โคลงทวาทศมาส

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '<tpoem> ๑ ศรีสวัสดิ์กมลาสล้ำ เลอสรวง พูลภิรมย์นาภี ส…')
แถว 1: แถว 1:
 +
[[หมวดหมู่:วรรณคดีไทย]]
 +
[[หมวดหมู่:วรรณคดีอยุธยา]]
 +
[[หมวดหมู่:โคลง]]
 +
'''ผู้แต่ง:''' ไม่ปรากฏนาม
<tpoem>
<tpoem>
๑  ศรีสวัสดิ์กมลาสล้ำ  เลอสรวง
๑  ศรีสวัสดิ์กมลาสล้ำ  เลอสรวง

การปรับปรุง เมื่อ 06:57, 8 กรกฎาคม 2552

ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏนาม

๑      ศรีสวัสดิ์กมลาสล้ำเลอสรวง
พูลภิรมย์นาภีส่องสร้อย
ไตรรัตนจุฑาดวงกมลาส
บานเบิกบงกชช้อยช่อมาลย์ฯ
๒      จักรีจักรกฤษณเกล้าจักรพรรดิ
เสวยภิรมย์สงสารเษกสร้อง
กามาฤดีรัตน์รมเยศ
รมยวิธีธารคล้องห่วงกาม ฯ
๓      เทวาเทเวศถ้วนเทวินทร์
เสวยสุขรมย์ย่ำยามยั่วเย้า
วิไลวิลาพินทุ์เพาโพธ
สุขภิรมย์สมเหน้าแน่งมาลย์ ฯ
๔      จักรพาฬภูวนาถเกล้ากรุงกษัตร
ผายผ่านภุดาธารแผ่นแผ้ว
ภูวไนยวนานัตว์กมุทมาศ
โอนมกุฏิเกล้าแก้วเกือบเศียร ฯ
๕      รังสฤษฎิรังเรขไท้ทรงทศ
ธรรมวิมลพึงเพียรแผ่นหล้า
เสวยสวรรค์สุโสฬศเลื่องโลก
บลบ่ำบวงสรวงหม้าใหม่ศรี ฯ
๖      ดวงเดียวยุพโยคพ้นพรรณนา
สงวนมิ่งมาลย์จาวจีแกล่กล้ำ
อาลิงค์บังอรสารสเรข
ฤาห่อนเอองค์ก้ำกึ่งยาม ฯ
๗      เรียมรักรัตนน้องนางเดียว
เบญจฤดีดัษกามเกลศกลั้ว
สงวนศรีสุมาลย์เกลียวกลมสวาท
เยียวรำเพยพานดั้วด่วนหมอง ฯ
๘      สงวนสร้อยเสาวภาคย์เนื้อนวลนาง
ฤาห่อนนาสาสองห่างหั้น
ในทิพย์บรรจฐรณ์กลางชนม์ชีพ
ฤาห่างองค์แก้วกั้นกึ่งกร ฯ
๙      บ่ไกลอกอาสน์อ้าอกองค์ หนึ่งเลย
ฤาด่วนมาจำจรจากข้าง
คิดศรีสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
รสภิรมย์แรมร้างเร่งตรอม ฯ
๑๐      เรียมคิดสังวาสรู้รสรมย์
ดวงเสียดดวงเดียวจอมจอดเจ้า
คิดปางพิโดรฉมพักเตรส
ฤาห่อนเอองค์เคล้าคลาศยาม ฯ
๑๑      เรียมคิดพิเศษช้อยชิวหา
รนฤดีดัษกามก่อเกื้อ
ถวิลทิพย์สุนาสาเสาวณิศ
เนื้อแนบนวลนุชเนื้อแนบใน ฯ
๑๒      คิดเคยประพาศเพี้ยงภุชเคนทร์
กรกระหวัดดวงไดกอดเกี้ยว
วิไลยวิลาเรนทร์รสราค
ดึกดำฤษณ์เลื้อยเลี้ยวกอดไกร ฯ
๑๓      คิดคลึงบัวมาศสร้อยสระศรี
ผลิดดอกบุษบาในแบ่งไว้
คิดชมมิ่งมาลีไลยเลศ
แบะผกาเกลียวใต้ต่ำเมรุ ฯ
๑๔      คิดเคยเยาวราชท้าวพาลสอง โสดแฮ
แนบกำโบลปรางเปรมเปรียบแก้ม
คิดสินธุ์ภุชค์ฉลองบัวมาศ
ตฤบเตรียมรสย้ำแย้มย่องกาม ฯ
๑๕      คิดสร้อยสาโรชแก้วบัวบง
บัดแบ่งใบย่ำยามกลีบแกล้ง
ภู่พรรณตฤบรสสรงสระมาศ
ทรงสุคนธ์ธารแสร้งสอดสม ฯ
๑๖      มาไลยโมลิศเนื้อนวลลักษณ์
นิลภมรเชยชมบม้วย
วาทาประภาพักตร์พรายแพร่ง
เรียมผทมทิพยด้วยห่อนเอ ฯ
๑๗      วันกรกมลาสเกี้ยวกรรดึก
สองชิดชงฆ์โหเหห่มน้ำ
วันเรียมร่วมถนำทึกนพนิต
สุขบันทมรสกล้ำแกล่กาม ฯ
๑๘      แม้สรงสระเทพถ้าไตรตรึงส์ ก็ดี
ยังไป่ปูนย่ำยามสระแก้ว
สระสวรรค์อำมฤตย์รึงรสเรข
สรงสระนงค์นุชแผ้วแผ่นไตร ฯ
๑๙      พักตราไตรเตรียบสร้อยเสาวคนธ์
พรายนิลารัตนในภู่แพร้ว
ภมูพิมลกลกามก่ง
ทรวงบังอรฐานแก้วยิ่งยง ฯ
๒๐      โอะโอ้นัยนิศน้องนางนงค์ แน่งเอย
จรเจตจิตต์เรียมจงจอดเจ้า
สระบาสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
ฤานิรารสเหน้าหน่อศรี ฯ
๒๑      ปางบุตรนคเรศไท้ทศรถ
จากสีดาเดียวลีลาสแล้ว
ยังคืนสู่เสาวคตยุพราช
ฤาอนุชน้องแคล้วคลาศไกล ฯ
๒๒      ศรีอนิรุทธราสร้างแรมสมร
ศรีอุสาเจียรไคลคลาศแคล้ว
เทวานราจรจำจาก
ยังพร่ำน้าวน้องแก้วคอบคืน ฯ
๒๓      สมุทรโฆษเริศร้างแรมพิน
ทุมดีดาลฝืนใฝ่เต้า
ปางเจ็บชำงือถวิลลิวโลด
ยังพร่ำน้าวน้องเหน้าร่วมเรียง ฯ
๒๔      พระศรีเสาวเลขสร้อยสุธน
จากมโนราห์เคียงคิดน้อง
ยังเสด็จไพรสณฑ์สังวาส
สังเวชนงค์นุชคล้องเคลือกองค์ ฯ
๒๕      ปราจิตต์เจียรเหน้าหน่ออรพินท์
พระพิราไลยปลงชีพแล้ว
คืนสมสุดาจินรสร่วม กันนา
กรรมแบ่งกรรมแก้วแก้วช่วยกรรม์ ฯ
๒๖      ปางศิลปปรเมศร์ท้าวสุธนู
จากสมเด็จนุชจันทร์แจ่มหน้า
เจียรัปประภาตรูเตราสวาท
ยังพร่ำน้าวน้องเข้าคอบสมร ฯ
๒๗      ฤาเออกอาสน์เนื้อนงค์นุช
เจ็บจำงายทรวงธรหล่มล้ม
โอ้แก้วสุมาลย์บุษย์วลีภาคย์ กูเอย
เอาสุพรรณแก้วก้มก่ำทรวง ฯ
๒๘      รดูเดือนเจตรร้อนทรวงธร
ทุกย่ำยามโดรดวงด่วนน้อง
จำรจำเราอรอรนิต หายแม่
อินทรพรหมยมป้องไป่คืน ฯ
๒๙      สุริยงวรเวกฟ้าเฟ็ดโพยม
แสงรพีพรรณฝืนฟอดฟ้า
จรจรัสเสียดแดโสมสรวมชีพ
เจ็บไป่ปานเจียรจ้าจากจร ฯ
๓๐      สุดโพยมเวหาสห้องหาวหน
สุรสุเรนทราธรเฟื่อยฟ้า
ปรัถพีนิราชลเห็นหาด
ร้อนไป่ปานเรียมถ้าจากเจียร ฯ
๓๑      เจ็ดสินธุ์สาคเรศร้อนรนบก
แสนนทีธารเทียรหาดแห้ง
อาดูรกระอุอกเรียมราส
สมรจากเจียรร้อยแล้งไป่ปาน ฯ
๓๒      ปรัถพีพิโยคพื้นทรวงธร
ณีธราธารดาลปั่นด้วย
เจ็บเจียรจำจากจรสมรมิ่ง กูเอย
โอ้อกดินฟ้าม้วยไป่วาย ฯ
๓๓      ทินกรจรแจ้งแจ่มหาวหน
ธารนทีชลหายหาดแห้ง
อกเรียมนิราจลเจ็บจาก กันนา
ร้อยยิ่งทินกรแจ้งจวบกัลป์ ฯ
๓๕      สหัสสุริเยศเรื้องรังสี
ผลาญแผ่นไตรภพสรรพ์ เษกไหม้
กำเดากำดาลตรีภพนาศ
ร้อนไป่ปานน้องไท้จากจร ฯ
๓๖      ไตรยุคทั้งสี่ร้อนรนอก
โลกประชารากรหล่อหล้ม
ร้อนเรียมราสพันพกแสนส่วน
ไตรกำเดาดาลต้มแตกทรวง ฯ
๓๗      ธรณีธรณิศแล้งเลอหาว แห้งแล
ใบบัดพฤกษาดวงเหี่ยวแห้ง
ลดากระหวัดราวรุกขมาศ
วัลย์เวี่ยไม้ไหล้แล้งช่วยตรอม ฯ
๓๘      เวหาผผ่าวเพี้ยงพรรณแสง
เรียมรัญจวญใจจอมจิ่มหล้า
อาดูรคระแลงแสดงแสนโศก
แสนสุเมรุไหม้ฟ้าไป่ปาน ฯ
๓๙      ทุกพรรณมฤคห้องบรรพต
เสียสัมฤทธิอาหารแหล่งเหล้น
นัยนามพุลาลดศัลย์เสพย์
เสียภิรมย์แหล่งเต้นช่วยครวญ ฯ
๔๐      แสนพฤกษ์เหลืองหล่นล้วนแลงใบ
บังสุมาลย์แมนมวลแมกไม้
พฤกษาศิขรไซรโซรมชีพ
โอ้หาดดาลกลไหม้ช่วยเรียม ฯ
๔๑      ปักขีเสาวเลขล้วนฦาศัพท์
สวนบ่ฦาเลยเกรียมก่ำก้าง
โอ้แก้วนิราลับลิวลี่ แล้วเอย
แสนพิหคไห้ช้างช่วยชึง ฯ
๔๒      แสนบางบึงห้วยแห่งเหมุทก
พาสุกรีไตรตรึงส์ปั่นหว้าย
มังกรกรารกรักเรข
ตีสกนธ์แล้วผ้ายผาดจร ฯ
๔๓      แสนสัตว์นาเนกถ้วนแสนสินธุ์
ทุกข์บันดาลไฟฟอนช่วยเศร้า
วันเจียรสุดาพินท์พักเตรศ
แสนสุเมรุม้วนเข้าดั่งลาญ ฯ
๔๔      โอ้รัตนนารีศเนื้อนวลลักษณ์
จากภิรมย์เดียวดาลแผ่นขว้ำ
ตรีในสุรารักษ์หริราช
ช่วยรันทดร้อยก้ำก่ำแด ฯ
๔๖      รดูจรเจตรแจ้งเจียรจรัส
แสนสุธาปรวนแปรแผ่นหล้า
รดูฤดีดัษดาลเทวษ
เทวินทรสุรินทร์รักษ์หม้าใหม่หมอง ฯ
๓๗      ร่ำรักรสเรขสิ้นสรรพางค์
พลมหุตเคราครองสวาทไหม้
โอ้แวสมเด็จกลางวนิภาคย์ เรียมเอย
ควรแบ่งองค์แล้วไว้หว่างทรวง ฯ
๔๘      หลัดหลัดมาจากข้างเขินเข็ญ ใหญ่แล
ทุรัศทุราดวงแหบให้
โอ้แก้วดรุณเพ็ญภุชภาคย์
มานิรารมย์ไว้ว่องกาม ฯ
๔๙      โหยเหนกระอุโอ้เศียรเส โสดแล
หลัดหลัดนัยนายามคลุ่มคลุ้ม
มลักเห็นนิ่มนวลเนนัยเนตร
กามกระหายโหยกลุ้มเกลื่อนแด ฯ
๕๐      คิดนัยนาเทพหว้ายเวหา
คือศศิสุริยแขแข่งแย้ม
คือองค์อนงคชาเยาวเยศ กูนา
เหมือนเมื่อตฤบรสแก้มกลิ่นเกลา ฯ
๕๑      เดือนถึงถถั่นน้ำตาตก
สายพรุณโชรมเชราฟั่นฟ้า
ปรานีแนบกับอกโอยแม่ กูเอย
เดือนสุดแล้วนุชหน้าแม่ผ้ายล่องใด ฯ
๕๒      รดูไพศาลขสร้องฝนสวรรค์
คิดสุมาลย์มาไลยแหล่งน้อง
รดูฤดีครรภ์รมเยศ
เจ็บกระอุแทบท้องที่ขวั้นสดือนาง ฯ
๕๓      คระหนฟ้าร้องคระโหยหา สวาทนา
ดลด่วนเจ็บแดกลางขาดขว้ำ
แขไขข่าวไถนาถถั่น มานา
อกระแห้งแล้งน้ำเนตรนอง ฯ
๕๔      แต่เรียมนิราสแก้วไกลนาน
ฟ้าเฟื่องครรชิตหมองหม่นเศร้า
รำเพยรำพาธารไหล่หลั่ง
สวรรค์อนันตร้อนเร้าช่วยตรอม ฯ
๕๕      นิรานิราสร้างแรมสมร
สุริยศศิดายดอมอยู่ได้
วเนวนาดรในโลก นี้นา
จำนิรารสให้ห่างแด ฯ
๕๖      โหยเห็นเดือนแย้มยั่วยงสมร
ไฉนว่าจันทร์เจียรแถลงหน่อเหน้า
เจ็บเจียรจำงายวรวินภาคย์
วหวั่งกามยงเย้ายั่วยรร ฯ
๕๗      ธาตรีตรีโลกแล้งแลจบ
จรหล่มลิดลิวกรรก่ำก้าง
นิทรานิราภพรมเยศ
ครหอบหิวไห้ช้างชำงือ ฯ
๕๘      เดือนหกเรียมร่ำไห้ฤาวาย
ยามย่อมชนบทถือท่องหล้า
ธงธวัชโบกโบยปลายงอนง่า
คิดว่ากรกวักข้าแล่นตาม ฯ
๕๙      ทันธงบ่ใช่น้องเรียมทรุด
หิวกระหนรนกามพรั่นกว้า
ธวัชงอนโบกโบยสุดลิ่วลี่
กรใช่กรหน้าหน้าใช่น้องนาไถ ฯ
๖๐      รดูเดือนเชษฐฟ้าครรชิต
สายพรุณรองไรเรื่อยฟ้า
ไพศาขร่ำแรมนิทร์นงโพธ เดียวแม่
แรมร่ำแรมโรยหน้าเร่งโรยแรมโรย ฯ
๖๑      วรรณาโมลิสแล้งแดงเดียว
อกกระอุเกรียมโกรยกระด้าง
อัมพรอุทรเขียวครางคร่ำ
ฟื้นฟ้าโหยไห้ช้างเชี่ยวสินธุ์ ฯ
๖๒      อักนิฐเลื่องโลกล้ำโสพศ
บัณฑุกัมพลอินทร์อาสน์แก้ว
เมรุทองรรองทศศาภาคย์
ฤาอาจทรงทุกข์แผ้วที่ตรอม ฯ
๖๓      รดูเดือนเมฆน้ำนองหาว
ชุกข่มเขียวไพรดอมยอดย้อม
ไฟกามรลุงจาวทองเทศ
เห็นลบัดเลี้ยวอ้อมอาตม์เรียม ฯ
๖๔      อัญชันชรอุ่นแต้มตาไพร
เพราะเพริดนัยนุชเทียมแต่งแต้ม
บัวกามจำรัสไรรัตนเรข
ชมช่อไม้เหมือนแก้มโกศเกล้า ฯ
๖๕      พระพรุณรายเรื่อยฟ้าเพ็ดโพยม
อกราษฎร์ชนบทเทาทั่วหล้า
เริ่มการสำเร็จโถมไถแล่น
เจียรอนุชน้องถ้าไป่ยล ฯ
๖๖      แถลงวัลยอาจเกี้ยวกรองบัด
ลมปั่นหาวเหินบนแบ่งไส้
เล็บนางแน่งเนาวรัตน์โชรช่อ
แลแล่งเล็บแก้วไล้ลวดทอง ฯ
๖๗      ฟ้าดินเลียมลอบกล้ำกลืนนุช แดฤา
ซงซ่อนไกลใจปองขาดขว้ำ
แดนใดลอบแลงบุษย์บัวมาศ
เรียมบำบวงบนก้ำก่ำสมร ฯ
๖๘      ร่ำรักแรมราสแก้วเจียรจินต์
กรมโกรธเททวารถอนถอดไส้
ลุกแลรลุงถวิล หาอ่อนอวนเอย
เยียวข่าวขวัญน้องไข้พี่ถ้าถามขวัญ ฯ
๖๙      เดือนเจ็ดจรหล่ำฟ้าเฟือนฟอน สวาทนา
เจียรจากนุชแดบรรหย่อนไซ้
ราตรีสงัดนอนเสียงเน่ง แล้วแฮ
เรียมนิรารสได้โตรดตรอม ฯ
๗๐      ราตรีตระหง่องเหงี้ยฟังยาม
อกกระอุทรวงทอมถ่อมถ้า
บอืออิดใจจามเสียงเน่ง นอนนา
เดือนแปดมาแล้วหม้าแม่ผ้ายลองใด ฯ
๗๑      นับนาวรรณิศถ้านับเดือน แดฤา
วันและคืนเดือนไคลคลาศคล้อย
อสุรภมูเหมือนจรหล่ำ แล้วแฮ
เรียมรำฦกน้องน้อยไป่สม ฯ
๗๒      อสุรเทเวศท้าวเทเวนทร์ มากแฮ
จักหว่าจิตต์เรียมจมจ่อมเจ้า
รอยไทสุราเชนทร์ทิพราช รังฤา
เรียมราสจึงเศร้าเศร้าโศกศัลย์ ฯ
๗๓      พรรษาสโรชฟ้าไขธาร ทดแฮ
เพรียกคระครื้นเครงสวรรค์ป่าวหล้า
สรรเพชญ์ยิ่งยลญาณพระสั่ง สอนนา
แย้มนิยมถ้วนหน้าเริมเรื้องทำธรรม์ ฯ
๗๔      วันทาวรโพธิไหว้หวังพระ พึ่งแม่
คุณรำฦกพระสรรพร่ำน้อง
สดับธรรมอยู่พลางคระครวญแม่
นุชบนำพาพร้องเพื่อใด ฯ
๗๕      กรจบบทมาศไท้ธาศรี ศากย์แฮ
หัดถ์บังคมฟูมไนยเลือดย้อย
บวงสรวงสุมาลีนานใฝ่ สมแฮ
เดือนใฝ่หาละห้อยใฝ่เห็น ฯ
๗๖      รอยนุชเปนเนตรรื้อเปนองค์ พี่แม่
จับจึ่งมาข่มเข็ญขื่นไส้
รลวงพิไลจงจักแม่ เดียวแม่
เดือนแปดแปดยามไห้ร่ำโหย ฯ
๗๗      ทิศใดดวงสวาทน้องสถิตสถิต
ฟ้าฟอดบาดาลโดยด่านเต้า
ชฏาธารเทพรังสฤษฏิ์ศรีสี่
เชิญท่านเลงแลเหน้าข่าวข้าขอฟัง ฯ
๗๘      เพรงเราเคยพรากเนื้อนกไกล คู่ฤา
ริบราชเอาของขังคั่งไว้
มาทันปลิดสายใจเจียรจาก เรียมนา
มานิรารสให้ห่างไกล ฯ
๗๙      พระใดบำราสน้องกรุณา หนึ่งรา
แสนหนึ่งนางถวายไปแด่ไท้
ดวงเดียวมิ่งมาลาเฉลิมภาคย์ กูเอย
รัตนสุคนธทิพไหว้กราบถวาย ฯ
๘๐      เดือนดลกลนิตน้องนุชนิทร์ อยู่ฤา
ฤาหากพันกรกลายแกล่ไว้
พระสุริยท่านรังสฤษฏิ์รอยเบียด บังฤา
ขอศศิผลาญให้แห่งน้องเห็นคืน ฯ
๘๑      ขอชมพระสาสนแก้วเกลาสูร หนึ่งรา
ชิวหาศหอมรสกลืนกลิ่นใกล้
ขอชมมิ่งมาธูรเสาวณิศ
สาวอนงค์เหน้าไท้แม่เผย ฯ
๘๒      รอยกรรมหากแบ่งแก้วกับกรรม์ พี่ฤา
อาทิก่อนเรียมเชยซาบเนื้อ
ในบนบรรจฐรณ์พรรโณภาส
รสอ่อนยังเกื้อเกื้อไป่ปิ้มหายหอม ฯ
๘๓      เดือนแปดจรหล่ำแล้วลิ่วลิบ
อกระหนทรวงทอมถ่อมถ้า
มาถึงที่นพนิพเดือนใหม่ แล้วแม่
อรอนงค์หน้าหน้าไป่เห็น ฯ
๘๔      อนงค์อรนิตเจ้าจรจรัล พี่เอย
จักคลาศเดือนมาเป็นดั่งนี้
กระอุกระอกยรรแดจาก ดังฤา
ความพี่วันชี้ชี้แม่รื้อยังเห็น ฯ
๘๕      เดือนเก้าจะเคร่าน้องเทอญฤา อรเอย
กระละหล่ำจักเป็นแต่กี้
กระเหม่นกระเหม็ดคือหาวอยู่ ไส้แฮ
ใครพาดใครพานชี้ซื่อตาย ฯ
๘๖      เดือนดลถถั่นน้ำตาฝน ถั่นนา
จักเจียรเจียรนุชคลายคลาศคล้อย
พรรษามี่เมืองชนบทย่อน เลยนา
เรียมจากนุชสร้อยสร้อยโตรดตรอม ฯ
๘๗      เจียรเจ็บอกถ้าอ่อนเชยทิพ ชายนา
กายนิพนธ์ผอมผิวสรากเนื้อ
เพราะอรลิ่งลิวลิบลิ่วลี่แล้วแฮ
เดือนถั่งตาฝนเชื้อแม่ผ้ายลองใด ฯ
๘๘      เดือนดลกลนิตน้องดลใด อรเอย
จำจากจึ่งเรียมไคลคลาศคล้อย
เดือนเก้าเกียจกันไฉนฉงนอยู่
จึงจากนุชน้อยน้อยพี่ตรอม ฯ
๘๙      อัมพรมัวเมฆคล้ายคลั่งฝน แม่ฮา
เซงซ่าชลโชรมชรอมฉ่ำหล้า
ธาราน่านนองชลชิงเชี่ยว แม่เอย
เรียมรลุงแลถ้าไป่เห็น ฯ
๙๐      ครรชิตรัชนิฟ้าเพ็ดโพยม
วายุโอบพรุณเปนเมฆกลุ้ม
ชีสามุ่งใจโจมจรจ่อม ใจนา
ในเมฆอันคลุ้มคลุ้งโอบมา ฯ
๙๑      ครไลครลั่งแล้วกระมัง แม่ฮา
จับบ่เริ่มนุชคลาถ่านี้
ชีสาอยุ่ในบังวายุเมฆ โพ้นนา
เจตกมลผี้ผี้รวบเอา ฯ
๙๒      เพื่อเจียรเหน้าแก้วก่อการตฤบ
นาร่วมรสนิทรเนาแนบน้อง
เรียมราสจึงมามฤตย์เมาโมห รักเอย
กามกลหายนุชคล้องพี่รื้อกลใด ฯ
๙๓      พิศวงพิศวาสขวั้นแขวนทรวง พี่นา
ถนัดเปล่าปลิวเปลืองใจจากเจ้า
ทฤษฎิล่งแลดวงดาวดาษ
ถนัดว่าเดือนดวงเหน้าหนุ่มสมร ฯ
๙๔      กรรณาวรรนิตเพี้ยงแขไข แข่งฤา
ใช่ว่ากรรกับกรดุจนั้น
แสงจันทรอำไพเรืองรุ่ง ไซ้นา
เรียมจึ่งคิดหั้นหั้นประเหล ฯ
๙๕      ดวงเดือนดูด่วนแต้มตราติด ต่ายนา
หน้าหน่ายแลขอเวนเวี่ยไว้
พักตราแม่งามสนิทหายแห่ง ใดนา
เดือนหากเห็นไจ้ไจ้แม่เร้นเมื่อใด ฯ
๙๖      เพยียวรรโณภาสสร้อยสนองกรรฐ์
เคยก่อนทรงธารในอาสน์แก้ว
ถึงมานิราจันทร์เจียรจาก อรนา
จรหล่ำลับฟ้าแล้วไป่คืน ฯ
๙๗      ภัทรบทดลเดียรถฟ้าครรชิต
ชรุ่มชราบในฝาผืนฝั่งป้อง
ภรรดาพิโรฤทธิ์รังราค
มาเมี่ยมน้ำหน้าต้องต่ำสินทธุ์ ฯ
๙๘      คล้ายคล้ายวว่องไว้เวียนไนย แน่งเอย
แสนกระอุเพาพินท์คลาศคล้อย
มลักเมียงตระบัดใบบทเรข
เหมือนสกลนุชน้อยแน่งนา ฯ
๙๙      เดือนภรรบัทคลาศคล้อยกลิ่นไกล
เชิญบิดรมารดาพร่ำพร้อง
ถวายคิดจำหน่ายในบัวบาท พระนา
แลบ่เห็นน้องน้องเมื่อใด ฯ
๑๐๐      ชำงือคือเดชเห้งหริรงค์
รักษ์ลเวงอาไลยมืดม้วย
บำบวงสุดาวงศ์หริราช
นานขวบเดือนสิบสร้อยโสดหาย ฯ
๑๐๑      หริรักษ์หริราชแกล้งเกลานุช แม่ฤา
จักจึ่งทรวงธรหมายแต่เจ้า
ในนางสุรางค์สุดสามโลก ก็ดี
เทียมธุลีบทเหน้าห่อนเที้ยรฤาเทียม ฯ
๑๐๒      การเตนนิ่มแต้มตรูเฉลิม แผ่นนา
กรรมแบ่งเอาอกเรียมราสแคล้ว
การเตนแม่เอาเจิมไปแจ่ม ใครนา
ชำชำงือแก้วแก้วถึงเข้าเดือนสิบ ฯ
๑๐๓      เดือนสิบถถั่นแท้เททรวง พี่แม่
เดือนยาตรมาเยียวหยิบแม่ผ้าย
เรียมโหยรลุงลวงลาญสวาท
ละพี่เดียวให้หว้ายโศกศัลย์ ฯ
๑๐๔      พรรษาภิเษกสร้อยสรรเพชญ์
เคยบำรุงรศธรรม์ที่ไท้
โอ้แก้วกลับแดเด็จเดียวจาก ไปฤา
ละแต่ภรรยาให้แหบโหย ฯ
๑๐๕      เดือนมฤคไมยมิ่งเต้นตามมฤค ฤาแม่
มฤคพร่ำชวนมฤคโชยผาดห้วย
จวนเดือนเมื่อกรรดึกชลมารค นองนา
จักจากเรียมด้วยด้วยมฤคพาล ฯ
๑๐๖      เผยอบุญญาพาสถ้วนเทเวนทร์
เทพบ่ควรเห็นการพี่สร้อย
กระอุอกอาเปรนปราณนาศ แล้วแฮ
แดเดือนดาลร้อยร้อยส่วนเสล ฯ
๑๐๗      แม้ม้วยบรเมศรไท้ทินกร ก็ดี
สิ้นสุดพระเมรุเอนอ่อนล้ม
สามภพเปื่อยเป็นบรนรนาศ ก็ดี
เจ็บไป่ปานน้องล้มหล่อองค์ ฯ
๑๐๘      หล่มหล้มอกอ่าโอ้อกพระ พี่เอย
จรจากนุชอนงค์เมื่อนี้
นาวาวิ่งว่ายฉะชลมารค
ถวายเลิศล้ำแล้วลี้ไล่สินธุ์ ฯ
๑๐๙      อกกรมเกรียมสวาทไห้โหยหา
นองเนตรธารากินบ่ม้วย
ดายดัดด่วนแดมาไกลแม่
ใดบ่ปรานีด้วยเท่าใย ฯ
๑๑๐      กรเกยกมุทไหว้สรวงสิทธิ์
สบสุราสุรในแผ่นหล้า
ขอสมสุดานิจนุชนาฎ เดียวแม่
แสนสุเมรุห้องฟ้าบ่ได้ปรานี ฯ
๑๑๑      ชงครากามิศน้องยังยัง ติดแม่
ในรลุงนาภีพรั่นกว้า
เทวาสุรารังบิดแบ่ง ไปฤา
จำราสชายหิ้วช้าอยู่เชย ฯ
๑๑๒      พาลแขไขแข่งแย้มตรูตรัส
อาสยุชดลเดือนเคยแนบน้อง
ฤามานิรารัตน์ชาเยศ
สบประชาชลซร้องคร่ำสินธุ์ ฯ
๑๑๓      มาสาสาวเลขน้ำนองใน
ฝั่งนทีธารถวิลแก่แก้ว
นาเวศประภาไสวขับแข่ง กันนา
โอ้อนุชน้องแคล้วคลาศกู ฯ
๑๑๔      สรมุขไมยมาศแต้มตรูตรัส
ศรีสมรรถไชยตรูเตรียบฟ้า
พายค่ำจำรัสแครงใส่ส่อง
หมึกสักหลังรั้งหน้าฮึดฮือ ฯ
๑๑๕      ฝีพายพลไปล่น้ำปลิวใบ แบ่งนา
ฉายฉากพายพลบือปั่นคว้าง
ชำงือชำงายไนยนองเนตร แล้วแฮ
นึกรำฦกรังสร้างแรกสม ฯ
๑๑๖      ไกรกรายฉายฉากน้ำบึงปลิว ปรีนา
คิดพิมานไชยชมบ่เว้น
แลเลาหลั่งลองลิวลมล่อง มาฤา
อ่อนลำเภาพายเต้นตากหัว ฯ
๑๑๗      วรหงสไพโรจน์เพี้ยงเรือนาง แน่งนา
กลบันจงเกลากลัวดุจขว้ำ
เกลียวกลมรันทวยกลางโอนอ่อน มานา
เรือหากรู้น้ำน้ำหากเห็น ฯ
๑๑๘      พิศพลยอฉากหล้มทวยธวัช
บัดแมล่งขณะเป็นที่หั้น
กลกามชำงือถกัดนุชนาฎ
ครึ่งบางถมอชั้นง่าพายยอพาย ฯ
๑๑๙      ตาเรียมกระหง่องตั้งตาเรือง แม่ฮา
ตาหลิ่งดูดูดายน่อน้อง
ชลธารนทีเจือจาวหลั่ง ไหลนา
อกแผ่นดินฟ้าฟ้องเพื่อนาง ฯ
๑๒๐      ฟองชลฝะฝ่ายน้ำตาตก
ตาฝั่งแฝงเกลียวกลางสวาทไหม้
โอ้แก้วกึ่งกับอกองค์จาก ไปแฮ
อกแผ่นดินฟ้าไห้ถั่งฝน ฯ
             
เครื่องมือส่วนตัว