นิพพานวังหน้า

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
()
(ข้อมูลเบื้องต้น)
แถว 3: แถว 3:
[[หมวดหมู่: วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่: วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่: กลอน]]
[[หมวดหมู่: กลอน]]
-
[[หมวดหมู่: ยังไม่สมบูรณ์]]
+
[[หมวดหมู่: โคลง]]
 +
[[หมวดหมู่: กาพย์]]
'''พระนิพนธ์:'''[[  พระองค์เจ้ากัมพุชฉัตร]]
'''พระนิพนธ์:'''[[  พระองค์เจ้ากัมพุชฉัตร]]

การปรับปรุง เมื่อ 11:46, 26 สิงหาคม 2556

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: พระองค์เจ้ากัมพุชฉัตร

เรื่องนิพานวังน่า

นิราศบาทเบื้องโอ้      โมฬี
พานจะโศกทั้งศรี      อยุทธเยศ
วังเย็นสงัดตี      อกร่ำ ก่ำเอย
น่ามุขพิมานเมศร์      เมื้อมิ่งแรมหมอง ฯ
แต่พระจอมมงกุฎโลกย์      แรมวัง
แผ่นพิภพเพียงพัง      ม้วยไหม้
ดินโดยอดูรหวัง      หวั่นเทวศ
ต้นแต่ตีทรวงให้      ห่อนเว้นวันเสบย ฯ
             
      ๏ วงษ์อินท์กรุงธิปัตเอกอิศรา
หน่อมงกุฎอยุทธยาเลื่องโลกย์
สืบสายกรมฝ่ายน่าแรมนิราศ
ทรงคิดคราววิโยคพระบิดุร้างสู่สวรรค์ ฯ
      ๏ พระปิ่นอยุทธเยศเจ้าทรงธรรม์
นุภาพปราบมนุษย์สวรรค์ฟากฟ้า
สี่ทวีปถวายบรรณาน้อม
เกรงบพิตรพระจอมหล้าโลกย์ลั่นฦๅแขยง ฯ
      ๏ เคยเสด็จออกแสนเสหนางค์
ร้อยเอ็ดโอนอุตมางค์นอบน้อม
พระฤทธิ์เรืองปานปางสุริเยศ
ทั้งหมื่นกรุงสพรั่งพร้อมกราบเกล้าเศียรสยอง ฯ
      ๏ พระคุณเฮยแต่นี้เงียบวังเย็น
เคยเผยสีหเหนลูกไห้
ยามศุขกลับไปเปนทุกข์เทวศ
คิดฤๅวายวางไข้จิตรโอ้อาดูร ฯ
      ๏ พระจอมมกุฎสามภพไห้สั่งเวียง
พระสนมเสนาะเรียงร่ำร้อง
หมู่มุขมนตรีเคียงครวญคร่ำ
เสียงพิฦกลั่นก้องโศกแส้วังโหย ฯ
      ๏ พระญาณยอดแก้วเฮ่ยยังหัน
เสร็จมาเมื้อเมืองสวรรค์สู่ฟ้า
ฤๅเคียดเสน่ห์ผันหุยหุง เสียเนอ
ม้วยแต่นับโมงถ้าทุกค่ำคืนหาย ฯ
      ๏ พระร่มโพธิ์เกษมิ่งกระหม่อมเฮย
ยามกระเษมแสนเสวยศุขภาพ
สุรางค์บำเรอเคยสพรั่ง พร้อมแฮ
เรียงรอบศิโรราบราชร้างแรมโฉม ฯ
      ๏ โอ้จอมมงกุฎเกล้าจากจร
กรมพระราชวังบวรแรมร้าง
ลูกทุ่มทรวงอาทรเทวศไห้
แสนทุกข์บวายหว้างกี่เหมื้อจักเห็น
      ๏ ย่ำยามสดับเสียงประโคมวัง
ดุริยางค์เสนาะดังพาทย์ฆ้อง
ทีนี้จะเงียบแตรสังข์สูญถนัด
ฟังแต่เสียงสกุณก้องกรู่แก้วเกริ่นขัน ฯ
      ๏ พระคุณเอ๋ยเคยทรงสร้างสมภาร
ปราถนาพระโพธิญาณยอดแก้ว
ออกโอษฐ์ขอคชทการนำสัตว์
จากบ่วงสงสารแคล้วคลาศพ้นพลันเข็ญ ฯ
             

๏ ครุวารกติกมาเส
สุกรอัศสังวัจฉเรเหมันต์จตุมีดิถียัง
นาฬิกาหึ่งหึ่งถึงยามสองได้สามบาทคาดฆ้องประโคมสังข์
พระมงกุฏปิ่นเกษนิเวศวังไม่รอรั้งร้างมิ่งพิมานเย็น
พระสถานสถิตย์เยือกยินแต่เสียงสุรางค์เรียงร่ำเทวศก็เหลือเข็ญ
ข้าธุลีมีกรรมจึงจำเปนไม่เห็นเลยหลักภพพิบัติวาย
โอ้พระมิ่งโมฬีที่พึ่งโลกย์ประชาโศกแสนละห้อยไม่รู้หาย
ฤๅผลเวรสัตว์ทำประจำกายจึงทำลายเจาะจอมกระหม่อมจง
พระกฤษฎาดังพรหมอุดมเดชที่ทรงเพศพาหนพระยาหงษ์
เหมือนสุริเยศไขศรีรวีวงษ์เมื่อเสร็จทรงกลดเยี่ยมโพยมงาม
อรินราชกราบเกรงพระบารเมศมงกุฏเกษสรวมชีพทวีปสาม
เคยเปนฉัตรแก้วกั้นสุวรรณวามดังศศิตามส่องโลกย์สว่างวาว
เย็นเกษบารเมศบรมจักรที่พำนักนิ์หายหาชนาหนาว
พระอานุภาพเลิศลบจบแดนดาวปัจจาผ่าวอุรพาระอาใจ
อันปิ่นราชนิเวศน์วังบวรดัษกรรื่นราบกราบไสว
ถึงรัตนังอังวะที่ฦๅไกรก็ปราบได้ด้วยพระฤทธิเดชาชาย
เมื่อปางหลังที่นั่งสุรามรินทร์อยุทธสิ้นย่อยยับประหารหาย
เพราะไพรินลุยลามตามทำลายกระหม่อมหมายเมืองล่มไม่เล็งคืน
บิตุรงทรงนามธรรมิกราชทั้งสามโลกย์เนียรนาศไม่อาจฝืน
มายกพระสาสนาภิญญายืนประชาชื่นชมโพธิสมภาร
คือล้นกระหม่อมมิ่งมไหวงษ์สองพระองค์เลิศฟ้ามงกุฏสถาน
แบ่งภาคจากองค์พระอวตารผ่านนิเวศน์ปราบดาด้วยบารมี
จึงสิ้นยุคสุขกระเษมทั้งสามภพเทพนบน้อมเกษทุกราษี
สรรเสริญเดชาทั้งธาตรีกรชุลีโปรยทิพย์สุมาลย์มา
โอ้พระคุณเคยการุญพำนักนิ์โลกยิ่งวิโยคยามร้อนไม่ผ่อนหา
เมื่อดับเข็ญเย็นแล้วทั้งโลกาไยนิราร้างราษฏร์อนาถเนา
ปางครั้งทศเศียรอสุรภักตร์เที่ยวหาญหักสามโลกย์ได้โศกเศร้า
นารายน์รามตามล้างจึงบางเบาบันเทาทุกข์ทั่วเทพดาคืน
สุดเกษมไตรภพสบกระสันอภิวันท์ทุกพิมานสำราญรื่น
เหมือนปิ่นจอมล้นกระหม่อมเมื่อยังยืนหมื่นนิเวศน์วรถวายสุมาลี
จึงนิพนธ์แต่หลังไว้หวังสนองให้จำลองสืบกระษัตริย์บดีศรี
หนึ่งครุลหุเคียงแต่เพียงตรีที่ท่านปรีชาช่วยอำนวยกลอน
ใครยลอย่าเพ่อเย้ยพึ่งศึกษาใช่เมธาเจนจิตรบัณฑิตย์สอน
แสนถวิลถึงพระปิ่นชนากรสุดนิวรณ์หวั่นเทวศกำศรวญครวญ
ปัญญาหญิงไหนจะพริ้งไม่คล่องเคล้านี่โดยเดานึกคเนอย่าเสสรวล
ถ้าชำนาญอ่านเล่นเห็นสำนวนปราชญ์ช่วยปรวนเติมแต้มให้งามคำ
เราใช่ราชกระวีที่เฉลียวก็เสียวใจจะไม่คมเหมือนลมขำ
อ่อนหัดไม่สันทัดพึ่งลองทำจะริร่ำร่างลงก็งงนาน
หนึ่งชุลิตฝ่าธุลีมีพระเดชซึ่งก่อเกษเลื่องโลกย์ระบือหาญ
เสด็จสู่สวรรค์เทวพิมานขอมัสการกรน้อมศิโรดม
ถวายต่างทิพมาศมโนแผ้วกราบแล้วจึงลิขิตอักษรสม
โอ้พระปิ่นภพร้อนดังเพลิงรมล้มพระโรคแรกประทับจะอับจน
ประชวรแต่มาฆมาสเหมันต์ฤดูนั้นเดือนหนาวเปนคราวฝน
สิ้นทั้งวังตั้งแต่ทุกข์ระทมทนถึงยุคลมิ่งแก้วเกษกำนัล
เสด็จนั่งหนือบัลลังก์วิเชียรช่วงประดับดวงมณฑามาแต่สวรรค์
ดารารายพรายพร้อมเข้าล้อมจันทร์เหมือนสุริยันย่างเยี่ยงพระเมรุทอง
หมู่อับสรเฝ้ารอบหมอบระดาษพร้มพระราชธิดาประนมสนอง
สุวรรณผุดโพธิญาณ์ฝ่าลอองให้แผ่ปองทรงปิดพระปฏิมา
พระรัศมีหมองเหมือนเมื่อเดือนดับลูกวาววับหวั่นทรวงสหัสา
พระฉวีเสียศรีสุนทราชลนานองเนตรตลึงแล
ยลอนงค์นุชนางสนมน้อมงามลม่อมหมอบผจงดังวงแข
เคยรองบาทจะบำราศสวาดิแดเหมือนจะแปรปราศจากไม่อยากยล
เหนพระไทยจะเปนห่วงหน่วงถนอมจะไกลกล่อมขวัญให้ระหวยหน
จึงเรียกรศอมฤตยวิเชียรชลเสี่ยงกุศลซึ่งสร้างพระโพธิญาณ
แม้นชนม์จะอยู่ช่วยบำรุงทวีปขอให้รีบรับน้ำรศาหาร
ถ้าชีวิตรนี้จะปลิดไม่เนานานอย่าให้พานสอคล่องนิยมยิน
เทวศว่าต่อพระภักรพระชนศรีแล้วทวีทรงพระวิตกถวิล
พิศฐานเสร็จเสวยวารีรินแต่ชั้นกลิ่นกลืนกลับวิบัติเปน
พระอาเจียนเวียนประทะอุรหมองจึงตรัสร้องว่าโอ้มิพ้นเข็ญ
เคยเปนร่มเกล้าโลกย์ได้อยู่เย็นเห็นสุเมรุเอนแล้วจะตรมตรอม
สุเรศดังสุรางค์บำเรออินทร์จะไกลกลิ่นกล่อมกลีบมณฑาหอม
เคยสงวนนวลเฉลิมเปนเจิมจอมยามถนอมแนบชื่นไม่คืนเคียง
แต่ครวญคร่ำน้ำพระเนตรนั้นนองเนตรแสนเทวศพร้องเพราะพระสุรเสียง
พระสนมรอบร่ำพิไรเรียงเคยชุบเลี้ยงจะนิราศพระบาทา
จึงดำรัสเรียกเหล่าบุตรีสมรประโลมสอนพ่อจะร้างนิราศา
ดวงจิตรฝากชีวิตรพระบิตุลาวาศนาหาไม่จงเจียมสกนธ์
สมรยากฝากองค์ให้การุญถ้าพระคุณเคืองเข็ญไม่เปนผล
จะพึ่งพ่อเล่าก็พ่อไม่ยืนชนม์ยลแต่บาทนะจงตั้งภักดีตรง
หนึ่งพระเสาวนีที่มียศพระธิดาปรากฎมงกุฎหงษ์
จงฝากกายนะอย่าหมายหมิ่นทนงเจ้าเปนวงษ์จงรักษ์ธุลีลออง
ที่นี้ถึงเทพถือโอสถทิพย์ผจงหยิบมาประมูลทูลฉลอง
ไม่เสวยเลยให้เวทนาปองจะต้องเนิ่นทรมานรำคาญเคือง
สดับตรัสดังมัจจุราชรีบประหารชีพลูกหายทำลายเบื้อง
เมรุมุ่งเคยประจำทวีปเรืองถ้าล่มแล้วจะมิเนืองน้ำตาตาย
บ้างข้อนอกร่ำโอ้มิควรเข็ญดังกระเด็นเศียรเกล้าของเราหาย
เคยปราโมทมีศุขทุกวันวายเหมือนสายเนตรจะเปนสายโลหิตกอง
ถึงยามเกษมเคยแสนสำเริงรื่นกลับสอื้นนึกโอ้มโนหมอง
แต่นั้นมาพร้อมหน้าไม่ไกลลอองหมายฉลองพระคุณคอยระวัง
ผลัดโมงกันไม่ให้คลาดสักบาททุ่มดังเพลิงรุมร้อนอกวิตกหลัง
แต่นั่งยามย่ำฆ้องจนเคาะระฆังลูกหวังฟังราชกิจจะหนักเบา
ปางปิ่นโมฬีทั้งสี่ทวีปดังศศิธรร่อนรีบขึ้นเหลี่ยมเขา
เสวยทุกข์มิได้ศุขสถิตย์เนาให้เชิญเอาพระอาการนราพงษ์
พอรตินทิวาเวลาสงัดดำรัสร่ำคำหวานละลานหลง
ตลึงแลดูนิเวศจังหวัดวงยิ่งแสนทรงพระวิโยคเมื่อยามตรอม
ว่าอนิจจังครั้งนี้จะไกลเนตรนึกสังเวชก็แต่บุตรสุดถนอม
จะพึ่งวงษ์ไม่จงเหมือนบิตุจอมจะร่ำโอ้ทูลกระหม่อมนิราคลา
พรหมภักตร์พร้อมภักตร์ละห้อยหวลแต่นี้นวลนะอย่าโหยละห้อยหา
ทั้งพิมานดุสิดาสวรรยาฤๅจะราแรมร้างจากปรางค์ไป
แต่พื้นทรงสมญาปราสาทซื่อประสิทธินามไว้ให้ฦๅพิภพไหว
แล้วนึกพระบิตุลายิ่งอาไลยจะเปลี่ยวพระไทยจินดานุชาครัน
คราวณรงค์เห็นจะทรงดำริห์คิดเคยร่วมจิตร่วมคู่เสวตรสวรรค์
ร่วมชีวิตรปลิดพรากไปจากกันร่วมสุวรรณเสวตรฉัตรกระจัดนาม
จะภินทนาอยู่เออนาโถจะนึกโอ้ฤๅไม่เอื้อนระคางขาม
ฤาจะแสนโศกเทวศถวิลความเปนเพื่อนไร้ในยามกันดารนาน
พระเดชขจรนครกระษัตริย์สิ้นแต่พื้นผินน้อมศียรหัตถ์ประสาน
ถวายเครื่องทิพย์มาศสุมาลย์บรรณาการเนื่องแน่นประนมคม
ออกพระนามก็ให้ขามขยาดยศเห็นปรากฎเกียรติเกินพระสยม
อาณาราษฎร์ร้องถวายพระพรชมจนประถมล่วงพระชนม์นรินทร์
ร้อนอาศน์เทวราชอมรเมศร์เทพเทวศทุกวิมานรังสิน
สิบหกชั้นช่อฟ้าดุสิตอินทร์ประชุมผินผันย้ายราษีจร
เข้าสถิตย์สิงสู่กำภูฉัตรกระจัดแจ้งออกด้วยเทพสังหร
หวังให้เลื่องบารมินปิ่นนครกระฉ่อนภพจบหล้าลือขจาย
มหัศจรรย์โลกย์ลั่นกำปนาทสุธาวาศไหวกระทบคูหาหาย
สุเมรุเอียงแทบจะเอนอันตรายสายสินธุ์เปนละลอกกระฉอกฟอง
พระสมุทเพียงจะทรุดไม่หยุดคลื่นภุชชงศ์ตื่นเผ่นน้ำผันผยอง
ประทุมเกตุอาเภทดังสีทองแสงส่องยลปลาดไม่อาจแล
เมฆหมอกออกมัวไปทั่วทวีปพิรุณรีบโปรยกระสินธุ์รินกระแส
ฟ้าดินวิปริตเห็นผิดแปรทีนี้แน่แล้วพระจอมกระหม่อมเวียง
ทั้งโพยมก็พยับพยุฝนดูฤกษ์บนเทเวศร์ถวายเสียง
สุนีฟาดอากาศก้องสำเนียงดังเปลื่องเปลี้ยงฟ้าลั่นคำรามรน
วายุพาพัดปาริกชาติก็พินาศพังรเนนไม่ตั้งต้น
เสวตรฉัตรหักยับระยำยลฤๅเทพดลบันดาลฟ้ามาเชิญ
วิหคร้องในห้องเวหาหาวเหมือนเสียงสาวสมรอัปศรเหิน
เหมือนศุลีรอยชลอพิมานเกินคอยพระราชดำเนินเสด็จคลา
บังเกิดมีองค์พระศรีมหาโพธินิโรธร่มฝูงสัตวมนัศา
ก็แรมร่วงล่วงลับอยู่โรยรากลับระย้ายอดลัดระบัดใบ
เมื่อจวนจอมรพีพงษ์ทิวงคตโพธิ์สลดเอนล้มระทมไข้
ดังมีจิตรคิดแสนเทวศใจดังอาไลยในเบื้องบดินทร์วาย
ฦๅล้นกระหม่อมจอมดาวดึงษ์เดชแสดงเหตุแจ้งอัตถ์กระจัดถวาย
ว่าโพธิ์ทองหมองแล้วจะอันตรายเมื่อลูกหมายเหมือนพระจอมโลกากร
ด้วยพระปิ่นจรรโลงอยุทธเยศทุกประเทศเกรงจบสยบสยอน
จึงสำแดงบารเมศฦๅขจรว่าร่มร้อนเกล้าโลกย์เคยอยู่เย็น
ครั้งนี้จะเสด็จสู่สวรรคตก็ปรากฏอัศจรรย์จะให้เห็น
นิจาโอัอกเอ๋ยมิเคยเปนจะเกิดเข็ญูแน่แล้วสุชลริน
บัญูชรวายุสถานอัมเรศทั้งพิมานพรหเมศนรังสิน
เลร็จศุขจตุรมุขพระแกลยินเยยดังพิณพาทย์เพลงบรรเลงกลอน
ไฉนหมองกลับร้องสำเนียงโหยอดูรโดยพระมิ่งอดิศร
แต่พระที่นั่งดังภินทนาวรณ์นี่ฤๅเราจะมิข้อนอุระครวญ
ซรอยเทพยดารักษาวังถวิลหวังบริรักษ์แรมสงวน
เคยรองมุลิกานิรานวลรเหยหวลอาไลยธุลีลออง
มหัศเหดุใหัเทวคทวีร่ำยิ่งกลืนระกำกอบกินสุชลหมอง
สารพัดจะวิบัติบังเกิดปองชวนกันพร้องพร่ำโอ้แต่นี้เรา
อันฉัตรแก้วร่มเกษเฉลิมโลกย์เห็นวิโยครัศมีมณีเศร้า
เคยเรืองแสงส่องวามเห็นงามเพราเสมอเขาพระสุเมรุเอนทำลาย
สุกรปักษ์เหมันติกามาคเสร็จปำราศเอกานิราหาย
กำสรดสั่งยังวิหารอารามพรายถวายกรวอนทูลพระชินวงษ์
มณฑปดังจุฬามณีสวรรค์พระเพลิงหั่นล้างใหัเปนผุยผง
พึ่งทรงสรัางฤๅจะรัางไปเอองค์จะชีพจงคตสิ้นเสียก่อนกาล
สถิตย์เถิดลาแลัวพระชินศรีชุลีหัตถ์ไห้ร่ำด้วยคำหวาน
พระวรรณโรครึงรนไม่ทนทานทรมานนานเนิ่นก็เกินแรง
ประชวรซูบผิดพระรูปร่ำเทวศชลเนตรนองภักตร์ชักพระแสง
จะล้างองศ์ลงใหัวางเสียกลางแปลงโอรสแย่งเคียงยุดพระกรกุม
อนิจาอาดูรแล้วทูลหัามจงโปรดตามอย่าเพ่อทอนพระชนม์ทุ่ม
พระเป็นที่ร่มฉัตรสัตว์ประชุมค่อยเหือดกลุ้มพระอุระสบายคลาย
กลับสู่พระนิเวศน์นิวาศสถานถีงพระทวารสั่งเสร็จพระไทยหาย
โอ้เวียงเอ๋ยเคยเกษมเปรมปรายประมาณหมายแม่นมิ่งพิมานอินทร์
ทีนี้จะเงียบเหงาเย็นเปนวังร้างดำรัสพลางทอดถอนฤทัยถวิล
แต่ครรไลรอบราชวังนรินทร์แล้วก็ผินเผยผันพระบัณฑูร
ว่าอนิจาครั้งนี้จะนิราศเคยเอนอาศน์ปัจฐรณ์จะสิ้นสูญู
พระภักตร์หมางหมองเศร้าด้วยอาดูรภูลเทวศทุกทิวานิจากรรม
จึงเอื้อนเทวบัณฑูรสั่งสนมต่างประนมหัตถ์รับพิไรร่ำ
จงค่อยอยู่เถิดวิบากจะจากจำน้ำพระเนตรอาบชลธารนอง
ตรัสสั่งวสันดรพิมานแก้วจะลาแล้วแรมรัางอย่าหมางหมอง
เคยสำราญูเนาสถานพิมานทองจะไกลห้องทิพเยศนิเวศน์วัง
นิเวศน์เวียงยินแต่เสียงสนมโศกเสน่ห์แสนสุดวิโยคไม่วายหวัง
ไม่เว้นว่างนางในไห้ประดังประดาหวลครวญตั้งตลอดปี
แต่ปางหลังครั้งเบื้องบรเมศร์บรมบาททุเรศนิราหนี
นิราศร้างแสนสุรางคเทพีเทพินมีแต่ตีอุระกรม
อุราเกรียมเทียมแทบไคลทับศิลาทุ่มทรวงคับด้วยทุกข์ถม
ทุกข์ปะทะถึงบดินทร์สุรินทร์รมย์สุเรศร้างจะระบมอารมณ์โรย
อารามร่ำจำจากจอมนิเวศน์จึงนิวรณ์อ่อนเกษถวิลโหย
ถวิลหาถีงฝ่าลอองโอยลอายอาบเนตรโกยแต่กองชล
แต่การชื่นฝืนใจใม่มีศุขมาน่ามุขเหงาเงียบละห้อยหน
ละห้อยหวลล้วนลางพิไรรนพิลาปแล้วจะไม่ยลยุคลคืน
ยิ่งฆ้องค่ำย่ำสนธยาหมองทเยศหมางห่างห้องหวลสอื้น
โหยสอึกนึกอนาถสวาดิกลืนเสวยทุกข์ไม่ชื่นสักนาฬิกา
นาฬิกาลฆ้องขานประจวบทุ่มสุชลชุ่มเนตรซับกับภูษา
มิไดัเยื้อนเบือนเบิกสักเวลาชลนาดังสายพิรุณโปรย
จึงโศกสั่งพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ว่าแต่วันนี้จะลาระหาโหย
เคยจำเริญเมาฬีสวัสดิ์โดยโอ้จะโอยโอษฐร่ำระกำครวญ
ถีงเกยเคยปรัทับพระยานุมาศแล้วลีลาศตามท้องวิถีฉนวน
เทพบุตรนำน่าสง่าควรกระบวนแห่แล่ล้วนประนมเรียง
บ้างก็เชิญเครึ่องสูงมยุรฉัตรแน่นขนัดแตรสังข์ประดังเสียง
วรเทพมลายูเปนคู่เคียงเหมือนอิเหนาเข้าเวียงนาดกรมา
ล้วนกุมกฤชกรายเยี้องชำเลืองคมดูสวยสมเมื่อมะงุมมะงาหรา
ฤๅปันหยีที่มาปลอมจอมชวางามสง่าปางก่อนบ่ห่อนมี
ฝูงอนงค์ถือทิพย์ประทุเมศดังสุเรศแรมฟัาจากราษี
ที่เดินถัดเชิญพัชนีวีเหมือนลักษมีแบ่งภาคจากนารายน์
นางถือพระแส้แลเลี่อนลอยโพยมงามโฉมดังจะล่องละลิ่วหาย
นางเชิญพระแสงแต่งกรีดกระบวนกรายเสมอหมายเหมือนอุเมศครรไลลง
ที่เชิญเครื่องค่อยเยื้องมาเจียนจริตเมื่อพินิจดังนางสุรางค์หงษ์
อันแห่น่ากุมารีมีพงษ์ล้วนทรงเครื่องประดับสำหรับกาย
ถือดอกไม้ทิพมณฑาสวรรค์ดังเทวัญว่ายเมฆลงมาถวาย
กรประนมสมภักตร์ประพริ้มพรายฝรั่งรายเดินคู่ก็ดูงาม
อันเกณฑ์แห่แลสล้างดังนางเขียนก็หันเวียนวงรอบคำรบสาม
กระบวนนำพฤฒาราชกระวีพราหมณ์เคียงตามโปรยเจียนวิเชียรวรรณ
อันฝ่ายหลังล้วนฝูงสนมแน่นประหนึ่งแสนกัญูญามแต่สวรรค์
ดังอับศรจรจากพิมานจันทร์พระกำนัลนางสระละออองค์
บรรดาหมู่มนตรีที่มีหน้าก็ตัองมาตามเสด็จโดยประสงค์
พระโอรสรับเครื่องกุภัณฑ์ทรงดังอินทร์องค์ทรงเอราวรรณจร
เสด็จพระราซดำเนินดูสง่าดังนราหน่อนารายน์เมื่อกรายศร
อันเขาแก้วดังแก้วคิรินทรเทียมนครไกรลาศศุลีฦๅ
สงสารแกัวกำพร้าที่อยู่หลังโอ้จะได้เหมือนยังพระชนม์ฤๅ
เคยตั้งการมงคลจนระบือข้างน่าคือใครจะช่วยอำนวยนาม
ชรอยสิ้นวาศนาโอ้อาภัพจะแลลับหวั่นเวทนาหวาม
ได้พึ่งพระบิตุลาพยายามจึงงามยศงดยังประทังทน
เสด็จออกท้องพระโรงวินิจฉัยไขเทวบัณฑูรอนุสนธิ์
แด่บรรดาเหล่าข้าฝ่ายุคลไม่ยลภักตร์จะนิราศแรมคลา
จึงดำรัสสั่งเสวกามาตย์เคยรองบาทเปนศุขเถิดทุกหน้า
เราจะล่วงทิวงคตครรไลลาจงชีพใตัฝ่าธุลีลออง
อย่าคิดคดทรยคไม่จงรักจงตั้งภักดีต่อยุคลสนอง
อาสาอย่าได้คิดชีวิตรปองฉลองพระเดชกว่าจะสิ้นชีวินปลง
เสนางค์ต่างแสนกำสรดเศรัาแล้วรับสั่งใส่เกล้าตลึงหลง
สุชลอาบกราบเบื้องบรมวงษ์โอ้พระทรงคุณโลกย์ไดัความเสบย
จะนิราศแรมร้างนิราสถานจะแดดาลโดยวิตกนะอกเอ๋ย
เมื่อเฝ้าบาทไม่ขาดเวลาเคยจะแลเลยทุกนิรันดร์นับวันตรอม
พระบิตุลาปรีชาเฉลียวแหลมขยายแย้มสั่งให้ห้อยมณฑาหอม
พระโองการร่ำว่านิจาจอมถนอมขวัญตรัสโอ้พระอนุชา
ว่าพ่อผู้กู้ภพทั้งเมืองพึ่งจงข้ามถึงพ้นโอฆสงสาร์
ดำรงจิตรคิดทางพระอนัตตาอนาคตนำสัตว์เสวยรมย์
             

ครั้นทรงสดับโอวาทประสาทสอนค่อยเผยผ่อนเคลื่อนคล้องอารมณ์สม
แต่หนักหน่วงห่วงหลังยังเกรงกรมประนมหัตถ์ร่ำว่าฝฝ่าลออง
บุญน้อยมิได้ครองยุคลคืนยิ่งทรงสอื้นโศกสั่งกันทั้งสอง
จึงทูลฝากพระนิเวศน์ที่เคยครองประสิทธิปองมอบไว้ใต้ธุลี
ฝากหน่อขัติยานุชาด้วยจงเชิญช่วยโอบอ้อมถนอมศรี
แต่นั้นพงษ์จงพึ่งพระบารมีจงปรานีนัดดาอย่าราคิน
เหมือนเห็นแก่นุชหมายถวายมอบจะนึกตอบแต่บุญการุญถวิล
ก็จะงามฝ่ายุคลไม่มลทินก็เชิญผินนึกน้องเมื่อยามยัง
อนึ่งหน่อวรนารถผู้สืบสนองโปรดใหัครองพระนิเวศน์เหมือนปางหลัง
อย่าบำราศใหันิราแรมวังก็รับสั่งอวยเออพระโองการ
จึงตรัสปลอบพระบัณฑูรอาดูรด้วยว่าจะช่วยเอาธุระแสนสงสาร
เปนห่วงไปไยพ่อใหัทรมานจะอุ้มหลานจูงลูกไม่ลืมคำ
อันเยาวยอดสืบสายโลหิตพ่อที่ตั้งต่อสุจริตอุปถัมภ์
ครั้นทรสดับแน่นึกลำเนาคำก็คลาย่ำทุกข์ถ้อยบันเทาทน
จึงออกโอษฐเรียกโอ้ปิโยรสทรงกำสรดซ้ำสั่งอนุสนธิ์
อยู่หลังนะจงเจียมเสงี่ยมตนฝากชนม์พระปิตุลาอย่าอาวรณ์
อย่าประมาทเกรงราชไภยผิตระวังจิตรนะจงจำคำสอน
สุจริตคิดพระคุณดังบิดรพ่อจะจรจากแล้วประโลมลา
อันสมเด็จหน่อนารถพระราชบุตรจะเปนมงกุฎสืบสายในภายน่า
อย่าบังอาจล่วงพระราชอาญาพ่อจะนิราร้างเจ้าไม่เนานาน
จึงให้หาพระบัญชาวังหลังสั่งพ่ออยู่หลังเลี้ยงน้องประคองหลาน
พระนัดดาน้อมศิราลงกราบกรานก็จากสถานเมื้อมิ่งพิมานแมน
ครั้นเสร็จสั่งพอได้พิไชยฤกษ์บ่ายเบิกบุษบกอมรแสน
มาตุลีชักรถออกจากแดนเทวแน่นเภรีลั่นกลองประโคม
ลูกยินแว่ววาบกรรณประหวั่นเสียงสำเนียงเพียงพิณพาทย์อมรโฉม
แด่ยลเวชยันต์นั้นลอยโพยมคะครึกโครมแตรสังข์ทั้งวิมาน
พระบิตุรงค์ทรงบุษบกเคลื่อนละลิ่วเลื่อนออกช่องบัญชรสถาน
ต่างสยองศิโรราบลงกราบกรานชมโพธิสมภารอเนกนันต์
ปางพระเนาวโลกโมฬีล่วงก็ตกพวงมณฑามาแต่สวรรค์
คราวนี้ก็จะมีพระเกียรติครันด้วยอัศจรรย์เห็นแจ้งประจักษ์ความ
ผู้ใดสดับอย่าหมิ่นประมาทแหนงถ้าใครแคลงจงลืบสำเนาถาม
ใช่จะยกพระยศยอแต่พองามเราแต่งตามจริงใจในนิพนธ์
มาดถ้าใครฟังอ่านนิพานนี้ไม่น้อมศิราราบกราบสามหน
ให้วิบัติอุบาทว์อย่าขาดสกนธ์แต่ยลเร่งประนมนมัสการ
จะเหมือนพรธาดาประกาสิตต้วยบพิตรเลิศภพจบสถาน
จะนำสัตว์ลัดล่วงตัดบ่วงมารโพธิญาณแท้เที่ยงพระชินวร
จึงจาฤกนึกดังสุพรรณบัตรออกพระนามจักรพรรดิในนอักษร
อย่าเมินหมิ่นว่ารบิลเปนราวกลอนจงอ่อนเศียรบังคมให้สมควร
อันหน่อสุริวงษ์ดำรงโลกย์สุดวิโยคมิได้วายกระหายหวล
ทั้งบุตรีโอรสกำสรดครวญฤๅโดยด่วนเด็ดพระอาไลยไป
พระคุณเอ๋ยผันภักตร์มาสักน้อยลูกละห้อยซลเนตรนี่เหลือไหล
ไหลหยัดๆ ย้อยแต่ชลไนยในใจนึกที่ไหนจะเสร็จคืน
คืนมาวังวังเหงาให้เปล่าจิตรจิตรยิ่งเศร้าเศร้าคิดโศกสอื้น
ลอื้นโอ้โอ้จะพร่ำระกำกลืนกลืนทุกข์ๆ ไม่ชื่นมโนตรอม
ตรอมในอกๆ เอ๋ยลูกเคยเห็นเห็นหายๆ เว้นแต่ทูลกระหม่อม
กระหม่อมโลกย์ๆ ร้อนนิวรณ์จอมจอมนิกรๆ น้อมทั้งหมื่นกรุง
กรุงเทพๆ พระนครสถานสถานเพียงๆ พิมานดุสิตมุ่ง
มุ่งเหมือนเมืองๆ แมนแดนผดุงผดุงเดชๆ บำรุงโลกาควร
ควรเปนปิ่นๆ ปักหลักเฉลิมเฉลิมยศๆ เพิ่มกุศลสงวน
สงวนงามๆ พระเกียรติระบือทวนทวนภพๆ ครวญอยู่เครงคราง
ครางครุ่นๆ ยังหวลรำจวนหาหาองค์ๆ อิศราขนาง
ขนางนึกๆ เสียดายไม่วายวางวางโศกๆ ไม่สร่างอดูรตรม
ตรมตรอมๆ จิตรพระบิตุราชราษฎร์ร่ำๆ อนาถราคินขม
ขมก็กลืนๆ เฝื่อนฝาดระทมระทมแทบๆ ระบมอุระราน
รานร้างๆ พระจอมกระหม่อมโลกย์โลกย์ร่ำๆ วิโยคทั้งทวยหาญู
หาญเหิมๆ บรรดาข้าราชการการศึกๆ สท้านทั้งโลกา
ดังนเรศร์อวตารมาผ่านภพทหารรบพระนารายน์ฝ่ายสวา
เหมือนสิบแปดมงกุฏของรามาฤๅราเมศร์พวกพานรินทร์ราม
นารายน์แรมจึงแจ่มขจรเดชกระจ่างดังสุริเยศไพรินขาม
ไพรีเข็ดสั่นเศียรเวียนประณามหวังประนอมนึกคร้ามพระเกียรติครัน
ด้วยมีพระเดชาอานุภาพทั้งสามภพรื่ราบสโมสันต์
เสมอองค์กับพระทรงอาศน์สุบรรณเสด็จมาปราบอาธรรม์ประไลยลอย
โอ้ครั้งนี้มานิราศพระบาทแล้วดังหลักแก้วหักล้มระทมถอย
ไม่ยลใครชาญสนามจะตามรอยไหนน้อยยศยามตกอกระกำ
แล้วคืนคิดถึงพระบิตุลาเล่าสร่างเศร้าอยู่ด้วยได้ที่อุปถัมภ์
เพราะสั่นรับสัจจาสัญญาคำเห็นจะลำฦกได้ไม่แปรปรวน
ลูกยลล้นกระหม่อมสวรรคตฝ่าลอองกำสรดแสนกำสรวญ
ยังรักน้องคงประคองนัดดาครวญถ้าหุนหวลเห็นจะทำเพราะกรรมเคย
แด่ทรงเสนหาพระนุชมากเมื่อคราวฝากนั้นก็เศร้าโศกเสวย
นึกพระน้องหมองฤไทยไม่เสบยเสด็จเลยมาพอยลพระชนม์วาย
ทรงสถิตย์เหนือจอมศิโรเพศเห็นสังเวชหวามวาบพระไทยหาย
กรายพระกรกรีดน้ำพระเนตรกระจายกระหม่อมหมายเหมือนชีวิตรประไลยไป
พระสนมตรมทรวงไม่สร่างเทวศพระบารเมศเลิศหล้าจะหาไหน
เคยเย็นเกษคุ้มเภทระงับไภยเห็นเขาไห้ก็ละห้อยพระไทยตรอม
ดำรัสร่ำเรียกโอ้พ่อมิ่งเมืองถึงยามเคืองพี่ก็ข้ามตามถนอม
สู้เอาใจใม่ถือทั้งอดออมเพราะหมายกล่อมขวัญูน้องประคองเคียง
ถึงคราวณรงค์เคยรบประจันหน้าหมู่ปัจจาถอยท้อไม่ต่อเถียง
ความศุขให้พี่แสนสำราญเวียงอุระเพียงเพียบทุกข์สักพันกอง
โองการร่ำว่าโอ้โมฬีเฉลิมเชษฐเติมตวงชลวิมลหมอง
เคยดับเข็ญูเย็นราษฏร์อำนาจครองประชาปงอพึ่งพ่อทั้งอยุทธยา
มาซัดพี่หน่ายหนีประยูรญาติพ่อนิราศแต่เออนาถา
ดังนเรศร์เริงฤทธีอิศราพระบิตุลาทรงโศกกำสรดโทรม
ฝูงอนงค์ร่ำร้องแล้วนองเนตรว่าโอ้พระเดชปกจอมกระหม่อมโฉม
ดังทินกรจรเยี่ยมเหลี่ยมโพยมทุกกรุงโน้มน้อมพึ่งพระเดชา
ทั้งหมื่นเมืองเลื่องพระยศระย่อขามออกพระนามดังนารายน์อยู่ฝ่ายน่า
เศียรสยองต้องออนศิโรมาจนชั้นข้าทูลบาทก็เกรงครัน
พระคุณเอ๋ยดังองค์พระสุริเยศเสร็จประเวศเลื่อนล่วงเสวยสวรรค์
ไม่เยี่ยมยอดเขาแก้วสัตภัณฑ์เหมือนบุหลันลอยฟ้าเมื่อราตรี
อันดาวอื่นถึงจะเอี่ยมไม่เทียมแขกระจ่างแลก็แต่จันทร์จำรัสศรี
ดังหิ่งห้อยน้อยกว่าพระบารมีถึงจะชี้แข่งเรียงไม่เคียงดวง
ไหนจะเทียมเท่ารัศมีเหมือนสว่างเดือนสิมาดับลับล่วง
ดังอกเราก่นแต่เฝ้าระหน่ำทรวงจะตั้งตวงเติมเทวศไม่วายวัน
โอ้สุเมรุหลักหล้าโลกาสถานมานิพานสู่ฟ้าเสวยสวรรค์
เหมือรคราวพบครั้งไภยประไลยกัลป์ถึงวิสัญญียุคประจวบเปน
เพราะพระมิ่งโมฬีนิราศาหากลอองพระบิตุลาคุ้มเข็ญู
คลายร้อนด้วยเอนดูให้อยู่เย็นก็เขม้นหมายพึ่งพระบารมี
แต่กำสรดระทดวิมลหมองจนย่ำฆ้องจวนอรุณรังษี
เชิญพระแสงปราบประจามาชุลีแสนทวีโศกถวายยุคลครอง
แล้วพิลาปต่างว่านิจาเอ๋ยพระคุณเคยปกจอมกระหม่อมหมอง
พี่นางเกษราชลนานองกลืนเต่กองทุกข์ทบสลบลง
เหล่าขนิษฐคิดหวั่นอุระร้อนประคองช้อนเชิญสุคนธ์มาโสรจสรง
ยิ่งอาดูรฤๅจะสูญไปตามองค์พอดำรงฟื้นสมประดีมี
ลืมพระเนตรมิได้ยลล้นกระหม่อมสอี้นพร้อมกันพิไรอยู่ในที่
จึงพระจอมบดินทร์ปิ่นธรณีมงกุฎตรีโลกย์เลื่องสุธาดล
นึกธรรมสังเวชสมเพชเห็นจะดับเข็ญใหัเปนศุขสถาผล
ว่าจะเลี้ยงเหมือนบิดาอย่าร้อนรนดังคืนชนม์ได้ชื่นด้วยโองการ
ครั้นสุริยงรังษีรวีไขเชิญให้บรมเบื้องสรงสนาน
ก็ชุบรอยฝ่าพระบาทไว้กราบกรานโศกประลานแซ่เสียงสำเนียงระงม
จึงเชิญพระศพสถิตย์พระโกษฐแก้วประดับแล้วแห่มาสง่าสม
ประทับที่ยิ่งทวีเทวศตรมบอบระบมแต่ด้วยทุกข์ไม่ศุขมี
พระโองการสั่งประภาศให้โกนเกษทั่วทั้งอยุทธเยศบุรีศรี
อีกร้อยเอ็จนัคราประชาชีแจ้งคดีกัฎหมายมีตราวาง
พระคุณเอ๋ยเอกาอนาโถนิจาโอ้องค์เดียวอางขนาง
เมื่อยามศุขพร้อมองค์อนงค์นางถึงคราวร้างไร้ลวาดิอนาถองค์
ลูกใคร่ตามไปสนองรองธุลีห่วงมีอยู่เหมือนไม่อาไลยหลง
จะทอดทิ้งเล่าก็มิ่งมาตุรงค์แล้วไรัพงษ์จึงสถิตย์เปนเพื่อนยัง
โอ้พระจอมอิศเรศเกษกระหม่อมบุตรีตรอมแสนเทวศถวิลหวัง
เพราะมงกุฎประชานิราวังร้อนทั้งอยุทธร่ำทุกเวลา
ครั้นทรงพระโสภะบุพโพไหลปลาดใสสีแดงระแวงว่า
ฦๅตลอดแต่พระยอดสัพพัญญาเสด็จมาเมืองแก้วพระนิพาน
พระบุพโพเพียงหรคุณชาดดังพระบาทปิ่นโลกย์โศกประสาน
จะสำเร็จปรมาภิเศกฌานอันว่าการมีมาเหมือนบาฬี
ฤๅไนยสืบรงสร้างพระบารเมศไม่เพี้ยนเพศผิดพุทธชินศรี
จะนำสัตว์ตัดกิเลศในโลกีย์ใหัถึงที่วิโมกข์อมรเมือง
ฝ่ายคนคอยประจำสำหรับเฝ้าก็นำเอาพระบุพโพโมฬีเลื่อง
เชิญสุคนธ์ปนปรุงอำรุงเรืองได้กลิ่นเฟื่องรศทิพย์อาบลออง
เชิญพระโกษฐเพ็ชรรัตน์จำรัสเนตรนำประเวศชูช้อนกรสนอง
ขึ้นอาศน์พระยานุมาศทองคนประคองเคียงตามเสด็จมา
อันเกณฑ์แห่แต่งเปนเทพบุตรกรก็ยุดเครื่องสูงสพรั่งหน้า
ประโคมฆ้องกอลงลั่นปี่ชวาฝูงประชาโศกแซ่สำเนียงพล
เห็นเกณฑ์แห่แลตามความวิโยคว่าโอ้โลกย์แล้วจะไม่จำเริญผล
จะนองเนตรเทวศท่าฝ่ายุคลราษฎร์รนร้อนร่ำทุกเวลา
ครั้นถึงวัดไชยชนะสงครามขันธ์เคยปลุกเครื่องคงกระพันได้ศึกษา
จึงหยุดประทับเชิญพระบุพโพมาขึ้นมหาเชิงตะกอนดำเกิงพราย
โอ้พระหนึ่งจุลเจิมเฉลิมโลกย์ข้าพระบาทหวาดวิโยคไม่เหีอดหาย
จึงจุดเพลิงเริงแรงแสงขจายไม่ขาดสายเนตรสอี้นแล้วคืนวัง
พอประจักษ์พวกที่นั่งนามวิเชียรโคมเขียนเพ็ชรพนักฝาผนัง
กระหนาบยกเปนกระจกช่องกระจังตังพระแท่นแว่นฟ้าสง่างาม
วัดพระจอมจุลจักรสวรรคตก็ระทดทุกข์สิ้นถวิลหวาม
จึงโถมถาสาครินทร์ทุเรศตามไม่ขามชีพไว้ชื่อใหัฦๅชาย
ก็เลื่องโลกย์เปนตราดังจารึกอันตายงามนามนึกไม่วายหาย
ดังทหารทรงครุธบุตรพระพายสู้ถวายชีวาตม์บาทบงสุ์
ยังมึสารนามสังหารคชสีห์ที่นั่งนี้คู่ศึกเสร็จประสงค์
ดังพระยาไอยเรศสุรินทร์องค์เคยทรงอานุภาพได้ปราบดา
อนิจาเครื่องประดับสำหรับหาญอันตรธานโดยเสด็จนิราศา
เสด็จอยู่ถีงฤดูดวงผกาเคยพาวรพงษ์อนงค์นวล
ไปรับพวงทิพมาศประทุเมศโอ้ถึงเทศกาลแล้วสิหายหวล
มหาชาตึไตรมาสประจวบจวนเคยประมวญดวงมาลย์ประทานทำ
ยังแต่พระที่นั่งทรงธรรมสถิตย์ธรรมาศน์แม้นวิจิตรเลขาขำ
พระชินวงษ์ช่วยทรงบำบัดกรรมขอเชิญนำเสด็จคืนสักหมื่นปี
ติกมาศกาฬปักษ์จะชักโคมเคยชวนโฉมสุเรศในราษี
สนมน้อมพร้อมพระราชบุตรีดังศุลีพานางสุรางค์จร
ล้วนอนงค์ทรงลักษณ์ละลานโฉมลอยโพยมมาด้วยเทพอับศร
จุดพระเทียนกระทงลอยชโลธรถวายกรพระคงคาในสาชล
ฤดูวสันต์อาสุชมาศาเปนน่ากระฐินทานการกุศล
พลแห่โห่กระหึ่มเสียงคำรนกระสินธุ์วนเวียนละลอกกระฉอกโครม
อันพระที่นั่งกิ่งแกัวนำเสด็จบรรทุกเสร็จไตรเพทวิเศษโสม
พยุพยับมืดเมฆมัวโพยมเสียงประโคมครื้นครั่นสนั่นวัง
เสด็จตรงลงพระตำหนักแพประสานแตรพิฌพาทย์ดีดสีสังข์
กระทุ้งส้าวกลองชนะสำเนียงดังทรงขี่นั่งโคมเพ็ชรเพียงนารายน์
ประชาราษฎร์ก็ขยาดพระเดชรอบประนมหมอบโอษฐอวยพระพรถวาย
แต่นี้นับทิวาไม่ราวายไหนจะคลายเคลื่อนทุกข์ทวีเติม
ถึงทวารวดีบุรีร้างก็ทรงสร้างพระอารามงามเฉลิม
ที่วัดค้างโรยราปัจจาเจิมจะรื้อเพิ่มบารมินภิญโญปอง
ประสงค์สร้อยสรรเพ็ชญ์ให้เลร็จสมโดยนิยมโพธิญาณการฉลอง
พวกข้าเฝ้าใต้ฝ่าธุลีลอองนำสนองในสำนวนมาลวนลาม
ซึ่งขอคำเหน็บแนมดูแหลมเหลือหมายว่าเชื่อตั้งกระกู้ขู่ให้ขาม
แม้นดีจริงก็จะตรงออกสงครามนี่ปิดนามหลบหน้าท้าแต่มนต์
หมายสู้พระบารมีโมฬีโลกย์จะกระโชกผุดกลางหว่างพหล
เมี่อทัพหลวงล่วงเดินดำเนินพลประชาชนสามทิวาชล่าแล
จะหักยอดพระสุเมรุทำลายล้างอวดอ้างห้าวหาญในสารกระแส
ประชาชาวอยุทธเยศสังเกตแปรสำคัญจตรคิดว่าแน่ประหม่าใจ
ขวัญหายพร้อมถวายบังคมทัดพระบิตุลาทราบอรรถก็สงไสย
เสน่ห์พระอนุชายังอาไลยดำรัสให้หมู่มาตยากร
ถือรับสั่งทูลห้ามตามนุกิจจะทรงพิจารณาในอักษร
ชำระเสี้ยนพสุธาใหหถาวรจึงค่อยเชิญบทจรไปจากวัง
ปางบรมกรมราชบิตุเรศไว้พระเดชมิได้พรั่นประหวั่นหวัง
ขัดโองการให้ทหารโห่ประดังทรงที่นั่งนามสวัสดิชิงไชย
นำโอรสธิดาคณาสนมไป่สร้างสมบารมินแผ่นดินไหว
อรินราบกราบเกรงพระเกียรตไกรไม่เหมือนในอักขราที่ท้าทาย
พลปืนๆ พลประจำหัตถ์ใหัจัดทวนๆ จัดประจำหมาย
ที่ชักกฤชๆ ชักจากฝักกรายสพายดาบๆ สพายเงื้อกรคอย
ง่ากระบี่ๆ ง่าจะถาโถมกระโจมง้าวๆ กระโจมไม่ราถอย
บ้างซัดหอกๆ ซัดตัดเศียรลอยตะบองพลอยๆ ตะบองลงสองมือ
แล้วโบกธงๆ โบกเอาโชคศึกล้วนฮึกเหิมๆ ฮึกกระหึมหือ
ที่โล่ห์ถือๆ โล่ห์โห่กระพือคือที่ฤทธิๆ คือทหารราม
พระเดชสยองพองเศียรทั้งสามภพมาเคารพไม่อาจประมาทหยาม
เกรงพระยศปรากฎพระเกียรติงามเปนอุปราชฦๅนามมงถุฎชาย
เสี้ยนสงบหลบคลาดอำนาจขึงไม่ดันดึงกล้าสู้ศัตรูหาย
แต่ปางหลังครั้งมฤทผิดทวายแทบจะหมายตะนาวได้ไว้วงกร
พระบารเมศเลิศหล้าไม่หาถึงทั้งทรงรำพึงผลบำเพ็ญสอน
คือพระราชกุศลมาดลจรสมสมรเทวมิ่งวิมานทอง
เคยเสด็จออกตั้งพิชัยยุทธทีนนี้สุดสิ้นแล้วไม่คืนสนอง
จะมิเคืองถึงเบื้องยุคลลอองเห็นจะต้องเปนธุระดำริห์ราญ
อันพระเจ้าเอกาทศรฐใช่พระยศจะไม่ยิ่งทุกสิ่งหาญ
แต่ฝ่ายน่าต่างพระเนตรสังเกตการเคยเบิกบานเสวยศุขจะขุกเคือง
ยังพระราขสมภารสารเสวกตระกูลเอกผ่องศรีฉวีเหลีอง
รัศมีขำขาวดังตาวเรืองทั้งเมืองกระเดื่องด้วยพระเดชา
ควรเปนอาคมบรมจักรประเสริฐศักดิ์ฉัททันต์สุดสรรหา
ราษฎร์น้อมพร้อมชมพระโพธิญาดังเอราวรรณเพ็ชรปาณี
สมสำอางเปนนางพระยาหญิงสองพระองค์เฉลิมมิ่งโมฬีศรี
ทุกกระษัตริย์จัดแพ้พระบารมีปิ่นทวารวดีสถาวร
พระนุภาพฦๅสห้านแต่ผ่านภพทุกกรุงกระทบเศียรราบกราบสลอน
อินทปัตจักรพรรดิผ่านนครพระอินทรลงมาสร้างบุรินทร์ราม
พระประทุมสุริวงษ์ดำรงภพพระเกียรติจบดินฟ้าชนาขาม
ประสาทขรรค์ศักดาสง่างามเคยปราบสามโลกย์เลื่องพระเดชครัน
เกิดพระเกษมาลาหน่อนเรศร์พระเมาฬีมีเพศมาแต่สวรรค์
พระเดชาปรากฏเสมอกันจนถึงพระขันธกุมารหลานชาย
จึงมอบมิ่งอดิเรกเศกฉัตรให้กระษัตริย์สุริวงษ์ผู้สืบสาย
สองพระองค์พงษ์อินทร์นรินทร์กลายก็ว่ายเมฆขึ้นสถิตย์พิมานแมน
             

มิได้สวรรคตปรากฏกล่าวประทุมท้าวคือบุตรอมรแสน
อันบดินทร์ที่เปนปิ่นประชาแทนในพื้นแผ่นธรณีไม่มีปาน
นุภาพเพียงสุริโยวโรภาษเหมือนบิตุราชสืบวงษ์มหาศาล
ลอยโพยมล่องพยับเผ่นทยานขึ้นเฝ้าอินทร์อัยการพระบิดา
รู้ชำแรกปัถพีด้วยมีฤทธิ์ทั้งสิบทิศน้อมทิพบุบผา
พอนาคินทร์ขี้นเย้าองค์อมราบังคมคลานผ่านน่าที่นั่งไป
แสนพิโรธเคืองดุดุ๊ดูหมิ่นแทรกแผ่นดินเดชาสุธาไหว
ถึงบุรียลวาสุกรึไกรพระขรรค์ชัยไล่ล้างวางชีวี
โลหิตของพระยานาคราชกระเด็นสาดต้องพระกายสลายศรี
กำลังแค้นมุ่งเขม้นก็เปนทีเมื่อเหตุมีจะวิบัติอัศจรรย์
บังเกิดเปนพยาตเพลิงถเกิงแสงพระโรคแรงขาดเฝ้ามงกุฎสวรรค์
มัฆวานแจงการด้วยทิพกรรณสงสารขวัญไนยนานัตดาเธอ
สั่งเทพนิมนต์มุนีนารถเทวราชฝากชีพโอสถเสนอ
ฝ่ายกระษัตริย์หมิ่นความตามอำเภอมิได้เออเอี้อนคิดให้ระอา
ละเลยไม่เสวยโอสถทิพย์จนสักจิบวิงวอนไม่ผ่อนหา
ถึงเจ็ดครั้งเวียนปลอบประกอบยาอิศราบิดเบือนแต่เชือนไป
จึงถวายพระเพิ่มภิญโญยศใหัปรากฏพระเกียรติขจรไหว
จะชุบโฉมใหัประโลมลานฤไทยเปนฉัตรไชยพำนักนิ์ทั้งจักรวาฬ
ถึงจะไม่เสพทิพโอสถก็ปรากฏผิวพรรณสัณฐาน
จะหายประชวรราคินสิ้นสันดานดังอวตารงามล้ำอัมรา
ปางสมมติเทวัญอินทปัตเวรุวิบัติเมื่อจะน้อยวาศนา
เปนกองกรรมที่ได้ทำปาณาในวิญญาเคลิ้มเขลาเหมือนเมามัว
จะสิ้นบุญเสี่อมฤทธิวิทย์เวทบันดาลเหตุเห็นดีเปนที่ชั่ว
อวิชาครอบงำประจำตัวพเอิญกลัวทิ้งอายอุบายลม
จึงไขเทวโองการสารสนองพระคุณของสิทธาอยู่เหนือผม
มัสการขอเผดียงพระโคดมเชิญบรมอิศเรศวิเศษฌาน
โยมนี้พรั่นหวั่นหวาดอนาถนักจงโปรดชักชี้เช่นให้เห็นหาญ
เมี่อยศเยี่ยงก็จะเพียรเหมือนเรียนปราณพระยอดญาณจึงค่อยชุบกระหม่อมตาม
พระทรงสิกขาบทประเสริฐศิลป์ถืออัตเวทินไม่เข็ดขาม
ตั้งสัตย์เปนบรรทัดไม่วู่วามประสาทสามศิษย์สำอยู่ลำพัง
จงชุบกายเถิดถวายบพิตรเห็นเมื่อจะเปนการแล้วจึงกลับหลัง
แจ้งเราจะนิวัติเข้ามาวังครั้นเสร็จสั่งคืนที่กุฎีดง
ส่วนสามสานุศิษย์ที่ศึกษามิได้ทราบมารยานราหลง
ดำรัสเตือนเดินตามกันสามองค์เสด็จตรงเข้ากองพิธีกรรม์
ซ้ำซัดทิพโอสถถวายก็ละลายสูญสิ้นเบญจขันธ์
ยังไม่กลับคืนคงเปนองค์ทันให้รีบพลันออกไปเททเลลอย
ผลบุญเดชะตระบะกิจพระนักสิทธิเสร็จมาน้าวผลาสอย
เห็นปริ่มๆ ริมกระสินธุ์วารินลอยเหมือนจอกน้อยติดสวะมาปะกัน
จึงพินิจพิศดูเปนครู่เพ่งปลาดเล็งญาณทราบทุกสิ่งสรรพ์
ก็ชุบสามฤๅษีมีชีวันพระนักธรรม์สาปสรรด้วยคำคม
อันพระจอมโมฬีวงษ์ตรีเนตรเคยเรืองเดชแต่ตั้งสุธาปฐม
ให้เสื่อมสิ้นศักดาวรารมย์จงระทมไปชั่วกัลปา
อย่าเหาะเหินเดินได้ดังใจหวังแต่นี้ตั้งไปจนสืบพระวงษา
นครวัดอันกระษัตริย์กัมพูชาหญิงชายให้นิรากำจัดวัง
ไม่ควรเนาพระมณเฑียรอัมเรศต้วยผิดเพศเยี่ยงอย่างแต่ปางหลัง
เพราะไม่มีขันติกระตัญญังอันสัจจังสิ้นหายละลายธรรม
ถ้าผู้ใดขืนสถิตย์คงสถานจงบันดาลเกิดอันตรายร่ำ
แต่พระขรรค์ตกไหนจงให้นำมาประจำคืนมอบสำหรับเมือง
อันกรุงอินทปัตนิเวศน์นี้ถึงใครจะมีเดชฦๅระบือเลื่อง
ผิดวงษ์อย่าใหัผ่านบุรีเรืองเว้นแต่เนื่องหน่อขัติยามา
สาสมที่พระองค์ไม่ทรงสัตย์จะวิบัติเร็วรุดเพราะมุสา
จงหย่อนตระบะเดชะที่ฦๅชาไปจนสิ้นสาสนาทั้งห้าพัน
ให้ได้ความเคืองแค้นแสนเทวศเมื่อไรองค์ประทุเมศเจ้าของขรรค์
เกิดในสุริวงษ์ดำรงธรรม์พระเกียรตินั้นจึงจะเรืองเดชาชาย
จะมีพระกฤษฎาอานุภาพปัจจาราบคอยถือบังเหียนถวาย
อาริยเจ้าจะตรัสกำจัดวายจึงจะหายสิ้นสาปที่หยาบกัน
ครั้งนี้ก็มารองบทเรศบรรณาการน้อมเกษประหวั่นขวัญ
เพราะพระบารมีทวีครันบันฤๅลั่นสามโลกย์อรินเกรง
โอ้พระจอมติลกภพนิราศาทุกทิวาจะระดมกันข่มเหง
พระนิเวศน์เย็นเยือกอยู่วังเวงราษฎร์เครงครวญคร่ำระกำใจ
เจ็บอกดังหนึ่งยกไศลทับมาทอดทุ่มทรวงคับไม่พูดได้
ไม่เล็งเห็นใครจะเปนที่พึ่งไปเหมือนหาไม่ไร้ญาติขาดระทม
เสียมิได้ก็พอกันครหาเมตตานั้นไม่เห็นเท่าเส้นผม
แต่หลักโลกย์ยั่งยืนอยู่ชื่นชมเพราะพระร่มเกล้าร่วมครรภาพันธุ์
ถึงเจตรมาศหิมหันต์ประหวั่นโหยสุชลโปรยเปรียบรินพิรุณลวรรค์
เคยชำระเบื้องพระบาทอนาถครันดังฉัตรกั้นเกษกลิ้งแต่กายกร
ด้วยเคยเห็นสองพระองค์ดำรงราษฎร์ใจจะขาดถึงพระมิ่งอดิศร
ถ้าพระคุณอุ่นวังไม่แรมจรฤดูร้อนน่านี้สิเทศกาล
เคยฉลองกองก่อพระทรายพลางด้วยเห็นทางเวียนวงในสงสาร
แล้วเสร็จปล่อยมัศยาในท่าธารหวังจะเพิ่มโพธิญาณบำเพ็ญภูล
โดยพระราชประสงค์ทรงดำริห์พระปิติเลื่อมใสไม่เสี่อมสูญ
ก็ไม่ชูชนมาให้อาดูรพระบัณฑูรทิ้งลูกระกำทวี
ถึงเวลาฝูงคณาสนมแน่นกำสรดแสนโศกเข็ญโมฬีศรี
บ้างร่ำโอ้อนิจาฝ่าธุลีนิราศหนีข้าบาทยุคลจร
เสวยเคยถวายสุพรรณภาพศิโรราบในมโนสโมสร
ดังผกายรายรอบศศิธรแต่ปางก่อนไม่นิราศสวาดิวาง
พระคุณเอ๋ยเคยทรงพระปราโมทย์เกษมโสตรปราไสมิให้หมาง
โอ้เคยมีมาโนชทุกหน้านางถึงยามร้างแต่พระองศ์เอกากาย
เวลาเฝ้าเปล่าเนตรคนึงบาทเคยบำเรอบำราศฤไทยหาย
ที่นั่งเย็นๆ เหงาสงัดดายลูกยิ่งฟายอสุชลนานอง
ผคุณมาศอาสาธมาศาทรงลร้างโพธิญาไม่หาสอง
เชิญชักพระชินราชบาทประคองหอมลอองทิพมาศตระหลบวัง
อันทางรัถยานิวาวาศน์ปาริกชาติโปรยปรายถวายหวัง
ปื่นนิเวศน์ไว้พระเดชดังเสร็จยังเหมือนปางครั้งเนาเขตรพระเชตุพน
พระเนาวโลกย์เสด็จโดยนภางค์เคลี่อนลอยละเลื่อนโปรดสัตว์สำเร็จผล
พระอรหันต์ห้าร้อยคอยนิมนต์ประสาจนก็มีใจศรัทธาทำ
คราวนี้ตั้งสถิตย์ประดิษฐานเพราะพระราชสมภารอุปถัมภ์
พระพุทธรูปเสด็จดำเนินนำพระชินวงษ์ประจำไม่ขาดวัน
เหมือนพระอรรคสาวกบิณฑบาตเพดานดาดห้อยพวงโกสุมภ์สวรรค์
ระย้าภู่กลิ่นระคนจันทน์สำคัญว่าไปชมพิมานทอง
พระสถานปานเมืองอมรเมศโอ้สังเวชเศร้าศรีมณีหมอง
นิราคร้างสุรางค์บำเรอประคองฝ่าลอองเอกานิราโรย
สุราฤทธิสถิตย์บำรุงโลกย์ยามวิโยคก็ไม่ดับระงับโหย
ไยพระราชกุศลไม่ดลโดยกลับโกยทุกข์ทวีไม่มีเสบย
ลูกทรงษิโณทกอุทิศถวายกระหม่อมหมายใหัพระคุณศุขเสวย
บรรพชาศีลาธิคุณเลยอกเอ๋ยมีแต่พร่ำระกำกิน
ต่างนิมนต์ราชาคณะเทศน์ถวายองค์อิศเรศวิเศษสิ้น
แล้วเคาะพระโกษฐกราบทูลสุชลรินเชิญพระปิ่นเกล้าโลกย์สดับธรรม
พระโกษฐลั่นยินแสยงพอแจ้งเหตุถึงสองเชษฐต้องคดีที่ข้อขำ
เขาว่าโทษลึกลับให้จับจำก็ค้างคำเทศนาเข้ามาฟัง
ต่างคนึงสุดคเนสนเท่ห์จิตรไม่ทราบกิจโอ้ไฉนอย่างไรมั่ง
ครั้นรู้แน่ว่ากระบถหมดทั้งวังชวนกันชังไม่มีภักดีปอง
ควรเคืองเบื้องบรมจักรพรรดิไม่คิดว่าฉัตรแก้วกั้นเกษสนอง
จะได้พึ่งเดชาฝ่าลอองฉลองบาทบิดุเรศนิราไป
พระบิดาบัญชากำชับสั่งคำหลังลืมพระคุณไม่คิดได้
เพราะทนงนึกประมาทราชไภยไม่อาไลยถึงถวายพระเพลิงปลง
สาใจจนไม่ยลยุคลธเรศสองเทวศแสนคนึงตลึงหลง
ตั้งภักตร์จำเภาะเบี้องพระบิดุรงค์บังคมตรงมาพระโกษฐวังบวร
เสียเชิงที่เปนชาติชายกำแหงหาญเสียแรงรู้รบสยบสยอน
เสียพระเกียรติมงกุฎโลกย์ฦๅขจรเสียแรงรอนอรินราบทุกบุรี
เสียดายเดชเยาวเรศปิโยรสเสียยศบุตรพระยาไกรสรสีห์
เสียชีตรผิดแพ้พระบารมีเสียทีทางกตัญญุตาจริง
เทพสอดส่องเวไนยสัตว์ก็เห็นแพ้น้ำพิพัฒน์สนัดกลิ้ง
จึงดลพระไทยไม่อ่อนให้วอนวิงจะมิชิงเชิญเชษฐราคลา
ฤๅชรอยทูลกระหม่อมจะตรอมถึงนึกคนึงนำสองโอรสา
ไปตามเสด็จเสวยศุขสวรรยาประเสริฐกว่าน้องยังอยู่วังตรอม
นี่หากศุขด้วยพระเดชปกเกษเลี้ยงบวรเวียงสรรเสริญไม่สิ้นหอม
ค่อยเหือดโหยโดยแด่อาดูรจอมได้ชื่นด้วยล้นกระหม่อมบันเทาทน
พระคุณเอ๋ยคราวหลังเมี่อครั้งเถินพม่าเกินเกือบจวนจะขัดสน
ชนากรร้อนร่ำเสียดายชนม์ต้องเสด็จไปประจญจึงเมื้อมรณ์
ก็กรีธาพาหน่อดรุณเรศดังราเมศปราบยุคด้วยแสงศร
ไปทำศึกไกยเกษธิเบศร์จรพระมงกุฎต่อกรกับพานา
พระโอรสเทียมหน่อนารายน์หมายสังหารหายศึกเลร็จนิราศา
ทั้งสิบทิศเกรงพระฤทธิไม่รอราไยมิฝ่าฝากชีพในบาทบงสุ์
แม้นซื่อต่อสามองค์มงกุฎเกล้าไหนจะเศร้าคงจะสืบตระกูลหงษ์
แต่กาวิลมีวิทยายงยังขามองค์อิศยมบังคมเชิญ
เสร็จออกช่วยรณรงค์จึงคงชีพสี่ทวีปแซ่ซร้องสรรเสริญ
อันพระเจ้าเชียงใหม่แต่ก่อนเกินหมิ่นประเมินมิได้น้อมประนมคม
ครั้งพระลอก็ประหารชีวาวาตม์นี่เกรงบาทเศียรพองสยองผม
เปนข้าทูลลอองธุลีประนมจิตรนิยมยอมพึ่งพระเดชา
บรรณาเนื่องล้วนเครื่องสุวรรณมาศมิได้ขาดต่างประเทศทุกภาษา
แขกลาวชาวปกันกัมพูชาก็เข้ามาพึ่งโพธิสมภาร
มีพระพุทธสิหิงค์พระมิ่งโลกย์เปนหลักภพในโอฆสงสาร
แด่พระองค์ยังทรงเกษมฌานพระยอดญาณโมฬิศสถิตย์ยัง
กระษัตริย์หมายหล่อพระโฉมโสมนัศจะมัสการแทนองค์จำนงหวัง
จึงสร้างพระปฏิมาจินดาดังพเอิญบังเกิดอัศจรรย์เจียว
คือพระพุทธสิหิงค์มิ่งมงกุฏพระอุตคุตหล่อไม่ติดจิตรเสียว
เหล่ากระษัตริย์หมื่นแสนแน่นกรูเกรียวแต่ขับเคี่ยวพากเพียรศรัทธาทำ
ทุกพระองค์จะประสงค์ไม่สมมาดบุพเพนิวาศไม่เคยอุปถัมภ์
สุดฤทธิที่จะคิดมานะนำจึงแจ้งคำมีพระพุทธทำนาย
พระมหากรุณาธิคุณตรัสแย้มพระโอษฐโปรดดำรัสพิกัดหมาย
เยื้อนพระพุทธฎีกาวาทีทายจะมีบดินทร์ดังนารายน์สี่กร
มายกพระสาสนาตถาคตให้ปรากฏภิญโญสโมสร
จะต่อหัตถ์พระลิหิงค์ได้แน่นอนจะเลื่องยศฦๅขจรเกียรติขจาย
คือจอมหริวงษ์องค์บิตุเรศเรืองพระเดชต่อได้ดังใจหมาย
เทวทั่วพรหมโลกย์ก็โปรยปรายกราบถวายบุบผาสาธุการ
กระษัตริย์อื่นหมื่นเมืองที่เรื่องฤทธิอย่าคิดว่าจะหักทนงหาญ
น้อยทั้งวาศนาปรีชาชาญแต่บันดาลเดินดินไม่หมิ่นองค์
พระคุณเอ๋ยไยไม่ช่วยอวยสงวนให้ประชวรละเลยเสวยสรง
็ีก็ทรงสร้างศรัทธาธกจงไฉนปลงพระโรคมารุมรึง
ระกำกลืนโอ้สอื้นไม่สร่างโศกยังวิโยคยินทุกข์ปะทะถึง
ไม่เล็งเห็นหลักโลกย์โศกตลึงพอที่พึ่งแลลับก็กลับกลาย
ด้วยพระมิ่งมงกุฎอยุทธเยศในสาเหตุคุมเข็ญเขม้นหมาย
ความหลังไม่ประทังประเทืองกายแทบจะวายชีะระเนนในเวรจำ
เพราะพระปิ่นดำรงบวรสถานกระหึมหาญหุนเหี้ยมกระหยับย่ำ
เหมือนจะวางกลางเมืองเมื่อเคืองคำพิโรธร่ำดังจะรุกเข้าโรมรัน
ครั้นทรงทราบว่าพระจอมบิดุลาให้พลกัมพูชาลากปืนขัน
ประจุป้อมล้อมราชวังจันทร์จึงมีบันฑูรสั่งให้สืบความ
ตรัสใช้มาตุรงค์ตรงรับสั่งมิไปฟังราชกิจก็คิดขาม
มาสืบเรื่องพระไม่ปลงจะสงครามก็ประณามทูลบาทไม่พาดพิง
ว่าคำขอมน้อมพจมานสารไม่หาญเสนหาพระนุชยิ่ง
แต่พิธีตรุศยืนลากปืนจริงยังนึกกริ่งกริ้วนั้นพอบันเทา
ครั้นสู่สวรรคตนิราศาจอมจุธาเจ็บพระไทยดังไฟเผา
กระทู้หลวงตวงฟังดูลาดเลาก็ไม่เบาทูลกิจให้ผิดคำ
จึงหาคหบดีกรุงธิปัตกำลังขัดเคืองเชษฐราร่ำ
แท้ขยาดเกรงพระราชทัณฑ์ทำบดซ้ำเสียที่อ้างเปนอิงความ
ให้การเกินเมินไม่รู้จักภักตร์เจียนจะหักลงให้หั่นเมี่อวันถาม
พระคาดโทษแทบไม่หวังบยังแต่นามมงกุฎลามโลกย์ลงพระอาญา
แต่คนใช้ให้พันธนาแน่นสุดแสนพระพิโรธพิไรว่า
ครั้งบรมกรมพระราชบิดาเขาก็มาฝากตัวด้วยกลัวเรา
ปางพระไอยกาดำรงราชย์สนองบาทมาดุราเปนข้าเฝ้า
ชะคราวนี้ฟังเสียงเห็นเกลี้ยงเกลาดั่งใช่เชาว์พระนิเวศน์กัมพูชา
นี่เดชะผลสัตย์สุจริตชีวิตรจึงไม่ร้างนิราศา
นราพงษ์คือองค์สัพพัญญาจึงไว้ชีพสัตวสาธุการเกรียว
แล้วนรินทร์นึกแหนงระแวงผิดปกาสิตสั่งสารโองการเฉลียว
ให้สืบถามวันทาสุดาเดียวไฉนเจียวยุเย้าให้เราแคลง
ฝ่ายจอมฉลองโอษฐพระบิดุเรคสดับเหตุให้การไม่เคลือบแฝง
ว่าคงตายขอถวายสัตย์แสดงจึงแจ้งจริงสมคำไม่อำพราง
พระคุณเอ๋ยถ้าเสด็จยังพร้อมสองถึงจะต้องกริ้วกราดเพราะบาดหมาง
จะทรงผลัดกันเปนทิพย์นทีทางพอสว่างโทมนัศให้สัตว์เย็น
             

นี่ยังเดียวแต่ทูลกระหม่อมแก้วไม่โปรดแล้วก็ไม่มีที่จะเห็น
แม้นล้างแม่แน่ลูกไม่ยอมเปนจะถึงเข็ญแล้วก็ตามเวรามี
จึงยกพาหาวันทาสนองขอเทเวศร์ทั้งสิบสองราษี
อินทร์พรหมยมเรศพระศุลีนางเทพธรณีเปนพยาน
อิกบรมสมมุติเทวโลกย์ขอบารเมศทราบโศกอธิฐาน
จะเปนตราชูเที่ยงดังนาฬิกาลเชิญเทพบันดาลดลพระไทย
ครั้งนี้พระชนกปกเกษหายท่านมั่นหมายชนนีที่สงไสย
กระหม่อมฉันก็เปนบุตรสุดอาไลยไม่เห็นใจด้วยไม่แจงกระจัดตรง
จึงสาบาลแห่งสัตย์พระชนนารถแม้นประมาทมุ่งร้ายหมายประลงค์
ประทุษฐจิตรต่อจอมจุธาพงษ์ขอให้ปลงชีพสิ้นชีวินวาย
ดังเชษฐาทั้งสองทรงพิฆาฏอาญาจักรอย่าให้คลาดตัวขยาย
ไม่ปกงำนำถ้อยค่อยระคายขอให้หายเคืองข้อที่ราคี
ถ้าคดคิดแต่ผิดมิมากนักขอเทพชักดลจอมโมฬิศรี
อย่าเลี้ยงแต่อย่าล้างเลยชีวีพระบารมีจงแจ้งดังส่องญาณ
แม้นสุดซื่อต่อลอองธุลีแล้วให้ชุบเลี้ยงแก้วแม่กระหมอมฉาน
เทวศดังอุเบกขาอภิบาลพิศฐานทั่วเทพโพยมยิน
พอขาดคำที่ภิปรายถวายสัตย์ถึงเบี้ยหวัดโปรดให้หายเคืองสิ้น
จึงเห็นจริงไม่กริ่งเสี้ยนแผ่นดินถือกัตเวทินตั้งดั่งธารกร
แล้วพระบาทคืนประสาทที่คนใช้ประทานให้พ้นพันธนาถอน
ไม่มีใครกรุณาช่วยว่าวอนผลสัตย์พเอิญอ่อนพระไทยเออ
เชิญพระอรหังมาตั้งมั่นขันติกตัญญังชั่งเสมอ
ดูเจียรดังวิเชียรมนินเธอสุดเสนอคำขยายสบายมี
พระเนาวโลกย์ดับโศกสงลารสัตว์จนกำจัดอันตรายให้หน่ายหนี
ขออุทิศแผ่ทิพวารีถวายปิ่นธรณีเสวยรมย์
อันพระจอมจุลจักรหลักทวีปประทานชีพแล้วไม่มาดอาฆาฎถม
ค่อยสว่างสร่างเศร้าบันเทาตรมดังได้พรมอำมฤตในเมืองอินทร์
ครั้นทุกข์เปลื้องค่อยประเทืองหวั่นวิโยคโมฟีโลกย์หมายเชิญพระศพถวิล
ปิ่นกระหม่อมอยู่ยังจอมระกำกินเสด็จแล้วซ้ำจะภินทนาครวญ
ยังยลมิตรคิดอาไลยใจจะขาดแสนสวาดิหวั่นหวามถึงทรามสงวน
จึงกุมกรช้อนคู่ประคองชวนถนอมนวลนุชขึ้นบนเพลาตรอม
เจ้าซบภักตร์ลงกับตักนั่งสอื้นทั้งเที่ยงคืนเปลี่ยนให้สไบหอม
ไหนจะโศกถึงพระมิ่งมงถุฏจอมไหนจะผอมเพื่อนยากจะจากวัง
เปนสองทุกข์มาปะทะอุระพี่ฤๅเวรีเราประมาทแต่ชาติหลัง
เคยบำราศมยุเรศให้แรมรั้งสุดาดังดวงชีวิตรจะปลิดไป
พี่รับขวัญขวัญน้องอย่าหมองโฉมปลอบประโลมจนแจ้งประจุไสมย
เรียมจะร้างโอ้นิราสุมาไลยจะจำไกลกล่อมนุชเสน่ห์นวล
เจ้าพี่เพียงจะจากกำจัดเจ้ากำสรวญโศกสุดเศร้าแสนกำสรวญ
ครวญครุ่นๆไม่เว้นชีวาครวญเคยสงวนเสงี่ยมงามไม่ตามเคย
ถนอมน้องยิ่งหมองเมื่อยามถนอมระเหยหอมกลิ่นยาบุหงาระเหย
เลยจะลับสายใจไฉนเลยอนิจจาเอ๋ยโอ้มิตรอนิจจา
ขวัญเนตรอย่าเทวศพี่มอบขวัญหาไม่เห็นหวนประหวั่นไม่เห็นหา
พงางามทรามสงวนนวลพงาใจผวาหวั่นจิตรยังมิตรใจ
โฉมวไลยล้ำนางสำอางโฉมไขแขเด่นโพยมเด่นแขไข
ไกลรักเรียมยิ่งรานด้วยการไกลนวลโหยนำพี่ไห้เมื่อสั่งนวล
สายเนตรชลไนยไม่ขาดสายหวลกระหายนึกนุชคนึงหวล
จวนอรุณส่องฟ้าเวลาจวนกรรแสงหวลทนทุกข์ที่จากกัน
เวชยันต์มาประทับกับเกยมาศพิณพาทย์อลเวงเพลงสวรรค์
เชิญพระโกษฐประทับเพ็ชรเรือนสุวรรณกระหนกช่อกระหนาบชั้นนารายน์ทรง
ครุธขยับนาคยืนสุบรรณนอบกระจังรอบกระจ่างรายเรือนระหง
อันรูปสัตว์อัดแสนคชาพงษ์ขี่ช้างองค์เคียงอินทร์ดำเนินจร
เทเวศร์หัดถ์ถวายมณฑาสวรรค์สลับคั่นสส้างคชไกรสร
จตุรภักตร์ชักพรหมประนมกรก็ถือฉัตรหัดถ์ช้อนวิเชียรชู
อินเภรีตีก้องกัมปนาทโลกธาตุลั่นกระทบกระทั่งหู
เทวราชดาเรียงมาน่าดูประนมคู่น้อมเคียงยุคลนรินทร์
มาตุลีตีอัศวราชเผ่นผงาดผาดผงกผกผิน
นกอินทรีตีปีกสบัดบินก็มีสิ้นมาโศกประชุมกัน
เทพนมเทวนองชลเนตรมยุเรศเหมือนจะราปีกผัน
อันสิงห์อัดจัดออกมายืนยันประโคมลั่นประคองเลื่อนพระโกษฐมา
ปิโยรสเยาวเรศผู้สืบสายทั้งสองโปรยโยงปรายทิพย์บุบผา
ดังพระลบพระมงกุฎบุตรสีดากริ่งนราเกรงนารายน์ลงมาดิน
ทรงกุภัณฑ์สรรพ์เสร็จพริ้งพร้อมงามลม่อมหมางเศร้าแต่ราศิน
ดูภักตร์คล้ำผิวหมองเปนมลทินเนตรรินนุชร่ำแล้วจำจร
พระพุทธองค์ทรงวอลอออาศน์แสนกำสรดทรงพระราชอักษร
ข้าทูลบาทมาตยาประชากรก็อาวรณ์มีแต่ทุกข์ระทมโทม
ฝ่ายสุรางค์รองบาทบรมเบื้องชลเนื่องเศร้าศรีฉวีโฉม
ละห้อยหวลครวญตามพระศพโทรมพยับเมฆมัวโพยมอรุ่มไป
อันบุตรีที่เนาพลับพลาสถิตย์ต่างชุลิตแล้วนองสุชลไหล
เห็นเกณฑ์แห่แลสพรั่งมาแต่ไกลยิ่งอาไลยเทวศหาฝ่าลออง
เสร็จนิราอนิจาอยู่ภายหลังแต่ลูกยังเขาจะยำระหน่ำหมอง
ที่เคยขามก็จะหยามละเลิงลองเห็นหายใจจะไม่คล่องสักเวลา
จะเหลียวหลังยังพระนามพระองค์สูญโอ้อาดูรสุดจะดั้นโพยมหา
ยังแต่กายหายเกษยิ่งเวทนาดั่งนิราสูญชีพไม่คงชนม์
แสนวิตกอกเอ๋ยจะเลยลับไม่เสร็จกลับคืนแล้วละห้อยหน
พอบุษบกประทับพระเมรุบนก็หมายยลเยี่ยมภักตร์ประนมชม
เขาเชิญชักพระโกษฐบรมนารถขึ้นเหนืออาศน์ชวลิตประสิทธิสม
ชั้นหนึ่งเทพน้อมศิโรดมถึงชั้นสองมีพรหมประนมกร
อันชั้นสามแลงามเจริญเนตรอมเรศเรียงเทพอับศร
ที่ชั้นสี่มีเทพกินรวิชาธรคนธรรพสลับกัน
ชั้นห้ารจนาองค์อิเหนาเบื่อโศกเศร้าแรมห้องคูหาสวรรค์
เหมีอนลอองร้างสิบสองพระกำนัลทั้งแปดหมื่นสี่พันเคยปกครอง
ชั้นหกเปนกนกระหนาบอินทร์ทรงกรินทร์เจ็ดเศียรผันผยอง
ถึงชั้นเจ็ดเพ็ชรรับหิรัญรองเห็นสีส่องแสงรุ้งอร่ามพราย
ยลรูปสัตว์ที่ประดับเหมือนกลับหมองดังจะนองเนตรไห้ไม่ขาดสาย
ไม่มีจิตรดอกยังคิดระกำกายฤๅอกเราจะมิฟายสุชลโกย
มหรศพตระหลบตลอดรุ่งพระเกียรติฟุ้งทุกประเทศเทวศโหย
กัลปพฤกษ์ทิ้งสุวรรณหิรัญโปรยฝูงประชาพากันโดยประชุมทาน
ยามเกษมมิได้แสนสำเริงศุขคราวสนุกไม่นำใจสมาน
เลร็จยังจะมีตั้งประชันงานก็จะสำราญเล่นน่าพลับพลาทอง
นี่กระไรที่สถิตย์สงัดเงียบแต่เยือกเยียบเย็นละห้อยเหมือนพลอยหมอง
ดังมีจิตรคนึงหาฝ่าลอองนี่ฤๅเราจะมินองสุชลตรม
ถึงเพลาไปมหาสุเมรุมาศบังคมบาทแล้วยิ่งทุกข์ระทมถม
พระสุริเยศลับเหลี่ยมพนมพระสนมคืนแน่นเข้าสู่วัง
ถีงยามดึกวิเวกฤไทยเหงาให้ปลาบเปล่าทรวงนึกอาไลยหลัง
ป่านฉนี้เสด็จเดียวแต่องค์ยังก็จะมีตั้งภักตร์ตรอมคนึงเวียง
จะเหลียวซ้ายแลหายพระไทยถอนจะอาวรณ์ยินแต่แว่วประโคมเสียง
พระคุณเอ๋ยเคยสุรางค์บำเรอเรียงประคองเคียงข้างที่ทวีตรอม
อนิจังครั้งนี้มาบำราศเสร็จอนาถองค์เดียวเปลี่ยวถนอม
ยิ่งยลวังสังเวชถวิลจอมถึงทูลกระหม่อมมิ่งโลกย์ลูกโศกครัน
แต่ร่ำร้องนองชลไม่เหือดแห้งจนส่องแสงอรุโณไทยไก่ขัน
พอคำรบจะถวายพระเพลิงวันพระจอมจันทร์ทรงสถิตย์เปนประธาน
ประชุมพร้อมวงษาคณาสนมต่างประนมหัตถ์ร่ำด้วยคำหวาน
โอ้พระยอดอิศราปรีชาชาญจะได้พานพบมั่งเมี่อไรมี
จะดับแล้วหายเห็นเปนวันสูญยิ่งอาดูรด้วยพระมิ่งโมฬีศรี
ลูกเคยพึ่งบาทาไม่ราคีข้าธุลีรองบาทเพียงขาดใจ
ดังวิเชียรฉัตรสุวรรณกั้นทวีปทุเรศรีบไว้โลกย์โศกไฉน
จอมบดินทร์สิ้นเสร็จเด็ดอาไลยทิ้งไว้ทั้งนิเวศน์บวรวัง
อันกระหม่อมน้อมชีพอยู่รองบาทเสนอนารถอกโอ้มโนหวัง
ขอคุณพระดลพระไทยอย่าให้ชังเชิญช่วยตั้งต่อบุญการุญปอง
พระคุณเอ๋ยสุดจะมีที่พำนักนิ์ยลแต่หลักโลกย์เดียวจะยังฉลอง
ระงับเข็ญเย็นเกล้ายุคลครองเปนโพธิทองร่มญาติให้อยู่เย็น
แล้วน้อมเศียรกราบษมาฝ่าลอองหัดถ์ประคองช้อนอกเคยปกเข็ญ
โอัพระอิศโรราชขาดกระเด็นประชาเปนทุกข์ไห้พิไรรน
จึงประนมกรจุดเทียนถวายยิ่งใจหายแสนละห้อยระหวยหน
พอเพลิงชุมโศกทุ่มทรวงสกนธ์อนิจาจะไม่ยลยุคลคืน
ครั้นเวลาจวนใกล้พระสนธเยศน้อมเกษลาธุลีไม่มีชื่น
กลับหลังยังนิเวศน์ระกำกลืนสอี้นโอ้ตั้งแต่จะแลไกล
พระยอดมิ่งยุทธยาไม่หาเหมือนดังดวงเดือนสิ้นศรีมณีไข
เจ้ากรุงสัตนาคนหุตไกรจะประไลยล่วงชีพด้วยอาญา
พระบิดุรงศ์ทรงสัตย์ดังฉัตรแก้วพระไทยแผ้วผ่องโพธิญาหา
ช่วยชีวิตรที่จะปลงคงชีวาตั้งเมตตาปรากฎพระทศพล
เจ้านันท์จึงได้เนิ่นนิราม้วยพระสมภารไยไม่ช่วยอำนวยผล
ครั้นถึงองค์สิให้ปลงปลิดสกนธ์ราษฎร์รนร้อนร่ำทุกค่ำครวญ
แรมศุขไปเสวยสมบัติสวรรค์ลูกนี้รันทดทุ่มอุระหวล
ต่างสลดหมดศรีไม่มีนวลแสนรัญจวนถึงพระมิ่งมงกุฎวัง
เคยดับทุกข์บันเทาทุเลาโลกย์ลูกแสนโศกใจหายเสียดายหลัง
แต่เสร็จนิราข้าทูลลอองยิงยิ่งจะตั้งภักตร์ตรอมถึงจอมพงษ์
โอ้พระปิ่นอัคเรศเกษกระหม่อมพระเดชจอมเทียมท้าวครรไลหงษ์
จักหาไหนได้เหมีอนเสมอองค์ทุกพระวงษ์ร่ำหาฝ่าลออง
ไม่คืนแล้วยังแต่จอมกระหม่อมโลกย์ดับวิโยคราษฎร์คลายให้หายหมอง
ต่างเทวศเนตรอาบสุชลนองจนแสงทองส่องเยี่ยมยุคุนธร
พร้อมพระวงษ์ขัติยาธิดาสนมเสียงระงมไห้ร่ำระกำถอน
ประคองเชิญสุคนธ์รินกลิ่นขจรก็ทรงช้อนอัฐิใส่พระโกษฐทอง
อันสมเด็จบิดุลาฝ่าพระบาทอยู่เหนืออาศน์บัลลังก์แก้วเกิดสนอง
พระทรงโศกวิโยคถึงฝ่าลอองยลหมองอัฐิคล้ำจำระคาย
ก็สุดคิดที่จะใคร่เข้าไปถึงลูกตลึงแลแล้วก็ขวัญหาย
ออกระนี้ฤๅมิมีอันตรายเปนสุดหมายที่จะมุ่งประมาณการ
แล้วเชิญภูษาทิพย์โกไสยพัตรประจงจัดพานช่อวิเชียรประสาน
ศิโรราบกราบเชิญพระอังคารแห่ขนานนำเสด็จลงวาริน
มาตยาหมอบน่าที่นั่งทรงไม่ยลองค์อาไลยมิใคร่สิ้น
เห็นแต่เครื่องยศหยาดสุชลรินโอ้พระปิ่นเกล้าโลกย์นิราศลา
ข้าทูลบาทหมอบกลาดสพรั่งพร้อมแต่พระจอมมงกุฎนี่สุดหา
ไม่เห็นหายกรฟายสุชลนาทิ้งข้าฝ่าธุลีไม่อาไลย
อันเกณฑ์แห่นำเสด็จฝ่าลอองมีแต่หมองทุกข์แทบน้ำตาไหล
พลพายๆ พานาวาไปมาจนใกล้ปากชลวาริน
จึงเชิญเสด็จลงสู่กระสินธุ์หลวงข้าพระบาทหวาดทรวงแสนถวิล
แล้วทูลลาล้นกระหม่อมจอมแผ่นดินจึงกลับผินนาเวศนิราไป
พระโองการสั่งให้นำอังคารเสร็จแห่เสด็จลงท่ากระสินธุ์ไหล
แล้วโปรดให้เชิญพระโกษฐแก้วครรไลสถิตย์ในกรมพระราชวังคืน
เชิญจอมอิศราขึ้นยานุมาศได้รองบาทสร่างเศร้าบันเทาชื่น
ที่ลูกหมองนั้นค่อยคล่องระกำกลืนประโคมครืนเชิญเสด็จเข้าสู่เวียง
เนาพิมานรัถยาสง่าเนตรพระนิเวศน์เย็นเยือกสงัดเสียง
เวลาเฝ้าน้อมเกล้าศิโรเรียงยินสำเนียงแด่วิหคประจำวัง
พระบัณฑูรมิได้เอื้อนโอษฐเฉลยประหนี่งเคยตรัสอย่างแต่ปางหลัง
ชุลีกรอ่อนโสตรสดับฟังประนตนั่งคอยสนองบัญชามา
ก็ไม่เยื้อนพระสุนทรผ่อนกระแสลูกแลแลลับเนตรนิราศา
จึงกราบถวายเทียนทิพย์สุมณฑาโอ้พระยอดขัติยาฝ่าลออง
แล้วผลัดกันเฝ้าบาทไม่ขาดภักตร์ไม่นานนักพอยินรบิลสนอง
สงไสยในสุรางค์บำเรอประคองพระไทยหมองทุกยุพาเปนราคิน
จะใคร่ทราบซึ่งคนในกลเมดพระอิคเรศให้หาลงมาสิ้น
ต่างเทวศเนตรนองสุชลรินสุดถวิลหวั่นทรวงไปสร่างเสบย
ให้สาบาลต่อพระพุทธชิโนเนตรบ้างน้อมเกษแล้วก็ร่ำคำเฉลย
ขอบารมินปิ่นโลกย์ที่ล่วงเลยพระคุณเคยปกเกล้าบันเทาทน
เดชะสัตย์ซื่อต่อฝ่าพระบาทให้นิราศอันตรายจำเริญผล
ที่ไม่มีราคินมลทินระคนจอมสกลโลมเลี้ยงสำราญวัง
ไหนราคีฝ่าธุลีลอองหมางคิดระคางมิได้เอื้อนสวาดิหวัง
จัดให้ออกนอกเขตรทุเรศยังสั่งให้โปรดประทานประยูรวงษ์
อันพระจอมโมฬิศบิดุลางามสง่าไม่ละเลิงในเชิงหลง
ทรงธรรม์ทศเที่ยงไม่เอียงตรงดำรงราชย์ขาดพะวงโลกีย์รอน
แต่ซึ่งทรงพระวิตกตรอมถวิลเพราะนรินทร์แรมพงษ์อดิศร
พระอัฐิคล้ำสีฉวีวรจึงเคียดค้อนสนมบรมวงษ์
ครั้นสำราญผาศุกทุกข์ประเทืองแขกเมืองเข้ามาน้อมจอมประสงค์
จะเฝ้าบาทอิศราชวราพงษ์จึงเอื้อนองการสั่งให้พาจร
พระโอรสเคารพรับสั่งโปรดก็ปราโมทย์มาจัดปัจฐรณ์
ทิวงคตพระยศยังทุกนครดัษกรอ่อนเศียรศิโรพิน
พระบารเมศเลิศหล้าเฉลิมภพเล็งจบทุกทวีปไม่เทีบมถวิล
อันพระราชนิเวศน์ดังวังอินทร์พิมานเมืองอมรินทร์ชลอมา
ถวายไว้ในเสวตรเอกฉัตรยี่ภู่ตัดด้วยสุวรรณบุบผา
ระย้าเพ็ชรห้อยพวงสุมณฑาดูสง่าเมื่อจะออกประชาชม
เชิญพระบรมโกษฐครรไลเคลื่อนลอยละเลื่อนเหนือแท่นที่โสตสม
แล้วลั่นดุริยางค์ประโคมระงมกรมฝ่ายน่าสนองประนมทูล
             

ว่าพระเจ้าแวดนามนมัสการไทยทานถวายบดินทร์สูร
ขอพระเดชดับเข็ญเย็นประยูรให้เพิ่มภูลยศยิ่งภิญโญยง
พระจอมภพมิได้ผินยินประภาษทูตอนาถน้อมเกล้าตลึงหลง
สดัปกรณ์แล้วทอนใจพะวงไฮ้พระทรงคุณโลกย์แต่ปางเคย
มาเฝ้าบาทอิศราบัญชาทักอาไลยนักฤๅพระยอดอยู่หัวเอ๋ย
เขาร่ำร้องนองเนตรไม่มีเสบยจนสุริยงลงเลยศิขรินทร์
ประนตน้อมเศียรศิโรเพศลาประเวศคืนที่สถิตย์ถวิล
ให้เชิญพระโกษฐ์แก้วจอมบดินทร์เข้าสู่ถิ่นพระนิเวศน์ที่เคยเนา
แล้วผลัดเวรแต่งเครื่องนมัสการค่อยสำราญตามเคยแต่ก่อนเฝ้า
ไม่ยลยินแต่พระเดชร่มเกษเราวังก็เหงาเงียบง่วงอยู่โรยริน
พิมานทองดังห้องพระหิมเวศจะสังเกตเย็นเยือกสงัดสิ้น
ดุเหว่าร้องร้องโหยแล้วโบยบินสกุณินขานขันสนั่นเวียง
เมี่อโมฬิศยังสถิตย์สำเริงรื่นวังก็ครื้นพิณพาทย์ประสานเสียง
เคยประนอมพร้อมภักตร์บำเรอเรียงอนงค์เคียงคอยเฝ้าประนมคม
ครั้งนี้ฟังแต่ฝูงวิหคร้องวิเวกก้องต่างสำเนียงนางสนม
ลูกไปเฝ้าเช้าเย็นยิ่งอกกรมเมี่อไรร่มเกษกระหม่อมจะเสร็จคืน
อนิจังยังแต่พระราชฐานดูตระหง่านสง่าเนตรตลอดรื่น
ตำหนักตึกพิฦกยังคงยืนวังสอื้นแรมร้างอยู่อาทวา
ครั้งพม่าตีสงขลาถลางได้แล้วรุกไล่ตะกั่วทุ่งตะกั่วป่า
ถึงปาตลีบุตแตกยับอัปราก็หนีล่าทัพถอยไม่ต่อกร
จึงถวายสารามาทูลแถลงครั้นทรงแจ้งในศุภอักษร
ยกพยุหยาตราคลาจรคืนนครได้ด้วยพระบารมี
สั่งให้ลุยล้างพม่าปัจจามิตรรักชีวิตรแพ้พ่ายกระจายหนี
ให้ผู้รั้งตั้งมั่นทุกธานีเสร็จคืนกรุงศรีอยุทธยา
เมื่อพระองค์ยังดำรงพระนิเวศน์ทุกประเทศนอบน้อมศิรษา
มยุรยูงนำฝูงคณามาอ่อนศิราถวายเสียงเพียงดนตรี
เหมือนสังคีตบรรเลงเพลงสวรรค์เสนาะกรรณรี่เรื่อยดังดีดสี
นกนิยมชมพระบารมีโอ้ปางนี้ไร้สัตว์สงัดคน
พระสุริเยศอาเภทจำรัสแสงไม่แจ่มแจ้งเปนพยับโพยมฝน
ภาณุมาศอยู่ถึงราชรถบนกระหม่อมยลดังวิโยคพระบารมี
ด้วยพระบาทอำนาจดังทินกรมาเขจรจากจักรราษี
เคยเยี่ยมฟ้าส่องหล้าทุกราตรีให้โลกย์ทวีหวาดตวงสุชลเติม
พระสุริยงลงลับเมรุมาศแลปลาดดวงจันทร์เมื่อวันเฉลิม
ไฉนแขจึงไม่ไขวิไลยเติมฤๅภูลเพิ่มทนเทวศเพราะเหตุเรา
เห็นกำพร้าเวทนากระมังมากไม่เคยยากถอยยศกำสรดเศร้า
จึงอับแสงศศิฉายไม่พรายเพราให้เห็นเงารัศมีให้มีงาม
แต่มีงานดูงานมาหลายครั้งดำแหน่งนั่งต่อรองกันสองสาม
เมี่อสององค์ยังดำรงวรารามเลี่องพระนามไตรภพจบขจร
เว้นแต่จอมพระธิดาดวงกระษัตริย์เปนปิ่นฉัตรพระบุตรีศรีสมร
ด้วยสองสรวมร่วมมาตุโครทรไม่อาวรณ์คิดเคียดรังเกียจกัน
อันหน่อนางสุรางค์บรมนารถให้ร่วมอาศน์สองวังนรังสรรค์
มิใช่นำคนละอย่างจะต่างพันธุ์พระบิดุลาทรงธรรม์ยังตามเคย
เพราะพระไทยอนุกูลประยูรวงษ์โอ้พระองค์จงทิพศุขเสวย
ไหนนิ้วร้ายทรงตัดสลัดเลยพระคุณเอ๋ยสุจริตดังบิดา
จะพี่งเขาพระสุเมรุก็เอนหายสุดจะว่ายเมฆข้ามไปตามหา
ดังม้วยดินสิ้นดวงพระสุริยาเหมือนนิราปิ่นเกษบวรวัง
ลูกคิดถึงพระบิตาน้ำตาตกสงลารอกแสนพะวงแลธงหลัง
จะเหลียวดูธงน่าดังฟ้าบังกระไรซึ่งไกลกันสักพันวา
โอ้พระคุณบุญน้อยไม่มีบุตรเปนมงกุฎสืบสายไปภายน่า
จะสนองแทนลอองอิศรากับพระอรรคชายาไม่เล็งยล
มีแต่หน่อพระสนมไม่สมยศสวรรคตว้าเหว่ระเหระหน
กองกรรมจำนิราศบาทยุคลบรรดาชนฤๅจะชื่นทั้งหมื่นกรุง
แต่นิราฝ่าลอองบิดุเรศตังฉัตรเกษหักหายไม่หมายมุ่ง
โอ้พี่นัองควรประคองเคียงบำรุงมีแต่ยุ่งหยิบความไม่งามเลย
วังบวรใครห่อนนิยมหวังก็จะชังกันถึงไหนนะอกเอ๋ย
ที่ความดีนั้นไม่ยินรบิลเปรยมีแต่เฉยกับจะชั่วทุกตัวคน
ถีงเพียงนี้น่าทวีเทวศโอ้พระร่มโพธิ์ที่พึ่งมาสูญผล
ควรสวาดิมาดร่วมครุรภาสกนธ์ประสาจนรักกันคุ้มวันตาย
เออไฉนไยมามุ่งเขม้นมาดพระบิดุราชแรมร้างยังหมางหมาย
ช่างค่อนเคียดเสียตสำคำระคายไม่นึกสายโลหิตบิดาเดียว
บ้างก็คิดแต่งกลยุบลฬ่อมีแต่ก่อจะให้เกิดความเฉลียว
ไม่ปรกติริกันกระนั้นเจียวคนอื่นฟังเขาจะเกรียวไม่อยากชม
ที่ประจบท่านผู้ดีมีบุญมากเห็นญาติยากหันเหออกเทถม
มิใช่โจรก็มาจับประจานลมจะคอยข่มกันให้เข็ดฝีมือกลัว
คราวสิ้นวาศนานิจาช่วยกระไรเลยนึกมาก็น่าหัว
ราวกะเปนโทษขบถไม่งดตัวขุนนางพัวรอบข้างมาซักคำ
พระคุณเอ๋ยตัวลูกก็เปนหญิงนิราศมิ่งโมฬีที่อุปถัมภ์
มาซ้ำแสนอัประภาควิบากกรรมกลืนแต่น้ำตาตกในนาภี
พระสุเมรุเอนโลกย์เปนหลักปักเทพชักช่วยชลอคีรีศรี
ให้ดำรงคงทวีปสวัสดีจะเปนที่สามภพอำนวยพร
ฤๅอนงค์นางตะเคียนในเขตรเขาทั้งอารักษ์สถิตย์เนาแนวสิงขร
เขาสรวงเส้นธูปเทียนเศียรสุกรสังเวยวอนแรงรับภิรมย์ชม
โอ้พิมานอมรินทร์ดังอินทร์สว่างเด่นอยู่กลางสระรอบกระสินธุ์สม
มีโลกเรียงเคียงน่าลำดวนดมรำเพยลมกลิ่นแก้วผการาย
ทรงไว้พระเนาวโลกโมฬีเลี่องแต่งเครื่องมัสการทุกวันถวาย
มณฑาหอมน้อมก้านบานขจายดังจะหมายน้อมรศเรณูนวล
บูชาพระสัพพัญูอู่ทวีปขยายกลีบแย้มพุ่มโกสุมภ์สงวน
เคยมีสีหโนภาษบัณฑูรชวนสั่งประมวญหมู่สนมหนึ่งบุตรี
ให้สวดมัสการพระชินรัตน์ตามบัญญติเพศพุทธชินศรี
ประทานทั้งแตรดังระฆังตีจบแล้วก็ชุลีบรมญาณ
เคยถวายพระกุศลศรัทธารับทรงคำนับน้อมรศพระกรรมฐาน
เคยประสาทโภชาพระราชทานมัจฉซ้องสาธุการถึงเมืองพรหม
ประกอบหมู่มัจฉาในสาคเรศทอดพระเนตรระงับร้อนแรมปฐม
แขยงแย่งแย้งเย้ายวนนิยมเนื้อออนอ่อนอ้อนระทมบ้าบ่มใจ
เห็นกระแหแห่แห้โบกหางเห็นแก้วลองล่องล้องเดินสายชลไหล
แมลงภู่ทองท่องท้องมากินไคลลวายหว่ายหว้ายไปแสวงรอย
จะหาเหยื่อเผือเผื่อเผื้อภักษาเหล่าเทพาพ่าพ้าสื่อสนสร้อย
กระทิงหลายห่ายหล้ายกรายกรีดลอยนกเขาเข่าเข้าคอยชะม้อยตู
ได้เคยรับประทานอาหารหายตวันบ่ายว่ายเวียนมาเปนหมู่
ไม่ยลพระมิ่งมณเฑียรยกเศียรชูเหมือนจะรู้ว่าพระราชบิดา
เสร็จนิราศแรมร้างมไหสูรย์โอ้อาดูรทุกข์ทั่วถึงมัจฉา
ประพาศสวนเสร็จสรวลชวนพงานำยุพาเคยพายุพินชม
คณานางล้วนนางอนงค์แน่นประดับแสนนับแสนพระสนม
สำราญรื่นเริงรื่นชื่นอารมณ์ถวายลมโบกลมอยู่งานงาม
เห็นกาหลงเพลินหลงประสงค์หอมลูกจันทน์น้อมกิ่งน้อมเหลืองอร่าม
ระย้าแก้วแสงแก้วออกแวววามกุหลาบหนามหลีกหนามเด็ดดอกดม
เสาวคนธ์ระคนกลิ่นบุหงาจำปาแขกเมื่อแขกมาถวายถม
มณฑาหอมหวลหอมยิ่งตรอมตรมจะจากชมชวนชมระบมทรวง
ยิหุบหุ้มกลีบหุ้มขยายแย้มลำเจียกแหลมกลิ่นแหลมล้วนของหลวง
ลำดวนเย็นหอมเย็นดูเด่นดวงพิกุลร่วงดอกร่วงลงดาดดิน
เลาวรศทรงรศตระหลบฟุ้งดังจันทน์ปรุงประปรุงระคนกลิ่น
การเกดแก้วเกดอินทนิลบุหรงบินรีบบินไปจากรัง
ให้หนักจิตรจิตรหวลรัญจวนโหยฤดีโดยๆ ดิ้นถวิลหวัง
เหมือนอกเราๆ จะร้างนิราศวังจึงโศกสั่งๆ สวนอยุทธยา
เทวศโอ้ๆ สอื้นไม่คืนกลับจะแลลับๆ แนนิราศา
จะแรมเวียงๆ เอยไปเอกามาเห็นหน้าๆ นุชสุดอาไลย
ถนอมขวัญๆ ใจอย่าไห้ร่ำนี่เนื้อกรรมๆ สร้างแต่ปางไฉน
เคียงหมอบเคียงๆ ข้างล้วนนางในจะจำไกลๆ สงวนยังครวญโครม
สุรางค์นางๆ น้อมประนมเสนอไม่เอี้อนเออๆ จะจากจึงฉากโฉม
เคยชื่นเชยๆ นวลชวนประโลมจนแสงโคมๆ สว่างกระจ่างจันทร์
นิจาเรียมๆ จะร้างนิรารักยิ่งพิศภักตร์ๆ ผ่องเพียงบุหลัน
สพรั่งพร้อมๆ สิบสองพระกำนัลชุลีกรๆ รันอุระตรอม
เวรุพรากๆ เจ้าลำเภาภักตร์ธุระรักๆ ไม่เหือดจนเผือตผอม
ยุคลเคยๆ ปกเกษพระเดชจอมจะไกลกล่อมๆ ขวัญอย่าหวั่นใจ
ไม่ยลข้อๆ ระคายมาหน่ายหนีจะเคืองพี่ๆ นี้ตรงอย่าสงไสย
ทุกอนงค์ๆ นุชสุดพิไรจะพาให้ๆ เรียมหลงอารมณ์เฟือน
ต่างซบเศียรๆ เกล้าลงกราบบาทใจจะขาดๆ ที่ไม่มีเหมีอน
สงวนบุตรๆ นางอย่าห่างเรือนจึงเอื้อนโอษฐสั่งพระหน่อจะขอลา
โอ้พระมิ่งมงกุฎอยุทธเยศไยทุเรศแรมร้างพระวงษา
กระทั่งถือน้ำพิพัฒน์สัจจามาหยุดน่ามุขน้อมศิโรเรียง
ครั้งนี้ยังแต่ที่พรหมภักตร์ไม่ประจักษ์สิงหนาทประภาษเสียง
อันอนงค์ชิดเชยที่เคยเคียงบำราศเวียงจากพระอัฐิเธอ
ไปเปนข้าพระนรินทร์ผู้ปิ่นโลกย์ที่สิ้นโศกสบชื่นไม่คืนเสนอ
ไหนยังคิดถึงพระคุณเคยบำเรอก็ลเมอวร่ำว่าข้าทูลลออง
จนจิตรจำนิราฝ่าพระบาทมิได้ขาดชลเนตรคนึงหมอง
มายลวังยังลูกผูกประคองกรตระกองกอดคิดถึงบิตุตรอม
เห็นแต่หน่อยุคลกระมลเศร้าสำศัญเท่าแทนองค์ประจงถนอม
จะหาไหนที่พึ่งประหนึ่งจอมเหมือนพระมิ่งล้นกระหม่อมไม่เล็งปาน
ครั้งสละสมบัติทรงบรรพชิตมิได้คิดห่วงใยในสงสาร
ไม่ชื่นชมด้วยสนมบริพารศฤงฆารทั้งนิเวศน์ไม่เจตนา
บุตรีโอรสประนตน้อมทูลกระหม่อมเมินปลงทรงสิกขา
สำรวมพระกายหมายเอกะคตาอิศราโทมนัศดำรัสวอน
อ้าพ่อดุจไนยเนตรพี่อย่าเพ่อหนีออกทรงผนวชก่อน
เชษฐเปลี่ยวเอองค์ดำรงนครเราร่วมร้อนร่วมชีพอันเดียวกัน
ช่วยบำรุงราษฎรขจรเดชดังสุริเยศส่องเยี่ยมเหลี่ยมสวรรค์
ประชาชาวหนาวสท้านอารมณ์ครันแต่รำพรรณเวียนวอนอ่อนพระไทย
เหมือนพระเจ้าสญไชยบรมนารถเชิญพระบาทยศยิ่งมิ่งมไห
บรรพชาลาพรตออกจากไพรคืนไอสวรรยาโอฬาฬาร
ก็เรืองยศปรากฏพระเกียรติฟุ้งกระษัตริย์อื่นหมื่นกรุงขยาดหาญ
ระทดถอยคอยถวายบรรณาการนับทิวารตั้งแต่จะแลเลย
ชิโนรสปรากฏสังวรศิลก็ยังรินน้ำเนตรไม่วายเสวย
ทั่วพิภพจบโลกไม่เล็งเสบยพระคุณเคยโอบอ้อมอารีครัน
พระยอดขัติยวงษ์ทรงพระเดชทุกนิเวศน์เกรงหวาดประหวั่นขวัญ
ราษฎรห่อนชื่นทุกคืนวันมีแต่รันอกร่ำอุระรอน
ลูกโศกสุดดังบุตรสิงหพรากกำจัดจากมงกุฎราชไกรสร
แสนรำจวนหวลคิดพระบิดรชวนกันจรจะไปเฝ้ายิ่งเปล่าใจ
สำคัญจิตรคิดจะชื่นขืนวิโยคพระปิ่นโลกย์ลูกเล่าจะเนาไหน
นุภาพเพียงสุริโยวโรไกรฤๅครรไลล่วงทวีปจักรวาฬ
ยลแต่จอมบิดุลานราสรรค์อันเปนฉัตรแก้วกันกระหม่อมหลาน
ข้าพระบาทมาดหมายเสมอปานบิตุเรคค่อยสำราญมโนปรีดิ์
จะดับเข็ญเย็นเกล้าทุเลาร้อนประนมกรขอบพระเดชโมฬีศรี
ขอพระชนม์ยลยืนสักหมื่นปีอย่ารู้มีพระโรคมารุมรึง
เชิญศุลีเลิศหล้าธาดาเดชมาคุ้มเภทอย่าให้พ้องพระองค์ถึง
ขอวัชรินทร์ปิ่นิเวศน์ดาวดึงษ์ประชุมช่วยที่พึ่งให้อยู่เย็น
เชิญนารายน์จากสายกระสินธุ์หลวงจะเล็งล่วงทิพเนตรสังเกตเห็น
อย่าวิมุติมิได้ทุจริตเปนไม่ว่างเว้นคิดพระคุณทุกนาที
ข้าซื่อต่อแผ่นดินไม่หมิ่นประมาทเทวราชจงจำเริญทุกราษี
อันพระปิ่นกรุงทวารวดีหมื่นบุรีอ่อนราบศิโรลาน
จงสามิภักดิ์เปนข้าฝ่าลอองต่างฉลองพระบาทเบี้องสอดประสาน
ขอสุนทรให้เหมือนพรแปดประการดังมัฆวานอวยศรีสวัสดี
ถวายเวสสันดรบรมนารถที่จากราชนิเวศน์เปนฤๅษี
กับอนงค์ทรงสร้างพระบารมีเธอยกองค์พระมัทรีอำนวยทาน
อินทพราหมณ์ก็ประณามศิโรเพศมาเพิ่มพระบารเมศภินิหาร
อัศจรรย์ลั่นโลกย์ทั้งจักรวาฬเทวส้องสาธุการถวายพร
ขอคำให้ประสิทธิดังอิศราชจึงภิวาทจาฤกไว้ในอักษร
จะน้อมเกษมัสการประสานกรให้ถาวรคุ้มโทษบันเทาทำ
ถีงจะเนาในพระเพลิงถเกิงแสงอย่าให้ไหม้ร้อนแรงช่วยอุปถัมภ์
ถ้าตกใตัพระคงคาเมตตานำพระคุณค้ำชูฉันอย่าอันตราย
พระบารเมศเคยปกดิลกโลกย์บำบัดโศกปัทวะเทวศหาย
โจรไภยราชไภยอย่าใกล้กรายขอถวายชีวินพระชินวร
แม้นผู้ใดใส่โทษออกโจทย์หามุสาข้าพเจ้าเหมือนคราวก่อน
สรรพทุกข์สารพัดอธิกรณ์ขอเทพย้อนให้ท่านผู้นั้น เอย ฯ
             

      ๏ ประนมน้อมศิโรราบบังคมกราบพระบาทา
บพิตรพระบิดาอันเปนที่นมัสการ
ลูกรฦกถึงฝ่ายุคลจึงนิพนธ์ประกอบสาร
หวังพระยศในบทมาลย์ให้ปรากฎพระเกียรติระบือ
ดังองค์นารายน์รามยังพระนามสนั่นฦๅ
ทั้งสามภพบ่เคียงคือเหมือนบิดุเรศปิ่นเกษเรา
พระอานุภาพมาปราบยุคให้เปนศุขบันเทาเบา
สองพระองค์ดำรงเนาเปนมงกุฏอยุทธยา
ราษฎร์สนองมโนปรีดิ์ก็ยินดีด้วยปราบดา
หมายพึ่งพระเดชาให้เปนสุขสถาผล
ทุกประเทศก็เกรงฤทธิ์ไม่อาจคิดจะโจมผจญ
รักกายเสียดายชนม์ถวายเครื่องบรรณาการ
ถึงอังวะที่จะรบในแผ่นภพอยุทธราญ
สุรามรินทร์นั้นแพ้พาลแต่ครั้งนี้พระมีไชย
ดังฤๅเลร็จนิราศันสู่สวรรคครรไล
พระกฤษฎาสุธาไหวโอัพระคุณเคยอุ่นวัง
ประโคมยามมหรทึกฟังพิฦกทั้งแตรสังข์
พิณพาทย์เสนาะดังดุริยางค์บำเรออินทร์
หนึ่งนางสุรางค์เรียงบังคมเคียงยุคลนรินทร์
ดังอับศรในราษินถวายกรอยู่งานงาม
ทั้งสิบลองพระกำนัลทิวันระวังทุกทุ่มยาม
เสนางค์ล้วนชาญสนามเคยขึ้นเฝ้าทุกหมวดกรม
พระวงษาสพรั่งพร้อมกราบน้อมศิโรดม
ประดับแสนสุดาสนมมานิราศพระบาท เอย ฯ
             

      ๏ ปางปิ่นธรณี โมฬีโลกย์ฦๅพระเดช ดั่งอิคเรศวโรฤทธิ์ ชายชาญชิตเลิศภพ ทุกกรุงนบน้อมเกล้า เปนจอมเจ้ามงกุฎหล้า พระเกียรติขจรเฟื่องฟ้า หมื่นนคราร้อนรีบ ทั้งสี่ทวีปพงษ์จักรพรรติ ร้อยเอ็ดกระษัตริย์โอนเศียร บังคมเวียนบรรณาถวาย ดังนารายณ์มาปราบดา จอมอยุทธยาล้ำโลกย์ ดับวิโยคเมื่อยามยุค ราษฎร์เปนศุขสรรเสริญ ขอจำเริญพระชัณษา ทรงอิศราอานุภาพ ไพรีราบเกรงระย่อ ทุกกรุงท้อถอยหลัง พระยศยิ่งพระสุริเยศ ส่องทุกประเทศสว่างแผ้ว ดังวิเชียรแก้วมณีโชติ แสงรุ่งโรจน์ชัชวาลย์ รัศมีปานทิพากร เทพอับศรอยู่เรียงรอบ ชุลีหมอบเมีองชม้าย ส่วนสุริฉายส่องภพ เร่งรถจบจักรวาฬ แล้วคืนสถานเมื้อมิ่ง พร้อมเพราพริ้งเลิศลักษณ์ วิไลยลักษณลออโฉม งามประโคมล้วนอนงค์ แทบเทียมองค์เทพกัญญา ดังนางฟ้าจากสวรรค์ ผาดผายผันเยี่ยมเมฆ สำอางเอกเอี่ยมลออง สุรางค์รองบทเรศ มงกุฎเกษปิ่นพระสนม เคยชิดชมสำราญรื่น วังเครงครื้นพิณพาทย์ หมู่อำมาตย์ฟื้นชาญสนาม ทหารรามพอเท่าถีง พระเกียรติกึ่งบ่เกินกัน เปนหลักจรรบำรุงราษฎร์ พร้อมพระญาติวงษา ทรงศักดากำแหงหาญ ล้วนชำนาญณรงค์รบ ทั้งไตรภพบ่อาจหยาม ฦๅพระนามสยองผม ทุกนิคมก้มเกษกราบ ปัจจาราบเกรงพระฤทธิ์ ทั้งสิบทิศกระถดถอย ประสมสร้อยสรรเพ็ชญ์ คงจะเสร็จได้นำสัตว์ ให้ล่วงวัฏสงสาร พ้นบ่วงมารเปนเที่ยงแท้ บารมีแผ่เผื่อทั่วโลกย์ ขอข้ามโอฆกันดาร พระโพธิญาณยิ่งแล้ว ทรงดวงแก้วกุมกรกำ อันเทวทำบ่ลืมหลง พระไทยจงจำเริญผล สร้างพระกุศลก่อเกื้อ ปางหลังเหลือมามาก ยังภายภาคอนาคต กำหนดสี่อสงไขย มีกำไรยิ่งแสนกัป อเนกนับคณนา จึงสำเร็จปรมาภิเศกสร้าง จะนำทางมนุษย์สวรรค์ องค์พระสัพพัญูเจ้า เลิศแล้วใครเสมอ ฯ
             
เครื่องมือส่วนตัว