โคลงยอพระเกียรติพระเจ้ากรุงธนบุรี

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 04:11, 4 ตุลาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: นายสวนหมาดเล็ก

บทประพันธ์

๏ นายสวนมหาดเล็กเจ้าจอมกระษัตริย์
แถลงเรื่องราชศรีสวัสดิ์กราบเกล้า
ถวายต่างบุษปรัตน์มาลย์มาศ
ภุมวารเดือนเก้าสิบขึ้นเถาะปี ฯ(พ.ศ.2314)
๏ บังคมบทรัชไท้ทรงทศ ธรรมนา
พระปิ่นอยุธยายศยอดฟ้า
ขอแถลงนิพนธ์พจน์เฉลิมบาท พระเอย
ไว้พระเกียรติท่านท่วมหล้าโลกเหลื้องฦาบุญ ฯ
๏ บุญพระภูวนารถเกล้าจักรพาฬ
ทรงฤทธิ์เดโชชาญเชี่ยวพ้น
พระสติวิทยาญาณขยันยอด ชนแฮ
................................................
๏ เสมอองค์หริรักษ์เรื้องรงค์รุท
ลล่องพาหนะครุฑสู่หล้า
ฤาจรจากเกษียรสมุทรมาทวีป นี้แฮ
เนื้อหน่อพุทธพงศ์กล้าก่อสร้างโพธิญาณ ฯ
๏ พระตรีญาณประเวศด้วยนรชน
เห็นทุกข์เมทนียดลแด่ขว้ำ
ยลสาสนพระพุทธพลโรยร่อย
หวังช่วยเชิดชูปล้ำปลุกให้คงเขษม ฯ
๏ จึงยกพยุหยาตรข้ามกันดาร ชเลนา
จรจากจันทบูรสถานท่าไท้
สถิตย์ธนนครินรานอริราช
หวังสาสนสมบูรณ์ให้เทพซร้องสดุดี ฯ
๏ ฝูงทวยราฎรทั้งพสุธา
มาพึ่งบารมีมามากพร้อม
ภักดีอยู่ถนอมบาทุการาช
บาทพระเป็นมกุฎย้อมโลกให้คืนเขษม ฯ
๏ พระการุญภาพเลี้ยงพลพล
ทั่วทศทิศาชนชื่นพร้อม
โดยมีวิทยาคนขยันยิ่ง
เติมแต่งเต็มขนาดย้อมยกขึ้นควรฐาน ฯ
๏ แม้พระจักรรัตน์เจ้าจักรพาฬ
ไป่เสด็จสู่ชนสถานที่นี้
หมู่นรากรจะลาญลาชีพ
เพื่อภุดาหารกี้ก่อนสิ้นสุดหา ฯ
๑๐
๏ พระมามอบชีพช้อนชีพิต
อวยโภชนทานอุทิศทั่วได้
เอนกบริจาคนิตย์สนองสาส นานา
ธรณิดหวาดไหวไหว้เชิดชี้ชมผล ฯ
๑๑
๏ พระคุณอเนกเก้าสยมภู
ยกหมู่นรชนชูชีพไว้
ทรงธรรมิกราชตรูตราโลก
เป็นมกุฎแก่นไท้ทั่วท้าวฤาเสมอ ฯ
๑๒
๏ จึ่งแต่งฐานที่ตั้งภูมไชย
ให้สถิตย์สถาวรไปตราบเท้า
กัลปาวสานในธรณิศ
ธนบุรินปิ่นเกล้าตริสร้างเวียงสถาน ฯ
๑๓
๏ เมืองเก่าดูระคดะด้วยรนามวัน
พงพ่านผักโหมหันแหกขึ้น
กองกอบอศุภสรรพ์เนียรชีพ
ครั้นพระมาสถิตย์ฟื้นกลับแผ้วผ่องไสว ฯ
๑๔
๏ ภูมสถานที่สถิตย์ไท้ไชยสถาน
พ่างพิษณุกรรมชำนาญเศกสร้าง
ราชวังมุขพิมานมูลเกิด มีนา
เรือนรัตน์ซ้ายขวากว้างเพียบพื้นภูวดล ฯ
๑๕
๏ มีฉนวนขนานน้ำพ่วงขนัดแพ
เป็นที่ลานสมรแลล่อฟ้า
โรงทองพระลานแดดูถง่าน พระเอย
โรงพระอาภรณ์อ้าร่ำรื้อฤาถึง ฯ
๑๖
๏ โรงสรรพยุทธไว้ศาสตรา
โรงอัศวะคเชนทราเพริศแพร้ว
โรงสุธรรมพิพากษาคดีราษ ฎรแฮ
โรงพระโอสถแผ้วโรคให้มลายหาย ฯ
๑๗
๏ พระคลังทวาทัศท้วนโภคี
สมบัติหมื่นหมายมีมากพร้อม
ศาลามาตยมนตรีเตรียมเฟ่า
ทิมกระท่อมพลล้อมรอบรั้ววังใน ฯ
๑๘
๏ ป้อมค่ายคูเขื่อนขั้นปราการ
ในนอกวังเวียงสถานท่านไท้
หอรบวิชัยชาญเรียงรอบ
สบสรรพาวุธไว้ผดับเบื้องบทศรี ฯ
๑๙
๏ ดูดุจเธอเทพแท้นฤมิตร
ฤาวิษณุกรรมปลิตจากฟ้า
ถ่อมถวายพระบรมสิทธิ์ทรงเดช
เลอวิไลยงามหล้าเลิศล้ำบุญสนอง ฯ
๒๐
๏ มีคชกิริณิศแก้วเสวตวงศ์
รอยว่าอินทร์อวยลงสู่ไท้
มีสินธพชาติพงศ์ขัติยอาสน์
มีมุขมนตรีได้ฟากฟ้าฤาเสมอ ฯ
๒๑
๏ มีอัคเรศฝ่ายซ้ายขวาผจง
หมู่พระสนมองค์อ่อนพริ้ม
ย่อมเผ่าขัติยพงศ์เมืองออก
โลกเลงสมรปิ้มล่มล้มเททรวง ฯ
๒๒
๏ แต่ละองค์ทรงภาคเพี้ยงพิมพ์สวรรค์ แลฤา
ฤาว่าจันทร์แจ่มจรัลสู่ไท้
วิมลมุขภมูฉันฉายเฉิด ฉมนา
ศุภลักษณวิไลยไล้เลื่อนฟ้ามาดิน ฯ
๒๓
๏ มาทูลถนอมบาทไท้ขจรขจาย
ดูดุจดารารายเรื่อฟ้า
ล้อมจันทรพิมลหมายหมดเมฆ
จันทร์เฉกจอมยานหล้าเลิศล้วนควรชม ฯ
๒๔
๏ มีนรนาริศเรื้องรบำขำ
วรรูปสุนทรรำเรื่อยร้อง
ชูเฉลิมราชฐานบำเรอราช
เป็นที่สุขเขษมซร้องพรั่งพริ้มเพราไสว ฯ
๒๕
๏ มโหรีเชิงม่านแม้นพิณอินทร์
เป็นที่นฤบดินทร์ยินยั่วล้ำ
ดั่งอัปสรเทวินทร์ขับถ่อ ถนอมนา
เหมือนจะส่ออกช้ำแซกซ้ำนำเขษม ฯ
๒๖
๏ เจ้าอยั่วสี่ท้าวท่านสง่างาม
นักพฤฒิพระสนมนามสี่ถ้วน
เฉลิมฉลองพระโอษฐ์กิจราช
ชาวชแม่แลลานล้วนล่อล้อมระวังองค์ ฯ
๒๗
๏ ฝ่ายหมูมุขมาตย์เฝ้าบริบาล
ชาญกิจชาญรงคชาญเลิศล้วน
สมุหกลาโหมหาญหาญยิ่ง
นายกยกพจน์ถ้วนถี่ถ้อยขบวนความ ฯ
๒๘
๏ จัตุสดมภ์เดชล้วนรบือนาม
หกเหล่าอาสาสนามแกว่นแกล้ว
แปดตำรวจรวดเร็วความกมลราช
มหาดเล็กชาววังแพร้วพรั่งพร้อมรวังวัง ฯ
๒๙
๏ นักองค์รามนเรศแม้นรามา
เป็นปิ่นกัมพูชาใช่น้อย
นักฟ้าทลหะมหาอุปราช เขมนแฮ
มาพึ่งบทรัชช้อยชื่นเฝ้าบริบาล ฯ
๓๐
๏ แขกชวาวรเทศทั้งมลายู
จีนฝรั่งลันดาดูดาษเฝ้า
ลาวมอญย่อมถนอมชูวรบาท พระนา
พระการุณเหนือเกล้ากล่อมเกลี้ยงควรฐาน ฯ
๓๑
๏ ล้วนหมู่พยุหยศหย้อมยืนรงค์
ทุกหมวดทุกกระทรวงทรงฤทธิเรื้อง
คุณวุฒิวิทยาคงทนศาสตร์
ย่อมชนะนคราเบื้องต่ำใต้ฤาเสมอ ฯ
๓๒
๏ พลหาญมหิทธิห้าวรณรงค์
ชัยสิทธิฤทธาตรงถ่อไท้
ปราบเนียรชีวิตวงศ์อริราช
พระเกียรติยศได้ท่วมฟ้าดินสะเทือน ฯ
๓๓
๏ พระเดชานุภาพพ้นพงศ์กษัตริย์
ควรแก่เสวตฉัตรรัตน์เรื่อฟ้า
เป็นหลักโลกุดมดัดใจโลก
ด้วยบุรพบารมีกล้ากว่ากล้ากลับแข็ง ฯ
๓๔
๏ ใครอาจอาตมตั้งตัวผจญ ได้ฤา
พ่ายพระกุศลพลทั่วท้าว
ปราบดาภิเษกบนภัทรบิฐ บัวแฮ
สมบัติสมบูรณ์ด้าวแด่นฟ้ามาปาน ฯ
๓๕
๏ ใครที่โมหมืดไหม้สเทือนฤทธิ์
รอยว่าเวรตามปลิดชีพม้วย
ที่แขงแข่งอิทธิฤทธิ์ภูวนาถ
ย่อมรยำยับด้วยปิ่นเกล้าธรณี ฯ
๓๖
๏ ปางเมืองนครราชตั้งตัวปทุษฐ
ก่อพิกลการยุทธศึกสร้าง
พระยกพยูหรุดรานราบ
น้อยโทษเลี้ยงใหญ่ล้างชีพสิ้นสูญหาย ฯ
๓๗
๏ ปางปาตลิบุตรเจ้านัครา
แจ้งพระยศเดชาปิ่นเกล้า
ทรนงศักดิ์อหังกาเกกเก่ง อยู่แฮ
ยังไป่น้อมประนตเข้าสู่เงื้อมบทมาลย์ ฯ
๓๘
๏ ยกพยุหยาตรเยื้องบทศรี
ดังพระกฤษณตรีโลกล้น
พลหาญหื่นมหิทธิมีฤทธิภาพ
ทลวงล่วงเขตรนครปล้นไล่ลุ้ยตลุยไป ฯ
๓๙
๏ เจ้าปาตลิบุตรนั้นอัปรา ชัยเอย
ไปสถิตย์เทพาพาพวกแพ้
หนีเข้าพึ่งตนนาทัพเล่า
ทัพราชรีบรบแหร้แขกม้วยเมืองทลาย ฯ
๔๐
๏ จึ่งยกอพยพเข้าตานี
พญาแขกเกรงบารมีส่งให้
มาถวายกับบุตรีมาลย์มิ่ง เมืองนา
พระประทานอภัยให้กลับเลี้ยงเป็นเฉลิม ฯ
๔๑
๏ ปางสวางค์บุเรศร้ายจำแลงผิด
พุทธบุตรละพุทธกิจก่อแกล้ว
ทุศีลทุจริตอิจฉาราช
เสด็จปราบสัตว์บาปแผ้วฟอกฟื้นสาสนา ฯ
๔๒
๏ แล้วฉลองพุทธธาตุแท้สุจริต
สมณะบรรพชิตใช่น้อย
พระอวยชนอุทิศทานทั่ว
มีมหรศพช้อยชื่นช้อยชนเขษม ฯ
๔๓
๏ เมืองชัยที่ร่วมร้ายเวียงสวางค์
พ่ายพระเดชคุณปางปิ่มม้วย
กลับน้อมศิโรตมางค์มาเล่า
มาภักดิ์เป็นทหารด้วยอยู่ใต้บาทบงสุ์ ฯ
๔๔
๏ ปางปาตลิบุตรทั้งเวียงสวางค์
นครราชสิมาหมางปิ่นหล้า
ถ้าแต่หมู่ทหารกลางหมวดหนึ่ง ก็ดี
ก็จะมีชัยแก่ข้าศึกเสี้ยนสยบแสยง ฯ
๔๕
๏ พระเห็นพลพระห้าวเหลือหาญ
เกรงราษฎรจะลาญชีพม้วย
จึงเสด็จผดับการรงค์รวด ระงับแฮ
หวังปราบหวังการุณด้วยดั่งนี้ทรงถวิล ฯ
๔๖
๏ ครั้นดับเด็จร้ายทั่วธรณี
หมู่มาตย์เปรมปรีดีทั่วได้
บำเหน็จพระพูนทวีทุกเมื่อ
ทรัพย์กองโกยให้ทุกเถี้ยวโดยหวัง ฯ
๔๗
๏ ทหารเอกพระมอบหมั้นเมืองเอก
ตามที่ตรีโทเศกส่งให้
ขนานนามย่อมอดิเรกตำแหน่ง มีนา
ทั้งราชนิกูลไท้เศกสร้างตามขบวน ฯ
๔๘
๏ เจ้าดารานเรศเรื้องรวิวงศ์
ทรงพระกรุณาปลงโปรดให้
ครองปาตลิบุตรทรงธรณิศ
ตั้งพระหฤทัยไท้ท่านตั้งตามสถาน ฯ
๔๙
๏ เจ้าพระยาอนุชิตเชื้ออาสา
ครองพิษณุโลกาเพริศแพร้ว
เจ้าพระยาพิชัยราชาชื่อ ฤาแฮ
ครองสวรรคโลกแผ้วผ่องน้ำใจถวิล ฯ
๕๐
๏ เจ้าพระยาอนุรักษ์เรื้องรงค์รุท
ครองนครสวรรค์ผุดผาดแผ้ว
ฤทธิ์จะประมาณสุดคำร่ำ ถึงฤา
เจ้าพระยาสรรค์ทแกล้วโปรดให้เมืองสรรค์ ฯ
๕๑
๏ บำเหน็จดำแน่งน้อยพอประมาณ ก็ดี
พระโปรดประทานสถานที่ได้
เป็นพระยาพระหลวงทหารในนอก
เมืองเอกโทตรีให้ครอบเลี้ยงประชาชน ฯ
๕๒
๏ ประมวญนักเรศแคว้นอยุธยา
หนฝ่ายใต้เหนือมาท่วนทั้ง
ร้อยสี่บุรีสถาพรทั่ว สถานแฮ
พระมอบมาตยไปตั้งแต่งไว้เป็นเฉลิม ฯ
๕๓
๏ นานาประเทศขึ้นยังหลาย
เป็นที่ทูลทางถวายดอกไม้
หิรัญรัตนทองพรายสรรพส่ง มานา
ทั้งพระยาไทรไซร้มอบเกล้าสดุดี ฯ
๕๔
๏ ตานีนัคเรศเจ้านครา
ส่งสุวรรณบุษปมากราบเกล้า
น้อมถวายปิ่นอยุธยาภูวนารถ
กลัวรักภักดีเจ้าสู่เงื้อมบทมูล ฯ
๕๕
๏ กรุงศรีสัตนาคเจ้ากรุงกระษัตริย์
ทรงพระสุพรรณบัตรบอกร้อน
น้อมถวายบุษปรัตนมาศ มานา
มาพึ่งบารมีต้อนตัดร้อยรอนเข็ญ ฯ
๕๖
๏ ท้าวทั่วนัคเรศน้อมพนมกร
ทรงสุวรรณมาลย์จรจรดเกล้า
มาถวายบทบวรวรราช
ถ้วนอัษฎาทิศเข้านอบน้อมสดุดี ฯ
๕๗
๏ พระเดียวบุญลาภเลี้ยงประชากร
เป็นบิตุรมาดรทั่วหล้า
เป็นเจ้าแลครูสอนสั่งโลก
เป็นสุขทุกถ้วนหน้านิกรทั้งชายหญิง ฯ
๕๘
๏ เป็นที่พำนักถ้วนนรชน
เป็นที่กรุณาคนยากไร้
เป็นที่ส่งสัตวดลเมืองโมกข์
เป็นทรัพย์ปจุปันให้ทั่วหน้าเนืองเขษม ฯ
๕๙
๏ พระยลพลหนักแหน้นพสุธา
ขยายยักนัครามาใหม่สร้าง
เทียมสรวงบุรีสถาพรทั่ว สถานเอย
มหรศพครบสิ่งสล้างหลากเหล้นงานฉลอง ฯ
๖๐
๏ แล้วให้ประลองศาสตรถ้วนขบวนหาญ
สารคชคชสารผสานแกว่นกล้า
ม้าทวนต่อทวนทานแทงร่อ รำแฮ
ม้าคลุงคลีกระบี่ม้าวิ่งม้าพนันเร็ว ฯ
๖๑
๏ พลหาญเป็นคู่เข้าผชัญหาญ
โหมฮึกครึกโครมทยานขู่คู้
เคยหักอริรานเร็วรอด
นี่สิรู้ต่อรู้ไป่แพ้พอเสมอ ฯ
๖๒
๏ เสโลห์ต่อโล่ห์เลี้ยวประลองเชิง
พลดาบสองมือถเกิงต่อสู้
ต่างมีฤทธิ์แรงเริงสุรยิ่ง ขยันแฮ
โถมฟาดศาสตราหผู้ผัดเหล้นเป็นเฉลิม ฯ
๖๓
๏ ดาบดั้งดึงโดดดั้นจบันแรง
แขกกระบี่คำแหงแขงแข่งเหล้น
กระบี่ต่อกระบี่แทงฟันฟาด กันนา
ทวนต่อทวนตื่นเต้นสู่สู้ดูขยัน ฯ
๖๔
๏ พลง้าวกวัดง้าวง่างอนงาม
พิฦกแลควรขามพรั่นไส้
หมู่ตบองต่อตบองตามขบวนไล่ กันนา
เหล็กก็เหล็กนิไม้ต่อไม้กลางสนาม ฯ
๖๕
๏ สองมือพลหอกหง้ามหอกเขน
หอกหนังบังอาตม์เจนจ่อจ้อง
หอกคู่ตละคู่เกณฑ์กะคู่ กันนา
คู่กฤชฤทธิปองป้องปัดเหล้นหลายกล ฯ
๖๖
๏ สุดสิ้นอาวุธสิ้นขบวนถือ
มวยหมัดจัดผจัญมือหมัดหมั้น
มวยหญิงยิ่งหญิงฦาชายเปรียบ เสมอแฮ
เคียนคาดคู่ถันคั้นแปลกเบื้องขบวนชาย ฯ
๖๗
๏ มวยเตี้ยก็ต่อเตี้ยตุมรัด
เหมือนเต่ากับกบกัดเก่งจ้าน
พึ่งเห็นพึ่งอุบัติบังเกิด มีแฮ
สิ้นฤทธิ์แรงโรยคร้านขอดหน้าตาหมอง ฯ
๖๘
๏ เสร็จการสยมโภชให้รางวัล
ท่วนทุกคนครันครันแต่ได้
สามวันบริจาคปันทานทั่ว ชนนา
สรรพสิ่งสรรค์ให้ทั่วแท้ไทยทาน ฯ
๖๙
๏ พระทานผู้ย่อมได้ย่อมทำบุญ
ย่อมแผ่กุศลรุนส่งให้
เป็นเนืองนิตยสุนทรสร เสริญนา
พระจะสุขสวัสดิ์ได้ยืดแท้ตามผลฯ
๗๐
๏ จะภิยโยภาพด้วยปรีชาญ
ตราบตรัสโพธิญาณรานบาปแคล้ว
จะเรืองเกียรติพิศาลสุดโลก
ด้วยบุรพบารมีแคล้วเลิศน้ำแดนไตร ฯ
๗๑
๏ ขอพรพระพุทธเรื้องสพัญญู
จงแผ่พระเดชชูปิ่นเกล้า
ถวายเสร็จโพธิญาณตรูตราโลก
ดัดเด็จปัญจขันธ์เข้าสู่ห้องนฤภาน ฯ
๗๒
๏ ขอพรสธรรมเจ้าช่วยผชุมธรรม์
แปดหมื่นสี่ธรรมขันธ์ช่องชี้
พระไตรปิฎกพลันสิงสู่ พระนา
ให้พระปัญญานี้ตรัสรู้ถ่องถวิล ฯ
๗๓
๏ ขอพรพุทธบุตรผู้พุทธพงศ์
เธอที่สุทธศีลทรงถ่องถ้วน
ให้พระบริบาลคงธรเณศ ยืนนาน
ไหลหลั่งโภคแหล่ล้วนสู่ไท้นิจกาล ฯ
๗๔
๏ ขอพรประเมศวร์เจ้าอมรแมน
ทรงอาสน์อุษัภแดนฟากฟ้า
เชิญช่วยบพิตรแสนสามารถ
เลงทิพนัยยะกล้าแหล่งล้วนชวนเห็น ฯ
๗๕
๏ ขอพรหริรักษ์เรื้องจักรา วุธเอย
ภูวฤทธิจงฤทธิมาแก่ไท้
ปราบมารหมู่ประจามิตรราช
ให้ประสิทธิ์ชัยให้ศึกเสี้ยนสยบแสยง ฯ
๗๖
๏ ขอพรกมลาสน์ท้าวทรงหงส์
ให้พระศรีกายจงอย่าเศร้า
พระชนม์ยืดยาวคงพันขวบ
ให้อัปสรสนมเฝ้านับร้อยพันทวี ฯ
๗๗
๏ ขอพรเทวราชไท้เทวกรรม์
นำเสวตกุญชรจรัลสู่ไท้
ให้ครบทศสารสวรรค์มาสู่ พระนา
เป็นชำนินาคให้ชื่นท้าวชมเขษม ฯ
๗๘
๏ ขอพรพลาหกไท้เทวบุตร
ให้ตกตามระดูยุทติต้อง
อย่าให้ผิดระดูดุจเดือนแดด
ให้ราษฎรอยู่ซร้องแซ่ซร้องเย็นเขษม ฯ
๗๙
๏ ขอพรเทวท่านวาตา
พาพัดรำเพยพาชื่นไท้
ขอพรพระคงคากระแสสมุทร
อย่ามากอย่าน้อยให้โภชน์นั้นพองาม
๘๐
๏ ขอพรยมเรศเรื้องวโรตนา พยพแฮ
เธอทิพนัยนะอาวุธนั้น
ช่วยขจัดหมู่โจรอานีราช
ให้รื่นพระนครชั้นกวาดร้ายขจายเข็ญ ฯ
๘๑
๏ ขอพรจัตุโลกท้าวบริบาล
มาช่วยบริรักษ์สถานท่านไท้
อย่าให้สัตวบาปพานเวียงราช
สถาพรวัฒนให้ปิ่นเกล้าพูลเขษม ฯ
๘๒
๏ สิ้นสุดทรพจนข้าขจายแจง
ยังขาดกมลควานแฝงอยู่บ้าง
หากมีภักดีแสดงโดยเลศ
ควรมิควรคำอ้างผิดเพี้ยนอภัยขอ ฯ
๘๓
๏ คิดด้วยสุจริตด้วยกตัญญู
คุณพระปกกระหม่อมชูชื่นซร้อง
หาสิ่งจะสนองภู-ธรสุด สนองนา
จึงแต่งตามขบวนต้องเรื่องไว้เป็นเฉลิม ฯ
๘๔
๏ หวังให้กุลบุตรเบื้องอนาคต
ให้ปรากฏเกียรติยศปิ่นเกล้า
ไป่ยลแต่สดับพจน์ราวเรื่อง สนองนา
ก็จะสาธุการเช้าค่ำชี้ชมผล ฯ
๘๕
๏ จะแถลงพากยวากย์ทั้งขบวนฉันท์
ลิลิตกาพยวิสรรชง่ายพร้อง
เพลงยาวกลเลอคันโลงลอก ดีนา
เรื่องสิใหญ่โคลงคล้องชอบด้วยขบวนความ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว