นิราศสุโขทัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: [คุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา] (ส้มจีน อุณหะนันท์)

บทประพันธ์

๏ นิราศรักหักใจจำไกลบ้าน
ไปสุโขทัยเบื้องเมืองโบราณชมสถานแถวทางให้สร่างใจ
ทั้งประสงค์ส่งพ่อเถียวเกี่ยวเป็นญาติไปรับราชกิจวินิจฉัย
เป็นอัยการจังหวัดนัดกันไปพออุทัยไขศรีฉวีเรือง
ที่ยี่สิบเจ็ดมิถุนาวันคลาคลาดพุทธศักราชสองพันกันต่อเนื่อง
สี่ร้อยเจ็ดสิบสามยามประเทืองจึงย่างเยื้องยังหมู่ที่บูชา
จุดเทียนน้อมเศียรกราบพุทธรูปและจุดธูปที่อัฐิปริปากว่า
ขอลาไกลไปดูเมืองบูราณ์แล้วไคลคลาจากตึกรู้สึกงง
เห็นเด็กเด็กเลี้ยงมาล้อมหน้าหลังล้วนแต่ตั้งใจงามจะตามส่ง
คิดห่วงหลังห่วงหน้าพะว้าพะวงค่อยดำรงกายออกนอกประตู
ระทวยอ่อนถอนใจอาลัยเหลียวเคยไปเที่ยวครั้งใดก็ไปคู่
ไปคนเดียวเสียวเจตน์น้ำเนตรพรูมิได้ดูสิ่งใดหักใจจร
ถึงสถานีใหญ่รถไฟจวนจะออกล้วนเซ็งแซ่แลสลอน
เป็นหลายสายย้ายพรากจากนครเรารีบจรพร้อมเสร็จรวมเจ็ดคน
นั่งที่สองของใช้ไปรถตู้ดูคนผู้ส่งรับกันสับสน
บ้างอวยชัยให้ล้วนส่วนมงคลส่งกันจนรถออกนอกชาลา
เป็นขบวนขบวนไม่ป่วนปั่นแต่ละคันท่วงทีมีสง่า
ควรภูมิใจไทยเจริญเพลิดเพลินตานับเวลายิ่งทวีบริบูรณ์
ลอดสะพานกษัตริย์ศึกจารึกยศอันปรากฏเกียรติไว้มิให้สูญ
พระกำจัดไพรินทร์จนสิ้นมูลทรงเพิ่มพูนอำนาจของชาติไทย
เป็นดิเรกเอกราชชาติในโลกอุปโภคสารพันทันสมัย
พระสร้างทำบำรุงเป็นกรุงไกรสืบมาให้ไปภายหน้าคุ้มฟ้าดิน
มาถึงจิตรลดาสถานีมิใช่ที่ชาวประชาอย่าถวิล
สำหรับพระราชะจอมนรินทร์เสด็จลินลาศตรงทรงรถไฟ
เห็นดุสิตคิดเหมือนได้ไปดุสิตชวลิตแลตลอดยอดไสว
พระที่นั่งดังสถานพิมานไชยสวยดังไกรลาสสวรรค์อันรุ่งเรือง
เห็นโบสถ์วัดเบญจมบพิตรแลวิจิตรสี่มุขแสงสุกเหลือง
ดังทองทาบปลาบปลั่งมลังเมลืองสีกระเบื้องแลระยับจังนภางค์
ฉันน้อมกายถวายอภิวาทพระชินราชองค์ที่สองจำลองสร้าง
โปรดพิทักษ์รักษาทุกท่าทางให้สำอางสำเร็จเจตนา
ข้าพเจ้าเขาทั้งหลายทุกชายหญิงจงพ้นสิ่งโรคภัยให้ถ้วนหน้า
มีดวงใจใสกระจ่างทางสัมมาวัฒนาลาภล้ำอร่ามเรือง
ถึงสามเสนไม่ได้ความเรื่องสามเสนใครประเคนชื่อไว้ไฉนเรื่อง
เอาพิมเสนแลกเกลือเห็นเหลือเปลืองล้วนแต่เครื่องเสียค่าราคาควร
ถึงบางซื่อซื่อตรงลงว่าโง่โอ้พุทโธ่คิดมาก็น่าสรวล
ที่ตลบแตลงแต่งสำนวนกลับชมชวนกันว่าอาจฉลาดดี
คนชนิดไหนนะเรียกฉลาดที่จอมปราชญ์ยกย่องว่าผ่องศรี
ถ้าจะมีใครโผล่โต้วาทีและทั้งมีกรรมการประหารความ
คงได้ฟังคารมอุดมแปลกต่างจะแหวกเอาชัยในสนาม
ต่างชี้เลศเหตุผลจนให้งามซึ่งจะคร้ามปากกันนั้นไม่มี
ฉลาดใดไม่เหมือนการชาญฉลาดรักษาอาตม์ให้ดำรงตรงวิถี
แห่งสัมมาอาชีวะนั่นแหละดีมิให้มีอกุศลปนมลทิน
จึงควรนับว่าเป็นปราชญ์ฉลาดล้ำอันบาปกรรมมิให้เข้ากายสิ้น
ครองชีวิตสุขาเป็นอาจิณอยู่ในศีลซื่อสัตย์สวัสดี
เห็นตึกเตาเผาดินเป็นหินผงแล้วขายส่งเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี
ทำสะพานบ้านเรือนเขื่อนกุฎีแห้งเป็นศีลาแท่งแข็งแรงทน
บางซื่อนี้โรงมีทหารบกปลูกล้อมวกกว้างใหญ่ดั่งไพรสณฑ์
มีทหารชาญชัยหลายกองพลเป็นน่ายลยินดีบุรีเรา
ถึงบางเขนเลนมากต้องลากเข็นเรือติดเลนหรือเช่นเข็นซุงเสา
ก็พอจะเข็นได้สบายเบาแต่ว่าเจ้าความรักนี้หนักครัน
ลงติดตรังฝังใจเข็นไม่ออกยิ่งกว่าตอกด้วยตะปูคิดดูขัน
บางทีถึงร่างกายวายชีวันเพราะรักนั้นมิได้สมอารมณ์ปอง
สมรักแล้วแคล้วคลาดนิราศร้างนี่อีกอย่างก็ระทมอกตรมหนอง
เป็นโรคร้ายหายยากมากทำนองยิ่งตรองตรองเรื่องรักชักรำคาญ
ถึงหลักสี่มีนาธัญญาไสวขอขอบใจชาวนามหาศาล
สู้เหนื่อยยากตรากตรำกระทำการไถคราดหว่านเก็บเกี่ยวด้วยเรี่ยวแรง
การกินอยู่ดูทุเรศสมเพชเหลือกะปิเกลือปลาร้าน่าแสยง
นอนโรงจากฟากปูสู้ตะแคงโคลนตมแห้งเกรอะกรังเขายังทน
เราลำบากยากใจอะไรหน่อยบ่นตะบอยกันทั้งวันตั้งพันหน
มีที่อยู่ดังวิมานสำราญตนกินดังปนเพชรทองยังร้องคราง
เอาแต่สุขส่วนตัวทั่วทุกผองขอเชิญมองดูคั่นคนชั้นล่าง
ตรองสักนิดคิดสักหน่อยอย่างปล่อยวางจะเห็นทางเพื่อนมนุษย์สะดุดใจ
อันหลักสี่นี้นามยังงามอยู่หลักหนึ่งสองสามไม่รู้ไปอยู่ไหน
รัชกาลที่สี่มีพระทัยบำรุงไพร่พลเมืองให้เฟื่องฟู
ให้ขุดคลองแยกจากคลองผดุงผ่านท้องทุ่งป่าละเมาะถึงเกาะคู่
ตำบลบางปะอินถิ่นควรรู้ปักไว้ให้ดูตลอดทาง
หลักละ ๕๐ เส้นเป็นหลักหลักตั้งแต่หนึ่งถึงสำนักหลักที่สอง
ที่สามที่สี่ห้าหกเจ็ดเขตรองรองนับเกือบสองพันเส้นสร้างกว้าง ๕ วา
ราวร้อยเส้นเป็นมีศาลาพักตัวไม้สักมุงกระเบื้องเขื่องอยู่หนา
เมื่อยังเยาว์เราได้เห็นเด่นนัยน์ตาแต่เวลานี้ไม่เห็นดังเช่นเคย
ทรงพระราชทานนามตามนุสรณ์ชื่อคลองเปรมประชากรสุนทรเฉลย
ชื่อตามหลักยักเป็นอื่นไม่คืนเลยเหลือพิเปรยสี่กับหกก็ตกลง
อันบูราณสถานที่มีประวัติถ้าเปลี่ยนผลัดชื่อใหม่ย่อมไหลหลง
ต้องเรียนใหม่ไถ่ถามเพราะความงงเอาไว้คงชื่อไม่ได้ไฉนนา
ถึงดอนเมืองเนืองนองกองเครื่องบินวิชาศิลป์สิ่งนี้ดีหนักหนา
ชวนกันหัดให้จบทางนพภาจะไปมาเร็วพลันเท่าทันการณ์
มิควรกลัวตกดินสิ้นชีวิตความตายคิดไม่ประหลาดชาติสังขาร
ถ้าถึงที่ชีวันอันตรธานอยู่กับบ้านมันก็มรณา
เป็นทหารนักบินควรยินดีเกิดมามีโชคแก่ชาติศาสนา
ถ้ามาตรแม้นไพรีมาบีฑาอาจรักษาปกป้องได้ว่องไว
แม้จะเสียชีวาตม์อย่าขลาดหลบต้องรุกรบจนศัตรูอยู่ไม่ได้
ช่วยกันรักษาเอกราชของชาติไทยถาวรไว้ในหล้าคุ้งฟ้าดิน
ให้สมศักดิ์อัครฐานทหารกล้ายามเวลาสงบสมอารมณ์ถวิล
รีบฝึกหัดให้ชำนาญในการบินรอบรู้ถิ่นทั่วประเทศเขตของเรา
รู้ทางหนีทีไล่ย่อมได้เปรียบไหวพริบเฉียบแหลมดีไม่มีเศร้า
สามัคคีมีไว้ไม่ใจเบาแม้ภูเขาก็อาจสามารถทำลาย
ทหารบกทหารเรือและเสือป่าย่อมมีหน้าที่เหมือนกันดังมั่นหมาย
ควรไว้เกียรติศักดิ์หลักผู้ชายมิให้อายแก่เขาชาวโลกา
ดูเขาหรือคือบุคคลที่ต้นคิดเพียรประดิษฐ์ยานยนตร์ด้นเวหา
มิได้เกรงตกตายวายชีวมทำจนสามารถเสร็จสำเร็จการ
โลกมนุษย์สุดประเสริฐเกิดชีวิตนักประดิษฐ์ต่างต่างอย่างวิตถาร
ถ้าช่างคิดประดิษฐ์ทำเครื่องสำราญเครื่องประหารชีวิตไม่คิดทำ
มีเมตตาอารีเหมือนพี่น้องใครขัดข้องช่วยชุบอุปถัมภ์
โลกจะแสนสุขประเสริฐเลิศล้ำเหมือนหนึ่งสำนักสวรรค์ชั้นอินทรา
ทางซ้ายมือมีตลาดขนาดใหญ่ของกินใช้สารพันน่าหรรษา
ใกล้ทางรถทางน้ำส่ำนาวาคลองเปรมประชากรขนานยานรถไฟ
ถึงหลักหกจีนยกร่องทำสวนแต่ผักล้วนแลลิ่วทิวไสว
ในท้องร่องปลูกข้าวไม่เปล่าไปเขาทำได้ประโยชน์คล่องทั้งสองทาง
การขยันขันข้อแล้วหนอเจ๊กงานใหญ่เล็กไม่เลือกคลำทำทุกอย่าง
ที่สุดขนอุจจาระไม่ระคางได้เงินอย่างเดียวนั้นเป็นชั้นดี
การหากินถูกอย่างทางสัมมาไม่เลวทรามต่ำช้าน่าบัดสี
การทุจริตมิจฉาชีพราคีและเป็นที่อับอายขายหน้าตา
เห็นบัวหลวงตระการบานแฉล้มบ้างตูมแย้มงามเล่ห์ดังเลขา
สัตตบุษย์ผุดพ้นชลธาร์สัตตบันวรรณาน่ายินดี
สัตตบงกชสดใสวิลัยลักษณ์บัวเผื่อนสะพักบัวผันกระชั้นสี
สะพรั่งพร้อมเยียยงจงกลมณีให้เปรมปรีดิ์เจริญเพลินกมล
ดอกไม้น้ำดอกไม้ดินสิ้นทั้งหลายดอกกล้วยไม้กินน้ำค้างกลางเวหน
ล้วนเป็นเครื่องชูจิตยามพิศยลกลิ่นระคนยั่วยวนชวนสำราญ
ความอยากชมดมกลิ่นถวิลหวังจึงปลูกฝังกันชุกแทบทุกบ้าน
ที่ใดมีผกาสุมามาลย์ดูสง่าพาบ้านโอฬารงาม
คลองรังสิตพิศตรงไม่โค้งคดมีการทดน้ำมาทำนาหลาม
มีคลองน้อยซอยสลับนับหนึ่งนามไปจนสามสิบกว่าล้วนนาดี
มีประตูระวังปิดขังน้ำถ้าเหลือล้ำระบายออกนอกวิถี
แต่น้ำรักไหลรวมท่วมฤดีมิรู้ที่จะระบายให้คลายใจ
มาถึงเชียงรากใหญ่ไฉนหรือจึงระบือชื่อเสียงเวียงที่ไหน
หรือเป็นเพียงตั้งรากแล้วจากไกลก็มิได้เห็นซากของรากเลย
สถานที่ย่อมมีประวัติการณ์จึงเรียกขานตำบลนุสนธิ์เฉลย
ทั้งบกเรือเหนือใต้ใช้กันเคยไปมาเอ่ยชื่อเค้าได้เข้าใจ
เหมือนความดีความชั่วตัวบุคคลแม้ร่างกายตายหล่นไปไหนไหน
ชื่อยังอยู่รู้แจ้งทุกแห่งไปลมน้ำไฟก็มิอาจสามารถทำลาย
รถข้ามสะพานเหล็กรองก้องกระทบดังตลบวับหวือหูอื้อหาย
ความเร็วของรถมองตาลายมิได้วายอาวรณ์อ่อนอารมณ์
มาถึงเชียงรากน้อยยิ่งสร้อยเศร้าไฉนเล่าจะทราบเรื่องเบื้องประถม
เชียงรากคู่อยู่ใกล้ไม่ระทมเราโศกซมเพราะคู่ไปอยู่ไกล
ข้ามสะพานเรียกร้องคลองเชียงรากเสียงดังมากอีกเหมือนกันสนั่นไหว
รถหยุดหน้าสถานีค่อยมีใจลืมอาลัยลืมตัวมัวแต่ดู
เขาขึ้นลงส่งรับกันสับสนเดินมาชนถูกตัวและหัวหู
ไม่ถือโกรธทำจำคำครูเบียดเสียดสู้อดทนปนกันไป
เชียงรากหรือเชิงลากยากจะคิดถูกหรือผิดตามแต่จะแก้ไข
เขาเล่ายักษ์สถุลมารพาลสุดใจหวังจะให้พระรถหมดชีวา
ทำประชวรกวนผัวดังตัวเปรตสยายเกศกระสับกระส่ายทั้งซ้ายขวา
เอาข้าวเกรียบเรียบไว้ใต้ไสยาแล้วครางว่ากระดูกลั่นจะบรรลัย
ทำฉะอ้อนวอนทูลอาดูรดิ้นว่าเคยกินผลพฤกษาในป่าใหญ่
มะม่วงผู้รู้หาวขาวอำไพมะนาวไซร้รู้โห่รสโอชา
จงโปรดให้พระรถทรงยศเดชไปแจ้งเหตุแก่เมรีที่ภูผา
ได้มากินก็จะสิ้นซึ่งโรคาซองสารานี้นำไปให้แก่นาง
พระราชางวยงงด้วยหลงใหลดำรัสใช้โอรสาไปป่ากว้าง
ฝ่ายพระรถขับม้ามาหลงทางจึงพักค้างที่กุฎีพระชีไพร
เห็นอักษรแก้ขยายชายภูสิตในลิขิตว่าผู้ถือหนังสือไข
ถึงกลางวันกินกลางวันอย่าพรั่นใจถึงกลางคืนกลืนให้มันวายปราณ
พระฤๅษีสงสารกุมารน้อยจึงแปลงถ้อยความใหม่ลงในสาร
ถึงกลางคืนรับกลางคืนให้ชื่นบานถึงกลางวันพลันสมานการไมตรี
พระรถไปได้นางได้ดวงเนตรยาวิเศษหนีลับกลับกรุงศรี
พระบิตุรงค์ทราบความตามคดีอสุรีมันแกล้งจำแลงมา
จึงลงโทษนางนั้นชีวันวายราพณ์ร้ายกลายพักตร์เป็นยักษา
มีร่างกายใหญ่โตต้องโกลาลากใหญ่มาหยุดหน่อยลากน้อยไป
ต้องตัดกรรอนเช่นกันเป็นชิ้นโลหิตนองกองดินดั่งธารไหล
ที่ตำบลขนกายมารร้ายไซร้พื้นไผทแดงดลจนทุกวัน
ตรงเนื้อหนาผ่าวิ่นเป็นชิ้นจิ๋วเป็นแปดริ้วหิ้วหามตามขยัน
จึงเรียกแปดริ้วนามไปตามกันเท็จจริงนั้นอยู่แก่เขาผู้เล่ามา
ถึงบางปะอินถิ่นเหมาะเป็นเกาะคู่พระราชวังตั้งอยู่ดูสง่า
แต่ตัวเราว้าเหว่อยู่เอกาอนิจจาเหมือนเกาะแกล้งเยาะเรา
มีคำกล่าวเล่าว่าเกาะนี้เดิมเป็นที่อาศัยของผู้เฒ่า
มีบุตรหลานหลายกระท่อมล้วนย่อมเยาปลูกน้ำเต้าฟักแฟงไว้แกงกิน
ที่ราบต่ำทำนาเป็นอาหารสุขสำราญตามทำนองของท้องถิ่น
มีหลานสาวขาวบางชื่อนางอินเขาเรียกถิ่นนี้เฉพาะเกาะเลนตม
ภายหลังมีสุริยวงศ์พระองค์หนึ่งเรือมาถึงหัวเกาะจำเพาะล่ม
เกิดพายุแรงกล้านาวาจมต้องระทมว่ายน้ำแทบจำตาย
ถึงตลิ่งทิ้งองค์ลงกับพื้นจะเดินยืนไม่ไหวฤทัยหาย
เห็นแสงไฟกระท่อมน้อยอยู่พร้อยพรายเรียกโวยวายช่วยด้วยจะม้วยมรณ์
พวกชายหญิงวิ่งไปเอาไฟส่องช่วยกันประคองมาประทับลงกับหมอน
ได้สมสองนางอินครั้นทินกรรุ่งแล้วจรกลับไปไม่ได้มา
ฝ่ายนางอินมีครรภ์ถ้วนกำหนดคลอดโอรสงามพักตร์เป็นหนักหนา
ได้เจ็ดขวบองอาจประหลาดตาจึงจัดพาไปถวายให้บิตุรงค์
ครั้นเติบใหญ่ได้เป็นมหาอำมาตย์ในพระราชทินนามตาประสงค์
เป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์แล้วได้ดำรงสยามราชปราสาททอง
ทรงสร้างวัดไชยชุมพลมงคลสถานซึ่งพระองค์ท่านสมภพประสบสนอง
ชาวบ้านเรียกเกาะอออินอออินครองบ้างเรียกร้องบางปะอินถิ่นพบกัน
อันเกาะนี้มีกษัตริย์หลายรัชช์ประทับสร้างสำหรับประพาสเปรมเกษมสันต์
แล้วเลิกร้างห่างมาช้านานครันพระทรงธรรม์มหาปิยายง
วงศ์จักรีที่ห้าพระปราโมทย์พระองค์โปรดสร้างขนาดราชประสงค์
พระที่นั่งใหญ่ใหญ่เป็นหลายองค์ที่งามทรงเลื่องลือฝีมือไทย
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์เป็นปราสาทปลูกสร้างกลางสระใหญ่
ที่เกาะนอกออกมหาชลาลัยสร้างวัดไว้ท้ายเกาะเพราะศรัทธา
ทรงพระราชทานนามความพิเศษวัดนิเวศธรรมประวัติจัดศึกษา
ให้พระสงฆ์เรียนร่ำพระธรรมาบำรุงพุทธศาสนาถาวรเนา
ถึงบางโพธิโพธิมีที่ไหนแน่เห็นแต่แพปากคลองขายของข้าว
รถวิ่งข้ามสะพานปร๋อไม่รอเบาดูไม่เท่าไม่ทั่วของตัวคลอง
เลียบใกล้ทางข้างแม่น้ำเจ้าพระยาเห็นนาวากลไฟแล่นไวว่อง
จูงเรือข้าวยาวยืดเป็นพืดมองบ้างขึ้นล่องขนสินค้าทั้งมาไป
ทางน้ำนั้นก็นั่งสบายไม่พายถ่อทางบกก็ไม่ต้องเดินเพลินหรือไม่
ถ้าไม่ต้องกินอาหารประการใดจะสำราญบานใจไปทุกคน
การเหนื่อยยากกรากกรำทำทั้งสิ้นเพราะต้องกินเป็นเหตุประเภทผล
จะนั่งนอนร้อนเร่าเฝ้ากังวลจนวายชนม์นั่นแหละสิ้นถวิลปอง
             

ถึงศรีอยุธยาเวลาสายน่าเสียดายกรุงเก่ามาเศร้าหมอง
เคยรุ่งเรืองจำรัสกษัตริย์ครองโอ้มาต้องกลับกลายเป็นไร่นา
ตำนานเก่าเล่าเรื่องแต่เบื้องก่อนพระนครไพบูลย์พูนสุขา
แต่ครั้งหนึ่งไร้กษัตริย์ขัดติยาพวกเสนาพร้อมเพรียงกันเสี่ยงเรือ
สุพรรณหงส์เอกชัยไปตามน้ำประหลาดล้ำเรือคว้างไปทางเหนือ
ดุจจะมีวิญญาณมาจานเจือไปหยุดเกื้อกูลเผ่าพวกชาวนา
มีฝูงเด็กเลี้ยงโคบ้างโห่ร้องเล่นทำนองยกทัพรับอาสา
ตั้งหัวหน้าหนึ่งเป็นเจ้าชาวประชามีเสนาหมอบก้มประนมกร
เอาจอมปลวกต่างบัลลังก์นั่งบัญชาลงอาชญาผู้ผิดกิจสังหรณ์
เอาต้นกกต่างดาบปราบฟันฟอนถูกคนนอนมรณาน่าอัศจรรย์
พวกอำมาตย์ถ้วนทั่วเชิญหัวหน้าลงนาวาประโคมร้องฆ้องกลองสนั่น
ให้ครองศรีอโยธยาเป็นราชันย์ทรงนามนั้นสายน้ำผึ้งซึ่งก็มี
ว่าพระนามกษัตริย์สายน้ำผึ้งครองกรุงถึงสุโขทัยหาใช่ที่นี่
องค์เดียวกันหรือไฉนไม่ทราบดีแต่ก็มีเรื่องเกี่ยวข้อเดียวกัน
ว่าไปได้ธิดามหาประเทศกรุงจีนเขตห่างไกลไอศวรรย์
ได้เงินทองเภตราสารพันบริวารนั้นตามมาพาราไทย
ถึงบางกระจะพระเสด็จนิเวศน์ก่อนแล้วย้อนเสด็จกลับมารับใหม่
พระนางสร้อยดอกหมากมิอยากไปกลั้นพระทัยแดดิ้นจนสิ้นชนม์
พระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงให้สร้างวัดพระนางเชิงไว้ให้กุศล
ทั้งสร้างวัดกุฎีดาวคราวมงคลนิรมลมเหสีมีศรัทธา
ทรงสร้างวัดมเหยงค์ยังคงอยู่สังเกตดูตามทางแนวข้างขวา
พระเจดีย์เรียงรายสุดสายตาล้วนมหาเจดีย์มีมากองค์
จะเห็นได้ใช่ชั้นสามัญสร้างชำรุดร้างไม่มีใครใจประสงค์
แนวแม่น้ำเก่ายังอยู่เป็นคู่ตรงแต่ในพงศาวดารข้ามฐานมา
จับเอาครั้งตั้งกรุงเทพฯทวาราวดีลงบัญชีปึกแผ่นไว้แน่นหนา
ยกเอานามบุรีศรีอยุธยารวมเข้ามากล้ำกลืนเป็นพื้นเดียว
ก็เริดร้างอย่างอนาถขาดชะตากลายเป็นป่าอีกไม่มีที่แลเหลียว
ความจริงคนละเมืองต่างเรื่องเจียวคิดแล้วเหี่ยวแห้งใจครรไลลา
โอ้สิ่งใดก็ไม่เที่ยงทุกเยี่ยงอย่างจะก่อสร้างปึกแผ่นไว้แน่นหนา
ถึงหลอมเหล็กหล่อแล่นแผ่นศิลาก็ไม่ถาวรเที่ยงจะเถียงใย
มนุษย์เรากระดูกหนอเนื้อห่อหุ้มมันนิ่มนุ่มกระทบกระเทือนความเคลื่อนไหว
หรือจะอาจทนทานการณ์โลกัยย่อยบรรลัยเปื่อยเน่าไม่เนานาน
ความประพฤติดีและข้อทรลักษณ์นั่นแหละจักดำรงคงสัณฐาน
ไม่เปื่อยพังตั้งมั่นอันตรธานตลอดกาลฟ้าดินจะสิ้นไป
ถึงบ้านม้าม้าที่มีพยศทั้งโกงคดเหลือกำลังจะรั้งไหว
ขืนขับขี่มีแต่จะแพ้ภัยไม่ขอใกล้กายาของม้าโกง
กลัวม้าร้ายควายขวิดไม่ชิดใกล้มันก็ไม่มีเรื่องเครื่องโขมง
คนทมิฬหินชาติอุบาทว์โครงหลีกอยู่โพรงเขายังแผ่กระแสลาม
เกิดเป็นคนยากจะพ้นวิกลเหตุดังอยู่เขตรบระหว่างกลางสนาม
ล้วนแต่ศึกกึกก้องทำนองความมีสงครามกว่าชีวันจะบรรลัย
นั่งรำพึงถึงระยะมาบพระจันทร์ยิ่งร้าวรัญจวนจิตพิสมัย
ดวงจันทร์แจ่มแรมกลับมืดลับไปข้างขึ้นได้กลับมาแจ่มแอร่มตา
แต่ดวงพักตร์ลักขณาลี้ลาลับมิได้กลับมาเหมือนจันทร์ดั้นเวหา
จะชมอื่นเอี่ยมโอ่ทั่วโลกาไม่เหมือนหน้าคนรักประจักษ์ใจ
ถึงพระแก้วมิประสบพบพระแก้วแต่จิตแน่วถึงพระไม่ไถล
คำนึงถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นฉัตรชัยกั้นเกล้าทุกเช้าเย็น
มาถึงบ้านภาชีที่ใหญ่กว้างรถหลีกทางรางไขว่น่าใคร่เห็น
มีโรงใหญ่ปลูกขวางคร่อมทางเป็นกั้นร่มเช่นฝนแดดระแวดระวัง
รางรถค้อมอ้อมไปทั้งซ้ายขวาตัวสถานีวางอยู่กลางตั้ง
มีตลาดสองฟากดุจฉากประดังใต้ทางยังมีอุโมงค์เป็นโพรงยาว
เดินได้ตลอดลอดทางกว้างวากว่าคนไปมาทางนั้นกันอื้อฉาว
ได้ปลอดภัยรถไขว่กันระนาวถ้าเดินก้าวข้ามข้างบนรถชนตาย
เสียงจ้อกแจ้กจอแจกันแซ่ซ้องขนข้าวของขึ้นลงกลัวหลงหาย
ที่รู้จักทักถามความต้นปลายบ้างเรียกฝ่ายไกลเพียงสุ้มเสียงเครือ
ดูอะไรไม่เห็นยุ่งเท่าพุงมนุษย์ช่างแสนสุดยุ่งยากลำบากเหลือ
พอรุ่งเช้างันงกทั้งบกเรือวุ่นจนเหงื่อเป็นน้ำมันทุกวันไป
บ้างขายค้าหากำไรได้ง่ายคล่องแลกเปลี่ยนของสุจริตติดนิสัย
บ้างทุจริตบิดงอไม่ขอใครเห็นถ้าได้เป็นประชิดไม่คิดอาย
บ้างขี้เกียจทำงานขอทานเขาบ้านปล้นเอาซึ่งหน้าฆ่าเสียหาย
บ้างแย่งชิงวิ่งราวฉาวกระจายบ้างตะกายตลบตะแลงตะแคงลิ้น
สุดแต่ได้เอาทั้งนั้นไม่หวั่นหวาดได้โอกาสแล้วไม่เลือกกระเดือกปลิ้น
มิได้มีจรรยาเป็นอาจิณพอได้กินได้ผดุงให้พุงเต็ม
การกินอยู่มนุษย์นี้สุดยากต้องกินมากหลายประการคาวหวานเข้ม
ทั้งของอ่อนแข็งเคี้ยวรสเปรี้ยวเค็มต้องและเล็มตามคอหอยน้อยเมื่อไร
จะบรรจุเรือกำปั่นสักพันหมื่นให้เต็มพื้นแล้วมิต้องเติมของใหม่
บรรจุท้องมนุษย์นั้นทุกวันไปย่อมมิได้เต็มตามความยินดี
ถึงหนองวิวาทอยู่ดีไม่วิวาทเห็นต่างอาตม์ต่างอยู่ไม่สูสี
มนุษย์เราถ้าวิวาทขาดไมตรีไม่มีดีมีแต่ร้ายทำลายกัน
ทำอย่างใดจะให้เราเหล่ามนุษย์ละสมมุติโทโสไม่โมหันธ์
ไม่อิจฉาพยาบาทขาดสัมพันธ์ยุติธรรม์ถ้วนทั่วทุกตัวคน
แม้ผิดบ้างพลั้งให้อภัยผิดกระทำจิตมุ่งหมายฝ่ายกุศล
ไม่เบียนเบียดเสียดส่อก่อกังวลจะมีผลสุขศานติ์สำราญกัน
ถึงท่าเรือเมื่อสัปปุรุษไปพุทธบาทที่ชายหาดเรือเรียงเคียงมหันต์
ข้ามสะพานเหล็กรานสะท้านครันแล้วลอดขั้นสะพานไม้ครรไลคลา
เพราะที่ทางจอแจจำแก้ไขกลัวรถไฟจะทับดับสังขาร์
ช่างรอบคอบกอบโกยโปรยเมตตาโมทนาสิ่งที่ทำดีกระไร
หน้าสถานีใหญ่รถไฟหยุดสัปปุรุษเซ็งแซ่แลไสว
ทั้งทางบกทางนทีที่ใกล้ไกลพากันไปล้นหลามตามมรรคา
มีรถไฟสายน้อยคอยรับส่งฝ่าทุ่งดงเลียบเดินริมเนินผา
ผู้ที่ไปได้กุศลผลบูชาทั้งได้ค่าบันเทิงสำเริงรมย์
ไปเที่ยวเขาเข้าถ้ำดูน้ำบ่อได้เคลียคลอรวยรินชื่นกลิ่นฉม
ซื้อของลาวชาวต้องสู้เที่ยวดูชมขอบรมบูราณตระการครัน
ถึงบ้านหมอหมอยาหรือผ่าตัดช่วยกำจัดเชื้อโรคโศกกระศัลย์
ให้สูญหายได้สนิทไม่ติดพันไม่เห็นชั้นหมอกล้ามารับรอง
ไม่มีหมอท้อจิตคิดวิตกโอ้เอ๋ยอกเราเห็นต้องเป็นหนอง
เพราะโรครักหมักหมมระทมมองหมดทางช่องเยียวยารักษาเลย
ถึงหนองโดนโดนอีกตั้งกระมังนี่โดนแต่ที่ทุกข์ซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
มาจ่อตาว่าวุ่นดังคุ้นเคยพลางเมินเฉยชมตลาดสะอาดตา
มีโรงพักตำรวจตรวจผิดจับคอยระงับความทุกข์เป็นสุขา
ตามแผ่นดินราบรื่นล้วนพื้นนามีมรรคาไปถึงซึ่งคีรี
ใกล้มณฑปบริสุทธิ์พุทธบาทประชาราษฎร์ครึกครื้นในพื้นที่
ความเจริญเดินถึงพนาลีก็เพราะมีน้ำใช้ไม่กันดาร
ที่แห่งใดไร้น้ำสำคัญมากเจริญยากขัดสนผลอาหาร
ถ้ามีห้วยน้ำหนองคลองลำธารอาจตั้งบ้านตั้งหน้าการหากิน
ถึงบ้านกลับคิดใคร่กลับไปบ้านเคยสำราญสถิตนิจศีล
มานั่งเมื่อยเหนื่อยตาดูป่าดินกว่าถึงถิ่นกำหนดรันทดใจ
ถึงป่าหวายหวายเหนียวเป็นเกลียวเชือกมีแ...อกเหนียวแน่นแค่นไม่ไหว(ต้นฉบับขาดหายไป)
ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ใดมีเงินไม่มีโชคแก่โลกเอย
ที่เหลือล้นขนเข้าไว้ไม่จ่ายแจกตายจะแบกเอาไปได้ไฉนเอ๋ย
คิดบางคนจนยากอ้าปากเงยกินน้ำเคยนุ่งห่มโสมมมอม
ควรเมตตาการุณย์เจือจุนบ้างพอประทังร่างกายที่ผ่ายผอม
เหมือนช่วยคนเรือล่มระทมงอมกุศลย่อมจะได้หลายประการ
มาถึงลพบุรีทวีเศร้าเห็นซากเก่าปรางค์ปราสาทราชฐาน
สร้างลำดับนับกษัตริย์หลายรัชกาลเป็นบูราณนานครันกว่าพันปี
เดิมพระยากาวัณดิศราชให้พราหมณ์อำมาตย์มาสร้างถางถิ่นที่
ตั้งปราสาทราชวังทั้งมณฑีร์สิบเก้าปีพร้อมพรั่งทั้งอาราม
เมื่อพุทธศกดกพันเศษสองส่วนจุลสิบถ้วนระกาภาษาสยาม
เรียกว่าเมืองละโว้โสภณนามพันสี่สิบสามบรรจุธาตุพระศาสดา
จุลมีสี่สิบสองในปีเถาะอันงามเหมาะชูชาติศาสนา
ได้สองพรรษกษัตริย์ก็มรณาครั้นต่อมาพระยาศรีธรรมไตร
ปิฎกองค์ทรงภิเศกเจ้าไกรสรณ์ครองนครละโว้อันโตใหญ่
แล้วก็มาพระยาจันทปโชติไซร้ต่อมานัยจะสูญสิ้นบุญญา
ภายหลังจึงพระนารายณ์มหาราชโปรดประพาสเมืองละโว้อันโอ่อ่า
ให้สร้างซ่อมพร้อมหมดรจนาเปลี่ยนนามว่าลพบุรีที่ยิ่งยง
พระเดชาอำนาจราชประวัติสารพัดสมพระราชประสงค์
พอประชวรควรหรือหมดเดชยศลงเป็นน่าสงสารเหตุสังเวชใจ
ต้องกำจัดตัดอำนาจราชศักดิ์ไม่ปกปักษ์ข้าหลวงทั้งปวงได้
ทรงสลดรันทดพระราชหฤทัยเอาธงชัยอรหันต์กันผดุง
ทรงอุทิศปรางค์ปราสาทราชมณฑีร์ให้เป็นที่สีมาเขตวิสุง
บวชเสวกสามสิบสองปองบำรุงได้สมมุ่งทุกคนพ้นไพรี
ยังเหลือแต่พระปิยะไม่ละราชฉลองพระบาทบงกชบทศรี
กตัญญูรู้กตเวทีพวกไพรีผลักตกฟกบรรลัย
เป็นกษัตริย์ขัตติยามหาเดชต่างประเทศทั้งหลายไม่กรายใกล้
แต่เกิดมีศัตรูอยู่ภายในกระทำให้ราชอำนาจถึงขาดลอย
พิโรธล้ำดำรงองค์พระแสงจะตัดแล่งกบฏให้ถดถอย
ไม่สมหวังด้วยกำลังพระองค์น้อยวาโยพลอยพาท่านสวรรคต
ปลูกไม้ใหญ่ใกล้เรือนเหมือนเช่นว่าทับเคหาพังทลายกระจายหมด
ขับขี่ม้าตัวดีมีพยศแต่ว่าหมดกำลังจะรั้งไว้
ลพบุรีมีตำนานหลายท่านสร้างแต่ก็ร้างแล้วกลับต่อก่อสร้างใหม่
เป็นหลายครั้งหลายคราน่าอาลัยขอจงให้มีผู้สร้างอย่างร้างเลย
ข้างขวามือมีศาลพระกาฬสูงมีพวกฝูงลิงไพรอาศัยเฉย
ตามต้นไม้ใหญ่น้อยคอยก้มเงยคนที่เคยขึ้นไปไหว้พระกาฬ
ให้ขนมส้มกล้วยรวยกินเสมอถ้าใครเผลอไม่ได้ให้อาหาร
เข้าแย่งของจากกายหลายประการแล้วทะยานเอาไปทิ้งไว้กิ่งไม้
ต้องนำกล้วยอ้อยไปวางพลางเรียกหาเอาคืนมาเถิดเจ้าเราเปลี่ยนให้
รู้เหมือนคนเอามาวางอย่างเห็นใจรวบของไปกินพลางยื่นคางชู
บางทีขึ้นรถไฟไปเที่ยวป่านั่งหลังคาเต็มหมดไม่หดหู
คนไล่ขับกลับคะนองจ้องตาดูตะคอกขู่เลิกคิ้วพลิ้วร่างกาย
พอรถหยุดสถานีที่ประสงค์ก็เผ่นลงจากหลังคาเข้าป่าหาย
เที่ยวเสียสองสามคืนชื่นสบายแล้วก็ผายมาคอยท่าสถานี
พอรถไฟใช้จักรมาพักหยุดต่างรีบรุดขึ้นหลังคาไม่ล่าหนี
กลับยังที่เคยอยู่ลพบุรีสัตว์ยังมีใจสมัครรักถิ่นครอง
เราเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐรักชาติเถิดบำรุงไว้อย่าให้หมอง
จงร่วมใจร่วมจิตคิดปรองดองอย่าคอยมองผิดกันฉะนั้นเลย
ถึงตำบลโคกกระเทียมเรียมวิโยคมาพบโคกกระเทียมซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
หวนสะท้อนร้อนใจไม่เสบยจำแลเชยชมอื่นให้คืนคลาย
เห็นสีดินดำคล้ำดังหมึกมีไพรพฤกษ์ทัศนาภูผาหลาย
เป็นแนวทิววิเวกเทียมเมฆพรายจดสุดสายเนตรไม่หมดบรรพตเวียน
ถึงหนองเต่าเท้าสั้นกระนั้นเต่าแข่งเอาเจ้ากระต่ายแพ้พ่ายเลี่ยน
ถือขายาวก้าวไวไปจวนเจียนแต่เต่าเพียรเดินไม่หย่อนถึงก่อนพลัน
ความเพียรดีมีตำราว่าไว้มากแต่มิอยากทำตามเป็นความขัน
ไม่เพียรหาเพียรแต่จ่ายทุกรายวันจะป้องกันความจนได้กลใด
ถึงทรายขาวขาวหรือดำในน้ำจิตสุดที่จะพิศให้แจ้งแถลงไข
ที่ใจดำอำมหิตยิ่งพิษไฟภายนอกใสขาวช่วงหลอกปวงชน
ที่ภายนอกมัวคล้ำแต่น้ำจิตขาวสนิทใจฉ่ำดังน้ำฝน
เห็นใครมีทุกข์ร้อนช่วยผ่อนปรนถ้าดูคนดูแต่ผิวมักพลิ้วแพลง
ถึงบ้านหมี่มี่ก้องมองระเหิดเขาระเบิดภูผามาเป็นแผง
เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนแรงเอาเหล็กแทงพะเนินดอกออกกระจาย
ที่เป็นก้อนคอนขนขึ้นบนรถทำมีหมดทุกขนาดตามมาดหมาย
พ่วงรถไฟยาวยืดไม่ฝืดคลายส่งไปขายตามระยะพระนคร
เขามีเพียรไม่น้อยขุดต่อยหินเราขุดดินง่ายง่ายไม่สังหรณ์
ร้องลำบากยากเหนื่อยเมื่อยบาทกรจะนั่งนอนคอยท่าเวลาตาย
ศิลาแข็งแกร่งกล้าหนาแน่นสุดเขายังอุตส่าห์ทยอยงัดต่อยขาย
หวังได้เงินมาบำรุงผดุงกายให้สบายพูนสวัสดิ์วัฒนา
ถึงห้วยแก้วเงินหรือคือเหมือนแก้วถ้ามีแล้วก็อาจปรารถนา
นึกสิ่งใดได้สิ่งนั้นทันวิญญาณ์เขาบูชาเงินกันทุกวันมี
จะเลวทรามต่ำช้าถ้ามีทรัพย์เขามักนับว่าเลิศประเสริฐศรี
ที่ยากจนข้นแค้นถึงแสนดีเขาไม่ชี้เชิดชมนิยมยิน
ถึงจันเสนชื่อแฝงจันแดงแน่เป็นยาแก้โรคภัยได้ทั้งสิ้น
กล่าวกันว่าถ้าใครได้ไปกินจะมีอินทรีย์อ้วนเป็นนวลแดง
ไม่รู้แก่รู้ป่วยสวยเสมอหาไม่เจอกันสักคราเป็นน่าแหนง
ถ้าฉันพบจะผจญขนเต็มแรงเอามาแบ่งให้ทุกคนได้ฝนกิน
ไม่เจ็บป่วยสวยแท้ไม่แก่เฒ่ามนุษย์เราก็จะสมอารมณ์ถวิล
จะมีสุขสำราญปานเมืองอินทร์จะแสนยินดีตัวทั่วทุกมวล
ถึงช่องแคแลบุกค้นทุกช่องไม่เห็นร่องรอยใดฤทัยหวน
รถสะท้อนร้อนอบนั่งซบซวนยิ่งเรรวนใจหวามมาตามทาง
ถึงตำบลบ้านตาคลีนี้ประหลาดแผ่นดินดาดแดงทั่วไม่มัวหมาง
พฤกษาเขียวเกลียวกลมสมสำอางถึงห้วยหวายดินก็อย่างแดงต่างกัน
สีชมพูดูงามอร่ามฉายบ้านหนองโพธิดินก็คล้ายกับที่นั่น
แต่แดงสีมีคล้ำเป็นสำคัญบ้านหัวงิ้วก็เช่นนั้นช่างขันจริง
สี่ตำบลนี้กระมังครั้งพระรถฆ่ารากษสตัดแล่งเป็นแง่งขิง
ว่าเลือดนองพสุธาน่าประวิงมาเห็นสิ่งสีดินให้กินใจ
มาถึงบ้านมะกอกยิ่งชอกช้ำดังใครนำกรดมากรอกทุกซอกใส่
ปวดระทมโทมนัสดวงฤทัยโอ้เวรใดแน่หนอมาทรมาน
มาถึงบ้านเขาทองมองดูถิ่นเป็นเนินดินเหลืองแดงแข่งขนาน
รถไฟไปกลางเนินเหินทะยานถึงสถานอ่างหินดินธรรมดา
เถาวัลย์วกกกพันวรรณพฤกษ์เป็นเซิงซึกซึ้งไปไกลหนักหนา
ทั้งสองข้างป่าชัฏริมรัถยาสกุณาเคียงคลอกันจอแจ
เหมือนจะทักถามเราเจียวเจ้านกพลอยวิตกเห็นเรานั่งเศร้าแน่
โอปักษียังมีแก่ใจแท้มนุษย์แชเชือนชาไม่การุณย์
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

รถไฟไทยดอทคอม [1]

เครื่องมือส่วนตัว