ลิลิตตะเลงพ่าย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ)
(พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ)
แถว 331: แถว 331:
=== พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ ===
=== พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ กษณะนั้นนเรนทร์ไท้ ธให้โหรหามมหุติฤกษ์ ซึ่งจะเบิกพยุหบาตรา จึ่งพระโหราผู้รู้โศลก หลวงญาณโยคโลกทีป รีบคำนวณทำนาย ถวายพยากรณ์แก่ไท้ ท้าวธได้จัตุรงคโชค อาจปราบโลกลาญรงค์ เชิญบาทบงสุ์เสด็จคลา จากอโยธยายามเช้า เข้ารวิวารมหันต์ วันสิบเอ็ดขึ้นค่ำย่ำรุ่งสองนาฬิกา เศษสังขยาห้าบาท ในบุษยมาสดฤษถี ศรีสวัสดิ์ฤกษ์อุดม บรมนรินทร์ดาลสดับ ธให้ตรวจทัพเตรียมพล โดยชลมารคพยู่ห์ สู่ตำบลปากโมก ครั้นณวันโชควันยาม พยุหสงครามเขาตรวจ ทุกหมู่หมวดสรรพเสร็จ จึ่งสมเด็จภูวนาถ กับบรมราชอนุชา ธก็สรงธาราเสาวรภย์ ตรลบสุคนธกำจร ทรงบวรวิภูษา รัตพัสตราครูเนตร ชายแครงเทศเถือกพร้อย ชายไหวห้อยเห็นเพรา พิศสนับพลายรรยง ฉลองพระองค์แลเลิศ ทับทรวงเพริศพรายพริ้ง สะอิ้งรัตนไพฑูรย์ แก้วเกยูรสวมหัตถ์ แสงนพรัตน์มลังเมลือง เรืองธำมรงค์รุ้งร่วง ช่วงพรรเหาเก้าแก้ว แพร้วพรายนิ้วอัษฎางค์ พลางสองกษัตริย์สวมทรง อลงกตกาญจนมกุฎ แสงเพชรผุดพุ่งแพร้ว แก้เก้ากอบแกมมาศ นาดกรกรายทายธนู ดูสองเจ้าจอมสยาม เฉกลักษณ์รามรอนราพณ์ ปราบอเรนทร์ทุกด้าว พลางบพิตรไทท้าว ท่านเยื้องยังฉนวน น้ำนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ ครั้นควรพิชัยฤกษ์พร้อม  เพรียงสมัย
 +
โหรคระหึมฆ้องชัย  กึกก้อง
 +
พฤฒิพราหมณ์พรอกมนตร์ไสย  สังข์เป่า ถวายนา
 +
แตรตรลบเสียงซ้อง  แซ่ซั้นบรรสาน ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ พลันขยายพยุหบาตรา คลาเข้าโขลนทวาเรศ สงฆ์สวดชเยศพุทธมนต์ ปรายประชลเฉลิมทัพ ตามตำรับราชรณยุทธ์ โบกกบี่ธุชคลาพล ยลนาวาดาดาษ ดูสระพราศสระพรั่ง คั่งคับขอบคงคา แลมเหาฬาร์พันลึก อธึกท้องแถวธาร ถับถึงสถานปากโมก จึ่งพระจอมโลกลือเดช เสด็จเถลิงนิเวศวังทาง พลางธให้ตรวจเตรียมพล โดยสถลพยุหบาตร บอกพระราชกำหนด กฎแก่ขุนทัพขุนพล จักยกหพลยาตรา ในเวลาล่วงค่ำ ย่ำสิบเอ็ดสามบาท ครั้นเข้าราษตรีสมัย ภูวไนยตรัสตริการ ซึ่งจะรอนราญอริราช ด้วยภิมุขมาตยากร จนจันทรลับเลื่อน เคลื่อนเข้าตติยยาม เจ้าจอมสยามไสยาสน์ เหนือบรมอาสน์ก่องแก้ว คล้ายคล้ายสิบทุ่มแคล้ว ท่านเคลิ้มหลับฝัน ใฝ่นา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ เทวัญแสดงเหตุให้  สังหรณ์ เห็นแฮ
 +
เห็นกระแสสาคร  หลั่งล้น
 +
ไหลลบวนาดอน  แดนตก ทิศนา
 +
พระแต่เพ่งฤๅพ้น  ที่น้ำหนองสาย ฯ
 +
๏ พระกรายกรย่างเยื้อง  จรลี
 +
ลุยมหาวารี  เรี่ยวกว้าง
 +
พอพานพะกุมภีล์  หนึ่งใหญ่ ไสร้นา
 +
โถมปะทะเจ้าช้าง  จักเคี้ยวขบองค์ ฯ
 +
๏ พระทรงแสงดาบแก้ว  กับกร
 +
โจมประจักฟันฟอน  เฟื่องน้ำ
 +
ต่างฤทธิ์ต่างรบรอบ  ราญชีพ กันแฮ
 +
สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำ  ท่งท้องชลธี ฯ
 +
๏ นฤบดีโถมถีบสู้  ศึกธาร
 +
ฟอนฟาดสุงสุมาร  มอดม้วย
 +
สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์  หายเหือด แห้งแฮ
 +
พระเร่งปรีดาด้วย  เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย ฯ
 +
๏ ทันใดดิลกเจ้า  จอมถวัลย์
 +
สร่างผทมถวิลฝัน  ห่อนรู้
 +
พระหาพระโหรพลัน  พลางบอก ฝันนา
 +
เร็วเร่งทายโดยกระทู้  ที่ถ้อยตูแถลง ฯ
 +
๏ พระโหรเห็นแจ้งจบ  ในมูล ฝันแฮ
 +
ถวายพยากรณ์ทูล  แต่ไท้
 +
สุบินบดินทร์สูร  ฝันใฝ่ นั้นฤๅ
 +
หากเทพสังหรณ์ให้  ธิราชรู้เป็นกล ฯ
 +
๏ นุสนธิ์ซึ่งน่านน้ำ  นองพนา สณฑ์เฮย
 +
หนปัจฉิมทิศา  ท่วมไซร้
 +
คือทัพอริรา-  มัญหมู่ นี้นา
 +
สมดั่งลักษณ์ฝันไท้  ธเรศนั้นอย่าแหนง ฯ
 +
๏ เหตุแสดงแห่งราชพ้อง  ภัยชลา
 +
ได้แก่อุปราชา  เชษฐ์ผู้
 +
สงครามซึ่งเสด็จครา  นี้ใหญ่ หลวงแฮ
 +
แท้จักถึงยุทธ์สู้  ศึกช้างสองชน ฯ
 +
๏ ซึ่งผจญอริราชด้วย  เดชะ
 +
เพื่อพระเดโชชนะ  ศึกน้ำ
 +
คือองค์อมิตรพระ  จักมอด เมือเฮย
 +
เพราะพระหัตถ์หากห้ำ  หั่นด้วยขอคม ฯ
 +
๏ เบื้องบรมขัตติย์ท่องท้อง  แถวธาร
 +
พระจักไล่ลุยลาญ  เศิกไสร้
 +
ริปูบ่รอราญ  ฤทธิ์ราช เลยพ่อ
 +
พระจักชาญชเยศได้  ดั่งท้าวใฝ่ฝัน ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ ครั้นบดินทร์ดาลได้  สดับพยากรณ์ไท้
 +
ธิราชแผ้วพูนเกษม ฯ
 +
๏ เปรมปรีดิ์ปราโมทย์แท้  เพราะพระโหรหากแก้
 +
กล่าวต้องตามฝัน ฯ
 +
๏ พระพลันทรงเครื่องต้น  งามประเสริฐเลิศล้น
 +
แหล่งหล้าควรชม ชื่นนา ฯ
 +
๏ สมเด็จอนุชน้องแก้ว  ทรงสุภาภรณ์แพร้ว
 +
เพริศพร้อมเพราตา ยิ่งแฮ ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ สองขัติยายุรยาตรา ยังเกยราชหอทัพ ขุนคชขับช้างเทียบ ทวยหาญเพียบแผ่นภู ดูมหิมาดาดาษ สระพราศพร้อมโดยขบวน องค์อดิศวรสองกษัตริย์ คอยนฤขัตรพิชัย บัดเดี๋ยวไททฤษฎี พระศรีสารีริกบรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพ่างยล ส้มเกลี้ยงกลลุก่อง ฟ่องฟ้าฝ่ายทักษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับคำรบสามครา เป็นทักษิณาวรรตเวียน ว่ายฉวัดเฉวียนอัมพร ผ่านไปอุดรโดยด้าว พลางบพิตรโทท้าว ท่านตั้งสดุดี อยู่นา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ พระเปรมปราโมทย์น้อม  วันทนา
 +
พลางพระทรงไอยรา  ฤทธิ์แกล้ว
 +
พระคเชนทร์ชื่อไชยา-  นุภาพ พ้นแฮ
 +
อาจเข่นคชศึกแผ้ว  แผกแพ้ทุกภาย ฯ
 +
๏ พลายปราบไตรจักรอ้าง  เอิกฤทธิ์
 +
อาจปราบคชทุกทิศ  ทั่วไซร้
 +
เอกาทศรถอิศ-  วรเสด็จ ทรงนา
 +
นำคเชนทเรศไท้  ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
 +
</tpoem>
 +
=== พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย ===
=== พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย ===
=== พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก ===
=== พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก ===

การปรับปรุง เมื่อ 17:09, 4 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

อาเศียรวาท

ร่าย
๏ ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้า หล้าล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจแกล้วบมิกล้า บค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ทุกเขตทุกด้าว น้าวมกุฎมานบ น้อมพิภพมานอบ มอบบัวบาทวิบุล อดุลยานุภาพ ปราบดัสกรแกลนกลัว หัวหั่นหายกายกลาด ดาษเต็มท่งเต็มดอน พม่ามอญพ่ายหนี ศรีอโยธยารมเยศ พิเศษสุขบำเทิง สำเริงราชสถาน สำราญราชสถิต พิพิธโภคสมบัติ พิพัฒน์โภคสมบูรณ์ พูนพิภพดับเข็ญ เย็นพิภพดับทุกข์ สนุกสบสีมา ส่ำเสนานอบเกล้า ส่ำสนมเฝ้าฝ่ายใน ส่ำพลไกรเกริกหาญ ส่ำพลสารสินธพ สบศาสศรเพลิง เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้า โลกล้วนสดุดี ฯ
             
โคลง ๔
๏ บุญเจ้าจอมภพพื้นแผ่นสยาม
แสยงพระยศยินขามขาดแกล้ว
พระฤทธิ์ดังฤทธิ์รามรอนราพณ์
แลฤๅ ราญอริราชแผ้วแผกแพ้ทุกภาย ฯ
๏ ไพรินทรนาศเพี้ยงพลมาร
พระดั่งองค์อวตารแต่กี้
แสนเศิกห่อนหาญราญรอฤทธิ์ พระฤๅ
ดาลตระดกเดชลี้ประหลาดเหล้าแหล่งสถาน ฯ
๏ เสร็จเสวยศวรรเยศอ้างไอยศูรย์ สรวงฤๅ
เย็นพระยศปูนเดือนเด่นฟ้า
เกษมสุขส่องสมบูรณ์บานทวีป
สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้าแหล่งล้วนสรรเสริญ ฯ
             

เหตุการณ์ทางเมืองมอญ

ร่าย
๏ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัสดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุบริหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยี่ย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์ แต่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพ กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยียบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศ ธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตรา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุบาตร จักยาตราตรู่เช้า เสด็จเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระผาดผายสู่ห้องหาอนุชนวลน้อง
หนุ่มหน้าพระสนม ฯ
๏ ปวงประนมนบเกล้างามเสงี่ยมเฟื้ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
๏ กรตระกองกอดแก้วเรียมจักร้างรสแคล้ว
คลาดเคล้าคลาสมร ฯ
๏ จำใจจรจากสร้อยอยู่แม่อย่าละห้อย
ห่อนช้าคืนสม แม่แล ฯ
             
ร่าย
๏ เสร็จเสาวนีย์สั่งสนม เนืองบังคมคำราช พระบาททันนิทรา จวนเวลาล่วงสาง พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้า แสงทองจ้าจับเมฆ รังสีเฉกฉายฉัน ไก่แก้วขันเจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแหว้วเสียงใส จึ่งบรมไทธิราช ยุรยาตรยังที่สรง ชำระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นตรลบ หอมอวลอบอายขจร ทรงบวรวิภูษิต สนับเพลาพิศพรายพร้อย ชายไหวย้อยยะยาบ ชายแครงทาบเครือวัลย์ รัตพัสตร์พรรณยรรยง ฉลองพระองค์เพริศแพร้ว มกรแก้วเกยูร ตาบไพฑูรย์เรืองจรัส สะอิ้งรัตนประพาฬ สอดสังวาลเฉวียงองค์ มกุฎทรงเทริดเกศ อย่างอิศเรศรามัญ สรรเป็นรูปอุรเคนทร์ เพญพะพานแผ่เศรียร แสงวิเชียรช่อช่วง ธำมรงค์ร่วงรุ้งพราย รายนพรัตน์ชัชวาล เครื่องอลงการโอ่อ่า งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาด ยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา ลีลายังวังราช ไหว้บัวบาทบิตุรงค์ ขอลาองค์ท่านไท้ ไปเผด็จดัสกรให้ เหือดเสี้ยนศึกสยาม สิ้นนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระฟังความลูกท้าวลาเสด็จศึกด้าว
ดั่งเบื้องบรรหาร ฯ
             
โคลง ๓
๏ ภูบาลอื้นอำนวยอวยพระพรเลิศล้น
จงอยุธย์อย่าพ้นแห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ จงเจริญชเยศด้วยเดชะ
ชาวอยุธย์อย่าพะพ่อได้
จงแพ้พินาศพระวิริยภาพ พ่อนา
ชนะแด่สองท่านไท้ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
๏ สงครามความเศิกซึ้งแสนกล
จงพ่ออย่ายินยลแต่ตื้น
อย่าลองคะนองตนตาชอบ ทำนา
การศึกลึกเล่ห์พื้นล่อเลี้ยวหลอกหลอน ฯ
๏ จงแจ้งแห่งเหตุเบื้องโบราณ
เป็นประโยชน์ยุทธการกล่าวไว้
เอาใจทหารหาญเริงรื่น อยู่นา
อย่าระคนปนใกล้เกลือกกลั้วขลาดเขลา ฯ
๏ หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้สบสถาน
เจนจิตวิทยาการกาจแกล้ว
รู้เชิงพิชัยชาญชุมค่าย ควรนา
อาจจักรอนรณแผ้วแผกแพ้พังหนี ฯ
๏ หนึ่งรู้บำเหน็จให้ขุนพล
อันสมรรถมือผจญจืดเสี้ยน
อย่าหย่อนวิริยะยลอย่างเกียจ
แปดประการกลเที้ยรถ่องแท้ทางแถลง ฯ
๏ จงจำคำพ่อไซร้สั่งสอน
จงประสิทธิ์สมพรพ่อให้
จงเรืองพระฤทธิ์รอนอริราช
จงพ่อลุลาภได้เผด็จด้าวแดนสยาม ฯ
             
ร่าย
เสด็จสั่งความโอวาท ไท้ธประสาทพระพร แต่ภูธรเอารส ธก็ประณตรับคำ อำลาท้าวลีลาศ ยุรยาตรยังเกยชัย เสนาในเตรียมทัพ สรรพพลห้าสิบหมื่น ขุนคชหื่นหาญแกล้ว ขับช้างแก้วพัทธกอ รอรับราชริมเกย ควาญเคยคัดท้ายเทียบ เสด็จย่างเหยียบหลังสาร ทรงคชาธารยรรยง อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่องพุดตานตกแต่ง แข่งสีทองทอเนตร ปักเศวตฉัตรฉานฉาย คลายคชบาทยาตรา คลี่พยุหคลาดแคล้ว คล้ายนายทแกล้ว ย่างเยื้องธงทอง แลนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ ถับถึงทวารกรุงแก้วเดียรดาษพลคลาดแคล้ว
คล่ำคล้ายคลาขบวน ฯ
             
โคลง ๓
๏ ด่วนเดินโดยโขลนทวารพวกพลหาญแห่หน้า
ล้วนทแกล้วทกล้ากลาดกลุ้มเกลื่อนสถล มารคนา ฯ
             

พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี

โคลง ๒
๏ ยกพลผ่านด่านกว้างเสียงสนั่นม้าช้าง
กึกก้องทางหลวง ฯ
๏ ปวงประนมนบเกล้างามเสงียมเฟื้ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
๏ ล่วงลุด่านเจดีย์สามองค์มีแห่งหั้น
แดนต่อแดนกันนั้น ฯ
             
โคลง ๔
๏ มาเดียวเปลี่ยวอกอ้าอายสู
สถิตอยู่เอ้องค์ดูละห้อย
พิศโพ้นพฤกษ์พบูบานเบิก ใจนา
พลางคะนึงนุชน้อยแน่งเนื้อนวลสงวน ฯ
๏ สลัดไดใดสลัดน้องแหนงนอน ไพรฤๅ
เพราะเพื่อมาราญรอนเศิกไสร้
สละสละสมรเสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกำนามไม้แม่นแม้นทรวงเรียม ฯ
๏ สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้งยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หายห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวายวางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้าหยุดได้ฉันใด ฯ
๏ พลมอญเมิลมืดท้องรัถยา
อเนกนิกรอาชาชาติช้าง
ทวนทองเถือกทอตาเปลือยปลาบ
เทียวธวัชแลสล้างเฟื่องฟ้าปลิวปลาย ฯ
             
ร่าย
๏ ฝ่ายนครกาญจน จัดพลพวกด่าน ผ่านไปสืบเอาเหตุ ในขอบเขตรามัญ เขาก็พากันรีบรัด ลัดเล็ดลอดเลาะดง ตรงไปทางแม่กษัตริย์ จัดกันซุ่มเป็นกอง มองเอาเหตุเอาผล ยลนิกรรามัญ เดินแน่นนันต์นองเถื่อน เกลื่อนมาทั่วออกทิศ หวันก่อกิจดัสกร แก่พระนครตระหนัก เห็นฉัตรปักห้าชั้น กั้นบนเบื้องหลังสาร เขาก็ทราบการโดยขนาด ว่าอุปราชขุนทัพ เร็วรีบกลับมาบอก แดออกญาผ่านเผ้า เจ้านครกาญจนบุริน ยินยุบลข่าวศึก พิลึกลาญขวัญ แหลกแสกกมลทะท้าว ร้าวอุระขุนเมือง เคืองใจราษฎร์ทุกผู้ รู้ตรลอดไพร่นาย เขาทั้งหลายตริกัน ขวัญเกี่ยงกินเผือนเผือด เลือดสลดหมดหน้า บเห็นถ้าต่อรบ รู้ว่าทบบมิทาน รู้ว่าราญบมิรอด คิดเททอดครัวแตก แหกหนีหน้าอย่าพะ เขามละบ้านเมือง เปลืองเปล่าผู้หมู่ชน ชวนกันซนกันซุก บุกป่าดงป่าแดง แฝงเอาเหตุเอาผล ยลกระแหน่เศิกไสร้ เพื่อลงลักษณะให้ ส่งท้าวแถลงความ ท่านนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ ชาวสยามคร้ามเศิกสิ้นทั้งผอง
นายและไพร่ไป่ปองรบร้า
อพยพหลบหลีกมองเอาเหตุ
ซุกซ่อนห่อนให้ข้าศึกได้ไปเป็น ฯ
             
ร่าย
ส่วนนเรนทรสมญา มหาอุปราชรามัญ ธก็ให้ผันพลผ้าย ย้ายมาโดยทางเถื่อน ทัพหน้าเคลื่อนพลเดิม ลุลำกระเพินบมิหึง จึ่งพระยาจิดตอง ให้พลกรองเวฬู ปูเป็นสะพานผ่านชล เร่งเดินพลข้ามฟาก มากนิกรคั่งคาม พวกชาวสยามเห็นตระหนัก จึ่งลงลักษณ์สารสื่อ ใส่ชื่อทั่วตัวขุน ถ้วนทุกมุลทุกนาย แดออกญามหาด ทูลบัวบาทมหิบาล เขาก็รับสารขึ้นม้า รับมาเร็วฤๅช้า บอกข้อเข็ญความ ท่านนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ กองทัพตามกันเต้าเสียงสนั่นลั่นเท้า
พ่างพื้นไพรพัง เพิกฤๅ ฯ
             
โคลง ๔
๏ ดลยังเวียงด่านด้าวโดยมี
เมืองชื่อกาญจนบุรีว่างว้าง
ผู้ใดบ่ออกตีตอยต่อทัพนา
ยลแต่เหย้าเรือนร้างอยู่ไร้ใครแรม ฯ
๏ สอดแนมจักจับถ้อยไถ่ความ
ฤๅบ่ได้ชาวสยามสักผู้
จักสืบจักเสาะถามเหตุห่อน รู้แฮ
รู้ว่าชาวเมืองรู้เล่ห์แล้วหลีกหนี ฯ
๏ ธก็กรีธาทัพเข้าเนาเมือง
ประทับอยู่แรมคืนเคืองสวาทไหม้
คำนึงนุชไป่เปลืองจิตท่าน ถวิลนา
เจ็บอุระราชไข้ขุนแค้นคับทรวง ฯ
๏ ระลวงรำลึกอ้าบังอร
ยลแต่แสงศศิธรถ่องฟ้า
แสงจันทร์บ่ส่องสมรหมดเทวษ
ถวิลบ่ลืมนวลหน้าแม่แม้นนวลจันทร์ ฯ
๏ พระฝืนทุกข์เทวษกล้ำแกล่ครวญ
ขับคชบทจรจวนจักเพล้
บรรลุพนมทวนเถื่อนที่ นั้นนา
เหตุอนาถหนักเอ้อาจให้ชนเห็น ฯ
๏ เกิดเป็นหมอกมืดห้องเวหา หนเฮย
ลมชื่อเวรัมภาพัดคลุ้ม
หวนหอบหักฉัตราคชขาด ลงแฮ
แลธุลีกลัดกลุ้มเกลื่อนเพี้ยงจักรผัน ฯ
๏ พระพลันเห็นเหตุไซร้เสียงดวง แดเฮย
ถนัดดั่งภูผาหลวงตกต้อง
กระหม่ากระเหม่นทรวงสั่นซีด พักตร์นา
หนักหฤทัยท่านร้องเรียกให้โหรทาย ฯ
๏ ทั้งหลายล้วนจบแจ้งเจนไสย ศาสตร์แฮ
เห็นตระหนักแน่ในเหตุห้าว
จักทูลบ่ทูลไทเกรงโทษ ท่านนา
เสนอแต่ดีกลบร้าวเผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
๏ เหตุนี้ผิวเช้าชั่วฉุกเข็ญ
เกิดเมื่อยามเย็นดีดอกไท้
อย่าขุนอย่าลำเค็ญใจเจ็บ พระเอย
พระจักลุลาภได้เผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
๏ ครั้นฟังบพิตรเพี้ยงฟังหู หนึ่งนา
หูหนึ่งแหนงคำสูซึ่งพร้อง
ไป่ไว้หฤทัยภู-ธรพรั่น อยู่นา
นึกเร่งกริ่งเกรงต้องแต่แพ้ดัสกร ฯ
๏ สระเทินสระทกแท้ไทถวิล อยู่เฮย
ฤๅใคร่คลายใจจินต์จืดสร้อย
คำนึงนฤบดินทร์บิตุเรศ พระแฮ
พระเร่งลานละห้อยเทวษไห้โหยหา ฯ
๏ อ้าจอมจักรพรรดิผู้เพ็ญยศ
แม้พระเสียเอารสแก่เสี้ยน
จักเจ็บอุระระทดทุกข์ใหญ่ หลวงนา
ถนัดดั่งพาหาเหี้ยนหั่นกลิ้งไกลองค์ ฯ
๏ ณรงค์นเรศวร์ด้าวดัสกร
ใครจักอาจออกรอนรบสู้
เสียดายแผ่นดินมอญพลันมอด ม้วยแฮ
เหตุบ่มีมือผู้-อื่นต้านทานเข็ญ ฯ
๏ เอ็นดูภูธเรศเจ้าจอมถวัลย์
เปลี่ยวอุระราชรัน-ทดแท้
พระชนม์ชราครันครองภพ พระเอย
เกรงบพิตรจักแพ้เพลี่ยงพล้ำศึกสยาม ฯ
๏ สงครามครานี้หนักใจเจ็บ ใจนา
เรียมเร่งแหนงหนาวเหน็บอกโอ้
ลูกตายฤใครเก็บผีฝาก พระเอย
ผีจัดเท้งที่โพล้ที่เพล้ใครเผา ฯ
๏ พระเนานัคเรศอ้าเอองค์
ฤๅบ่มีใครดงคู่ร้อน
จักริจักเริ่มรงค์ฤๅลุ แล้วแฮ
พระจักขุ่นจักข้อนจักแค้นคับทรวง ฯ
๏ พระคุณตวงเพียบพื้นภูวดล
เต็มตรลอดแหล่งบนบ่อนใต้
พระเกิดพระก่อชนม์ชุบชีพ มานา
เกรงบ่ทันลูกได้กลับเต้าตอบสนอง ฯ
             
ร่าย
๏ เมื่อนั้นเจ้าธานินทร์ บุรินทรศักดิ์สีมา ทุกบุราราชอาณาเขต ประเทศนครสิงห์สรรค์ ศรีสุพรรณทุกภาย เขาก็ขยายครัวครอก ซอกไปซ่อนไปซุก บุกป่าแดงป่าดง แล้วก็ลงลักษณ์ข่าวสาร ส่งอาการเหตุห้าว มาบังคมทูลท้าว ธิราชผู้ผ่านถวัลย์ แลนา ฯ
             

สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร

โคลง ๔
๏ ปางนั้นนฤเบศเบื้องบูรพา ภพแฮ
เฉลิมพิภพอโยธยายิ่งผู้
พระเดชดั่งรามรา-ฆพเข่น เข็ญเฮย
ออกอเรนทร์รั่วรู้เร่งร้าวราญสมร ฯ
๏ ภูธรสถิตท้องโรงธาร ท่านฤๅ
เถลิงภิมุขพิมานมาศแต้ม
มนตรีชุลีกรานกราบแน่น เนืองนา
บัดบดีศวรแย้มโอษฐ์เอื้อนปราศรัย ฯ
๏ ไต่ถามถึงทุกข์ถ้อยทวยชน
ต่างสนองเสนอกลแก่ท้าว
พระดัดคดีผลใดเยี่ยง ยุกดิ์นา
เย็นอุระฤๅร้าวราษฎร์ร้อนห่อนมี ฯ
๏ นฤบดีดำรัสด้วยการยุทธ์
ซึ่งจักยอกัมพุชแผ่นโพ้น
พลบกยกเอาอุต-ดมโชค ชัยนา
นับดฤษถีนี้โน้นแน่นั้นวันเมือ ฯ
๏ พลเรือพลรบท้องทางชลา
เกณฑ์แต่พลพาราปักษ์ใต้
ไปตีพุทไธธา-นีมาศ เมืองเฮย
ตีป่าสักเสร็จให้เร่งล้อมขอมหลวง ฯ
๏ พระห่วงแต่เสี้ยนอัสดง
เกรงกระลับก่อรงค์รั่วหล้า
คือใครจักคุมคงควรคู่ เข็ญแฮ
อาจประกันกรุงถ้าทัพข้อยคืนถึง ฯ
๏ พระพึงพิเคราะห์ผู้ภักดี ท่านนา
คือพระยาจักรีกาจแกล้ว
พระตรัสแด่มนตรีมอบมิ่ง เมืองเฮย
กูจักไกลกรุงแก้วเกลือกช้าคลาคืน ฯ
๏ เยียวพื้นภพแผ่นด้าวตกไถง
ริพิบัติพูนภัยเพิ่มพ้อง
สูกันนครใจครอเคร่า กูเฮย
กูจักพลันคืนป้องปกหล้าแหล่งสยาม ฯ
๏ สงครามพึ่งแผกแพ้เสียที
แตกเมื่อต้นปีไปห่อนช้า
บร้างกระลับมีมาขวบ นี้เลย
มีก็มีปีหน้าแน่แท้กูทาย ฯ
๏ ทั้งหลายสดับถ้อยท่านบรรหาร หนเฮย
ยังบ่เยื้อนสนองสารใส่เกล้า
บัดทูตนครกาญ-จนถับ ถึงแฮ
พระยาอามาตย์นำเฝ้าบอกเบื้องเคืองเข็ญ ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระเปรมปราโมทย์ไซร้ซึ่งบดินทร์ดาลได้
สดับเบื้องบอกรงค์ ฯ
๏ ธให้หาองค์น้องท้าวแถลงยุบลเหตุห้าว
ท่านแจ้งทุกอัน แลนา ฯ
             

สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ

ร่าย
๏ แล้วธบรรหารตระบัด ว่าเราจัดจตุรงค์ จะไปยงยอยุทธ์ ยังกัมพุชพารา ศึกมอญมาชิงควัน กันบให้ไปออก บอกให้เต้าโดยตก ควรจักยกไปยุทธ์ เป็นมหุสสวมหันต์ ปันเอาชัยชิงชื่น แล้วธก็อื้นออกพจน์ พระราชกฎประกาศ แก่เมืองราชบุรี เกณฑ์โยธีห้าร้อย คะค้อยไปซุ่มซ่อน ดูศึกผ่อนพลเดิน ผ่านลำกระเพินโดยสะพาน เพ่งพลหาญเห็นเสร็จ ให้ระเห็จเข้าหั่น บั่นเรือกขาดเป็นท่อน ค่อนพวนขาดเป็นทุ่น เถกิงกรานกรุ่นพลวกเผา อย่าให้เขาจับได้ เขากระดั่งไท้ ธิราชเอื้อนโองการ สั่งนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ นฤบาลสารเสร็จอ้างไป่ทัน หึงแฮ
ถับทูตทุกเขตขัณฑ์ด่านด้าว
สิงห์สรรค์สุพรรณบรร-ลุถิ่น ท่านนา
เขาเร่งนำเฝ้าท้าวถั่งถ้อยแถลงทูล ฯ
๏ บดีศูรสั่งให้อ่านสารา
พระราชรับบัญชาท่านไซร้
แถลงลักษณะทุกธา-นีบอก มานา
เสนอยุบลข่าวใกล้ศึกตั้งในแดน ฯ
๏ บัดมอญแล่นม้าลาดเลยแขวง
วิเศษชัยชาญแสดงข่าวซ้ำ
เขานำอักษรแถลงถวายดับ นั้นนา
พระเร่งชื่นฤๅช้ำที่ข้อเข็ญความ ฯ
๏ จอมสยามขามศึกไซร้ไป่มี
บานกลเปรมปรีดิ์ปราบเสี้ยน
สองสุริยกษัตริย์ตรัสต่อ กันแฮ
หาเลศมลายศึกเหี้ยนหั่นห้าวหายคม ฯ
๏ สมเด็จเผยโอษฐ์อื้นปรึกษา
แด่ภิมุขมาตยาทั่วผู้
จักโรมอริรา-มัญเมื่อ นี้แฮ
รับที่ถิ่นฤๅสู้นอกไซร้ไหนควร ฯ
๏ ทั้งมวลหมู่มาตย์ซ้องสารพลัน
ทูลพระจอมจรรโลงเลื่องหล้า
แถลงลักษณะปางบรรพ์มาเทียบ ถวายแฮ
แนะที่ควรเสด็จค้าเศิกไซร้ไกลกรุง ฯ
๏ โทไท้ทรงสดับถ้อยทูลถวาย
ถูกหฤทัยท่านผายโอษฐ์พร้อง
สูตริก็ตรงหมายเหมือนตริ ตูนา
ตริบ่ต่างกันต้องต่อน้ำใจตู ฯ
๏ ภูธรสั่งให้เทียบโยธี ทัพแฮ
ห้าหมื่นหมายบัญชีเรียกได้
เกณฑ์เมืองจัตวาตรีไตรตรวจ เอานา
ยี่สิบสามเมืองใต้เตรียบตั้งต่อฉาน ฯ
๏ บรรหารให้จัดผู้อาจอง
เอาพระศรีไสยณรงค์ฤทธิ์ห้าว
เป็นจอมพยุหยงไปยั่ว ยุทธแฮ
นำนิกรทัพท้าวออกร้ารอนเข็ญ ฯ
๏ พระเห็นจักเปลี่ยวข้างขุนพล
เยียวบ่มีเพื่อนผจญจึ่งใช้
พระราชฤทธานนท์หนึ่งช่วย กันนา
เป็นปลัดทัพให้ศึกสู้ทั้งสอง ฯ
๏ กองหน้านฤนาทตั้งเสร็จสาร สั่งแฮ
เร็วเร่งห้ำหั่นหาญหักกล้า
บ่แตกต้านทานมันรอด ไซร้ฤๅ
กูจักออกโรมร้าศึกร้ายภายหลัง ฯ
๏ ทั้งสองรับถ้อยท่านทูลลา แลเฮย
ยกพยุหแสนยาย่างย้าย
โดนแดนทุกราธวาวายถิ่น
ถึงนี่หนองสาหร่ายท้ายทุ่งกว้างทางหลวง ฯ
๏ ปวงทัพปลูกค่ายสร้างกลางสมร
ภูมิพยุหไกรสรศึกตั้ง
เสนาพลากรต่างรื่น เริงแฮ
คอยจักยอยุทธ์ยั้งอยู่ถ้าทางเข็ญ ฯ
             

พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ

ร่าย
๏ กษณะนั้นนเรนทร์ไท้ ธให้โหรหามมหุติฤกษ์ ซึ่งจะเบิกพยุหบาตรา จึ่งพระโหราผู้รู้โศลก หลวงญาณโยคโลกทีป รีบคำนวณทำนาย ถวายพยากรณ์แก่ไท้ ท้าวธได้จัตุรงคโชค อาจปราบโลกลาญรงค์ เชิญบาทบงสุ์เสด็จคลา จากอโยธยายามเช้า เข้ารวิวารมหันต์ วันสิบเอ็ดขึ้นค่ำย่ำรุ่งสองนาฬิกา เศษสังขยาห้าบาท ในบุษยมาสดฤษถี ศรีสวัสดิ์ฤกษ์อุดม บรมนรินทร์ดาลสดับ ธให้ตรวจทัพเตรียมพล โดยชลมารคพยู่ห์ สู่ตำบลปากโมก ครั้นณวันโชควันยาม พยุหสงครามเขาตรวจ ทุกหมู่หมวดสรรพเสร็จ จึ่งสมเด็จภูวนาถ กับบรมราชอนุชา ธก็สรงธาราเสาวรภย์ ตรลบสุคนธกำจร ทรงบวรวิภูษา รัตพัสตราครูเนตร ชายแครงเทศเถือกพร้อย ชายไหวห้อยเห็นเพรา พิศสนับพลายรรยง ฉลองพระองค์แลเลิศ ทับทรวงเพริศพรายพริ้ง สะอิ้งรัตนไพฑูรย์ แก้วเกยูรสวมหัตถ์ แสงนพรัตน์มลังเมลือง เรืองธำมรงค์รุ้งร่วง ช่วงพรรเหาเก้าแก้ว แพร้วพรายนิ้วอัษฎางค์ พลางสองกษัตริย์สวมทรง อลงกตกาญจนมกุฎ แสงเพชรผุดพุ่งแพร้ว แก้เก้ากอบแกมมาศ นาดกรกรายทายธนู ดูสองเจ้าจอมสยาม เฉกลักษณ์รามรอนราพณ์ ปราบอเรนทร์ทุกด้าว พลางบพิตรไทท้าว ท่านเยื้องยังฉนวน น้ำนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ ครั้นควรพิชัยฤกษ์พร้อมเพรียงสมัย
โหรคระหึมฆ้องชัยกึกก้อง
พฤฒิพราหมณ์พรอกมนตร์ไสยสังข์เป่า ถวายนา
แตรตรลบเสียงซ้องแซ่ซั้นบรรสาน ฯ
             
ร่าย
๏ พลันขยายพยุหบาตรา คลาเข้าโขลนทวาเรศ สงฆ์สวดชเยศพุทธมนต์ ปรายประชลเฉลิมทัพ ตามตำรับราชรณยุทธ์ โบกกบี่ธุชคลาพล ยลนาวาดาดาษ ดูสระพราศสระพรั่ง คั่งคับขอบคงคา แลมเหาฬาร์พันลึก อธึกท้องแถวธาร ถับถึงสถานปากโมก จึ่งพระจอมโลกลือเดช เสด็จเถลิงนิเวศวังทาง พลางธให้ตรวจเตรียมพล โดยสถลพยุหบาตร บอกพระราชกำหนด กฎแก่ขุนทัพขุนพล จักยกหพลยาตรา ในเวลาล่วงค่ำ ย่ำสิบเอ็ดสามบาท ครั้นเข้าราษตรีสมัย ภูวไนยตรัสตริการ ซึ่งจะรอนราญอริราช ด้วยภิมุขมาตยากร จนจันทรลับเลื่อน เคลื่อนเข้าตติยยาม เจ้าจอมสยามไสยาสน์ เหนือบรมอาสน์ก่องแก้ว คล้ายคล้ายสิบทุ่มแคล้ว ท่านเคลิ้มหลับฝัน ใฝ่นา ฯ
             
โคลง ๔
๏ เทวัญแสดงเหตุให้สังหรณ์ เห็นแฮ
เห็นกระแสสาครหลั่งล้น
ไหลลบวนาดอนแดนตก ทิศนา
พระแต่เพ่งฤๅพ้นที่น้ำหนองสาย ฯ
๏ พระกรายกรย่างเยื้องจรลี
ลุยมหาวารีเรี่ยวกว้าง
พอพานพะกุมภีล์หนึ่งใหญ่ ไสร้นา
โถมปะทะเจ้าช้างจักเคี้ยวขบองค์ ฯ
๏ พระทรงแสงดาบแก้วกับกร
โจมประจักฟันฟอนเฟื่องน้ำ
ต่างฤทธิ์ต่างรบรอบราญชีพ กันแฮ
สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำท่งท้องชลธี ฯ
๏ นฤบดีโถมถีบสู้ศึกธาร
ฟอนฟาดสุงสุมารมอดม้วย
สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์หายเหือด แห้งแฮ
พระเร่งปรีดาด้วยเผด็จเสี้ยนเศิกกษัย ฯ
๏ ทันใดดิลกเจ้าจอมถวัลย์
สร่างผทมถวิลฝันห่อนรู้
พระหาพระโหรพลันพลางบอก ฝันนา
เร็วเร่งทายโดยกระทู้ที่ถ้อยตูแถลง ฯ
๏ พระโหรเห็นแจ้งจบในมูล ฝันแฮ
ถวายพยากรณ์ทูลแต่ไท้
สุบินบดินทร์สูรฝันใฝ่ นั้นฤๅ
หากเทพสังหรณ์ให้ธิราชรู้เป็นกล ฯ
๏ นุสนธิ์ซึ่งน่านน้ำนองพนา สณฑ์เฮย
หนปัจฉิมทิศาท่วมไซร้
คือทัพอริรา-มัญหมู่ นี้นา
สมดั่งลักษณ์ฝันไท้ธเรศนั้นอย่าแหนง ฯ
๏ เหตุแสดงแห่งราชพ้องภัยชลา
ได้แก่อุปราชาเชษฐ์ผู้
สงครามซึ่งเสด็จครานี้ใหญ่ หลวงแฮ
แท้จักถึงยุทธ์สู้ศึกช้างสองชน ฯ
๏ ซึ่งผจญอริราชด้วยเดชะ
เพื่อพระเดโชชนะศึกน้ำ
คือองค์อมิตรพระจักมอด เมือเฮย
เพราะพระหัตถ์หากห้ำหั่นด้วยขอคม ฯ
๏ เบื้องบรมขัตติย์ท่องท้องแถวธาร
พระจักไล่ลุยลาญเศิกไสร้
ริปูบ่รอราญฤทธิ์ราช เลยพ่อ
พระจักชาญชเยศได้ดั่งท้าวใฝ่ฝัน ฯ
             
โคลง ๒
๏ ครั้นบดินทร์ดาลได้สดับพยากรณ์ไท้
ธิราชแผ้วพูนเกษม ฯ
๏ เปรมปรีดิ์ปราโมทย์แท้เพราะพระโหรหากแก้
กล่าวต้องตามฝัน ฯ
๏ พระพลันทรงเครื่องต้นงามประเสริฐเลิศล้น
แหล่งหล้าควรชม ชื่นนา ฯ
๏ สมเด็จอนุชน้องแก้วทรงสุภาภรณ์แพร้ว
เพริศพร้อมเพราตา ยิ่งแฮ ฯ
             
ร่าย
๏ สองขัติยายุรยาตรา ยังเกยราชหอทัพ ขุนคชขับช้างเทียบ ทวยหาญเพียบแผ่นภู ดูมหิมาดาดาษ สระพราศพร้อมโดยขบวน องค์อดิศวรสองกษัตริย์ คอยนฤขัตรพิชัย บัดเดี๋ยวไททฤษฎี พระศรีสารีริกบรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพ่างยล ส้มเกลี้ยงกลลุก่อง ฟ่องฟ้าฝ่ายทักษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับคำรบสามครา เป็นทักษิณาวรรตเวียน ว่ายฉวัดเฉวียนอัมพร ผ่านไปอุดรโดยด้าว พลางบพิตรโทท้าว ท่านตั้งสดุดี อยู่นา ฯ
             
โคลง ๔
๏ พระเปรมปราโมทย์น้อมวันทนา
พลางพระทรงไอยราฤทธิ์แกล้ว
พระคเชนทร์ชื่อไชยา-นุภาพ พ้นแฮ
อาจเข่นคชศึกแผ้วแผกแพ้ทุกภาย ฯ
๏ พลายปราบไตรจักรอ้างเอิกฤทธิ์
อาจปราบคชทุกทิศทั่วไซร้
เอกาทศรถอิศ-วรเสด็จ ทรงนา
นำคเชนทเรศไท้ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
             

พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย

พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก

ทัพหลวงเคลื่อนพล ช้างทรงพระนเรศวรและพระเอกาทศรถฝ่าเข้าไปในกองทัพข้าศึก

พระนเรศวรทรงสร้างสถูปและปูนบำเหน็จทหาร

สมเด็จพระวันรัตขอพระราชทานอภัยโทษ

เครื่องมือส่วนตัว