นิราศวังบางยี่ขัน

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == หมวดหมู่:วรรณคดีไทย [[หมวดหมู่…')

รุ่นปัจจุบันของ 16:38, 29 กรกฎาคม 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

ผู้แต่ง: คุณพุ่ม

คุณพุ่มแต่งเรื่องตามเสด็จพระองค์เจ้านารีรัตนาไปเยี่ยมพระญาติ

เมื่อปีมเสง พ.ศ. ๒๔๑๒

บทประพันธ์

๏ สิบเอ็จพุธอุตราเวลาสาย
แสนอาดูรทูลลาเยี่ยมน้าชายกับพระสายสุดกระษัตริย์รัตนา[1]
หลานสาวเจ้าประทุม[2]คุมไปด้วยดูสะสวยส่างสดซึ่งยศถา
แต่คุณจอม[3]ตรอมกรมอารมณ์อุราไม่ผัดหน้าผิวเนื้อเธอเหลือนวล
ยังงามงดชดช้อยนั้นน้อยฤๅสมเขาฦๅว่าเปนองค์ทรงสงวน
ที่ปราโมทย์โปรดปรานการก็ควรแบบกระบวนบทบาทเยื้องยาตรา
ลงจากตึกคึกคักสพรักพร้อมข้าหลวงล้อมหลายหลากมากนักหนา
แต่แม่จันกั้นพระกลดดูหมดตาคุณมารดาเดินสลับลำดับกัน
โอ้เอ็นดูหนูอ่อนสมรพี่ห่มแพรสีนวลสมดูคมสัน
เหมือนลูกวัวอั้วเอี้ยตั้วเตี้ยครันทุกสิ่งสรรพ์สั้นสิ้นทั้งอินทรีย์
เลยลีลามาถึงน่าปราสาทรัตน์เธอทอดทัศนาทางหว่างวิถี
เขาขายของสองฟากล้วนมากมีดูคุณขี้เกียจแท้ไม่แลเลย
หยุดบังคมพระบรมโกษฐ์รัตน์[4]โทมนัศนึกมานิจจาเอ๋ย
สิ้นพระเดชเขตรยศสลดเลยเหลือจะเงยภักตราลงมาแพ ฯ
๏ เห็นเก๋งทองของประทานมีม่านกั้นสอื้นอั้นโอ้อายสายกระแส
ยศมนุษย์สุดคะเนปรวนเปรแปรมันไม่แน่นิ่งอยู่กับผู้ใด
เลยลงเรือเหลืออุระมะนะนิ่งเฝ้าแต่หมองตรองกริ่งประวิงไหว
สุดจะอ้อนวอนหวังไปสั่งใครให้แจ้งใจเหมือนจิตรที่คิดปอง
นาวาล่วงทรวงเสียวเหลียวเหลียวหลังแลดูวังสังเกตเทวศหมอง
นิจาเอ๋ยเคยเปนข้าฝ่าลอองอำไพผ่องเพียงเดือนบนเรือนรถ
สิ้นพระชนม์ล้นกระหม่อมจอมกระษัตริย์เคยเปรมปราสาระพัดวิบัติหมด
แต่ก่อนเอ๋ยเคยมีอิศริยศเดี๋ยวนี้ลดลับเลือนเหมือนเดือนดาว
ถึงโรงเรือเรือที่นั่งยังประทับโอ้แลลับเห็นแต่แม่สาว ๆ
ต้องแรมร้างจางจืดไม่ยืดยาวแต่เมื่อช้าวยังพบไม่หลบตา
ถึงท่าขุนนางวังเวงวิเวกจิตรคงจะคิดถึงพระเดชเทวศหา
เคยเฝ้ารับสั่งถามความสุธาเดี๋ยวนี้มาเฝ้าพระโกษฐ์ไม่โปรดปราน
แต่พระจอมกระษัตราจุฬาเลิศเหมือนแก้วเกิดกลางฟ้าเวหาหาญ
ได้สืบวงศ์ทรงแดนแสนศฤงคารจึงสำราญร่มเกล้าทุกเช้าเย็น
ถึงท่าพระปะบ้านสถานถิ่น[5]ยิ่งถวิลหวั่นใจมิได้เห็น
สวาดิแสวงแฝงชีวิตมามิดเม้นเปนรักเร้นรักร้างจึงจางจร
จะคงสัตย์ฤๅจะปัดขี้ปดปิดฤๅจะคิดลายลักษณอักษร
เห็นบ้านเรือนเตือนใจอาไลยกลอนปานนี้นอนอยู่ที่หอแล้วหนอจ๊ะ
ฝีพายจ้วงล่วงแลชำเลืองเหลียวในทรวงเสียวเสียวเศร้าเปล่าอุระ
ดูวัดระฆังฝั่งซ้ายรายระยะขอคุณพระพุทธรูปสถูปรัตน์
เปนที่พึ่งพึ่งซึ่งภัยในมนุษย์หนึ่งสิ่งสุดเสนหารักษาสัตย์
ที่ทรวงซื่อถือธรรมน้ำพิพัฒน์โสมนัศสนิทนาถราชการ
หมายเปนหนึ่งพึ่งเขตรพระเดชเสด็จเปนสิ้นเสร็จครองสัตย์อัธิฐาน
ขอเปนข้ากว่าจะถึงซึ่งนิพพานไม่โปรดปรานเปรียบเปนเพียงเอ็นดู
นี่เปนข้ามาพึ่งแต่ครึ่งชาติแรมนิราศร้างรศโอ้อดสู
เหมือนสระสุทธิ์บุษบงทรงเรณูไร้ที่ผู้รักษาพยาบาล
ยิ่งเปล่าเปลี่ยวเหลียวหลังดูฝั่งขวาองค์รัตนาบานเบิกให้เลิกม่าน
เห็นวังกรมราชสีห์ที่นิพพานแสนสงสารพงศ์กระษัตริย์วิบัติเปน
ประชวรจับกลับหายก็หลายหนนี่เนื้อผลเวรกรรมมาทำเข็ญ
จับไข้หนาวคราวนี้ท่านหนีเร้นคืนไปเปนกรมชั่งทำวังเวียง
อยู่สวรรค์ชั้นสุดถึงดุสิตสูพระวิศนุวาดไม่อาจเถียง
คอยพระจอมเกษกระษัตริย์จำรัสเรียงเปนแท้เที่ยงท่าทางเหมือนอย่างคิด
รักษาพระองค์ทรงเดชเกษสยามเสด็จไหนไม่ขามสู้ตามติด
ทราบว่าพระภูวนาถบาทบพิตรเสด็จดุสิตก็อุส่าห์คลาศคลาไคล
คอยคำนับรับเสด็จเสร็จประทะไปสร้างพระปรางทองอันผ่องใส
ทิ้งคุณน้อยสร้อยเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจให้ร้องไห้โหยหาทุกราตรี
เคยเปรื่องโปรดโสดทรวงจะง่วงเหงาแต่ลูกเต้าเล่ายังอยู่กะจู๋กะจี๋
ค่อยสบายคลายคลั่งเพราะมั่งมีไม่เหมือนพี่คุณพุ่มซุ่มซุกซน[6]
พ่อแม่น้ายายตายเหมือนถั่วยังแต่ตัวเต็มทีออกปี้ป่น
มายอมยากฝากชีวิตด้วยฤทธิจนอยู่เปนคนชิดใช้หมั่นไปมา
พอฝีพายท้ายประจำลำที่นั่งทรงกำลังยาวโยนบโทนขวา
แลตลิ่งวิงเวียนเปลี่ยนตาคุณให้รารอรั้งจะนั่งดู
ด้วยรุ่นสาวคราวมาเปนข้าบาทได้รับราชการเสีจเสด็จอยู่
ไม่อาจทูลลาเลยไม่เคยดูเห็นคนผู้แซกซอกชาวนอกวัง
จึงให้รอพอแลกระแสสายเบิกสบายเบาร้อนอาวรณ์หวัง
ถึงโรงสีมีกระท่อมล้อมรุงรังแกลบริมฝั่งรำฟุ้งกระบุงกระบาย
ไม่น่าดูสูสีมีแต่แขกเอาบ่าแบกฟืนตองมากองขาย
นึกสะเทินเมินหน้าระอาอายชำเลืองชายชมวัดมัสการ
ถิ่นสุธาหน้าพระธาตุอาวาสนิเวศน์ของปิ่นเกษกระษัตราสุธาสถาน
ทรงสะสางสร้างสมมานมนานตั้งแต่ผ่านภพประเทศธเรศตรี
บรมนารถบาทบัณฑูณจำรูญจำรัสครองสมบัติบำรุงซึ่งกรุงศรี
ทรงปราโมทย์โปรดจัดสร้างวัดนี้เดิมชื่อศรีสารเพชญ์มีเม็ดพราย
ด้วยตาสีตาสากับตาเพ็ชมั่งมีเม็ดเข้ากล้าทำนาขาย
ได้เงินเฝือเหลือหลามทั้งสามนายสร้างถวายสังกาศอาวาสวง
จึงให้นามสามนายหมายฉนี้ชื่อพระศรีสารเพ็ชญ์เสร็จประสงค์
พอจอมเกษมงกุฏสมมุติวงศ์เสด็จมาทรงสร้างเมืองเรืองจำเริญ
ทรงสถาปนาจัดวัดพระศรีให้งามดีโดนดังสั่งรเสริญ
เอาบรมธาตุธรรมนำดำเนินประชุมเชิญไว้ในโบถสาโรชราย
ก่อสถูปทำปฐมบรมธาตุสามขนาดตวงทนานประมาณหมาย
พระเจดีย์นี้ประดับสลับลายทรงสร้อยสายตาบทิศแล้วปิดทอง
มีรูปพระสาวกหกสิบห้าที่ตรงฝาผนังในไม้สิบสอง
ทราบกำหนดจดถ้อยริร้อยกรองฉล่ำฉลองเฉลิมวัดโดยศรัทธา
บรรดาสงฆ์วงจังหวัดวัดพระธาตุล้วนฉลาดเหลือดีที่มหา
เพราะบารมีของพระศรีศาสดาคือมหาธาตุสุคตกำหนดนาม
ได้แลเห็นเปนสุขลืมทุกข์ทับจะเลยลับล่วงไปให้ไหวหวาม
ถึงกระทั่งวังน่าสง่างามเรืองอร่ามบริรักษ์ตำหนักแพ
กำปั่นทอดจอดประทับไว้กับท่าทัศนาในระหว่างกลางกระแส
คนนั่งเล่นเปนหมู่อยู่ที่แพเราแลแลไม่รู้จักไม่ทักทาย
โอ้คิดบุญคุณตึกอยู่คึกคักเคยเอ็นดูรู้จักสมัคหมาย
ไม่เหมือนมาดคลาศคลาชีวาวายท่านตรอมกรมล้มตายเสียหลายปี
เมื่ออยู่เอ๋ยเคยไปวังบางยี่ขันพอแม่พันมาประนตบทศรี
ได้รู้จักภักตราพูดท่าทีเห็นคุณพี่พุ่มภักตร์ก็รักแทน
จะทำนุอุปฐากช่วยลากถูคิดคิดดูอยู่ข้างเบื่อนั้นเหลือแสน
ใช้ปัญญาน่าหัวร่อเหมือนต่อแตนไม่เหมือนแทนคุณคอยจะต่อยตอม
คิดเหมือนเบ่าเก่าแก่แต่ปัจฉิมรักคุณอิ่มสุดแสนแทนถนอม
เห็นยากเย็นเปนทุกข์คะมุกคะมอมจะซูบผอมอย่างประมาณให้ทานกิน
กลับอิดเอื้อนเลื่อนหลบเหมือนกบเขียดไม่บังเบียดใบอุบลทนถวิล
เฝ้าชื่นเช่นเผ่นโผนในโคลนดินรังเกียจกลิ่นกุสุมาระอาอาย
ถึงคลองหลอดสอดเนตรสังเกตโฉมสู้ถาโถมทอดเทเสน่ห์หมาย
ไม่ทิ้งทอดลอดเล็ดไปเด็ดดายขอเปนด้ายกับหลอดกอดกันกลม
อย่าเหนี่ยวเหน็บเก็บตะกอไปทอหูกไม่หวังผูกพันสายหมายประสม
จะพึ่งหลอดกอดสัตย์พิกัดกลมมิขอชมเชยกี่มีตะกอ
ถึงบ้านท่านพระยาอินทราเก่าดูหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวจริงเจียวหนอ
แต่ยี่โถโอ้อกช่างดกพอบานเปนหมู่ชูช่ออรชร
๏ เขาข้ามตัดไปวัดประโคนเขตรเห็นนิเวศน์อาวาสขยาดสยอน
เปนเสาหินสิ้นสังเกตเขตรนครวังบวรนิเวศน์ธเรศตรี
โอ้ธานินทร์ถิ่นฐานย่านแม่น้ำยังรู้กำหนดแนวแถววิถี
แต่วิโยคโศกศัลย์ของฉันนี้มิได้มีที่หมดกำหนดเลย
ตั้งแต่หมดพระวสันต์สวรรคตเฝ้ารันทดทุกทิวานิจาเอ๋ย
ไม่ส่างเสื่อมสิ่งเศร้าเบาเสบยเมื่อไรเลยจึงจะส่างสว่างทรวง
แลดูไหนก็ไม่เพลินต้องเมินหน้าที่ทูลลาเหลือกำลังอยู่วังหลวง
ไม่ให้ส่างโศกเสริมกลับเติมตวงไม่วายห่วงโหยไห้อาไลยอาวรณ์
อยากแบ่งปันคั่นเขตรเทวศถวิลเหมือนเสาหินเขตรปักลงอ้กษร
ที่โศกศุขทุกข์ประทะอุระสะท้อนให้เปนตอนเหมือนตัดวัดประโคน
ดูเรือแพแลหลายจอดท้ายวัดเขาขายพัดจัดวางกระถางกระโถน
ตะลุ่มโอโถตลับมีดพับมีดโกนบ้างขายโทนโอ่โถงโรงลคร
แลตลิ่งมิ่งไม้ใบชะอุ่มอัมพาพุ่มออกพวงร่วงสลอน
ชมพู่ดกนกกาพากันจรมาเวียนว่อนบินวนตอมต้นไม้
เห็นโศกออกดอกโศกโบกสะบัดพระพายพัดพากิ่งประวิงไหว
แต่โศกทรวงดวงจิตรนี้ผิดใจลมช่างไม่พัดพานสงสารทรวง
โอ้โศกออกดอกงามเมื่อยามโศกแต่ลมโลกโบกโบยก็โรยร่วง
อันโศกในใจเราโศกเศร้าทรวงถ้าลมดวงใจจัดช่วยพัดพาน
คงจะโรขโดยรศพจนพร้องให้หายตรองเกรียมตรมเพราะลมหวาน
เพี้ยงเอ๋ยเพี้ยงเสี่ยงสัตย์ช่วยพัดพานที่พจมานให้แม่เหมนหล่อนเห็นจริง
๏ ถึงคลองขวางบางลำภูอยู่ข้างขวาโทมนัศทัศนาประสาหญิง
มีป้อมใหญ่ใส่ปืนคอยยืนยิงแลตลิ่งเห็นตลอดน้ำขอดคลอง
โอ้วารียังรู้มีเวลาว่างนิราศร้างแรมทิ้งตลิ่งหมอง
รู้คลาศเคลื่อนเลื่อนลดไปหมดคลองดูทำนองเหมือนในน้ำใจคน
เมื่อคราวดีมีผู้มาสู่หาหมายพึ่งพาผูกรักเปนพักผล
พอถอยยศลดลับฤๅอับจนไม่เห็นคนใครทักรู้จักเลย
โอ้ยามเข็ญเห็นหน้าคุณป้าพุ่มมาซ่อนซุ่มซอมซ่อฉลอเฉลย
ช่วยชักชอบขอบคุณเหมือนคุ้นเคยฟังภิเปรยชูชื่นทุกคืนวัน
ถึงคลองย่านบ้านพระยามหาเทพเขาสมเสพเรียกทางบางยี่ขัน
ยังไม่ถึงบ้านลาวชาวเวียงจันท์ให้หวั่นหวั่นถึงวังนั่งคนึง
ปานฉนี้นี่นะจะไฉนใจเอ๋ยใจเฝ้าแต่นึกรำฦกถึง
แล้วปรารถทบทวนไม่ควรคนึงเราตั้งปึ่งทำเปนเหมือนเช่นนาย
มาลักลอบชอบพอก็ล้อเล่นที่จะเปนแน่หนึ่งอย่าพึงหมาย
แต่น้ำยังหลั่งไหลได้ใต้ทรายเดือนยังหงายกลางป่าลับตาคน
เหมือนพิกุลฉุนชื่นระรื่นรศก็ปรากฏเกสราบุบผาผล
เมื่อบานกลีบจีบจัดระบัดบนโดยจะหล่นจากก้านการพิกุล
ถึงเหี่ยวแห้งแสงสายอย่าหมายหมดคงหอมรศรวยรินทรงกลิ่นฉุน
ฉลาดลึกนึกเล่นเช่นพิกุลถึงหอมฉุนชื่นจิตรไม่ติดแพร
มิใช่ดอกมลิลาฤๅกาหลงจะได้จงเจือประจำแพรดำแส
พอเรือเคลื่อนเลื่อนมาถึงน่าแพตะลึงแลดูแม่น้ำลำชลา
ลูกละลอกกลอกกลิ้งเปนเกลียวคลื่น เหมือนสอื้นอาไลยโหยไห้หา
แต่ล่วงลับดับพระชนมาโอ้น้ำตาตวงขันทุกวันคืน
จะคะเนชลไนยที่ไหลเลื่อนตั้งแต่เดือนออกพรรษาเฝ้าฝ่าฝืน
วิโยคยิ่งสิ่งสรรพ์สู้กลั้นกลืนดูดังคลื่นคลาคล่ำลำชลา
๏ พอถึงบ้านตะพานพักนึกหนักจิตรโอ้อนิจคิดอนาถวาสนา
ฝีพายทวนเรือประทับกลับนาวาจอดที่ท่าน่าจวนฉนวนใน
พวกข้าหลวงล่วงลีลาลงมานั่งดูสะพรั่งพร้อมเหล่าสาวไสว
เชิญเครื่องอานพานทองสำรองไว้พระองค์ใหญ่ยิ่งกระษัตริย์รัตนา
แม่พี่เลี้ยงเคียงคำนับรับเสด็จทรงหมวกเพ็ชร์พรรณรายลายเลขา
ฉลององค์ทรงประจำธรรมดาหนูแย้มมากั้นพระกลดบทจร
คุณจอมเดินเขินขวยระทวยทอดดูงามยอดยิ่งทรงองค์อัปษร
แล้วคุณน้องสองนาฏลีลาศจรสลับสลอนหลานสาวทั้งเจ้าอา
พวกที่วังบางยี่ขันพันธุ์พระญาติ[7]มาดาดาษรับเสด็จโดยประสา
ก็เซ็งแซ่แม่ข้าหลวงล่วงลีลาทนายจ่าแจ่มตามงามกระทรวง
โอ้คิดครั้งยังมีพระชนมาศแม้จะออกนอกพระราชวังหลวง
มีทหารแห่เห็นดูเด่นดวงได้โชติช่วงชูพระเดชกระเษตรา
อันแผ่นดินสิ้นยศลดไสลไม่ทันไรมานิราศวาสนา
เหลือจะคาดพลาดไพล่เหมือนไปมาโอ้ชตาตกอับไม่รับยอ
เลยลีลามาที่เรือนประทับต่างต้อนรับวงศ์วารคลานออกสอ
เธอกราบกรานมารดาน้ำตาคลอคนไข้พอเห็นภักตร์ก็ทักทาย[8]
เชิญเสด็จพระองค์ใหญ่นั้นไปนั่งบนเตียงตั้งตามยศกำหนดถวาย
เปนชื่นในไข้หนักก็หักคลายเหมือนจะหายนั่งลุกเจ้ามุกดา
ต่างปราไสไต่ถามเมื่อยามปะวิสสาสะสรวลสันต์แสนหรรษา
เจ้าแม่แก้วเข้าไปรื้อหนังสือตราที่ฝากมามีเรื่องเมืองอุบล
ส่งให้คุณจอมอ่านสารอักษรว่าอวยพรภูลเพิ่มเฉลิมผล
ได้ทราบเกล้าเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์พี่[9]ทุกข์ทนถึงขนิษฐ์คิดคนึง
สั่งสนองสองพระหน่อวรนุชลุงนี้สุดที่จะนึกรำฦกถึง
จงเจียมองค์ทรงตรึกให้ฦกซึ้งขาดที่พึ่งโพธิ์ทองของสำคัญ
จงฝากกายในพระสายกระษัตริย์หญิงองค์ใหญ่ยิ่งอย่าได้คิดให้ผิดผัน
ซึ่งน้องเขียนเลขาขึ้นมานั้นจะให้ฉันไปคำนับสดัปกรณ์
จะลงมาหาของสำรองสำเร็จทุกสิ่งเสร็จส่วยสาแพรผ้าผ่อน
เกณฑ์พวกไพร่ให้ทราบช่วยหาบคอนอ้ายชาวดอนแดนไพรมันไม่มา
ว่าอุปฮาดราชวงศ์เจาะจงห้ามไม่ให้ตามคำถ้อยของข้อยว่า
ว่าต้องถอดจากที่ไม่มีตราเธอพูดจาเอาแต่ใจแสร้งใส่ความ
จึงต้องรอข้อนี้เต็มวิตกพอแรมหกค่ำวันจันทร์เดือนสาม
คาดคะเนเวลานั้นกว่ายามเรามานั่งฟังความอยู่หอกลาง
มีผู้มามองยืนยิงปืนไฟผิดพี่ไปถูกเตียงเสียงดังผาง
ออกไปจับกับเบ่าเหล่าขุนนางมันวิ่งวางว่องไวไปไม่ทัน
ก็ตรองหาสาเหตุสังเกตภักตร์เหมือนเงาตักน้ำใส่ไว้ในขัน
จะลงมาเฝ้าพระศพปรารภครันกลัวพวกมันตามตัดสะกัดทาง
จึงเขียนสั่งหนังสือหารือถึงเจ้าน้าพึ่งไปปฤกษาท่านหาล่าง
เรียนเจ้าคุณภูธรา[10]พระยาจางวางให้กระจ่างแจ้งคดีของพี่ชาย
คุณในวังฟังสารอ่านหนังสือที่หารือร่ำไรจิตรใจหาย
สุชลนองตรองการสงสารกายที่กลับกลายเกิดเข็ญไปเช่นนี้
สิ้นพระชนม์ล้นกระหม่อมจอมกระษัตริย์สาระพัดยับย่อยไปร้อยสี
ดูปรวนแปรแต่หลังไม่ยังนี้เมื่อครั้งมีพระชนม์ผู้คนคร้าม
โอ้สิ้นบุญทูลกระหม่อมจอมพิภพชั้นเขียดกบตุ๊กแกตอแยหยาม
แม้นพระชนมานอยู่ได้รู้ความใครจะห้ามเสียให้ยากคงอยากทูล
นี่เจ็บจิตรต้องเจียมเสงี่ยมสงบดินไม่กลบหน้านามความไม่สูญ
มาพร้อมพงศ์วงศ์สวาดิ์ญาติประยูรที่อาดูโดยคดีต้องปรีดา
แต่เจ้าเมืองมุกดาได้มาปะองค์พระดไนยนาถเสนหา
คือพระสายสุดกระษัตริย์รัตนาเปนนัดดาเนื้อนพคุณนาม
เฉลิมวงศ์เวียงจันท์โดยอันดับสืบสลับในจังหวัดกระษัตริย์สยาม
พระน้องน้อยนงนุชนั้นสุดงามทรงพระนามประดิษฐาสร้อยสารี
มิได้ตามบาทบงสุ์พระองค์ใหญ่เสร็จอยู่ในตึกตําหนักเปนศักดิ์ศรี
ได้มาชมสมถวิลก็ยินดีจดบาญชีชื่อเสียงชาวเวียงวง
เมื่อเดิมทีมีบุญสกุลสูงกลายเปนยูงแล้วขยับกลับเปนหงส์
อันชาวศรีสัตนหุตสมมุติพงศ์ร่วมพระวงศ์สมเด็จฟ้ามาลากร
คือกรมขุนบําราบปรปักษ์เฉลิมหลักโมลิตอดิศร
เปนวงศ์เวียงเรียงลําดับไม่ซับซ้อนกับสมรเสมอทรวงแม่ดวงคํา
แลนับเนื่องเบื้องยุคลกุณฑลฟ้าวงศ์จังหวัดสัตนาเลขาขํา
เจ้ามุกดามาจําเภาะคราวเคราะห์กรรมป่วยประจําจึงบอกคุณออกมา
เจ้าแม่แก้วแววเวียนวิเชียรโฉมเกษมโสมสรวลสันต์แสนหรรษา
เจ้าลุงจอมพร้อมภักตร์รักนัดดาเชิญลงมาชมสวนชวนคุณดวง
ไปพลับพลาท่าพักตำหนักห้างพร้อมสุรางค์เรียงหน้าพวกข้าหลวง
ทั้งองค์อาวเจ้าประทุมโกสุมภ์ทรวงเธอชื่นช่วงชวนเชิญเที่ยวเดินชม
โสมนัศทัศนาพฤกษาสวนที่หลังจวนรกร้างที่สร้างสม
ต้นมะดูกลูกจันทน์กับลั่นทมยอมะยมฝาหรั่งกระดังงา
ดูรกเรี้ยวเกี่ยวพันเถาวัลย์วุ่นเกดพิกุลเลียบอุโลกโศกสาขา
ทุกพุ่มพักหักพังเปนรังกาเมื่อเจ้าตาย่านกระหม่อมอยู่พร้อมพรัก
ก็บริบูรณ์ภูลผลมีคนผู้รักษาอยู่ห้ามไม่ให้ผู้ใดหัก
สิ้นสงวนสวนรกไม่น่ารักกำแพงหักหอห้างก็ร้างโรย
นึกอนาถวาศนาไม่น่าชื่นไม่ยืดยืนยศอย่างที่ห่างโหย
หมดบุรินทร์สิ้นสูญอาดูรโดยเวียงจันท์โรยร้างราเปนป่าไป
บ้านที่สร้างบางยี่ขันท่านมาพักตึกตำหนักหักตกถึงอกไก่
นี่แอบอิงพิงประเดชประเทศไทยยังเปนได้ดูดู๋พังถึงหลังคา
ตรงนี้เอ๋ยเคยหม่อมหม่อมมาซ้อมบทร้องเมื่อทศกรรฐ์คลั่งสั่งให้หา
เบญกายปลอมสกนธ์ยลนัดดาเจ้าลงกาเลยพาโลเข้าโอ้โลม
เจ้าประทุมอุ้มองค์ใหญ่พิไรเล่านี่สวนเจ้าเอื้อยที่ตายยายจันโฉม
เคยสนุกศุขสุดกลับซุดโซมคิดแล้วโทมนัศแทนแสนเสียดาย
ยังเหลือต้นผลอินที่ถิ่นสระพอแลปะผลอินถวิลหมาย
คิดแล้วแค้นแสนน่าระอาอายไม่ขอหมายมุ่งปลูกต้นลูกอิน
แต่พฤกษาน่าออกดอกแลผลถ้าร่วงหล่นโรยลงก็ทรงกลิ่น
เว้นแต่ในใจคนชื่อผลอินไม่น่ายินดีต่อขอษมา
ลูกอินต้นผลดกนกมาจับเกิดสำหรับรุกขเรศเหมือนเชษฐา
จิกลูกอินกินอิ่มกริ่มอุราเชยผลาผลปลื้มลืมประทุม
แล้วเลยพาหลานสาวเหล่าข้าหลวงเสียวเสียวทรวงสุดแสนแค้นสุขุม
มาที่สระสาครด้วยร้อนรุมลงแช่ชุ่มชื่นจิตรฤทธิวารี
คุณจอมดวงทรวงดิ้นถวิลไหวร้อนก็ไม่ได้ชำระสรงสระศรี
คิดถึงพี่หนักในฤไทยทวีโอ้ปานนี้จะมินั่งตั้งใจคอย
จะเขียนข่าวตอบสนองก็ข้องขัดไม่สันทัดเชิงลิขิตประดิษฐ์ถ้อย
แสนน้อยจิตรที่ไม่คิดเรียนแต่น้อยถ้าค่อยค่อยโผยกผยอกคงออกเอง
ตั้งแต่นี้จะเพียรเรียนกอขอไม่ของ้อคุณพุ่มให้คุมเหง
คงอ่านได้ใจเราเหล่านักเลงจะทำเพลงยาวหนอไม่ง้อใคร
นี่ต้องวานสารสวาดินิราศร่ำกลอนที่ทำคุณหาถึงสลึงไม่
เธอว่ากล่าวยาวยืดจางจืดใจจะร่ำไปก็เรื่องจะเคืองเรา
แล้วมานั่งยังน่าพลับพลาพร้อมพี่น้องล้อมเรียงกันสิ้นเลยกินเข้า
หมี่หมูแนมแถมส้มตำทำไม่เบาเครื่องเกาเหลาหูฉลามชามโตโต
ที่มาเฝ้าเจ้าน้ามุกดาหารพาสำราญรายรักขึ้นอักโข
ยังวิโยคอยู่ด้วยโรคโรโคดูโศกโซเศร้าซูบเสียรูปทรง
ยังป่วยไข้ไม่คลายเหือดหายหิวดูเผือดผิวผอมผิดด้วยพิษสง
หาหมอมาว่าเปนฝีทวีพะวงบ้างก็ลงว่าเปนกล่อนอ่อนระอา
พอบ่ายร่มลมเชยรำเพยพัดคุณจีดจัดเรือข้ามตามไปหา
นำเอาผู้ที่จะกู้ซึ่งเงินตราเปนนายหน้าจัดทำของกำนัน
กล้วยขนมส้มไข่ของหลายอย่างผลมะปรางแตงไทไปให้ฉัน
เปนข้าไทใส่สารกรมธรรม์ก็ให้ปันเงินกู้จะดูใจ
พวกคนข้าน่าวังบางยี่ขันเอาของกำนันหมากมะพร้าวห้าวไปให้
ผักหัวปลีมีในสวนควรอย่างไรก็เอาไปหาบหามเดินตามกัน
วิไสยลาวจ้าวนายมาถึงที่ย่อมยินดีไปคำนับเหมือนรับขวัญ
จึงรีบรัดจัดทำของกำนันที่สุดชั้นผลฝักเข้าเถาตำลึง
ชั้นแก่เถ้าเอาหน้ามาถวายตะเกียกตะกายกราบกรานคลานจนถึง
เห็นซุ่มซ่ามห้ามฤๅก็ดื้อดึงคงทลึ่งลนลานคลานเข้าไป
แต่กระษัตริย์องค์รัตนาเรศทอดพระเนตรนึกว่าชื่อหาถือไม่
เห็นหมอบดื่นชื่นชอบด้วยขอบใจทรงปราไสยโปรดกระทรวงข้าหลวงลาว
๏ พอบ่ายสี่โมงเศษสังเกตฟ้าพื้นนภาท่าประเทืองเหลืองเขียวขาว
ต้องจำลารารักกันสักคราวพระองค์จ้าวจรจรัลไปวันทา
คมเจ้าแก้วแล้วลาเจ้าตาจ่อมประนมน้อมต่างประนตตามยศถา
มาสยามยามทุกข์เจ้ามุกดาแจกเงินตราแทนถวายหลายตำลึง
แต่จ่าแจ่มเกรงใจต้องให้บาทโขลนขนาดนายรองสองสลึง
แล้วจัดขันเงินงามสิบสามตำลึงสำรับหนึ่งนั้นถวายพระสายใจ
คือองค์รัตนาเรศวิเศษสรรพ์นอกจากนั้นเปนแพนกจัดแจกให้
ต่างภิวันท์คัลลาต่างอาไลยต่างจำใจจำจากไม่อยากมา
สถิตย์เหนือที่นั่งบัลลังก์เก๋งตลึงเลงแลคะเนดูเวหา
พระสุริฉายบ่ายรถสลดลายังรู้รารอรถไม่บทจร
แต่พระจอมสุเมรุมิ่งกระหม่อมเอ๋ยมาละเลยราชกิจอดิศร
ทิ้งสุรางค์ปรางค์มาศราษฎรทิ้งจันทรภานุมาศอาศน์พิมาน
ละพระมูลมนเฑียรเสถียรสถิตย์ราชฤทธิ์รุ่งโรจจรูญสถาน
พระที่นั่งวังวงชื่อนงคราญทิ้งสถานทรงสถิตย์พิพิธภัณฑ์
ไม่เปรมโปรดที่โภชลิลาศละปราสาททองอุไรสุทไธสวรรย์
ทิ้งจังหวัดทัศนาบุบผาพรรณพระอนันตมหาสมาคม
ที่นั่งใหม่ไชยชุมพลเปนเขื่อนเขตรทอดพระเนตรแห่แหนดูแสนสม
ละเจ้าคุณขุนนางทิ้งต่างกรมเสด็จไปชมช่อชั้นสวรรยางค์
แต่ครวญคร่ำช้ำใจมาในเก๋งตลึงเลงแลลำแม่น้ำขวาง
จนถึงวังยังไม่สิ้นถวิลวางมิได้สร่างโศกศัลย์สักวันเลย
๏ คุณดวงคำให้กำหนดจดอักษรจึงคิดกลอนเขียนข้อชลอเฉลย
เฉลิมฉลองพร้องพจน์รศรำเพยเหมือนลมเชยชวยชื่นฟื้นพโยม
นี่แต่งต่อยอยศรศระรื่นหวังชมชื่นชอบจิตรเหมือนพิศโฉม
อันสุนทรกลอนบรรเลงดังเพลงโลมควรจะโสมนัสแสนแทนลคร
ถึงรำเต้นเห็นกายร่ายฤๅเชิดก็ไม่เลิศเหมือนหนึ่งลักษณในอักษร
ได้ระเบียบเรียบรศแบบบทกลอนไว้ให้นอนอ่านแอบแนบอุรา
พระอไภยได้ปี่เปนที่พึ่งค่อยส่างซึ่งโศกสร้อยละห้อยหา
เพราะลูกเต้าเอาธุระนางผกานี่เห็นหน้าเปนแน่ก็แต่เกย
นิราศร้างบางยี่ขันของฉันคิดประจงจิตรจัดจดบทเฉลย
มากำนันท่านหาในเอาไว้เชยเปนดอกเตยแทนสำเหนียกลำเจียกเอย ฯ
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

นิราศวังบางยี่ขัน โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒนากร พ.ศ. ๒๔๖๕

[1]

เครื่องมือส่วนตัว