บทละครขุนช้างขุนà¹à¸œà¸™ พระบวรราชนิพนธ์ในà¸à¸£à¸¡à¸žà¸£à¸°à¸£à¸²à¸Šà¸§à¸±à¸‡à¸šà¸§à¸£à¸¡à¸«à¸²à¸¨à¸±à¸à¸”ิพลเสพ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 10:47, 26 สิงหาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระบวรราชนิพนธ์: กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ
บทประพันธ์
ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม
ช้า | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า | ||
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา | เฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี | ||
ได้พระราชทานรางวัลครัน | เกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี | ||
จะกลับไปสุพรรณบุรี | ลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โล้ | |||
จำปาทองเทศ | |||
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง | พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย | ||
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย | ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ | ||
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา | เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ | ||
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ | ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง | ||
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อย | เชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง | ||
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง | มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย | ||
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชาย | ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา | ||
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกัน | อย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า | ||
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา | บุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน | ||
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือน | อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต | ||
พลพายพายระดมรีบรัด | สามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่ | ||
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้ | พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ช้าปี่ | |||
สิ้นเอยสิ้นแสง | จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ | ||
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ | ไถงดับอับแสงรวิวร | ||
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศ | โอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร | ||
แผ้วหล้าดาดาษศศิธร | พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ | ||
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย | งามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข | ||
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป | ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา | ||
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อย | หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า | ||
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา | สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน | ||
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า | มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น | ||
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน | พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้ | |||
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่ | โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ | ||
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ | เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย | ||
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด | เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย | ||
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย | อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย | ||
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน | ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้ | ||
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ | มันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน | ||
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลา | พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน | ||
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ | กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย | ||
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน | ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้ | ||
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร | หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว | ||
ลงมาท่าน้ำชำระตัว | หมอกมัวเห็นเรือใครรอรา | ||
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน | ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา | ||
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา | จอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองมัวหมองไม่ใสศรี | ||
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี | แย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู | ||
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่ | มีความใคร่มิได้อดสู | ||
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู | วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
ถึงเอยถึงท่า | ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน | ||
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน | สะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้ | ||
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด | เป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก | ||
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน | ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก | ||
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก | ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง | ||
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้ | เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง | ||
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานอง | เข้าประคองปลอบเช็ดชลนา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองโศกแสนสหัสา | ||
กราบลงแทบเท้าภัสดา | มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ | ||
อึดอัดสะอื้นจะออกความ | คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้ | ||
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไป | รักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด | ||
อกุศลตามผลาญประหารพลัน | ขุนช้างมันคิดคดทุจริต | ||
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตร | เชื่อสนิทมิได้คิดสงกา | ||
เอากระดูกห่อผ้ามาให้ | ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์ | ||
เสียทัพยับย่อยชัยปรา | ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน | ||
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชร | คดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น | ||
มันทำร่ำร้องไห้รำพัน | ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง | ||
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน | กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง | ||
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง | ร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน | ||
มิได้วายว่างเว้นเทวษ | กับสายทองนองเนตรสยดสยอน | ||
ราตรีนองน้ำสุชลนอน | ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง | ||
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น | ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง | ||
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง | มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม | ||
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล | แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ | ||
บุญใดที่มิได้เคยทำ | ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป | ||
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า | จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล | ||
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ | น้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ | ||
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา | หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน | ||
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ | ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์ | ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา | ||
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา | เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง | ||
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์ | จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง | ||
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้อง | อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ | ||
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร | พูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่ | ||
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย | กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา | ||
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวง | ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา | ||
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา | เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง | ||
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ | ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง | ||
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง | ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง | ||
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน | ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์ | ||
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนง | กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ | ||
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา | แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ | ||
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ | ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี | ||
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา | แม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี | ||
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี | จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน | ||
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัด | แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน | ||
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน | ไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน | ||
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า | เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น | ||
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน | ไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป | ||
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า | จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้ | ||
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร | สะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด | |||
โลม | |||
เมียเอยเมียรัก | อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี | ||
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ | ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด | ||
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา | นี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต | ||
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด | จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน | ||
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย | ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร | ||
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ | เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้ | อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา | ||
บรรดาคนสนิทคิดกันมา | ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด | ||
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย | ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด | ||
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์ | เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง | ||
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย | ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง | ||
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง | บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน | ||
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน | ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้ | ||
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า | ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน | ||
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจ | ฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย | ||
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็ก | ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย | ||
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานาย | บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน | ||
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา | เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น | ||
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น | ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองยินคำร่ำขาน | ||
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาล | ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน | ||
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา | จึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น | ||
เท็จจริงสิ่งรู้สารพัน | ชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย | ||
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม | ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย | ||
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย | รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก | ||
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา | ความเขาว่าการอะไรมาสลัก | ||
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก | ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โลม | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม | ||
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ | ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง | ||
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง | ปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง | ||
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง | เขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย | ||
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า | อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย | ||
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย | ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา | ||
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น | รกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า | ||
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา | ลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง | ||
วันทองเล่าเจ้าหวงหึง | โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง | ||
จงสมัครสมานปรองดอง | มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
โลม | |||
ร้องเอยร้องว่า | มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า | ||
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา | นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน | ||
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ | ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล | ||
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้ | ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง | ||
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง | ถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์ | ||
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์ | จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โลม | |||
วันเอยวันทอง | ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว | ||
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว | ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา | ||
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ | ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า | ||
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดรา | อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน | ||
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว | มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน | ||
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการ | จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว | ||
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว | สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล | ||
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า | ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่ | ||
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ | ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ดูเอยดูดู๋ | ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก | ||
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์ | มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า | ||
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น | หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า | ||
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจา | มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร | ||
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลัง | พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้ | ||
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร | เป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง | ||
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนา | พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง | ||
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง | ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ | ||
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน | หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ | ||
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำ | มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
สุดเอยสุดกลั้น | ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้ | ||
มารยาบีบน้ำตาต่อไป | ข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ | ||
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย | อกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน | ||
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ | เห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย | ||
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน | ใช่การจะพากันฉิบหาย | ||
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย | รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม | ||
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง | มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม | ||
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ | ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ | ||
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว | สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ | ||
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ | เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย | ||
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา | ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย | ||
มากำนัลกันไขว้ให้เสบย | ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา | ||
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ | ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา | ||
ชอบผิดจงคิดกรุณา | ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ถ้อยเอยถ้อยคำ | ซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง | ||
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง | จึงงวยงงงมงายว่ากันดี | ||
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่ | นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่ | ||
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มที | น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ | ||
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า | เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ | ||
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ | เท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน | ||
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้ | แสร้งเสกสีนองาสูงสรร | ||
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล | กู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ | ||
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง | กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ | ||
คดคมคารมเชลยทัพ | รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ | ||
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย | จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น | ||
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณ | นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด | ||
มารดาจึงได้รอดวอดวาย | เพราะนางลาวระงับพลายหายหด | ||
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด | เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง | ||
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ | จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง | ||
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง | มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่ | ||
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไย | ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน | ||
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง | ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น | ||
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชัน | ปากคันคอยอยู่กี่เวลา | ||
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน | ข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า | ||
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา | ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย | ||
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน | จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย | ||
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย | ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว | ||
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง | จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว | ||
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว | จึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ | ||
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า | สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ | ||
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ | เตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก | ||
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน | ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก | ||
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก | จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม | ||
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย | ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม | ||
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม | อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน | ||
ชามแตกบัดกรีไม่สนิท | ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น | ||
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน | ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ | ||
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด | เสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา | ||
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ | อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
แค้นเอยแค้นนัก | อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย | ||
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย | คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู | ||
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน | เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู | ||
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกู | ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี | ||
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที | ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
สายเอยสายทอง | ชอบแต่ห้ามปรามน้องผ่อนผัน | ||
ไยจึงพากันเป็นบ้าดุดัน | นี่สำคัญอย่างไรจึงวุ่นวาย | ||
ว่าพลางกั้นกางขวางหน้า | ร้องอย่าอย่าทำมันไม่ได้ | ||
เหลืออดกูไม่ลดทั้งบ่าวนาย | มิเกือบตายอย่าประมาทฝีมือกู | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ไม่เอยไม่ฟัง | ปลอบก็ช่างห้ามก็ช่างอย่าพักขู่ | ||
เอาวาก็รากันวิ่งพรู | บ่าวนายจู่ลู่ไล่ลาวทอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
กล้าเอยกล้าดี | จะสู้ตายที่นี่ลงเป็นสอง | ||
กอดผัวไว้ไม่วางทางร้อง | ข่มเหงน้องจริงจริงพ่อคุณ | ||
คนเดียวช่วยกันเป็นสามสี่ | ราวกับฝูงยักขินีเจียวนี่วุ่น | ||
ทำอะไรก็ทำเถิดตามบุญ | โทโสหมุนกึกกักหักฮึก | ||
แม้นทำข้าไม่ได้ก็ใช่คน | ใจพรั่นปากบ่นเก่งกึก | ||
เนื้อเต้นเอ็นขึ้นคารมคึก | ครั้งนี้แลจะทำศึกกับนางยักษ์ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงสาววันพรั่นหนัก | ||
พี่เลี้ยงคอยเคียงใจทึกทัก | เข้ามาใกล้หมายจะผลักให้ตกน้ำ | ||
ถึงสี่เราสามก็ไม่กลัว | คาดเรี่ยวแรงตัวเห็นพอปล้ำ | ||
ผิดนักย่อยยับเยินระยำ | สิ้นบุญสิ้นกรรมกันวันนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ศัพท์ไทย | |||
อีเอยอีลาวทอง | อย่าพักจองหองเสียดสี | ||
มึงท้ากูดี | ดีให้หนำใจ | ||
สายทองพี่เลี้ยง | ก้าวเฉียงเลี่ยงไล่ | ||
สองข้างวิ่งไขว่ | ที่ในนาวา | ||
กลัวคุณผู้ชาย | ตายแล้วขี้ข้า | ||
คุณนายโกรธา | พะว้าพะวัง | ||
ช่วยกันพรึบพร้อม | ล้อมหน้าล้อมหลัง | ||
ห้ามผัวไม่ฟัง | ตึงตังโลดโจน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
รื้อ | |||
พิมเอยพิมพี่ | ทำไมนี่จะมาเต้นเป็นเล่นโขน | ||
กั้นไว้ไล่โดน | เผ่นโผนดึงดัน | ||
ดูเอาเถิดฤา | เท้ามือเหลือคัน | ||
พลัดไปข้างนั้น | กลับหันเวียนวง | ||
เรือเกลือกเสือกพลาด | อีทาสล้มลง | ||
ขุนแผนถีบส่ง | จมพงชายเฟือย | ||
พี่เลี้ยงลาวทอง | ปัดป้องจนเหนื่อย | ||
ผ้าพลิ้วปลิวเปลือย | มึนเมื่อยทุบตี | ||
นางไทยไล่ตบ | ลาวหลบหลีกหนี | ||
ว่องไวเต็มที่ | ต่างดีด้วยกัน | ||
ผัวไล่เปะปะ | ปะทะพัลวัน | ||
ผลักนี่ตีนั่น | ขยันจริงเจียว | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
รื้อ | |||
คุณเอยคุณชาย | คุณหญิงแสนร้ายตาเขียว | ||
รุมข้าข้างเดียว | กราดเกรี้ยวโกรธา | ||
ทั้งข้าทั้งไทย | มาไล่ตีด่า | ||
พาลเอาผิดข้า | ต่อหน้าพ่อคุณ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
พ่อเอยพ่อเจ้า | เห็นฤาไม่ใครเล่าก่อวุ่น | ||
อย่าเข้าใครออกใครเถิดเอาบุญ | น้องก็ใช่ชาติสถุลเซซัด | ||
บิดามารดายอยกให้ | ใช่เกิดในกระบอกไม้ได้สลัด | ||
ฉันมิใช่แตกตื่นเชลยพลัด | ไม่เคยพบจ้านจัดเช่นนี้เลย | ||
อยู่บ้านข้าแต่น้อยมาจนใหญ่ | ไม่มีใครได้ข่มเหงกระนี้เหย | ||
จะดื้อด้านไปไม่ได้ด้วยไม่เคย | อกเอ๋ยกรรมกรรมมาจำเมือ | ||
กอดเท้าผัวโอดอ้อนฉะอ้อนไห้ | นี่อะไรจะให้เนื้อมาสู่เสือ | ||
ตายจริงแล้วไม่ทันขึ้นจากเรือ | จะเป็นเหยื่อนางไทยใจยักษ์ | ||
แสร้งทำกำสรดโศกา | มารยาไม่ชั่วเล่นตัวหนัก | ||
พิไรร่ำน้ำเนตรนองพักตร์ | จะลาหม่อมทั้งรักแล้วจำตาย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
วันเอยวันทอง | เอออะไรจองหองใจหาย | ||
จะพาลคิดหยิบผิดด้วยอุบาย | แยบคายหญิงร้ายแสนกล | ||
พอถึงอ้อนตะบึงตะบอนบอก | ทำย้อนยอกน้อยฤาสับสน | ||
รู้สิ้นแล้วลิ้นลาวน | สายทองมึงก็คนร่วมคิด | ||
จะป้องปิดมิดควันกระนั้นฤา | จะอึงอื้อฉอเลาะลบกลบเอาผิด | ||
ไม่ทันรู้เลยเจ้าเหล่างูพิษ | เชื่อสนิทคิดจะตอดไม่รอดตัว | ||
แหมแม้นี่แน่นางคนดี | เขี้ยวมีขนได้ทั้งก้นหัว | ||
ปลอบโดยดีไม่มีความเกรงกลัว | แกล้งเย้ายั่วผัวให้หมางใจ | ||
กูรู้เท่ามึงแล้วพิมเอ๋ย | จะให้เลยตามเลยหาผัวใหม่ | ||
ลงมาค้อนตีปลาหน้าไซ | ไม่ให้ขึ้นไปฤาที่บนเรือน | ||
จักพบอ้ายขุนช้างมากางกั้น | เออกระนั้นแล้วซีอีคนเปื้อน | ||
ชอบชู้แล้วมิหนำทำบิดเบือน | ชั่วกระไรหนอช่างเหมือนกากี | ||
ตายเสียเถิดจะอยู่ดูหน้าใคร | เลี้ยงเจ้าไม่ได้แล้วบัดสี | ||
พระสมุทรเจ้าเอยลึกเต็มที่ | ก็ไม่เหมือนนางนี้เลยลึกซึ้ง | ||
กว้างขวางปากอ่าวแล่นล่องเสียด | ก้าวกระเดียดสุดดิ่งจะทิ้งถึง | ||
จะฝ่าคลื่นฝืนละลอกข้ามตะบึง | กูกลัวลมเพชรหึงจะรุมร้อน | ||
โบราณว่าได้คิดไม่ผิดดอก | แต่ด้ามหอกไม่ทันพ้นรั้วก่อน | ||
หญิงชั่วน้ำกลั้วใบตองบอน | จะราร่อนคบชู้มาสู่เชย | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
หนักเอยหนักหนา | อีลาวฉะอ้อนเป็นบ้าไปแล้วเหวย | ||
พล่ามน้ำลายตะกายเปล่าเดาเลย | อกเอ๋ยไม่ชั่วเป็นตัวเป็น | ||
เจ้าลิ้นทองหกหันผูกพันพัว | ปั้นน้ำเป็นตัวใครบอกเห็น | ||
ยิ่งแค้นหนักแสนสาน้ำตากระเด็น | ว่ากันเล่นเปล่าเปล่าเจียวเจ้าพลาย | ||
รู้แล้วว่าสางจะร้างที่ | ก็บอกแต่โดยดีจะหนีหน่าย | ||
เจ้าเศษราชสีห์ทำตะกาย | จะกัดหินให้ทลายถ้ำพัง | ||
แม้นพ้นมือวันทองไปไม่ช้า | หม่อมข้าจะเชิดหน้าเป็นพระงั่ง | ||
จะเป็นเอี่ยวพญาโด่งดัง | เพราะอีลาวเซซังมันชุบเลี้ยง | ||
สมน้ำหน้าหม่อมผัวหัวแดง | นางกระเหว่าระดูแล้วจะส่งเสียง | ||
วาสนาข้าสิ้นแล้วไม่ควรเคียง | เท่านั้นเถิดข้าไม่เถียงแล้วตามที | ||
จึงว่าแก่สายทองจองจ้าน | ล้างตะพานบ้านเรือนเอาตีนสี | ||
ได้ตรวจน้ำคว่ำกะลากันวันนี้ | อันจะกลับคืนดีอย่าสงกา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ศัพท์ไทย | |||
น้อยเอยน้อยฤา | กล้าปากกล้ามือสิเอาสิหวา | ||
ชักดาบแกว่งมา | เงื้อง่าจะฟัน | ||
ลาวทองทำกลัว | ห้ามผัวตัวสั่น | ||
เข้าขวางกางกั้น | ตัวขยันซ่อนกล | ||
ในใจไม่ละ | เอานะแยบยล | ||
ทำดีทีชน | สายสนวิงวอน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
พ่อเอยพ่อคุณ | อดใจได้บุญจงงดก่อน | ||
สุภาษิตพะพาลอย่างราญรอน | สุนัขร้ายเห่าหอนจำหนีตัว | ||
สิ่งชั่วเหลวไหลอย่าไล่ราน | จะกระเด็นเซ็นซ่านระคายกลั้ว | ||
จะพลอยเปรอะเลอะละมอมตัว | น้องจะเป็นคนชั่วยุยง | ||
ถึงเธอด่าว่าไม่ถือเธอ | ด้วยเป็นคนมะเมอลุ่มหลง | ||
ถือว่าเป็นเมียเดิมเหิมทะนง | ไม่คิดเลยว่าหงส์หลงลงเลน | ||
ชิงดาบที่มือมาใส่ฝัก | เอ็นดูอย่ารั้งหยักถกเขมร | ||
เข้ายื้อแย่งเปลื้องสดปลดกระเบน | อย่าให้น้องมีเวรเวราไป | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ได้เอยได้ฟัง | วันทองไม่ยั้งอดได้ | ||
ยิ่งกว่าโกร่งโพลงพลุ่งดังเปลวไฟ | ร้อนกลุ้มสุมไหม้อุระรุม | ||
ร้องว่าอีเกรงเวรบำบัดบาป | มึงซ่อนหยาบมิให้ใครเข้าหลุม | ||
ชิงผัวเขาไปได้ไว้กำกุม | รอดนรกหลายขุมแล้วอีลาว | ||
ผัวมึงจะได้พลอยขึ้นสวรรค์ | เหาะด้วยกันเถิดเชิดฉิ่งฉาว | ||
กูจะคอยชมบุญมึงสักคราว | ผัวอีลาวเจ้าจะเลี้ยงเป็นออกญา | ||
ได้ความชอบตีเมืองเชียงทองถวาย | ได้ย่ายายมาประดังพรั่งหน้า | ||
คิดบ้างเป็นไรแต่หลังมา | ชอบมิดปิดตาเสียแรงเรา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
วาเอยวาจา | หยาบช้าน้อยฤาฟังดูเจ้า | ||
อย่าห้ามเลยตามทีเถิดทำเนา | มันแกล้งเย้าเขี่ยฝอยให้ไฟฮือ | ||
ชิงดาบมาไม่ได้จากลาวทอง | ฉวยได้ไม้ตีฆ้องขว้างดังหวือ | ||
วันทองหลบล้อล่อตบมือ | ไล่ตีกันอึงอื้อพัลวัน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
หวาดเอยหวาดจิต | ร้องกรีดวิ่งหนีตัวสั่น | ||
กับสายทองโดดขึ้นจากเรือพลัน | กระทืบตะพานลั่นสนั่นไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
มาเอยมาถึง | ขึ้นเรือนรำพึงถอนใจใหญ่ | ||
ทุ่มทอดตัวนอนเร่งร้อนใจ | ฉุกคิดขึ้นได้สิได้เกิน | ||
โทโสเจ้ากรรมทำแค้นเข็ญ | ไม่ควรเป็นฤาเป็นจึงค้างเขิน | ||
ผัวมาดีใจไปเชื้อเชิญ | กรรมเผอิญทำให้ตัดรอน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
โอ้พ่อพลายแก้วของเมียเอ๋ย | ใครเลยจะช่วยห้ามไว้ก่อน | ||
ให้งดโกรธขอโทษวิงวอน | โอดอ่อนรำพันร่ำไร | ||
วันทองเอ๋ยทำชั่วผัวได้ห้าม | วู่วามไม่ลดอดได้ | ||
จนเธอเคลือบแคลงแหนงใจ | สิ่งดีทำไว้ไพล่พลิกแพลง | ||
ไม่ชั่วก็ชั่วแล้วครั้งนี้ | เหมือนจันทรอับศรีสิ้นแสง | ||
วลาหกตกสิ้นระดูแล้ง | นับวันแต่จะแห้งร้อนแรงรุม | ||
ผลไม้เคยงอกใบระบัดช่อ | ผลิผลเน่าฝ่อจะหล่นสุม | ||
สกุณชาติจตุบาทร้องประชุม | จะแย่งเหยียบจิกกลุ้มระยำเยิน | ||
แสนซื่อสุจริตไว้ท่าผัว | มิได้ปนระคนชั่วระหกระเหิน | ||
หมอทายทัดไม่ประหยัดระมัดเกิน | เพราะเผอิญใจเร็วไม่รั้งรา | ||
ถึงผัวรักก็คงเป็นเมียน้อย | ค่อยค่อยช้าช้าจะดีกว่า | ||
เหยียบเต่าให้เต็มบาทา | คั้นลูกสกุณาไว้ในมือ | ||
มิวันนี้วันโน้นจะโดนปะ | คงมีวันพระไปไหนฤา | ||
ด่านได้ทำใจฮึดฮือ | อึงอื้อรีบโกรธจะโทษใคร | ||
อึดอัดตัดรอนกันเสร็จสิ้น | จนให้มันชิงบินเอาไปได้ | ||
อกเอ๋ยจะคิดฉันใด | จนใจโอ้ไห้พิไรครวญ | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
แค้นเอยแค้นจิต | สุดคิดฟูมฟองนองกำสรวล | ||
เป็นสตรีสามีร้างเรรวน | ชายจะลวนหยามย่ำระกำเยา | ||
แล้วขุนช้างจ่อร่อรออยู่นี่ | จะได้ทีมันแล้วทีนี้เจ้า | ||
ท่านแม่ก็โลภมิใช่เบา | จะสมคะเนเต้นเรายงยุ | ||
เมื่อรูปทรงไม่น่าเสน่หา | ราวหนึ่งว่ากากเก้อมะเมอดุ | ||
กิริยาหยาบคายมุทะลุ | หัวหูดังสุลูกตาลยี | ||
สุ้มเสียงคลื่นไส้น่าอาเจียน | ผัวงามจะเปลี่ยนอ้ายผัวผี | ||
พิมเอ๋ยจนใจแล้วเต็มที | ตายเสียเถิดเห็นดีกว่าเป็นคน | ||
จะดูหน้าใครได้ย่านสุพรรณ | แต่เขาแลตากันแสยงขน | ||
สุดที่จะดื้อด้านทานทน | ผัวสองเปลี่ยนปนยังลืมตา | ||
จะซ่อนปิดมิดมุดไว้ที่ไหน | ปะเข้าเมื่อไรเหมือนแก้ผ้า | ||
จะได้แต่ความอายอิดระอา | โอ้ว่าพ่อพลายของเมีย | ||
แต่ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงน้อง | เกินน้อยมิได้พร้องสู้นิ่งเสีย | ||
ไม่ว่างสมชมเคล้าเย้าหยอกเยีย | หนักเบาไกล่เกลี่ยอดลด | ||
ครั้งนี้พิมผิดจริงจริงพ่อ | หม่อมก็รออยู่เหลือที่จะอด | ||
น้องก็ไม่นอกในน้ำใจคด | เพราะกฎกรรมซ้ำระยำแล้ว | ||
ทำไฉนผีสาวเทวดา | เชิญช่วยไปลาหม่อมพลายแก้ว | ||
จะจำตายห้อยห่วงด้วยบ่วงแร้ว | มาเผาเถิดจะแพ้วอสภคอย | ||
สุดสิ้นชีวิตแลจะเห็น | ดีร้ายตัวเป็นชั่วถ่อย | ||
ชาติโน้นอย่าขอพบกลบรอย | อ้ายขุนช้างแต่ชื่อหน่อยอย่าได้ยิน | ||
จะขอคอยพบแต่หม่อมพลายแก้ว | แสนเสน่ห์สุดแล้วไม่สูญสิ้น | ||
กว่าจะล่มแผ่นฟ้าแดนดิน | เทพเจ้าอมรินทร์เป็นพยาน | ||
แค้นคิดพยาบาทลาวทอง | ถึงตายแล้วคงจะปองมาประหาร | ||
หักคอให้ม้วยวายปราณ | โมหะดาลเดือดใจมันไส้พุง | ||
แล้วชักผ้ามาตะบิดผูกคอ | ไม่ย่อท้อถอยหลังเหมือนอย่างกุ้ง | ||
รวบรัดกระหวัดเข้ากับราวมุ้ง | กระโดดผลุงลงไปจะให้ตาย | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ | |||
เชิดฉิ่ง | |||
พลัดตกจากเตียงเสียงต้ำตึง | เงื่อนหลุดลุกทะลึ่งคะมำหงาย | ||
ผีตายโหงเข้าซ้ำประจำกาย | แทบจะตายวายวอดมอดม้วย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ลาวทองวิ่งถลาเข้ามาช่วย | ||
เห็นวันทองหอบหายใจรวย | นั่งระทวยร้องบอกกันออกอึง | ||
บ่าวไพร่ตกใจไขว่นักหนา | วางวิ่งวุ่นมาโดนฝาผึง | ||
ตกล่องล้มปะทะกันดังตึง | ใครถึงขยำขยับจับเทพจร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ศรีประจันนอนสายไม่ตื่นก่อน | ||
เสียงอึงทะลึ่งมาถอดกลอน | มัวนอนหัวหกตกกระได | ||
เมื่อยมึนขัดขาหน้าตะโพก | ยืนโขยกขืนเขย่งไปไม่ได้ | ||
เก่นตะโกนโวยเหวยมันทำไม | ลูกกูเป็นไรเร่งบอกมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนช้างนอนหอรอคอยท่า | ||
กลางคืนรื่นรมย์ชมนึกมา | หลายราตรีตากตาแก้วตาแพรว | ||
คืนวันจวนรุ่งเคลิ้มหลับใหล | จนตะวันโด่งไกลเขาฉ่าฉาว | ||
ตกใจตื่นไม่รู้เรื่องราว | โดดจากหอพุ่งยาวลงมาดิน | ||
ประจวบคร่อมเท้าศรีประจัน | หกหันกลับหงายพลิกกายผิน | ||
ขอโทษแม่เถิดกลัวผีพลอยกิน | จึงชิงบินข้ามเสียให้สิ้นแคลง | ||
จะลุกต่อไปอีกก็ไม่ได้ | ขัดสะบักยอกไหล่ตัวแข็ง | ||
ทำช่วยนวดศรีประจันฟั้นแรงแรง | แม่ด่าว่าเกินแกงไปแล้ววะ | ||
ขุนช้างว่าฉันตะบันฟั้นหาเส้น | ปะแต่เอ็นกับกระดูกเกะกะ | ||
เส้นจมเสียหมดหดเคะคะ | ขยำกันเปะปะอยู่สองคน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สายทองแยบคายสายสน | ||
แก้วันทองน้องคลายไม่วายชนม์ | วิ่งด้นรีบมาที่ท่าน้ำ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ชุบ | |||
ถึงเอยถึงท่า | มายาแกล้งพิไรร้องร่ำ | ||
จะลงไปในเรือกลัวระยำ | หม่อมพลายจะตีซ้ำหวั่นหวาดใจ | ||
อยู่แต่บนตะพานร้องว่า | ใครอยู่หน้ากัญญาเรียนให้ได้ | ||
ว่าแม่วันทองจะบรรลัย | กลับขึ้นไปบนเรือนผูกคอตาย | ||
อุตลุดพัลวันช่วยกันแก้ | นิ่งแน่นวดฟั้นยังไม่หาย | ||
ไปดูใจน้องน้อยเถิดคุณชาย | จะวอดวายเสียแล้วครั้งนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแว่วสดับตรับถ้วนถี่ | ||
จำเสียงได้สายทองมันตัวดี | เอ๊ะอีนี่มารยาฤาว่าจริง | ||
ยังอาลัยถอนใจรื้อดาลโกรธ | รุมพิโรธตริตรึกนึกนิ่ง | ||
เปลี่ยนใจไปมาหวั่นประวิง | ดีก็มีหลายสิ่งน้ำตาเล็ด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้องว่าฉาไม่เข็ด | ||
หม่อมร้องไห้ฤาไรเอามือเช็ด | จะกลับกินบอระเพ็ดฤาคุณชาย | ||
ขมสะเดามะระพอกลืนบ้าง | บอระเพ็ดพุงช้างขมฉิบหาย | ||
หม่อมจะขืนเลี้ยงคนแสนร้าย | ข้อยจะโดดน้ำตายเสียแล้วคะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนพริบไหวไม่ดอกหนะ | ||
ผงเข้าตาระคายเคืองจริงวะ | นี่ขยะอะไรปลิวมา | ||
ชิชะจะโดดน้ำตาย | ไม่วอดวายกลับคืนมาหาข้า | ||
แล้วจึงค่อยทำใหม่ให้เต็มประดา | เมื่อไรเล่าจะท้ากูดำน้ำ | ||
แล้วร้องว่าแน่ะนางสายทอง | หญิงชั่วกูไม่ปองอย่าพักร่ำ | ||
ช่างใครตามบุญตามกรรม | มันตัดรอนตรวจน้ำคว่ำกะลา | ||
มาบอกกูไยอีคนพล่อย | น้อยฤาเมื่อตะกี้ไยมิว่า | ||
แต่เดิมเสริมส่งกันลงมา | ฝูงอีกาดำปลอดตลอดใจ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าแล้ว | พลายแก้วจึงสั่งบ่าวไพร่ | ||
ผูกช้างมาเร็วเร็วกูจะไป | บ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | นายหมวดบ่าวไพร่อึงมี่ | ||
ผูกช้างม้าวุ่นวิ่งเป็นสิงคลี | ของดีดีบรรทุกสัปคับ | ||
ที่คอนหาบใส่หาบจัดยุ่ง | ไถ้ถุงคาดเอวเสร็จสรรพ | ||
เตือนกันว่าอย่าให้อะไรยับ | ได้มาแต่ทัพฝากภรรยา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแสร้งชื่นฝืนหรรษา | ||
ชวนลาวทองให้เสพโภชนา | แล้วชำระกายาเยือกเย็นใจ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ชมตลาด | |||
ขุนแผนนุ่งยกทองเจ็ดสี | พื้นเขียวอย่างดีระกำไหม | ||
ลาวทองนุ่งหิ่งห้อยชมไพร | แต่งตัวอย่างไทยวิไลวรรณ | ||
ขุนแผนรัดรัดประคดหนามขนุน | คาดเข็มขัดลายดุนดวงกุดั่น | ||
ลาวทองใส่เสื้อหงอนไก่งามครัน | ขลิบคั่นสีฟ้าดวงพุดตาน | ||
ขุนแผนใส่เสื้อเข้มขาบอย่างดี | พื้นแดงเกล็ดถี่เกี้ยวส่าน | ||
ดิ่งตะกรุดประคำทองของประทาน | ใส่อวดชาวบ้านโพกขลิบครุย | ||
ลาวทองห่มแพรสีน้ำเงินเพลาะ | ดวงเหมาะหลินปากเถาดูพราวฉุย | ||
มุ่นมวยห้อยพวงดอกไม้กรุย | ปักปิ่นกันลุ่ยเรือนรังแตน | ||
ช้องหูลานคำสำหรับใส่ | สอดกำไลเกลียวสุวรรณพันปลายแขน | ||
มิเสียทีพามาแต่ต่างแดน | เมขลาก็จะแม้นละกลกัน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ครั้นแล้วขึ้นจากนาวี | จะมาขึ้นกิริณีขมีขมัน | ||
พี่เลี้ยงสาวเวียงสาววัน | ก็ผายผันตามมาทั้งสองคน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เสมอ | |||
ครั้นเอยครั้นถึง | ริมบึงนอกรั้วแนวถนน | ||
ที่ประชุมช้างม้าไพร่พล | ต่อถนนหลังบ้านจะผ่านไป | ||
ขุนแผนลาวทองร่วมช้างกัน | สาวเวียงสาววันจัดช้างให้ | ||
พังละว้าได้มาแต่อุไทย | สั่งคนขี่ขับให้ทันช้างกู | ||
ยืนช้างจัดแจงหาบคอน | ตรงกับเรือนที่นอนวันทองอยู่ | ||
ถอนใจอาลัยเหลียวแลดู | สายทองบอกจัดใคร่รู้ว่าจริงเท็จ | ||
คิดในใจใคร่ให้ไปไถ่ถาม | หักใจตามแต่ถนัดมันตัดเสร็จ | ||
ชลนัยน์ไม่ฟังหลั่งไหลเล็ด | ลอบเช็ดมิให้เห็นอายลาวทอง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | วันทองกำสรดอยู่ในห้อง | ||
ผูกคอตายไม่วายดังใจปอง | บ่าวไพร่พวกพ้องแก้ไว้ฟื้น | ||
ยิ่งระบมระทมทุกข์แสนทวี | ทั้งเจ็บอายสุดที่จะฝ่าฝืน | ||
ตัวกูไม่อยู่แล้วให้ยาวยืน | ตริพลางทางสะอื้นโศกา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
บัดนั้น | สายทองขึ้นมาแต่ตีนท่า | ||
ร้องไห้ฟูมฟายน้ำตา | ตรงมาสู่ห้องวันทอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
ชุบ | |||
มาเอยมาถึง | วางตะบึงเข้าไปในห้อง | ||
สวมกอดพิมเข้าเร่าร้อง | กรรมของน้องจริงจริงยิ่งรัญจวน | ||
เล่าความที่ลงไปหาคุณชาย | บรรยายให้ฟังถี่ถ้วน | ||
ดังหนึ่งล่องน้ำเชี่ยวไม่เหลียวหวน | สั่งกันด่วนรีบรัดจัดจะไป | ||
ผูกช้างม้าหาบคอนผ่อนบรรทุก | เกษมสุขเห็นหาเอื้อเฟื้อไม่ | ||
เหมือนเด็ดก้านบุษมาลย์ไม่ไว้ใย | จะไปบ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
สายเอยสายทอง | เคราะห์น้องเป็นได้ไม่พอที่ | ||
อัดอั้นตันใจไม่สมประดี | สองนารีร่ำไห้ไปมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
สร่างเอยสร่างไห้ | เสียงอะไรนอกบ้านอึงนักหนา | ||
เสียงคนเสียงช้างเสียงม้า | แว่วผวาสำเนียงเสียงหม่อมพลาย | ||
ดำรงยืนเยี่ยมหน้าต่างแลดู | สำคัญรู้ผัวจะไปใจหาย | ||
พ่อทิ้งเมียได้ให้จำตาย | นึกเสียดายตะลึงแลชะแง้งง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ทยอย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเหลือบเห็นยังพิศวง | ||
รอรักเมียเสียดายรูปทรง | อาลัยหลงทักแน่แอ้เจ้าพิม | ||
พิมเอ๋ยยังงามนักหนา | อื่นได้เห็นมาไม่ปานปิ้ม | ||
เคลิ้มทำแยบคายพรายพริ้ม | แย้มยิ้มให้คิดขวยใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองสรวลร่าว่ามันไส้ | ||
ได้ยินบ้างฤาไม่ใครว่าไว้ | ว่าไม่อาลัยตัดรอน | ||
ปากใจหนอไม่เหมือนกัน | ผีจึงแสร้งแหล่งสำคัญให้สังหรณ์ | ||
ไม่รู้ว่าชาวใต้ใฝ่สาระวอน | แม้นรู้แล้วชาวดอนไม่มาเลย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ปีนตลิ่ง | |||
ได้เอยได้ยิน | ใครนินทาข้าต่อหน้าเหวย | ||
จริงฤาหยอกบอกมาอย่าเยาะเย้ย | มือข้าเคยหยิกปากคนคารม | ||
เราก็เชื่อรูปเราว่าเพราพริ้ง | ปะแม่หญิงคงจะตามมาสู่สม | ||
จับคางสั่นนี่ใครเราได้ชม | กูบจะล้มนะต้องตีอย่าหนีมือ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
อย่าเอยอย่าว่า | ขอไปทีเถอะขาหาไม่ฤา | ||
เชื่อดีรูปงามเลื่องลือ | เมียจึงอื้ออยู่ข้างบ้านแต่งงานการ | ||
หม่อมตัวงามทรงเมียจงรัก | จึงไปสมัครหาอื่นมาสมาน | ||
ชมกันเถิดเมียเยี่ยมหน้าต่างทะยาน | ช่างไม่อายชาวบ้านเลยคุณชาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนกลบเกลื่อนเสียให้หาย | ||
เท่านั้นเถิดอย่าว่าวุ่นวาย | มันสายแดดจะร้อนอ่อนแรงคน | ||
ว่าพลางทางให้เดินผ่อน | ไปก่อนไปหลังอย่าสับสน | ||
แล้วขับช้างไคลคลามากลางพล | จรดลออกทุ่งตัดตรงไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ กราวนอก | |||
โทน | |||
พังเอยพังอาจ | แสนฉลาดหลังดีไม่มีไหน | ||
บัดย่างคลาดคล่องว่องไว | ขับใหญ่สะเทินดีมีฝีท้าว | ||
กิริยาไว้หน้าปรบหูหาง | วิ่งวางถูกทำนองทุกฝีก้าว | ||
เทริดเสาตัวกลมสมยาว | หางดอกตาขาวกระกลาย | ||
เล็บผ่องไม่แซมเสี้ยนโตนด | เม้มโอษฐ์ขันขบงามขนาย | ||
งามรูปแต่ละอย่างกว่าช้างพลาย | สีกายดำขลับหม่นมัน | ||
พังละว้าตามติดชิดมา | ล้อเล่นเจรจากันขันขัน | ||
ตัดทุ่งมุ่งไม้พุ่มไพรวัน | หยอกกันมาในสัปคับ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
เมื่อนั้น | พิมเห็นผัวไปลมจับ | ||
ซบลงกับหน้าต่างคอพับ | จะคืนกลับมาที่นอนเต็มที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
บัดนั้น | สายทองเข้าประคองนางโฉมศรี | ||
พามาที่นอนผ่อนสมประดี | พูดเอาใจน้องพี่รั้งรอดู | ||
ฉันคาดน้ำใจหม่อมพลายแก้ว | เห็นแล้วคงจะกลับมาอยู่ | ||
ไม่ช้าดอกแม่คงจะได้รู้ | ปลอบกันบ้างทางขู่กันสองคน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนป่วนจิตคิดสับสน | ||
เปลี่ยนใจนึกไขว่อลวน | เหลียวมายลดูบ้านรำคาญครัน | ||
พิศดูเมียใหม่ที่ได้มา | ทรวดทรงขนงหน้าดูคมสัน | ||
ปรนนิบัติอื่นอื่นดีทั้งนั้น | แต่สำคัญทรลักษณ์ด้วยการกิน | ||
อึ่งตะกวดตุ๊ดตู่งูเงี้ยว | ช่างกระไรเลยเคี้ยวกินเสียสิ้น | ||
อาหารหยาบคายเป็นอาจิณ | มลทินรังเกียจเกลียดระอา | ||
พิมเอ๋ยพี่ยังอาลัยอยู่ | การกินรู้สารพัดจัดหา | ||
ไม่เปื้อนเปรอะเหมือนลาวชาวพนา | น้ำมือโอชาอร่อยรส | ||
จะเพราพริ้งก็ไม่ยิ่งหย่อนแก่กัน | สิ่งสำคัญลับลี้ล้วนดีหมด | ||
ไทยงอนลาวอ่อนระทวยทด | กัลเม็ดปรากฏทั้งสองนาง | ||
บูราณว่าอย่าให้มีเมียสอง | ทีนี้ต้องตำราไขว่ใจหมาง | ||
แสนคำนึงรำพึงมาตามทาง | หน้าเผือดเลือดจางพลางถอนใจ | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ลาวทองถามว่าหม่อมเป็นไร | ||
ทำผะอืดจืดจางหมางอันใด | ถอนใจใหญ่คอแห้งกลืนเขฬะ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผงตอบว่าไม่ดอกหนะ | ||
ช้างคลอนขย่อนโยกโรคปะทะ | ประหนึ่งจะอาเจียนเวียนมึนมัว | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | รู้ท่าแล้วคะเจ้าคุณผัว | ||
จะกลับไปหาเมียไปแต่ตัว | ฉันนี้กลัวมันนักไม่มักเมีย | ||
ส่งเสียจากช้างไว้กลางป่า | จะยอมม้วยมรณาเป็นเหยื่อเสือ | ||
มารยาแสร้งบีบน้ำตาเจือ | บ่นว่าโอ้เนื้อกรรมทำร่ำไร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
จึงเอยจึงว่า | อะไรนี่มันไม่น่าร้องไห้ | ||
ฟ้าผ่าพี่เถิดให้ผิดไป | ช้าไม่ได้คิดคะนึงถึงวันทอง | ||
ลาวทองน้องข้าอย่าร่ำ | มองดูแล้วทำเอามือป้อง | ||
นี่จริงฤาเล่นลองลอง | เสือสมิงเมียงมองจะกินลาว | ||
เนื้ออื่นมันไม่ปรารถนา | เห็นว่าลาวทองกำเดาะสาว | ||
ชุ่มมันไว้ฉันได้ยืดยาว | ตั้งเต่งเคร่งราวกับเปล่งปลี | ||
ว่าพลางสัพยอกหยอกเย้า | ต้องเต้าใครบอกจะหน่ายหนี | ||
หนูผีขี้แยเต็มที | เอามือจี้ที่แก้มกระแอมล้อ | ||
คนเก้อเอ้อเร้อนี้ดูขัน | ลาวทองเหลือกลั้นก็หัวร่อ | ||
จะสิ้นงามเสียแล้วเจ้ามอลอ | คราบน้ำตาเป็นต่อหม่อมแมวคราว | ||
ร้องไห้ปนสรวลสำรวลร่า | ผัดหน้าเสียใหม่เถิดให้ขาว | ||
ระยะทางที่จะไปยังยืดยาว | ข้าอายแก่ชาวบ้านรำคาญครัน | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ชมดง | |||
ว่าเอยว่าพลาง | ชวนนางให้ชมพนาสัณฑ์ | ||
พิศพรรณมิ่งไม้ในไพรวัน | แจงจันทน์กระเจี้ยงจิกจวง | ||
กาหลงแกแลกาลา | มูกมันโมกลามูกหลวง | ||
พลวงหนูพลวงใหญ่พลับพลวง | มะไฟพวงห้อยระย้าริมทาง | ||
ปริงปรางปริกเปราะปรูปรง | มหาหงส์เหียงหาดเสลาสล้าง | ||
ตะแบกตะบากเต็งรังหูกวาง | ตะเคียงข่อยเค็ดคางทั้งแคแตร | ||
ไข่เน่าขนุนสนุ่นเสนียด | สีเสียดสีสนหวายแล้ | ||
โกงกางตุมกาตุมแก | หว้าแหว้วายเว้ผาวัง | ||
ช้องนางช้างน้าวรอยหัก | สีสุกสักศรีสิทธิแซมมะสัง | ||
กระแตไต่กระทั่งติดตรังตัง | มะตาดต้องต้นสะพรั่งกะตังบาย | ||
กุ่มบกพรมคดตีนเต่า | นกเขาเงากระทิงมหิงส์หาย | ||
แม่ยายปกต้นลูกเขยตาย | กระลำพักผีพ่ายพุงดอ | ||
มะเดื่อดินลำดวนดงราชดัด | กำจัดกำจายจิงจ้อ | ||
ประยงค์แยงแย้ยางยอ | สมีสมอเสม็ดซ้องแมว | ||
เหลาหลกลางลิงลานเสลา | แมลงเม่าหมากมาดแต่งแต้ว | ||
ไผ่ผากโพบายพัดแพว | เกดแก้วพิกุลกรรณิการ์ | ||
ขี้เหล็กเลือดเหมือดคนร้อยคุณ | เข็มยี่สุ่นคางแดงมะค่า | ||
ลักกระจั่นพุงจาบจันทนา | เถาสะบ้าลำบิดขมิ้นเครือ | ||
สนสร้อยสนแกลบสนทะเล | ตีนจระเข้ย่างทรายตาเสือ | ||
ขี้อ้ายหางกรายมะเกลือ | เห็นมะเดื่อสุกดกดาษแดง | ||
ผลมะเดื่องามดังปัทมราช | ข้างในล้วนกิมิชาติบ่อนแสลง | ||
นารีชั่วสุดที่ระวังระแวง | บุราณว่ามิได้แกล้งกล่าวเลย | ||
เสียดายเมียเสียน้ำใจน้ำตาปรอย | รูปงามใจถ่อยนักพิมเอ๋ย | ||
รำพึงพลางมิได้มีความเสบย | ทำเป็นเฉยชมไม้แกนแกน | ||
ฯ ๒๔ คำ ฯ เชิด | |||
ตะวันเอยตะวันเที่ยง | แดดเปรี้ยงร้อนนักเหลือแสน | ||
ถึงบึงหนึ่งใหญ่เป็นแว่นแคว้น | ขอบหนองแน่นสะตือชื้อชิด | ||
น่าสนุกสนานนักหนา | ถามบ่าวบอกว่าน้ำสนิท | ||
ใสเย็นดังว่าสุรามฤต | ลูกกุ้งปลานิดนิดก็เห็นตัว | ||
จึงชวนลาวทองภรรยา | จะหยุดอาบน้ำท่าแก้ปวดหัว | ||
ระงับกายให้สบายหายมึนมัว | ลมตกจึงผัวจะพาไป | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
แล้วปลงช้างม้าหาบคอน | เหนื่อยมาบ้างนอนเดินไขว่ | ||
บ้างหาฟืนจะหุงข้าวสีไฟ | เก็บผักที่กินได้บ้างอาบน้ำ | ||
สบายใจเต้นรำทำเพลง | โฉงเฉงชกต่อยปะเตะปล้ำ | ||
บ้างโจนลงในหนองคะนองดำ | เอาโคลนมอมกันระยำเปื้อนเลอะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อเอยเมื่อนั้น | ขุนแผนชวนลาวทองว่ามาเถอะ | ||
โยนางพี่เลี้ยงยังนั่งเคอะ | เรียกแล้วยังเซอะไม่ใคร่ลุก | ||
เร็วเร็วไปอาบน้ำชำระกาย | ล้างเหงื่อเสียให้สบายจะได้สุข | ||
แรงร้อนจะได้ผ่อนบรรเทาทุกข์ | แลดูหนองฤาสนุกเป็นพ้นใจ | ||
ลาวทองพี่เลี้ยงตามมา | หยิบผ้าอาบพาดบ่าเอามาให้ | ||
ถึงท่าน้ำว่ามาถึงถิ่นไทย | แก้ผ้าอาบมันไม่ได้เหมือนเมืองลาว | ||
ที่เขาไม่เคยเห็นจะชวนกัน | แยกเขี้ยวยิงฟันสนั่นฉาว | ||
จะระบือลือเล่าเป็นเรื่องราว | ว่าหญิงลาวหาวได้ใต้สะดือ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | เสกสรรแสร้งว่าน้อยไปฤา | ||
โกรธาถลาเข้าแย่งยื้อ | ทำฮึดหือจะใคร่หยิกให้ยับเยิน | ||
ยิ่งกว่าเป็นเบื้อไม่มีอาย | คมค้อนเมียงม่ายระคางเขิน | ||
ขุนแผนขออภัยได้ว่าเกิน | ล้อหลอกหยอกเอินกันไปมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
น้ำเอยน้ำใส | อาบเล่นเย็นใจหรรษา | ||
ขุนแผนลาวทองภรรยา | พี่เลี้ยงเสน่หาสองนารี | ||
สี่คนบันเทิงเริงรื่น | ชุ่มชื่นชำระกายขัดสี | ||
เห็นบัวหลวงเผื่อนขมบรรดามี | ยินดีจะใคร่ได้กลัวน้ำลึก | ||
อ้อนวอนหม่อนผัวช่วยเก็บให้ | ขุนแผนว่าไปไม่ได้กลัวปลาบึก | ||
ลาวทองว่าหม่อมเป็นทหารฮึก | จะทำศึกอย่างไรกลัวเต่าปลา | ||
ขุนแผนว่าในน้ำไม่เห็นตัว | บนบกยังชั่วดีกว่า | ||
ถึงอย่างไรก็ให้เห็นหน้าตา | สู้กันได้หลายท่าด้วยไม้มือ | ||
อย่าประมาทสัตว์น้ำปลาเต่า | ขบสำคัญเข้ามิชวดฤา | ||
จะเอ้อเร้อเก้อเปล่าฮึดฮือ | ก็จะเป็นแต่ชื่อว่าตากุญ | ||
ลาวทองว่าไฮ้อะไรนี่ | ไม่พอที่จะว่าก็ว่าวุ่น | ||
เก็บให้น้องหน่อยเถิดเจ้าคุณ | ถวายพระเอาบุญด้วยกัน | ||
ขุนแผนว่ายแหวกแทรกเก็บบัว | แล้วทำกลัวประดักน้ำทำตัวสั่น | ||
ลาวทองมาช่วยพี่ซีให้ทัน | ปลาบึกมันจะกินพี่เสียแล้ว | ||
ลาวทองพี่เลี้ยงร้องหวีดหวาด | เอาน้ำสาดเป็นไรจึงดิ้นแด่ว | ||
ไหนปลาเล่าเปล่าเปล่าไม่วี่แวว | หม่อมพลายแก้วลวงน้อยให้ตกใจ | ||
ขุนแผนผุดทะลึ่งจึงว่า | นี่หากข้าชิงชกปลาก่อนได้ | ||
ฟันมันหักเขี้ยวหลุดมุดหนีไป | แม้นหาไม่ไหนจะรอดนะจริงจัง | ||
แล้วแหวกว่ายร่ายเก็บสัตตบงก์ | เลือกจงแต่ที่แดงตูมตั้ง | ||
สองดอกส่งให้ไม่รอรั้ง | เหมือนมังสังของใครเติบเต็มมือ | ||
จริงเจ้าลาวทองไม่ว่าเล่น | น่าใคร่เคล้นคลึงคลำขยำถือ | ||
ถูกของข้าแล้วคะอย่าแออือ | ไม่เหมือนจริงฤาจึงค้อนควัก | ||
แน่เจ้าลาวทองน้องพี่ | มาเล่นเรื่องเถิดดีสนุกหนัก | ||
หนองนี้ดีแล้วแก้วเมียรัก | นงลักษณ์สามนางเป็นกินนร | ||
อุณรุทต้องที่พี่จะเป็น | ไล่กันเล่นในน้ำสโมสร | ||
ร้องบทเชิดฉิ่งกลอนละคร | ตั้งท่าเหาะร่อนไล่สามนาง | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ เชิด | |||
คลาเอยคลาไคล | เลี้ยวไล่ยื้อยุดกั้นกาง | ||
ขุนแผนมิได้ขวยระคาง | แข่งเคียงมิได้ห่างราญรุก | ||
น้ำแหวกแตกฟองละอองฉ่า | คลื่นเป็นบ้าเต่าปลาตื่นสนุก | ||
ละลอกแซะแระฝั่งแฉะชุก | อุกคลุกอลหม่านทั้งบึงบัว | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | เป็นบ้าเมื่อไรนี่หม่อมผัว | ||
เล่นอะไรเช่นนี้ไม่รู้ตัว | ยิ่งกว่ามัวลำโพงตระโกรงไป | ||
เอออะไรไม่อายเขาบ้างฤา | คนอื้อแต่ล้วนบ่าวไพร่ | ||
เขาจะหัวเราะในใจ | เล่นด้วยไม่ได้อย่างนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เป็นเอยเป็นไร | ชู้เมียของใครเมียของพี่ | ||
พี่เลี้ยงเล่าก็เปล่ากับสามี | การกี้ของใครทำไมเรา | ||
บุราณว่ามีเหล็กก็เหมือนพร้า | ต้องกฎเขาว่าไว้แล้วเจ้า | ||
เพียงนี้ไม่พอจะหนักเบา | อย่าขืนขัดเปล่าเปล่าหน่อยหนึ่งเลย | ||
พลางไล่ไขว่คว้าสองสาวศรี | จับลองใครจะดีกว่ากันเอ๋ย | ||
สาวเวียงวัดปัดป้องทำนองเคย | สาววันเฉยแฉะช้าระกำกุม | ||
เต่งโตเหลวไหลละลาดพาด | สมกับลำมาดเกือบคับตุ่ม | ||
สองนางวิ่งโครมโรมรุม | ตกหลุมในน้ำคะมำเซ | ||
ทำเป็นพิโรธโกรธขึ้ง | เกรงลาวทองจะหึงจึงหันเห | ||
จริงใจนึกใคร่อยู่ลังเล | โดยคะเนให้ทีทั้งสองคน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองว่าเอออะไรไขว่สับสน | ||
ทำเช่นนี้สุดที่จะทานทน | สัปดนเล่นเล่ห์จะเทครัว | ||
เหตุว่าฉันมาแต่ผู้หญิงสาม | ลวนลามคุมเหงฤาคุณผัว | ||
ไม่เล่นแล้วลมพานไส้ใจสั่นรัว | แม้นเกิดกลั้วแน่นคอจะขอล้วง | ||
สำรอกรากอาเจียนเสียให้หาย | เป็นตายสิ้นท้องน้องสิ้นห่วง | ||
เล่นกันเถิดตามถนัดไม่ทักท้วง | ทำดังว่าตักบ่วงกันได้มา | ||
ลาวทองขึ้นเสียจากหนองน้ำ | เพ้อพร่ำรำพันบ่นบ้า | ||
ผลัดผ้าเสียพลันผันไคลคลา | สู่ฉายาชมรมร่มไทย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงสาววันรู้อัชฌาสัย | ||
ชวนกันจะตามลาวทองไป | ขุนแผนยุดมือไว้ทั้งสองคน | ||
นางเบี่ยงบิดปลิดแกะไม้มือ | แย่งยื้อชุลมุนวุ่นสับสน | ||
สาวเวียงว่าแต่ไหนมาได้ทน | แต่พอจนถึงบ้านหน่อยเป็นไร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
จึงเอยจึงว่า | ไม่สมหน้าตาฤาไฉน | ||
นางโรงอุณรุทเมืองไทย | จะเป็นไรเจียวเจ้าลาวกินนร | ||
สองตัวสามตัวมันพัวพัน | ปล่อยกินนรวันไปเสียก่อน | ||
ทรวดทรงระเหิดระเหินเหินชามช้อน | จะบินร่อนไปข้างไหนก็ตามที | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาววันน้อยจิตคิดบัดสี | ||
เสียใจด้วยหม่อมไม่ไยดี | ขวยเขินสะเทินทีค้อนควัก | ||
ไม่ช้าจะได้เห็นกัน | พยาบาทคาดคั้นเดือดอึดอัก | ||
หมายใจจะไปบอกน้องรัก | ยุลาวทองให้อักหลักด้วยโกรธา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ขุนแผนครั้นสาววันไป | ยึดสาวเวียงไว้แล้วจึงว่า | ||
สมจิตคิดแล้วนะแก้วตา | มุ่งมาดมาแต่หน้าเมืองกำแพง | ||
รู้บ้างฤาไม่น้ำใจเรา | นี่แน่เจ้ามิได้เสกสรรแสร้ง | ||
จริงจริงอย่ากริ่งหวั่นระแวง | อย่าพลิกแพลงหนีมือดื้อดึง | ||
จงจิตคิดมาจะปลูกฝัง | ถวิลหวังจนกระทั่งบุญถึง | ||
มากลางทางพยาบาทไม่ขาดคะนึง | กีดเกะกะจึงได้ละเลยมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าพลาง | สัพยอกหยอกนางทางหรรษา | ||
ไม่คลุกคลีทีถนอมด้วยกรุณา | ฉวยคว้าจับต้องแต่ปลายมือ | ||
พาชมดวงบุษบันเล่น | แทรกเร้นมาให้พ้นคนอยู่อื้อ | ||
เร่ร่ายชายแฝงเข้าดงปรือ | รกชื้อบื้อชักกลัดกอบัว | ||
ได้ท่วงทีที่ในเชิงสังวาส | ก็แอบอิงพิงพาดเข้าเย้ายั่ว | ||
เบี่ยงบ่ายพอให้รู้สึกตัว | เหน็บแนมแกมกลั่วระคนรัก | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงอกสั่นพรั่นหนัก | ||
คิดใคร่อยู่แต่ใจให้ทึกทัก | ทำพลิกผลักแล้วกล่าววาจา | ||
อะไรจะเลียมเล่นเช่นนี้ | มันไม่ดีหนานายพ่อคุณขา | ||
ฉันนี้ประดาษชาติช้า | เลี้ยงเป็นทาสข้าจึงจะควร | ||
ไม่อาจเอื้อมเลยล่วงให้เกินศักดิ์ | พิศพักตร์อยู่เช้าเย็นเห็นน่าสรวล | ||
ไม่รอดชั่วกลับเขาจะสำรวล | อย่ายียวนหยอกเย้าเลยเอาบุญ | ||
แล้วสาววันคงจะรันไปยงยุ | ลาวทองหล่อนจะดุหันหุน | ||
จะก่อเกิดวิวาทชุลมุน | หม่อมจะรำคาญขุ่นระคายเคือง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
สาวเอยสาวเวียง | อย่างหลีกเลี่ยงข้อนั้นจะปลดเปลื้อง | ||
ข้าห่อหิ้วพามาแต่บ้านเมือง | จะกระด้างกระเดื่องนั้นผิดไป | ||
ลาวทองมิใช่ง่องจะโง่โง่ | จะทำแต่โมโหหาเป็นไม่ | ||
เราขืนแข็งแรงเรี่ยวคงตามใจ | ไว้อัชฌาอาศัยไม่ดุดึง | ||
ทำไมกับนางเลอะเคอะสาววัน | มันไม่ขันที่จะเข้ามาหวงหึง | ||
จะยุยงอย่างไรอย่าพรั่นพรึง | ข้อที่ซึ่งพิศพักตร์อยู่เช้าเย็น | ||
กลัวเสียสรวลถ่อมควรแต่ช่วงใช้ | ยศศักดิ์ทำไม่ได้ไม่ว่าเล่น | ||
สุดแต่ใจต่อใจเอาเป็น | นัยน์ตาเห็นว่าดีไม่หนีตา | ||
หน้านี้ไม่ชั่วอย่ากลัวร้าง | ต้องส่วนนางลักษณะดีนักหนา | ||
ฉะนี้แล้วไม่เพี้ยนผิดตำรา | จะเป็นหม้ายผัวหย่าอย่าพึงคิด | ||
นี่แน่อุแม่เอ๋ยนางพี่นาง | ถึงจะแก่อ่อนอย่าหมางระคางจิต | ||
เหย้าเรือนเฝืองฝาทำมิดชิด | ไม้อ่อนดอกตะบิดผูกมัด | ||
ถึงแก่ก็แต่กับลาวทอง | เรียกพี่นางตามทำนองด้วยปากถนัด | ||
อย่าทำแชห่างแหระแคระคัด | ไผ่ใบขิงจะรึงรัดไม้สองน้อง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าแล้ว | พ่อพลายแก้วชิดชมประสมสอง | ||
แปลกเปลี่ยนเหียนหันผันประลอง | เคล้าคล่องว่องไวไปมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ตอน ๒ ตั้งแต่ขุนแผนครวญถึงนางลาวทอง แล้วกลับคิดถึงนางวันทอง จนถึงลักพานางวันทองไปอยู่ป่า
ช้า | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนกำสรวลเศร้าหมอง | ||
ให้ง่วงเหงาถึงเจ้าลาวทอง | เขาร้องฟ้องต้องติดอยู่ในวัง | ||
ไปเป็นชาวสะดึงเวทนา | โอ้อนิจจาการปักมักเจ็บหลัง | ||
เคยเป็นสุขเช้าค่ำแต่ลำพัง | จะต้องนั่งตรากตรำทำสะดึง | ||
เช่นลูกเมียอ้ายอนุเหมือนอย่างนั้น | ผัวมันคิดขบถโทษควรถึง | ||
ป่านนี้น้องของพี่จะรำพึง | เคยหยอกเย้าเคล้าคลึงผัวเมีย | ||
เคราะห์กรรมจำพรากจากไกล | ดั่งเด็ดดวงใจเอาไปเสีย | ||
ร้อนเหมือนได้ตามลามเลีย | เสียเมียเก่าใหม่ทั้งสองคน | ||
ไม่มีความสุขเฝ้าทุกข์ร้อน | ยามนอนโหยไห้ระเหระหน | ||
แต่ฟูมฟองนองคร่ำน้ำสุชล | คิดแต่จนอยู่ด้วยกันกับวันทอง | ||
ยิ่งน้อยจิตคิดแค้นขุนช้าง | มาผ่ากลางวางเข้าเป็นเจ้าของ | ||
เพียงนี้มิหนำยังซ้ำฟ้อง | จนลาวทองต้องติดเป็นคนวัง | ||
อิจฉาริษยาประดาเสีย | มันไม่ให้มีเมียด้วยเขามั่ง | ||
เป็นมิตรคิดร้ายมาหลายครั้ง | เออจะนั่งน้อยหน้ามันว่าไร | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมียเอยเมียเรา | มันชิงเข้ามาเป็นเจ้าผัวได้ | ||
ขี้เกียจเกลียดความยิ่งย่ามไป | ทะนงใจจองหองว่ามีทรัพย์ | ||
มันก่อกรรมจำกูจะแก้แค้น | ทดแทนล้วงไส้ให้ถึงตับ | ||
ลักวันทองพาหนีให้ลี้ลับ | มันจะปรับเอาใครอ้ายเฉโก | ||
ถึงจะติดตามไปก็ไม่พรั่น | จะขับม้าฝ่าฟันให้วิ่งโร่ | ||
ให้มันสามสมใจร้องไห้โฮ | โยโสว่ามีทรัพย์นับกระบุง | ||
จะได้เล่นเห็นกันวันพรุ่งนี้ | เอาสิ้นสมประดีตีอกผลุง | ||
งุ่นง่านดาลเดือดอยู่ในมุ้ง | ไม่หลับเลยจนรุ่งขึ้นแก่ตา | ||
ลุกจากที่นอนถอนใจใหญ่ | ออกไปหน้าต่างล้างหน้า | ||
เปิดประตูลงเรือนรีบคลา | เดินก้าวยาวมาด้วยขัดใจ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | |||
มาเอยมาถึง | เปิดมุ้งปลุกท่านคุณผู้ใหญ่ | ||
เล่าความให้ฟังแต่หลังไป | จะจำไกลอำลาไปสุพรรณ | ||
น้อยจิตคิดแค้นขุนช้างนัก | ลูกรักเหลือที่จะอดกลั้น | ||
มันร้องฟ้องกล่าวโทษโรธทัณฑ์ | เสียแรงเป็นเกลอกันมันคิดคด | ||
ปองผิดคิดร้ายมาหลายหน | เมียลูกสองคนก็จนหมด | ||
ตั้งใจเสียดส่อทรยศ | โป้ปดร่ำไปอ้ายคนเท็จ | ||
ลูกจะลักพาวันทองหนี | ทำให้ถึงที่แก้เผ็ด | ||
ให้มันนั่งก้มหน้าน้ำตาเล็ด | นั่นแหละจึงจะเข็ดฝีมือกัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ทองประศรีห้ามลูกตัวสั่น | ||
แม่ก็แก่กกงกงัน | วันทองมันก็ชั่วแล้วอย่าเลย | ||
เจ็บไข้เจ้าจะได้อยู่รักษา | ฟังคำมารดาเถิดลูกเอ๋ย | ||
เสียได้ใช่ว่าเจ้าไม่เคย | อย่าสืบพันธุ์มันเลยแสนอัปรีย์ | ||
หาเอาใหม่ลูกสาวชาวบางกอก | ที่งามดีมีดอกอย่าจู้จี้ | ||
เจ้านายชุบเลี้ยงถึงเพียงนี้ | ไม่พอที่จะให้เคืองบทมาลย์ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนตอบคำร่ำว่าขาน | ||
มิใช่ลูกไม่ได้ทำราชการ | เป็นทหารเลื่องชื่อลือยศ | ||
ขุนช้างมั่งมีแต่เงินทอง | มันจองหองทำให้ได้อัปยศ | ||
อย่าห้ามลูกเลยแม่ไม่ละลด | จะแก้แค้นแทนทดให้ถึงใจ | ||
มันเอาเมียของลูกไปเป็นเมีย | จะนอนกลิ้งนิ่งเสียกระไรได้ | ||
กราบเท้ามารดาแล้วว่าไป | วันเป็นวันธงชัยฤกษ์ดี | ||
ฉันขอกราบลาคุณแม่ | อย่าครั่นคร้ามว่าจะแพ้แก่อ้ายผี | ||
ช่วยอวยชัยขอให้สวัสดี | คุณแม่อยู่อย่าได้มีโรคา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ทองประศรีอ้อนวอนไม่ผ่อนหา | ||
จนใจอวยชัยให้ลูกยา | อันไพรีบีฑาให้แพ้ฤทธิ์ | ||
เวทมนตร์คาถาวิชาการ | ที่ศึกษาอาจารย์จงประสิทธิ์ | ||
พ่อจะคิดสิ่งใดให้สมคิด | ราชทัณฑ์ความผิดอย่าพะพาน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนผ่องแผ้วเกษมศานต์ | ||
โดยด่วนร้อนใจไปจัดการ | ให้ทันฤกษ์ศุภวารจะได้ไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
มาเอยมาถึง | ปลูกศาลหนึ่งเพียงตาโตใหญ่ | ||
เอาย่ามเครื่องกับดาบขึ้นพาดไว้ | จุดเทียนชัยร่ายเวทองครักษ์ | ||
มหาทมิฬโอมอ่านปลุกอาวุธ | ฟ้าฟื้นฝักหลุกเห็นประจักษ์ | ||
ลงยันต์ปถมังเป็นรูปยักษ์ | ภควัมกระลำพักสำหรับตัว | ||
เสกน้ำมันด้วยขันสัมฤทธิ์น้อย | มะกรูดส้มป่อยสะหัว | ||
บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่หมองมัว | ยกเมฆดีชั่วอ้ายขุนช้าง | ||
อ้ายจัญไรเมฆไขว่วิปริต | แขนขาต่อไม่ติดกันสักอย่าง | ||
รู้ตระหนักประจักษ์ไม่ระคาง | เกลอเกลือจืดจางจะได้ดู | ||
ฯ ๘ คำ ฯ ชมตลาด | |||
ขุนแผนจัดแจงแต่งกาย | ใส่กางเกงริ้วลายมัสรู่ | ||
กำลังวันเรียนไว้ใช้ตามครู | นุ่งปูมเคยคู่ออกชิงชัย | ||
รัดประคดหนามขนุนคาดรัด | เข็มขัดมั่นเหมาะสายไหม | ||
สลัปตุ่นยกเป็นอักษรใน | สรรใส่อาวุธศรีมีศักดา | ||
ลูกสะกดคดเขี้ยวหมูตัน | นอเต่าเขาสำคัญกระต่ายป่า | ||
ซังแซวตายซากกรากยา | โขมดฟ้าฝ่าโหงพราย | ||
พระไสกระเต่นประรางควาน | สรรพว่านร้อยแปดทองถักสาย | ||
คาดเอวเสกซ้ำประจำกาย | อับจนมากมายได้ทดลอง | ||
ใส่เสื้อสีแสดย้อมว่าน | พระอาจารย์ให้ใหม่เมื่อเดือนสิบสอง | ||
แล้วสวมสอดตะกรุดประคำทอง | เครื่องของพระราชท่านบำเหน็จลือ | ||
เมื่อครั้งไปตีเชียงทองได้ | นิ้วชี้ใส่พิรอดเคยนับถือ | ||
ก้อยซ้ายแหวนเพชรที่พึ่งซื้อ | ติดมือชมเล่นสองสามวัน | ||
แล้วโพกผ้าประเจียดพันมงคล | ของท่านวัดสับประดนไม่มีพรั่น | ||
ประจงจับฟ้าฟื้นยืนยัน | ร่ายเวทสำคัญภาวนา | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ ตระ | |||
เดชะคาถามหามนตร์ | โหงพรายกุมารกล่นมากนักหนา | ||
เป็นยักษ์ยัดอัดดึงกันเข้ามา | ขุนแผนแหงนดูฟ้าฤกษ์บน | ||
องศาผ่องแผ้วแจ่มจำรัส | หมอกเมฆมิได้กลัดโพยมหน | ||
ตามเกล็ดนาคาจรดล | หลีกพ้นผีหลวงกาเลไท | ||
แล้วตรงเข้าไปโรงสีหมอก | ถอดขลุมออกแล้วเอาบังเหียนใส่ | ||
กาววาวดาวเงินอร่ามไป | ใบโพธิ๋หน้าก้าไหล่พู่พราย | ||
อานปรุฉลุลายกระหนก | รัดอกคาดมั่นกระสันสาย | ||
เบาะอานพานหน้าพานท้าย | หนังข้างขวาซ้ายลายพื้นแดง | ||
เหยียบโกลนโผนเผ่นขึ้นหลัง | เหนี่ยวรั้งสายถือกระทืบแผง | ||
สีหมอกเผ่นลำพองคะนองแรง | ออกกลางแปลงหน้าบ้านร่านรน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
ม้าเอยม้าหมอก | มีขวัญพาดหอกแซมขน | ||
หูกระหนกยกหน้าย่างยนตร์ | อกใหญ่ทานทนตัวดี | ||
ขับควบพริบไหวไวว่อง | ขี่น้อยย่างย่องอยู่กับที่ | ||
เยื้องเท้าย่อท้ายเตือนตี | แต่เต้นถูกถี่มีพยศ | ||
แท้ไทยเทียมเทศลาประสม | ดังหมึกพรมหม่นมัวมรกต | ||
สันทัดทีทวนเลี้ยวลด | เหี้ยมห้าวทรหดปืนไฟ | ||
ออกสู่สู้ศึกหลายหน | ประจัญประจญรู้ทีหนีไล่ | ||
อัสดรของเราตัวนี้ไซร้ | สองเมียมาเปลี่ยนให้ไม่เอาเลย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขับม้ารีบร้นมาพ้นบ้าน | สั่งกุมารว่าจะไปเร็วเร็วเหวย | ||
ทางตัดลัดป่าพ่อไม่เคย | เจ้ากุมารทองเอ๋ยนำหน้าไป | ||
กุมารทองพาเข้าป่าระหง | ดั้นดงข้ามทุ่งเลียบไศล | ||
ไม่เดินตามทางเกวียนเคยครรไล | บัดเดี๋ยวใจพ้นย่านกาญจน์บุรี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ชมดง | |||
ดงดึกดูพิลึกน่าแสยง | ไม่แจ่มแจ้งเลยชอุ่มอับสี | ||
คลุ่มคลุ้มพุ่มมืดดังราตรี | แต่พื้นเลี่ยนเล่ห์วิถีหนทางทำ | ||
ใช่ทางมนุษย์เคยสัญจร | ทางอมรปู่โป่งโขมดคล่ำ | ||
กู่เพรียกเรียกกระหึมงึมงำ | เยือกอย่างถ้ำเย็นอย่างเถื่อนเปล่าเปลี่ยวจริง | ||
เทศกาลดูสุมาลย์นี้นักหนา | ย้อยระย้าเหลือหลากมากหลายสิ่ง | ||
บ้างหล่นดาษกลาดเห็นดังเททิ้ง | หอมยิ่งตรลบอบเรณู | ||
คิดใคร่เด็ดดมชมเล่น | ป่านี้เป็นกระไรมิรู้อยู่ | ||
กับพังเหยพญาไฟก็พอดู | ไม่นานนักสักครู่ออกปากดง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ ร้องกราว | |||
รีบเอยรีบมา | แคว้นสุพรรณไม่ช้าสมประสงค์ | ||
พันกันดารเลียบละเมาะจำเพาะตรง | ป่าระหงเลี่ยนตะลิบดังทรายโปรย | ||
มิ่งไม้นานาดอกระบัด | พระพายพัดพวงพะยอมหอมโหย | ||
รวยรินกลิ่นสุกรมยมโดย | ที่ร่วงโรยโอ้แม้นเหมือนวันทอง | ||
แสนเสียดายลืมอายไม่รักตัว | คบขุนช้างคนชั่วให้มัวหมอง | ||
ดั่งดอกไม้สิ้นกลิ่นอายละออง | ชะรอยกรรมนำน้องค้ำจุนจูง | ||
คิดรัญจวนครวญให้อาลัยหา | พลางขับม้าเลียบเดินตามเนินสูง | ||
พอลมชายบ่ายเย็นเห็นนกยูง | เป็นฝูงฝูงฟ้อนหางอยู่กลางเตียน | ||
ถวิลถึงสองเมียเสียน้ำใจ | พิศชอุ่มพุ่มไผ่เหมือนไม้เขียน | ||
ที่ไฟป่าไหม้ซอจนตอเกรียน | แลตะโล่งตลอดเลี่ยนเตียนตะลุย | ||
หนามคาหญ้าแพรกพึ่งแตกหน่อ | ระกะกอรวยกรายบ้างตายขุย | ||
ไก่ป่าพาเมียมาเขี่ยคุ้ย | ดินฟุ้งฝุ่นกระจุยกระจัดกระจาย | ||
วันทองเอ๋ยพี่ยังไม่วายรัก | แค้นนักนึกเดือดไม่เหือดหาย | ||
เร่งรีบขับม้าจนตาลาย | กำหนดหมายหนองตะเข้คะเนมา | ||
ห้วยโรงตะพานบ้านกะเหรี่ยง | เฉลียงเลี่ยงลัดออกชายป่า | ||
ไม่หย่อนหยุดรุดตะบึงถึงโรงนา | ยังไม่สนธยาเพลาวัน | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด | |||
หยุดเอยหยุดอยู่ | อีกสักครู่ก็จะดับพระสุริยฉัน | ||
ระยะทางยามเศษอีกเท่านั้น | พอดีกันกับเพลาคนหลับนอน | ||
จึงขยายรัดอกสีหมอก | ถอดบังเหียนออกทิ้งหญ้าป้อน | ||
รวิวันสิ้นสีรวีวร | จัดแจงอัสดรขึ้นขับไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
มาเอยมาถึง | น้อยฤามึงอ้ายขุนช้างทำบ้านใหญ่ | ||
สิงเมียเขาเกษมเปรมปรีดิ์ใจ | เป็นสิทธิฤาไรจะเต้นโกรง | ||
ถือแต่ว่ามั่งมีเงินทอง | ทำทำนองเป็นพระยาอ่าโถง | ||
รั้วทึบทำใหม่ใหม่ไม้โปลง | โรงโกงกล่นเกลื่อนเรือนช้าไทย | ||
บ่าวหนุ่มหนุ่มคะนองร้องพาดควาย | บ้างเมามายลุกขึ้นเล่นเต้นปรบไก่ | ||
บนเรือนนั่งยามตามไฟ | ปั่นฝ้ายกรอไหมไนออกเกรียว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ขุนช้างเขม่นตาขวาเสียวเสียว | ||
เรียกวันทองเข้าห้องเสียทีเดียว | กอดเกี้ยวหยุกหยิกซิกซี้ | ||
แล้วร้องโอ้โลมชมโฉม | จี้ลองต้องกระโจมจับโน่นนี่ | ||
ทำทีล่อกอดคอรอดูที | หัวเราะรี่ระริกทนหยิกเอา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
จึงเอยจึงว่า | ทุดไม่น่าเลยอะไรกระนี้เล่า | ||
ตะกรามตะกรี้เช่นนี้เด็กขี้เมา | ฉีอ้ายเถ้าหัวงูดูดู๋เป็น | ||
ชกเอาเขกหนึ่งแต่ไม่หนัก | โกรธระคนปนรักประจักษ์เห็น | ||
ข้าไม่สบายมาแต่ตะวันเย็น | วานอย่าเล่นงุ่นง่านรำคาญใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ขุนช้างเสว่าแก้ไข | ||
เป็นไรน้องเจ้าจึงหมองหฤทัย | เล่านิยายเล่นเสียให้คลายทุกข์ | ||
เรื่องหนึ่งยังมียายกับตา | ไปทำนาบนเขากับส้มจุก | ||
แล้วขี้ใส่สำเภาเน่าหนอกพลุก | พวกคนนั่งฟังสนุกเลอะเทอะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | วันทองร้องเอาอะไรมาว่าเปรอะ | ||
หยาบคายร้ายกาจชาติคนเคอะ | มีแต่หยำเยอะสมทรวดทรง | ||
ขุนช้างว่าอย่าอย่าฮ่าอย่าโกรธ | ขอโทษเถิดหยอกน้องคะนองหลง | ||
หาวนอนหวอดกอดประคองต้องประจง | กระแอมไอหวัดลงจมูกคัด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแอบฟังดูให้ถนัด | ||
ได้ยินเสียงวิ่งไวเข้าใจชัด | ร่ายมนตร์อัดมหาอุดมุดปิดตา | ||
แล้วกลั้นใจหยิบดินสามก้อนเสก | ลงเลขประจำซ้ำคาถา | ||
ทิ้งด้วยกำลังข้ามหลังคา | คนบนเรือนดังว่าอดนอนนาน | ||
งุยง่วงโงกเหงาเงียบระงับ | ล้มทับหลับแงบไปทั้งบ้าน | ||
ขุนแผนจึงสั่งพรายกุมาร | ให้ดาลใจอย่าให้ไหวติง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | กุมารทองแรงฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สิง | ||
รับคำทำได้ดังใจจริง | ปิศาจวิ่งเข้าบ้านบันดาลดล | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
คืนเอยคืนนั้น | ขุนช้างวันทองสยองขน | ||
หายใจผ็อยม่อนมิดปิดตากรน | ตั้งท่าง่าชนจับลิงเตียว | ||
ประตูชานตอนลิ่มใส่กลอนไว้ | ผีไขว่ไล่เปิดเสียประเดี๋ยว | ||
แมวหมาซอนซอนพลอนเกรียว | อะไรอร่อยค้นเคี้ยวหกตกตึง | ||
สำรับกับข้าวปูปลา | วางไว้บนม้าหมาค้นถึง | ||
หม้อข้าวหม้อแกงแหลกแตกอึง | บ้างหอนเห่าอึงคะนึงเคี้ยวคำราม | ||
คนทั้งเรือนหลับใหลไม่ไหวติง | ดั่งเขียงขอนท่อนทิ้งเขาเหยียบข้าม | ||
น้ำลายไหลปากอ้าหมาเลียพลาม | กะโล่กระทายถุงย่ามยื้อแย่งกัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนชำนาญมนตร์คนขยัน | ||
เอาสีหมอกผูกไว้บันไดพลัน | ให้โหงนั้นอยู่ระวังแล้วล่วงเลย | ||
ถือฟ้าฟื้นกวัดแกว่งองอาจ | ขึ้นบนเรือนน้อยนาดเดินเฉยเฉย | ||
ไม่ระแวงระวังดังหนึ่งเคย | เรียกกุมารทองเอ๋ยตามบิดา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
ชมตลาด | |||
เดือนเอยเดือนหงาย | นอกชานทำสบายเทียวนักหนา | ||
ต้นไม้ใส่กระถางวางบนม้า | เอนชายหลายท่าป่าทำนอง | ||
มีภูเขาก่อกองด้วยฟองน้ำ | ชะโงกง้ำถ้ำเหวเปลวปล่อง | ||
ไม้พุ่มโกรนเกรียนเขียนเป็นรอง | มีบึงหนองคลองน้ำลำธาร | ||
ทำเป็นดงละเมาะเหมาะหนักหนา | ปั้นกระทิงมหิงสาฝูงช้างสาร | ||
ทั้งอาศรมฤาษีมีเหล่าพราน | สวมหัวล่อไล่ทะยานเข้าแทงเนื้อ | ||
ตุ๊กตาแบกเพนียดต่อนกเขา | เที่ยวซนเข้าในรกตกใจเสือ | ||
ในห้วยหนองคลองน้ำทำเป็นเรือ | น้อยน้อยลอยดูไม่เบื่ออุตส่าห์ทำ | ||
บ้างเทียบเป็นบ้านป่าไร่กะเหรี่ยง | ชมรมเรียงแทรกโพนคล้องช้างคล่ำ | ||
มันทำล่อวันทองแล้วเจ้ากรรม | ปลูกกระจับไหหลำน้อยฤาเจียว | ||
มียี่หุบจำปาแขกไฝ่ฝ้า | จูหลันชาโบตั๋นห่ำเสี้ยว | ||
กุหลาบขาวกุหลายแดงแรงทีเดียว | ปลูกใส่อ่างเขียวดกดอกทราม | ||
บัวก็มีแห้วก็มีอุตส่าห์ปลูก | เปลือกมันใหญ่โตกว่าลูกเท่าตุ่มหาม | ||
ได้ไม้จีนมาแต่ไหนไอ้บ้ากาม | เห็นมันตามประจบปลัดจัน | ||
กรงกินดินสีชมพูก็มีด้วย | เก้าอี้ถ้วยตั้งไว้ด้วยรวยขยัน | ||
อ่างเรียงเลี้ยงปลาฟักพืชพันธุ์ | เดือนแจ้งดังกลางวันเห็นตัวปลา | ||
เอานิ้วมือดีดน้ำลงต้ำจิบ | ว่ายกระดิบกระดิบเข้ามาหา | ||
ทั้งเหลืองแดงด่างดีมีนานา | ปุ่มหลังปุ่มหน้าหมุนน่าดู | ||
ลางตัวปลั้วเปลี้ยดั่งเบี้ยตุ่ม | ตะลุมปุ้มกระดิกหางกระทั่งหู | ||
บ้างแหวกว่ายลอยล่องฟ่องฟู | หน้าเอ็นดูขุดขุ้มเป็นปุ่มโป | ||
เหย้าเรือนเหมือนขุนนางมันช่างทำ | ตรงรางน้ำนั้นวางอ่างเสียโผ | ||
มันได้มาแต่ไหนใบโตโต | โยโสสุงสิงหยิ่งเหลือตัว | ||
ติดกระจกตั้งเก้าอี้ที่บนหอ | ราวกับพ่อมันเป็นเจ้าสัว | ||
วันทองจึ่งปลดปลงหลงเมามัว | จะเที่ยวไปให้ทั่วกลัวจะช้า | ||
แลเห็นนกบ้าระบุ่นโนรี | สารพันจะมีทีเดียวหวา | ||
สัตตวรรณกระตั้วสาลิกา | พูดได้ทักมาว่าเสียงคน | ||
จึงบังคับแก่ฝูงโหงพราย | ให้ทำลายเขาไม้ให้ปี้ป่น | ||
วันทองจะได้หายวายกังวล | สั่งแล้วจรดลไคลคลา | ||
ฯ ๒๘ คำ ฯ เพลง | |||
เข้าเอยเข้าไป | ถึงชายเรือนชั้นในไขว่เที่ยวหา | ||
บ่าวไพร่นอนกลาดดาษดา | มองดูหน้าตาไม่สมประดี | ||
ที่นอนร้ายผ้าผ่อนล่อนหลุด | ถ่มน้ำลายถุยทุดอีบัดสี | ||
ถีบซ้ำก็ไม่ตื่นฟื้นอินทรีย์ | นอนแผ่แบบี้อยู่กลางกั๊ก | ||
ขุนช้างวันทองอยู่ห้องไหน | ทำไมจึงจะรู้แจ้งประจักษ์ | ||
จะดูหน้าวันทองน้องรัก | ขุนช้างมันฟูมฟักมาหลายเดือน | ||
แก้มก้อยมิช้ำระยำฤา | รอยมือจะขยำคลำเสียเปื้อน | ||
คิดคิดดังหนึ่งใคร่ไล่ต่อยเตือน | และเห็นประตูเรือนงับแง | ||
ชวาลาสว่างดังกลางวัน | หมายสำคัญว่าอยู่ที่นี่แน่ | ||
เปิดเยี่ยมชะโงกเห็นลับแล | รีบแร่เข้าไปไม่รอเลย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ ชมโฉม | |||
เห็นนางหนึ่งจ้อยร่อยนอนบนเตียง | กำดัดกำเดาะเนื้อเกลี้ยงเหมาะแม่เอ๋ย | ||
รูปร่างขาวขาวน่าชมเชย | หลับสนิทนี่ใครเหวยนอนแนบเนียน | ||
รุ่นราวสาวแส้แน่สนัด | อุระรัดดังกมุทผุดจากเกษียร | ||
ทั้งขอบคิ้วลำคอพอพึงเพียน | แม้นเขียนเจียนกันกับวันทอง | ||
นี่พี่น้องขุนช้างฤาไฉน | ทรวดทรงอย่างในไม่เศร้าหมอง | ||
แล้วขึ้นนั่งบนเตียงเคียงประคอง | เอามือต้องสไบไม่ให้ครือ | ||
สารพัดครัดเคร่งเปล่งปลั่ง | รีรอขอรั้งเอาเถิดฤา | ||
หันหวนป่วนปั่นคันไม้มือ | จะปลุกขึ้นถามชื่อเกี้ยวลอง | ||
พยักเรียกกุมารทองเข้ามาใกล้ | แก้เครื่องส่งสั่งให้ไปเสียนอกห้อง | ||
เห็นผ้าห่มนวลนางวางกอง | เอาขึ้นป้องบังไฟซ่อนฟ้าฟื้น | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | กุมารทองหัวเราะว่าอย่าให้ตื่น | ||
อดไม่ได้เข้าไปเล่นกลางคืน | ปลูกขึ้นรู้เข้าหูอื่นสิเสียงาน | ||
รับเอาเครื่องออกมาขมีขมัน | พ่อขุนแผนเธอขันเจียวจ้าน | ||
เดิมทีคิดมาจะทำการ | มาลอบรับสมัครสมานเกี้ยวชู้แข | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนฟังพรายพริ้มยิ้มแต้ | ||
ลูกกูแสนเฉลียวดีแท้ | จะเข้าไปมิใช่แม่กุมารทอง | ||
ว่าแล้วร่ายเวทคลายสะกด | แล้วขยดปรามาสจับต้อง | ||
สั่นปลุกลุกขึ้นเถิดน้อง | อุตส่าห์มาถึงห้องมืดค่ำคืน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||