โคลงนิราศสมเด็จกรมพระยาเดชาดิศรเสด็จไปทัพเวียงจันท์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: สมเด็จกรมพระยาเดชาดิศร

บทประพันธ์

ร่าย
๏ ศรีศรีสวัสดิสวัสดิ พิพัฒน์พิพัฒน์ภักดิภักดิ ศักดิศักดิไชยไชย ไผทแท่นแผ่นกรุงโกรม โสม(สูรย์แสง)ส่องมาศ ดาษด้วยแก้วเก้าสิ่ง ยิ่งยลยิ่งนัคเรศ สบเกษตรกษาณฑ์ มานพระยศยนโยค เลี้ยงโลกทั่วถ่องธรรม์ ถวัลยราไชสูรย์ พิบูลย์ด้วยสมบัติ รัตนราชธานี บูรีรักเลิศหล้า ทุกประเทศถ้วนหน้า นอบเกล้าสดุดี ฯ
             

๏ ศรีอยุธยายศแม้นเมืองราม
กษัยยุคเย็นเกษมสามเกษตรแล้ว
ขุนหาญเหิ่มสงครามหาญหัด อยู่แฮ
พลพ่างพานรแกล้วกลั่นแกล้วเกลื่อนหาญ ฯ
๏ สารเศิกสูงสล้างไหล่เตรียบตรุย โตรดแฮ
หักค่ายหาญเข้าลุยไล่ร้า
หมู่ม้ามล่นแลฉุยฉิวเฉก ลมพ่อ
น้อยย่างย่อท้ายถ้าถูกเต้นตีนซอย ฯ
๏ กลอยส่ำรถเศิกไท้เทียมดุรงค์ รวดแฮ
เกวียนแกว่งโยนยรรยงเยิ่นแร้ว
งามเงื่อนรถทรงองค์อินทร์ขี่
ปราบพิภพอสูรแผ้วแผ่นเบื้องบาดาล ฯ
๏ พิมานครุฑที่นั่งแพร้วทองพราย
เฉกชำนินารายน์ร่อนฟ้า
เรือรบไล่สลัดหลายเหลืออ่าน
ปืนหล่อล้อใส่หน้าท่อนท้ายรายแคม ฯ
๏ พลแจวเจนเฉกน้ำชลจร
พลแม่นป่ายปืนยอนยอกต้อง
พลรบรบเรวรอนรณบก เรือแฮ
กล่าวแต่ย่อพอพร้องพร่ำรู้ฤๅถึง ฯ
๏ สรวมแสดงบันทึกร้างแรมอนงค์
เดชอดิศรทรงโศกพร้อง
บางปิ่นบวรวังมงคลพิพัฒน์ สถานนา
นายกยาตรพยูห์ซ้องเสด็จล้างลาวเวียง ฯ
๏ ทรงสรรแสวงเลือกเข้ากองโกรย
สารสั่งเรวเรียมโดยเสด็จไท้
หิวอ่อนออกโอษฐ์โอยอกแตก แล้วแม่
หวิวหวั่นวิญญาไหม้มืดไหม้ใจเรียม ฯ
๏ โอ้ดวงดรุณิศเนื้อนวลอุไร
จักจากสายใจใจสั่นริ้ว
สักคาบไป่เคยไกลเอวกล่อม กลึงแม่
บุญก่อกรรมใดพลิ้วพลิกให้ทันเห็น ฯ
๏ อรองค์อ้อนแอ้นซวดสมสูง ทรงแม่
เกศดั่งกำหางยูงเหยียดช้อย
ดวงเดาะเด่นดำตรูงตรูเนตร กูเฮย
ควรพิโยคเยาวน้อยหนึ่งได้ฉันใด ฯ
๑๐
๏ หลัดหลัดซัดแม่แล้ลาวัณย์ พี่เอย
ใครจะรับขวัญขวัญเนตรข้า
ราชกิจแต่กายผันจรจาก
ใจจะอยู่แนบหน้าหนุ่มหน้านวลแข ฯ
๑๑
๏ หายใจจุมพิตเฟ้นฟอนปราง
พลางพี่ลูบปฤษฎางค์ดับเศร้า
ลาเภพบูบางบัวมาศ กูเอย
อย่าแม่อย่ากลิ้งเกล้าเกลือกดิ้นแดยัน ฯ
๑๒
๏      โฉมแม่จะแหวกฟ้าฝากพิมาน แมนเฮย
น้อยเทพเลงไปลานสวาทดิ้น
หวนคิดฝากชั้นญานโสฬส เล่านา
พรหมก็ดีโดยสิ้นสิ่งเคล้ายังแคลง ฯ
๑๓
๏ จักฝากพื้นใต้ต่ำเมรุมิด รอดฤๅ
กรองกริ่งไพรปราจิตรแอบเย้า
ฝากน้ำเกลือกนาคอิจฉาลอบ โฉมแม่
จนอกโอ้พี่เฝ้าฝากน้ำตานาง ฯ
๑๔
๏ รำไพไกวรถเร้ารังษี ส่องแฮ
จวนจวบเพลาลีลาดผ้าย
เสียสมรหมื่นเทวษทวีเวียนสั่ง
ฝืนจิตร์จำยูรย้ายย่างยั้งหยุดถวิล ฯ
๑๕
๏ โรงธรรมธรรมาสน์สร้างสงฆ์แสง ธรรมเฮย
จิตร์จงธรรมระแวงหวั่นเจ้า
โรงธรรมประทีปแสงเพลิงสว่าง
ถนัดดั่งเห็นหน้าเหน้านั่งเฟี้ยมฟังธรรม ฯ
๑๖
๏ เสนาะเสียงสาวสั่งอื้อออกเรือ
อกพี่อาไลยเหลือละห้อย
เรือแล่นรี่เหลือเมือมองใช่ มุขแม่
โหยพี่เห็นน้ำพร้อยเนตร์พร้อยพรายสาย ฯ
๑๗
๏ อารามอรุณราชสร้างปฏิสัง ขรณ์นา
ถวิลอรุณเรียมชังใช่ช้า
สารสองสั่งกันยังยวนยั่ว อยู่เฮย
อรุณแอร่มเรื่อเรื่อฟ้ารุ่งแกล้งเรียมไกล ฯ
๑๘
๏ บ้านแขกคิดแขกเลี้ยงคาวี
แขกย่อมต้องการดีดื่นพร้อง
กลัวกล่าวกระลาลีเสาวภาค กูเอย
ขวัญอ่อนองค์สั่นร้องเรียกเล้าเรียมโลม ฯ
๑๙
๏ ปั้นอย่าไยปิดปื้อไป่เห็น ใดแม่
ถนัดดั่งเรียมเรียมเย็นเยือกห้อง
ปางแขกค่อนทรวงเซ็นโศกบีบ สุชลนา
เหมือนเมื่อยามเรียมร้องร่ำเศร้าสั่งสมร ฯ
๒๐
๏ คลองมอญมอญหมู่ด้าวใดทำ
เห็นแต่คองแคลงคำเพรียกพร้อง
เพรงมอญมรณจำใจจาก คลองฤๅ
เหมือนพี่จำจากน้องนึกหน้าลามรณ์ ฯ
๒๑
๏ วัดระฆังคิดคู้ฆ้องประโคมยาม
เสนาะระฆังกวนกามกอดเกื้อ
สุขใดไป่เปรียบสามยามย่ำ ระฆังเฮย
เนื้อแนบเนื้ออ่อนเนื้ออุ่นเนื้อเรียมนอน ฯ
๒๒
๏ ถั่นถึงอาวาสไว้นามดุสิต สวรรค์แฮ
เพียงพิมานนฤมิตรเทอดแท้
คนึงโฉมแม่คือวิศศุกรรมวาด
สาวดุสิตสู้แพ้พายโอ้อายงาม ฯ
๒๓
๏ ดาวดึงษ์แดนฟ้าใฝ่ใจถวิล ประหวัดนา
นึกนุชแน่วอรอินทร์กล่อมเกลี้ยง
ใช่ทิพเฉกทิพยินดีรส รักแม่
เชยพี่ชื่นใจเพี้ยงพ่างได้ดาวดึงษ์ ฯ
๒๔
๏ พิศแพแลตรวจหน้านางดู
บ้างก็ลูกจีนหูห่วงห้อย
ไป่สบลักษณตรูตาเปรียบ นุชนา
กรรณแม่กุณฑลพร้อยเพชรแพร้วพรายงาม ฯ
๒๕
๏ ยี่ขันขันคู่แม้นหมายเหมือน
ยลยี่ขันคนึงเตือนแต่คว้า
ขันขันคิดเชือนเชือน ชมยี่ ขันเฮย
ขันใช่ขันอ่อนอ้าพี่โอ้เอะใจ ฯ
๒๖
๏ โรงเหล้าฤทธิ์เล่าร้ายแรงครัน
ชนเสพเมามี่ฉันเช่นบ้า
เมาฤทธิ์สุราวันเดียวส่าง สมรเอย
โอ้พี่เมาสุขห้าแห่งเจ้าฤๅจาง ฯ
๒๗
๏ ลิงขบขบราพณ์ร้ายปลดปลง
เพื่อฤทธิ์พานรยงยอดแกล้ว
สิ้นเสี้ยนก็เสร็จสงครามราช รามแม่
ศึกอกโอ้จักแผ้วผ่อนสิ้นเสร็จไฉน ฯ
๒๘
๏ บางจากเจ็บชื่อชี้ชังบาง
จากว่าจากใจนางจืดหน้า
ถามหน่อยหนึ่งอย่าพรางเลยจาก
จากแม่เร็วฤๅช้าจักได้คืนครอง ฯ
๒๙
๏ เห็นรกำแกมจากโอ้อัศจรรย์
เหมือนจะบอกสำคัญข่าวช้ำ
จากแจ้งเจ็บจาบัลบำราศ
รกำว่าหนามเหน็บย้ำยอกร้อยรุมทรวง ฯ
๓๐
๏ นาฬิเกตกจั่นแล้หลายทลาย
ชายลุ่มเชิงเลนรายเรียดอ้อย
หลงแลกัทลีปลายปลีเปล่ง
ติแต่ตกเครือคล้อยเคลือบเคล้นเรียมแคลง ฯ
๓๑
๏ เมินหมากรุ่นรุ่นเรี้ยเรียงกัน อยู่แฮ
ดกช่างดกดูอันออกล้า
ขวยขวยคิดใคร่ปันไปฝาก
จวบแต่จืดจางหน้านุชเคี้ยวจักคาย ฯ
๓๒
๏ เห็นแถวสท้อนทุ่มทรวงผึง แผ่แฮ
เมินหมากไฟไฟรงราคร้อน
ซ่มจุกจิตรคำนึงนึกเทียบ ทันแม่
ขามคิดคมเนตร์ค้อนนุชค้อนเรียมขาม ฯ
๓๓
๏ สมอรายสมัครักรู้เรียมมา
รทวยยอดอย่างจักยาพยาธิ์ให้
คนเรียมโรครักษาแสนยาก สมอเอย
เจ็บไม่เจ็บจับไข้แต่ไข้ใจถึง ฯ
๓๔
๏ ถึงวัดซ่มเกลี้ยงแกล่เกลานาม
เชิงเช่นซ่มสมรตามฝากให้
ถอยถวิลประหวัดยามยังอยู่ สถานนา
ไป่ขาดครุ่นครุ่นได้ซ่มแก้วกับกร ฯ
๓๕
๏ บัดดลยลย่านบ้านสามเสน
บ้างว่าสามแสนเกณฑ์กะผู้
ประชุมฉุดชิเนนทร์หนักอก ชนเอย
หนักโศกสิบแสนสู้ต่อด้วยดำบล ฯ
๓๖
๏ บางพลัดพลัดแม่โอ้อนิจัง
เพรงพี่พรากเขาขังขุ่นแค้น
บาปทันบั่นจากบังอรอก เรียมเอย
จำพลัดจำพรากแม้นหนึ่งบ้านดำบล ฯ
๓๗
๏ บางพระครูพฤฒิครั้งใดไหน
ฤๅพระครูวินิจไฉยฉีกถ้อย
ทุกขราษฎร์เดือดใดใดครูดับ ดีพ่อ
เชิญช่วยดับทุกข์น้อยหนึ่งร้อนทรวงเรา ฯ
๓๘
๏ บางอ้อคิดคู่อ้ออรทำ ปี่เอย
เมงทแยเยาจำเป่าจ้อ
ปราศเสียงประโลมลำฦกเสน่ห์ นางนา
เคยแม่เป่าปี่อ้อโอดอ้อนเอาใจ ฯ
๓๙
๏ บางซื่อนามซื่อแสร้งสุจริต ฤๅนี่
เห็นแต่คลองแคลงจิตรไป่แจ้ง
เกลือกคดค่อนค่อนคิดใจอยู่ คลองเฮย
ใจแม่ซื่อเดียวแสร้งซื่อนั้นฤๅมี ฯ
๔๐
๏ บางโพโพธิสัตวเจ้าจอมองค์
เอาอาสน์บัลลังก์อลงกตแก้ว
ตรัสแจ้งจัตุสัจทรงไกลเกลศ มารแม่
เรียมกำหนัดราคแร้วร่อเงื้อมมือมาร ฯ
๔๑
๏ บางซ่อนกลซ่อนเร้นภิรมย์ขวัญ ตาเอย
ซ่อนเงื่อนงำเงากันกับเจ้า
ซ่อนสั่งสำคัญวันจักจาก
สองกำสรดซ่อนเศร้าโศกแสร้งแขงใจ ฯ
๔๒
๏ บางเขนคิดคู่แต้มตัวหนัง ไว้นา
เขนท่าขันขึงขังขี่เหม้น
กราวเขนค่อนกลองดังดุจทุ่ม อกเอย
จากนุชหนังจักเหล้นเรื่องให้ใครดู ฯ
๔๓
๏ คิดเขนเขนโล่ห์ป้องปิดกาย
สรศาสตรโทรมมาหมายมุ่งกั้น
สรโศกสรยิงสายใจพี่ ณ แม่
เขนโล่ห์ซ้อนสิบชั้นช่วยกั้นกลไฉน ฯ
๔๔
๏ วัดลุ่มวิลาปล้นเหลือทรง ไว้แม่
ดุจชลาไหลลงลุ่มไล้
คิดขืนใคร่ใจคงขืนอยู่ ได้ฤๅ
เล่ห์ทดทึกลุ่มให้หกขึ้นเขินดอน ฯ
๔๕
๏ โอ้แก้วกับอกร้างแรมรัก
เคยบไกลศรีสักกิ่งก้อย
ปรานีแนบเกรงหนักนักนิ่ม เนื้อแม่
วันละวันนับร้อยคาบช้ำเรียมชม ฯ
๔๖
๏ ลันลุงลาลดให้หาเยาว มาลย์แม่
ไกรกรอบกระมลเมามืดหน้า
ไฟกามกำเดาเผาลนลวก อกเอย
เจ็บจรเทิญเท่าฟ้าใฝ่สร้องเสพสม ฯ
๔๗
๏ ตลาดแก้วดอกแก้วร่วงโรยผกา
แก้วว่ากานดาราร่วมไร้
แสนสงวนเงื่อนแก้วตาตนแต่ น้อยนอ
รักเร่งรักไจ้ไจ้จากแก้วกับทรวง ฯ
๔๘
๏ มาลุอาวาสไว้นามเขียน
แสนกำสรดใจเจียนจากชู้
วัดเอยช่วยเกษียรสารน้อย หนึ่งนา
บอกยุบลนุชรู้เรื่องร้างเรียมแรม ฯ
๔๙
๏ วัดสลักสลักละเอียดล้ำลายบาน
บันโบสถ์เจียนจีนจารจี่จิ้ม
คิดสลักคู่สลักดาลแดยอก อยู่เอย
เจ็บพี่จากปวดปิ้มสลักร้อยรึงตรึง ฯ
๕๐
๏ ตลาดขวัญขวัญมิ่งเต้าตกตลาด นี่ฤๅ
เขาจึงขายขวัญดาษดื่นพร้อง
ขวัญเอยคิดค่าขาดควรเท่า ใดแม่
พี่จะซื้อขวัญน้องแนบเนื้อถนอมขวัญ ฯ
๕๑
๏ บัดยลหย่อมเหย้าท่งทางชลา ไลยแม่
บางชื่อธรณีหนาแน่นล้น
ผาดอยดื่นสุธาธารรับ รองแฮ
ฤๅอาจทานทุกข์ท้นที่ซ้อนทรวงเรา ฯ
๕๒
๏ ปากเกร็ดปานตรัสห้ามหฤทัย พี่นา
เยาวตรัสอย่าเตร็จไปจากห้อง
เรียมขืนคำครรไลเตร็จแตร่ มาแม่
โอ้แต่นี้จักจ้องร่ำห้ามห่วงใคร ฯ
๕๓
๏ บางภูตผีพูดเพ้อพึมพึม
พุ่มพฤกษฉายาครึมครุ่มคร้าม
ภูตเฮยบ่นกระหึมหวงทรัพย์ ไว้ฤๅ
คิดแม่หวงหึงห้ามหากแม้นโขมดหวง ฯ
๕๔
๏ บางโควัดวัดครั้งใดไฉน
โควัดคาวีไกลกล่อมเกลี้ยง
ดิ้นดิ้นโดดจักไปหาแม่ โคเอย
ใจพี่นี้เดือดเพี้ยงคู่ด้วยแดโค ฯ
๕๕
๏ บางจีนจีนใหม่อื้อเออนงค์ นางแม่
จีนต่อจีนจำหลงเลศนั้น
เสียวสมรแม่เศกทรงมงกุฎ ถกลนา
ริว่ารัดเกล้ากลั้นอดยิ้มแขยงใจ ฯ
๕๖
๏ บางพังฝั่งฟากร้าวรานดิน
พังเพื่อสายกระแสสินธุ์เซาะซึ้ง
เจ็บจากเจ็บใจถวิลวรรณโรค เรียมเอย
ฟกน่วมหนองหนักอึ้งอกปิ้มปานพัง ฯ
๕๗
๏ บ้านใหม่ใหม่หน้าน่าอุปถัมภ์ แม่นา
ใหม่ใหม่มีกรรมจำจากแก้ว
บัดร้างบาปเรียมทำทัณฑ์โทษ สนองฤๅ
ใหม่ไม่ถึงเดือนแคล้วคลาดห้องห่างสงวน ฯ
๕๘
๏ เทียนถวายถวิลเมื่อครั้งบุษบา
เทียนแม่เสี่ยงปัฏิมามิ่งแค้น
อิเหนาไล่คาวคลาดลดับ เทียนเฮย
แดพี่ดับมืดแม้นถิ่นถ้ำเทียนถวาย ฯ
๕๙
๏ บางแขยงยินพี่เพี้ยงนึกเหนียม ใจนา
แขยงขยาดจักกระเดียมดิบดี้
ปางเกษมสุขสองเลียมลวนเล่น
มือแม่แย่งพี่ยี้ยั่วเย้าแขยงทรวง ฯ
๖๐
๏ บางเดื่อเดื่อห่อนให้ใครเห็น ดอกแฮ
เดื่อประจักษ์ต่อเปนลูกเต้า
โออกอ่อนเอยเอนดูพี่
รู้เช่นเห็นเดื่อเจ้าจดไว้หว่างทรวง ฯ
๖๑
๏ เรือเลยลุย่านบ้านบางหลวง
หลวงเล่ห์บัวหลวงดวงเด่นน้ำ
บัวเทียบไป่เทียมทรวงสุดสวาท พี่แม่
ยลยุดหลวงล้ำเล่ห์แย้มยามชม ฯ
๖๒
๏ เชิกรากเชิงร้างรักรัญจวน ใจพี่
กามกำเดาดองอวนอกเร้า
ร้อนอื่นหมื่นประมวญมาเปรียบ ได้ฤๅ
ร้อนนิรารสเจ้าราคร้อนฤๅวาย ฯ
๖๓
๏ บ้านกระแชงชมหย่อมเหย้าเรือนมอญ
ฝากระแชงอ่อนชอนใหม่หม้า
โหยเห็นประเล่ห์สมรมาม่าย อยู่แม่
บังกระแชงแฝงหน้านี่แล้วลำเภา ฯ
๖๔
๏ ถึงวัดไก่เตี้ยขุกคิดฉงน
ไก่ว่าพริ้งเพราะขนขายสร้อย
สาวบ่าวอ่าอบสกนธ์กายแต่ง งามแฮ
เจ้าบแต่งแต้มน้อยหนึ่งอ้าลออเอง ฯ
๖๕
๏ บ้านถั่วกลถั่วน้องนางสวรรค์
ถั่วพืชไว้เป็นพรรณเพาะแต้ม
ถั่วพูผักสำคัญควรขาด ไฉนนา
เห็นแต่ถั่วแปบแย้มยอดให้เรียมชม ฯ
๖๖
๏ ไรไรเรือเรื่อยจ้วงจรลี ลาศแฮ
ถึงประทุมธานีแน่นเหย้า
ค่อนค่อนคิดบุษปีบิยุษ
ตูมตระการกลเต้าต่อมเนื้อนวลสงวน ฯ
๖๗
๏ บางเตยเตยทาบท้ามทางจรัล เรียดแฮ
ดวงดอกปานปะหนันน่าเคล้า
เปนไฉนไป่ทรงคันธรสอบ อวนนา
ไกลกลิ่นลำเจียกเจ้าพี่ช้ำชมเตย ฯ
๖๘
๏ บ้านงิ้วคิดงิ้วแง่งามสม นางนา
โฉมแม่เงื่อนงิ้วคมค่อนค้อน
ไป่พบพิมลฉมเฉลิมโลก กูเอย
เห็นแต่งิ้วหนามย้อนยอกไส้แสบทรวง ฯ
๖๙
๏ บ้านกลางกลางร่องซึ้งสายชล
เพียงพี่ตกวังวนวากว้ำ
อาทวาว่าอยู่จนเจียนจัก จมแม่
ใจจะขาดขว้ำซ้ำลิ่วลี้แลนาง ฯ
๗๐
๏ บ้านกบือรบือบอกอ้างสมญา ไว้เฮย
ถนัดว่าฝูงกบือคลาคล่ำผ้าย
จากเจียนเจ็บกลกาษรเสี่ยว
เสนงสนัดแน่นทรวงย้ายโยกค้ำคาแด ฯ
๗๑
๏ ราชครามครามคราบหน้านางศัลย์ โศกฤๅ
ฤๅราชครวญครามครันคร่ำไห้
เสมอสองสั่งกันวันจักจาก
เนื่องเนื่องน้ำหน้าไล้คราบแก้มกลคราม ฯ
๗๒
๏ ส่ำสวาว่องไม้ร่ายโจนจร
หัวฝักขามขบพลอนไพล่แก้ม
หมู่ค่างขู่ลิงหลอนโลนเล่น
ลางแนบนางลิงแย้มยั่วให้เรียมอาย ฯ
๗๓
๏ บางไทรไทรปู่เจ้าจอมอา รักษ์ฤๅ
รุกขพิมานโรยราร่วงไร้
น้อยฤทธิ์บร้างพากูสู่ สมเอย
ขอแต่ดลใจให้แม่เต้าตามเรียม ฯ
๗๔
๏ บัดเห็นทิวท่งล้วนลำเนา นาแฮ
ลาเลี่ยนลานเข้าเขานวดเฟ้น
แลลานลำฦกเยาวมาลย์มิ่ง กูเฮย
ลานดั่งลานนุชเหล้นลับแล้วลาญทรวง ฯ
๗๕
๏ สาลีล้อเลื่อนเข้าเขาเห็น มาแม่
กองกับลานลอมเปนปุ่มตั้ง
แลลอมประเล่ห์เห็นโหยสวาท
ลานใช่ลับลักขั้งอกร้อนรนถวิล ฯ
๗๖
๏ รัญจวนจิตรจากแก้วกานดา พี่แม่
เมินหมู่มัตสยาคลาคล่ำน้ำ
หางแพนพิโยคปลาจืดจาก
แขยงขยาดยอกรสกล้ำกลับร้ายเป็นดี ฯ
๗๗
๏ เทโพพาพวกหว้ายเป็นทิว มาแม่
สลสลาดสลิดจิ๋วเจื่อนหน้า
กดโชลงกระโสงซิวสันโดษ เดียวเฮย
แหว่าห่างชู้ช้าช่อนช้าชมเพียน ฯ
๗๘
๏ ตระพากผันเข้าฝั่งแฝงเตย
ดุกชโดโดดเกยหาดเหล้น
แก้มช้ำมัจฉาเชยชมชอก ช้ำฤๅ
เนื้ออ่อนโอ้ใครเคล้นคลาดเต้าตามสวาย ฯ
๗๙
๏ ปลาเค้าคิดเค้ามุ่งหมายเหมือน
ปลาทูถวิลคางเบือนบู่สร้อย
นวลจันทร์แจ่มเจียนเดือนดวงพักตร์ แม่ฤๅ
กรายว่ากรายกรีดก้อยแน่งนิ้วนางกราย ฯ
๘๐
๏ บ้านดาบขึ้นดาบอ้าองครักษ์ ฤๅพ่อ
คิดใคร่บั่นทรวงสักสิบโป้ง
ฤๅเจ็บเจ็บจากพักตร์พิมลแม่ มาแม่
ปวดยิ่งดาบเขนโค้งค่อนร้อยฤๅปูน ฯ
             

๘๑
๏ เกาะเกิดเกิดตั้งแต่ประถม กัลปฤๅ
เกิดพี่เกิดทุกข์ธมเท่าหล้า
แรมรักบำราศชมในชาติ นี้แม่
ตายเกิดขอเห็นหน้าอยู่เคล้าอย่าคลาย ฯ
๘๒
๏ บ้านแป้งไหนว่าแป้งไป่พบ
คิดสำอางอรครบเครื่องแป้ง
เจียมจรจากจักอบองค์อวด ใครแม่
แป้งกระแจะจักแห้งห่างหน้าหายนวล ฯ
๘๓
๏ อรอินทร์อรเอี่ยมเนื้อนงเยาว์
ไยบอยู่ยังเขาเขตรฟ้า
อรเอยอนาถเนานิวเพื่อ ใดแม่
โอ้พี่ขอชมหน้าแม่เอ้ยอรอินทร์ ฯ
๘๔
๏ เกาะพระกรรมพรากแคล้วคลาถึง
พระว่าพระรำพึงพี่สร้าง
กรกอดอุระคนึงนิ่งอยู่ ใดพ่อ
เชิญช่วยปรารภร้างรักให้เสพสม ฯ
๘๕
๏ ลิ่วแดนลุด้าวดำบลบาง
นามตลาดเกรียบทางท่งแจ้ง
ชังชื่อเกรียบเกรียมกลางอกเร่ง ร้อนแม่
เกรียบดั่งกรอบใจแห้งห่างเหย้าเคยเย็น ฯ
๘๖
๏ สเภาล่มล่มแล้วลับลำหาย
ยังโขดงเดียวหมายแม่นรู้
สัดจองพี่จำงายสมรแม่ มาแม่
หนักยิ่งเยียวล่มอู้อกข้าใครเห็น ฯ
๘๗
๏ บ้านกลิ้งกลิ้งกลดกั้งกันสูรย์ ส่องฤๅ
โอ้อกอาดูรปูนแดดปิ้ง
กลิ้งกลับดับแดอูร ฤๅห่อน หายแฮ
กลิ้งดำบลบ้านกลิ้งกลดให้เรียมเห็น ฯ
๘๘
๏ โปรดสัตว์สรรเพ็ชญ์ข้ามเข็ญขน สัตว์เอย
ไปโมกขเมื่อสู่หนหกฟ้า
เรียมข้องข่ายมารกมลมัวมืด แล้วแม่
ขอสู่สุขรมย์ห้าแห่งน้องนางเดียว ฯ
๘๙
๏ ฝีพายพายรันรีบเรวเหลือ
ลุย่านบ้านรุนเรือรี่คว้าง
เชี่ยวน้ำฉ่ำลมเจือจัดพัด มาแม่
เสมอเมื่อวันเรียมร้างรีบร้อนราวรุน ฯ
๙๐
๏ บางหวายถวิลบ่วงแร้วรันทำ โทษแฮ
หวายพาดผูกพันลำลอดเลี้ยว
อาลัยพี่จากจำเป็นห่วง หาแม่
กลกับบ่วงกามเกี้ยวกอดร้อยรึงเรียม ฯ
๙๑
๏ เกาะเรียนนำฦกซ้อมศึกษา ศิลป์เฮย
สบสิ่งวิทยาหาห่อนเว้น
เรียมอื่นหมื่นมายาหมายหยั่ง ได้แฮ
เรียนพี่เรียนเชิงเร้นรักรู้ฤๅถึง ฯ
๙๒
๏ ถึงวัดเสือข้ามคิดเปนสอง ใจนา
อย่างหนึ่งเจ็บจากปองครอยเหย้า
ใจหนึ่งเจ็บจากปองเป็นเหยื่อ พยัคฆ์แฮ
โหยบเห็นเสือเต้าพี่ตั้งตาคอย ฯ
๙๓
๏ ใคร่เคร่าบเคร่าได้ดังปอง
พลกระพือพายผยองโยกย้ำ
โยนเยือนกระหย่อนสองสายเสียด พี่แม่
คิดชำงือเงื่อนช้ำแรกรู้ฤๅดี ฯ
๙๔
๏ ราตรีลีลาศด้วยเดือนฉาย
พร่างพร่างสินธุพรายพรายพร่างแพร้ว
ชมอื่นหมื่นไป่หมายชมชอบ ใจพี่
เดือนว่าดวงพักตร์แผ้วผ่องฟ้าใฝ่เห็น ฯ
๙๕
๏ แสงจันทร์แจ่มฟ้าเร่งเรียมครวญ
คนึงว่านวลจันทร์นวลแจ่มหน้า
ระรวยรสจันทร์อวนอบติด มาแม่
รื่นรื่นรสกลผ้าห่มเนื้อนวลจันทร์ ฯ
๙๖
๏ บ้านดินแดนโคกอ้างนางเนา นี้ฤๅ
ค้าขุดดินดูเยาวยากแค้น
แม้โฉมเฉิดจักเอาอรเทียบ โฉมแม่
ไกลว่าไกลกันแม้นฟากฟ้ามาดิน ฯ
๙๗
๏ วัดรอเพียงพี่รั้งรอถาม
ถนัดว่าพงางามจักเต้า
รอเอยอย่าอำความขวัญเนตร์ มาฤๅ
รอช่วยรอรับเจ้าร่วมห้องหาเรียม ฯ
๙๘
๏ นางชีชี้ชื่ออ้างแอหนัง นี้แม่
วัดประตาปายังยืดหร้อง
ชีบวชบุษบาบังเบียดซ่อน ไว้ฤๅ
ควรพี่ขอค้นห้องแม่น้อยนางชี ฯ
๙๙
๏ อยุธยายามก่อนพู้นเพียงสวรรค์
หลายชั่วกระษัตริย์สวรรค์เศกสร้าง
เสื่อมสนุกนับวันเป็นป่า ไปแฮ
เหมือนพี่เสื่อมเสน่ห์ร้างรักร้างแรมมา ฯ
๑๐๐
๏ เสียดายถิ่นเทศด้าวแดนวัง
เห็นแต่กำแพงพังว่างว้าง
เฉกไพรพฤกษยางรังรายร่ม อยู่แฮ
ร้างดั่งเรือนเรียมร้างยิ่งร้ายเรือนหลวง ฯ
๑๐๑
๏ ถึงวัดมรฎปดั้งเดิมแมน สรรค์ฤๅ
ระเบียบบรรแซกแสนนาคสดุ้ง
ปรฎปบดุจแหวนมรฎป ใดแม่
อรกรีดก้อยแก้วรุ้งร่วงต้องตาเตือน ฯ
๑๐๒
๏ คลองช้างชื่อแต่เบื้องโบราณ เรียกแฮ
ฟังบดีดวงมาลย์แม่ซ้ำ
ขามเชิงคชรำคาญขวยโอษฐ์ อ่อนเอย
เสว่าสัตว์โตกล้ำกล่าวให้เห็นงอน ฯ
๑๐๓
๏ ถึงบ้านกระทุ่มทิ้งทอดตน ลงเฮย
เจ็บจรเทิญทรหน แหบไห้
คิดดอกกระทุ่มกลเกศนุช      กูนา
ปีกแม่ขนเหม้นไหม้กรีดนิ้วนางสอย ฯ
๑๐๔
๏ บ่อโพงโพงน้ำหลั่งลงคม นี้แม่
เย็นราษฎร์เรียมร้อนความโศกซ้ำ
นัยนาคร่าวในนามพุพุ่ง โพงเอย
โพงพี่วานโพงน้ำเนตรบ้างเบาครวญ ฯ
๑๐๕
๏ วัดสเด็จไหนเสด็จโอ้เรียมปอง เห็นแฮ
เห็นแต่อาวาสของท่านสร้าง
จำเนียรจึงจำนองนามเสด็จ ไว้ฤๅ
ดุจพี่เด็ดรักร้างร่วมรู้ฤๅเห็น ฯ
๑๐๖
๏ ปากจั่นกั้นกักน้ำขังไข
จั่นประจำคลองระไวหมื่นหมั้น
ดุจเรียมระวังไภยพะวงสวาท
เอาแต่สายใจกั้นแม่ไว้ฤๅวาง ฯ
๑๐๗
๏ ตระบัดบันลุด้าวดลสถาน
บ้านเสื่อสมญานานเนิ่นแล้ว
เสื่อเอยอดสำราญเรียมม่อย มาแม่
ถวิลว่าเสื่อกกแก้วพี่นี้ไหนเขนย ฯ
๑๐๘
๏ รอนรอนเรียมเร่งร้อนรุมกมล มาแม่
ยินย่านบางรกำยลยิ่งสร้อย
บางร่วมเรื่องรกำกลกับพี่
รกำเพื่อเหตุเจ้าร้อยชั่งร้างเรียมรกำ ฯ
๑๐๙
๏ แม่ลาลาแม่แคล้วคลาไคล
ลาแต่ทรวงสายใจจิ่มน้อง
อ้าอม่จักอาไลยลาลด บ้างฤๅ
ฤๅพี่ลาลับห้องห่างแล้วลืมความ ฯ
๑๑๐
๏ พระนอนนิทรนิ่งโอ้เอองค์
เพื่อบอาลัยหลงเกลศไหม้
เรียมข้องคำนึงอนงค์นอนเปลี่ยว
นอนบเปนนอนไห้ห่วงห้องนางนอน ฯ
๑๑๑
๏ ตเคียนด้วนเด็จยอดจ้อนจำตาย
ดุพี่เด็ดสมรหมายแม่นม้วย
ตอเคียนคู่กับกายยังอยู่
ใจพี่ขาดคู่ด้วยยอดไม้นามคาม ฯ
๑๑๒
๏ วังแดงเดิมชื่อกี้กาหลง
เพรงพระลอลงสรงเสี่ยงน้ำ
วนวังก็ยังคงคำโลก แลแม่
กูจะเสี่ยงสัจซ้ำมุ่งม้วยเมือมรณ์ ฯ
๑๑๓
๏ ศาลาลอยล่องน้ำเนาสถาน นี้ฤๅ
รอยรเด่นเล่นธารทอดนี้
ศาลาใส่ศุภสารสนองบุษ บาแม่
เรียมบจวบเจ้าลี้เล่นท้องธารไหน ฯ
๑๑๔
๏ บางตระไลตระลึงเพ่งตั้งตาหา อยู่เฮย
บางว่าเอวบางมาแมกไม้
ไหนเนตรตอบนัยนาเรียมน่อย หนึ่งนา
ตระไลแม่วานอย่าให้พี่ตั้งตาตระลึง ฯ
๑๑๕
๏ บ้านขวางพางไต่ตื้นติดดอน
ขวางยิ่งขวางหนามยอนยอกให้
หนามเหน็บเก็บหนามชอนไชบ่ง หายแฮ
รักบบ่งรักได้ดื่มแย้งแยงขวาง ฯ
๑๑๖
๏ เห็นท่าถิ่นไท้รื่นรมย์กาม
ชี้ชื่อเจ้าสนุกนามเนื่องพร้อง
เพรงราชหยุดย่ำยามเย็นสุข ทรวงพ่อ
โอ้พี่ทุกข์ถวิลห้องห่างถ้าทางเกษม ฯ
๑๑๗
๏ ขามเรียงเรียดน้ำนึกถวิลหวาม ใจนา
นุชบขามเรียมขามเข็ดเคี้ยว
คิดร่วมภิรมย์ยามสังวาส
หวานแม่หวังว่าเปรี้ยวพี่เปรี้ยวปรวนโดย ฯ
๑๑๘
๏ กรเกยก่ายพักตร์ก้มกรรแสง มาแม่
ชลเนตรโดยรินแรงโศกซ้ำ
บัดถึงถิ่นท่าแดงใดดั่ง นี้นา
แดงดุจนายเนตรช้ำชอกไห้หาสมร ฯ
๑๑๙
๏ ท่างามงามบให้เห็นโฉม
งามแม่เกรงจักโลมลอบเหล้น
เห็นท่าทึกเรียมโทมนัศนึก งามนา
กามรลุงทรวงเต้นแต่ตั้งคอยงาม ฯ
๑๒๐
๏ ฝืนใจจรด่วนดั้นโดยทาง
แสงสุริยรางรางรีบผ้าย
คำนึงอรเอวบางเบาอก ได้ฤๅ
แต่จากจวบจนท้ายย่านบ้านยางนม ฯ
๑๒๑
๏ ยางนมชมใช่เนื้อเชยไฉน
นมพฤกษเพรงใครไคลคล่าวคล้อย
ฐานถันแม่สายใจจอมสวาท กูเอย
เฉกเช่นปั้นไป่ย้อยเยี่ยงไม้ยางนม ฯ
๑๒๒
๏ หัวหินครุคระไคร้ครึมบน
หินไป่เห็นเปนสกนธ์เกศเกล้า
เขาพร้องเพรียกอึงอลเอาเหตุ ไหนนา
หินบแม้นแท่นเจ้าเมื่อร้อนอรผทม ฯ
๑๒๓
๏ เริงรางรางเรี่ยน้ำใครสนาน นี้แม่
เรียมร่ำลำฦกธารที่แคล้ว
สองสรงร่วมรางบานเบิกจิตร สองนา
เคลือบเคลือบคลองนี้แล้วโลกร้องเริงราง ฯ
๑๒๔
๏ บ้านม่วงม่วงว่าไม้สวายหวาน
ดลระดูกาลบานช่อช้อย
ชมช่อชื่นไปปานรสเสพ สวายแฮ
เพียรพิศผลฮวบห้อยยิ่งให้เรียมเห็น ฯ
๑๒๕
๏ บ้านกรูดกรูดดับแก้กองลม
ถวิลบิยุษยาดมอ่อนสร้อย
ผลกรูดสดสระผมเสาวภาค พี่แม่
ไม้จะจักสางน้อยฝากน้องนางสาง ฯ
๑๒๖
๏ บ้านกงกงก่ายทิ้งสระสม อยู่แฮ
กงดั่งกงเกวียนกลมเกลียดคู้
อย่าแม่อย่านิยมเยียอย่าง กงเฮย
ครองแต่สารสัจสู้ซื่อไว้จึงควร ฯ
๑๒๗
๏ แม้ทวยเทวทราบซร้องสรรเสริญ นุชนา
ต่างจะติเรียมเมินแม่ไว้
จุ่งศรีสวัสดิ์เทิญทนเทวษ ไว้พี่
ซัดแม่มามาได้แค่แค้นคำนึง ฯ
๑๒๘
๏ สระบุรีบุเรศไร้ปราการ
คามเขตรควรสำราญเรียดเหย้า
คิดราษฎร์บำราศสถานเทถิ่น ไปเฮย
เหมือนพี่เททรวงเศร้าโศกร้างมาแรม ฯ
๑๒๙
๏ ปากบางกับปากใบ้ละกล กันนา
มีแต่ปากโชนชลหลั่งเลี้ยว
ลำบางบากแยกยลลางหลาก ใจพี่
ฤๅแม่บากใจเคี้ยวคู่น้ำปากบาง ฯ
๑๓๐
๏ เรือพายช้าช้าเฉื่อยชลธี
ยลย่านศาลารีเร่งเศร้า
คำนึงมิ่งมารศรีทรงลักษณ มาแม่
ประหยัดว่าศาลาเจ้าเพื่อนไร้เรียมเกษม ฯ
๑๓๑
๏ ถับถึงสาวไห้ชื่อตำบล บ้านแฮ
สาวร่ำร้างใดฉงนจิตรจ้าน
เงียบเงียบเงี่ยฟังจนจบเขตร คุ้งเฮย
สาวบให้เห็นบ้านพี่ไห้โหยหา ฯ
๑๓๒
๏ บ้านพยาวยินแสบไส้ทรวงสาว
โอ้พยาวเยาวยาวยืดเนื้อ
เรียมร้างภิรมย์คราวแคลนขัด เข็ญเฮย
แนบนุชสี่กรเกื้อกอดเกี้ยวกลใด ฯ
๑๓๓
๏ ท่าราบรอยราพณ์ร้ายพรหมพงศ์
พาพธูรามลงแหล่งนี้
อาลัยวิไลยบงกชมาศ กูเฮย
ถนัดดั่งราพณ์ลักลี้ซ่อนแล้วลงกา ฯ
๑๓๔
๏ ดาวเรืองดาวฤกษร้ายราคี
ดาวเคราะห์พิเคราะห์สีส่อเศร้า
แขอับลับจรลีจรหล่ำ ลงเอย
ฟ้าขุ่นขาวขวัญเข้าแม่ไข้ใจครวญ ฯ
๑๓๕
๏ บ้านอ้อยไหนอ้อยห่อนเห็นหา อยู่เฮย
อ้อยกระเอบโอชาใช่น้อย
อรเอยอ่อนเจรจาจับจิตร ใจพี่
หวานกว่าหวานรสอ้อยโอษฐ์น้ำคำนาง ฯ
๑๓๖
๏ ไกลถนอมเนื้อเกลี้ยงแกล่ไกลนุช
ไกลกลิ่นบุษบาบุษบเศร้า
ไกลพพ่างทรวงทรุดโทรมเพื่อ ไกลนา
ไกลเนตรไกลแนบเหน้าหนุ่มหน้านางไกล ฯ
๑๓๗
๏ มายลชนบทบ้านปากเพรียว
ไพรพฤกษยางรังเรียวเรียดล้อม
ค่อนค่อนคิดเพรียวเยียวเยาวรูป ถึงฤๅ
ร่างแม่เพรียวเพรียวพร้อมเพริดล้ำลำเพรียว ฯ
๑๓๘
๏ ดลสถานบ้านกล้วยภาคภูมพง พนัศนา
เขาปลูกกัทลีดงดื่นต้น
จันทน์นวลนิจเรียมจงใจเสพ
เครือครั่งผลพวงพ้นพี่ชี้ชังกรัน ฯ
๑๓๙
๏ ฟักแฟงแตงไร่ร้านริมสอง ฝั่งแฮ
ผลแทบเท่ากลองกองกับหญ้า
นวลแตงอ่อนลอองลอออก เรียมเอย
นึกระฦกนวลหน้าหนุ่มหน้านวลแตง ฯ
๑๔๐
๏ ตระวันเวี่ยไม้ร่มเขาขนอง พนัศนา
ขุนมฤครเมียนมองมุ่งเนื้อ
สวนเสียงสัตว์คนองแนวป่า
เย็นระอุเรียมเรื้อสั่นเริ้มรนสมร ฯ
๑๔๑
๏ มลักเห็นนางสักสล้างลัดใบ อ่อนเอย
กิ่งละกลกรไกวกวักช้อย
นางสักสรัศดีใดดูดั่ง นี้แม่
สุดสำคัญรอยน้อยหนึ่งช้ำในโฉม ฯ
๑๔๒
๏ เห็นกระทุ่มทิ้งถ่อนต้นตูมมี
เรียมก็ตูมตูมตีอกร้อง
ค้อนกลองไปเจ็บฝีมือค่อน ค้อยเอย
เจ็บแต่อกจากน้องพี่เร้ารันทรวง ฯ
๑๔๓
๏ หมากพูดกระพ้อพุ่มพุมเรียง เรียดแฮ
โรครักเรียมราศเวียงหวั่นสร้อย
เต็งรังตะเคียนเคียงสนโศก ด้วยฤๅ
ไม้แม่บีบยางย้อยอย่างน้ำตาเรียม ฯ
๑๔๔
๏ สบราชพฤกษโศกแส้สุกกรม
กรมไป่ดมเรียมดมดอกแก้ว
ดูดอกอรภิมชมชอบชื่อ ไม้แม่
หวังว่าภิมพี่แล้วเล่ห์นี้เรียมหลง ฯ
๑๔๕
๏ นางล้อมคิดอรลี้ลับหาย
เคยแม่ล้อมฤๅคลายคลาดได้
นางนูนนึกนามอายอกนาฎ กูเอย
นมนุชไฉนใครให้ชื่อนี้นางนูน ฯ
๑๔๖
๏ มณฑาเทียมเทียบเนื้อนวลอุไร
ซ่อนกลิ่นอายกลิ่นไกลกลิ่นชู้
อัญชันเฉกนิลไนยเนตรนุช พี่นา
เสาวรสเหมือนเรียมรู้รสรู้ในใจ ฯ
๑๔๗
๏ เป็ดหงส์เหิรแมกไม้มหาหง
ถวิลดำเนินหงส์องค์อ่อนคล้อย
ขับแคคับแค้นจงจับกิ่ง แคแฮ
เหมือนพี่คับทรวงลห้อยห่างชู้มาชม ฯ
๑๔๘
๏ พญาลอเล่นน้ำซับเนินสูง
ยูงจับยางนางยูงยั่วเย้า
รังนานแนบรังฝูงนางแนบ นกนา
โหยพี่เห็นพิหคเคล้าคลั่งดิ้นแดโดย ฯ
๑๔๙
๏ ดอกบัวบินร่อนร้องรังรมย์
เพียงพี่ร้างทรามชมฉากห้อง
ยางเจ่าจับเจ่ากรมเกรียมอก นกนา
เหมือนพี่เจ่าใจจ้องจอดเจ้าจำตรอม ฯ
๑๕๐
๏ นางนวลนึกว่าหน้านวลเดือน
เค้าคู่เค้าโมงเหมือนแม่นแล้ว
แขกเต้าตขบเตือนนุชไต่ มาแม่
โอ้ว่าแก้วไหนแก้วใช่แก้วตาเรียม ฯ
๑๕๑
๏ ปากห่างประเหลโอษฐ์ช้อยชออน พี่แม่
โอ้อิลุ้มไป่งอนเท่อเทื้อ
กางเขนคิดคู่กรกางกอด
ถนัดตระไนนึกเนื้อแนบเนื้อแนมใน ฯ
๑๕๒
๏ ราชีพฤกษชาติเชื้อชายดง
ใบบไหวเทียมธงทบเท้า
วังเวงวิเวกวงเขาเขตร นี้เฮย
สบสัตว์เสียถิ่นเศร้าช่วยเศร้าทรวงเรียม ฯ
๑๕๓
๏ ช่องผึ้งคนึงช่องตั้งตาตู ผึ้งเอย
ผึ้งภิรมย์เรณูแนบข้าง
คิดรังรสมฤทูเสียวทราบ ทรวงพี่
ผึ้งแผ่นสมรแม่งม้างแม่มิ้มหมายเหมือน ฯ
๑๕๔
๏ ยามเย็นยลย่านน้ำนที มาแม่
ถึงถิ่นท่าวัวมีต่างจ้าง
วัวเอยช่วยปราณีทรวงหนัก โศกนา
บรรทุกทุกข์เรียมบ้างแบ่งไว้พอทรง ฯ
๑๕๕
๏ ถับถึงบ้านกอกแก้วฤๅเห็น เลยแม่
อกพี่กรมหนองเปนเลือดค้าง
บ้านกอกกอกเอยเอนดูน่อย หนึ่งนา
วานช่วยกอกอกล้างเลือดช้ำในทรวง ฯ
๑๕๖
๏ แก่งเมืองมูนก่อก้อนหินเห็น อยู่เฮย
เมืองบเป็นเมืองเป็นป่ากว้าง
วังวลวิกลเย็นเจือกอยู่ ไฉนนา
ดูแก่งเมืองเมืองร้างพี่ร้างเมืองเหมือน ฯ
๑๕๗
๏ หนองบัวบงกชแก้วกานดา พี่ฤๅ
หลิ่นลไกลคนธาเท่ห์น้อง
บัวปรางปรับนาสาสมสนิท
บัวแนบบัวทรวงซร้องเบียดสร้อยบัวศรี ฯ
๑๕๘
๏ ป่วยกล่าวร้อยสระแก้วโกสุมภ์ ก็ดี
เพญผกากันพุมอ่อนอื้อ
ไป่เปรียบปรีดิ์ประทุมทิพสระ พี่แม่
วันละวันร้อยมื้อภู่เคล้าฤๅคลา ฯ
๑๕๙
๏ ถั่นถั่นถึงถ้าเยี่ยมเย็นรอน รอนเอย
คิดแม่แย้มบัญชรชะม้อย
ท่าเยี่ยมบยลสมรเมือถิ่น ใดแม่
อยู่ก็เยี่ยมหน้าน้อยหนึ่งให้เรียมเห็น ฯ
๑๖๐
๏ ตาลเดี่ยวเดียวโดดต้นตาลสม ญาแฮ
ผลก็โอชาชมแต่เต้า
ใบตาลยยาบลมโบยโบก มาแม่
ถวิลว่าด้ามจิ้วเจ้าฝากไว้วีเรียม ฯ
๑๖๑
๏ อรเอยอกก่ำแก้วกำสรด อยู่ฤๅ
ใครจะปลอบนวลปลดปลิดเศร้า
เสียศรีซูบทรวงสลดเหลือแหล่ แล้วแม่
เดาะดั่งตาลเต่งเต้าแต่นี้นานถนอม ฯ
๑๖๒
๏ โรยแรงเรียมร่ำไห้หานาง มาแม่
ยินชื่อขอนขว้างขวางย่านน้ำ
ตันอกอัดใจครางโอยออก ได้ฤๅ
ถนัดหนึ่งท่อนขอนค้ำแน่นเนื้อในทรวง ฯ
๑๖๓
๏ ค่ายหลวงหลายลูกตั้งตามเฉนียน น้ำแม่
รายบะเหรี่ยมรางเกวียนกาจแกล้ว
ปืนกามร่อใจเจียนใจขาด
ทนจะรอดฤๅแก้วพี่เอ้ยอรผลาญ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

ประชุมนิราศคำโคลง รวบรวมโดย พ. ณ. ประมวลมารค พิมพ์ครั้งแรก กันยายน ๒๕๑๓ แพร่พิทยา

เครื่องมือส่วนตัว