนึ่งไว้แนบเนื้อนวลถนอม ฯ
๏ โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำแลโลม โลกเอย
แม้ว่ามีกิ่งโพยมยื่นหล้า
แขวนขวัญนุชชูโฉมแมกเมฆ ไว้แม่
กีดบ่มีกิ่งฟ้าฝากน้องนางเดียว ฯ
๑๐
๏ โฉมควรจักฝากฟ้าฤๅดิน ดีฤๅ
เกรงเทพไท้ธรณินทร์ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบินบนเล่า นะแม่
ลมจะชายชักช้ำชอกเนื้อเรียมสงวน ฯ
๑๑
๏ ฝากอุมาสมรแม่แล้ลักษมี เล่านา
ทราบสวยมภูวจักรีเกลือกใกล้
เรียมคิดจบจนตรี-โลกล่วง แล้วแม่
โฉมฝากใจแม่ได้ยิ่งด้วยใครครอง ฯ
๑๒
๏ บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้งเตียงสมร
เตียงช่วยเตือนนุชนอนแท่นน้อง
ฉุกโฉมแม่จักจรจากม่าน มาแฮ
ม่านอย่าเบิกบังห้องหับให้คอยหน ฯ
๑๓
๏ สงสารเป็นห่วงให้แหนขวัญ แม่ฮา
ขวัญแม่สมบูรณ์จันทร์แจ่มหน้า
เกศีนี่นิลพรร-โณภาส
งามเงื่อนหางยูงฟ้าฝากเจ้าจงดี ฯ
๑๔
๏ เรียมจากจักเนิ่นน้องจงเนา นะแม่
ศรีสวัสดิ์เทอญเยาว์อย่าอ้อน
อำนาจสัตย์สองเราคืนร่วม กันแม่
การณรงค์ราชการร้อนเร่งแล้วเรียมลา ฯ
๑๕
๏ ลงเรือเรือเคลื่อนคว้างขวัญลิ่ว แลแม่
ทรุดนั่งถอนใจปลิวอกว้า
เหลียวหลังพี่หวาดหวิวใจวาก
แลสั่งสบหน้าหน้าแม่หน้าเอ็นดู ฯ
๑๖
๏ ออกจากคลองขุดข้ามครรไล
เรือวิ่งอกว้าใจหวาดขว้ำ
เด็ดแดดั่งเด็ดใยบัวแบ่ง มาแม่
จากแต่อกใจปล้ำเปลี่ยนไว้ในนาง ฯ
๑๗
๏ บรรลุอาวาสแจ้งเจ็บกาม
แจ้งจากจงอารามพระรู้
เวรานุเวรตามตัดสวาท แลฤๅ
วานวัดแจ้งใจชู้จากช้าสงวนโฉม ฯ
๑๘
๏ มาคลองบางกอกกลุ้มกลางใจ
ฤๅบ่กอกหนองในอกช้ำ
แสนโรคเท่าไรไรกอกรั่ว ราแม่
เจ็บรักแรมรสกล้ำกอกร้อยฤๅคลาย ฯ
๑๙
๏ ชาวแพแผ่แง่ค้าขายของ
แพรพัสตราตาดทองเทศย้อม
ระลึกสีสไบกรองเครือมาศ แม่เฮย
ซัดสอดสองสีห้อมห่อหุ้มบัวบัง ฯ
๒๐
๏ วัดหงส์เหมราชร้างรังถวาย นามแฮ
เรียมนิราเรือนสายสวาทสร้อย
หงส์ทรงสี่พักตร์ผายพรหมโลก แลฤๅ
จะสั่งสารนุชคล้อยคลาดท้าวไป่ทัน ฯ
๒๑
๏ สังข์กระจายพี่จากเจ้าจอมอนงค์
สังข์พระสี่กรทรงจักรแก้ว
สรวมทิพย์สุธาสรงสายสวาท พี่เอย
สังข์สระสมรจงแผ้วผ่อนถ้าเรียมถึง ฯ
๒๒
๏ จากมามาลิ่วล้ำลำบาง
บางยี่เรือราพลางพี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานางเมียงม่าน มานา
บางบ่รับคำคล้องคล่าวน้ำตาคลอ ฯ
๒๓
๏ มาด่านด่านบ่ร้องเรียกพัก พลเลย
ตาหลิ่งตาเหลวปักปิดไว้
ตาเรียมหลั่งชลตักตวงย่าน
ไฟด่านดับแดไหม้มอดม้วยฤๅมี ฯ
๒๔
๏ นางนองชลน่านไล้ลบบาง
ไหลเล่ห์ชลลบปรางแม่คล้ำ
แสนโศกสั่งสารปางจากพี่ ปลอบแม่
นาสิกเรียมซับน้ำเนตรหน้านางนอง ฯ
๒๕
๏ บางขุนเทียนถิ่นบ้านนามมี
เทียนว่าเทียนแสงสีสว่างเหย้า
เย็นยามพระสุริยลีลาโลก ลงแม่
เทียนแม่จุดจักเข้าสู่ห้องหาใคร ฯ
๒๖
๏ ปานนี้มาโนชญ์น้อยนงพาล พี่เอย
เก็บเกศฤากรองมาลย์มาศห้อย
ปรุงจันทน์จอกทองธารประทิน ทาฤๅ
นอนนั่งถามแถลงถ้อยทุกข์พร้องความใคร ฯ
๒๗
๏ คิดไปใจป่วนปิ้มจักคืน
ใจหนึ่งเกรงราชขืนข่มคร้าม
ใจหนึ่งป่วนปานปืนปัดปวด ทรวงนา
ใจเจ็บฝืนใจห้ามห่อนเจ้าเห็นใจ ฯ
๒๘
๏ มิตรใจเรียมจอดเจ้าจักคิด ถึงฤๅ
จากแม่เจ็บเสมอจิตพี่บ้าง
ฤๅลืมมลายปลิดแปลนสวาท
จำพี่โหยไห้ช้างค่ำเช้าชำงาย ฯ
๒๙
๏ ไปศึกสุดมุ่งม้วยหมายเป็น ตายเลย
ศูนย์ชีพไหนนุชเห็นหากลี้
อรเอยลับหลังเอ็นดูนัก นะแม่
โอ้โอะไกลกันกี้เมื่อไซ้จักสม ฯ
๓๐
๏ เรือมามาแกล่ใกล้บางบอน
ถนัดหนึ่งบอนเสียดซอนซ่านไส้
จากมาพี่คายสมรเสมอชีพ เรียมเอย
แรมรสกามาไหม้ตากต้องทรวงคาย ฯ
๓๑
๏ บางกกกลกล่อมแก้วกับแด
กรตระกองนุชแปรปรับเนื้อ
ลานโลมวิไลแถงชระมุ่น อกเอย
จำนิรารสเกื้อกกแก้วกับทรวง ฯ
๓๒
๏ หัวกระบือกบินทรราชร้ารณรงค์ แลฤๅ
ตัดกบาลกระบือดงเด็ดหวิ้น
สืบเศียรทรพีคงคำเล่า แลแม่
เสมอพี่เด็ดสมรดิ้นขาดด้วยคมเวร ฯ
๓๓
๏ โคกขามดอนโคกคล้ายสัณฐาน
ขามรุ่นริมธารสนานสนุกนี้
พูนเพียงโคกฟ้าลานแลโลก ลิ่วแม่
ถนัดหนึ่งโคกขามชี้เล่ห์ให้เรียมเห็น ฯ
๓๔
๏ มาคลองโคกเต่าตั้งใจฉงาย
ตัวเต่าฤๅมีหมายโคกอ้าง
เจ็บอกพี่อวนอายออกปาก ได้ฤๅ
คืนคิดโคกขวัญร้างอยู่เร้นแรมเกษม ฯ
๓๕
๏ มหาชัยชัยฤกษ์น้องนาฏลง โรงฤๅ
รับร่วมพุทธมนต์สงฆ์เสกซ้อม
เสียดเศียรแม่ทัดมง-คลคู่ เรียมเอย
ชเยศชุมญาติห้อมมอบให้สองสม ฯ
๓๖
๏ ท่าจีนจีนจอดถ้าคอยถาม ใดฤๅ
จีนช่วยจำใจความข่าวร้อน
เยียวมิ่งแม่มาตามเตือนเร่ง ราแม่
จงนุชรีบเรียมข้อนเคร่าถ้า จีนคอย ฯ
๓๗
๏ บ้านบ่อน้ำบกแห้งไป่เห็น
บ่อเนตรคงขังเป็นเลือดไล้
อ้าโฉมแม่แบบเบญ-จลักษณ์ เรียมเอย
มาซับอัสสุชลให้พี่แล้วจักลา ฯ
๓๘
๏ นาขวางใครแขวะรุ้งเป็นทาง
ปองบ่อไป่ปองนางป่วยไซร้
นามขวางไขว่หนามขวางในอก อีกแม่
ใครบ่งฤๅเบาได้เท่าน้องนางถอน ฯ
๓๙
๏ สามสิบสองคดคุ้งเวียนวง
คิดว่าคืนหลังหลงทุกเลี้ยว
บังเฉนียนไฉนบงพักตร์แม่ เห็นฤๅ
แลตะลึงลืมเคี้ยวขบค้างคำสลา ฯ
๔๐
๏ มาคลองย่านซื่อซ้ำพิศวง
ซื่อตลอดย่านเดียวตรงรวดริ้ว
ใจคิดคู่ครองคงรักแม่ นะแม่
ไป่ตลอดเลยพลิ้วพลัดน้องมาไกล ฯ
๔๑
๏ เห็นจากจากแจกก้านแกมระกำ
ถนัดระกำกรรมจำจากช้า
บาปใดที่โททำแทนเท่า ราแม่
จากแต่คาบนี้หน้าพี่น้องคงถนอม ฯ
๔๒
๏ เรียมจากฤๅจับข้าวเต็มคำ หนึ่งเลย
รินซึ่งชลจานจำเนื่องแค้น
หยิบกับกระยากำคิดแม่ คอยแม่
เหียนฤหายหอบแหน้นอกค้างคายคืน ฯ
๔๓
๏ ปรานีนุชอยู่เหย้าเยียบเย็น
เย็นแม่เยี่ยมจักเห็นแต่ห้อง
ครวญหาพี่ใครเป็นสองปลอบ แม่เลย
สไบพี่เปลี่ยนจักป้องปิดหน้านางโหย ฯ
๔๔
๏ แลไถงถงาดเลี้ยวลับแสง
สอดซึ่งตาเรียมแสวงทั่วพื้น
จวบจันทร์แจ่มโลกแปลงมาเปลี่ยน
หวนว่ามุขแม่ฟื้นเยี่ยมฟ้าหาเรียม ฯ
๔๕
๏ ชมแขคิดใช่หน้านวลนาง
เดือนดำหนิวงกลางต่ายแต้ม
พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปรางจักเปรียบ ใดเลย
ขำกว่าแขไขแย้มยิ่งยิ้มอัปสร ฯ
๔๖
๏ วิเวกดุเหว่าก้องดงดึก แล้วแฮ
กระส่าวเสียงนกนึกนุชพร้อง
พลิกปลอบเปล่าใจทึกถามแม่ ไหนแม่
ปลุกพี่ฤๅเรียมร้องเรียกเจ้าไป่ขาน ฯ
๔๗
๏ โอ้ดวงดาเรศด้อยเดือนดับ
ดับดั่งดวงอัจกลับพู่พร้อย
ชวาลาจะลาลับนุชพี่ แพงเอย
หลับฤตื่นตรอมละห้อยอยู่ห้องหนหลัง ฯ
๔๘
๏ เรือมารุ่งบ่รู้คืนวัน
ตื่นแต่ตาใจฝันคลับคล้าย
แปดยามย่ำแดยันแทนทุ่ม โมงแม่
นอนนั่งลุกยืนย้ายยิ่งร้อนเรียมวี ฯ
๔๙
๏ แม่กลองกลองบ่ได้ยินดัง
รัวแต่กรประนังหนึ่งค้อน
ทรวงพี่แผ่เพียงหนังขึงขอบ กลองเอย
กลองบ่ข้อนเรียมข้อนอกแค้นคะนึงโฉม ฯ
๕๐
๏ ออกจากปากน้ำน่านนองพราย
อรรณพพิศาลสายควั่งคว้าง
จากนางยิ่งตนตายทีหนึ่ง นะแม่
เทียรจักทอดตัวขว้างชีพไว้กลางวน ฯ
๕๑
๏ สรวลเสียงพระสมุทรครื้นครวญคะนอง
คลื่นก็คลี่คลายฟองเฟื่องฟื้น
ดาลทรวงป่วงกามกองกลอยสมุทร แม่ฮา
ออกโอษฐ์ออกโอยสะอื้นอ่าวอื้ออลเวง ฯ
๕๒
๏ เรียมวอนเทวะแม่แม้นเมขลา
แบวิเชียรเชิญราเร่งเจ้า
นางสมุทรเรียกมามาเทอญแม่ มาแม่
ทันที่เรือเรียมเต้าคลื่นเต้นตากทรวง ฯ
๕๓
๏ บ้านเหลมเรือพี่เลี้ยวคลองจร
ระลึกคมเหลมศรเนตรน้อง
เสียวทรวงพี่โอยอรอกแตก ตายแม่
สุดสอดสายเนตรร้องแม่ตั้งตาคอย ฯ
๕๔
๏ เห็นตะบูนรอยบั่นต้นตัดรอน
ยังแต่ตอตะบูนทอนกิ่งกลิ้ง
เจียนใจพี่ขาดจรจากสวาท มาแม่
ทอนท่อนไมตรีทิ้งทอดไว้วังเวง ฯ
๕๕
๏ ดูใดไป่เท่าด้วยดวงพักตร์ แม่เลย
โฉมแม่ชื่นใจจักหล่อหล้ม
มาเดียวพี่ดักดักใจจอด แม่แม่
เรือนแล่นผายผันก้มพักตร์ไห้หาศรี ฯ
๕๖
๏ ถับถึงคุ้งคดอ้อยโอชหวาน วายแม่
อ้อยแม่เจียนผจงจานจอกแก้ว
ขอเคียงซ่อมสอดพานรองร่วม เจ้าฤๅ
รสยิ่งอำมฤตแล้วระลึกลิ้นหวานเอง ฯ
๕๗
๏ พิศพานจานแจ่มเจ้าเบญจรงค์ รัตน์เอย
โหยบ่เห็นอนงค์นั่งน้อม
นพนิตแน่งนางผจงจัดมอบ มาฤๅ
จากรักจากรสพร้อมไพร่ใช้ชายเคียง ฯ
๕๘
๏ อยู่เรือนจักเพื่อนพร้องความใคร
รสรักแรมกะไดดอกดั้ว
เรียมหมองแม่พาใจคลายเทวษ
หมองสมรนุชเรียมกลั้วกล่อมเจ้าเอาใจ ฯ
๕๙
๏ บำราศรสหื่นห้าแหหาย
โหยคระหนรนกายก่ำไหม้
รัวรัวราคราวพายเรือเร่ง แรงแม่
ทันถี่ทุกเล่มไหล้หล่อเต้นตามเผยอ ฯ
๖๐
๏ ถึงเพชรบุเรศเข้าขุนพล
กรีทัพยกโดยสถลมารคเต้า
ธงทองทัดลมบนโบกเรียก พลแม่
เรียมเรียกรสรักเร้าเร่งน้องในทรวง ฯ
๖๑
๏ ออกทัพเอาฤกษ์เร้าปืนไฟ
ปืนประกายกุมไกจี่จิ้ม
เพลิงราคพลุ่งกลางใจเจียวเจ็บ อกเอย
ทรวงพี่บรรทุกปิ้มปวดด้วยปืนกาม ฯ
๖๒
๏ ทุกตรอกเรียมตรวจหน้าขาดนาง เดียวแม่
จบจรหลาดแลทางทั่วด้าว
จวบหญิงจ่ายของกลางถนนเกลื่อน
เทียมธุลีทาสท้าวอรข้างเดียวเดิน ฯ
๖๓
๏ ถึงชรอ่ำชรอุ่มห้องเวหา หนเอย
คิดอรแมกเมฆมากลัดไว้
ฤๅเขาชรอ่ำอา-ดูรเทวษ
เป็นชรอุ่มฟ้าไข้ข่าวน้องนางตรอม ฯ
๖๔
๏ สุริยาวิโยคฟ้าฝนเชย
บุปผชาติรำเพยเผยกลิ่นใกล้
เผยอหอมเลื่อนสมรเหยหาพี่ ฤๅแม่
ถามพฤกษ์พรางเพราะไม้ปากลิ้นไป่มี ฯ
๖๕
๏ ทัพใต้ทัพตั้งป่าเป็นเรือน
จากนุชมานอนเดือนต่างไต้
ตรอมตายแต่จักเยือนกันยาก แลแม่
เรือนฤเห็นเห็นไม้ป่าไม้เป็นเรือน ฯ
๖๖
๏ ราตรีตรวจค่ายฆ้องขามขาม ใจเอย
เกราะกระพือเพลิงยามรุ่งเร้า
กระเวนกระวนกามกวนอก พี่นา
รันระดมแดเข้าคู่ฆ้องกระแตตี ฯ
๖๗
๏ เคยนิทรอรนุ่มเนื้อแนบเรียม
เดาะกระไดไดเลียมลอดเคล้น
นาสาสูบรสเทียมปรางมาศ
สองสนุกล้วนเหล้นเล่ห์นั้นฤๅลืม ฯ
๖๘
๏ เคยโอษฐ์แอบโอษฐ์อ้อนเอาใจ
คำอ่อนวอนอาลัยล่อเคล้า
นับเดือนเลื่อนปีไปไกลมิ่ง นะแม่
เยียวอยู่หนหลังเศร้าสวาทแล้วใครโลม ฯ
๖๙
๏ ออกทัพถะถั่นเข้าไพรเขียว
ละแม่เดียวมาเดียวด่วนร้าง
สายตาต่อเต็มเกลียวมากล่อม ไกลแม่
เวระใดเราสร้างซัดให้ทันเห็น ฯ
๗๐
๏ ห้วยขมิ้นคิดขะมิ่นเจ้าเคยผจง
กวดสกนธ์สีสรงโสรจน้อง
เรียมจากจักโศกทรงเสาวภาคย์ เผือดฤๅ
ขมิ้นจะวายวันต้องแต่งเนื้อนางสนาน ฯ
๗๑
๏ อ่าผิวการะเกดเกลี้ยงเกลานวล แน่งเอย
เรียมกะไดเชยชวนชิดเคล้า
อ้าอรกลิ่นเกศหวนหอมหื่น กูเฮย
คิดภิรมย์รสเกล้ากลิ่นกลั้วไกลฉม ฯ
๗๒
๏ ยามามาท่าข้ามแขวงปราณ
ปราณประหลาดลมฆานพี่ข้อง
แลว่านุชทรมานหมองสิ่ง ใดแม่
ทุกข์โรคหรือจักร้องร่ำไห้หาเรียม ฯ
๗๓
๏ ถึงสามร้อยยอดเงื้อมงำทะเล
ทะเลจะหลากลมเหหาดขว้ำ
สามร้อยคิรีเททับอก เล่าฤๅ
ใจจะปล้ำสุดปล้ำเสน่ห์น้องหนักทรวง ฯ
๗๔
๏ โคแดงนามท่งด้าวโคดง ใดฤๅ
โคอาสน์อิศวรองค์อยู่เกล้า
พระมาดอาจจักปลงปลิดเทวษ ราพ่อ
สองจากพระเป็นเจ้าช่วยให้คืนสม ฯ
๗๕
๏ แลระบัดลาดท่งท้องทิวพฤกษ์
มลักเห็นหมู่มฤคครุ่นคร้าม
หวังหาคู่แนบนึกนุชนาฏ เรียมเอย
คิดเมื่อมาสมรห้ามพี่ห้ามหวงโฉม ฯ
๗๖
๏ นางทรายจามเรศรู้รักขน
คือนุชสงวนงามตนแต่น้อย
ตายองตอบตายลยวนเนตร นางเอย
โฉมแม่บาดตาย้อยอยู่พู้นฉันใด ฯ
๗๗
๏ ขุนพาฬพยัคฆ์เคล้าพยัคฆี
สารสู่สาวคชลีแหล่งเหล้น
ปวงสัตว์เพรียกไพรศรีสังวาส
สังเวชสมรมาเว้นพี่เว้นวายชม ฯ
๗๘
๏ เนื้อเบื้อนาเนกล้ำหลายพรรณ
ล่าแหล่งลืมเกลียงวันแวะเว้น
ไพรพฤกษ์เงียบเซียบศัลย์โศกแม่
แสนสัตว์ซบเซาเร้นช่วยร้อนเรียมตรอม ฯ
๗๙
๏ ลมลงโลมลาดไม้กฤษณา
โบกบอกนาสาหากลิ่นต้อง
รอยอรร่ำพัสตราตากตรอก ลมฤๅ
พากลิ่นกลอยมาข้องค่าไม้หอมเหมือน ฯ
๘๐
๏ หวนหอมการะเกดเกลี้ยงเกล้าผม เจ้าฤๅ
อินทนิลคือแข่งคมเนตรแต้ม
นมนางอับอายนมนุชนาฏ พี่เอย
ปรางเปล่งเปรียบกึ่งแก้มอ่อนช้ำคราวชม ฯ
๘๑
๏ จัมปาจำเปรียบเนื้อนางสวรรค์ กูเอย
ศรีสุมาลัยพรรณพิศแพ้
ช้องนางคลี่ระส่ายสรรสลายเซ่น
คือนุชสนานกายแก้เกศแก้วกันไร ฯ
๘๒
๏ สาวหยุดหยุดย่างช้าหวังชัก ชวนแม่
รักใช่รักแรมรักสุดรู้
นางแย้มจะยลพักตร์ฤๅพบ พานเลย
ซ่อนกลิ่นกลอยซ่อนชู้ชื่อช้ำใจถวิล ฯ
๘๓
๏ ขานางพิศภาคแพ้พิมพ์เพลา นุชนา
กลกล่อมสองปลีเยาว์ยาตรเยื้อง
เล็บนางเล็บนุชเบาบอกคึ่ง พี่ฤๅ
หลงปัดเล็บนางเปลื้องปลาบเนื้อเรียมขนาง ฯ
๘๔
๏ พะยอมคิดเยาวแม่แย้มยินดี
สีเสียดคือทรวงสีเสียดซ้อน
ชิงชันเฉกในทีเชิงเกี่ยว กายแม่
หว้าดังวอนนางค้อนเคียดแกล้งเป็นกล ฯ
๘๕
๏ นกแก้วจับกิ่งแก้วกอดคอน
กลพี่กอดแก้วนอนแนบเนื้อ
นางกวักนกกวักจรจับกวัก ไกวแม่
หลงว่ากรนุชเกื้อกวักให้เรียมตาม ฯ
๘๖
๏ นางนวลจับแมกไม้นางนวล
นวลนุชแนบเรียมควรคู่แคล้ว
เบญจวรรณจับวัลย์พวนพันโอบ ไม้แม่
แลว่าวัลย์กรแก้วกอดอ้อมเอววัลย์ ฯ
๘๗
๏ โนรีสีชาดย้อมระยับแดง
นกขะมิ่นชมพูแสงแสดผ้า
ปนแปลกนึกนางแปลงสไบเปลี่ยน
เย็นห่มแสดสีฟ้าฝ่ายเช้าเคยชม ฯ
๘๘
๏ แขกเต้าตามคู่เต้าแขกสมร มาฤๅ
ถามข่าวนุชแหนงจรจับไม้
สัตวาสุวาวอนวานหน่อย นกเอย
บอกสมรเรียมไห้ให้ข่าวน้องมาแถลง ฯ
๘๙
๏ เสนาะเสียงสุโนกร้องระงมวัน
สาลิกามาปันเหยื่อป้อน
นางนกกระสรวลสันต์สมเสพ
คือนุชแนบโอษฐ์อ้อนแอบให้เรียมโลม ฯ
๙๐
๏ เรียมเมิลโมเรศเคล้าโมรี
นางมยุรยวนยียั่วเย้า
เฉกโฉมแม่มังสีเสาวภาคย์ กูเอย
แล นก ลอบนึกเจ้าพี่ดิ้นโดยยูง ฯ
๙๑
๏ ยกมาออกอ่าวน้ำนามนาง รมนา
นางบ่เห็นเห็นบางเปล่าเศร้า
ฉมนางชไมปรางสมรมิ่ง กูเอย
ดินหื่นหอมฟ้าเร้ารื่นร้างอภิรมย์ ฯ
๙๒
๏ นางรมรมเยศร้างรมยา
กลพี่จากเจียนกาเมศม้วย
ฤๅหากแม่มายาพิโยคหยอก เรียมฤๅ
มาแม่สำราญด้วยพี่น้อยนางรม ฯ
๙๓
๏ บางสะพานสะพาดพื้นสะพานทอง
ฤๅสะพานสุวรรณรองรับเจ้า
อ้าโฉมแม่มาฉลองพิมพ์มาศ นี้ฤๅ
รอยร่นเหนือบ่าเบ้าแบบเนื้อนพคุณ ฯ
๙๔
๏ บางสะพานสะพาดพื้นทองปาง ก่อนแฮ
รอยชะแลงชระลุรางร่อนกลุ้ม
ระลึกโฉมแม่แบบบางบัวมาศ กูเอย
ควรแผ่แผ่นท้องหุ้มห่อไว้หวังสงวน ฯ
๙๕
๏ เห็นขามสาวบ่าวต้นเคียงกัน
สาวบ่าวปลูกสำคัญคู่สร้าง
เสมอเรียมร่วมรักขวัญเมืองมิ่ง แม่ฤๅ
สองประสิทธิ์สัตย์อ้างปลูกไว้กลางใจ ฯ
๙๖
๏ ยกมามาอกไหม้ทรมาน
ถึงที่นามละหานอู่แห้ง
นุชเอยจักหาธารทาอก พี่แม่
อู่ก็แล้งชลแล้งอกแล้งลืมงาย ฯ
๙๗
๏ หมอนเจ้าเขาเทพไท้สถิตสิง
คิดคู่เขนยอรอิงร่วมร้าง
เขนยทองทอดกายพิงพูนเทวษ ฤๅแม่
นอนจะแนบเขนยข้างคู่เนื้อเรียมถนอม ฯ
๙๘
๏ ลองไนจักจั่นแจ้วใจรัว รัวแม่
ชะนีร่ำโหยหาผัวผ่าวไส้
ดวงเดียวเด็ดแต่ตัวตกป่า ชัฏแม่
จากสมรพี่มาไห้แห่งห้องชะนีโหย ฯ
๙๙
๏ รอยกรรมมาแบ่งแก้วกับสกนธ์ กูเอย
ขวัญอยู่อยุธยาตนต่างร้าง
โอ้ดวงทิพยสุมณ-ฑามาศ แม่เอย
บุญที่สมสองสร้างจักสิ้นฤๅยัง ฯ
๑๐๐
๏ ควิวควิวอกควากคว้างลมลอย แลแม่
ถอยแต่ใจจากถอยทับช้า
ทศทิศทอดตาคอยขวัญเนตร พี่เอย
เอาสไบนุชต่างหน้าแนบเนื้อแทนนาง ฯ
๑๐๑
๏ พระลบสุริยเลี้ยวไศลลา โลกเอย
ทุกทิศชระมัวมามืดแล้ว
เนตรหนึ่งว่ายนภาเพียงเมฆ
เนตรหนึ่งตรวจไตรแผ้วแผ่นหล้าหาสมร ฯ
๑๐๒
๏ โพธิ์สลับโพธิ์เทพไท้เทพา พ่อฤๅ
เอาพระโฆษผยองยาสวาทชู้
อาราธน์พระเอยอารักษ์เร่ง ราพ่อ
เชิญช่วยพาสมรู้รสน้องแรมนาน ฯ
๑๐๓
๏ ลับยักษ์ลับเยาวให้เรียมหา แม่แฮ
ฤๅอสุรพาลพาแวะเว้น
ลับหลังพี่ลับตาแสนโยชน์
รำลึกลับนุชเร้นร่วมรู้ในใจ ฯ
๑๐๔
๏ ยากมาเมืองแม่น้ำใจหมอง
เมืองก็ศูนย์กลสองสวาทว้าง
ขวัญเมืองอยู่เมืองครองใจเครา พี่ฤๅ
ฤๅพี่จากมาค้างขวบแล้วนางลืม ฯ
๑๐๕
๏ อู่สะเภาพาณิชใช้ใบคลา
ทุกข์พี่พ้นเภตราเลื่อนโล้
จากสมรแม่เสมอมากลางสมุทร
แลบ่เห็นตระหลิ่งโอ้อกคว้างกลางชล ฯ
๑๐๖
๏ หนองบัวบงกชช้อยชูชวน ชื่นเอย
บัวดั่งบัวนุชอวลอ่อนน้ำ
กระบอกทิพย์ผกากวนกาเมศ กูเอย
ภุมเรศแรมรสกล้ำกลีบฟ้ายาไฉน ฯ
๑๐๗
๏ ศิขรศิขเรศเงื้อมเงางาม
แลเล่ห์ฉากเขียนเขาคั่นห้อง
พ่างเพียงแผ่นผาเฉลาฉลักลวด ลายแฮ
กลหนึ่งเตียงนอนน้องม่านกั้นกำบัง ฯ
๑๐๘
๏ ผาเผยพุพ่างน้ำฝอยฝน
คือสุหร่ายโรยชลช่วยร้อน
สาครร่วมสรงสกนธ์ไกลพี่ แล้วแม่
อ้าแม่เอยจักอ้อนอาบน้ำตาแทน ฯ
๑๐๙
๏ เคยปรุงประทิ่นแป้งปนละออง อบเอย
สรงสว่างใจสองครุ่นครั้ง
จอกจันทร์จากจรุงหมองราแม่
พานใส่เสาวคนธ์ตั้งแต่งให้ใครทา ฯ
๑๑๐
๏ คันฉายคันฉ่องน้อยเสนียดนาง พี่เอย
จากจะลืมเสยสางสระเผ้า
โศกเสียสิ่งสำอางอายโอ่ ฤๅแม่
พักตร์จะผัดผจงเกล้าเยี่ยมแย้มแกลคอย ฯ
๑๑๑
๏ หลัดหลัดพลัดพรากแก้วกานดา พี่เอย
ลิ่วแต่ตัวเรียมมาตกไร้
ขวัญแขวนอยู่ขวัญตาทุกเมื่อ
เรียมร่ำไข้ฟ้าไข้แผ่นพร้องรำพัน ฯ
๑๑๒
๏ ลงลุแก่งตุ่มตั้งโศกา
แสนตุ่มตวงชลนาพี่พ้น
กลืนโศกสุดอกอา-ดูรเทวษ วายเลย
ซับแต่สายเนตรล้นลูบร้อนฤๅเย็น ฯ
๑๑๓
๏ คุลาตีอกไห้หาใคร
นามจึ่งปรากฏในแก่งนี้
เจ็บจากพี่เจ็บใจเจ็บยิ่ง เจ็บฤๅ
เจ็บบ่ปานกูลี้ลาดข้อนทรวงครวญ ฯ
๑๑๔
๏ สงสัยด้วยแก่งแก้วสงสาร
จากสิ่งใดใดราญร่นร้อง
แก่งเกิดวิการดาลดุจอก พี่ฤๅ
เรียมก็โศกาก้องแก่งแก้วกันแสง ฯ
๑๑๕
๏ เดินทางพลางพี่ไห้โหยหวน
ถึงแก่งนามนางครวญครุ่นนั้น
อ้าแม่จักกำสรวลเสมอแก่ง นี้ฤๅ
ฤๅว่าโศกสมรกลั้นเทวษถ้าเรียมถึง ฯ
๑๑๖
๏ ถับถึงปากร่วมน้ำคะนึงนาง
ถามข่าวไปปากพรางพี่พร้อง
อรมาท่าหลงทางฉงนอยู่
ปากร่วมวานปากร้องเรียกเจ้ามาจร ฯ
๑๑๗
๏ เมืองเพชรเขาเพชรแพร้วพรายฉาย
เฉกนุชนาดกรกรายนพเก้า
แสงเพชรพิศอับอายแหวนนุช พี่เอย
ยอดและยอดรุ่งเร้ารอบก้อยกรสมร ฯ
๑๑๘
๏ ถึงตระนาวตระหน่ำซ้ำสงสาร อรเอย
จรศึกโศกมานานเนิ่นช้า
เดินดงท่งทางละหานหิมเวศ
สารสั่งทุกหย่อมหญ้าย่านน้ำลานาง ฯ
๑๑๙
๏ แสนศึกแสนศาสตร์ซ้องแสนพัน มาแม่
สุดแต่เวทยากันชีพไว้
ศึกทรวงพี่สุดผจัญใจซู่ โศกแม่
จักยุธยาใจได้ชีพด้วยนางเดียว ฯ
๑๒๐
๏ รอยโฉมนุชเปลี่ยนปั้นเป็นทรวงพี่ฤๅ
ฤๅแม่เป็นมณีดวงเนตรด้วย
จับจิตพี่จึงตวงเต็มเทวษ รักแม่
ดับชีพเกิดใหม่ม้วยแผ่นหล้าฤาลืม ฯ
๑๒๑
๏ บวงเทพทุกเถื่อนถ้ำมณฑล ทวีปเอย
ยกแต่สองหัตถ์ตนต่างเบี้ย
ขอคนร่วมวิมลมาโนชญ์ เรียมนา
แสดงสดับโสตเหงี้ยเงียบสิ้นสุดสวรรค์ ฯ
๑๒๒
๏ พันเนตรภูวนาถตั้งตาระวัง ใดฮา
พักตร์สี่แปดโสตฟังอื่นอื้อ
กฤษณนิทรเลอหลังนาคหลับ ฤๅพ่อ
สองพิโยคร่ำรื้อเทพท้าวทำเมิน ฯ
๑๒๓
๏ นิทานนิเทศท้าวองค์ใด ก็ดี
ทุเรศแรมสมรไทท่านร้าง
แสนเทวษเท่าไรไปปานอก พี่เอย
ปวงประสบคู่ค้างแต่ข้านานคืน ฯ
๑๒๔
๏ กำสรวลศรีปราชญ์พร้องเพรงกาล
จากจุฬาลักษณ์ลาญสวาทแล้ว
ทวาทศมาสสารสามเทวษ ถวิลแฮ
ยกทัดกลางเกศแก้วกึ่งร้อนทรวงเรียม ฯ
๑๒๕
๏ ชายาเยาวยอดชู้โฉมสวรรค์ พี่เอย
รอยว่าอินทร์พรหมสรรค์เสกแสร้ง
เลือกลักษณ์ละอันปันเป็นรูป นุชฤๅ
มอบมิ่งสมรมาแกล้งพี่กลั้นใจตาย ฯ
๑๒๖
๏ คิดคลึงสาโรชสร้อยเสาวมาลย์ แม่นา
ภุชเคนทรสำราญแหล่งเหล้น
สระสวรรค์นิราสนานไฉนนาฏ เรียมเอย
สรงเกษมสระสมรเฟ้นฝั่งฟ้าฝันถึง ฯ
๑๒๗
๏ เปรมปรางปรุงธูปฟ้าอรอวล ใจเอย
จูบฤจางหอมหวนละห้อย
โฉมทิพย์สุคนธ์ควรจากพี่ เจียวแม่
ถนอมนิเบามือน้อยจิตเจ้าจากไฉน ฯ
๑๒๘
๏ งอนถันทิพย์ยอดย้อนยันทรวง พี่แม่
กอดนักเยียวอบพวงพุ่มลื้น
ถนอมแอบอุ่นคือดวงตราติด พี่ฤๅ
จากอกออกราชื้นชุ่มช้ำเป็นหนอง ฯ
๑๒๙
๏ แว่วแว่วเสาวณิตน้องนางทรง เสียงฤๅ
สรวลกระซิกโสตพะวงว่าเจ้า
คล้ายคล้ายดำเนินหงส์หาพี่ ฤๅแม่
อ้าใช่อรเรียมเศร้าซบหน้ากันแสง ฯ
๑๓๐
๏ พวงจาวเจิดแจ่มแก้วจักรพรรดิ พี่เอย
สมเสมอสมรรัตน์แท่งแท้
จำเริญจำเราสวัสดิ์สังวาส
เล็งเลียบดินฟ้าแพ้ภพนี้ฤๅหา ฯ
๑๓๑
๏ สาวสวรรค์เสพสวัสดิ์ถ้วนเทวินทร์
พรหมภักษ์ทิพย์ปัถพินงอกง้วน
จักรพรรดิร่วมนารินทร์รัตนนาฏ
สามเสพทิพย์ลาญล้วนเล่ห์น้องเรียมเกษม ฯ
๑๓๒
๏ จากเจ็บยิ่งโรคเร้ารึงสกนธ์
แสบเสียดขุมขนจนอกด้าน
ยาทาประทับทน-ทานเทวษ ได้ฤๅ
แรงรับเหลือแรงต้านพี่แพ้แรงโรย ฯ
๑๓๓
๏ ฤดูระด่าวร้อนแดนไตร
ลามผ่าวพฤกษ์พรากใบหล่นแล้ง
ทรวงพี่ผ่าวเผาไฉนนะนาฏ เรียมเอย
ยังยิ่งทินกรแจ้งจวบสิ้นศูนย์กัลป์ ฯ
๑๓๔
๏ นทีสี่สมุทรม้วยหมดสาย
ติมิงคล์มังกรนาคผายผาดส้อน
หยาดเหมพิรุณหายเหือดโลก แล้งแม่
แรมราคแสนร้อยร้อนฤเถ้าเรียมทน ฯ
๑๓๕
๏ ฤดูเดือนเมฆย้อยหยาดเผลียง
โซมสาดธรณิศเพียงเพียบน้ำ
ชระมัวทั่วทิศเอียงอากาศ
อกแผ่นดินฟ้าคล้ำคู่คลุ้มทรวงศัลย์ ฯ
๑๓๖
๏ อุทโฆษรามสูรขว้างขวานฉวาง
พรายมณีเมขล์นางล่อไหล้
อัมพรอุทรครางเรียมคร่ำ ครวญแม่
เสียงสุดเสียงฟ้าไห้ครุ่นแค้นครางตาย ฯ
๑๓๗
๏ ฤดูลมชระล่องเนื้อหนาวใด เปรียบเลย
อกพี่เยือกเย็นไกลกอดเกี้ยว
พันผืนพัสตราไปปานกึ่ง กรแม่
อุ่นอัคคีเสื้อเสี้ยวซีกนิ้วนางผงม ฯ
๑๓๘
๏ ลมพัดคือพิษต้องตากทรวง
หนาวอกรุมในดวงจิตช้ำ
โฉมแม่พิมลพวงมาเลศ กูเอย
มือแม่วีเดียวล้ำยิ่งล้ำลมพาน ฯ
๑๓๙
๏ เอียงอกเทออกอ้างอวดองค์ อรเอย
เมรุชุบสมุทรดินลงเลขแต้ม
อากาศจักจานผจงจารึก พอฤๅ
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้มอยู่ร้อนฤๅเห็น ฯ
๑๔๐
๏ ตราบขุนคิริข้นขาดสลาย แลแม่
รักบ่หายตราบหายหกฟ้า
สุริยจันทรขจายจากโลก ไปฤๅ
ไฟแล่นล้างสี่หล้าห่อนล้างอาลัย ฯ
๑๔๑
๏ ร่ำรักร่ำเรื่องร้างแรมนวล นาฏฤๅ
เสนาะสนั่นดินครวญครุ่นฟ้า
สารสั่งพี่กำสรวลแสนเสน่ห์ นุชเอย
ควรแม่ไว้ต่างหน้าพี่พู้นภายหลัง ฯ
๑๔๒
๏ นรินทร์นเรศไท้บริบาล
นิพนธ์พจน์พิสดารญาณยศไว้
กวีวรโวหารนายหนุ่ม
ควรแก่ปราชญ์ใดได้อ่านแล้วเยียรยอ ฯ
๑๔๓
๏ ใดใดโอษฐ์โอ่อ้างตนดี
เอาปากเป็นกวีขล่อยคล้อย
หากหาญแต่วาทีเฉลยกล่าว ไฉนนา
ดุจหนึ่งแสงหิ่งห้อยส่องก้นตนเอง ฯ
๑๔๔
๏ โคลงเรื่องนิราศนี้นรินทร์อิน
รองบาทบวรวังถวิลว่าไว้
บทใดปราชญ์ปวงฉินเชิญเปลี่ยน แปลงพ่อ
ปรุงเปรียบเสาวคนธ์ไล้เลือกลิ้มดมดู ฯ
             
เครื่องมือส่วนตัว