โคลงนิราศฉะเชิงเทรา

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทินกร กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์

บทประพันธ์

๏ อยุธยายศแผ่พ้นพันแสง
เรืองรัตน์รสธรรมแจงแจกหล้า
สุทัศน์เทพถ่ายแผลงผลัดโลก ลงฤๅ
ทั่วทวีปเวียงใต้ฟ้าควบร้อยฤๅเทียม ฯ
๏ สมภารสมโพธิเจ้าจักรพาฬ
สมบัติสมบูรณ์ปานปิ่นฟ้า
พระฤทธิ์พระรามผลาญแผลงราพณ์ เพียงพ่อ
พระเดชพระดัดหล้าโลกล้ำฦๅแสยง ฯ
๏ แจ่มบุญบพิตรไท้เทียมสูริย์
บุญเพียบบุรพพูนเพิ่มล้ำ
ปรางค์รัตน์รุจิเรขปูนราชปะ- นาทนา
โตรกตระหง่านเงื้อมค้ำแข่งต้านโตกไถง ฯ
๏ พลพฤนท์พิริย์เชี่ยวก้องการณรงค์
อัศวรถนาวายงยิ่งอ้าง
สารเศวตสวัสดิมงคลคู่ เมืองนา
ปราบศึกใต้หล้ามล้างล่มล้มทุกแดน ฯ
๏ แถลงยามพิโยคแก้วกำศรวญ
โซมโศกสุชลครวญคร่ำแก้ม
สองสะอึกสอื้นอวรอัดอก อยู่นา
ต่างจักออกโอษฐ์แย้มยิ่งอั้นอาดูร ฯ
๏ ฝืนอกออกโอษฐ์โอ้อรเดียว พี่เอย
กรโอบแอบองค์เพรียวพร่ำไห้
ห่อนวางวลิภาคเกลียวกลมสวาท
ฤๅจักเว้นสวาทไว้ว่างร้างแรมเวร ฯ
๏ อรเดียวดินฟ้าชื่นโฉมหอม แม่เอย
แม้ว่าขุนเขาจอมจดใกล้
เจาะเมรุแมกนุชถนอมในศิข- รินท์นา
เขาไป่ย่อยอดให้แห่งน้องเนาหน ฯ
๏ เจาะจอมเมรุแมกน้องนงพาล เล่านา
กริ่งตรึกไตรเนตรชาญเชี่ยวรู้
เอาศรีแทรกบาดาลดลซ่อน ไว้แม่
เกรงพิษภุชคินท์ผู้พ่นพ้องพานโฉม ฯ
๏ โฉมนุชเนาสะดวกได้แดนดล ใดนา
โสฬสกมลาสน์หนหกฟ้า
จักรพาฬพนัสจนจบทวีป ไว้แม่
จตุรพักตร์พิทยถ้าเทพกล้ำกลายโฉม ฯ
๑๐
๏ นึกหนึ่งรัตนเนตรน้องเนาเรือน แลนา
อยู่อื่นอยู่ห่อนเหมือนอยู่ห้อง
ผิว์ไข้เผ่าพงศ์เยือนญาติเยี่ยม แลนา
บุญธิราชร่มป้องปกคุ้มภัยพาล ฯ
๑๑
๏ ศัลย์เสียงสองมี่ห้องกระหึม โหยนา
พ่างพิลึกเผลียงครึมคร่ำน้ำ
พักตร์อาบอัสสุซึมซกเนตร นองเอย
ห่อนไป่เหือดโศกก้ำกึ่งน้อยนาที ฯ
๑๒
๏ ศรีศรีสิทธิฤกษ์แผ้วภุมวาร
มารุตคล่องคลองฆานคู่พร้อม
ลาเขตคฤหาสถานสถิตย์อาสน์ เรือเอย
เมือบหมู่พลพายน้อมเหนี่ยวน้ำเรือปลิว ฯ
๑๓
๏ หลัดหลัดเหลียวลับละห้อยหวนหิว ใจเอย
เรือชื่อทิวลมลิวแล่นน้ำ
อกพี่วาบไหวหวิววางสวาท มาแม่
แดจักเด็ดวิ่นว้ำหวาดหน้าคะนึงหลัง ฯ
๑๔
๏ พระฉนวนโสภิตเพี้ยงพิชยันต์
เทววัฒกีสรรเสกล้ำ
นึกฤๅรัตนเนตรผันผาดช่อง ฉนวนฤๅ
พิศไป่พานพักตร์น้ำเนตรกลั้นเต็มกลืน ฯ
๑๕
๏ ยลป้อมจักรเพชรท้ายธานินทร์
จักรพ่างจักรวัชรินทร์ร่อนฟ้า
รอนไพจิตราลินลาศละ เมรุแฮ
จักราชรอนเรียมร้าราศร้างแรมสมร ฯ
๑๖
๏ บพิตรพิมุขอ้างอาราม ราชเอย
มุขโบสถ์พิบูลย์จามแจ่มพร้อย
ถวลมุขยุพโยพยามหยัดเยี่ยม แกลเอย
เปล่งดั่งจันทร์จักย้อยหยดห้องหาวโพยม ฯ
๑๗
๏ สามปลื้มปลื้มจิตเปลื้องปลิดไกล มาแม่
ปลื้มกลับเปลี่ยนเปลี่ยวใจจากเจ้า
ปลื้มสามสิ่งสามไฉนศักดิ์หนึ่ง น้อยรา
สองปลีกเปล่าทรวงเศร้าสิ่งปลื้มฤๅมี ฯ
๑๘
๏ สามเพ็งเพ็ญพักตร์แผ้วผิวขวัญ แม่เอย
เพ็ญพักตร์พิบูลย์จันทร์แจ่มฟ้า
สามภพพี่เล็งสรรแสนพักตร์ ก็ดี
พิศบ่เพ็ญบูรณ์หน้าหนึ่งหน้านางเดียว ฯ
๑๙
๏ สามเพ็งเพ็ญพักตร์น้องนวลผจง
เพ็งยิ่งเพ็ญจันทร์วงวาดแต้ม
โอ้ศรีสวัสดิทรงสรรพลักษณ์ กูเอย
เพ็ญพักตร์พิมลแย้มยั่วยิ้มยวนใจ ฯ
๒๐
๏ วัดทองทองปลั่งเบื้องบันบน โบสถ์เอย
พร่างพร่างพรายตายลยาบฟ้า
เทศทองเล่ห์ทองระคนคันธรส รังค์แม่
หวนว่าอรอ่องหน้านุชเต้าตามเรียม ฯ
๒๑
๏ อรเอยย่าโอษฐ์อ้อนอาดูร นักแม่
ไข้จักไข้ใจพูนเพิ่มเศร้า
ดับการกำสรดสูญโศกเสื่อม บ้างรา
ขวัญอ่อนขวัญอยู่เย้าอย่าไข้ใจตรอม ฯ
๒๒
๏ เจิมใจแจ่มพักตร์แผ้วพิมพ์แข
ผิว์พี่ผ่าทรวงแบแบะได้
เอาอรแอบดวงดวงแดเดียวร่วม ใจเอย
สุดจะแหวกทรวงไซ้แทรกน้องในแด ฯ
๒๓
๏ ไตรตรึงส์ตรีเทพแสร้งสรรสมร มาฤๅ
เบญจลักษณ์วิไลอรโอ่หล้า
เสียงกลกรวิกวอนหวานจับ ใจเอย
จากแม่ส่ำสายฟ้าฟาดซ้้ำแสนหน ฯ
๒๔
๏ เรียมมาบำราศสร้อยศรีสงวน กูนา
ลุถิ่นบางรักครวญครุ่นน้อง
รักเรียมรักยุพยวรยวนยั่ว รักเอย
บางรักฤๅร้างห้องห่างแก้วกูไกล ฯ
๒๕
๏ ถั่นถึงเขตคุ้งคอกขังควาย
ใดไป่ยลคอกรายรอบล้อม
อกเรียมดอกรักสายสวาทแม่ กูเอย
ไยอยู่ขังคุ้มห้อมแห่งน้องเนาสถาน ฯ
๒๖
๏ คอกควายแควเขตคุ้งใครขนาน นามนา
ไยบ่ขังควายปานปากพร้อง
โอ้อนุชเนาสถานสถิตเย่า
ใจพี่ล้อมคอกน้องแน่นคุ้มขังสมร ฯ
๒๗
๏ จากมากระเหม่นไส้เสียวสมร
ขัดคั่งฆานปราณจรเจ็บแคล้ว
จำใจจากเจียรอรอัดอก อยู่แม่
ตายจักตายร้อยแล้วเล่ห์ดิ้นเด็ดแด ฯ
๒๘
๏ อาวาสเศวตฉัตรเบื้องโบสถ์สูง โสดเอย
เพียงพิมานอมรฝูงฝ่ายฟ้า
เฉลิมเศียรสัตวจูงใจโลก แลพ่อ
วัดจุ่งแจ้งจากข้าช่วยกั้งเกศสมร ฯ
๒๙
๏ ลำพูพุ่มชชัฏเชื้อชายแหลม หลากนา
ใดประดับดับเดือนแรมเร่งพร้อย
หึงเห็นหิ่งห้อยแวมหวาดหวาบ อกเอย
คิดพ่างพวงเพชรห้อยห่วงห้วงกรรณนาง ฯ
๓๐
๏ ลำพูหิ่งห้อยพร่างพราวพราย
ถวิลว่าแหวนวัชรินทรรายรอบก้อย
จรจากพี่คะนึงหมายหมายมุ่ง มาแม่
เห็นแต่หิ่งห้อยย้อยยาบไม้เหมือนแหวน ฯ
๓๑
๏ วาววาวหิ่งห้อยโบกบินบน
พราวพร่างลำภูยลยิ่งแก้ว
แสงส่องสว่างชลฉุนคิด คะนึงแม่
ฉุกว่าพวงเพชรแพร้วเพริศพร้อยพรายกรรณ ฯ
๓๒
๏ วาบวาบสว่างฟ้าเฟือนดาว
แสงหิ่งห้อยแวมวาววาบไม้
ลำพูพุ่มพฤกษพราวพรายเนตร เรียมเอย
พิศพ่างเพชรพี่ให้ห่วงห้อยกรรณนาง ฯ
๓๓
๏ คิดศรีเสาวภาคพร้องพจมาน แม่เอย
สารสั่งสุดสงสารสั่งแก้ว
ฤๅห่อนจากจรนานนับทุ่ม โมงแม่
วันหนึ่งเว้นสวาทแคล้วคลาดเพี้ยงพันวัน ฯ
๓๔
๏ รวยรวยวายุเรื่อยริ้วรัญจวน ใจนา
หวนกระหายหานวลนึกน้อง
รื่นรสพัสตราอวลอรอบ อวยพี่
รอยแม่ห่มหุ้มป้องปกเต้าติดหอม ฯ
๓๕
๏ ดาวคนองดาวฤกษ์นั้นเนาคาม นี้ฤๅ
ใดบ่เด่นดวงงามแจ่มฟ้า
อ้านุชแน่งนงทรามเสาวภาค พี่เอย
โฉมแม่เด่นดินฟ้าผ่องพ้นพันดาว ฯ
๓๖
๏ คอแหลมเล็งลับละห้อยหวนโหย ใจเอย
เจ็บอกจากอรโอยโอษฐ์อ้อน
คอแหลมล่วงแหลมโดยดูมืด แล้วแม่
แหลมเล่ห์เหล็กแหลมย้อนยอกต้องตนเรียม ฯ
๓๗
๏ ลิ่วลิ่วล่วงลุคุ้งเขตบาง
ชัดชื่อพร้องเพรงปางปะแก้ว
เฉกโฉมมณีนางนุชภพน์ พี่ฤๅ
ฤๅไป่ปะแก้วแคล้วเคลือบล้อลวงตรอม ฯ
๓๘
๏ ถึงวัดดอกไม้มุ่งหมายดวง ดอกนา
เล่ห์มะลิมาลัยพวงเพื่อนเคล้า
จรุงรสกระแจะจวงจงจิตต์ อวยพี่
วัดใช่ดอกไม้เจ้าจากไห้หาหอม ฯ
๓๙
๏ ถึงวัดดอกไม้มุ่งหมายมอง หานา
เคยแม่เด็ดดวงกรองกรีดก้อย
ปรุงประสุคนธ์ลอองอวลอบ อวยพี่
คิดดอกไม้แม่ร้อยเรียบให้เรียมชม ฯ
๔๐
๏ บางขมิ้นคิดขมิ้นเช่นฉาบโฉม แม่นา
ผิวพ่างสุพรรณโซมแทรกเนื้อ
เจียรเจ็บจระเทินโทมนัสเปลี่ยว อกเอย
โศกแม่ขาดขมิ้นเกื้อเก็บเมี้ยนหมองผิว ฯ
๔๑
๏ นกขมิ้นมองหลากล้ำเหลืองเอง
โฉมแม่เทียมทองละเลงเลี่ยนไล้
คลิงโคลงเกาะกิ่งเขลงคลอคู่
ดังพี่คลอเคล้นไคล้คู่เคล้าคลึงเคลีย ฯ
๔๒
๏ ปากลัดระลึกเพี้ยนพิศวง
หวาดว่าลัดหลังหลงแหล่งบ้าน
ลัดกลับลัดล่องลงเลยห่าง อรเอย
เจ็บกระอุอกผล้านพลุ่งเพี้ยงเพลิงเผา ฯ
๔๓
๏ ปางหน่อนัคเรศแก้วกุเร ปันเอย
จากนุชดาหาเหเห็จฟ้า
สองร้างเรื่องบุรเพเพียรพบ กันแฮ
โอ้พี่เออรช้าชิดชู้ปางใด ฯ
๔๔
๏ มาดลด่านด้าวเขื่อนขันธ์ขนอน แลนา
ไกรตระเวนเรือจรจอดค้น
ขุนเอยช่วยระไวสมรเสมอชีพ กูนา
กูนิราศนุชพ้นพึ่งน้อยวานระวัง ฯ
๔๕
๏ บางยอยอยกอ้างออกคาม นี้ฤๅ
ใดสักสิ่งสมนามหนึ่งชี้
สมศรีสุมาลย์งามงามแง่ กูเอย
ยอชอบยอยกลี้ลาศฟ้าดินฤๅ ฯ
๔๖
๏ ถั่นถึงที่สถิตไท้ธมเห ศักข์นา
นามเทพผะแดงเดชะก้อง
ข้อยน้อนนิราเออรนุช นาพ่อ
สรวมสุรารักษ์ป้องปกแก้วกันภัย ฯ
๔๗
๏ พระขนงนึกนาฏน้องขนงงาม
ทันก่งกุทัณฑ์รามราชน้าว
กันตูรตระลึงกามกมเลศ
ขนงแม่ลบขนงด้าวเด่นพื้นภูวดล ฯ
๔๘
๏ รื่นรื่นรวยรสเร้าเรณู มาลย์เอย
ถวิลกลิ่นอรพธูพี่เย้า
เฉื่อยเฉื่อยพระพายชูชวนคิด คนึงแม่
ฤๅว่ากลิ่นอรเต้าไต่ฟ้ามาตาม ฯ
๔๙
๏ ดึกเดือนจะดับคล้อยคลอดาว
ยามวิโยคนุชหนาวเหน็บเนื้อ
เหมันต์หมอกมัวพราวพรำพร่ำ ลงแฮ
เคยพี่กอดอรเกื้อกกเคล้าคลายเย็น ฯ
๕๐
๏ บางงัวงัวอุศุภล้ำลอยสวรรค์ ลงฤๅ
พาหนะมเหศรอันเอกหล้า
เชิญทรงอุศุภผันพานุช มาพ่อ
พระช่วยควบสองข้าคู่คุ้งวันวาย ฯ
๕๑
๏ บางกะบัวบัวอื่นอ้างแอบลวง แล้วแฮ
คิดปทุมพธูดวงเด่นตั้ง
ในฐานทิพย์สระทรวงกุสุเมศ แม่เอย
บางดั่งบางสะไบกั้งกีดกั้นตาเรียม ฯ
๕๒
๏ คิดเคยแนบขนิษฐ์น้อยนอนเพลา พี่เอย
หัตถ์พี่โอบอรเยาว์หยิกห้าม
เยื้อนยิ้มประยวนเพราพลางเงื่อน งามแม่
เห็นแต่รอยเล็บว้ามวาบไส้เสียวสมร ฯ
๕๓
๏ บางนานาเนื่องเข้าเขียวสลอน
โภชนสุกอรชรเชิดต้น
ถวิลโฉมแม่เคยจรจวบสารท
เกี่ยวกอบยาคูข้นคู่น้อมถวายสงฆ์
๕๔
๏ บางนานานิเทศคุ้งเขตคาม
สูงสดส่งรวงทรามสุกค้อม
ชุมคนแขกลงหลามลานทุ่ง นาแฮ
ตรวจแต่หน้าแขกพร้อมพลัดหน้านางเดียว ฯ
๕๕
๏ สำโรงเรือลุเลี้ยวระลึกขวัญ เนตรเอย
โรงเล่ห์หลงโรงกันเกี่ยวก้อย
สองร่วมร่วมสินสรรพ์สมรส ระคนนา
อยู่ไป่ยืนเยียวคล้อยคลาดห้องหอโรง ฯ
๕๖
๏ สำโรงยลแยบแม้นเมินเหนียม ใจนา
ผักกระแหน่แนวเทียมเทียบคล้าย
ชื่อโรงเล่ห์โรงเรียมลงร่วม โรงแม่
จากแม่เมิลไม้ละม้ายมุ่งไม้สำโรง ฯ
๕๗
๏ สามสิบสองโคกเบื้องเบาราณ มานา
ยลไป่เป็นเรือนชานชัฎไม้
คิดโคกคฤหาดาลแดสวาท แม่เอย
สนุกนิแผ้วเพียงไล้แหล่งน้อยนางสงวน ฯ
๕๘
๏ สามสิบสองโคกล้วนแลดิน ดอกฤๅ
คำว่าโคกควรยินย่านบ้าน
จรจากพี่จำถวิลหวาดคิด คนึงแม่
คิดพี่คิดโคกสอ้านอกโอ้อายใจ ฯ
๕๙
๏ เทียวทางทุกข์เนตรน้ำนางคลอ ตานา
ดลถนัดตะเคียนตอตัดตั้ง
ตัดสวาทโศกพูนพอเพียบอก อกเอย
แดจักเด็ดดั่งบั้งบั้นต้นตอตะเคียน ฯ
๖๐
๏ ทับนางนิเทศบ้านบอกจริง ใจนา
คิดพี่ทับอรอิงอ่อนพลิ้ว
เดาะพวงผะผ่าวผิวพานปรัศว์ พี่เอย
ค้อนแม่ข่วนเรียมริ้วอุ่ยโอ้ทับนาง ฯ
             

๖๑
๏ ทับนางนึกผทับน้องนางนอน
อกพี่ทับปิโยทรแท่งเกื้อ
พุ่มทิพย์ยอดยันยอนยวนอก อกเอย
มาพิโยคยุพเนื้อเน่งถ้าทับนาง ฯ
๖๒
๏ ทับลานเล่ห์ทัพมล้างลาวเวียง นี้นา
ตรีพยุห์พลพฤนท์เพรียงพรั่งพร้อม
พาหิรริปูเกรียงไกรสิทธิ์ ก็ดี
ไป่เท่าศึกเสน่ห์น้อมหนักน้ำใจเรียม ฯ
๖๓
๏ อ้าอรเจิมจิตต์หล้าเล็งฉงน
ฤๅอัปสรสวรรค์บนแบ่งหน้า
เทวพิศวกรรมกลกอปรูป มาฤๅ
ตูรตระเดียมแดเร้าเร่งเร้ารนเห็น ฯ
๖๔
๏ ลิ่วลิ่วลุล่วงบ้านบางพลี
ศาลเทพสิทธิศักดิ์มีมดท้าว
สรวมไท้เทพอารีอาราธน์ ราพ่อ
ตบัดพลีบวงจ้าวจุ่งคุ้มภัยสมร ฯ
๖๕
๏ ลุเศียรจระเข้เขตคามกาล ก่อนนา
เกรียกเกียรติไกรทองชาญเชี่ยวแกล้ว
ตัดเศียรจรเข้ขนานนามสืบ ไว้รา
ตัดดั่งตัดสวาทแคล้วคลาดร้างแรมสมร      ฯ
๖๖
๏ หอมสินศีลแม่พร้อมเพรงปาง มาฤๅ
ศีลสิทธิอักษฎางค์เดชค้ำ
รังรูปศิริโสภางค์เพ็ญลักษณ์ เลิศแฮ
หอมรูปหอมรสล้ำล่วงบ้านหอมสิน ฯ
๖๗
๏ ปากตะครองครวญคิดครั้งคราวสม แม่เอย
ครองพี่ครองนุชชมชื่นช้อย
โททาบอุทรกลมเกลียวสวาท
เยียวพิโยคยุพคล้อยคลาดแคล้วใครครอง ฯ
๖๘
๏ บ้านพร้าวดลพร้าวเมี่ยงยุพมาลย์ แม่เอย
เมี่ยงแม่ปรุงประจงนานจัดตั้ง
อรรังรสหัตถ์ปานปนทิพ รจนา
พบชื่อพร้าวนึกครั้งเมี่ยงน้องนางปรุง ฯ
๖๙
๏ รอนพรรภาณุมาศเศร้าเสื่อมแสง
บังบ่าเมรุลับแลงโลกคลุ้ม
มัวทวีทุกข์ทวีแรงเรียมลับ มาแม่
เศร้าพี่เศร้าทรวงกลุ้มกลัดอั้นอวลสมร ฯ
๗๐
๏ คิดยามเยาวยั่วเย้ายวนทรวง พี่เอย
ผทับอาศน์แอบองค์ควงควบเคล้า
กรโอบกระพัดพวงผทุมาศ แม่เอย
เบิกสะไบบงเต้าเต่งต้องตาเรียม ฯ
๗๑
๏ ยามเย็นสุริเยศคล้อยคลอเขา
ขุนสิเนรุงงำเงาแง่เงื้อม
นึกนาฎแน่งนุชเยาว์เย็นเยี่ยม แกลแม่
คิดแม่งามกรเอื้อมอ่อนชี้ชมดวง ฯ
๗๒
๏ บางผึ้งผึ้งพวกมิ้มฤๅหลวง เล่านา
เมิลไป่พานผึ้งรวงเร่งเศร้า
หวั่นแดเด็ดสวาททรวงเดียวบุษบ์ มาลย์แม่
หวาดว่าผึ้งผ่ายเคล้าดอกแก้วกูสงวน ฯ
๗๓
๏ ลุถึงถิ่นท่าสอ้านออกนาม
ท่ารดุกอกกะหนามกะหนากกล้ำ
ค่อนค่อนคิดคนึงยามสรงสระ แม่นา
ท่าสอาดอรเลี่ยนล้ำเล่ห์แผ้วพูนทอง ฯ
๗๔
๏ คนึงยามยุพโยพเนื้อนวลผิว พี่เอย
ผ่องพ่างเพ็ญจันทร์ลิวล่องฟ้า
โศกสมรมิ่งขวัญปลิวปลิดสวาท มาแม่
เมิลพระจันทร์ใช่หน้านุชเมื้อมวลจันทร์ ฯ
๗๕
๏ มาลุล่วงเข้าเขตต์เขาดิน
เขาหลากแลหาหินห่างก้อน
ห่างพักตร์ยุพยุพินเพียบหนัก อกเอย
หนักเล่ห์โขดเขาซ้อนสอบซ้อนแสนเขา ฯ
๗๖
๏ ทุ่งโพโพเทพอุ้มเอาภู- ธรฤๅ
ขุนโฆษควบพินธูท่านเคล้า
พระเอยอุปการชูเชิญช่วย ราพ่อ
มาพ่อพาดูเต้าตั่งน้อมเนาถนอม ฯ
๗๗
๏ นกเขาเคียงคาบป้อนปากผสม
คลอคู่คูคารมเรียกร้อง
คู่นกคิดนุชคมเคียงคู่ เรียมเอย
โอษฐ์พี่จืดอรจ้องจักป้อนคำสลา ฯ
๗๘
๏ แอ่นเคล้าเคล้าคู่เคล้าคลอเคลีย
ผู้ไต่เต้นตามเมียแมกไม้
คูเดียวเด็ดสวาทเสียสายสวาท พี่เอย
นกบ่ไร้เรียมไร้คู่ร้างแรมโรย ฯ
๗๙
๏ เรือดลสามภูดาษด้าวแดนคาม
แสดงโศกภูดาษสามสดับถ้อย
จดระบบระบิลความทุกข์เทวษ เรียมรา
วานช่วยสื่อสารสร้อยโศกน้องนางฟัง ฯ
๘๐
๏ ยามเย็นเย็นยะเยียบเศร้าทรวงซึม
หม้าโขมดผีพงพึมผิ่วก้อง
นางพฤกษเพรียกไพรครึมครางคร่ำ ครวญนา
เรียมก็เครงครวญร้องร่ำไห้โหยสมร ฯ
๘๑
๏ นางยูงยะยั่วผู้ผกหาง
ผู้กระพือแพนการก่งฟ้อน
มยุเรศมยุรนางนกชื่น ชมแฮ
โศกแต่ทรวงเรียมร้อนร่ำโอ้อายยูง ฯ
๘๒
๏ ดูดวงใดบ่คล้อยคลาคลอ โลกเอย
สั่งโลกเลื่อนรถรอเรี่ยฟ้า
ดุจเรียมร่ำครือครอครวญเคร่า สั่งแม่
หน้าแม่เรียงรองหน้าเรี่ยน้ำตาตรอม ฯ
๘๓
๏ ส่ำส่ำสาโรชเร้ารำเพย
เฉื่อยเฉื่อยวายุชายเชยชื่นช้อย
คิดคิดรสฆานเคยคนธกลิ่น กลาแม่
หลัดหลัดลับแม่คล้อยคลาดคลุ้มแดดาล ฯ
๘๔
๏ โฉมจันทร์เจียรจากข้างคาวี ก็ดี
กุศราชนางประภาวดีหนีหน่ายเคล้า
รามราชบำราศสี-ดานาฎ ก็ดี
สามโศกผิว์ควบเข้าค่อนเสี้ยวโศกเรียม ฯ
๘๕
๏ พยับพะโยมพยุย้อนโย้ยางโยน
ตะแบกตะบกตะเบาโอนอ่อนเทิ้ม
รอกแตไต่ตกโผนผกเผ่น
แดพี่รัวริกเรื้มเร่าเร้ารัญจวน ฯ
๘๖
๏ ใบพฤกษ์พลัดต้นอ่อนหวอหวือ
ลมระบุโบกโบยบือบั่นไม้
นกหกเห็จเหิรปรือปรึบปีก ไปนา
อกพี่ปั่นป่วนไล้โศกล้ำลมโบย ฯ
๘๗
๏ พรรษมโซมหยาดย้อยยังคราว คราวนา
ยางคาบคัคณานต์ขาวขาดน้ำ
เรียมโศกสุชลพราวพรำพร่ำ ลงแม่
เป็นไป่วายเทวษก้ำกึ่งเว้นวันตรอม ฯ
๘๘
๏ ฟ้าเครงครวญคร่ำครื้นคระฮูม ฮูมนา
เมฆหลั่งเมล็ดฟูมฟั่นน้ำ
อกเรียมร่ำรันตูมตีอก โอยแม่
สายสุชลฉ่ำช้ำโศกรื้อแรงครวญ ฯ
๘๙
๏ พรรษาธารถั่นท่อฟ้าฝอยทอง
คิดโศกวสันต์สองเสียดเนื้อ
ไกลอนุชอนาถสยองสยดเยือก อกเอย
เย็นยิ่งลมไข้เรื้อเร่งเริ้มรัวสกนธ์ ฯ
๙๐
๏ คัคณานต์บางคับยั้งหยาดฝน
บึงบ่อบางตำบลบกแห้ง
จากมิตรมิ่งเสมอชนม์ชีพิต พี่เอย
เป็นไป่วายเทวษแล้งหลั่งน้ำตาตรอม ฯ
๙๑
๏ ยามดึกดุเหว่าซร้องเสียงประสาน
แว่วแว่ววังเวงปานปี่แก้ว
ถวิลมิ่งวิมลมาลย์มาโนช เรียมเอย
เสียงแม่จับใจแจ้วจากเจ้าเจ็บใจ ฯ
๙๒
๏ การศัพท์ไก่แก้วแข่งขันขาน
โสตเสนาะสนั่นปานปี่แก้ว
ถวิลมิ่งวิมลมาลย์มาโนช เรียมเอย
เสียงแม่จับใจแจ้วจากเจ้าเจ็บใจ ฯ
๙๓
๏ แสงโสมส่องสว่างว้างวายเผลียง
ดวงเคราะห์พฤหัสบดิ์เคียงคู่ใกล้
นึกเนาคฤหาเรียงรสร่วม เรียมแม่
หลงตระกองกรไล้ลูบค้างเขินกร ฯ
๙๔
๏ ค่อนรุ่งค่อนอกเร้ารัญจวน ใจนา
นิทรห่างนิตยโหยหวนห่างแก้ว
หระอืดกระโอยครวญครางครุ่น ครวญแม่
เจ็บยิ่งเจ็บจากแคล้วคลาดน้องนอนเดียว ฯ
๙๕
๏ เดือนดับระดับด้วยดวงดาว
ดาวประกายพฤกษ์พราวพร่างฟ้า
เรื่อเรื่ออรุณขาวเขตต์ขอบ โลกเอย
คิดแม่ตื่นตั้งถ้าถาดน้ำสังข์สนาน ฯ
๙๖
๏ รางรางรุจิเรกด้วยดวงสูริย์
แย้มเยี่ยมโพยมจรูญเรื่อเรื้อง
ถนัดมุขแม่ไพบูลย์บงแม่น ใจนา
ยามเมื่อแย้มม่านเยื้องเยี่ยมชะม้อยเรียมมอง ฯ
๙๗
๏ รำไพผ่องภพแผ้วแผงสวรรค์
ร้อนโอฆสาครคันขอดแล้ง
อกเรียมบำราศขวัญขวาเนตร กูเอย
ร้อนกระอุอกแห้งหากร้อนฤๅเทียม ฯ
๙๘
๏ บางตรูดนึกกรูดต้นตามกระถาง แถวนา
ผลดกเพียงใดนางเหนี่ยวได้
ผ่าเสี้ยวสระเสยสรางศกแม่ นาแม่
บางกรูดดลกรูดไม้แม่ตั้งชานเฉลียง ฯ
๙๙
๏ บางตรูดกรูดสระเส้นศกสมร แม่ฤๅ
ผิวแทรกสุวคนธ์อรอบฟุ้ง
ต้นตรูดนึกใคร่ตอนตัดฝาก นุชนา
ปลูกก็หลัวเรือกบุ้งบ่อนก้านกินใบ ฯ
๑๐๐
๏ ลุถิ่นบางพระอ้างอกนาม พระนา
พระบั่นบาปธรรมสามเสร็จแล้ว
เรียมร่ำประกัติกามกำหนัด ในแม่
ของแห่งห้องราคแคล้วรวบร้อยรึงสกนธ์ ฯ
๑๐๑
๏ บางปรงปรงไข่ขึ้นขอบเฉนียน นี้ฮา
คิดแม่เก็บปรงเจียนจุ่มแป้ง
ทอดเทียบสิ่งสุปเพียญน์พูนภาช- นะเอย
จัดประจงแต่งแสร้งเสพล้ำลืมกลืน ฯ
๑๐๒
๏ โสธรอรเอกสร้อยโสพิน พ่อฤๅ
พาพธูพหลลิน-ลาศผ้าย
เรียมปราศประวัติถวิลไหวจิตต์ จอดแม่
เหลือกจักเกิดราพณ์ร้ายเรื่องเพี้ยงโสพิน ฯ
๑๐๓
๏ โสธรถิ่นชื่อบ้านบงฉงน ใจเอย
ฤๅว่าโสพิดลแด่นนี้
ลุกอนุชพระพหลหวลนึก คนึงแม่
กูจากเกรงราพณ์ลี้ลอบเพี้ยงโสพิน ฯ
๑๐๔
๏ สำปทวนทวนจิตต์รั้งรอคอย แม่เอย
เรือล่องตามชลาลอยแล่นลุ้ย
ไป่ทันทอดเรือถอยทวนเท่า นุชนา
หยับโยคพลยายพุ้ยพี่จ้องใจทวน ฯ
๑๐๕
๏ ถึงถิ่นสาวชะโงก บอกนาม นี้แฮ
ไยบ่ยลสาวงามชะโงกหน้า
ถวิลว่าเยี่ยมแกลตามเตือนสั่ง พี่เอย
จากนุชจักชะโงกถ้าที่เย้าคอยเรียม ฯ
๑๐๖
๏ ถับถึงสาวชะโงกอ้างอวดนาม นี้เอย
ถวิลว่าสาวสวัสดิ์งามเงื่อนเจ้า
คิดแม่เยี่ยมยลยามยืนช่อง แกลนา
จากแม่เยี่ยมเย้าอยู่พ้นภายหลัง ฯ
๑๐๗
๏ ยลคามสามร่มร้อนฤๅสม นามนา
สาวบ่าวกรำแดดลมหลากแล้ว
โอ้อรแจ่มผิวผงมสงวนแง่ งามเลย
แดดไป่พานลมแผ้วผ่องเนื้อนวลผิว ฯ
๑๐๘
๏ ดลบุรินแปดริ้วร่ำแรมสาย สวาทนา
เปลี่ยวจิตต์เปล่าใจหายเหี่ยวหิ้ว
เรมียงหมู่แม่ค้าหลายลับแม่ นะแม่
ใจจะขาดร้อยริ้วระริกริ้วระบายลม ฯ
๑๐๙
๏ ลับแหลมลุคุ้งย่านพญาพาย เรือเอย
แลจรหลิ่งหลากทรายลายเล่ห์แก้ว
แหล่งสระน่านสนุกสายเสน่ห์แม่ มารา
เจ้าจักลงเรือแล้วเล่นคุ้งพญาพาย ฯ
๑๑๐
๏ ผระจำรังระบุบ้านระบมทรวง โศกเอย
ครวญแม่เมิลสุริยดวงดับคล้อย
คณะนกประจำรวงรังร่วม คู่รา
กูจากเจ็บใจละห้อยห่อนได้ประจำเรือน ฯ
๑๑๑
๏ บางขนากขนากแก้วกกศร รามฤๅ
แผลงแทตย์ถ้ำทรวงธรทบเท้า
ขนากกกไขันถอนถอยเคลื่อน บ้างแม่
ศรโศกเสียบทรวงเร้าราคร้อยฤๅถอน ฯ
๑๑๒
๏ ไทรมูลไทรเทพยเจ้าจอมนิคม นี้ฤๅ
เพลงพระพาสสองสมสุขสร้อย
เอาอนิรุทธผทมผทับอุ- ษานา
เชิญช่วยอุ้มข้อยน้อยแนบเนื้อนวลศรี ฯ
๑๑๓
๏ โดยดลชนบทบ้านบางแตน
หวาดว่ารังแตนแหวนสวาทเจ้า
ตัวแตนไต่ตอมแหนหวงห่วง รังรา
ตัวที่หวงห่วงเคล้าคลาดห้องโหยสมร ฯ
๑๑๔
๏ โยทกาแนวน้ำใหญ่แยกสาม แควนา
ใจเตร่ตริสามตามแตกด้วย
หนึ่งไปหนึ่งคืนคามเขตต์ควบ แม่เอย
หนึ่งจะโจนน้ำม้วยแม่น้ำโยทกา ฯ
๑๑๕
๏ ชายพนัศแนวทุ่งทางเกวียน
พุ่มไผ่เช่นฉากเขียนคั่นห้อง
คิดอรแอบองค์ละเมียรเมียงฉาก อยู่แฮ
ฤๅแม่เมียงไม้ป้องป่ากั้นกีดโฉม ฯ
๑๑๖
๏ หวั่นหวั่นวาบจิตต์ละห้อยหวนโหย
เฉื่อยเฉื่อยชะนีโหวยโหว่ยเจื้อย
หวาดว่ายุพเดียวโดยเดิรเรียก พี่รา
ฟังเล่ห์เสียงนุชเรื้อยเรียกร้องเรียมขาน ฯ
๑๑๗
๏ รังสฤษดิ์นิราสสร้อยสายสมร
อนุชไท้ทินกรผกอบร้อย
เพี้ยนพากย์เอกโทกลอนปราชญ์แต่ง เติมพ่อ
เล่ห์สลาบนกน้อยนุ่มเย้ายอนกรรณ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

ประชุมนิราศคำโคลง รวบรวมโดย พ. ณ. ประมวลมารค พิมพ์ครั้งแรก กันยายน ๒๕๑๓ แพร่พิทยา

เครื่องมือส่วนตัว