สุขุมาลนิพนธ์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(โคลงสุภาสิต ทรงถอดความจากวชิรญาณสุภาสิต)
(โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง)
แถว 252: แถว 252:
===โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง===
===โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง===
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓
 +
 +
 +
'''ความเพลิน'''<tpoem>
 +
๏ ความเพลินมีทั่วทั้ง  ฝ่ายดี ทรามเฮย
 +
สุดแต่ผู้เพลินมี  สติค้น
 +
เพลินชอบก็พลันทวี  ลาภยศ ปวงแฮ
 +
เพลินผิดก็ไป่พ้น  ภาคร้ายเร็วถึง ฯ
 +
</tpoem>
 +
'''ความรำคาญ'''<tpoem>
 +
๏ รูปต่ำซ้ำศิระงุ้ม  ปานปม เปรอะนา
 +
รสพลับแช่ฝาดขุย  เกาะลิ้น
 +
กลิ่นสาบมนุษย์ระดม  กลิ่นอุต พิษแฮ
 +
เสียงพูดปลอกปลิ้นปลี้  เปล่าความ ฯ
 +
 +
๏ งามโฉมแต่หยุดอ้า  อาตม์โฉม
 +
ฤาแต่งเกินพองาม  เงื่อนหน้า
 +
มารยาทลุกลนโครม  ครามเตะ ต่อยเฮย
 +
ปวงกล่าวทั้งนี้ข้า  สุดรำคาญ ฯ
 +
</tpoem>
 +
'''ความปรารถนา'''<tpoem>
 +
๏ ปรารถนาของมนุษย์นั้น  หมดไฉน ท่านเฮย
 +
แม้จักพรรณาไป  ไป่สิ้น
 +
แต่ผู้ว่องวุฒิไวย  รู้เลือก สรรแฮ
 +
ควรดับฤาควรดิ้น  โดดยั้งตามควร ฯ
 +
</tpoem>
===ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ===
===ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ===

การปรับปรุง เมื่อ 17:33, 17 พฤศจิกายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

บทประพันธ์

โคลงดั้นสุภาสิตวชิรญาณ

ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑

๏ คราวเข็ญจะเฝ้าแต่โศกศัลย์
โศกจะดับขุ่นเข็ญห่อนได้
ยิ่งโศกยิ่งจักพลันรอญชีพ
ควรปลดควรเปลื้องให้โศกคลาย ฯ
๏ ละโศกเร่งตริรู้สึกเข็ญ ตนนา
รู้เข็ดเข็ญคงวายว่างบ้าง
ทิ้งชั่วยึดที่เปนทางชอบ
จึงจักเริศร้างพ้นเหตุภัย ฯ
             

โคลงสุภาสิต

เริ่มทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑


คำอธิบาย

โคลงสุภาษิตนี้ทรงแต่งตามเค้าโครงสุภาสิตใหม่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์กับเจ้านายที่บางปอิน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๐ (ฉบับพิมพ์เรียกว่า “โคลงสุภาษิตใหม่” ) สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ ทรงพระนิพนธ์โคลงสุภาสิตนี้ทรงกับเจ้านายผู้หญิงอีกหลายพระองค์ด้วยกัน คัดเอามาพิมพ์ในสมุดนี้แต่โคลงพระนิพนธ์ของสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ


ความรัก
๏ รักเรียนต้องกอปด้วยวิริยะ
รักยศควรอุสาหะกิจไท้
รักทรัพย์อย่าพึงสละทรัพย์จ่าย เฝือนา
รักชอบกอบกิจให้ถ่องแท้ยุติธรรม ฯ
๏ รักตนประพฤติล้วนสุจริต
รักลูกเพียรดัดจิตลูกไว้
รักมิตรมากที่มิตรรักตอบ
รักบ่าวเมื่อคราวใช้ไป่ลี้หนีงาร ฯ
             
ความชัง
๏ ชังพูดเปนเล่ห์เลี้ยวหลอกหลอน
ชังชาตินิรคุณบอนบ่อนไส้
ชังโจรเที่ยวซอกซอนลักทรัพย์ ท่านนา
ชังมากบอยากใกล้เผ่าพ้องอสัทธรรม ฯ
             
ความกล้า
๏ กล้าคิดเพราะเหตุด้วยใจมาน
กล้าเชื่อเพื่อปฏิญาณสัตย์ไว้
กล้าพูดเพราะเชื่อชาญเชาวน์ว่อง
กล้ารักชักกล้าให้สู่สู้ริปูแทน ฯ
             
ความกลัว
๏ อาญาไทธิราชเผ้าแผ่นสยาม
เกรงไป่มีโมงยามว่างน้อ
ภัยพิบัติมัจจุราชตามฉกชีพ
กลัวบ่เว้นทุ่มท้อจิตลี้หนีไฉน ฯ
๏ กลัวบาปบส่อให้โทษถึง ท่านนา
กลัวท่านผูกเวรตรึงติดติ้ว
กลัวกรรมจักตามดึงตนสู้ อบายพ่อ
กลัวชอบบุญหอบหิ้วอาตม์ขึ้นสุขภูมิ์ ฯ
             
ความเพียร
๏ เพียรประพฤติสุจริตอ้างอวยผล
เพียรประพฤติยุติธรรมดลดับไร้
เพียรประพฤติกอปกุศลบุญส่ง สุขนา
เพียรประพฤติเมตตจิตได้ห่างพ้นคนชัง ฯ
๏ เพียรประพฤติทุจริตร้อนแรงไฟ นรกพ่อ
เพียรประพฤติฉ้อฉกภัยจักพ้อง
เพียรประพฤติบาปบไกลทุกข์ถับ ถึงนา
เพียรประพฤติเหี้ยมโหดต้องตกข้างคนฉิน ฯ
๏ หมั่นเขียนหมั่นอ่านอ้างอักษร
เพียรแต่งโคลงลิลิตกลอนดอกสร้อย
กลบทอีกบทละคอนฉันท์กาพย์
เพียรดั่งนี้ฤาคล้อยคลาดผู้ชาญกวี ฯ
             
ความเกียจคร้าน
๏ โกสัชชัดเชิดอ้างโทษา
ฉัพพรรคอรรถกถากล่าวแจ้ง
นรชาติปราศวิริยานฤสุข
จักสฤษดิกิจใดแสร้งผัดเพี้ยนผ่อนตน ฯ
๏ หนาวหนักจักกอปเกื้อการใด ได้พ่อ
บางผ่อนร้อนจัดใจจักหวิ้น
บางคาบก็ขานไขยลย่ำ แล้วนา
กอปกิจบควรสิ้นรติแผ้วควรทำ ฯ
๏ ยามพรุกพร่ำผัดเพี้ยนทำงน มากนา
งายหน่อยจึงจักขวนกิจไซร้
บางผ่อนอุทรรนร้อนภักษ์ ภุญช์พ่อ
บางผัดอิ่มหนักให้หย่อนน้อยค่อยทำ ฯ
๏ สันดานประกอบด้วยโกสัช
ผิสฤษดิ์กิจใดผัดพรุ่งเพล้
เพี้ยนหนาวผัดร้อนจัดอิ่มพร่อง อุทรนา
กว่าจะเสร็จประสงค์เอ้อูดพ้นพันทวี ฯ
             
ความซื่อ
๏ พุทธรัตน์ธรรมรัตน์ทั้งสงฆ์สรรพ์ พิสุทธิ์แฮ
อีกชนกชนนีอันเกิดเกล้า
สยามรัฐดิลกธรรมิกแห่ง ตนฤา
ควรซื่อสุจริตเช้าค่ำน้อมนมัสการ ฯ
             
ความโกง
๏ โกงคิดทรยศผู้บำรุง ตนแฮ
หมายลาภเปิดลับจุงโทษให้
ความชั่วติดตัวนุงเหนียวเหนอะ
สบลาภก็พลันไร้เพื่อร้อนแรงกรรม ฯ
             
ความอาลัย
๏ อาลัยลูกจักเมื้อยุรเปียน ทวีปแฮ
ใจคิดเปนนิจเวียนวาบว้ำ
อาลัยเพื่อเคยเสถียรสถิตสุข เสมอนา
ใจห่วงเหลือจักปล้ำปลิดให้อาลัยสูญ ฯ
             
ความเบื่อ
๏ เบื่อโลกเห็นโลกล้วนอนิจจัง
เบื่อทุกข์ทุกวันประดังรุกเร้า
เบื่อเคราะห์เบื่อกรรมฝังรกราก
เบื่อหน่ายตายเกิดเฝ้ารับท้นทุกข์ทวี ฯ
             
ความโสมนัส
๏ ราชภัยพิบัติแม้หลีกหนี
อัคนิภัยพิบัติลีลาศแคล้ว
โจรภัยพิบัติมีหลบรอด โจรนา
สามสิ่งโสมนัสแผ้วผ่องชื้นกมลเปรม ฯ
๏ ยินดีได้ลาภล้นมูลมอง
ยินลาภยศศักดิ์ปองศักดิ์ได้
ยินดีอนี้ตรองตรึกรงับ บ้างพ่อ
ยินลาภนักมักให้ช่องให้ชนหยัน ฯ
             
ความโทมนัส
๏ กลางประชุมแม้ว่าต้องถูกทัก
โดยเท็จหรือจริงประจักษ์สุดพื้น
เก่าเหลือที่จะหักใจกลับ ใหม่แม่
โทมนัสขัดจิตตื้นอกน้ำตาคลอ(๑)
๏ คิดเห็นประโยชน์แล้วจึ่งทำ
กลายกลับเปนผิดนำโทษพ้อง
เสียใจที่ใจสำคัญผิด
โทษอื่นบได้ต้องโทษแท้ตนเอง ฯ
             
ความริษยา
๏ ริษยาเกิดขึ้นเพราะด้วยเสียจิต ก่อนนา
เสียจิตเพาะริษยากอปสร้าง
สองอย่างต่างประชันปิดประชันส่อ กันแฮ
ปวงปราชญ์อาจมละล้างคู่ข้อมลายสูญ ฯ
             
(๑) ในโคลงบทนี้ทรงใช้ศัพท์แผลง ซึ่งชอบพูดกันในสมัยนั้นหลายศัพท์ คือ “ทัก” หมายความ ว่าปราสัยเปนคำทารุณ “พื้น” หมายความว่าสำผัสใจ “เก่า” หมายความว่าเกิดโทษะ “ใหม่” หมายความว่าสิ้นโทษะ


ความพยาบาท
๏ พยาบาทนี่นี้ขาดทางธรรม นะพ่อ
ผิเกิดไป่คนึงรำงับแล้ว
ดังฤาจักดลสำราญสุข พ่อเอย
ไปปรโลกฤาจักแคล้วคลาดพ้นเวรจอง ฯ
๏ ปราชญ์มองเห็นโทษแท้จึ่งประหาร ขาดนา
เวรรงับดับเวรผลาญหมดเชื้อ
อาฆาฏขาดจิตสราญรมย์ยิ่ง ยงแฮ
เขษมสุขประจวบเมื้อสู่ยั้งนฤพาน ฯ
             
ความปรารถนา
๏ ประสงค์ศิลปศาสตรต้องเติมเพียร
ประสงค์มั่งมีทรัพย์เรียนเรื่องค้า
ประสงค์ยศจุ่งหมั่นเวียนเฝ้าบพิตร เสมอนา
ประสงค์สุขหน่วงจิตคว้าสัตย์ไว้นิจกาล ฯ
             
ความหยิ่ง
๏ หยิ่งยศถือยศก้ำเกินคน
หยิ่งศักดิ์หวังศักดิ์ตนใหญ่กว้าง
หยิ่งทรัพย์ส่ายทรัพย์กลดั่งทรัพย์ จักรฤา
สามหยิ่งจักพาค้างขาดสิ้นนิจผล ฯ
             

โคลงทรงตอบพระราชนิพนธ์ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงประชวร

ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๖ กับ พ.ศ. ๒๔๓๗


'โคลงพระราชนิพนธ์
๏ เจ็บนานหนักอกผู้บริรักษ์ ปวงแฮ
คิดใคร่ลาลาญทักปลดเปลื้อง
ความเหนื่อยแห่งสูจักพลันเสื่อม
ตูจะสู่ภพเบื้องน่านั้นพลันเขษม
             
โคลงตอบ
๏ สรวมชีพข้าบาทภักดี
พระราชเทวีทรงสฤษดิ์ให้
สุขุมาลมารศรีเสนอยศ นี้นา
ขอกราบทูลท่านไท้ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
๏ ประชวรนานหนักอกข้าทั้งหลาย ยิ่งแล
ทุกทิวาวันบวายคิดแก้
สิ่งใดซึ่งจักมลายพระโรค เร็วแฮ
สุดยากเท่าใดแม้มาทม้วยควรแสวง ฯ
๏ หนักแรงกายเจ็บเพี้ยงเท่าใด ก็ดี
ยังบหย่อนหฤทัยสักน้อย
แม้พระจะด่วนไกลข้าบาท ปวงแฮ
อกจะพองหนองย้อยทั่วหน้าสนมนาง ฯ
             

โคลงสุภาสิตเบ็ดเตล็ด

ความลอาย
๏ มีอายอาจสกัดกั้นกันทาง ชั่วแฮ
จักประพฤติชั่วอายขวางขัดไว้
ผู้มีหฤทัยจางจืดต่อ หิรินา
จึงประพฤติความชั่วได้แน่แท้เทียวเธอ ฯ
๏ อุด(๑)นานแรกออกนั้นแสนอาย
ลมล่อยพลอยจับกายรริกเริ้ม
หน้ามือจักษุลายแลพร่าง
เหงื่อหยดขาสั่นเทิ้มอุทัจด้วยคนดู ฯ
             
ความงาม
๏ เพ็ญบูรณ์เกียรติยศทั้งบริวาร
งามเลิศใดบปานเปรียบได้
เพ็ญทรัพย์อีกคำขานสัตย์ทุก เมื่อนา
งามยิ่งงามแท้ให้ทั่วผู้สรรเสริญ ฯ
             
ความสรรเสริญ
๏ ผู้หาญราญเศิกสู้ไป่หนี
หนึ่งเหล่าคณะเมธีทั่วหน้า
อีกสงฆ์พิสุทธิ์ศีลวัตยิ่ง ยงเฮย
หญิงซื่อสุจริตกล้าสี่นี้ควรชม ฯ
             
(๑) อุด เปนคำแผลง หมายความว่าอยู่แต่ในที่อันเดียว

โคลงสุภาสิต ทรงถอดความจากวชิรญาณสุภาสิต

๏ บุญมากหากกอปเกื้อปัญญา มากนา
โดยป่วยก็พลันหายห่างไข้
มากคนรักไปมาเช้าค่ำ
เคยเกลียดกลับรักได้เพราะบุญ ฯ
๏ บุญต่ำนำชักให้หมดความ คิดนา
กำเริบไข้แรงรุนโรคร้าย
มิตรญาติขาดรักยามบุญอับ
พบปะก็คล้ายคล้ายแขกเมิน ฯ
๏ ความรู้มีมากล้นเพียงใด ก็ดี
แต่ขาดความเพียรใจเกียจคร้าน
เฉกผู้มากทรัพย์ในเรือนฟุ่ม เฟือยนา
ตระหนี่เก็บไว้แต่บ้านห่างใช้ไฉนเติม ฯ
๏ วิชาเดิมมีน้อยแต่มีเพียร มากฮา
ยังบ่ทราบใดเรียนมากไว้
ผู้น้อยทรัพย์ค่อยเบียนทรัพย์จ่าย เสมอนอ
ทรัพย์จะเสริมเติมได้มากด้วยแรงเพียร ฯ
             

โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓


ความเพลิน
๏ ความเพลินมีทั่วทั้งฝ่ายดี ทรามเฮย
สุดแต่ผู้เพลินมีสติค้น
เพลินชอบก็พลันทวีลาภยศ ปวงแฮ
เพลินผิดก็ไป่พ้นภาคร้ายเร็วถึง ฯ
             
ความรำคาญ
๏ รูปต่ำซ้ำศิระงุ้มปานปม เปรอะนา
รสพลับแช่ฝาดขุยเกาะลิ้น
กลิ่นสาบมนุษย์ระดมกลิ่นอุต พิษแฮ
เสียงพูดปลอกปลิ้นปลี้เปล่าความ ฯ
๏ งามโฉมแต่หยุดอ้าอาตม์โฉม
ฤาแต่งเกินพองามเงื่อนหน้า
มารยาทลุกลนโครมครามเตะ ต่อยเฮย
ปวงกล่าวทั้งนี้ข้าสุดรำคาญ ฯ
             
ความปรารถนา
๏ ปรารถนาของมนุษย์นั้นหมดไฉน ท่านเฮย
แม้จักพรรณาไปไป่สิ้น
แต่ผู้ว่องวุฒิไวยรู้เลือก สรรแฮ
ควรดับฤาควรดิ้นโดดยั้งตามควร ฯ
             

ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ

ทรงนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒

โคลงตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ

ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒

กาพย์ตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ

ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓

โคลงแลกลอนสำหรับสอดในชักเปี๊ยะพร้อมกับแหวน

ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔

โคลงสุภาสิต

ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ และ ๒๔๖๘

เพลงยาวกลบท

พระโอวาทประทานทูลกระหม่อมพระองค์ชาย เมื่อจะเสด็จไปทรงศึกษาในยุโรป

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗

พระนิพนธ์ที่สุด ลายพระหัตถ์ประทานพระพรในวันประสูติกรมพระยาดำราชานุภาพ

เชิงอรรถ

ที่มา

สุขุมาลนิพนธ์ พระนิพนธ์กาพย์กลอนแลร้อยแก้วของ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต โปรดให้พิมพ์เนื่องในการทรงบำเพ็ญพระกุศลสนองพระคุณสมเด็จพระชนนี เมื่อพระศพครบปัญญาสมวาร ณ วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๐ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร

(ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)

เครื่องมือส่วนตัว