นิราศหาดเจ้าสำราญ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 11:24, 1 ตุลาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: นายเฟื่อง ชวาลี

นิราศเรื่องนี้ นายเฟื่อง ชวาลี แต่งเมื่อครั้งตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวไปยังหาดเจ้าสำราญ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔

บทประพันธ์

๏ นิราศร้างห่างขวัญกะสันเสียว
ไม่เคยพรากจากกันสักวันเดียวมาเด็ดเดี่ยวความสวาทนิราศไกล
ให้อัดอ้นจนจิตด้วยกิจหลวงต้องหักห่วงจากมิตรพิสมัย
จะมีแต่ปั่นป่วนรัญจวนใจกว่าจะได้กลับมาเห็นหน้ากัน
ในระหว่างร้างโรยโดยเสด็จยี่สิบเอ็ดวาระสละขวัญ
ใครจะปลอบแก้วตาสุดาจันทร์จะนับวันโศกาเฝ้าอาวรณ์
อันใจพี่นี้น้องย่อมมองเห็นว่าจำเป็นจำใจไกลสมร
แต่คราวนี้ดีอย่างหนทางจรจะไปตอนหาดเจ้าค่อยเบาใจ
โดยมหากรุณะสละทรัพย์อเนกนับแสนบาทไม่หวาดไหว
ราชดำรัสจัดสร้างทางรถไฟสำหรับไปแรมประพาสหาดสำราญ
กับทั้งผู้ดูทำที่ดำริมีวุฒิสามารถอันอาจหาญ
คือพระยาวรวงพงศผู้บงการเปนแม่งานทำมาเพียงกว่าปี
ไม่นานหลายขวายขวนจนสำเร็จคราวเสด็จขึ้นล่องค่อยผ่องศรี
จะมาไปได้ง่ายสบายดีแต่ใจพี่นั้นยังเป็นกังวล
แม้หนทางร่างกายสบายมากก็ไม่อยากร้างรักเลยสักหน
ด้วยตัวสุขทุกข์ใจดังไฟลนร่ำแต่บ่นถึงนางไม่วางวาย
      ถึงหาดเจ้าเจ้าท่านสำราญราชด้วยข้าบาทติดตามมาหลามหลาย
เล่นทะเลเฮฮาน่าสบายถ้าโฉมฉายมานี่จะดีครัน
พี่จะชวนเนื้อเย็นลงเล่นคลื่นให้ชุ่มชื่นปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
คงจะคลายหายทุกข์เป็นสุขกันจะพาขวัญว่ายไปให้ไกลตา
เหมือนดังเรื่องพระอภัยวิไลศรีเมื่อครั้งหนีเมียรักนางยักษา
ก็ขี่เงือกเกลือกว่ายตะกายมานางเงือกพาล่วงลุถึงมุนี
จึงพ้นภัยได้พักกับนักสิทธิ์รอดชีวิตสิ้นทุกข์เป็นสุขี
คิดถึงคุณเงือกน้ำที่ทำดีไม่ถึงปีเกิดบุตรสุดสาคร
ถ้าตัวพี่นี้เป็นเหมือนเช่นนั้นไม่โศกศัลย์จริงจริงมิ่งสมร
นี่มาร้างห่างมิตรสนิทนอนให้อาวรณ์ถึงนาฎอนาถทรวง
ได้เคยอยู่ชูชมประสมสองถนอมน้องสุดแสนจะแหนหวง
พี่มาแล้วแก้วตาสุดาดวงจะเหงาง่วงเปล่าใจไม่เสบย
อยาจะใคร่ได้สั่งให้ตั้งจิตสามอาทิตย์เท่านั้นแหละขวัญเอ๋ย
จะได้กลับไปอยู่เปนคู่เชยอย่าทุกข์เลยโฉมศรีไม่กี่วัน
ถึงตัวพี่ที่ได้ไกลสมรไม่เดือดร้อนโรคภัยอย่าใฝ่ฝัน
โดยพระเดชปกครองช่วยป้องกันข้อสำคัญไข้ใจไม่ทุเลา
อันการอยู่การกินก็สิ้นทุกข์ไม่มีสุขอยู่หน่อยที่หงอยเหงา
เคยประโลมโฉมฉายสบายเบามาจากเจ้าว้าเหว่อยู่เอกี
ถึงยามนอนค่อนคืนรู้สึกหนาวอุระร้าวหวนหามารศรี
เสียงแต่คลื่นครื้นคลั่งประดังดีในใจพี่เพียงคลั่งเหมือนฝั่งชล
ถึงยามหลับกลับฝันกระสันหาหวาดผวาหวั่นจิตคิดฉงน
นึกว่านอนแนบน้องกันสองคนรู้สึกตนเดียวดายให้อายใจ
เมื่อจวนแจ้งแสงศรีระพีส่องยิ่งหม่นหมองถึงมิตรพิสมัย
พอเห็นดวงสุริโยอโณทัยแลแต่ไกลเต็มโตดูโอฬาร
ทั้งมารุตหยุดพัดสงัดเงียบอุทกเพียบเปี่ยมท่าชลาหาร
สนิทนิ่งยิ่งน้ำในลำธารน่าสนานแลไปประไพตา
ด้วยแสงทองส่องทาบลงนาบน้ำเป็นเหลือบคล้ำส่องสู่ต้องภูผา
สีกระแสแพร่พร่างกลางนภาขึ้นจับฟ้าดังสีมณีราย
เมื่อแสงแดดแผดส่องห้องอากาศวโรภาสรุ้งรัศมิ์จรัสฉาย
ชลาลัยใสเย็นเป็นประกายดูแพรวพรายพราวตาสง่างาม
พอผันแปรแลพบเรือรบหลวงนามพระร่วงลำใหญ่ในสยาม
เปนชนิดนาวากล้าสงครามคอยปราบปรามปัจจาทางนาวี
พร้อมทหารชาญศึกได้ฝึกฝนทั้งต้นกลล่าต้ากลาสี
จอดพิทักษ์รักษาฝ่าธุลีอาวุธมีพร้อมท่อตอปิโด
ข้างท้ายลำทำท่อเปิดระเบิดทิ้งยังปืนยิงเรือเหาะดูเหมาะโข
บนปลายเสาเขาว่าราดิโอเพื่อส่งโทรเลขลับในทัพชัย
อันศาสตราสาระพัดไม่ขัดขวางช่วงสรรพ์สร้างป้องกันทันสมัย
แสงอาทิตย์สอดส่งเห็นธงไทยทำให้ใจเรียมปลื้มแทบลืมตน
จะพิศหาดหรือหาดก็ลาดรื่นเสมอพื้นดุจแต่งทุกแห่งหน
เปนทรายอ่อนห่อนมีธุลีปนละเอียดป่นโปรยปรายดังทรายกรอง
ที่หาดทรายพรายพรอยหอยสลับงามระยับแสงสีไม่มีหมอง
ยังระคนปนทรายอยู่ก่ายกองอเนกนองนักหนาบรรดามี
ต่อนาน ๆ พานพบที่กบกาบฤทัยวาบกำสรดสลดศรี
พอจะปลื้มลืมทุกข์สนุกดีเหมือนหอยชี้ความในให้ใจตรม
ยามที่อยู่ชูเชยเคยแสวงหามาแกงกินบ่อยอันหอยขม
เพราะรู้ช่องร่องรอยไปคอยงมถึงหมกตนซ่อนตนไม่พ้นตาย
มากินข้าวคราวนี้ไม่มีหอยสิ้นอร่อยสิ้นรสหมดทั้งหลาย
ถ้าแรมร้างอย่างนี้สักปีปลายคงวางวายชีวังไม่ยั่งยืน
ยามอาหารพานปากไม่อยากเคี้ยวต้องหน่วงเหนี่ยววิญญาณ์อุตส่าห์ฝืน
พอเลี้ยงตัวชั่วมีชีวีคืนสู้กล้ำกลืนแม้คำก็จำเป็น
แต่กระนั้นวันที่พี่จะกลับช่างอาภัพเกือบไม่ได้มาเห็น
เหตุด้วยรถสายเล็กเอ๊กสิเด็นกระโดดเผ่นตกรางลงกลางคัน
แสนรันทดหมดท่านึกว่าจบคงไม่พบกันจริงแล้วมิ่งขวัญ
ต้องนอนดินกินทรายอีกหลายวันจะบากบั่นเยื้องย่างก็ทางไกล
เป็นกุศลผลบุญหนุนสนองจึงปรองดองปฤกษาอัชฌาสัย
คนที่มาทั้งหมดบนรถไฟต่างพร้อมใจยกรถแทบหมดแรง
พี่อุตส่าห์พยายามด้วยความรักถึงรถหนักช่วยกันโดยขันแขง
เอาขึ้นได้ใส่รางไม่คลางแคลงเพราะเหตุแห่งพร้อมพรักสามัคคี
ตั้งแต่นั้นมรรคามาเป็นสุขไม่มีทุกข์สิ่งใดในวิถี
จบนิราศโดยเสด็จเพชรบุรีเท่านั้นทีพอให้เป็นชัยโย, ชัยโย, ชัยโย.
      ฯ ๗๖ คำ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

ประชุมนิราศเมืองเพชรบุรี พ.ศ.๒๕๒๕

เครื่องมือส่วนตัว