คำกลอนสุภาษิตเรื่องพาลีสอนน้องและพิเภกสอนเบญกาย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คำกลอนสุภาษิตรเือ…')
แตกต่างถัดไป →

การปรับปรุง เมื่อ 09:46, 3 พฤศจิกายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: พระธรรมสาตร (ศุข)

บทประพันธ์

พาลีสอนน้อง

โคลง
๏ พระพุทธมรกตแก้วเกศเพ็ชร
สถิตประเทศใดเผด็จดับร้อน
อินทร์องค์ทรงสร้างเสร็จสืบศาส นานา
พุทธฤทธิ์สิทธิ์ศักดิ์สะท้อนเทพแสร้งรังสรรค์ ฯ
๏ นบนับสรรพสืบสิ้นพระพุเธ
พระธรรมเมศร์เวทมนตร์มเหมากน้อย
พระปเตยกโพธิสังเฆขอกราบ บาทเอย
พระปิตุมารดาข้อยนอบน้อมอาจารย์ ฯ
๏ อภิวันท์ภวรรคพร้อมพรหมาน
ทุกทิศเทพไทสถานทั่วท้าว
จอมกษัตริย์ประเสริฐสารสืบราชย์ เรืองนา
ขอพระเดชปกเกล้ากระหม่อมพ้นพันไภย ฯ
๏ สัคเคสามคาบข้าขอเชิญ
เทพทั่วสถานเทอญเถิดไท้
โปรดราช่วยจำเริญรังสฤษดิ์
โดยเรื่องบูราณไว้ว่าด้วยสวัสดี ฯ
๏ อุทิศหัตถ์ทัดธูปแท้เทียนทอง
เศียรพุ่มประทุมฉลองเลิศแล้ว
กายแทนแว่นฟ้ารองรับเครื่อง สการนา
ชีพช่วงดังดวงแก้วเก็บไว้วอนถวาย ฯ
๏ สมญาข้าศุขดั้งเดิมนาม
แต่หนุ่มเป็นนายยามอยู่แล้ว
คราวแก่โปรดชำระความโดยชอบ
เป็นพระธรรมสาตรแกล้วกล่าวถ้อยทางธรรม์ ฯ
๏ พระ พรหมประสิทธิ์ไซร้สัญญา บัตรนา
ธรรม ที่คดีประชาชอบถ้อย
ม โนแน่อุเบกขาคำกล่าว กลับฤา
สาตร ศุขสำนวนน้อยหนึ่งข้าหลวงเดิม ฯ
๏ สอน คิดบรรดิฐด้วยโวหาร
ทำ เทียบเปรียบโบราณเรื่องนี้
สำ แดงแต่งตามการเดิมก่อน
นวน เปรียบพาลีชี้ชาติเชื้อชายเฉลิม ฯ
๏ พา นรวอนสั่งสิ้นสุริยวงศ์
ลี ลาศอาศน์เอนองค์โอฐอ้า
สอน สิทธิฤทธิแรงณรงค์รอนชีพ แล้วพ่อ
น้อง สนิทคิดควรข้าพี่แล้วยอมตาย ฯ
๏ พา ลีพิลาปแล้วโลมนวล
นร นั่งฟังคำควรคู่แก้ว
สอน สุดสั่งทรามสงวนงามเสงี่ยม สง่าพ่อ
บุตร บบิตุเรศแล้วลูกตั้งระวังตัว ฯ
             
๏ ขอยกยศบทกระบินทร์อันสิ้นสูญ
นามพระยาพาลีมีตระกูลเรืองจำรูญฤทธิแรงกำแหงฮึก
ดังจักรกรดทศทิศคิดขยาดเดชอำนาจดั่งพระกาฬมาผลาญศึก
ทุกทิศทั่วกลัวชื่อฤาพิลึกโอฬารึกโยธีกระบี่กระบินทร์
เป็นบุตราตรีเนตรบรมนารถดำรงราชย์รุ่งเรืองเมืองขีดขิน
กับนวลนาฎดารายุพาพินทร์อมรินทร์อวยฤทธิประสิทธิ์พร
นี่พระอนุชาชื่อสุครีพสี่ทวีปเกรงหมดสยดสยอน
แสนศัตรูหมู่มารไม่ทานกรทศทิศฤทธิ์สะท้อนเริงพระไทย
เธอเป็นบุตรบิตุรงค์องค์อาทิตย์อิทธิฤทธิ์ผลักพระเมรุก็เอนไหว
เทพทุกชั้นฟ้าสุราไลยก็อวยไชยสรรเสริญเจริญฤทธิ์
แต่พาลีพี่ชายนั้นเสียสัตย์เพราะกำหนัดด้วยราคจริต
ชิงเมียน้องชายทำลายมิตรเป็นความผิดจริงใจมิได้แคลง ฯ
๏ สงสารพระยาพาลีจะพินาสเมื่อต้องศรพรหมมาศนารายณ์แผลง
เห็นศรวับจับศรด้วยกรแรงศรก็แกว่งอยู่ในกรจะรอนราญ
พระหัตถ์ซ้ายกรายกวักอนุชาพระหัตถ์ขวากุมศรแสนสงสาร
พร้อมบุตรอนุชหนุมานเข้ากราบกรานโสกาด้วยอาลัย
พาลีลูบหลังแล้วสั่งสอนสามพระยาพานรผู้พิสมัย
อย่าลืมคำจำจดกำหนดใจจะสอนให้สามกระบี่ทวียศ
เจ้าจะเป็นเกือกทองฉลองพระบาทบรมนารถนาถาให้ปรากฏ
จงตั้งจิตต์สุจริตอย่าคิดคดนึกกำหนดสารพัตรให้สัจจัง
สุจริตจิตต์เป็นอุเบกษาตั้งสัจจาไว้เป็นคู่ตราชูชั่ง
ตัวเป็นใหญ่ใจเป็นเด็กไม่จีรังจงระวังไพรีพระสี่กร ฯ
๏ อนึ่งโสดจะทำศึกอย่านึกขามใช่ชายทรามเจ้าเป็นชายชาญสมร
อย่าเสียชาติที่เป็นราชพานรจงสังวรอินทรีย์ดั่งพี่ชาย
แนะข้อหนึ่งพึงจำคำเชษฐาถึงศักดาเจ้าจะล้ำพระสุริย์ฉาย
อย่าควรคิดรอฤทธิ์ณรงค์นารายน์เป็นชาติชายไว้ชื่อให้ฦาชาญ
จะทำศึกแล้วอย่าฮึกโหมโมหันต์ดูเชิงชั้นพวกกระบี่โยธีหาญ
ที่จะล่าถ้าจะไล่อย่าได้นานจงตรองการกลศึกให้ลึกความ
แม้นไพรีตีตอบอย่าชอบเชื่ออย่าฟั่นเฝื่อเอาเป็นมิตรจงคิดขาม
อย่าเสียเชิงหลงละเลิงสตรีงามกลความกลศึกจงตรึกตรอง
ผู้ใดดีมีชอบประกอบกิจจงควรคิดอนุกูลทูลฉลอง
ใครพลาดพลั้งระวังด้วยช่วยประคองเป็นทำนองตามธรรมเนียมประเพณี
อย่าฉันทาอาฆาตแลมาดร้ายทั้งไพร่นายอย่ากระเบียดแลเสียดสี
แต่บรรดาข้าทูลละอองธุลีพ่อจงมีเมตตาเป็นประธาน
จะคบมิตรแล้วจงคิดให้รอบคอบเอาแต่ชอบเสียผิดคิดสมาน
ที่ต่ำศักดิ์รักเช่นอย่าเป็นพาลที่สูงนักหากประมาณจงเจียมตัว ฯ
๏ อย่าทะนงองอาจประมาทเขาอันตัวเราก็อย่าให้ผู้ใดหัว
อย่าเสพสุรายาเหล้าให้เมามัวชื่อว่าชั่วแล้วอย่าสมาคม ฯ
๏ อนึ่งพ่อข้อนี้เป็นที่ห้ามอย่าหยาบหยามบรมพงศ์องค์สยม
อย่าควรข้ามพระปรมินทร์ด้วยลิ้นลมอย่าทุ่มถมท้าวไทไม่บังควร ฯ
๏ อนึ่งอนงค์นางในที่ใช้สรอยอย่าเพลินพลอยไอกระแอมและแย้มสรวล
จะเจราจาสิ่งไรจงใคร่ครวญอย่าลามลวนเหลาะแหละและแทะโลม
เป็นบุรุษสุดสวัสดิ์ให้สัตย์ซื่อสงวนชื่อรักเชื้อบำรุงโฉม
พ่อผู้พงศ์สุริยันพันธุ์โพยมอย่าหักโหมด้วยโวหารการทั้งปวง ฯ
๏ ธรรมดาข้าเฝ้าเจ้าพิภพจงปรารภตรึกตรองซึ่งของหลวง
เอาใจใส่ถามตามกระทรวงดูห้ามหวงอย่าให้หายเสียดายแทน
พระราชทรัพย์นับโกฏิโปรดประทานพลทหารทั้งปวงอย่าหวงแหน
ทั้งเสื้อผ้าสารพัตรจัดอย่าแคลนตามแบบแผนชาวพระคลังระวังการ
พระประสงค์สิ่งไรให้สำเร็จทุกสิ่งเสร็จพลเรือนเตือนทหาร
ให้รู้จบครบทุกพนักงานราชการเป็นร้อนจงผ่อนปรน ฯ
๏ อย่ามีจิตต์ฤษยาและอาฆาตพยาบาทจองภัยไม่เป็นผล
ให้เป็นที่พึ่งพาประชาชนจงเจือใจไพรพลโยธา
ท้าวตรัสถามความจริงจึ่งทูลท้าวอย่าแกล้งกล่าวผรุสและมุสา
ไม่จริงใจแล้วอย่าได้เจราจาควรเป็นข้าคู่บุญพระบาทบงสุ์
พ่อหมั่นเฝ้าเช้าเย็นเป็นสวัสดิ์สารพัตรคุ้มภัยอย่าใหลหลง
กตัญญูคู่ชีวิตจนปลิดปลงรักษาองค์โอบอ้อมถนอมยศ
ท้าวชุบเลี้ยงเพียงพูนพอสมพักตร์อย่าเสริมศักดิ์ให้สูงเกินกำหนด
อัชฌาสัยไว้คมให้สมยศให้เรียนกฎรู้กิจราชการ ฯ
๏ จะเหาะเหินเดินยืนนั่งนอนนึกเร่งระลึกพระคุณคิดจิตต์สมาน
สิโรดมประณมหัตถ์นมัสการเป็นกำแพงจักรพาฬไม่มีภัย ฯ
๏ พี่อวยพรสอนเจ้าแต่เท่านี้สามกระบี่พ่อหนาอัชฌาสัย
พี่มีกรรมจำลาเจ้าคาไลยขอมอบฉัตรเวียงไชยประชาชน
สั่งแล้วชำเลืองดูภูวนารถบังคมบาทโดยงามครบสามหน
ขอฝากบุตรอนุชานัดดายุคลถวายพลแสนสมุทรสุดสกรรจ์ ฯ
๏ ปางพระองค์พงศ์สยมบรเมศรทรงสังเวชตรัสว่าอย่าอาสัญ
ขอโลหิตในอกอิ่มแมลงวันพอเจิมขวัญปลายศรตามสัญญา ฯ
๏ จอมกระบี่ชุลีฉลองเฉลยมิขอคงชีวงค์เลยเท่าเกศา
มีความผิดคิดก้มบังคมลาให้ลับหน้าลับเนตรทั้งลับนาม ฯ
๏ พระตรัสตอบปลอบพระยาพานเรศรท่านเรืองเดชขจรจบพิภพสาม
เชิญท่านอยู่เป็นผู้ใหญ่ในสงครามช่วยกันตามโฉมฉายที่หายไป
เราแรมทางกลางเถื่อนเป็นเพื่อนแท้ไม่รู้แน่เลยว่านางไปทางไหน
เชิญท่านช่วยอาสาอย่าบัลไลยเรามิได้ถือโทษอย่าโกรธเลย ฯ
๏ ควรมิควรขอพระเดชปกเกศแก้วได้ลั่นแล้วเหลือจะอายเป็นชายเฉลย
พระโปรดข้าขอบพระคุณเหมือนคุ้นเคยจะอยู่ไยให้เขาเย้ยผิดสัญญา
เพราะรักเมียเสียสัตย์จึ่งต้องศรให้ขจรใจชายไปภายหน้า
รักสนิทผิดสนัดตัดชีวาโอ้ตัวข้าคนผิดจิตต์เป็นพาล
ลูกเขาเมียใครมิได้คิดเพราะเชื่อฤทธิ์ทนงศักดิ์เที่ยวหักหาญ
ชิงเมียจากเมืองพระยามารกระทำการกองกรรมร่ำร่ำมา
อันความผิดคิดไปแล้วใจหายเป็นเชื้อชายอย่าควรเคียงดูเยี่ยงข้า
ถึงกองกรรมจำจิตต์ปลิดชีวาในเวลานแล้วไม่แคล้วเลย ฯ
๏ พระกุมศรพระกรสั่นดันพระแสงฤทธิ์ศรแรงเหลือจะหน่วงแล้วทรวงเอ๋ย
สงสารทรวงยังไม่มีราคีเคยศรเสวยแล้วไม่ขอรอชีวา
ข้ารับผิดแต่พระองค์ผู้ทรงเดชจงโปรดเกศขออภัยให้แก่ข้า
มิขอผัดตัดตามความสัญญาพระอินทร์ยมพรหมายังม้วยมรณ์
ไม่ขอเอื้อเฟื้ออาลัยในชีวิตบรรจงจิตต์เบญจางค์แล้ววางศร
ล้มลงตรงพักตร์พระสี่กรสามพระยาพานรเคียงประคอง ฯ
๏ พระเอื้อนโอฐออกว่าโอ้อนุชาพี่ขอลาอยู่หลังฝากทั้งสอง
จงตั้งใจอาสาฝ่าละอองสามพี่สี่น้องบำรุงกัน
จงเจียมตัวกลัวพระราชอาชญาพระเดชานุภาพปราบสวรรค์
ประเสริฐศักดิ์จักรเพ็ชรเสด็จพลันมาล้างหล้าอาธรรม์อันธพาล
เจ้าอยู่หลังฟังคำแล้วจำไว้จงตั้งใจอาสาทั้งอาหลาน
ให้เลื่องชื่อฦาชาวันหน้านานว่าทหารเอกองค์พระทรงธรรม์
ขอฝากสร้อยสาวสวรรค์ผู้ขวัญเนตรจะพูนเทวษวิโยคเฝ้าโศกศัลย์
พระสยมทรงญาณโปรดปราณครันวงศ์สวรรค์เสวยทิพย์จะอาทวา
สั่งสั่งฟังสิ้นกระแสเสียงเซียบสำเนียงดับชีวังสิ้นสังขาร์
เป็นเทพบุตรสุดฤทธิ์อิศราสืบมาจนปางล้างพิธี ฯ
๏ จึงปรากฏเป็นบทแบบฉบับเกียรติศัพท์เฟื่องฟ้าทุกราษี
เรื่องมิใช่ในคาถาพระบาลีเป็นคัมภีร์ไสยศาสตรสืบมา
เป็นตัวอย่างปางอยู่จำเริญยศยังปรากฏชั่วกัปป์สำหรับหล้า
ไม่รักชีพรักแต่ชื่อให้ฦาชาอยู่ชั้วฟ้าดินฝนแลลมไฟ ฯ
๏ เรียมจำเริญเรื่องนรินทร์กระบินทรราชนามพระธรมสาตรศุขใส
ประสงค์สอนผู้อ่อนอ่านวิจารณ์ใจสดับได้เป็นปัญญาประสาจน
สำหรับชายภายหน้าเป็นข้าท้าวทุกค่ำเช้าปฏิบัติอย่าขัดสน
รำพันสอนสั่งสิ่งมิ่งมงคลให้โสภณสารพัตรกำจัดภัย
พ่อหนุ่มน้อยหน่อเนื้อชมพูนุทประเสริฐสุดสิ่งสอนส่างสงไสย
จงประจักษ์ควักจริงสิ่งความในเจียดออกแทรกแจกเอาใส่สอนกุมาร
อันลมใดในโลกโยกมนุษย์สิ่งที่สุดลมสิ้นไม่สิ้นหวาน
น้ำผึงรวงรสอร่อยน้ำอ้อยตาลไม่เปรียบปานชิวหาโอชารส
ประกอบกายกิริยาอัชฌาไศรยทั้งวาจาน้ำใจแจ่มหมดจด
จงส้อนคมสมควรสงวนคดที่แบบบอกนอกบทบรรยาย
เชิงอัฌชาอย่างดีเป็นที่ตั้งจะนอนนั่งยืนเดินอย่าเมินหมาย
เหมือนเกราะเพ็ชรเจ็ดชั้นให้กันกายสำหรับชายเชิงอัฌชาสารพัตร
ภูมิที่สอนพรที่สั่งพ่อฟังสารใครเอ่ยอ่านขอให้มีศรีสวัสดิ์
เดโชไชยในชมพูให้ชูชัดจงกำจัดภัยกำจายให้หายจน
เจนจำใจจริงทุกสิ่งสอนแต่พื้นพรโอภาสถาผล
ให้ภิยโยยศยิ่งทุกสิ่งยลเสร็จในพรสอนนิพนธ์สิ่งรำพัน
พึงทำเทียบท่านครูเฒ่าสำเนาก่อนแต่งกาพย์กลอนโคลงเพลงพากย์ฉันท์
สอนเสนาะเพราะพริ้งทุกสิ่งอันไม่ขอขันคู่เคียงสำเนียงสำนวน
เหตุโวหารทานเทียบจะเปรียบรสเหมือนโอสถเสพแก้โศกกำศรวล
หลายขนานอ่านอ้างจางรัญจวนฉันเชิญชวนชิมกระสายละลายชะโลม
ล้วนเครื่องหอมพร้อมเสร็จเกสรสรรพ์แทรกอำพันชะมดเชียงพิมเสนโสม
กินแก้สรรพโรคที่โศกโทรมจะชูโฉมให้จำเริญเชิญอ่านเอย ฯ
             
๏ สอนเสร็จพระธรรมสาตรสร้องสาธุการ
ปรุงรศพจนโวหารแห่งข้า
ไว้สำหรับกับกุมารมีศักดิ์
เชิญอ่านวานช้าช้าชอบใช้ในสนาม ฯ
๏ อกเอยใครอ่านโอ้เอนดู
เชิญช่วยชมเชยชูชอบถ้อย
ฉลาดเฉลยเฉลิมหูหาญสั่ง สอนนา
จงพ่อหนุ่มน้อยน้อยนั่งเฝ้านอนฟัง ฯ
๏ อักษรอ่อนศักดิ์สู้สำแดง
เขียนร่ำคำเรียนแถลงเล่าถ้อย
ข้อผิดคิดพอแจงแจกกระจ่าง ใจพ่อ
ร่ำจบรบจำน้อยหนึ่งน้ำคำสอน ฯ
             

พิเภกสอนเบญจกาย

๏ พิ ลาปเล่าลูกแล้วแลโฉม
เภก พักตร์หนักทรวงโทรมโศกแส้
สอน สาวสั่งสองโลมลาญสวาสดิ์
บุตร เบญจกายหมายแหม้ไม่ม้วยมาเมือง ฯ
             
๏ โอ้สงสารมารซื่อชื่อพิเภก
โหรารู้ดูดีคัมภีร์เอกเลิศในเลขไตรเพทวิเศษยา
เมื่อทำนายทายสุบินทศพักตร์พระยายักษ์เคืองคิดจะเข่นฆ่า
กุมภกรรฐ์อินทรชิตคิดเมตตาทูลขอโทษาพระยายักษ์
สั่งให้ไล่ขับเสียจากเมืองให้แค้นเคืองวิตกเพียงอกหัก
มาปราสาทโศกสุดบุตรเมียรักซบพักตร์โสกาน้ำตานอง
ส่างสะอื้นกลืนกลั้นที่กรรแสงจึ่งชี้แจงสอนสั่งเจ้าทั้งสอง
จงสงวนนวลนางอยู่ปรางทองเป็นกรรมของพี่แล้วจะขอลา
เจ้าอยู่หลังฟังคำแล้วจำไว้อย่าถือใจเลยว่าเจ้ามีวงศา
ทุกเช้าเย็นเขาเห็นกับภรรดาคราวชาตาตกอับนับจะอาย
เคยสำอางอย่างแต่ก่อนจงผ่อนผันแป้งน้ำมันเขม่าขมิ้นสิ้นทั้งหลาย
ให้รู้จักรักเจียมเสงี่ยมกายแม้นมิตายคงพบประสพกัน
ตรีชดาอาดูรพูนเทวษชลเนตรนองปรางนางกระสัน
เข้ากราบบาทภรรดาแล้วจาบัลย์อภิวันท์วอนทูลมูลคดี
จะอยู่ไยได้ทุกข์ขอทุกข์ด้วยอยู่คงม้วยแม้นไปไม่บัดสี
พระเคยโปรดสุขเกษมเปรมปรีดีโอ้ครั้งนี้จะเห็นใครขอไปตาม ฯ
๏ สงสารแต่เบญจกายสายสวาทดังนางนาฏในสวรรค์ชั้นที่สาม
วิไลลักษณ์พักตร์ผิวดั่งเพ็ญงามพยายามเยาวรุ่นจำเริญทรง
สงวนไว้ในปรางเหมือนนางแก้วเป็นกรรมแล้วลูกน้อยจะพลอยผง
โอ้ครั้งนี้ที่ไหนจะเป็นองค์นางโศกทรงสองทุกข์เข้าทับทรวง ฯ
๏ พระยายักษ์ยอหัตถ์สัมผัสปลอบเจ้าว่าชอบเชิงหญิงทุกสิ่งหวง
จงอยู่เลี้ยงลูกยาธิดาดวงอย่าเป็นห่วงกับพี่เจ้าตรีชดา
อันครั้งนี้พี่จะไปไกลแล้วน้องแก้วอยู่หลังระวังหน้า
สงวนองค์จงดีมีอัฌชาเลี้ยงลูกยายังเยาว์อย่าเบาความ ฯ
๏ อนึ่งนางสาวใช้ในปราสาทจะพลั้งพลาดเล็กน้อยค่อยไต่ถาม
จงไว้หูฟังหูอย่าวู่วามพูดให้งามไพร่ผู้ดีมีเมตตา
อย่าถือผิดเป็นชอบประกอบสัตย์ระวังไว้ในสวัสดิรักษา
เป็นสตรีที่ชั่วทั่วนินทาเหมือนนางกากีกลกับคนธรรพ์
ที่กรุงพาลสอนอุษาธิดาท้าวเธอว่ากล่าวควรจะชมคมสัน
กฤษณาสอนน้องของสำคัญจงผ่อนผันเลือกใช้ที่ได้การ
พิศโฉมเบญจกายเสียดายนักโอ้ลูกรักเป็นกำพร้าน่าสงสาร
อันสตรีดีด้วยชายหมายประมาณหญิงข้าวสารชายข้าวเปลือกเกลือกสุธา
เจ้าเป็นบุตรสุดรักของบิตุเรศดั่งดวงเนตรควรเมืองอยู่เบื้องขวา
เจ้าจงจำคำคิดถึงบิดาจะเจรจาลุกนั่งและนอนเดิน
อิริยาบถสี่เป็นที่ยิ่งรักษาสิ่งสัตย์สุดสรรเสริญ
สำรวมเนตรสังเกตใจอย่าได้เมินนุ่งประเชินห่มเจียมเสงี่ยมจน
สงวนงามยามอับอาภัพญาติอย่าหมายมาตรพึ่งผู้ใดไม่เป็นผล
เห็นหน้าแต่แม่ลูกกันสองคนจะขัดสนไปข้างหน้าสารพัน ฯ
๏ เบญจกายกอดบาทอนาถแน่ก็โศกแซ่ส่งเสียงต่างกระสัน
พร้อมพี่เลี้ยงสุรางค์นางกำนัลสะอื้นอั้นโอดเสียงสำเนียงครวญ ฯ
๏ ตรีชดาว่าโอ้พระโพธิ์สวรรค์ดั่งดวงจันทร์แจ่มฟ้าเวหาหวน
พระจรพรากจากไกลใจรัญจวนจะสงวนชีพไว้ทำไมมี ฯ
๏ เบญจกายว่าพระจอมกระหม่อมแก้วพระลับแล้วลูกขอลาไปเมืองผี
จะอยู่ไยให้ยักษาทำยายีไม่ถึงที่แต่กรรมต้องจำตาย ฯ
๏ นางสาวใช้ว่าเฉกเศวตฉัตรสารพัตรเที่ยงธรรม์สุดมั่นหมาย
รู้ทุกสิ่งจริงประจักษ์ที่ทักทายได้สะบายพึ่งบุญพระคุณเย็น
พระทัยเหมือนน้ำในอโนดาตจากปราสาทแล้วที่ไหนจะได้เห็น
จะอาดูรพูนเทวษน้ำเนตรกระเด็นไม่วายเว้นโศกศัลย์ถึงพันปี ฯ
๏ พระยายักษ์หักห้ามที่ความโศกอย่าวิโยคร่ำร้องไม่ต้องที่
ประโลมปลอบวรนุชพระบุตรีจำเริญศรีรุ่นทรงเจ้าจงจำ
จะเป็นสาวคราวโศกรักษาศักดิ์ให้รู้จักข้อผิดคิดข้อขำ
จะเจรจาอย่าให้คนเขาเคืองคำถ้าจะทำสิ่งไรให้พินิจ
จะนุ่งผ้าทาแป้งและแต่งองค์พอสมทรงสารพัตรอย่าดัดจริต
งามยศมารยาตรทั้งผาดพิศอย่าคบคิดคนพาลสันดานโกง
ทศกรรฐ์เจ้ากรุงลุงของเจ้าเป็นคนเมาราคะจะตายโหง
ทำโมโหโกรธาบ้าลำโพงโป้งโหยงหยาบช้าทำสาธารณ์
พ่อทูลเธอตามซื่อมาถือโกรธพิฆาตโทษถึงชีวิตจะคิดผลาญ
จะอยู่ไยไล่ขับให้อัประมาณไปเป็นข้าพระอวตารเต็มพระทัย
แม่ศรีวังฟังสอนบิดรสั่งเจ้าอยู่หลังลุงอาอัชฌาสัย
อย่าประจบคบหาเวียนมาไปอยู่แต่ในปรางค์มาศราชวัง
อย่ารู้เห็นเป็นใจได้อาสาตรีชดาเบญจกายอยู่ภายหลัง
จงขอดคำจำไว้ให้ระวังเชิงเขาชังลุงป้าบิดาดู
จำเจ็บอกตกยากลำบากแล้วโอ้ลูกแก้วรักตัวกลัวอดสู
จงตรองเกรงตรึกกริ่งสิ่งศัตรูเจ้าเร่งรู้ระวังองค์ให้จงควร
เป็นสตรีมีศักดิ์ให้บริสุทธิ์แม่เป็นบุตรองค์เดียวบิดาสงวน
อยู่ปรางค์มาศราชวังเปล่งปลั่งนวลจะรัญจวนเจ็บจิตต์เพราะบิดา ฯ
๏ เธอตรัสสั่งบุตรสาวเมื่อคราวส่างกำนัลนางแน่นน้อมอยู่พร้อมหน้า
แกล้งสั่งสอนผ่อนผันเป็นชั้นมาทั้งทาสีทาสาแลสาวใช้
เมื่อคราวดีมีสุขเมื่อทุกข์โศกสำหรับโลกทั่วหล้าอัชฌาสัย
คราวเคราะห์ร้ายนายโกรธจะโทษใครโทษเอาใจตัวเองไม่เกรงนาย
จงฝากตัวกลัวผิดคิดให้ชอบตามระบอบโบราณประมาณหมาย
ข้าดีเพราะรักเจ้าบ่าวรักนายอันเรื่องร้ายนอกในระไวระวัง ฯ
๏ จงสัตย์ซื่อสวามิภักดิ์รักนายอย่ามองหมายถมทับเมื่อลับหลัง
ให้รู้เก็บรู้กินสิ้นหรือยังถ้านายสั่งทำการอย่าคร้านแช
แม้นนายทุกข์เจ้าอย่าสุขเกษมเสียงจงคอยเคียงนิ่งนั่งฟังกระแส
ถ้าอยู่ไกลไม่ทันจะผันแปรแม้นนายใช้อย่าได้แชให้ช้าเชือน
ตัวเป็นข้าอย่าให้ผ้าเหม็นสาบได้ระวังระไวนุ่งเจียมพอเทียมเพื่อน
ไพร่ผู้ดีมีจนพลเรือนก็แม้นเหมือนกันสิ้นกินกับการ ฯ
๏ ตัวเป็นหญิงสิ่งไรไม่สันทัดให้เจนจัดในทำนองของคาวหวาน
ถึงจะเป็นเจ้าจอมหม่อมพนักงานคงโปรดปราณได้ชื่อเป็นมือดี
สารพัตรหัดให้เห็นเป็นวิชาเขาย่อมว่าชาววังช่างบายศรี
รู้ไว้เผื่อเมื่อหน้าได้สามีถึงเป็นที่ท่านผู้หญิงอย่าทิ้งครัว
ดูจัดแจงแต่งหาโภชาหารพนักงานของสตรีแม้นมีผัว
ให้เกรงกราบสามีเป็นที่กลัวรู้ฝากตัวรักกายเสียดายงาม ฯ
๏ ธรรมเนียมนางวางไหนให้เป็นหนึ่งอย่ารำพึงตรึกตรองเป็นสองสาม
อย่าถือใจไหลหลงว่าทรงงามเมื่อยามสาวก็ยังสวยสำรวยทรง
เหมือนสายหยุดสุดสายก็หายหอมพวงพยอมมลิลามหาหง
เมื่อยามแย้มภุมเรศเจตร์ประจงพิศวงอยู่ด้วยกลิ่นถวิลวอน
ครั้นโรยร่วงพวงผกาก็คลาคลาดแรมนิราสร่ายเร่หาเกสร
มีดื่นดงทรงช่ออรชรหมู่ภมรเหมือนชายที่หมายเชย ฯ
๏ เป็นหญิงดีมีอัฌชารักษาผัวรู้ฝากตัวชายไม่ร้างนะนางเอ๋ย
แม้นสตรีดีจริงไม่ทิ้งเลยเราก็เคยได้รู้เช่นได้เห็นเชิง
สอนสิ่งดีที่ชั่วไว้ผัวสอนจงผันผ่อนเข้าค่ำอย่าทำเหลิง
ตกลำบากยากจนจะป่นเปิงแตกกระเจิงจากผัวเพราะตัวทำ
อย่าโทษชายลายชั่วอยู่ตัวหญิงแม้นตีจริงชายคงชุบอุปถัมภ์
คบชายชั่วพาตัวยับระยำถ้าชอกช้ำบุบฉลายไม่หายเลย ฯ
๏ เป็นนารีที่จำเริญบำรุงร่างจงสำอางเอี่ยมสะอาดฉลาดเฉลย
ให้หอมหวนชวนชื่นรื่นรำเพยชอบชายเชยชมเชิงละเลิงโลม
สัมผัสสี่มีรูปรศแลกลิ่นเสียงนี้แท้เที่ยงเครื่องประดับสำหรับโฉม
เป็นที่ชื่นหมื่นชายหมายประโลมจะน้อมโน้มนำเสน่ห์สนิทนาน
ถ้าทำดีมีอัชฌาสวามิภักดิ์ถึงมิรักก็คงจะสงสาร
อย่ารู้มากปากกล้าทำสามานย์เหมือนผจานหน้าตัวให้มัวมอม
แม้นทำดีมีชื่อบรรฦายศอยู่ปรากฏตัวตายไม่หายหอม
ถ้าทำร้ายชายร้างต้องหมางตรอมจะพาผอมเผือดซูบผิดรูปทรง
ทำเล่นตัวจนผัวมีเมียน้อยนั่งตะบอยบ่นบ้าว่าลุ่มหลง
ถูกเสน่ห์เล่ลมงมงวยงงพาโลลงโทษชายแต่ฝ่ายเดียว ฯ
๏ อันจิตต์ชายได้หนึ่งรำพึงสองตามทำนองนอนนึกตรึกเฉลียว
น้ำมากปลาไม่ตายว่ายกลมเกลียวสายน้ำเชี่ยวชอบมัจฉาในสาชล
เป็นเมียหลวงหวงหึงเสน่หาเหมือนพาลพาภัยรำพึงไม่มีผล
สารพัตรป่วยงานการของตนทั้งผู้คนพาลด่าว่ากระทบ
เขาย่อมว่าสามานย์ผจานผัวไม่ไว้ตัวเมียน้อยจะพลอยตบ
รู้ใกล่เกลี่ยเมียน้อยคอยนอบนบจงปรารภรักผัวของตัวเดิม
ถึงเสียทองเท่าตัวผัวอย่าเสียทำไมเมียน้อยน้อยปล่อยให้เหิม
ใครพลั้งพลาดขาดเหลือช่วยเจือเติมจงส่งเสิมสอนให้ชอบปลอบไว้ใช้
อันแม่เรือนเหมือนแมวเมียน้อยหนูศิษย์กับครูธรรมดาอัชฌาสัย
เขาก็จิตต์คิดดูเจ้าเราก็ใจรักกันไว้ดีกว่าชังระวังรัก
ถ้าเขาซื่อเราซื่ออย่าถือยศแม้นใครคดเราก็คมอยู่ในฝัก
ชอบจะใช้ได้เชือดเลือดจึ่งชักให้รู้จักแข็งอ่อนผ่อนปัญญา ฯ
๏ แม้นมีกรรมต่ำต้องเป็นเมียน้อยเมียหลวงคอยหยิบผิดด้วยอิจฉา
ถึงทำดีก็เป็นร้ายหมายนินทาจงอุตสาห์ฝากตัวเจ้าผัวไว้
ทำให้ชอบมอบตัวเช่นทาสีให้ท่านมีเมตตาอัชฌาสัย
จงตั้งจิตต์คิดประจบให้สบใจตัวเป็นไทยก็เหมือนทาสชาติเมียน้อย
มันเจ็บใจไม่ชั่วผัวของเขาเหมือนแกล้งเอาไฟจี้เข้าที่ฝอย
ทั้งเมียหลวงล่วงว่าขี้ข้าพลอยแต่เห็นมากกว่าร้อยย่อมเรื้อรัง ฯ
๏ เป็นสตรีมีศัตรูรู้ตรองตรึกคะเนนึกอยู่เป็นนิตย์จิตต์สมหวัง
แม้นเมินเมิ่นประมาทฉวยพลาดพลั้งชายจะชิงหญิงจะชังชวนเป็นเชิง
ถ้ายากจนไปข้างหน้าคิดค้าขายอย่าเสียดายลมล่อยอให้เหลิง
ซื้อก็ง่ายขายก็คล่องด้วยต้องเชิงปลูกเป็นเพิงน่าถังนั่งร้านชำ
หญิงเรียกแม่ชายเรียกพ่อง้อให้ซื้อผู้ใดหรือจะไม่ชมว่าคมขำ
ถ้าปากร้ายขายค้าว่าระยำฟังน้ำคำคนก็คิดเคืองระคาย ฯ
๏ อันวาจาอัชฌาสัยไม่ลงทุนแต่มีคุณเป็นประโยชน์ไม่โหดหาย
ถ้าพูดผิดคิดเข้าติดลอบตายทั้งหญิงชายเหมือนกันสำคัญลิ้น
อาวุธใดในพิภพไม่ลบปากถึงน้อยมากฟันฟาดขาดเป็นสิน
จะเป็นต้นก็แต่กลกันกานกินในโลกสิ้นสามภพจบเจรจา ฯ
๏ จะร่ำสอนอ่อนเสียงแต่เพียงสั่งเจ้าจงฟังเริ่มเรื่องไปเบื้องหน้า
อันองค์ท้าวทศพักตร์หลักลงกาพระชันษากิ่วกึ่งจะถึงกาล
โอ้เกาะแก้วลงกาเคยผาสุกแสนสนุกดังดาวดึงส์สถาน
ปราสาทมุกด์สุกแม้นเมืองวิมานส่งแสงพานโอภาสในอัมพร
ตั้งแต่นี้มีแต่นับจะลับแล้วโอ้แท่นแก้วที่บรรธมบรรจถรณ์
พระยี่ภู่ปูเคยเขนยนอนช่องบัญชรฉากชั้นกั้นลับแล
แลลับนับเวไลจะไกลแล้วโอ้ลูกแก้วเบญกายอยู่กับแม่
จงฝากตัวทาสไทยให้ดูแลพวกสาวแส้เคยอยู่รู้ฝากตัว
เจ้าจงจำทำนายไปภายหน้าเมืองลงกาเพลิงใหญ่จะไหม้ทั่ว
พระยายักษ์ไม่รู้สึกสำนึกกลัวนิมิตรชั่วในตำราท่านว่าร้าย
ท้าวถามทูลตามซื่อถือตำหรับเธอแกล้งกลับดุเดือดไม่เหือดหาย
หวงหึงษ์นางสีดาว่าวุ่นวายตัดตายตัดเป็นไม่เห็นกัน
ชาวลงกาจะเป็นข้าอยุธเยศเจ้าสังเกตจงจำคำให้มั่น
องค์พระรามฤาษีพ่อชีนั้นนารายณ์ภาคจากสวรรค์แสวงนาง
อันองค์พระลักษมีสีดาแม่องค์นี้แน่เจ้าอย่านึกอางขนาง
จงฝากตัวท่านไว้ใช้พลางพลางจะได้อ้างภายหน้าข้าหลวงเดิม
นางใช้สอยอัชฌาสัยให้สนิทสุจริตสองกษัตริย์เป็นฉัตรเฉลิม
สีดาตกเสด็จตามสงครามเติมม่ารอเริ่มแรมร้างอยู่ฝั่งชล
ไปถวายกายเป็นข้าสวามิภักดิ์ทูลทรงศักดิ์ให้ท้าวทราบอนุสนธิ์
เสด็จด้วยโยธีกระบี่พลจองถนนถมสมุทรรีบรุดมา ฯ
๏ ได้ฤกษ์ดีตีสิบเอ็ดพอเสร็จสอนเผยบัญชรดูในห้องพระเวหา
ดาวก็เลื่อนเดือนก็ลับบรรพตาได้เวลาเพ็ชรฤกษ์จำเริญยาม
ท้าวจัดแจงแต่งตัวไปตามเพศร่ายพระเวทพระมนตร์จบคำรบสาม
ประณมหัตถ์มนัสน้อมนึกพระนามเดชะความอธิษฐานบันดาลดล
อำนาจพระบารมีบรเมศรสยองเกศแสยงกายทุกขุมขน
ให้หอมหวนล้วนทิพย์สุคนธ์ปนมาเอิบอาบซาบสกลสำราญกาย
ให้เหตุเห็นเป็นมหัศอัศจรรย์แสงฉ้อชั้นโชติช่วงวิเชียรฉาย
บันดาลให้ตัวลอยพลอยพระพายหอบเหาะหายข้ามมหาสาคร
กุมกระบองล่องฟ้าด้วยสามารถโดยอำนาจบุญฤทธิ์มหิศร
น้อมเกศนมัสการพระสี่กรลอยร่อนตั้งหน้าพระพลาเอย ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

คำกลอนสุภาษิตเรื่องพาลีสอนน้องและพิเภกสอนเบญกาย พิมพ์แจกเป็นที่ระลึกในการปลงศพนางอิ่ม ชื่นสมทรง วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๐ ณ วัดประยุรวงศาวาส


(ขอขอบคุณ คุณหญิง.มะ ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)

เครื่องมือส่วนตัว