กาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == หมวดหมู่:วรรณคดีไทย [[หมวดหมู่…')
(บทประพันธ์)
แถว 5: แถว 5:
'''พระนิพนธ์:''' [[เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์]]
'''พระนิพนธ์:''' [[เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์]]
== บทประพันธ์ ==
== บทประพันธ์ ==
-
<tpoem>
 
'''( เนื้อความตอนต้นสูญหาย )'''
'''( เนื้อความตอนต้นสูญหาย )'''
 +
 +
<tpoem>
 +
๏  เกลื่อนกรูหมู่จัตุรงค์  เปนกันกงเรียบเรียงไป
 +
ทรงช้างระวางใน  เทพลีลาหลังคาทอง ฯ
 +
 +
๏ เกลื่อนกรูหมู่แห่ห้อม  เรียงไสว
 +
เสด็จพุดตาลทองไคล  หว่างเขรื้อง
 +
ทรงช้างระวางใน  มีชื่อ
 +
เทพลีลาเยื้อง  ย่างแห้นหลังดี ฯ
 +
 +
 +
๏ เครื่องสูงเพราเพริศพราย  ชมชุมสายซ้ายขวาเคียง
 +
ธงไชยธงฉานเรียง  ปี่กลองชนะตะเต่องครึม ฯ
 +
 +
๏ กลองทองตีครุ่มครึ้ม  เดิรเรียง
 +
จ่าตะเติงเติงเสียง  ครุ่มครื้น
 +
เสียงปี่รี่เรื่อยเพียง  กระเวก
 +
แตร้นแตร่นแตรฝรั่งขึ้น  หวู่หวู้เสียงสังข์ ฯ
 +
 +
 +
๏ นักสนมกรมชแม่มี่  ขี่ช้างกูบรูปโลมใจ
 +
พักตราอ่าผ่องใส  นุ่งห่มโอ่โสภาจริง ฯ
 +
 +
๏ นักสนมกรมชแม่เจ้า  ทั้งหลาย
 +
ขี่ช้างกูบดาวราย  แจ่มหน้า
 +
พักตราผ่องใสสาย  สุดสวาท
 +
นุ่งห่มโอ่โถงผ้า  อร่ามริ้วทองพราย ฯ
 +
 +
 +
๏ เพริศเพราเหล่านางห้าม  รูปทรงงามตามเสด็จไป
 +
ผมมวยรวยริมไร  ม่านปีกนกวกวงวัง ฯ
 +
 +
๏ เพริศเพราเหล่านางห้าม  งามนัก
 +
รูปงามตามแลลักษณ์  ลูบท้อง
 +
ผมมวยรวยไรอรรค  ชาเยศ
 +
ม่านปีกนกปกป้อง  ห่อหุ้มเดิร ฯ
 +
 +
 +
๏ เที่ยวเล่นเปนเกษมสุข  แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
 +
เร่งร่ายผายผาดผัง  หัววริกรื่นชื่นชมไพร ฯ
 +
 +
๏ สุขเกษมเปรมหน้าเหลือบ  ลืมหลัง
 +
แสนสนุกปลุกใจหวัง  วิ่งหรี้
 +
เดิรร่ายผายผันยัง  ชายป่า
 +
หวัวร่อรื่นชื่นชี้  ส่องนิ้วชวนแล ฯ
 +
 +
๏ พังพลายหมู่ลายหซร้อง  ในเถื่อนท้องร้องระงมดง
 +
ธารน้ำคร่ำกันลง  เล่นน้ำแน่นแคร้นชมกัน ฯ
 +
 +
๏ ฝูงช้างสล้างใหญ่น้อย  พังพลาย
 +
ทอกโทนพินายหลาย  ส่ำถ้วน
 +
ทองแดงเผือกเนียมราย  ในเหล่า
 +
ลงท่าน้ำดำป้วน  เล่นร้องฮูมแปร๋น ฯ
 +
 +
 +
๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยว  เขาเสี้ยมเสี้ยวเสียวใจหาย
 +
เลมหล้าอาหารชาย  ป่าริมทุ่งวุ้งวงเขา
 +
 +
๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยว  เขาเสี้ยมเสี้ยวเสียวใจหาย
 +
เขาเซี่ยมเซียวใจหาย  ทดน้ำ
 +
เลมหล้าอาหารชาย  ริมป่า
 +
ลงล่องท่องท้องน้ำ  ปลักแฉ้กลางตม ฯ
 +
 +
 +
๏ กวางทรายร่ายกินหญ้า  สุกรป่าพาพวกจร
 +
สุนัขในไล่เห่าหอน  ตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง ฯ
 +
 +
๏ กวางทรายร่ายเสพย์หญ้า  ดงดอน
 +
หมูป่าพาเพื่อนจร  ลูกล้อม
 +
สุนัขจิ้งจอกหอน  หลายเหล่า
 +
เปนหมู่พรูเพรียกห้อม  เห่าอื้ออึงเสียง ฯ
 +
 +
 +
๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่  ล่ำเติบตรูดูกำยำ
 +
หน้าด่อนท่อนตัวดำ  เขาเข้าวงก่งรอมงาม ฯ
 +
 +
๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่  ขันขำ
 +
ล่ำเติบดูกำยำ  โป่งป้อม
 +
หน้าด่อนท่อนตัวดำ  แรงเลิศ
 +
เขาเค่าวงก่งง้อม  แปล่มเสี้ยมรอมงาม ฯ
 +
 +
 +
๏ มีหมีพีดำขลับ  ขึ้นไม้ผับฉับไวถึง
 +
เรี่ยวแรงแขงขันขึง  กัดโพรงไม้ได้ผึ้งกิน ฯ
 +
 +
๏ มีหมีดำขลับหน้า  เปนมัน
 +
ขึ้นไม้ผับฉับพลัน  ขบขึ้ง
 +
เรี่ยวแรงแขงข้างขยัน  สามารถ
 +
กัดฉีกไม้ได้ผึ้ง  คาบเคี้ยวพลางหวาน ฯ
 +
 +
 +
๏ เสือโคร่งยงปีปเปรี้ยง  แอบโอนเฉียงเสียงพึงกลัว
 +
ร้ายยวดหนวดเพราพัว  ลองเล็บเล่นเผ่นโผนผาย
 +
 +
๏ เสือโคร่งยงปีปเปรี้ยง  สยองหัว
 +
ศัพทสำเนียงพึงกลัว  ทั่วแคว้น
 +
ร้ายยวดหนวดเพราพัว  ตามุ่ง
 +
ลองเล็บเล่นเผ่นแหล้น  โลดเลี้ยวโผนผาย ฯ
 +
 +
 +
๏ เสือเหลืองเมืองเชื่องหน้า  อ้ายพรานป่าล่ากินฉมัน
 +
เรี่ยวแรงแขงดุจกัน  กับเสือโคร่งโกงเสมอสมาน ฯ
 +
 +
๏ เสือเหลืองยงแยกเขี้ยว  ยิงฟัน
 +
อ้ายด่างลายสพายสมัน  คาบเคี้ยว
 +
ปีปเปรี้ยงเสียงขยาดขยัน  ไวว่อง
 +
ปูนเปรียบเสือโคร่งเลียว  โลดแล่นเสมอสมาน ฯ
 +
 +
 +
๏ เสือดาวคร่าวขึ้นไม้  วิ่งว่องไวได้โดยพลัน
 +
สัตว์ใดไปใกล้มัน  โจนยุดถนัดกัดกินไป
 +
 +
๏ เสือดาวคร่าวขึ้นไม้  มองขยัน
 +
วิ่งว่องไวฉับพลัน  นั่งไม้
 +
สัตว์ใดใกล้กลายมัน  ในร่ม
 +
โจนยุดถนัดกัดได้  ขย้ำก้มกินหลัง ฯ
 +
 +
 +
๏ ลมาดผาดเริงแรง  ฟันฟางแขงแกล้งกัดวัลย์
 +
เถาใหญ่ใกล้ปากมัน  กัดขาดสนิธติดปากไป ฯ
 +
 +
๏ ลมาดอาจร่านเหรี้ยว  แรงขยัน
 +
ฟันฟางคางแข็งวัลย์  กิ่งเกี้ยว
 +
เถาใหญ่ใกล้ปากมัน  คาคาบ
 +
กัดขาดสนิทติดเขี้ยว  ย่ำย้ำกินพลาง
 +
 +
 +
๏ โคแดงแจ้งกินอยู่  ยืนเป็นหมู่คู่เคียงคลา
 +
ลูกน้อยค่อยตามมา  เที่ยวเล็มรบัดกัดปลายกิน ฯ
 +
 +
๏ โคแดงแจ้งอยู่ล้อม  กินเกลียง
 +
ยืนเป็นหย่อมพร้อมเพรียง  พรั่งหน้า
 +
ลูกน้อยค่อยตามเคียง  แนมแม่
 +
เที่ยวเล็มรบัดกัดหญ้า  อ่อนอ้วนปลายเคลีย ฯ
 +
 +
 +
๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งออก  แร่งเป็นศอกหนอกสูงเถลิง
 +
เขาโตโคล่ร้องเริง  เมียลูกน้อยค่อยตามกัน
 +
๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งแหล้น  ลองเชิง
 +
แร่งศอกหนอกสูงเถลิง  เถื่อนเถ้า
 +
เขาโตโคล่ร้องเริง  ชมหมู่
 +
เมียลูกน้อยค่อยเคล้า  แม่เนี้ยวกินนม ฯ
 +
 +
 +
๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้อง  เดิรปีบร้องก้องพงไพร
 +
เที่ยวกินถิ่นฐานใด  มีน้ำหญ้าอาหารเนา ฯ
 +
 +
๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้อง  แถวไศล
 +
เดิรเปิบร้องก้องไพร  เกลื่อนกลุ้ม
 +
เที่ยวกินถิ่นฐานใด  แดนโป่ง
 +
มีหญ้าน้ำผงพงผุ้ม  บ่ายเข้านอนเนา ฯ
 +
 +
 +
๏ ลมั่งพรั่งดงกว้าง  เขาสองข้างกางโจงโครง
 +
รูปร่างกวางโอ่โถง  ฝีเท้าวิ่งยิ่งกว่ากวาง ฯ
 +
 +
๏ ลมั่งเขาคู่ตั้ง  กางโกง
 +
สองข้างเคียงโจงโครง  แตกต้น
 +
รูปร่างกวางโอ่โถง  ดีกว่า
 +
ฝีเท้าวิ่งยิ่งพ้น  แล่นล้ำเลยกวาง ฯ
 +
 +
 +
๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเสี้ยว  บิดเปนเกลียวเรียวสูงแหลม
 +
ตัวต่ำดำมอมแมม  ย่อมแล่นโลดโดดโจนลอย ฯ
 +
 +
๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเซี่ยว  สูงแหลม
 +
บิดเปนเกลียวเรียวแนม  คู่หยื้น
 +
ตัวต่ำดำมอมแมม  คราวตื่น
 +
ย่อมแล่นโลดโดดขึ้น  สู่ฟ้าโจนลอย ฯ
 +
 +
 +
๏ เลียงผาอยู่ภูเขา  หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
 +
รูปร่างอย่างแพะหมาย  ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน ฯ
 +
 +
๏ เลียงผาอยู่พ่างพื้น  ภูเขา
 +
หนวดภู่ดูเพราเขา  ไปล่ท้าย
 +
รูปร่างอย่างแพะเอา  มาเปรียบ
 +
ขนเหม็นสาบหยาบร้าย  กลิ่นเกล้าเหมือนกัน ฯ
 +
 +
 +
๏ งูเหลือมเอื้อมพันไม้  หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
 +
เนื้อกวางย่านเดิรพาน  หย่อนตัวกระหวัดรัดกลมกิน ฯ
 +
 +
๏ งูเหลือมเกี่ยวไม้ใฝ่  อาหาร
 +
หางกระหวัดโยนยาน  แย่งไว้
 +
เนื้อกวางสุกรฟาน  เดิรด่วน
 +
หย่อนตัวกระหวัดรัดไว้  ปากอ้าอมกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ งูเหลือมกินสุกร  อึ้งทึ่งนอนห่อนเลื้อยไป
 +
หน่อไม้ขึ้นมาไช  ท้องแทงตลอดรอดคลาคลืน ฯ
 +
 +
๏ งูเหลือมกินลมั่งเนื้อ  กวางฟาน
 +
บ่ห่อนสุดคลาคลาน  อิ่มอึ้ง
 +
นอนใกล้ก่อไผ่สาน  แซมหน่อ
 +
แทงตลอดหลังขาดขรึ้ง  เมื่อเลื้อยคลายไป ฯ
 +
 +
 +
๏ หมูเม่นเห็นพรอมแพรม  ขนตัวแหลมแซมนักหนา
 +
ใครปะจะจับมา  พองขนสบัดสลัดถูกแทง ฯ
 +
 +
๏ หมูเม่นขนเสี้ยมทั่ว  กายา
 +
ขนแหลมแซมหนั่นหนา  แน่นซร้อง
 +
ใครปะจะจับมา  ดูเล่น  ก็ดี
 +
พองขนสบัดสลัดต้อง  ติดหน้าถูกแทง ฯ
 +
 +
 +
๏ เสือปลาล่ากินปลา  ริมน้ำท่าหาเหยื่อแฝง
 +
ปลาว่ายสวายหางแดง  ฉวยได้ถนัดกัดเร่กิน ฯ
 +
 +
๏ เสือปลาปลาเวียนหว้าย  ตีแปลง
 +
ริมท่าหาเหยื่อแฝง  อยู่ใกล้
 +
ปลาว่ายสวายหางแดง  เปนหมู่
 +
ฉวยถูกถนัดกัดได้  คาบเว้เร่กิน ฯ
 +
 +
 +
๏ กระต่ายหลายพงศ์พรรค์  เต้นชมจันทร์หันตัวตาม
 +
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลาม  ยามออกเล่นเต้นชมกัน ฯ
 +
 +
๏ กระต่ายหลายพวกพ้อง  พรรค์งาม
 +
ชมชื่นแสงจันทร์ตาม  ไล่เหล้น
 +
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลาม  หลายเหล่า
 +
ยามเมื่อออกเล่นเต้น  โลดเลี้ยวชมกัน ฯ
 +
 +
 +
๏ เสือกระต่ายลายเขียนขีด  ตัวกระจิดนิดกว่าแมว
 +
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊ว  ขบกระตายแล้วแง้วคำราม ฯ
 +
 +
๏ เสือกระต่ายลายขีดขั้น  เปนแถว
 +
กระจิดกว่าแมวเหมือนแมว  ปากเขี้ยว
 +
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊ว  มองหมอบ
 +
ขบกระต่ายตายเดี้ยว  ย่ำย้ำคำราม ฯ
 +
 +
 +
๏ กระจงกระจิดเตี้ย  วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู
 +
เหมือนกวางอย่างตาหู  มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง ฯ
 +
 +
๏ กระจงกระจิดหน้า  เอนดู
 +
เดินร่อยเรี่ยงามตรู  กระจ้อย
 +
เหมือนกวางอย่างตาหู  ตีนกีบ
 +
มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย  แนบข้างเคียงสอง ฯ
 +
 +
 +
๏ ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย  ชนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
 +
ฝูงค่างหว่างพฤกษา  ต่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง ฯ
 +
 +
๏ ฝูงลิงยวบยาบต้น  พวาหนา
 +
ฝูงชนีมี่กู่หา  เปล่าข้าง
 +
ฝูงค่างหว่างพฤกษา  มาสู่
 +
ครอกแครกใส่ไขว่คว้าง  โลดเลี้ยวโจนปลิว ฯ
 +
 +
 +
๏ ลิงลมชมเชยคู่  ขึ้นนั่งอยู่ผู้คนหมาย
 +
ลมพัดบัดเดียวหาย  พัดทิศใดไปตามลม ฯ
 +
 +
๏ ลิงลมชมคู่ต้น  ยางทราย
 +
คนนั่งตั้งใจหมาย  ยื่นกล้วย
 +
ลมพัดบัดเดียวหาย  วิววู่
 +
พัดทิศใดไปด้วย  ด่วนคล้าย ตามลม ฯ
 +
 +
 +
๏ ลิงจุ่นงุ่นเงื่องเซื่อง  ค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลาน
 +
หางสั้นมันงมงาน  จับตัวไล่ได้ง่ายดาย ฯ
 +
 +
๏ ลิงจุ่นงุนหง่อยหน้า  ซมซาน
 +
ค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลาน  ร่ายไม้
 +
หางสั้นมันงมงาน  กินอยู่
 +
จู่จับเอาตัวได้  ง่ายแท้ควรเห็น ฯ
 +
 +
 +
๏ ฝูงบ่างบ้างแดงด่าง  ไต่หมากปรางบ้างแบนโผ
 +
คนดูอยู่อะโข  ย่อมทิ้งไล่ให้มันบิน ฯ
 +
 +
๏ ฝูงบ่างแดงด่างบ้าง  ตัวโต
 +
ไต่หมากปรางแบนโผ  แล่นไม้
 +
คนดูอยู่อะโข  เนืองนั่ง
 +
ย่อมทิ้งยิงกระสุนให้  ผึ่งท้องแบนบิน ฯ
 +
 +
 +
๏ ตะกวดเหี้ยเมียเข้าไข่  ในโพรงไม้ได้เปนรัง
 +
ตัวน้อยกระจ้อยหวัง  รูปจรเข้เล่ห์เหมือนกัน ฯ
 +
 +
๏ ตระกวดเหี้ยเมียเข้าไข่  ตื่นตรัง
 +
โพรงไม้อยู่เปนรัง  ด่วนดั้น
 +
ตัวน้อยกระจ้อยหวัง  ดูรูป
 +
อย่างจรเข้เล่ห์นั้น  ห่อนเพี้ยนเหมือนกัน ฯ
 +
 +
 +
๏ ลินแล่นแผ่นดินหลาย  เห็นคนอายซ่อนหน้าตา
 +
คนเขาเอาตัวมา  ขดตัวไว้ไม่คลี่คลาย ฯ
 +
 +
๏ ตัวลินเปนเกร็ดถั้ว  กายา
 +
หัวหางขดหน้าตา  ซ่อนไว้
 +
คนเขาเอาตัวมา  ดูบ่อย
 +
ยื้อคร่าแกะแคะได้  ไม่เขยื้อนคลาคลาย ฯ
 +
 +
 +
๏ ตัวตุ่นงุนคลาคลาน  ได้อาหารเข้าในโพรง
 +
ชอบกลต้นสำโรง  เข้าเคล้าคู่อยู่เปนรัง ฯ
 +
 +
๏ ตัวตุ่นค่อยเตื่องเต้น  หลังโกง
 +
ฉวยสัตว์เข้าในโพรง  ไต่เต้า
 +
ชอบกลต้นสำโรง  รังร่ม
 +
พาคู่เคียงคลาเคล้า  อยู่ดี รวงรัง ฯ
 +
 +
 +
๏ ฝูงอ้นด้นแผ่นดิน  กินรากไผ่ใบรวกผุย
 +
ปล่องเห็นเปนขี้ขุย  คุ้ยดินร่วงกลวงเปนโพรง ฯ
 +
 +
๏ ฝูงอ้นด้นข่วนฟุ้ง  ดินขจุย
 +
รากไผ่ไม้รวกผุย  กัดแหง้น
 +
เห็นช่องปล่องดินขุย  ขุดอยู่
 +
ดินร่วงกลวงทางแหล้น  ลอดเลี้ยวในโพรง ฯ
 +
 +
 +
๏ กระเห็นเต้นคล้ายคล้าย  ลายพรอมแพรมแกมดำเหลือง
 +
ไต่บนต้นหมากเฟือง  ลูกสุกห่ามตามกันกิน ฯ
 +
 +
๏ กระเห็นเต้นต่ายเหนื้อง  มาเนือง
 +
ลายด่างดำแกมเหลือง  เล่าเหลื้อง
 +
ไต่บนต้นหมากเฟือง  กินเฟื่อง
 +
หางด่องกิ่งไม้เปลื้อง  คล่ำคล้ายชายคลาย ฯ
 +
 +
 +
๏ กระเอื้อยเลื้อยหางยาว  ด่างดำขาวราวลูกอิน
 +
สุกพร้อมย่อมมากิน  เห็นเต้นไต่ไปตามกัน ฯ
 +
 +
๏ กระเอื้อยเลื้อยพู่ห้อย  หางยาว
 +
ลูกอินกินเมื่อคราว  แก่ต้น
 +
รูปร่างด่างดำขาว  เขียนขีด
 +
ตื่นเต้นไต่ไปพ้น  อยู่บ้างเบาบาง ฯ
 +
 +
 +
๏ กระแตไต่ไม้กระจ้อย  ตัวน้อยน้อยโจนเรี่ยเรี่ย
 +
โพรงปูอยู่กับเมีย  หางพัวเรียวเที่ยวไปมา ฯ
 +
 +
๏ กระแตไต่กิ่งน้อย  ตามเมีย
 +
ตัวกระจ้อยโจนเรี่ย  ร่ายไม้
 +
โพรงปรูอยู่เย็นเลีย  โลมลุก
 +
หางพู่เรียวเที่ยวไหล้  คู่เลี้ยวไปมา ฯ
 +
 +
 +
๏ ชมชมดรสกลิ่นกล้า  หน้าเซี่ยมแสล้มแนมคู่เคียง
 +
เล่าฤาชื่อชมดเชียง  คนหานักมักตามรอย ฯ
 +
 +
๏ ชมดเชียงเกลี้ยงกลิ่นกล้า  หอมชวย
 +
แชล่มคางหางพู่สวย  เซี่ยมหน้า
 +
ยืนคู่อยู่เคียงรวย  รวยกลิ่น
 +
คนตามถามชื่อข้า  คงขึ้น ขายรอย ฯ
 +
 +
 +
๏ กระรอกหางพัวพู่  โพรงไม้อยู่คู่ไล่ตาม
 +
หางสลวยละลวยงาม  วิ่งไปมาน่าเอนดู ฯ
 +
 +
๏ กระรอกหางพู่เหล้น  ปลายมะขาม
 +
โพรงไม้คู่อยู่ตาม  โลดไหล้
 +
หางสลวยละลวยงาม  ขาวผ่อง
 +
วิ่งไวไปมาให้  ชื่นหน้าเอนดู ฯ
 +
 +
 +
๏ ป้องข่างอย่างปึ้งก่า  มาแปลกกันมันรู้บิน
 +
เหนียงในใต้คางกิน  อาหารได้ไป่รู้เลย ฯ
 +
 +
๏ ป้องข่างอย่างปึ้งข่าคล้าย  โดยถวิล
 +
แปลกแต่รู้แบนบิน  ไล่ขู้
 +
เหนียงในใต้คางกิน  สัตว์เสพย์
 +
อาหารใดไปรู้  ห่อนแจ้งใจเอย ฯ
 +
 +
 +
๏ ตุกคู่หมู่ตุกแก  อึ่งอ่างแย้แลบึ้งแตน
 +
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวน  บนปลายไม้ใหญ่รังรวง ฯ
 +
 +
๏ ตุกแกคุกตูร้อง  คนแหงน  ดูนา
 +
แย้บึ้งปึ้งก่าแตน  ต่อเฝ้า
 +
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวน  รังเรียบ
 +
บนปลายไม้ใหญ่เถ้า  แผ่นตั้งรวงเรียง ฯ
 +
 +
 +
๏ งูเขียวเที่ยวเลื้อยแล  พบตุกแกย่อมสู้กัน
 +
ตุกแกกัดงูพัน  แรงงูมากปากคลาคลาย
 +
 +
๏ งูเขียวสายม่านเลื้อย  ลายมัน
 +
พบตุกแกกวดขัน  เกี่ยงกล้า
 +
งูขบกัดงูพัน  รัดรอบ
 +
แรงมากปากคลายอ้า  ออกให้งูพลัน ฯ
 +
 +
 +
๏ งูเขียวรัดตุกแก  ตุกแกแก่คางแขงขยัน
 +
กัดงูงูยิ่งพัน  อ้าปากง่วงล้วงตับกิน ฯ
 +
 +
๏ งูเขียวแลเหลี่อมพ่น  พิศพลัน
 +
ตุแกคางแขงขยัน  คาบไว้
 +
กัดงูงูเร่งพัน  เนดเครียด
 +
ปากอ้างูจึงได้  ลากล้วงตับกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ ยูงทองย่องเยื้องย่าง  รำรางชางฟ่างปลายหาง
 +
ปากหงอนอ่อนสำอาง  ช่างรำเล่นเต้นตามกัน ฯ
 +
 +
๏ ยูงทองย่องย่างเยื้อง  รำฉวาง
 +
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง  เฉิดหน้า
 +
ปากหงอนอ่อนสำอาง  ลายเลิศ
 +
รำเล่นเต้นงามหง้า  ปีกป้องเปนเพลง ฯ
 +
 +
 +
๏ นกเขาเค้าเคียงคู่  ก่งคอคูคู่ขานขัน
 +
กระทาทักปักกรอกัน  ข้างขันไขว่ไล่ลายชม ฯ
 +
 +
๏ นกเขาขันคู่คู้  เคียงขยัน
 +
คอเก่งคูขานขัน  คั่นหน้า
 +
กระทาทักปักกรอกัน  เสียงเฉื่อย
 +
ลามไล่ไขว่ขวัญจ้า  แปลกขู้ชนแทง ฯ
 +
 +
 +
๏ ไก่ป่าจ้าเสียงเตี้ย  พาลูกเมียเขี่ยหากิน
 +
เห็นคนก่นวิ่งบิน  เข้าเร้นรอกซอกซอนหาย ฯ
 +
 +
๏ ไก่ป่าขันเจื่อยแจ้ว  กลางดิน
 +
ลูกเมียเขี่ยหากิน  กกเหล้น
 +
เห็นคนก่นวิ่งบิน  ถามตื่น
 +
ซอกซอนซ่อนตัวเร้น  พุ่มไม้สูญหาย ฯ
 +
 +
 +
๏ ไก่ฟ้าอ้าสดแสง  หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
 +
ปีกหางต่างสีแกม  สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน ฯ
 +
 +
๏ ไก่ฟ้าหน้ากล่ำกล้า  ปากแหลม
 +
หัวแดงแฝงเดือยแนม  เนื่องแข้ง
 +
ปีกหางต่างสีแกม  ลายลวด
 +
ตัวด่างอย่างคนแกล้ง  แต่งแต้มขีดเขียน ฯ
 +
 +
 +
๏ นกหว้าหน้างามลาย  คือดาวรายพรายเพริศเพรา
 +
เที่ยวกินถิ่นลำเนา  พาคู่เคล้าเฝ้าชมกัน ฯ
 +
 +
๏ นกหว้าหน้าเปรียบแต้ม  ดรูเฉลา
 +
ตัวลายพรายดาวเพรา  เพริศหน้า
 +
เที่ยวกินถิ่นลำเนา  เคยอยู่
 +
เคียงคู่เคล้าเฝ้าหล้า  เก็บลิ้มเล็มกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ พังพอนจรเคล้าคู่  พบพานงูอยู่สู้กัน
 +
งูเห่าเอาขนดพัน  พังพอนผันหันตัวตาม ฯ
 +
 +
๏ พังพอนจรเคล้าคู่  เรียงรัน
 +
พบพานงูสู้กัน  ขบเขี้ยว
 +
งูเห่าเอาขนดพัน  รัดรวด
 +
พังพอนจรผันเลี้ยว  ปลดเปลื้องตัวตาม ฯ
 +
 +
 +
๏ นกกดอดทนสู้  พบงูเห่าเอาปีกบัง
 +
งูโพนพังพานหวัง  จะขบตอดบรอดเลย ฯ
 +
 +
๏ นกกดอดทนสู้  งูขลัง
 +
งูขบเอาปีกบัง  เข็ดเขี้ยว
 +
งูเลิกพังพอนหวัง  ขบตอด
 +
ตอดบรอดเลยเลี้ยว  หลีกเลี้ยวสูดหนี ฯ
 +
 +
 +
๏ ดูหนูสู่รูงู  งูสุดสู้หนูสู้งู
 +
หนูงูสู้ดูอยู่  รูปงูทู่หนูมูทู ฯ
 +
 +
๏ ดูงูขู่ฝุดฝู้  พรูพรู
 +
หนูสู่รูงูงู  สุดสู้
 +
งูสู้หนูหนูสู้  งูอยู่
 +
หนูรู้งูงูรู้  รูปทู้มูทู ฯ
 +
 +
 +
๏ นกกระเรียนเวียนลงหนอง  ตรอมเที่ยวย่องร้องแกร๋แกร๋
 +
ริมทุ่งกระทุงลอยแพ  เดียรดาษแลแหล่เหลือหลาย ฯ
 +
 +
๏ นกกระเรียนเวียนว่อนน้ำ  เลงแล
 +
ลงย่องร้องแกร๋แกร๋  แจ้มจ้า
 +
ริมทุ่งกระทุงลอยแพ  ลงล่อง
 +
บินกลาดกลุ้มท้องฟ้า  ร่อนร้องเหลือหลาย ฯ
 +
 +
 +
๏ นกแก้วแจ้วเสียงใส  คลอใคล้คู่หมู่สาลิกา
 +
นกตั้วผัวเมียคลา  ผาแขกเต้าเหล่าโนรี ฯ
 +
 +
๏ นกแก้วแจ้วรี่ร้อง  เร่หา
 +
ใกล้คู่หมู่สาลิกา  แวดเคล้า
 +
นกตั้วผัวเมียมา  สมสู่
 +
สัตวาผ่าแขกเต้า  พวกพ้องโนรี ฯ
 +
 +
 +
๏ นกกระจิบกระจาบมั่ว  ปากตะกั่วชายชมพู
 +
นกไส้นกกรอดดู  จ้อแจ้อยู่ดูเพรียกไพร ฯ
 +
 +
๏ กระจิบกระจาบน้อยน่า  เอ็นดู
 +
ปากตะกั่วชายชมพู  แห่งห้อม
 +
นกไส้กรอดดูพู  พองปีก
 +
จอแจพรังพรั่งพร้อม  เพรียกร้องในไพร ฯ
 +
 +
 +
๏ กางเขนรำเขนหาง  บ่าวขุนพลางกางปีกรา
 +
จินโจ้แกงจืดมา  ร้องแจ้วจ้าป่าวังเวง ฯ
 +
 +
๏ กางเขนรำไต่ต้น  พฤกษา
 +
บ่าวขุนกางปีกรา  ปากอ้า
 +
จินโจ้แกงจืดมา  พูดเพรียก
 +
นกพริกร้องแจ้วจ้า  ป่าก้องวังเวง ฯ
 +
 +
 +
๏ นกขมิ้นเหลืองหลากหลาย  มีสพายหมายสองคาง
 +
เหลืองอร่ามงามปีกหาง  เห็นสำอางช่างมีพรรณ ฯ
 +
 +
๏ นกขมิ้นเหลืองก่ำป้อง  ปีกหาง
 +
มีสพายหมายสองคาง  ค่างแก้ม
 +
เหลืองอร่ามงามปีกหาง  เห็นเลิศ
 +
สร้อยสำอางอย่างแต้ม  แต่งให้มีพรรณ ฯ
 +
 +
 +
๏ ชมคู่หมู่ซั้งแซว  ร้องโฉดแก้วแล้วบินไป
 +
เลียนนกหกใดใด  ย่อมเลียนได้ให้เสียงแมว ฯ
 +
 +
๏ ซั้งแซวเสียงแจ้วส่ง  เอาใจ
 +
ร้องโฉดแก้วบินไป  มุ่งไม้
 +
เลียนนกสิ่งใดใด  เหมือนอยู่
 +
ไม่เพี้ยนเลียนได้ไท้  เล่ห์ร้องเสียงแมว ฯ
 +
 +
 +
๏ นกคุ่มซุ่มอยู่นอน  ในดงดอนส้อนไคลคลา
 +
ลายเลือนเหมือนนกกระทา  แต่ตัวน้อยค่อยเก็ยกิน ฯ
 +
 +
๏ นกคุ่มซุ่มอยู่ข้อย  ไปมา
 +
ดงดอนซ่อนกายา  กระจ้อย
 +
ลายเลือนเหมือนนกกระทา  กระแจ่ม
 +
แต่ว่าตัวน้อยน้อย  ค่อยเถี้ยวเก็บกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ นกเงือกอยู่ในโพรงไม้  ผัวฟักไข่เมียผันผาย
 +
เล่นชู้อยู่เสบยสบาย  ผัวหมายไว้ให้รวงรัง ฯ
 +
 +
๏ นกเงือกอยู่ซอกไม้  เรียงราย
 +
ผัวฟักเมียผันผาย  ด่วนได้
 +
เล่นชู้อยู่เสบยสบาย  ลืมคู่
 +
ผัวอดอาหารให้  อยู่เฝ้ารวงรัง
 +
 +
 +
๏ ชาติบุษป์พุทธชาตซาบ  กุหลาบกนาบทั้งสองทาง
 +
เบงระมาดยี่สุ่นกาง  กลีบบานเพราเหล่าดาวเรือง ฯ
 +
 +
๏ ชาติบุษป์พุทธชาติขึ้น  เคียงกลาง
 +
กุหลาบกนาบสองทาง  กลิ่นฟุ้ง
 +
เบงระมาดยี่สุ่นกาง  ตรงกลีบ
 +
สาวสาวฉวยชิงหยุ้ง  เก็บร้อยรอยกรอง ฯ
 +
 +
 +
๏ เพกาสาเกกุ่ม  ไม้ตาตุ่มทุมราชา
 +
สุกรมมะยมพวา  ไม้หมากข้าขานางเปล้า ฯ
 +
 +
๏ เพกาฝักย้อมกุ่ม  ผลหนา
 +
ตาตุมทุมราชา  เนื่องหน้า
 +
สุกรมมะยมพวา  ชมพู่
 +
สาเกไม้หมากข้า  อิกเปล้าขานาง ฯ
 +
 +
 +
๏ กะจายสยายซร้องนาง  ผ้าสไบบางนางสีดา
 +
ห่อห้อยย้อยลงมา  แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม ฯ
 +
 +
๏ กะจายสยายคลี่ซร้อง  นงพงา
 +
สไบบางนางสีดา  ห่อห้อย
 +
ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา  โบยโบก
 +
แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย  แกว่งเยื้องไปมา ฯ
 +
 +
 +
๏ กะเช้าเจ้าบรรจง  ปากแฉกตรงทรงหาบหาม
 +
แล่งปืนของพระราม  รูปงามดีมีสืบมา ฯ
 +
 +
๏ กะเช้านางแต่งเจ้า  ผจงงาม
 +
ปากแฉกทรงหาบหาม  ห่วงห้อย
 +
แล่งปืนของพระราม  ยังอยู่
 +
รูปร่างงามน้อยน้อย  งอกขึ้นสืบมา ฯ
 +
 +
 +
๏ เล็บนางงามแสล้ม  ต้นนางแย้มแกมดองดึง
 +
สุพรรณิกากากระทัง  ดอกราชพฤกษ์ซีกไทรไตร ฯ
 +
 +
๏ เล็บนางนวยแน่งน้อย  พอพัง
 +
นางแย้มแกมดองดึง  อีกอ้อย
 +
สุพรรณิกากากระทัง  บานแบ่ง
 +
ราชพฤกษ์ซีกดวงย้อย  พู่เพี้ยงไทรไตร ฯ
 +
 +
 +
๏ ชงโคตะโกตะขบหว้า  ต้นตุมกากาฝากลง
 +
ชอบกลต้นมหาหงส์  มะเดื่อดูกลูกนมแมว ฯ
 +
 +
๏ ชงโคตะโกหว้า  ดาดดง
 +
ตุมกากาฝากลง  ติดไม้
 +
นมแมวมหาหงส์  เห็นอยู่
 +
มะเดื่อดูกลูกออกได้  แส่ทั้งสอยกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ กำจัดสลัดไดขึ้น  บนพื้นภูภู่เขาสูง
 +
แคคางยางยูงดูง  ต้นตะแบกแปลกกันบาน ฯ
 +
 +
๏ สลัดไดกำจัดต้น  หางยูง
 +
บนภูภู่เขาสูง  หย่งหยื้น
 +
แคคางยางยูงดูง  ตรงโตรด
 +
ตะแบกแปลกกันขึ้น  เกลื่อนกลุ้มบานไสว ฯ
 +
 +
 +
๏ แคฝอยข่อยเข็มข้า  ต้นกาลาน่าดอกบาน
 +
งิ้วงับพลับพลึงปาน  นิ้วมือเรียมเปรียบเทียนกลึง ฯ
 +
 +
๏ แคฝอยข่อยแข่ขึ้น  ขนัดขบาน
 +
เข็มกาลาดอกบาน  ที่แจ้ง
 +
งิ้วงับพลับพลึงปาน  มือเรียม
 +
นิ้วแน่งงามดังแกล้ง  ฟั่นด้วยเทียนกลึง ฯ
 +
 +
 +
๏ พุมเรียงเคียวคัดเค้า  ต้นปู่เจ้าเหล่าจิงจำ
 +
ต้นองุ่นขนุนสำ  มลอมะก่อสะตอสะเตียน ฯ
 +
 +
๏ พุมเรียงเคียงคัดเค้า  บานช้ำ
 +
ปู่เจ้าเหล่าจิงจำ  ไขว่ขึ้น
 +
ต้นองุ่นขนุนสำ  มลอมาก
 +
มะกอสะตอสะเตียนพื้น  เลี่ยนเกลี้ยงตลิบเตียน ฯ
 +
 +
 +
๏ กำจายรายท้องที่  ต้นลิ้นจี่ทีทางจร
 +
กลำเพาะเงาะเรียงสลอน  สท้อนพวงพะงวงชุม ฯ
 +
 +
๏ กำจายรายทีท้อง  ดงดอน
 +
ลิ้นจี่ที่ทางจร  ป่ากว้าง
 +
กลำเพาะเงาะเรียงสลอน  ทรงลูก
 +
สท้อนลางสาดสล้าง  ลูกเลื้อยพะงวงชุม ฯ
 +
 +
 +
๏ จิงจ้อยอยมโดย  ดวงรายโรยโชยชายชม
 +
ฉิ่งชี่ถี่ทางสม  ร่มรื่นสนุกปลุกปลื้มใจ ฯ
 +
 +
๏ ยมโดยยอจิ่งจ้อ  สลอนสลม
 +
ดวงโรยโชยชายชม  ชื่นหน้า
 +
ฉิ่งชี่ถี่ทางสม  เย็นเฉื่อย
 +
ร่มรื่นสนุกริกหร้า  ปลุกปลื้มใจหญิง ฯ
 +
 +
 +
๏ กล้วยไม้ห้อยต่ำเตี้ย  นมตำเรียเรี่ยทางไป
 +
หอมหวังวังเวงใจ  ว่ากลิ่น แก้ว แล้วเรียมเหลียว ฯ
 +
 +
๏ กล้วยไม้ห้อยย้อยคลี่  ดวงไสว
 +
นมตำเรียรายไป  กลิ่นกล้า
 +
หอมหวังวังเวงใจ  รสราด
 +
ว่ากลิ่นแก้วแล้วข้า  หยุดยั้ง  แลเหลียว ฯ
 +
 +
 +
๏ ทองกวาวคราวดอกแดง  เชิงจำแจงแดงเหียนหัน
 +
ลำไยไม้มูกมัน  เคี่ยนตะเคียนเลี่ยนรังเรียง ฯ
 +
 +
๏ ทองกวาวคราวดอกพร้อม  แดงฉัน
 +
เชิงจำแจงเหียงหัน  เหี่ยวต้น
 +
ลำไยไม้มูกมัน  เฟืองฝ่อ
 +
เคี่ยมตะเคียนเลี่ยนต้น  หมู่ไม้รังเรียง ฯ
 +
 +
 +
๏ เจตพังดีสีเสียดสรล  พรมคดปนคนทาดง
 +
เล็บครุฑสุดสูงระหง  ต้นเต่าร้างกร่างแต้วกะโดน ฯ
 +
 +
๏ สรลสร้อยสีเสียดขึ้น  เปนกง
 +
พรมคดคนทาดง  ด่านกว้าง
 +
เจตพังคีสูงระหง  พังอาด
 +
เล็บครุฑต้นเต่าร้าง  กร่างแต้วกะโดนหนา ฯ
 +
 +
 +
๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อ  สะตอสะตือชื่อหลายมาน
 +
มะหาดมะตาดแสมสาร  มะตูมมะขวิดจิตมูลเพลิง ฯ
 +
 +
๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อ  เสถียรสถาน
 +
สะตอสะตือชื่อหลายมาน  มากพ้น
 +
มะหาดมะตาดแสมสาร  สนับสนุ่น
 +
มะตูมมะขวิดติดต้น  ดกไม้เจตมูล ฯ
 +
 +
 +
๏ ปอเป้งเตงเตยตาล  สรลตระการปานหางโต
 +
ต้นทองตรองตองโพ  สักสูงสุดพุดซากะถิน ฯ
 +
 +
๏ เตยตาลตอป่านเป้ง  เตงอะโข
 +
สรลเปรียบหางสิงห์โต  ต่ำผุ้ม
 +
ต้นทองตรองตองโพ  ทเลเรียบ
 +
พุทราสักสูงกลุ้ม  ค่าไม้กะถินงาม ฯ
 +
 +
 +
๏ ปรูปะระกำดก  ต้นรกฟ้าหญ้านางแฝง
 +
พัวพุ่มชุมแสงแซง  ลูกติดต้นหล่นลงเนือง
 +
 +
๏ ปรูประเดียรดาดด้วย  ระกำแดง
 +
รกฟ้าหญ้านางแฝง  ผากเหรื้อง
 +
พัวพุ่มชุมแสงแซง  กางกิ่ง
 +
ลูกดกตกลงเหนื้อง  กลาดกลุ้มกลางกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ พาดไฉนตะไคร้มะนาว  เทียนช้างน้าวหาวนนทรี
 +
ชเอมเขล็นเบญจกานี  หงอนไก่สลับทับทิมบาน ฯ
 +
 +
๏ พาดไฉนตะไตร้เนื่อง  มะนาวมี
 +
ช้างน้าวหาวนนทรี  หนาดน้ำ
 +
ชเอมเขล็นเบญจกานี  เทียนป่า
 +
หงอนไก่ทับทิมกล้ำ  กลีบช้อยแดงฉัน ฯ
 +
 +
 +
๏ น้อยหน่าหนาเปนเหล่า  น้อยเหน่เล่าเต้าตามชม
 +
นางนวลนวลนางสม  หว้านน้ำกลุ้มกทุ่มนาขนาน ฯ
 +
 +
๏ น้อยหน่าน่าลูกพร้อม  โตกลม
 +
น้อยเหน่เต่าตามชม  ชื่นผุ้ม
 +
นางนวลนวลนางสม  โสภิศ
 +
หว้านน้ำมีเกลื่อนกลุ้ม  กทุ่มท้องนาขนาน ฯ
 +
 +
 +
๏ ไผ่เทศงามผาดผุด  ต้นเล็บครุฑพุทธรักษา
 +
ทองสิบอย่างงามนานา  เข้าตอกแตกแปลกดอกขาว ฯ
 +
 +
๏ ไผ่เทศงามเงื่อนแต้ม  เลขา
 +
เล็บครุฑพุทธรักษา  โทษคุ้ม
 +
ทองสิบอย่างตรุตรา  งามเลิศ
 +
เข้าตอกแตกดวงกลุ้ม  แปลกด้วยดอกขาว
 +
 +
 +
๏ มังคุดลมุดหมากเหม้า  เหล่าทุเรียนเนียรภูสี
 +
มูลมังสังกรณี  มีร้อนลิ้นอินทผาลำ ฯ
 +
 +
๏ มังคุดลมุดหมากเหม้า  มากมี
 +
ทุเรียนเนียรภูสี  ค่าค้อม
 +
มูลมังสังกรณี  มีมาก
 +
ต้นร้อนลิ้นชื้นล้อม  หมู่ไม้อินทผล ฯ
 +
 +
 +
๏ แทงทวยกล้วยกุตีบ  ต้นปีปไสวไข่เน่าหอม
 +
พองลมพนมพนอม  น่องโลดเลียบหลาหลกปะโลง ฯ
 +
 +
๏ แทงทวยกล้วยกลีบเลื้อย  เครืองอม
 +
ปีปไสวไข่เน่าหอม  ทั่วเบื้อง
 +
พองลมพนมพนอม  ลำเจียก
 +
โลดเลียบหลาหลกเหนื้อง  น่องต้นปะโลงสาร ฯ
 +
 +
 +
๏ หมากม่วงพวงพรวนย้อย  พิมเสนห้อย สอยมากิน
 +
สุกห่ามตามใจถวิล  เอาตะกร้อซอเกี่ยวลง ฯ
 +
 +
๏ หมากม่วงพวงห่ามย้อย  ยามเห็น
 +
พรวนพิมเสนเหลืองเปน  ปากกร้อ
 +
หมอนทองม่วงมันเย็น  เดิรสู่
 +
สอยแส่พลางหัวหร้อ  หล่นกลุ้มชิงกัน ฯ
 +
 +
 +
๏ หมากม่วงดิบห่ามฝาน  ใส่ในจานพานตบะรอง
 +
นั่งล้อมห้อมเนืองนอง  จิ้มน้ำปลางาปิกิน ฯ
 +
 +
๏ หมากม่วงดิบห่ามให้  ปอกฝาน
 +
งาปิน้ำปลาจาน  จุ่มจิ้ม
 +
นั่งล้อมห้อมกินกราน  กินอยู่
 +
เข็ดฟันฝันหน้ายิ้ม  อิ่มเอื้อน ราถอย ฯ
 +
 +
 +
๏ ชมร่มไม้ไทรไตร  เรไรไพรแว่วแจ้วเสียง
 +
เรื่อยเฉื่อยสำเนียงเพียง  ปี่รีเสนาะเพราะเพลงเครง ฯ
 +
 +
๏ เดิรเพลินชมร่มไม้  ไทรไตร
 +
สดับศัพท์เรไรไพร  แว่วแจ้ว
 +
ระกำรำไยไพร  เลือนเถื่อน
 +
มังคุดลมุดแต้วแก้ว  กุ่มกถุ้มทรม่วงมะงวง ฯ
 +
 +
 +
๏ หัวลิงหมากลางลิง  ต้นลางลิงแลหูลิง
 +
ลิงไต่กะไดลิง  ลิงโลดคว้าประสาลิง ฯ
 +
 +
๏ หัวลิงหมากเรียกไม้  ลางลิง
 +
ลางลิงหูลิงลิง  หลอกชู้
 +
ลิงไต่กะไดลิง  ลิงห่ม
 +
ลิงโลดฉวยชมผู้  ฉีกคว้าประสาลิง ฯ
 +
 +
 +
๏ ปุ้มไก่แลหงอนไก่  ต้นหางไก่ แลสร้อยไก่
 +
โหราเดือยไก่ไก่  ให้เทียนไก่ไก่จับนอน ฯ
 +
 +
๏ ปุ้มไก่หงอนไก่ต้น  เรียงไสว
 +
หางไก่แลสร้อยไก่  กกก้อง
 +
โหราเดือยไก่ไก่  เมียงม่าย
 +
ต้นเทียนไก่ไก่ร้อง  ไก่เตี้ยจับขัน ฯ
 +
 +
 +
๏ เพกาต้นตุมกา  โยทกากรรณิกา
 +
ชุมกาแลสามกา  ต้นมะกากาจับนอน ฯ
 +
 +
๏ เพกาตุมกาต้น  กาลา
 +
โยทกากรรณิกา  ถี่ก้อง
 +
ชุมกาและสามกา  กาสู่
 +
ต้นมะกาการ้อง  จับไม้กาหลง ฯ
 +
 +
 +
๏ ธารไหลใสสอาด  มัจฉาชาติดาษนานา
 +
หวั่นหว้ายกินไคลคลา  ตามกันมาให้เห็นตัว ฯ
 +
 +
๏ ธารไหลใสสอาดน้ำ  รินมา
 +
มัจฉาชาตินานา  หวั่นหว้าย
 +
จอกสร่ายกินไคลคลา  เชยหมู่
 +
ตามคู่มาคล้ายคล้าย  ผุดให้เห็นตัว ฯ
 +
 +
 +
๏ นั่งเล่นเห็นหมู่ปลา  พรั่งพรูมาเหล่าเหลือหลาย
 +
กินเข้าเอาโปรยปราย  ปลามาใกล้ได้เห็นตัว ฯ
 +
 +
๏ นั่งชมปลาหมั่วหมู่  เรียงราย
 +
พรูพรั่งมาเหลือหลาย  ว่ายหวิ้ง
 +
กินเข้าเอาโปรยปราย  ลงบ่อย
 +
ปลาว่ายใกล้ได้ทิ้ง  ห่อเข้าดูปลา ฯ
 +
 +
 +
๏ ปลาแปปแลปลาเป้า  ปลาเข้าเม่าปลาคางเบือน
 +
ปลาม้าหน้าคนเหมือน  ปลากดกรายสวายหางแดง ฯ
 +
 +
๏ ปลาดุกปลาแปบเป้า  แลเลือน
 +
เข้าเม่าเหล่าคางเบือน  มุ่งหม้าย
 +
ปลาม้าหน้าคนเหมือน  คนอยู่
 +
ปลากดกรายสวายหว้าย  โบกน้ำหางแดง ฯ
 +
 +
 +
๏ ตะตรับคอยตรับหู  หมู่ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง
 +
สร้อยส้าปลาหมอแขยง  ปลาแมงภู่หมู่กระทุงเหง ฯ
 +
 +
๏ ปลาตะตรับคอยกะตั้ง  หูแขง
 +
ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง  ฝั่งน้ำ
 +
สร้อยส้าปลาหมอแขยง  สังกวาด
 +
แมงภู่ดูโลดล้ำ  พรั้งพร้อมกะทุงเหง ฯ
 +
 +
 +
๏ ปลาอ้าวปลาเนื้ออ่อน  ว่ายมาก่อนปลาหนามหลัง
 +
กระแหหางแดงหวัง  เข้าสู่ทุ่งมุ่งเลมไคล ฯ
 +
 +
๏ ปลาอ้าวเนื้ออ่อนหญ้า  ตัวบัง
 +
มาก่อนปลาหนามหลัง  อยู่หน้า
 +
กระแหหางแดงหวัง  คลาแหล่ง
 +
เข้าสู่ทุ่งเลมหล้า  เหยื่อย้ำกินไคล ฯ
 +
 +
 +
๏ ปลากะโห้ชโดแฝง  ช่อนชวาดแชวงแฝงครัน
 +
หน้าสั้นปลานวลจันทร์  ปลาอ้องแอ้งปลาเสือหมู ฯ
 +
 +
๏ ปลาชะโดกะโห้ใฝ่  แฝงกัน
 +
ช่อนชวาดแชวงสูบครัน  ว่ายแว้ง
 +
หน้าสั้นอิกนวลจันทร์  หลายเหล่า
 +
ปลาทุกท้องอ้องแอ้ง  หมึกเหม้าเสือหมู ฯ
 +
 +
 +
๏ กดคลังปลาสังมี  ปลากระดี่ปลาดุกอุย
 +
พ่นน้ำกระจายกระจุย  ปลาหูช้างช้างเหยียบซิว ฯ
 +
 +
๏ กดคลังปลากสังหว้าย  ชายงุย
 +
ปลากระดี่ปลาดุกอุย  แอบข้าง
 +
พ่นน้ำกระจายกระจุย  หลายเหล่า
 +
ปลาชื่อหูช้างช้าง  เหยียบบี้ปลาซิว ฯ
 +
 +
 +
๏ เทโพแลเทพา  ตะเพียนพาพาพวกจร
 +
ไอ้บ้าปลาสลุมพอน  ผักพร้าเพรี้ยแลหนวดพราม ฯ
 +
 +
๏ เทโพพาพวกพ้อง  เทพา
 +
ปลาตะเพียนปลากาพา  คู่เคี้ย
 +
สลุมพอนไอ้บ้าปลา  หลายหมู่
 +
ปลาผักพร้ามาเพรี้ย  ว่ายไหล้หนวดพราม ฯ
 +
 +
 +
๏ ฝูงนาคมากหมู่มา  ดำน้ำท่าหาอาหาร
 +
ฝูงปลามาพะพาน  ขบได้ถนัดกัดกินเนือง ฯ
 +
 +
๏ ฝูงนาคมากหมู่หมั้ว  ดาขนาน
 +
ดำน้ำหาอาหาร  แกล่กล้ำ
 +
ฝูงปลามาพอพาน  พะปาก
 +
ขบถนัดกัดใต้น้ำ  ผุดขึ้นกินเนือง ฯ
 +
 +
 +
๏ งูเหลือมคอกระหวัดไม้  หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
 +
วิดน้ำในห้วยธาร  โพงไปมาเอาปลากิน ฯ
 +
 +
๏ งูเหลือมแบนท้องแผ่  คือกะดาน
 +
วิดน้ำหาอาหาร  ใฝ่กล้ำ
 +
โครมครุ่นในห้วยธาร  เสียงฉ่า
 +
โพงสาดไปให้น้ำ  ซ่านสิ้นกินปลา
 +
 +
 +
๏ งูเหลือมบนกิ่งไม้  ใบหนาใส่ซ่อนซอน
 +
แกกาช้างวานร  พอมาใกล้ได้ฉวยกิน ฯ
 +
 +
๏ งูเหลือมบนค่าไม้  ใบสลอน
 +
คางซบแนบแอบนอน  ซ่อนเร้น
 +
กาแกค่างวานร  ลืมร่าง
 +
งูขบถนัดกัดเน้น  ค่อยกล้ำกลืนกิน ฯ
 +
 +
 +
๏ จรเข้หลายว่ายเคียงคู่  เป็ดปนหมู่ภู่เข้าไป
 +
เป็ดบินสิ้นตกใจ  คนพิศเพ่งเล็งแลดู ฯ
 +
 +
๏ จรเข้ใหญ่น้อยว่าย  ชลใส
 +
ภู่ตามเป็ดน้อยไป  เรื่อยรี้
 +
เป็ดน้ำดำตกใจ  บินตื่น
 +
คนคร่ำเลงแลชี้  บอกให้กันดู ฯ
 +
 +
 +
๏ เป็ดหงส์ลงธารา  คล่ำดำหาปลาตะเพียนเวียน
 +
ไล่ลัดฉวัดเฉวียน  หาปลาแปบแทบทันกัน
 +
 +
๏ เป็ดหงส์ลงท่องท้อง  ธารา
 +
เตร็จคล่ำดำหาปลา  ก่ายหว้าย
 +
แชวงแขยงม้ากา  กดหลด
 +
ได้แปบแทบกายหม้าย  อ่าวค้าวตะเพียนเวียน ฯ
 +
 +
 +
๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่  ฝังไข่ไว้ในหาดทราย
 +
ตริวคราวเต่าม่านลาย  ผุดดำคล้ายว่ายเห็นตัว ฯ
 +
 +
๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่  ตีนตะกาย
 +
ฝังไข่ในหาดซาย  กลบเกลี้ยง
 +
ตริวตราวขุนม่านลาย  ตระเต่า
 +
ดำผุดคล้ายว่ายเพี้ยง  ก่ายกลุ้มหนาตัว ฯ
 +
 +
 +
๏ ปูกุ้งลอยก่งก้าม  แลเหลื่อมหลามย่ามเหยื่อหา
 +
หอยโข่งหอยขมตา  วัวก็มีที่ท้องธาร ฯ
 +
 +
๏ ปูกุ้งลอยก่งก้าม  ไคลคลา
 +
เหลือหลามย่ามเหยื่อหา  สู่ส้อง
 +
หอยโข่งหอยขมตา  วัวเกลื่อน
 +
สารพัดมีที่ท้อง  ท่าน้ำธารสินธุ์ ฯ
 +
 +
 +
๏ เถาวัลย์พันพฤกษา  ถีบชิงช้าช้าแกว่งไกว
 +
ทำเพลงวังเวงไพร  ส่งเสียงเรื่อยเฉื่อยละคอนเครง ฯ
 +
 +
๏ เถาวัลย์พันไม้หย่อน  ลงมา
 +
สาวนั่งถีบชิงช้า  ห่วงห้อย
 +
ทำเพลงวังเวงอา  รมณ์ชื่น
 +
เสียงส่งเพราะดอกสร้อย  ฉ่ำร้องละคอนเกรง ฯ
 +
 +
 +
๏ ลมพัดมาเรื่อยเรื่อย  เย็นชวยเฉื่อยสำราญใจ
 +
ปูผ้านอนหลับใน  ใต้ร่มไม้ไทรสาขา ฯ
 +
 +
๏ ลมพัดมาเฉื่อยชื้อ  เย็นใจ
 +
ปูผ้านอนหลับใหล  กลาดกลุ้ม
 +
ฟูกหมอนเรียงกันไป  หลายเหล่า
 +
นอนอยู่ใต้ไทรผุ้ม  ร่มไม้ไพศาล ฯ
 +
 +
 +
๏ ลางนามอาบน้ำท่า  ทาขมิ้นหอมพึงชม
 +
ทาแป้งแกล้งหวีผม  ผัดหน้านวนยวลใจชาย ฯ
 +
 +
๏ ลางนางตักน้ำท่า  อาบองค์
 +
ขัดขมิ้นเหลือบรรจง  ลูบน้ำ
 +
หวีเกล้าเอาเทริดทรง  ผมปีก
 +
ผัดหน้านวนงามล้ำ  ยั่วเย้าใจชาย ฯ
 +
 +
 +
๏ จบเสร็จชมนกไม้  ในแหล่งไหล้พนัศสถาน
 +
หญิงชายฟังสำราญ  ที่ผิดอ่านวานแต้มเขียน ฯ
 +
 +
๏ จบเสร็จชมนกไม้  โคลงการ
 +
ชมแหล่งไพรพนัศสถาน  เถื่อนกว้าง
 +
หญิงชายชื่นชมบาน  ใจโลกย์
 +
ใคร่อ่านวานเติมบ้าง  ช่วยแต้ม เขียนลง ฯ
 +
 +
 +
๏ '''เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์''' เจ้า  ทรงเขียน
 +
'''ไชยเชษฐสุริย์วงศ์''' เพียร  เลิศหล้า
 +
'''แต่งไว้ให้สถิต''' เสถียร  ในโลกย์
 +
'''จำเนียรกาลนาน''' ช้า  อ่านอ้างสรรเสริญ ฯ
 +
 +
๏ '''เจ้าฟ้า''' หนุ่มน้อยราช  กุมาร
 +
'''ธรรม์''' ธำรงกลอนการ  ยั่วแย้ม
 +
'''ธิเบศร์''' วราสถาน  ไชยเชษฐ
 +
'''สุริย์วงศ์''' ทรงโคลงแต้ม  แต่งไว้วานสงวน ฯ
 +
 +
๏ '''เจ้าฟ้า''' เลิศล้ำโพธิ  สมภาร
 +
'''กรมขุน''' หลวงพญากราน  กราบเกล้า
 +
'''เสนา''' นราบาน  ใจชื่น  ชมนา
 +
'''พิทักษ์''' รักษาเช้า  ค่ำด้วยใจเกษม ฯ
 +
 +
๏ '''จบ''' จนจอมโลกย์เจ้า  คืนวัง
 +
'''บ''' พิตรสถิตยบัลลังก์  เลิศหล้า
 +
'''ริ''' ร่างกาพย์โคลงหวัง  ชนโลก  อ่านนา
 +
'''บูรณ์''' พระโคลงเจ้าฟ้า  ธิเบศร์เจ้าจงสงวน ฯ
 +
 +
 +
๏ อักษรเรียบเรียงถ้อย  คำเพราะ
 +
ผู้รู้อ่านสารเสนาะ  เรื่อยหรี้
 +
บรู้อ่านไม่เหมาะ  ตรงเทิ่ง  ไปนา
 +
ทำให้โคลงทั้งนี้  ชั่วช้าเสียไป ฯ
 +
 +
๏ อักษรสรรค์สร้างช่าง  ชุบจาน
 +
โคลงก็เพราะเสนาะสาร  แต่งไว้
 +
ผู้รู้อ่านกลอนการ  พาชื่น  ใจนา
 +
ผู้บ่รู้อ่านให้  ขัดข้องเสียโคลง ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==

การปรับปรุง เมื่อ 11:03, 9 กรกฎาคม 2552

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์

บทประพันธ์

( เนื้อความตอนต้นสูญหาย )

เกลื่อนกรูหมู่จัตุรงค์เปนกันกงเรียบเรียงไป
ทรงช้างระวางในเทพลีลาหลังคาทอง ฯ
๏ เกลื่อนกรูหมู่แห่ห้อมเรียงไสว
เสด็จพุดตาลทองไคลหว่างเขรื้อง
ทรงช้างระวางในมีชื่อ
เทพลีลาเยื้องย่างแห้นหลังดี ฯ
๏ เครื่องสูงเพราเพริศพรายชมชุมสายซ้ายขวาเคียง
ธงไชยธงฉานเรียงปี่กลองชนะตะเต่องครึม ฯ
๏ กลองทองตีครุ่มครึ้มเดิรเรียง
จ่าตะเติงเติงเสียงครุ่มครื้น
เสียงปี่รี่เรื่อยเพียงกระเวก
แตร้นแตร่นแตรฝรั่งขึ้นหวู่หวู้เสียงสังข์ ฯ
๏ นักสนมกรมชแม่มี่ขี่ช้างกูบรูปโลมใจ
พักตราอ่าผ่องใสนุ่งห่มโอ่โสภาจริง ฯ
๏ นักสนมกรมชแม่เจ้าทั้งหลาย
ขี่ช้างกูบดาวรายแจ่มหน้า
พักตราผ่องใสสายสุดสวาท
นุ่งห่มโอ่โถงผ้าอร่ามริ้วทองพราย ฯ
๏ เพริศเพราเหล่านางห้ามรูปทรงงามตามเสด็จไป
ผมมวยรวยริมไรม่านปีกนกวกวงวัง ฯ
๏ เพริศเพราเหล่านางห้ามงามนัก
รูปงามตามแลลักษณ์ลูบท้อง
ผมมวยรวยไรอรรคชาเยศ
ม่านปีกนกปกป้องห่อหุ้มเดิร ฯ
๏ เที่ยวเล่นเปนเกษมสุขแสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
เร่งร่ายผายผาดผังหัววริกรื่นชื่นชมไพร ฯ
๏ สุขเกษมเปรมหน้าเหลือบลืมหลัง
แสนสนุกปลุกใจหวังวิ่งหรี้
เดิรร่ายผายผันยังชายป่า
หวัวร่อรื่นชื่นชี้ส่องนิ้วชวนแล ฯ
๏ พังพลายหมู่ลายหซร้องในเถื่อนท้องร้องระงมดง
ธารน้ำคร่ำกันลงเล่นน้ำแน่นแคร้นชมกัน ฯ
๏ ฝูงช้างสล้างใหญ่น้อยพังพลาย
ทอกโทนพินายหลายส่ำถ้วน
ทองแดงเผือกเนียมรายในเหล่า
ลงท่าน้ำดำป้วนเล่นร้องฮูมแปร๋น ฯ
๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยวเขาเสี้ยมเสี้ยวเสียวใจหาย
เลมหล้าอาหารชายป่าริมทุ่งวุ้งวงเขา
๏ กระบือโคโขล่ร้องเที่ยวเขาเสี้ยมเสี้ยวเสียวใจหาย
เขาเซี่ยมเซียวใจหายทดน้ำ
เลมหล้าอาหารชายริมป่า
ลงล่องท่องท้องน้ำปลักแฉ้กลางตม ฯ
๏ กวางทรายร่ายกินหญ้าสุกรป่าพาพวกจร
สุนัขในไล่เห่าหอนตามเปนหมู่พรูเพรียกเสียง ฯ
๏ กวางทรายร่ายเสพย์หญ้าดงดอน
หมูป่าพาเพื่อนจรลูกล้อม
สุนัขจิ้งจอกหอนหลายเหล่า
เปนหมู่พรูเพรียกห้อมเห่าอื้ออึงเสียง ฯ
๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่ล่ำเติบตรูดูกำยำ
หน้าด่อนท่อนตัวดำเขาเข้าวงก่งรอมงาม ฯ
๏ กระทิงวิ่งทั้งคู่ขันขำ
ล่ำเติบดูกำยำโป่งป้อม
หน้าด่อนท่อนตัวดำแรงเลิศ
เขาเค่าวงก่งง้อมแปล่มเสี้ยมรอมงาม ฯ
๏ มีหมีพีดำขลับขึ้นไม้ผับฉับไวถึง
เรี่ยวแรงแขงขันขึงกัดโพรงไม้ได้ผึ้งกิน ฯ
๏ มีหมีดำขลับหน้าเปนมัน
ขึ้นไม้ผับฉับพลันขบขึ้ง
เรี่ยวแรงแขงข้างขยันสามารถ
กัดฉีกไม้ได้ผึ้งคาบเคี้ยวพลางหวาน ฯ
๏ เสือโคร่งยงปีปเปรี้ยงแอบโอนเฉียงเสียงพึงกลัว
ร้ายยวดหนวดเพราพัวลองเล็บเล่นเผ่นโผนผาย
๏ เสือโคร่งยงปีปเปรี้ยงสยองหัว
ศัพทสำเนียงพึงกลัวทั่วแคว้น
ร้ายยวดหนวดเพราพัวตามุ่ง
ลองเล็บเล่นเผ่นแหล้นโลดเลี้ยวโผนผาย ฯ
๏ เสือเหลืองเมืองเชื่องหน้าอ้ายพรานป่าล่ากินฉมัน
เรี่ยวแรงแขงดุจกันกับเสือโคร่งโกงเสมอสมาน ฯ
๏ เสือเหลืองยงแยกเขี้ยวยิงฟัน
อ้ายด่างลายสพายสมันคาบเคี้ยว
ปีปเปรี้ยงเสียงขยาดขยันไวว่อง
ปูนเปรียบเสือโคร่งเลียวโลดแล่นเสมอสมาน ฯ
๏ เสือดาวคร่าวขึ้นไม้วิ่งว่องไวได้โดยพลัน
สัตว์ใดไปใกล้มันโจนยุดถนัดกัดกินไป
๏ เสือดาวคร่าวขึ้นไม้มองขยัน
วิ่งว่องไวฉับพลันนั่งไม้
สัตว์ใดใกล้กลายมันในร่ม
โจนยุดถนัดกัดได้ขย้ำก้มกินหลัง ฯ
๏ ลมาดผาดเริงแรงฟันฟางแขงแกล้งกัดวัลย์
เถาใหญ่ใกล้ปากมันกัดขาดสนิธติดปากไป ฯ
๏ ลมาดอาจร่านเหรี้ยวแรงขยัน
ฟันฟางคางแข็งวัลย์กิ่งเกี้ยว
เถาใหญ่ใกล้ปากมันคาคาบ
กัดขาดสนิทติดเขี้ยวย่ำย้ำกินพลาง
๏ โคแดงแจ้งกินอยู่ยืนเป็นหมู่คู่เคียงคลา
ลูกน้อยค่อยตามมาเที่ยวเล็มรบัดกัดปลายกิน ฯ
๏ โคแดงแจ้งอยู่ล้อมกินเกลียง
ยืนเป็นหย่อมพร้อมเพรียงพรั่งหน้า
ลูกน้อยค่อยตามเคียงแนมแม่
เที่ยวเล็มรบัดกัดหญ้าอ่อนอ้วนปลายเคลีย ฯ
๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งออกแร่งเป็นศอกหนอกสูงเถลิง
เขาโตโคล่ร้องเริงเมียลูกน้อยค่อยตามกัน
๏ โคเพลาะฉะเพาะทุ่งแหล้นลองเชิง
แร่งศอกหนอกสูงเถลิงเถื่อนเถ้า
เขาโตโคล่ร้องเริงชมหมู่
เมียลูกน้อยค่อยเคล้าแม่เนี้ยวกินนม ฯ
๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้องเดิรปีบร้องก้องพงไพร
เที่ยวกินถิ่นฐานใดมีน้ำหญ้าอาหารเนา ฯ
๏ ฝูงฟานผ่านเถื่อนถ้องแถวไศล
เดิรเปิบร้องก้องไพรเกลื่อนกลุ้ม
เที่ยวกินถิ่นฐานใดแดนโป่ง
มีหญ้าน้ำผงพงผุ้มบ่ายเข้านอนเนา ฯ
๏ ลมั่งพรั่งดงกว้างเขาสองข้างกางโจงโครง
รูปร่างกวางโอ่โถงฝีเท้าวิ่งยิ่งกว่ากวาง ฯ
๏ ลมั่งเขาคู่ตั้งกางโกง
สองข้างเคียงโจงโครงแตกต้น
รูปร่างกวางโอ่โถงดีกว่า
ฝีเท้าวิ่งยิ่งพ้นแล่นล้ำเลยกวาง ฯ
๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเสี้ยวบิดเปนเกลียวเรียวสูงแหลม
ตัวต่ำดำมอมแมมย่อมแล่นโลดโดดโจนลอย ฯ
๏ สิงคนัดเขาเสี้ยมเซี่ยวสูงแหลม
บิดเปนเกลียวเรียวแนมคู่หยื้น
ตัวต่ำดำมอมแมมคราวตื่น
ย่อมแล่นโลดโดดขึ้นสู่ฟ้าโจนลอย ฯ
๏ เลียงผาอยู่ภูเขาหนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
รูปร่างอย่างแพะหมายขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน ฯ
๏ เลียงผาอยู่พ่างพื้นภูเขา
หนวดภู่ดูเพราเขาไปล่ท้าย
รูปร่างอย่างแพะเอามาเปรียบ
ขนเหม็นสาบหยาบร้ายกลิ่นเกล้าเหมือนกัน ฯ
๏ งูเหลือมเอื้อมพันไม้หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
เนื้อกวางย่านเดิรพานหย่อนตัวกระหวัดรัดกลมกิน ฯ
๏ งูเหลือมเกี่ยวไม้ใฝ่อาหาร
หางกระหวัดโยนยานแย่งไว้
เนื้อกวางสุกรฟานเดิรด่วน
หย่อนตัวกระหวัดรัดไว้ปากอ้าอมกิน ฯ
๏ งูเหลือมกินสุกรอึ้งทึ่งนอนห่อนเลื้อยไป
หน่อไม้ขึ้นมาไชท้องแทงตลอดรอดคลาคลืน ฯ
๏ งูเหลือมกินลมั่งเนื้อกวางฟาน
บ่ห่อนสุดคลาคลานอิ่มอึ้ง
นอนใกล้ก่อไผ่สานแซมหน่อ
แทงตลอดหลังขาดขรึ้งเมื่อเลื้อยคลายไป ฯ
๏ หมูเม่นเห็นพรอมแพรมขนตัวแหลมแซมนักหนา
ใครปะจะจับมาพองขนสบัดสลัดถูกแทง ฯ
๏ หมูเม่นขนเสี้ยมทั่วกายา
ขนแหลมแซมหนั่นหนาแน่นซร้อง
ใครปะจะจับมาดูเล่น      ก็ดี
พองขนสบัดสลัดต้องติดหน้าถูกแทง ฯ
๏ เสือปลาล่ากินปลาริมน้ำท่าหาเหยื่อแฝง
ปลาว่ายสวายหางแดงฉวยได้ถนัดกัดเร่กิน ฯ
๏ เสือปลาปลาเวียนหว้ายตีแปลง
ริมท่าหาเหยื่อแฝงอยู่ใกล้
ปลาว่ายสวายหางแดงเปนหมู่
ฉวยถูกถนัดกัดได้คาบเว้เร่กิน ฯ
๏ กระต่ายหลายพงศ์พรรค์เต้นชมจันทร์หันตัวตาม
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลามยามออกเล่นเต้นชมกัน ฯ
๏ กระต่ายหลายพวกพ้องพรรค์งาม
ชมชื่นแสงจันทร์ตามไล่เหล้น
ซ่อนซุ้มชุมเหลือหลามหลายเหล่า
ยามเมื่อออกเล่นเต้นโลดเลี้ยวชมกัน ฯ
๏ เสือกระต่ายลายเขียนขีดตัวกระจิดนิดกว่าแมว
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊วขบกระตายแล้วแง้วคำราม ฯ
๏ เสือกระต่ายลายขีดขั้นเปนแถว
กระจิดกว่าแมวเหมือนแมวปากเขี้ยว
อยู่ป่าตาบั้งแบ๊วมองหมอบ
ขบกระต่ายตายเดี้ยวย่ำย้ำคำราม ฯ
๏ กระจงกระจิดเตี้ยวิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู
เหมือนกวางอย่างตาหูมีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง ฯ
๏ กระจงกระจิดหน้าเอนดู
เดินร่อยเรี่ยงามตรูกระจ้อย
เหมือนกวางอย่างตาหูตีนกีบ
มีเคี่ยวขาวน้อยช้อยแนบข้างเคียงสอง ฯ
๏ ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ยชนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
ฝูงค่างหว่างพฤกษาต่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง ฯ
๏ ฝูงลิงยวบยาบต้นพวาหนา
ฝูงชนีมี่กู่หาเปล่าข้าง
ฝูงค่างหว่างพฤกษามาสู่
ครอกแครกใส่ไขว่คว้างโลดเลี้ยวโจนปลิว ฯ
๏ ลิงลมชมเชยคู่ขึ้นนั่งอยู่ผู้คนหมาย
ลมพัดบัดเดียวหายพัดทิศใดไปตามลม ฯ
๏ ลิงลมชมคู่ต้นยางทราย
คนนั่งตั้งใจหมายยื่นกล้วย
ลมพัดบัดเดียวหายวิววู่
พัดทิศใดไปด้วยด่วนคล้าย ตามลม ฯ
๏ ลิงจุ่นงุ่นเงื่องเซื่องค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลาน
หางสั้นมันงมงานจับตัวไล่ได้ง่ายดาย ฯ
๏ ลิงจุ่นงุนหง่อยหน้าซมซาน
ค่อยกระเตื้องเงื่องคลาคลานร่ายไม้
หางสั้นมันงมงานกินอยู่
จู่จับเอาตัวได้ง่ายแท้ควรเห็น ฯ
๏ ฝูงบ่างบ้างแดงด่างไต่หมากปรางบ้างแบนโผ
คนดูอยู่อะโขย่อมทิ้งไล่ให้มันบิน ฯ
๏ ฝูงบ่างแดงด่างบ้างตัวโต
ไต่หมากปรางแบนโผแล่นไม้
คนดูอยู่อะโขเนืองนั่ง
ย่อมทิ้งยิงกระสุนให้ผึ่งท้องแบนบิน ฯ
๏ ตะกวดเหี้ยเมียเข้าไข่ในโพรงไม้ได้เปนรัง
ตัวน้อยกระจ้อยหวังรูปจรเข้เล่ห์เหมือนกัน ฯ
๏ ตระกวดเหี้ยเมียเข้าไข่ตื่นตรัง
โพรงไม้อยู่เปนรังด่วนดั้น
ตัวน้อยกระจ้อยหวังดูรูป
อย่างจรเข้เล่ห์นั้นห่อนเพี้ยนเหมือนกัน ฯ
๏ ลินแล่นแผ่นดินหลายเห็นคนอายซ่อนหน้าตา
คนเขาเอาตัวมาขดตัวไว้ไม่คลี่คลาย ฯ
๏ ตัวลินเปนเกร็ดถั้วกายา
หัวหางขดหน้าตาซ่อนไว้
คนเขาเอาตัวมาดูบ่อย
ยื้อคร่าแกะแคะได้ไม่เขยื้อนคลาคลาย ฯ
๏ ตัวตุ่นงุนคลาคลานได้อาหารเข้าในโพรง
ชอบกลต้นสำโรงเข้าเคล้าคู่อยู่เปนรัง ฯ
๏ ตัวตุ่นค่อยเตื่องเต้นหลังโกง
ฉวยสัตว์เข้าในโพรงไต่เต้า
ชอบกลต้นสำโรงรังร่ม
พาคู่เคียงคลาเคล้าอยู่ดี รวงรัง ฯ
๏ ฝูงอ้นด้นแผ่นดินกินรากไผ่ใบรวกผุย
ปล่องเห็นเปนขี้ขุยคุ้ยดินร่วงกลวงเปนโพรง ฯ
๏ ฝูงอ้นด้นข่วนฟุ้งดินขจุย
รากไผ่ไม้รวกผุยกัดแหง้น
เห็นช่องปล่องดินขุยขุดอยู่
ดินร่วงกลวงทางแหล้นลอดเลี้ยวในโพรง ฯ
๏ กระเห็นเต้นคล้ายคล้ายลายพรอมแพรมแกมดำเหลือง
ไต่บนต้นหมากเฟืองลูกสุกห่ามตามกันกิน ฯ
๏ กระเห็นเต้นต่ายเหนื้องมาเนือง
ลายด่างดำแกมเหลืองเล่าเหลื้อง
ไต่บนต้นหมากเฟืองกินเฟื่อง
หางด่องกิ่งไม้เปลื้องคล่ำคล้ายชายคลาย ฯ
๏ กระเอื้อยเลื้อยหางยาวด่างดำขาวราวลูกอิน
สุกพร้อมย่อมมากินเห็นเต้นไต่ไปตามกัน ฯ
๏ กระเอื้อยเลื้อยพู่ห้อยหางยาว
ลูกอินกินเมื่อคราวแก่ต้น
รูปร่างด่างดำขาวเขียนขีด
ตื่นเต้นไต่ไปพ้นอยู่บ้างเบาบาง ฯ
๏ กระแตไต่ไม้กระจ้อยตัวน้อยน้อยโจนเรี่ยเรี่ย
โพรงปูอยู่กับเมียหางพัวเรียวเที่ยวไปมา ฯ
๏ กระแตไต่กิ่งน้อยตามเมีย
ตัวกระจ้อยโจนเรี่ยร่ายไม้
โพรงปรูอยู่เย็นเลียโลมลุก
หางพู่เรียวเที่ยวไหล้คู่เลี้ยวไปมา ฯ
๏ ชมชมดรสกลิ่นกล้าหน้าเซี่ยมแสล้มแนมคู่เคียง
เล่าฤาชื่อชมดเชียงคนหานักมักตามรอย ฯ
๏ ชมดเชียงเกลี้ยงกลิ่นกล้าหอมชวย
แชล่มคางหางพู่สวยเซี่ยมหน้า
ยืนคู่อยู่เคียงรวยรวยกลิ่น
คนตามถามชื่อข้าคงขึ้น ขายรอย ฯ
๏ กระรอกหางพัวพู่โพรงไม้อยู่คู่ไล่ตาม
หางสลวยละลวยงามวิ่งไปมาน่าเอนดู ฯ
๏ กระรอกหางพู่เหล้นปลายมะขาม
โพรงไม้คู่อยู่ตามโลดไหล้
หางสลวยละลวยงามขาวผ่อง
วิ่งไวไปมาให้ชื่นหน้าเอนดู ฯ
๏ ป้องข่างอย่างปึ้งก่ามาแปลกกันมันรู้บิน
เหนียงในใต้คางกินอาหารได้ไป่รู้เลย ฯ
๏ ป้องข่างอย่างปึ้งข่าคล้ายโดยถวิล
แปลกแต่รู้แบนบินไล่ขู้
เหนียงในใต้คางกินสัตว์เสพย์
อาหารใดไปรู้ห่อนแจ้งใจเอย ฯ
๏ ตุกคู่หมู่ตุกแกอึ่งอ่างแย้แลบึ้งแตน
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวนบนปลายไม้ใหญ่รังรวง ฯ
๏ ตุกแกคุกตูร้องคนแหงน      ดูนา
แย้บึ้งปึ้งก่าแตนต่อเฝ้า
ผึ้งหลวงรวงเลื้อยแขวนรังเรียบ
บนปลายไม้ใหญ่เถ้าแผ่นตั้งรวงเรียง ฯ
๏ งูเขียวเที่ยวเลื้อยแลพบตุกแกย่อมสู้กัน
ตุกแกกัดงูพันแรงงูมากปากคลาคลาย
๏ งูเขียวสายม่านเลื้อยลายมัน
พบตุกแกกวดขันเกี่ยงกล้า
งูขบกัดงูพันรัดรอบ
แรงมากปากคลายอ้าออกให้งูพลัน ฯ
๏ งูเขียวรัดตุกแกตุกแกแก่คางแขงขยัน
กัดงูงูยิ่งพันอ้าปากง่วงล้วงตับกิน ฯ
๏ งูเขียวแลเหลี่อมพ่นพิศพลัน
ตุแกคางแขงขยันคาบไว้
กัดงูงูเร่งพันเนดเครียด
ปากอ้างูจึงได้ลากล้วงตับกิน ฯ
๏ ยูงทองย่องเยื้องย่างรำรางชางฟ่างปลายหาง
ปากหงอนอ่อนสำอางช่างรำเล่นเต้นตามกัน ฯ
๏ ยูงทองย่องย่างเยื้องรำฉวาง
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหางเฉิดหน้า
ปากหงอนอ่อนสำอางลายเลิศ
รำเล่นเต้นงามหง้าปีกป้องเปนเพลง ฯ
๏ นกเขาเค้าเคียงคู่ก่งคอคูคู่ขานขัน
กระทาทักปักกรอกันข้างขันไขว่ไล่ลายชม ฯ
๏ นกเขาขันคู่คู้เคียงขยัน
คอเก่งคูขานขันคั่นหน้า
กระทาทักปักกรอกันเสียงเฉื่อย
ลามไล่ไขว่ขวัญจ้าแปลกขู้ชนแทง ฯ
๏ ไก่ป่าจ้าเสียงเตี้ยพาลูกเมียเขี่ยหากิน
เห็นคนก่นวิ่งบินเข้าเร้นรอกซอกซอนหาย ฯ
๏ ไก่ป่าขันเจื่อยแจ้วกลางดิน
ลูกเมียเขี่ยหากินกกเหล้น
เห็นคนก่นวิ่งบินถามตื่น
ซอกซอนซ่อนตัวเร้นพุ่มไม้สูญหาย ฯ
๏ ไก่ฟ้าอ้าสดแสงหัวสุกแดงแทงเดือยแนม
ปีกหางต่างสีแกมสีแต้มต่างอย่างวาดเขียน ฯ
๏ ไก่ฟ้าหน้ากล่ำกล้าปากแหลม
หัวแดงแฝงเดือยแนมเนื่องแข้ง
ปีกหางต่างสีแกมลายลวด
ตัวด่างอย่างคนแกล้งแต่งแต้มขีดเขียน ฯ
๏ นกหว้าหน้างามลายคือดาวรายพรายเพริศเพรา
เที่ยวกินถิ่นลำเนาพาคู่เคล้าเฝ้าชมกัน ฯ
๏ นกหว้าหน้าเปรียบแต้มดรูเฉลา
ตัวลายพรายดาวเพราเพริศหน้า
เที่ยวกินถิ่นลำเนาเคยอยู่
เคียงคู่เคล้าเฝ้าหล้าเก็บลิ้มเล็มกิน ฯ
๏ พังพอนจรเคล้าคู่พบพานงูอยู่สู้กัน
งูเห่าเอาขนดพันพังพอนผันหันตัวตาม ฯ
๏ พังพอนจรเคล้าคู่เรียงรัน
พบพานงูสู้กันขบเขี้ยว
งูเห่าเอาขนดพันรัดรวด
พังพอนจรผันเลี้ยวปลดเปลื้องตัวตาม ฯ
๏ นกกดอดทนสู้พบงูเห่าเอาปีกบัง
งูโพนพังพานหวังจะขบตอดบรอดเลย ฯ
๏ นกกดอดทนสู้งูขลัง
งูขบเอาปีกบังเข็ดเขี้ยว
งูเลิกพังพอนหวังขบตอด
ตอดบรอดเลยเลี้ยวหลีกเลี้ยวสูดหนี ฯ
๏ ดูหนูสู่รูงูงูสุดสู้หนูสู้งู
หนูงูสู้ดูอยู่รูปงูทู่หนูมูทู ฯ
๏ ดูงูขู่ฝุดฝู้พรูพรู
หนูสู่รูงูงูสุดสู้
งูสู้หนูหนูสู้งูอยู่
หนูรู้งูงูรู้รูปทู้มูทู ฯ
๏ นกกระเรียนเวียนลงหนองตรอมเที่ยวย่องร้องแกร๋แกร๋
ริมทุ่งกระทุงลอยแพเดียรดาษแลแหล่เหลือหลาย ฯ
๏ นกกระเรียนเวียนว่อนน้ำเลงแล
ลงย่องร้องแกร๋แกร๋แจ้มจ้า
ริมทุ่งกระทุงลอยแพลงล่อง
บินกลาดกลุ้มท้องฟ้าร่อนร้องเหลือหลาย ฯ
๏ นกแก้วแจ้วเสียงใสคลอใคล้คู่หมู่สาลิกา
นกตั้วผัวเมียคลาผาแขกเต้าเหล่าโนรี ฯ
๏ นกแก้วแจ้วรี่ร้องเร่หา
ใกล้คู่หมู่สาลิกาแวดเคล้า
นกตั้วผัวเมียมาสมสู่
สัตวาผ่าแขกเต้าพวกพ้องโนรี ฯ
๏ นกกระจิบกระจาบมั่วปากตะกั่วชายชมพู
นกไส้นกกรอดดูจ้อแจ้อยู่ดูเพรียกไพร ฯ
๏ กระจิบกระจาบน้อยน่าเอ็นดู
ปากตะกั่วชายชมพูแห่งห้อม
นกไส้กรอดดูพูพองปีก
จอแจพรังพรั่งพร้อมเพรียกร้องในไพร ฯ
๏ กางเขนรำเขนหางบ่าวขุนพลางกางปีกรา
จินโจ้แกงจืดมาร้องแจ้วจ้าป่าวังเวง ฯ
๏ กางเขนรำไต่ต้นพฤกษา
บ่าวขุนกางปีกราปากอ้า
จินโจ้แกงจืดมาพูดเพรียก
นกพริกร้องแจ้วจ้าป่าก้องวังเวง ฯ
๏ นกขมิ้นเหลืองหลากหลายมีสพายหมายสองคาง
เหลืองอร่ามงามปีกหางเห็นสำอางช่างมีพรรณ ฯ
๏ นกขมิ้นเหลืองก่ำป้องปีกหาง
มีสพายหมายสองคางค่างแก้ม
เหลืองอร่ามงามปีกหางเห็นเลิศ
สร้อยสำอางอย่างแต้มแต่งให้มีพรรณ ฯ
๏ ชมคู่หมู่ซั้งแซวร้องโฉดแก้วแล้วบินไป
เลียนนกหกใดใดย่อมเลียนได้ให้เสียงแมว ฯ
๏ ซั้งแซวเสียงแจ้วส่งเอาใจ
ร้องโฉดแก้วบินไปมุ่งไม้
เลียนนกสิ่งใดใดเหมือนอยู่
ไม่เพี้ยนเลียนได้ไท้เล่ห์ร้องเสียงแมว ฯ
๏ นกคุ่มซุ่มอยู่นอนในดงดอนส้อนไคลคลา
ลายเลือนเหมือนนกกระทาแต่ตัวน้อยค่อยเก็ยกิน ฯ
๏ นกคุ่มซุ่มอยู่ข้อยไปมา
ดงดอนซ่อนกายากระจ้อย
ลายเลือนเหมือนนกกระทากระแจ่ม
แต่ว่าตัวน้อยน้อยค่อยเถี้ยวเก็บกิน ฯ
๏ นกเงือกอยู่ในโพรงไม้ผัวฟักไข่เมียผันผาย
เล่นชู้อยู่เสบยสบายผัวหมายไว้ให้รวงรัง ฯ
๏ นกเงือกอยู่ซอกไม้เรียงราย
ผัวฟักเมียผันผายด่วนได้
เล่นชู้อยู่เสบยสบายลืมคู่
ผัวอดอาหารให้อยู่เฝ้ารวงรัง
๏ ชาติบุษป์พุทธชาตซาบกุหลาบกนาบทั้งสองทาง
เบงระมาดยี่สุ่นกางกลีบบานเพราเหล่าดาวเรือง ฯ
๏ ชาติบุษป์พุทธชาติขึ้นเคียงกลาง
กุหลาบกนาบสองทางกลิ่นฟุ้ง
เบงระมาดยี่สุ่นกางตรงกลีบ
สาวสาวฉวยชิงหยุ้งเก็บร้อยรอยกรอง ฯ
๏ เพกาสาเกกุ่มไม้ตาตุ่มทุมราชา
สุกรมมะยมพวาไม้หมากข้าขานางเปล้า ฯ
๏ เพกาฝักย้อมกุ่มผลหนา
ตาตุมทุมราชาเนื่องหน้า
สุกรมมะยมพวาชมพู่
สาเกไม้หมากข้าอิกเปล้าขานาง ฯ
๏ กะจายสยายซร้องนางผ้าสไบบางนางสีดา
ห่อห้อยย้อยลงมาแต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม ฯ
๏ กะจายสยายคลี่ซร้องนงพงา
สไบบางนางสีดาห่อห้อย
ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมาโบยโบก
แต่ค่าไม้ใหญ่น้อยแกว่งเยื้องไปมา ฯ
๏ กะเช้าเจ้าบรรจงปากแฉกตรงทรงหาบหาม
แล่งปืนของพระรามรูปงามดีมีสืบมา ฯ
๏ กะเช้านางแต่งเจ้าผจงงาม
ปากแฉกทรงหาบหามห่วงห้อย
แล่งปืนของพระรามยังอยู่
รูปร่างงามน้อยน้อยงอกขึ้นสืบมา ฯ
๏ เล็บนางงามแสล้มต้นนางแย้มแกมดองดึง
สุพรรณิกากากระทังดอกราชพฤกษ์ซีกไทรไตร ฯ
๏ เล็บนางนวยแน่งน้อยพอพัง
นางแย้มแกมดองดึงอีกอ้อย
สุพรรณิกากากระทังบานแบ่ง
ราชพฤกษ์ซีกดวงย้อยพู่เพี้ยงไทรไตร ฯ
๏ ชงโคตะโกตะขบหว้าต้นตุมกากาฝากลง
ชอบกลต้นมหาหงส์มะเดื่อดูกลูกนมแมว ฯ
๏ ชงโคตะโกหว้าดาดดง
ตุมกากาฝากลงติดไม้
นมแมวมหาหงส์เห็นอยู่
มะเดื่อดูกลูกออกได้แส่ทั้งสอยกิน ฯ
๏ กำจัดสลัดไดขึ้นบนพื้นภูภู่เขาสูง
แคคางยางยูงดูงต้นตะแบกแปลกกันบาน ฯ
๏ สลัดไดกำจัดต้นหางยูง
บนภูภู่เขาสูงหย่งหยื้น
แคคางยางยูงดูงตรงโตรด
ตะแบกแปลกกันขึ้นเกลื่อนกลุ้มบานไสว ฯ
๏ แคฝอยข่อยเข็มข้าต้นกาลาน่าดอกบาน
งิ้วงับพลับพลึงปานนิ้วมือเรียมเปรียบเทียนกลึง ฯ
๏ แคฝอยข่อยแข่ขึ้นขนัดขบาน
เข็มกาลาดอกบานที่แจ้ง
งิ้วงับพลับพลึงปานมือเรียม
นิ้วแน่งงามดังแกล้งฟั่นด้วยเทียนกลึง ฯ
๏ พุมเรียงเคียวคัดเค้าต้นปู่เจ้าเหล่าจิงจำ
ต้นองุ่นขนุนสำมลอมะก่อสะตอสะเตียน ฯ
๏ พุมเรียงเคียงคัดเค้าบานช้ำ
ปู่เจ้าเหล่าจิงจำไขว่ขึ้น
ต้นองุ่นขนุนสำมลอมาก
มะกอสะตอสะเตียนพื้นเลี่ยนเกลี้ยงตลิบเตียน ฯ
๏ กำจายรายท้องที่ต้นลิ้นจี่ทีทางจร
กลำเพาะเงาะเรียงสลอนสท้อนพวงพะงวงชุม ฯ
๏ กำจายรายทีท้องดงดอน
ลิ้นจี่ที่ทางจรป่ากว้าง
กลำเพาะเงาะเรียงสลอนทรงลูก
สท้อนลางสาดสล้างลูกเลื้อยพะงวงชุม ฯ
๏ จิงจ้อยอยมโดยดวงรายโรยโชยชายชม
ฉิ่งชี่ถี่ทางสมร่มรื่นสนุกปลุกปลื้มใจ ฯ
๏ ยมโดยยอจิ่งจ้อสลอนสลม
ดวงโรยโชยชายชมชื่นหน้า
ฉิ่งชี่ถี่ทางสมเย็นเฉื่อย
ร่มรื่นสนุกริกหร้าปลุกปลื้มใจหญิง ฯ
๏ กล้วยไม้ห้อยต่ำเตี้ยนมตำเรียเรี่ยทางไป
หอมหวังวังเวงใจว่ากลิ่น แก้ว แล้วเรียมเหลียว ฯ
๏ กล้วยไม้ห้อยย้อยคลี่ดวงไสว
นมตำเรียรายไปกลิ่นกล้า
หอมหวังวังเวงใจรสราด
ว่ากลิ่นแก้วแล้วข้าหยุดยั้ง      แลเหลียว ฯ
๏ ทองกวาวคราวดอกแดงเชิงจำแจงแดงเหียนหัน
ลำไยไม้มูกมันเคี่ยนตะเคียนเลี่ยนรังเรียง ฯ
๏ ทองกวาวคราวดอกพร้อมแดงฉัน
เชิงจำแจงเหียงหันเหี่ยวต้น
ลำไยไม้มูกมันเฟืองฝ่อ
เคี่ยมตะเคียนเลี่ยนต้นหมู่ไม้รังเรียง ฯ
๏ เจตพังดีสีเสียดสรลพรมคดปนคนทาดง
เล็บครุฑสุดสูงระหงต้นเต่าร้างกร่างแต้วกะโดน ฯ
๏ สรลสร้อยสีเสียดขึ้นเปนกง
พรมคดคนทาดงด่านกว้าง
เจตพังคีสูงระหงพังอาด
เล็บครุฑต้นเต่าร้างกร่างแต้วกะโดนหนา ฯ
๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อสะตอสะตือชื่อหลายมาน
มะหาดมะตาดแสมสารมะตูมมะขวิดจิตมูลเพลิง ฯ
๏ ตรดตรวยสลวยร่มชื้อเสถียรสถาน
สะตอสะตือชื่อหลายมานมากพ้น
มะหาดมะตาดแสมสารสนับสนุ่น
มะตูมมะขวิดติดต้นดกไม้เจตมูล ฯ
๏ ปอเป้งเตงเตยตาลสรลตระการปานหางโต
ต้นทองตรองตองโพสักสูงสุดพุดซากะถิน ฯ
๏ เตยตาลตอป่านเป้งเตงอะโข
สรลเปรียบหางสิงห์โตต่ำผุ้ม
ต้นทองตรองตองโพทเลเรียบ
พุทราสักสูงกลุ้มค่าไม้กะถินงาม ฯ
๏ ปรูปะระกำดกต้นรกฟ้าหญ้านางแฝง
พัวพุ่มชุมแสงแซงลูกติดต้นหล่นลงเนือง
๏ ปรูประเดียรดาดด้วยระกำแดง
รกฟ้าหญ้านางแฝงผากเหรื้อง
พัวพุ่มชุมแสงแซงกางกิ่ง
ลูกดกตกลงเหนื้องกลาดกลุ้มกลางกิน ฯ
๏ พาดไฉนตะไคร้มะนาวเทียนช้างน้าวหาวนนทรี
ชเอมเขล็นเบญจกานีหงอนไก่สลับทับทิมบาน ฯ
๏ พาดไฉนตะไตร้เนื่องมะนาวมี
ช้างน้าวหาวนนทรีหนาดน้ำ
ชเอมเขล็นเบญจกานีเทียนป่า
หงอนไก่ทับทิมกล้ำกลีบช้อยแดงฉัน ฯ
๏ น้อยหน่าหนาเปนเหล่าน้อยเหน่เล่าเต้าตามชม
นางนวลนวลนางสมหว้านน้ำกลุ้มกทุ่มนาขนาน ฯ
๏ น้อยหน่าน่าลูกพร้อมโตกลม
น้อยเหน่เต่าตามชมชื่นผุ้ม
นางนวลนวลนางสมโสภิศ
หว้านน้ำมีเกลื่อนกลุ้มกทุ่มท้องนาขนาน ฯ
๏ ไผ่เทศงามผาดผุดต้นเล็บครุฑพุทธรักษา
ทองสิบอย่างงามนานาเข้าตอกแตกแปลกดอกขาว ฯ
๏ ไผ่เทศงามเงื่อนแต้มเลขา
เล็บครุฑพุทธรักษาโทษคุ้ม
ทองสิบอย่างตรุตรางามเลิศ
เข้าตอกแตกดวงกลุ้มแปลกด้วยดอกขาว
๏ มังคุดลมุดหมากเหม้าเหล่าทุเรียนเนียรภูสี
มูลมังสังกรณีมีร้อนลิ้นอินทผาลำ ฯ
๏ มังคุดลมุดหมากเหม้ามากมี
ทุเรียนเนียรภูสีค่าค้อม
มูลมังสังกรณีมีมาก
ต้นร้อนลิ้นชื้นล้อมหมู่ไม้อินทผล ฯ
๏ แทงทวยกล้วยกุตีบต้นปีปไสวไข่เน่าหอม
พองลมพนมพนอมน่องโลดเลียบหลาหลกปะโลง ฯ
๏ แทงทวยกล้วยกลีบเลื้อยเครืองอม
ปีปไสวไข่เน่าหอมทั่วเบื้อง
พองลมพนมพนอมลำเจียก
โลดเลียบหลาหลกเหนื้องน่องต้นปะโลงสาร ฯ
๏ หมากม่วงพวงพรวนย้อยพิมเสนห้อย สอยมากิน
สุกห่ามตามใจถวิลเอาตะกร้อซอเกี่ยวลง ฯ
๏ หมากม่วงพวงห่ามย้อยยามเห็น
พรวนพิมเสนเหลืองเปนปากกร้อ
หมอนทองม่วงมันเย็นเดิรสู่
สอยแส่พลางหัวหร้อหล่นกลุ้มชิงกัน ฯ
๏ หมากม่วงดิบห่ามฝานใส่ในจานพานตบะรอง
นั่งล้อมห้อมเนืองนองจิ้มน้ำปลางาปิกิน ฯ
๏ หมากม่วงดิบห่ามให้ปอกฝาน
งาปิน้ำปลาจานจุ่มจิ้ม
นั่งล้อมห้อมกินกรานกินอยู่
เข็ดฟันฝันหน้ายิ้มอิ่มเอื้อน ราถอย ฯ
๏ ชมร่มไม้ไทรไตรเรไรไพรแว่วแจ้วเสียง
เรื่อยเฉื่อยสำเนียงเพียงปี่รีเสนาะเพราะเพลงเครง ฯ
๏ เดิรเพลินชมร่มไม้ไทรไตร
สดับศัพท์เรไรไพรแว่วแจ้ว
ระกำรำไยไพรเลือนเถื่อน
มังคุดลมุดแต้วแก้วกุ่มกถุ้มทรม่วงมะงวง ฯ
๏ หัวลิงหมากลางลิงต้นลางลิงแลหูลิง
ลิงไต่กะไดลิงลิงโลดคว้าประสาลิง ฯ
๏ หัวลิงหมากเรียกไม้ลางลิง
ลางลิงหูลิงลิงหลอกชู้
ลิงไต่กะไดลิงลิงห่ม
ลิงโลดฉวยชมผู้ฉีกคว้าประสาลิง ฯ
๏ ปุ้มไก่แลหงอนไก่ต้นหางไก่ แลสร้อยไก่
โหราเดือยไก่ไก่ให้เทียนไก่ไก่จับนอน ฯ
๏ ปุ้มไก่หงอนไก่ต้นเรียงไสว
หางไก่แลสร้อยไก่กกก้อง
โหราเดือยไก่ไก่เมียงม่าย
ต้นเทียนไก่ไก่ร้องไก่เตี้ยจับขัน ฯ
๏ เพกาต้นตุมกาโยทกากรรณิกา
ชุมกาแลสามกาต้นมะกากาจับนอน ฯ
๏ เพกาตุมกาต้นกาลา
โยทกากรรณิกาถี่ก้อง
ชุมกาและสามกากาสู่
ต้นมะกาการ้องจับไม้กาหลง ฯ
๏ ธารไหลใสสอาดมัจฉาชาติดาษนานา
หวั่นหว้ายกินไคลคลาตามกันมาให้เห็นตัว ฯ
๏ ธารไหลใสสอาดน้ำรินมา
มัจฉาชาตินานาหวั่นหว้าย
จอกสร่ายกินไคลคลาเชยหมู่
ตามคู่มาคล้ายคล้ายผุดให้เห็นตัว ฯ
๏ นั่งเล่นเห็นหมู่ปลาพรั่งพรูมาเหล่าเหลือหลาย
กินเข้าเอาโปรยปรายปลามาใกล้ได้เห็นตัว ฯ
๏ นั่งชมปลาหมั่วหมู่เรียงราย
พรูพรั่งมาเหลือหลายว่ายหวิ้ง
กินเข้าเอาโปรยปรายลงบ่อย
ปลาว่ายใกล้ได้ทิ้งห่อเข้าดูปลา ฯ
๏ ปลาแปปแลปลาเป้าปลาเข้าเม่าปลาคางเบือน
ปลาม้าหน้าคนเหมือนปลากดกรายสวายหางแดง ฯ
๏ ปลาดุกปลาแปบเป้าแลเลือน
เข้าเม่าเหล่าคางเบือนมุ่งหม้าย
ปลาม้าหน้าคนเหมือนคนอยู่
ปลากดกรายสวายหว้ายโบกน้ำหางแดง ฯ
๏ ตะตรับคอยตรับหูหมู่ปลาบู่ว่ายเวียนแฝง
สร้อยส้าปลาหมอแขยงปลาแมงภู่หมู่กระทุงเหง ฯ
๏ ปลาตะตรับคอยกะตั้งหูแขง
ปลาบู่ว่ายเวียนแฝงฝั่งน้ำ
สร้อยส้าปลาหมอแขยงสังกวาด
แมงภู่ดูโลดล้ำพรั้งพร้อมกะทุงเหง ฯ
๏ ปลาอ้าวปลาเนื้ออ่อนว่ายมาก่อนปลาหนามหลัง
กระแหหางแดงหวังเข้าสู่ทุ่งมุ่งเลมไคล ฯ
๏ ปลาอ้าวเนื้ออ่อนหญ้าตัวบัง
มาก่อนปลาหนามหลังอยู่หน้า
กระแหหางแดงหวังคลาแหล่ง
เข้าสู่ทุ่งเลมหล้าเหยื่อย้ำกินไคล ฯ
๏ ปลากะโห้ชโดแฝงช่อนชวาดแชวงแฝงครัน
หน้าสั้นปลานวลจันทร์ปลาอ้องแอ้งปลาเสือหมู ฯ
๏ ปลาชะโดกะโห้ใฝ่แฝงกัน
ช่อนชวาดแชวงสูบครันว่ายแว้ง
หน้าสั้นอิกนวลจันทร์หลายเหล่า
ปลาทุกท้องอ้องแอ้งหมึกเหม้าเสือหมู ฯ
๏ กดคลังปลาสังมีปลากระดี่ปลาดุกอุย
พ่นน้ำกระจายกระจุยปลาหูช้างช้างเหยียบซิว ฯ
๏ กดคลังปลากสังหว้ายชายงุย
ปลากระดี่ปลาดุกอุยแอบข้าง
พ่นน้ำกระจายกระจุยหลายเหล่า
ปลาชื่อหูช้างช้างเหยียบบี้ปลาซิว ฯ
๏ เทโพแลเทพาตะเพียนพาพาพวกจร
ไอ้บ้าปลาสลุมพอนผักพร้าเพรี้ยแลหนวดพราม ฯ
๏ เทโพพาพวกพ้องเทพา
ปลาตะเพียนปลากาพาคู่เคี้ย
สลุมพอนไอ้บ้าปลาหลายหมู่
ปลาผักพร้ามาเพรี้ยว่ายไหล้หนวดพราม ฯ
๏ ฝูงนาคมากหมู่มาดำน้ำท่าหาอาหาร
ฝูงปลามาพะพานขบได้ถนัดกัดกินเนือง ฯ
๏ ฝูงนาคมากหมู่หมั้วดาขนาน
ดำน้ำหาอาหารแกล่กล้ำ
ฝูงปลามาพอพานพะปาก
ขบถนัดกัดใต้น้ำผุดขึ้นกินเนือง ฯ
๏ งูเหลือมคอกระหวัดไม้หางกระหวัดไว้ใฝ่อาหาร
วิดน้ำในห้วยธารโพงไปมาเอาปลากิน ฯ
๏ งูเหลือมแบนท้องแผ่คือกะดาน
วิดน้ำหาอาหารใฝ่กล้ำ
โครมครุ่นในห้วยธารเสียงฉ่า
โพงสาดไปให้น้ำซ่านสิ้นกินปลา
๏ งูเหลือมบนกิ่งไม้ใบหนาใส่ซ่อนซอน
แกกาช้างวานรพอมาใกล้ได้ฉวยกิน ฯ
๏ งูเหลือมบนค่าไม้ใบสลอน
คางซบแนบแอบนอนซ่อนเร้น
กาแกค่างวานรลืมร่าง
งูขบถนัดกัดเน้นค่อยกล้ำกลืนกิน ฯ
๏ จรเข้หลายว่ายเคียงคู่เป็ดปนหมู่ภู่เข้าไป
เป็ดบินสิ้นตกใจคนพิศเพ่งเล็งแลดู ฯ
๏ จรเข้ใหญ่น้อยว่ายชลใส
ภู่ตามเป็ดน้อยไปเรื่อยรี้
เป็ดน้ำดำตกใจบินตื่น
คนคร่ำเลงแลชี้บอกให้กันดู ฯ
๏ เป็ดหงส์ลงธาราคล่ำดำหาปลาตะเพียนเวียน
ไล่ลัดฉวัดเฉวียนหาปลาแปบแทบทันกัน
๏ เป็ดหงส์ลงท่องท้องธารา
เตร็จคล่ำดำหาปลาก่ายหว้าย
แชวงแขยงม้ากากดหลด
ได้แปบแทบกายหม้ายอ่าวค้าวตะเพียนเวียน ฯ
๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่ฝังไข่ไว้ในหาดทราย
ตริวคราวเต่าม่านลายผุดดำคล้ายว่ายเห็นตัว ฯ
๏ ตะพาบน้ำคลานขึ้นไข่ตีนตะกาย
ฝังไข่ในหาดซายกลบเกลี้ยง
ตริวตราวขุนม่านลายตระเต่า
ดำผุดคล้ายว่ายเพี้ยงก่ายกลุ้มหนาตัว ฯ
๏ ปูกุ้งลอยก่งก้ามแลเหลื่อมหลามย่ามเหยื่อหา
หอยโข่งหอยขมตาวัวก็มีที่ท้องธาร ฯ
๏ ปูกุ้งลอยก่งก้ามไคลคลา
เหลือหลามย่ามเหยื่อหาสู่ส้อง
หอยโข่งหอยขมตาวัวเกลื่อน
สารพัดมีที่ท้องท่าน้ำธารสินธุ์ ฯ
๏ เถาวัลย์พันพฤกษาถีบชิงช้าช้าแกว่งไกว
ทำเพลงวังเวงไพรส่งเสียงเรื่อยเฉื่อยละคอนเครง ฯ
๏ เถาวัลย์พันไม้หย่อนลงมา
สาวนั่งถีบชิงช้าห่วงห้อย
ทำเพลงวังเวงอารมณ์ชื่น
เสียงส่งเพราะดอกสร้อยฉ่ำร้องละคอนเกรง ฯ
๏ ลมพัดมาเรื่อยเรื่อยเย็นชวยเฉื่อยสำราญใจ
ปูผ้านอนหลับในใต้ร่มไม้ไทรสาขา ฯ
๏ ลมพัดมาเฉื่อยชื้อเย็นใจ
ปูผ้านอนหลับใหลกลาดกลุ้ม
ฟูกหมอนเรียงกันไปหลายเหล่า
นอนอยู่ใต้ไทรผุ้มร่มไม้ไพศาล ฯ
๏ ลางนามอาบน้ำท่าทาขมิ้นหอมพึงชม
ทาแป้งแกล้งหวีผมผัดหน้านวนยวลใจชาย ฯ
๏ ลางนางตักน้ำท่าอาบองค์
ขัดขมิ้นเหลือบรรจงลูบน้ำ
หวีเกล้าเอาเทริดทรงผมปีก
ผัดหน้านวนงามล้ำยั่วเย้าใจชาย ฯ
๏ จบเสร็จชมนกไม้ในแหล่งไหล้พนัศสถาน
หญิงชายฟังสำราญที่ผิดอ่านวานแต้มเขียน ฯ
๏ จบเสร็จชมนกไม้โคลงการ
ชมแหล่งไพรพนัศสถานเถื่อนกว้าง
หญิงชายชื่นชมบานใจโลกย์
ใคร่อ่านวานเติมบ้างช่วยแต้ม เขียนลง ฯ
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ เจ้าทรงเขียน
ไชยเชษฐสุริย์วงศ์ เพียรเลิศหล้า
แต่งไว้ให้สถิต เสถียรในโลกย์
จำเนียรกาลนาน ช้าอ่านอ้างสรรเสริญ ฯ
เจ้าฟ้า หนุ่มน้อยราชกุมาร
ธรรม์ ธำรงกลอนการยั่วแย้ม
ธิเบศร์ วราสถานไชยเชษฐ
สุริย์วงศ์ ทรงโคลงแต้มแต่งไว้วานสงวน ฯ
เจ้าฟ้า เลิศล้ำโพธิสมภาร
กรมขุน หลวงพญากรานกราบเกล้า
เสนา นราบานใจชื่น      ชมนา
พิทักษ์ รักษาเช้าค่ำด้วยใจเกษม ฯ
จบ จนจอมโลกย์เจ้าคืนวัง
พิตรสถิตยบัลลังก์เลิศหล้า
ริ ร่างกาพย์โคลงหวังชนโลก      อ่านนา
บูรณ์ พระโคลงเจ้าฟ้าธิเบศร์เจ้าจงสงวน ฯ
๏ อักษรเรียบเรียงถ้อยคำเพราะ
ผู้รู้อ่านสารเสนาะเรื่อยหรี้
บรู้อ่านไม่เหมาะตรงเทิ่ง      ไปนา
ทำให้โคลงทั้งนี้ชั่วช้าเสียไป ฯ
๏ อักษรสรรค์สร้างช่างชุบจาน
โคลงก็เพราะเสนาะสารแต่งไว้
ผู้รู้อ่านกลอนการพาชื่น      ใจนา
ผู้บ่รู้อ่านให้ขัดข้องเสียโคลง ฯ
             

เชิงอรรถ

เครื่องมือส่วนตัว