โคลงดั้นนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คลโงดันนิราศตามสด…')
แตกต่างถัดไป →

การปรับปรุง เมื่อ 15:47, 3 ตุลาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: พระยาตรัง

บทประพันธ์

ร่าย

๏ ศรีสิทธิ์อิศรภพ บุญอบอาบซาบธรณิดล สกลภิตสิตารมณ์ ชมชื่นตื่นกฤษดากร บานอกหล้าฟ้าหกแห่ง แช่งอรีริปูชูธรรมิก หลิกอุบัติขุติยสุขุม ชุมเชิญเสริญสิทธิท่าน ผ่านพระนครถอนกษัตริย์ ตัดร้อนราษฎร์ขาดไกษยทุกข์ ปลุกเปลือกเมืองเป็นเยื่อ เพื่อประมาณปานห่าฝน ปรนแผ่นภพนพรัตนราชธานี ศรีอยุทธยแม้นมิ่งสวรรค์เฮย กรุงกระเดื่องเดชไท้ท้าว ทั่วขจร ฯ

๏ อยุธยายิ่งไท้ทั้งสาม ภพฤา
องค์อดิศรสวมศุขหล้า
บูชิตสาสนรามเรืองทะ วีปเฮย
บุญพระตวงฟ้าค้าค่าสวรรค์ ฯ
๏ เจดีย์สลับสล้างพระพรายแสง ทองแฮ
โบสถ์สระศาลานันต์เนื่องด้าว
ธรรมมาศน์อาศน์สงฆ์แสดงเสดาะสัตว์ ทุกข์ทั่ว
แผ่นสุธาท้าวสร้างสัจศิล ฯ
๏ เผยอผยองไตรรัตน์ตั้งเตือนใจ โลกย์แฮ
เสมอมหามินรุธรทรุดซั้น
ยากยกขัติยแดนใดโดยง่าย
ภุมเมศร์สุรชั้นฟ้าเฟื่องคุณ ฯ
๏ สนมเสนอคิดฝ่ายหน้าสนานสนน
ดาดาษเทียบขุนพลพวกด้าง
เสนีร่านราญรนราวิศ เศิกแฮ
ซ้อมสินาศช้างม้ามี่เมือง ฯ
๏ พระจอมธรณิศผ้ายเผยเข็ญ
ทรงซึ่งทศธรรมเมืองเนื่องเลี้ยง
สิมานครเพ็ญพลอาจ ผจญเอย
แรงอรินทรเพี้ยงเอื้องพุงผา ฯ
๏ ปางแสวงกฤษติราชเบื้องเบาราณ
สนุกนิ์ณรงค์ราไชยเชี่ยวกล้า
ซั้นสั่งสุรทวยหารเหิมเสร็จ
พ้องพหลหน้าล้อมแห่หลัง ฯ
๏ บั้นศรีสรรเพชรไท้ธริษตรี ท่านา
คลื่นพยู่หยังยานยาตรย้าย
เถลิงอาศน์รัตนมณีนาเวศ
เหมสุวรรณหว้ายหว้ายแหวกสินธุ์ ฯ
๏ โหยเห็นทุนเจตรเจ้าจอมสมร เรียมเอย
โดยเสด็จเดจโสภิณพี่แล้ว
อ้าองค์แม่ทรงศรสามเล่ม
สุดจะยิงแย้งแก้วก่องศรี ฯ
๏ แปลบจิตรเจ็บเค่มดิ้นดวงนิล เนตรเอย
คมธนูแสนทีทุ่มแท้ง
ฤๅเจ็บเท่าโฉมศิลโซมซุก ทรวงพี่
เนืองเนื่องน้ำหน้าแถ้งถั่งไหล ฯ
๑๐
๏ รณาภิมุขสู้สงคราม โพ้นแม่
หลังกระหนาบพาลไภยพวกซ้ำ
แหล่เหลือจะโดยกามกำแหมบ ไปได้
มีแต่ริฤ้ๅปล้ำปลุกเข็ญ ฯ
๑๑
๏ โอ้โฉมอรแอบอ้างอุดร ทวีปแฮ
พิมพ์ภักตร์จันทร์ภูลเพ็ญเพิ่มไว้
จะหาประเหลสมรเสมอนาฎ มีฤๅ
จากเปล่าใจข้นไข้ข่าวผอม ฯ
๑๒
๏ พวงมณฑามาศห้องหัดถา เรียมเอย
ขาดบ่ทันถนอมโฉมเฉกทิ้ง
ดุรดวงทิพยสุดาดุรแดก ทรวงพี่
ควรจะเกลือกกลิ้งเศร้าสั่งสาร ฯ
๑๓
๏ โฉมเจ้าจะแหวกฟ้าฝากพรหม เมศฤๅ
เกรงจะชมฌานเมิลแม่ไว้
จะฝากอิศรกรมไกรลาศ
ไฟราคร้อนหล้าไท้ทั่วแหนง ฯ
๑๔
๏ เลียบเล็งโลกธาตุสิ้นสรรพางค์
เจ็บฝากเจ็บแฝงฝืนใฝ่เฝ้า
คิดทั่วทิศานางแหนงพี่ วายเลย
โฉมแม่ฝากไว้เจ้าจึ่งคง ฯ
๑๕
๏ ร้อนรักเจียรจี่ขวั้นขวัญแด
เสนาะสั่งนิราศนงค์แน่งน้อง
ลีลองอุรุเวศแสสินธุซ่า
กระเหม่นหมุนเส้นท้องเท่าตาย ฯ
๑๖
๏ ลำแข่งถอนท่าดั้นดึงหน
ฟองฟ่องสายสินธุไหลหลั่งคว้าง
ขุกขืนกำลังพลพายยิ่ง แรงเอย
งงง่วงหิวหิ้วหร้างริรวน ฯ
๑๗
๏ บางหลวงคลองน้ำวิ่งวลวง
ขนานขนัดแพพวนเหนี่ยวหน่วงฝั้น
เสนอสนองบ่วงสามสงสารสุด สวาสดิ์ฤๅ
นานนิพันธ์หมั้นม้วยหมื่นปี ฯ
๑๘
๏ ศัลย์เสียวไป่หยุดเศร้าแสนสา หัศเอย
ล่วงลุวัดหงษ์ทวีเทวศซ้ำ
หวงหงษ์ประเหลหาเหมสระ สนามแม่
ว้าวุ่นท้องน้ำถ้ำถิ่นไศล ฯ
๑๙
๏ สนุกนิ์สนานสว่างสวะท้องธาริน แม่ฮา
ขุนทิชาฤๅไคลคลาศคล้อย
เชยช่อผกาสินธุ์สมสื่อ
โสรดสุคันธ์ไซ้สร้อยส่ายสนาน ฯ
๒๐
๏ สังขจายขจรชื่ออ้างอาราม
วงษ์ทวิชาชาญเชื่องหล้า
สังข์สรงสุร่ายพราหมณ์เพรงแม่น
ฤๅโสรดน้ำหน้าเศร้าเสื่อมสูญ ฯ
๒๑
๏ เช้านี้จะตั้งแว่นวางสินธุ์
สังข์สะภักตร์มุรธาท่ำเกล้า
จรุงร่ำรศสพินพานเกษ อรเอย
โอ้จะกลั้วกลิ่นเย้ยเย้ายั่วใคร ฯ
๒๒
๏ ฉับฉวยนาเวศผ้ายผาดถึง
ด่านบปรามปราไสเสาะค้น
ดาลรักร่นคำนึงในสวาดิ์
แขวงด่านด้นดื้อล้นโลภหวง ฯ
๒๓
๏ อนิจจาอนาถกล้ำกลืนศัลย์
สุรทิพย์สุราสรวงเสพส้อง
ในจิตรลดาวัลวายส่าง เลยแม่
เมาประมาณหม้ายน้องเนิ่นนาน ฯ
๒๔
๏ สาชลพฤกษพร่างขึ้นไขเสดิง
นองท่านองนางสนามสนั่นหล้าย
สายสินธุ์สำเริงฟองฟันฟาด ฝั่งเอย
นองย่านนางคล้ายคล้ายคลั่งไหล ฯ
๒๕
๏ มังกรเกยหาดแห้งหิวโหย
ทรหวลอรรณพในน่านกว้าง
เพ่งสินธุ์สำแดงโดยดำริห์
กลับเกลือกกลิ้งพื้นพ้างพ่างยาม ฯ
๒๖
๏ อาดาลอาหุดิ์ห้อมโหมสนาม
ไวยธึกพฤฒิพราหมณ์สรงโสรดเกล้า
ชีพ่อเบิกโขนทวารทวีเทวศ วายเลย
ลารูปพระเจ้าปั้นแปดมือ ฯ
๒๗
๏ อ้าองค์อิศเรศเร้นฤๅเห็น
วาลุกาปือปนปิดกลุ้ม
หากพระพิชิตเจรจาซาบ
วานซ่อนสมรคุ้มห้าแห่งงาม ฯ
๒๘
๏ งามเงื่อนสุวภาพสร้อยสาวโสม บูรณเอย
เศียรกระบือรบือนามแนะด้าว
ไฉนนุชลบฦๅโฉมเฉลิมโลกย์
เฉกเฉนงเสี่ยวไส้ย้าวยอกทรวง ฯ
๒๙
๏ อุรพางค์พิโยคอุ้มอาธร
คิดคำนึงพุ่มพวงพู่ฟ้า
ทุกทั่วทิศาจรเจียรจบ
ร่ำรำพรรณท้าถ้อยถี่แถลง ฯ
๓๐
๏ กรเกยผากซบส้างสารแถลง
เคืองโคกขามหึงหวลหื่นสร้อย
รหนรเหแรงรวนเร่
ชังถิ่นโคกน้อยลี้ลิบแสว ฯ
๓๑
๏ ด้าวใดเลยเถ่ห์พื้นภูมพิมพ์ ภาพเจ้า
ใครจะแยแสสูเศษเสี้ยว
เองอวดหมู่มชิมชนบท เถิดแฮ
กูใช่คู่เขี้ยวเคี้ยวเข็ดกราม ฯ
๓๒
๏ ขามขวยแขยงขยาดหลั้งลืมหลง
คลองมหาไชยสนามลิ่วลิ้ว
ตลิ่งตลอดตรงตรูแน่ว
จิตรพี่จงดิ้วด้วยดั่งพลู ฯ
๓๓
๏ เสร็จเศิกสมแคล่วได้แดนเวียง ทแวนา
ชมอนงค์ดนูนับร้อย
สารสัตย์ไป่เอนเอียงอายโอษฐ์ อ่อนเอย
ได้จะแลกน้ำอ้อยอึกเดียว ฯ
๓๔
๏ ไปหึงหนโหดสิ้นสาบยาว น้อยเลย
ถึงท่าจีนเสียงเกรียว เกริ่นบ้าน
สรวลเสพสุราฉาวโฉ่มี่
ผิดสำเนียงน้องจ้านเจ๊กจน ฯ
๓๕
๏ สาวสรวลรรี่แจ้วจับใจ พี่แม่
คือคิดศัพท์กาหลหกฟ้า
สุรางค์สุเรนทรไตรตรึงษ์แบ่ง ภาคย์ฤๅ
ทิพยธิดาหน้าท้าวท่านชิง ฯ
๓๖
๏ สายสินธุ์เอ่อแอ่งอุ้มอกเรือ
เร็วรี่กลศรยิงยุ่งแย้ง
บอกบ้านบ่อนาเกลือกลัวแสบ สรงนา
บ่อเนตรเค็มค้างแห้งโหดเห็น ฯ
๓๗
๏ อัศจรรย์ข้อนแขบให้โหยหิว
สรรพัดสรรพางค์เข็ญขุ่นแค้น
ภาคย์ทรวงพี่หวิวหวิวไหวหวาด
ดับดั่งจันทร์ม้วนแม้นมืดมล ฯ
๓๘
๏ เดินโดยคลองค้างขาดเขินสินธุ์
นามสุนัขหอนหนแห่งนั้น
ทำแฉะใช่นทินเทวิศ กูเอย
สองศุขชลเบื้องบั้นบุษป์มาลย์ ฯ
๓๙
๏ เวียรคอยวาริศตั้งตาคอย แม่ฮา
ริ้นเร่งยุงรำบานบอบช้ำ
ตบตีบราถอยทังเที่ยง คืนเอย
ปวดข่วนปากริ้นล้ำเล็บศรี ฯ
๔๐
๏ วังเวกใจว้าเหวี่ยงหวาดหวน
ลืมครแวงวีวายวัดแส้
ปิดภักตร์นิ่งกำสรวญสาจิตร แล้วฤๅ
พลางเพลียะเพลาแก้เกื้อก่ายหมอน ฯ
๔๑
๏ ราตรีพลิกบิดเบี้ยวบัวบุษป์ มาลย์เอย
เอนแอบบังคมนอนแนบเคล้น
หายเห็นประเหลนุชนอนเงื่อง งงง่วง
เทพจรตื่นเต้าเร้ารอบกาย ฯ
๔๒
๏ สายสมุทรสมรรถเนื่องน้ำนูนนอง
อรุณรังษีนสายส่างฟ้า
พาพยุห์เสด็จโดยคลองคลาคล่ำ
รุ่งแม่กลองแล้วอ้าอกเอย ฯ
๔๓
๏ โสรดภักตร์ที่ร่ำชื้นชลนา นาแม่
เว้นแว่นฉายเฉยผินแผ่นแก้ว
เปรียบปรุงละเหยหาหายนะ ไหนเล่า
รศสุมาลยแคล้วคลุ้มคลั่งครวญ ฯ
๔๔
๏ นางเอยโอทนต้มเตือนใจ
เคยกระยาหารหวนหื่นท้อง
เช้าตรู่พี่รำไรเรียกนุช นาแม่
มีแต่โคมเข้าข้องขัดแด ฯ
๔๕
๏ มุ่งเห็นเมืองสมุททั้งทิมชเล
หญิงหย่อนอวนปลาแออัดปล้ำ
จรหลาดเหล่าเรือเรรับช่วง
ปากแม่ค้าผ้ำผ้ำผาดเสียง แถมเสียง ฯ
๔๖
๏ อนาถณะหน่วงให้เห็นตาย นั่นแน่
ฉลามฉลากตีนลังเคียงคู่ม้วย
สงสารพี่สวิงสวายแสวงแค่ อ่อนเอย
แม้แม่ตายด้วยได้ดุจศรี ฯ
๔๗
๏ แม่กลองกลองแห่ก้องกินเสียง เสียฤๅ
พลโห่โหมเภรีเร่งส้าว
อกเรืออกเรียมเพียงพังคราก
ร้อนรักเคืองแค้นท้าวทุ่มทรวง ฯ
๔๘
๏ เบือนบังอรหลากสิ้นโศกี กูเลย
ไกลกลิ่นอวนอบดวงดอกช้อย
นาสากระสาศรีสารศ ปรางเอย
วันลวันร้อยมื้อแม่ฮา ฯ
๔๙
๏ รีบรัดโดยบทบั้นบรรหาญ
เห็นท่าอัมพวาพวงแน่งน้อง
คลองมอญท่านางสนานสนุกนิ์หน่วง จิตรเอย
หลากหลับเห็นจ้องจ้องจ่อใจ ฯ
๕๐
๏ เมินหมู่หมากม่วงพร้าวพรวนทราง
พลับลำไยลังสาดสะท้อน
มหาดมหวดปรางปริงเงาะ
ตูมตะโกกี้ค้อนขบขนุน ฯ
๕๑
๏ รฦกผลเพาะอ้วนอารมณ์ ราแม่
ดวงดรุณคราวครัดเคร่งเต้า
เถิบแถมยุพาชมเชยเชื่อง
พลางกรลอกเย้ายื้อยุคล ฯ
๕๒
๏ ลำบางบางช้างเนื่องนามสาร
ถนัดลำพองเยาวยลแยบเยื้อง
เกียดกลคชเทาคลานไคลตลิ่ง ลงเอย
ศุขสำผัสแห้งเหื้องหื่นใจ ฯ
๕๓
๏ ลามลวนโลภสิ่งเหล้นหลากหลาย เล่ห์แฮ
คือคชินทรฤๅไปปิดป้อง
คนึงพังคลั่งคลำพลายเพลงพาด
ไขว่คว่ายคว้าหญ้าต้องตำแย ฯ
๕๔
๏ บำรุบำราศเบื้องบำเรอ
ฤๅจะปรวนแปรใจจากแล้ว
แม้เสมอแม่ยังเสมอเหมือนที่ สั่งนา
ควรบำเรอเก้าแก้วแก่นาง ฯ
๕๕
๏ จันทน์จาวรศคลี่พ้นพรรณา
เกรงสุมาลย์หมางหมองหม่นคล้ำ
โกมลมิ่งมนัศาเสาวโรศ เรียมเอย
สุริยส่องแสงช้ำช้ำชอกหอม ฯ
๕๖
๏ เครงครัวกำโพชฤ้ๅรวมเชียง
รัชบุรินทร์ขอมพงษ์พวกไท้
ชาวแม่ใช่ชาวเวียงวังละ แวกฤๅ
ดูดั้งไฟไต้ไหม้หมกเขมา ฯ
๕๗
๏ โอ้ศรีสุริเยศแผ้วผิวทอง ทิพเอย
ใช่สุวรรณเขาโคค่าน้อย
ควรดวงวัชรินปองเป็นคู่ พี่แม่
ผลกล่ำหนักร้อยใช้ชั่งตลุม ฯ
๕๘
๏ บ่ายบ่ายสาวสู่ท้องทางถนน
ฉวางฉวัดกรกุมกันกอดเกี้ยว
สาวสบบ่วงมือคนคันเสน่ห์
เพียงภุชงคเลื้อยเลี้ยวไล่รึง ฯ
๕๙
๏ ผวนผิวหลายเล่ห์ถ้อถนิมเมือง
เมามี่ระทิงขานขับร้อง
สายาห์แยบชำเลืองลอบรับ ขวัญมิ่ง
ปทชู้ยิ้มต้องตื่นใจ ฯ
๖๐
๏ นำนึกอรขับโต้ตอบเพลง เพลียพี่
ศรีประสานศัพท์ใดดีดดิ้น
สุรางค์สุรบันเลงลองดั่ง คิดแม่
รี่เรื่อยนิ้วน้าวลิ้นลวดทอง ฯ
๖๑
๏ คิดเคยปานนี้นั่งในหอ เย็นเอย
อิงอ่านกาพย์โคลงสองสิบเก้า
หลางเตือนเพื่อนสาวสกอกวนพ่าย
ถ้อต่อแต้มแย้มเย้าแยบใน ฯ
๖๒
๏ แรมโรยแรงร่ายหิ้วหิวมา
ท่าราบรัญจวนใจจากจ้าน
คือล่วงรศปรีดาโดยเกลศ ไปเอย
ขู่ราบความอื้อบ้านเบื่อหู ฯ
๖๓
๏ คุงคืนประเวศห้องหายเหน เลยแม่
เล่ห์วิลาหนูหนีคาบคั้น
ปัดประอบทองแทนทำพี่ น้อยฤๅ
เหตุเพราะรักเจ้ารั้นร่านหึง ฯ
๖๔
๏ พลพายไล่ถี่เย้าโยนถอน แรงแฮ
ยลย่านเจ็ดเสมียนดึงดัดท้าง
อาดูรซึ่งอนุสรสรงโรธ ยังเลย
เสมียนจดเรื่องร้างน้องเหนื่อยใจ ฯ
๖๕
๏ เฝือดเฝือนสลดหน้าโฉดเฉาสา หัศแฮ
เยียวว่าตายเยียไรฤรู้
เทยาออกนัดยาไยยิ่ง วิงเล่า
แน่นิ่งนอนขว้ำสู้เสื่อหนัง ฯ
๖๖
๏ มาจ๊ามาเทิ้ญมิ่งไมตรี ตรังเอย
ถนำธึกอรบังหวนแห่งห้า
ช่วยชุบฤดีทีทันเทวศ ราเจ้า
แม้แม่มาช้าชู้ชวดเห็น ฯ
๖๗
๏ แสบโสตรโกรธเขตรบ้านบางแขยง
สงโครกคราวเคราะห์เป็นปะร้าย
อ่อนเอยไม่เคยแหนงนาแม่
ใครชื่อบ้างคล้ายเย้ยเยาะหญิง ฯ
๖๘
๏ ทุรโทษที่แก้แค้นเคืองใน นั้นเอย
ผี้ว่าจริงจำผันผิดเพี้ยน
ใช่ชายใช่วิไสยสังวาศ
เป็นแต่เพียงเสี้ยมเสี้ยนส่งหนาม ฯ
๖๙
๏ จากศรีไกรลาศล้ำลำยอง
พักท่าโพธารามร่มน้อน
เพียงพบพระโพทองเทเวศ
หาพระโฆษอ้อนอู้มแอบพินธุ์ ฯ
๗๐
๏ สวงสรบสุเรศไม้มณเฑียร
คืออรินทรนรินทร์เรื่องร้าง
ขอคืนนุชนุเจียรจงโปรด เทิญพ่อ
โดยบุรินทร์ส้างเศร้าสอบเสนอ ฯ
๗๑
๏ โศกสิบศิโรดร้างแรมศรี
เล็งทัขอาทรเธอเท่าฟ้า
เสียสุนทรเทพีพาลิศ
ทันท่านคืนน้องช้าช่องสม ฯ
๗๒
๏ ผยองยานมานิศแก้วเกือกทรง
สีหเรศนำเสวยรมณ์ร่วมไท้
คาวีธิดาจงใจราช ราพ่อ
วายชีพแล้วได้ด้วยดั่งฤๅ ฯ
๗๓
๏ สองสรวงสุรอาจอ้างอาไศรย
ยังอสุรภพฦๅลั่นก้อง
อุ้มองค์วธูไทยทวนฟาก ฟ้าเอย
เจียรนุจรห้องแก้วก่ำแสง ฯ
๗๔
๏ ชิวหาทองไท้พรากไพรสณฑ์
ตายเท่าเปนฤๅแรงรักม้วย
เถลิงหลังดรุงครณแรงเดช
สมพระนุชด้วยห้าวหักหาญ ฯ
๗๕
๏ เพรงพรัดนาเรศเจ้าจอมเมือง
คืนแท่นมณฑารชมชื่อสิ้น
ศุขสองเปล่าใจเคืองคอยแม่ แคล้วแม่
อายุศม์ยังถ้าหวิ้นแหว่งวัน ฯ
๗๖
๏ พระพฤกษ์สุรแด่เบื้องบรำบรา มาเอย
ฤๅจะรับบันเทาทุกข์ไส้
เพียงโพนิโครธาเทวศักดิ์
นำนิโทท้าวไท้ที่นงค์ ฯ
๗๗
๏ ทูลถามอารักษ์อั้นอมเออ
ใบบไหวปานธงทบม้วน
ไปรับธุรเลยเฌอชังแม่ กมังนา
บุญพี่บุญน้องด้วนเด็จขวัญ ฯ
๗๘
๏ สำออยร่ำแล่เนื้อในใจ
โดยดำบลเขตรขันขุ่นแค้น
รังวานช่วยวานไคลคลาพ่อ
แจ้งข่าวเทพอ้อนแอ้นอ่ำอึง ฯ
๗๙
๏ หวังวานวานบ่ได้โดยวาน
กรกระทุ่มทรวงผึงแผ่ขว้ำ
อุระทับที่เสื่อสานสองเพลาะ
แถกไถลดิ้นปล้ำเปลี่ยวแด ฯ
๘๐
๏ รัถยาฉะเภาะยั้งยังหลาย หลับเอย
ไปละลุแกผันแผ่นพ้าง
เสมอลุอำนาจสายสมรลบ หลู่พี่
ในที่ลับเอื้อมอ้างอวดตน ฯ
๘๑
๏ หิวโหยอรรณพฤ้ๅแรงพฤนธ์
เข็ญข่มเรี่ยวเหียนหนหาดแห้ง
กลกวนร่วมกามินเมาสู่ สมเจ้า
แรงพี่ม้วยด้วยแล้งไล่ฝน ฯ
๘๒
๏ เถมินทางยางหมู่ล้วนลำเสลา
ใบบดแสงสุริยนยื่นย้อย
นวลพิมพ์ภักตร์นงเยาว์ยามเที่ยง
บังม่านชม้อยช้อยหน้าหนึ่งแข ฯ
๘๓
๏ คนค้อนอรเบี่ยงแย้มแยบสรวล
ไนยนิลาลาญแดเดือดดิ้น
กายกรอ่อนนวยนวลนาดฉับ
ปลุกฤดีสิ้นห้าแห่งไหว ฯ
๘๔
๏ ไปจอดทอดทับเว้นวังทอง
ถวิลหวั่นพรั่นแปรใจจากไท้
ออกนางรับทูลสนองเสนอราช โปรดแม่
ชางเพื่อนวังไจ้ไจ้จับขวัญ ฯ
๘๕
๏ สนิทสนมวิลาศล้อมลำเภา พี่เอย
อาบอบคันธโสรมสุงสอ้าน
ฉลองโอษฐ์เร่งนงเยาว์ยังเวศ พี่นา
นางชแม่เถ้าค้านคาทูล ฯ
๘๖
๏ ปลาดทุเรศได้เดียวดู ดั่งฤๅ
ระยะย่านหวายเหนียวอูนอกว้า
คือเทกล่องงูเฉนงเฉนงหลอก หยอกแม่
หวายหวีดหวาดสดุ้งคว้าคว่ายเขว ฯ
๘๗
๏ โจมจูบตรบอกแก้มแกมปราง ทองเอย
รวยรื่นคันธเตลาลูบไล้
ปานกลิ่นสุรางค์สรวงสมคู่ ทิพย์นา
ยามเมื่อวันได้กล้ำกลิ่นฉม ฯ
๘๘
๏ ท่าพระแท่นท้างสู่สาชล
เสริญเดชพระพุทธคุณชมชื่นช้อย
สิโนทกอวยผลผันโทษ ที่แม่
กองกุศลเก้าย้อยหยัดสินธุ์ ฯ
๘๙
๏ ออกญาออกโอษฐ์อ้อนอาไศรย สัตว์เอย
องค์อนันทชินบรบาปบี้
เสร็จสู่สิวาไลยฦๅเดช
คุณพุทธคุณเจ้าชี้ชอบสมร ฯ
๙๐
๏ สายาห์วาเรศเลี้ยวลดลง สมุทแฮ
หลั่งหลั่งสินธุคลอนคลอนตกใต้
สุริยงก็อัษฎงค์เดินเรี่ย ป่าเอย
หมู่วิหคเข้าไม้มุ่งรัง ฯ
๙๑
๏ ขามข่อยคัดเค้าเงี่ยเงานอน
นางมฤคเล็มซังซอกหญ้า
สารโสงคณาจรจำเถื่อน
ยามสุริยคล้อยคล้ำหล้าหล่อแสง ฯ
๙๒
๏ โหงคนองคนึงเพื่อนเพ้อพึมเสียง
ไม้พาดทรอแซมแขนงขนอบร้อง
น้ำฟ้าประปรายเกลียงคลายคลี่
เสียงสกุณกู่ก้องกาจดง ฯ
๙๓
๏ บัดนอนนั่งมี่ให้โหเห
ขุกคิดเกษหลงโจมจูบแล้
ก่นกอดเข่าโลเลลำบาก
บัดโศกบัดยิ้มแก้ก่ำสรวญ ฯ
๙๔
๏ ฟ้าดึกดัดจากหั้นเห็นหน แห่งฤๅ
ไปปะแสนตอทวนทอดต้อง
เรือเกลือกกลอกวนวนเวียนติด ตอเอย
ขยาดจะคร่อมคร้ามจ้องจ่อทรวง ฯ
๙๕
๏ อ้าโฉมมิ่งมิตรสร้อยเสาวมาลย์
ยามภมรเมียงพวงภู่ฟ้า
รอร่อนรื่นรศบานบัวมาศ
ในเซาะเซิ้งซุ้มหญ้าหย่อมหยอง ฯ
๙๖
๏ สนุกนิ์ทิพยาวาศเจ้าจอมไตร ตรึวษ์ฤๅ
ศุขปานปองเผยผาดค้น
ใช่ชาญวิทธิวิสัยสมเสน่ห์ หนุ่มแม่
ดูกระไดน้องด้นดัดหา ฯ
==== ====
๙๗
๏ แสนสงวนหลายเล่ห์น้องนานนงค์ ไกลพี่
สบสำรองสมญาย่านนั้น
สำเริงสำรองสรง สินธุ์เสร็จ
ในที่บังเบื้องบั้นแบ่งสอง ฯ
๙๘
๏ ชักชายชูเชิดช้อนเชยชม
หลายครู่หลายคราวปองไป่แล้ว
หึงหายระหวยสมไสยาศน์
ยากพบดิ้นด้าวแคล้วคลาศศรี ฯ
๙๙
๏ พิศวงพิศวาสดิ์ขวั้นขวัญหาย
เห็นม่วงชุมชายทวีเทวศน้อง
มีดทองปอกสวายสายสวาสดิ์ติด มาฤๅ
เบิกหับเห็นแล้วร้องร่านรน ฯ
๑๐๐
๏ กรกุมกรรบิดจ้องจดสอ ไว้เอย
โมหหวงยุยงชนม์ชอกม้วย
สติติเตียนขอคงชีพ
พิสวาสตื่นเข้าห้วยหุบไศล ฯ
๑๐๑
๏ พิโยคบ้านถ้ำหีบหุบเขา
คิดคู่คูหาใจเจ็บช้ำ
คชสีหคชมึนเมามันผับ
หลงวาสทางถ้ำดิ้นเดือดแทง ฯ
๑๐๒
๏ อาสูรอาภัพสร้อยสงสาร
แรมยิ่งจันทร์สายแสงส่างเศร้า
ขัดคืนมิ่งมณฑารทันมาก รักเอย
ใช่ภุชงค์ช้าเถ้าถอดหนัง ฯ
๑๐๓
๏ ปากแพรกสามปากก้องโกยสินธุ์
ถามข่าวถึงเยาวยังอยู่ได้
อมเออวัจนยินไยพ่อ กูนา
ปากบ่มีลิ้นใบ้บอกศรี ฯ
๑๐๔
๏ อ่อโอษฐอรร่อพร้องพรายแสง ทนต์แม่
เลิศลบนิลวารีร่วงรุ้ง
วาวชิรผลแตงเติมหนุ่ม เนตรฤๅ
ดูดั่งน้ำกุ้งเต้นตื่นแห ฯ
๑๐๕
๏ ถึงท่ากระทุ่มทิ้งทอดตน ลงเอย
ดวงสุมาลีแลลิ่วลิ้ว
เรียงเรียบรเบียบกลเกษนาฎ กูนา
เหมือนแม่กรีดนิ้วน้องเนื่องสอย ฯ
๑๐๖
๏ อวลอบสอาดเหล้าเกลาใจ พี่แม่
เซนซ่านปีกเปิดลอยเล่ห์ปั้น
เจิมจับกระเหม่าไรรุรอบ
กลมประเหน็จนั้นล้ำลวดทอง ฯ
๑๐๗
๏ ชาวเขาปูนลอบล้อลวงกู ได้ฤๅ
เผาปากปานไพพองพิษกล้า
กำโบนอ่อนเอยสูสุดเครี่ยว โอษฐแม่
เพียงภุกามน้ำจ้าจัดแสง ฯ
๑๐๘
๏ ยลย่ามเยาวเกี่ยวก้านแกมใบ เทศเอย
หลากมลูแซงซองสูบม้วน
มือแม่กระไดตัดตองปก ปิดให้
พวกที่ไปรู้ถ้วนถี่ถึง ฯ
๑๐๙
๏ ข้ามเขาน้ำตกตั้งเติมดูร แดนา
แสนโศกอุรรุมรึงรีบร้น
อาบอสุชลนูนนาเรศ เรียมเอย
น้ำเนตรตกล้ำล้นเล่ห์ผา ฯ
๑๑๐
๏ เลงทักขทุรเวศแล้วเล็งดอย ดงนา
ไปเปรียบอุรอาวรณ์หวั่นเศร้า
มหาสุเนรุสอยสรวงทัด
ทันเทาทุรร้างเหน้าหนุ่มกู ฯ
๑๑๑
๏ กีดแก่งหลวงขัดขั้นเขินขวาง แม่น้ำ
ทดชโลธรหิวหูหึ่งก้อง
ถนัดสั่งนิราศนางเนืองส่ง เรือพี่
............................
๑๑๒
๏ หวังวันยาตรฟ้าล่งแลสมร
ผิวภักตร์ดำเพียงเขมาโขมดเข้า
บอกเหตุบอกลางจรจำเลื่อน เรือเอย
ฤๅไป่คืนเหย้าแล้วหลากหนอ ฯ
๑๑๓
๏ ถับถึงบ้านกล้วยเกลื่อนกลางผล
แสนเสน่ห์โหดหายกอเกิดเกื้อ
ไฉนโฉมมิ่งนิฤมลหมั้นแม่น แล้วฤๅ
กัทลีแม้นม้วยเนื้อหน่อแทน ฯ
๑๑๔
๏ เสริฐศรีไวยแว่นนวลแข
เสนอนาฏอมรแมนมิ่งหล้า
อย่าชายสุดาแลลาญเนตร
นอนมเมอคว้าหน้าหนุ่มนาง ฯ
๑๑๕
๏ สู่ศาลเทเวศไหว้วอนสรวง
อารักษ์อาราธนพลางเสี่ยงซ้อม
เทียนเงินแม่ดวงเทียมเทียนมาศ พี่นา
เทียนพี่เทียนน้องอ้อมอับแสง ฯ
๑๑๖
๏ เบิ่งเทียนปลาดไส้สมสัจ จาเอย
ประฏกแหนงหนอฉะใช่น้อย
รอยเวรวิบัติพรัดแพรงพราก
คู่นกม้วยหน้าจ้อยจิบเมีย ฯ
๑๑๗
๏ หวั่นหวั่นประจากเบื้องบุรพเห็น
เยียวสงครามเสียเศิกกล้า
แม้พี่เอญเป็นปานเสี่ยง อ่อนเอย
โฉมจะดูหน้าไข้ขัดขืน ฯ
๑๑๘
๏ อ้าอารักษ์เบี่ยงให้เห็นไภย พ่อฮา
กูชุลีภูมผืนแผ่นพ้าง
แม้นพิสุราไลยลงค่ำ นี้เอย
ฝากแม่ไว้เกื้อสร้าง สืบบุญ ฯ
๑๑๙
๏ พระเอยจะร่ำสู้สุชล
เอจโอ่งเสนอสนองคุณค่าคุ้ม
ถวายสรงบลยุคลของสิ่ง ใดให้
ขอแต่ผืนผ้าหุ้มห่มหนาว ฯ
๑๒๐
๏ ลาเจ้าจากตลิ่งฤ้ๅรีบพาย
ชาวพ่อโหมโห่ฉาวฉากน้ำ
แดเดี่ยวบ่เสบยสบายเบาใฝ่ ถึงแม่
ยานที่จะช่วยปล้ำเปลื้องปลิดดูร ฯ
๑๒๑
๏ โดยดำบลไร่ส้างไสเสมา
เสมาแฝกเนินนูนคาโคกหญ้า
เคยยลยอดเกลียงเกลากลางย่าน
อ่อนยิ่งเสมานี้ช้าชุ่มงาม ฯ
๑๒๒
๏ รัญจวนใจง่านดิ้นเดินผลู
อุรเล่ห์สาลีหลามลวกแล้ว
ทุกย่านนทีดูดูรดับ ลงฤๅ
ไฟรักพลุ่งโพลงแผ้วผ่าวเผา ฯ
๑๒๓
๏ สุนธุ์สองคลองคลับคล้ายแคลงไคล คลาเอย
สนิทเสน่ห์นุชนานเนาแนบน้อง
เกรงเกลือกจะแปรใจจรสู่ อื่นเจ้า
ปานประหนึ่งท้องน้ำน่านสอง ฯ
๑๒๔
๏ ไกลกลอยใจอยู่ด้วยดงหนาม
ใครเชื่องใครชาญปองไป่รู้
คือขวานสุเนรามรอนผ่า สินธุ์เอย
สุดสำคัญบี้บู้บาดแผล ฯ
๑๒๕
๏ ดลเดิงหมึกฝ่าหม้ายหมองหมาย
รณรงค์แรมแขขวบช้า
สักกรจะสักกายกวนเทวศ พี่แม่
หมึกจะพาแผ้วหน้านุชเขมา ฯ
๑๒๖
๏ สงวนวงษ์เหมเรศไท้ธาดา ท่านฤๅ
ทรงอาศน์ทิพยเนาสรวงเสริฐสิ้น
หวั่นพาลพนาจรโจมจู่ ดักเอย
หงษ์ไป่รู้ดิ้นเข้าข่ายรึง ฯ
๑๒๗
๏ แก่งไผ่ไผ่ลู่ล้มลมพาน
เพลงพาทย์ศัพท์สำนึงเสนาะไม้
เฉกเสียงนุชบันสารสังคีต
ครวญชวาช้าไห้เหิ่มนอน ฯ
๑๒๘
๏ นวลนิ้วอรกรีดย้ำเยียทรอ หลายเล่ห์
พลางชำเลืองงอนในเนื่องซ้อม
เกี่ยวตาพี่คือขอคชตก มันเอย
อังกุษเนตรน้อมน้าวหน่างใจ ฯ
๑๒๙
๏ ถานถ้ำตาหยกพื้นภูมิภู ผาแฮ
สมถิ่นสมอาไศรยสื่อเถ้า
ชามเชิงกระยาคูคือดั่ง หยกฤๅ
สาวใส่เข้าเข้าไว้วาบแสง ฯ
๑๓๐
๏ รฦกนวลลอยหน้านั่งแนบพาน โภชนแฮ
คอยควีวันแลงไล่ต้อน
บ่อยบอกรศาหารหาทิพย์ ให้พี่
อร่อยรศร้อนร้อนรวกเผา ฯ
๑๓๑
๏ รุมสุมรุมร้อนรีบแรงสา หัศแฮ
ภูมพิโยคเพรางายง่านเกรี้ยว
เพียงปานทพาธิกทำโทษ
ปองชีพิตรแข้นเขี้ยวเคียดคม ฯ
๑๓๒
๏ ลำเค็ญมาโนชแค้นคาเคือง
ทุกย่านรัถยารุมริร้าง
อัศสวาดินิดสวาดิเนืองนองโศก หลับเล่า
ฝันบวายเว้นหว้างหลากเหลือ ฯ
๑๓๓
๏ เมื้อเมืองไทรโยคไร้ราษฎร
บ้านป่าคาแขมเฝือแฝกอ้อ
คิดไชยชำนะสมรเสมอคู่ แพ้คู่
คือบุเรศหง้นหง้อเงียบเหงา ฯ
๑๓๔
๏ เมามึนมันไส้สู่สมศรี
ยามลเบงบุษปเยาว์เยิ่นย้าย
เนืองนิทรราตรีตรุดเสน่ห์
ยังไป่ยอมแพ้ผ้ายเผ่นเผยอ ฯ
๑๓๕
๏ อักอ่วนอุรว้าเหว่เหวยไศล
สุนัขภากวางเสนอถิ่นท้าง
มฤควายชีพเปื่อยไปเป็นรูป ผาฤๅ
กูจะม้วยชิ้นส้างสืบแสลง ฯ
๑๓๖
๏ ฉะฉะจะลูบก้อนกำเดา ไปแฮ
เจ็บจิตรเจ็บเสน่ห์แซงแซบไซ้
เจ็บเบื้องบาทบวมเพลาเพลี่ยงพลาด
พอจะจดจ้องให้หาบหาม ฯ
๑๓๗
๏ แสนยากสามารถแท้ทนมา
อุ้มขมิหมายสนามธารท่าได้
ถวิลวันไป่เดียงสาสมสู่
เรียมตระกองน้องไว้หว่างขนน ฯ
๑๓๘
๏ บันทับอุรคู่เต้าเต็มดวง แดเอย
คือคชทนต์ค่อมทนต์ทอกท้น
น่าหนักเหนื่อยทรวงขวัญแขวนอก อยู่แม่
ปลายทับทิมน้ำพ้นพุกาม ฯ
๑๓๙
๏ รอนแรมไปตกด้าวแดนพลู
เศขรกินนางงามเนื่องพร้อง
ควรอมวธูเชยชมชอบ
ยามคนึงน้องอ้าโอบถนอม ฯ
๑๔๐
๏ ปืนกามจะลอบล้างลำเพ็ญ พี่ฤๅ
ฤๅจะตรอมผอมผิวเผือดม้วย
เสร็จเศิกจะคืนเห็นโหยซาก เกลศเอย
เรียมจะม้วยด้วยเหน้าหนุ่มเหนอ ฯ
๑๔๑
๏ ผ่านพนมซ่อนชู้จากใจหาย
หลากปลาศอำเภอพวกพ้อง
อ่อนเอยจะซ่อนชายชมเช่น เขาฤๅ
ยากจะปิดป้องหมั้นแม่แฮ ฯ
๑๔๒
๏ คะมาคะเม่นอั้นอำอึง อ่อนเอย
แม้สุเนรุบุบแบบเบี่ยงล้ม
ทับทรวงพี่ตูมตึงตายกลับ เกิดหน้า
เจ็บไป่ปานส้มไส้ส่งหนอง ฯ
๑๔๓
๏ หวนหนหกหลับถ้วนถับวาร
ม่แม่น้ำน้อยนองน่านกว้าง
ทองธารนทีสนานสนามอ่าง แก้วเอย
นองฤขุ่นข้นท้างท่าสินธุ์ ฯ
๑๔๔
๏ อรรณพชลคว่างคว้างควิวแคว น้ำนา
ตรือตฤบธวรินโปรยปรูดปรุ้ย
ผกโผผุดขวีแขวขวางขนด
กางกระโดงฉุ้ยชี้เช่นคน ฯ
๑๔๕
๏ กริมกรายกากดสร้อยซิวเสือ
เบือนบู่ปูปนเพียนภาบน้ำ
สลิดสลาดหลดไหลเขือคโฮ่
ดุกชะโดแก้มช้ำซ่อนหมอ ฯ
๑๔๖
๏ เนื้ออ่อนทรายโม่อ้วนอุบแมง ภู่แฮ
หางไก่ชวาดใบปอปักเป้า
นวลจันทร์จับชแวงหวีเกษ
กระดี่ฝักพร้าเค้าคุดสวาย ฯ
๑๔๗
๏ คิดเคยประเวศพื้นแพขนาน นางเอย
ชมหมู่มัศยาหลายเหล่าอ้าง
อาทวามิ่งมลมาลย์มามาศ กูนา
นุชอยู่ไหนแคว้งคว้างไขว่ฉงน ฯ
๑๔๘
๏ ขษีดิษสุรราชยั้งโยธา
แออัดเสนีพลเพียบเฝ้า
เถลิงอาศน์พระพลาไชยชมหมู่ หารท่าน
เพียงพหลห้อมเจ้าจักรี ฯ
             
ร่าย
๏ กฤณนั้นบั้นนฤบดีศรีสยมบรมนารถ
ราชรพีพงษ์ทรงบวรภูสิตจิตรลดาดวงพวงสุวรรณร้อย
สร้อยสังวาลกาญจนมกุฎอุตมาวุทธเศิก
ฤกษ์รวิวรจรแจ่มฟ้าหน้าอำพรผ่องคล่องมารุตนาสี
ลีลาศอาศน์โกรยกุญชะระปรัดเปรื่องแฮ
โหมโห่พาทย์ท้องก้องกึกแดน ฯ
             
๑๔๙
๏ คเชนทร์จักรพรรดิ์ครั้นครวญมัน
สารส่ำงางอนแหงนเงือดฟ้า
ประดับรัตนสุวรรณวาววาบ
เริงร่านแหร่นร้องจ้าเจิดเสียง ฯ
             
ร่าย
๏ แวงวังเรียงเคียงข้างสารหาญในนอกหอกคอคำ
นำเสด็จแห่แต่ละกรมสมศักดิ์นามงามอ้อนแอ้น
แม้นวางไหนไปได้คล่องว่องเศิกเสริฐเกิดกอบบุญ
ปุนปองอ้างช้างน้ำอ้อยร้อยหนึ่งสู้หลู้คนหมื่น
รื่นรานรณพลจุตุยุทธ์ธุชทวนทองนองคับคั่ง
ดั่งแขมเลาเสลาท้องท่งส่งเสียงเท้าเย้าใจเศิก
เอิกเกริกภพจบแดนดื่นคลื่นพยุหแสนยายานราช ทรงเอย
หวังทแวพรั่งพร้อมเข้าเขตร์บร ฯ
             
๑๕๐
๏ โสดสารพาหนเยื้องยังดง แดนแฮ
คือสมิทกุญชรเชื่องใช้
ปางศึกสำหรับองค์อินทรขี่
ปราบอสูรพื้นใต้ต่ำเมรุ ฯ
๑๕๑
๏ เสนาพายุย้ายยาตรพล
ดาดเครื่องสุรเจรหาญแหกหุ้ม
สพายดาบดำกลกำซาบ
ออกกระลึงเง้างุ้มง่ารำ ฯ
๑๕๒
๏ พิริยพาหนท้าว...
สรวมใส่สรนำตรี...
บ่าแบกสินาศขนาน...
ออกชมับอวดกล้าล้าง...
๑๕๓
๏ ดับนั้นโอรสพ้องภาคี ไนยนา
ทัพละทัพเผินผุยแผ่นด้าว
คือขันธบุตร์ศุลีฦๅเดช
พลกุมารท้าวกว้างกว่าไศล ฯ
๑๕๔
๏ พันหน้าหมื่นหน้าชื่นชมแสน หน้าเอย
ตนพี่เดียวไป่ชมชื่นด้วย
เดินพลางพี่พลางแขวนขวัญฝาก ปากร่ำ
นบประกาศห้วยห้องหุบเขา ฯ
๑๕๕
๏ มาเทิญปู่เจ้าจุกเจ็บโอย โอยท่าน
หลันอย่าทันเราเยินยึดหน้า
................................
เวรบมีล้างข้าขาดกัน ฯ
๑๕๖
๏ ไปรับสงเคราะห์ได้โดยคำ ขยมเลย
ทุกละเมาะภูมพันพุ่มพื้น
อารักษ์รักคำ............. ........
................................
๑๕๗
๏เหนี่ยวชงฆ์ย่างสท้อยถอนใจ หือแฮ
เกินกำลังหวิวหวิวหวั่นก้าว
ออกยาจะกุมไดเดินต่าง ไหล่แม่
เคยพยุงน้าวเนื้อหนุ่มถนอม ฯ
๑๕๘
๏ ลดชงฆ์ลงนั่งเล้าโลมสอน สวาสดิ์นา
เมิลเถิดนะใจตรอมตรากเศร้า
ใจเอยเมื่อใจวอนเวียนว่าย ฟังฤๅ
ห้ามเท่าห้ามเฝ้าข้อนขอดศัลย์ ฯ
๑๕๙
๏ เถมินพลพาพยู่ห์เต้าตามผา โตรกเอย
คั่งทัพหมื่นแสนพันเพียบพื้น
คั่งคชคั่งอัศวาวัวต่าง
อุรดั่งฤๅฤ้ๅฟื้น      ใฝ่ถึง ฯ
๑๖๐
๏ เลิงพนมสูงส่งโพ้นภาโณ มาศเออ
สุรส่องแสงผิงผาผ่องแผ้ว
ทัดทองแท่งเขาโคคำร่อน โรยเอย
ยับยับแสงพร้อยแพร้วพร่างไศล ฯ
๑๖๑
๏ เพิงพื้นคูหาศห้องหนเหว
ทดท่อวารินไหวหวั่นเต้น
ขันแข่งดุรงค์เรวรัวย่าง น้อยนา
คิดจะชวนน้องเหล้นหลั่งสนาน ฯ
๑๖๒
๏ เชิงเขาตีนตกตั้งตามเดือน ตกแฮ
ลาดลื่นชานเศลาลดเลี้ยว
รุกขารหงเรือนเรียวรุ่น
พายุโพนย้ายเกี้ยวกิ่งกัน ฯ
๑๖๓
๏ โสกสักรังรักขล้อขลายเขลง
ประดู่ชิงชันซึกซากงิ้ว
ยางยูงพยอมเต็งตายกร่อน
หักรหุยห้อยดิ้วดาษแดน ฯ
๑๖๔
๏ แข่งเขียวขาบขั้นขนทอง
หางหกหัวพึงแพนแผ่เคล้า
โมรีร่านกวนกองกามเสน่ห์
ขวานแขวกแขกเต้าเต้าตื่นคน ฯ
๑๖๕
๏ สลาบสลับเหลืองเลื่อมล้ำลายหาง หว้าเอย
แววที่วิมลหลวงแว่นแก้ว
บินชมร่มรังยางยาบยาบ
กดไก่เขาขันแล้วเล่นลม ฯ
๑๖๖
๏ อสุรีราเมศไท้ทิชา นี้ฤๅ
จึ่งกระลึงขวานคมค่อนไม้
กะทาทัดคธาธรสี่ ศอกแฮ
ทะกะทาไต้ต้องแตกฉาน ฯ
๑๖๗
๏ นกหกหัวหกห้อยเหียนหัน
หมื่นเหาะหัดห่อนชาญเช่นนี้
ขุนแผนแผ่นจับวัลวายชีพ ลงฤๅ
แก้วฤๅแก้วชู้ชี้ชาติเพรง ฯ
๑๖๘
๏ หม้ายหมู่นางสัตว์โอ้โอยเสียง
เมื่อรเมงยูงโยนย่างทิ้ง
เอียงตนตแคงเคียงคอนร่าย
เลียลูบน้ำค้างกลิ้งกลอกไหล ฯ
๑๖๙
๏ สาวสวาแมกไม้มุ่งหมายทาง
ถึกถโมนไพรเหลียวหลิ่วคิ้ว
เมียงมองย่องเฟ็ดหางหันหก ทับแฮ
หนุ่มบ่ชาญเกรี้ยวกริ้วโกรธเขย็ง ฯ
๑๗๐
๏ เนินคาท่งป่าล้อมล้อมเสมา
เขียวละบัดไซเซ็งซ่านเลื้อย
แหนหนองป่องหล่มเลาลำล่อน
เหมืองละมานเฟื้อยอ้ออ่อนแขนง ฯ
๑๗๑
๏ กาษรสุรโดดดั้นเดินดง
กำเลาะกำลังแรงร่านร้าย
ขวิดเสี่ยวศิขรผงผุยผ่า
เปนประกายฟุ้งคล้ายคลอกแขม ฯ
๑๗๒
๏ พยัคฆ์โจมจับมฤคพลิ้วพลิกกาย ลงแฮ
เปล่งปลาบแสงตาแพลมพลุ่งย้อย
คม่ำคำรามทรายคอนโลด
ถอนถีบสี่เท้าคล้อยคลาศหาง ฯ
๑๗๓
๏ แรดไฟเฟ็ดเขี้ยวแสยะสยาดแสยง
คือจรีกางสามเสมดสู้
แรดร้องประจากแปลงปลักฝุ่น
โถมแถกล้มไม้หลู้หลากผลา ฯ
๑๗๔
๏ รอนรอนมูลเมฆเงื้อมเงาฉลัว
แสงรเศียรสุริยคลาคล่าวคล้ำ
กิริณีชรหึงรัวรวนพวก
โพนประพาศน้ำหญ้าหย่อมเขียว ฯ
๑๗๕
๏ น้อยน้อยถลันท้องวิ่งวงโขลง
สาวสกอเพรียวเพรียวเพริดสดุ้ง
พลัดแม่ระเสริดโสรงสวนโยด
จบกลิ่นฟาดงวงพลุ้งพล่านเสียง ฯ
๑๗๖
๏ โคดสารมันชุ่มแก้มกันฝูง
ดุเดือดดื่มเปรียงแปร๋ไล่ล้าง
รำงาโค่นคัดยูงโยนเล่น
แหนสัตวแคว้งคว้างคลุ้มคลั่งแทง ฯ
๑๗๗
๏ เนืองชมไปคล้ายชื่นชมสมร แม่เลย
แต่กระแสงทนต์พรายพร่างแพร้ว
ยิ่งชมวนาดรแดนเถื่อน นี้นา
ยากอวดงามล้ำแก้วเกิดไศล ฯ
๑๗๘
๏ ร่ำรายรัถเยศสิ้นสพสรร พางค์เอย
ฤๅแล่เจ้ายาใจจะรู้
ชลเนตรเช่นชลกัลป์กองแผ่น ดินแฮ
ใครจะวิดแก้กู้พี่นา ฯ
๑๗๙
๏ เวรใดผูกผิดแก้วกับตน กูเอย
สองจึ่งอาดูรยืนย่านนี้
พระเอยช่วยผันผลผิดผ่อน
งดจะใช้หนี้หน้าณเวร ฯ
๑๘๐
๏ อาทิเยาวราชร้างแรมสมร
สามพ่อปรีชาเจนจัดล้ำ
ทุกข์ทวาทศมาศจรเจ็บเสน่ห์ ราแม่
ยังไป่ปานชู้ช้ำชอกใจ ฯ
๑๘๑
๏ กำสรวญสาคเรศสร้อยสารศรี ปราชแฮ
เจียรนุจรนุชไกลกลิ่นชู้
จุรบารมิ่งสวัสดีเดียวแน่ว อ่อนเอย
ตรังกระศัลยสู้เศร้าสุดตรอม ฯ
๑๘๒
๏ สารนี้สายสวาสดิเจ้าจงสงวน ไว้แม่
แทนพี่แทนถนอมองค์แอบพร้อง
ไป่ควรแม่อย่าควรคำพี่ เพรงเลย
เช้าค่ำเพื่อนห้องน้องณศรี ฯ
๑๘๓
๏ เอกเจ็ดโทสี่แจ้งจดหมาย คณแฮ
แบบบาทกุญชรมีแม่นไม้
วิวิธมาลีกลายกลอนเอก รับนา
ไม้สิบเอ็ดพร้อมใช้ชื่อโคลง ฯ
๑๘๔
๏ แม้สำมนิเกกแก้วกันดา ไปเอย
ใช่จะอาจอวดโกงก่อส้าง
โปรดเถิดหมู่เมธาธรรมชาติ
อย่างวังกีดข้องข้างเคียดคำ ฯ
๑๘๕
๏ ขยมขยาดนิราศร้างแรมสมร
ความไป่มีนำโยงย่านสั้น
โศกแสลงสิ่งเดียวรอญราญสวาสดิ์
อกจะแตกด้วยดั้นดื่มหู ฯ
๑๘๖
๏ กรุงศรีธรรมราชหม้ายเมธี พ่อฮา
แสวงอยุทธยาขูคู่พร้อง
เฉลิมบาทนฤบดีโดยเสด็จ เศิกแฮ
นิราศเรื่องพ้องหน้าณรงค์ ฯ
๑๘๗
๏ ร้อยแปดสิบเจ็ดสิ้นเสร็จสาร โคลงนา
คิดคำกาพยคงสามสิบห้า
คันโลงขาดสองสถานโทที่ ส่งแฮ
สองอักษรข้าพลั้งพลาดเคียง ฯ
๑๘๘
๏ ธิรางค์รู้ถี่ถ้วนถาวร ยิ่งเอย
โทขาดเชิญช่วยเรียงเรียบร้อย
ถอนแถมที่อักษรเสียคู่ คือพ่อ
เจิมกระแจะให้น้อยหนึ่งเหนอ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

เครื่องมือส่วนตัว