ลิลิตตะเลงพ่าย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(เหตุการณ์ทางเมืองมอญ)
(พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี)
แถว 93: แถว 93:
=== พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี ===
=== พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ ยกพลผ่านด่านกว้าง  เสียงสนั่นม้าช้าง
 +
กึกก้องทางหลวง ฯ
 +
๏ ปวงประนมนบเกล้า  งามเสงียมเฟื้ยมเฝ้า
 +
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
 +
๏ ล่วงลุด่านเจดีย์  สามองค์มีแห่งหั้น
 +
แดนต่อแดนกันนั้น ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ มาเดียวเปลี่ยวอกอ้า  อายสู
 +
สถิตอยู่เอ้องค์ดู  ละห้อย
 +
พิศโพ้นพฤกษ์พบู  บานเบิก ใจนา
 +
พลางคะนึงนุชน้อย  แน่งเนื้อนวลสงวน ฯ
 +
๏ สลัดไดใดสลัดน้อง  แหนงนอน ไพรฤๅ
 +
เพราะเพื่อมาราญรอน  เศิกไสร้
 +
สละสละสมร  เสมอชื่อ ไม้นา
 +
นึกระกำนามไม้  แม่นแม้นทรวงเรียม ฯ
 +
๏ สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง  ยามสาย
 +
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย  ห่างเศร้า
 +
กี่คืนกี่วันวาย  วางเทวษ ราแม่
 +
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า  หยุดได้ฉันใด ฯ
 +
๏ พลมอญเมิลมืดท้อง  รัถยา
 +
อเนกนิกรอาชา  ชาติช้าง
 +
ทวนทองเถือกทอตา  เปลือยปลาบ
 +
เทียวธวัชแลสล้าง  เฟื่องฟ้าปลิวปลาย ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ ฝ่ายนครกาญจน จัดพลพวกด่าน ผ่านไปสืบเอาเหตุ ในขอบเขตรามัญ เขาก็พากันรีบรัด ลัดเล็ดลอดเลาะดง ตรงไปทางแม่กษัตริย์ จัดกันซุ่มเป็นกอง มองเอาเหตุเอาผล ยลนิกรรามัญ เดินแน่นนันต์นองเถื่อน เกลื่อนมาทั่วออกทิศ หวันก่อกิจดัสกร แก่พระนครตระหนัก เห็นฉัตรปักห้าชั้น กั้นบนเบื้องหลังสาร เขาก็ทราบการโดยขนาด ว่าอุปราชขุนทัพ เร็วรีบกลับมาบอก แดออกญาผ่านเผ้า เจ้านครกาญจนบุริน ยินยุบลข่าวศึก พิลึกลาญขวัญ แหลกแสกกมลทะท้าว ร้าวอุระขุนเมือง เคืองใจราษฎร์ทุกผู้ รู้ตรลอดไพร่นาย เขาทั้งหลายตริกัน ขวัญเกี่ยงกินเผือนเผือด เลือดสลดหมดหน้า บเห็นถ้าต่อรบ รู้ว่าทบบมิทาน รู้ว่าราญบมิรอด คิดเททอดครัวแตก แหกหนีหน้าอย่าพะ เขามละบ้านเมือง เปลืองเปล่าผู้หมู่ชน ชวนกันซนกันซุก บุกป่าดงป่าแดง แฝงเอาเหตุเอาผล ยลกระแหน่เศิกไสร้ เพื่อลงลักษณะให้ ส่งท้าวแถลงความ ท่านนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ ชาวสยามคร้ามเศิกสิ้น  ทั้งผอง
 +
นายและไพร่ไป่ปอง  รบร้า
 +
อพยพหลบหลีกมอง  เอาเหตุ
 +
ซุกซ่อนห่อนให้ข้า  ศึกได้ไปเป็น ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
ส่วนนเรนทรสมญา มหาอุปราชรามัญ ธก็ให้ผันพลผ้าย ย้ายมาโดยทางเถื่อน ทัพหน้าเคลื่อนพลเดิม ลุลำกระเพินบมิหึง จึ่งพระยาจิดตอง ให้พลกรองเวฬู ปูเป็นสะพานผ่านชล เร่งเดินพลข้ามฟาก มากนิกรคั่งคาม พวกชาวสยามเห็นตระหนัก จึ่งลงลักษณ์สารสื่อ ใส่ชื่อทั่วตัวขุน ถ้วนทุกมุลทุกนาย แดออกญามหาด ทูลบัวบาทมหิบาล เขาก็รับสารขึ้นม้า รับมาเร็วฤๅช้า บอกข้อเข็ญความ ท่านนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ กองทัพตามกันเต้า  เสียงสนั่นลั่นเท้า
 +
พ่างพื้นไพรพัง เพิกฤๅ ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ ดลยังเวียงด่านด้าว  โดยมี
 +
เมืองชื่อกาญจนบุรี  ว่างว้าง
 +
ผู้ใดบ่ออกตี  ตอยต่อทัพนา
 +
ยลแต่เหย้าเรือนร้าง  อยู่ไร้ใครแรม ฯ
 +
๏ สอดแนมจักจับถ้อย  ไถ่ความ
 +
ฤๅบ่ได้ชาวสยาม  สักผู้
 +
จักสืบจักเสาะถาม  เหตุห่อน รู้แฮ
 +
รู้ว่าชาวเมืองรู้  เล่ห์แล้วหลีกหนี ฯ
 +
๏ ธก็กรีธาทัพเข้า  เนาเมือง
 +
ประทับอยู่แรมคืนเคือง  สวาทไหม้
 +
คำนึงนุชไป่เปลือง  จิตท่าน ถวิลนา
 +
เจ็บอุระราชไข้  ขุนแค้นคับทรวง ฯ
 +
๏ ระลวงรำลึกอ้า  บังอร
 +
ยลแต่แสงศศิธร  ถ่องฟ้า
 +
แสงจันทร์บ่ส่องสมร  หมดเทวษ
 +
ถวิลบ่ลืมนวลหน้า  แม่แม้นนวลจันทร์ ฯ
 +
๏ พระฝืนทุกข์เทวษกล้ำ  แกล่ครวญ
 +
ขับคชบทจรจวน  จักเพล้
 +
บรรลุพนมทวน  เถื่อนที่ นั้นนา
 +
เหตุอนาถหนักเอ้  อาจให้ชนเห็น ฯ
 +
๏ เกิดเป็นหมอกมืดห้อง  เวหา หนเฮย
 +
ลมชื่อเวรัมภา  พัดคลุ้ม
 +
หวนหอบหักฉัตรา  คชขาด ลงแฮ
 +
แลธุลีกลัดกลุ้ม  เกลื่อนเพี้ยงจักรผัน ฯ
 +
๏ พระพลันเห็นเหตุไซร้  เสียงดวง แดเฮย
 +
ถนัดดั่งภูผาหลวง  ตกต้อง
 +
กระหม่ากระเหม่นทรวง  สั่นซีด พักตร์นา
 +
หนักหฤทัยท่านร้อง  เรียกให้โหรทาย ฯ
 +
๏ ทั้งหลายล้วนจบแจ้ง  เจนไสย ศาสตร์แฮ
 +
เห็นตระหนักแน่ใน  เหตุห้าว
 +
จักทูลบ่ทูลไท  เกรงโทษ ท่านนา
 +
เสนอแต่ดีกลบร้าว  เผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
 +
๏ เหตุนี้ผิวเช้าชั่ว  ฉุกเข็ญ
 +
เกิดเมื่อยามเย็นดี  ดอกไท้
 +
อย่าขุนอย่าลำเค็ญ  ใจเจ็บ พระเอย
 +
พระจักลุลาภได้  เผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
 +
๏ ครั้นฟังบพิตรเพี้ยง  ฟังหู หนึ่งนา
 +
หูหนึ่งแหนงคำสู  ซึ่งพร้อง
 +
ไป่ไว้หฤทัยภู-  ธรพรั่น อยู่นา
 +
นึกเร่งกริ่งเกรงต้อง  แต่แพ้ดัสกร ฯ
 +
๏ สระเทินสระทกแท้  ไทถวิล อยู่เฮย
 +
ฤๅใคร่คลายใจจินต์  จืดสร้อย
 +
คำนึงนฤบดินทร์  บิตุเรศ พระแฮ
 +
พระเร่งลานละห้อย  เทวษไห้โหยหา ฯ
 +
๏ อ้าจอมจักรพรรดิผู้  เพ็ญยศ
 +
แม้พระเสียเอารส  แก่เสี้ยน
 +
จักเจ็บอุระระทด  ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
 +
ถนัดดั่งพาหาเหี้ยน  หั่นกลิ้งไกลองค์ ฯ
 +
๏ ณรงค์นเรศวร์ด้าว  ดัสกร
 +
ใครจักอาจออกรอน  รบสู้
 +
เสียดายแผ่นดินมอญ  พลันมอด ม้วยแฮ
 +
เหตุบ่มีมือผู้-  อื่นต้านทานเข็ญ ฯ
 +
๏ เอ็นดูภูธเรศเจ้า  จอมถวัลย์
 +
เปลี่ยวอุระราชรัน-  ทดแท้
 +
พระชนม์ชราครัน  ครองภพ พระเอย
 +
เกรงบพิตรจักแพ้  เพลี่ยงพล้ำศึกสยาม ฯ
 +
๏ สงครามครานี้หนัก  ใจเจ็บ ใจนา
 +
เรียมเร่งแหนงหนาวเหน็บ  อกโอ้
 +
ลูกตายฤใครเก็บ  ผีฝาก พระเอย
 +
ผีจัดเท้งที่โพล้  ที่เพล้ใครเผา ฯ
 +
๏ พระเนานัคเรศอ้า  เอองค์
 +
ฤๅบ่มีใครดง  คู่ร้อน
 +
จักริจักเริ่มรงค์  ฤๅลุ แล้วแฮ
 +
พระจักขุ่นจักข้อน  จักแค้นคับทรวง ฯ
 +
๏ พระคุณตวงเพียบพื้น  ภูวดล
 +
เต็มตรลอดแหล่งบน  บ่อนใต้
 +
พระเกิดพระก่อชนม์  ชุบชีพ มานา
 +
เกรงบ่ทันลูกได้  กลับเต้าตอบสนอง ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ เมื่อนั้นเจ้าธานินทร์ บุรินทรศักดิ์สีมา ทุกบุราราชอาณาเขต ประเทศนครสิงห์สรรค์ ศรีสุพรรณทุกภาย เขาก็ขยายครัวครอก ซอกไปซ่อนไปซุก บุกป่าแดงป่าดง แล้วก็ลงลักษณ์ข่าวสาร ส่งอาการเหตุห้าว มาบังคมทูลท้าว ธิราชผู้ผ่านถวัลย์ แลนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร ===
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร ===
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ ===
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ ===

การปรับปรุง เมื่อ 16:46, 4 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

อาเศียรวาท

ร่าย
๏ ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้า หล้าล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจแกล้วบมิกล้า บค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ทุกเขตทุกด้าว น้าวมกุฎมานบ น้อมพิภพมานอบ มอบบัวบาทวิบุล อดุลยานุภาพ ปราบดัสกรแกลนกลัว หัวหั่นหายกายกลาด ดาษเต็มท่งเต็มดอน พม่ามอญพ่ายหนี ศรีอโยธยารมเยศ พิเศษสุขบำเทิง สำเริงราชสถาน สำราญราชสถิต พิพิธโภคสมบัติ พิพัฒน์โภคสมบูรณ์ พูนพิภพดับเข็ญ เย็นพิภพดับทุกข์ สนุกสบสีมา ส่ำเสนานอบเกล้า ส่ำสนมเฝ้าฝ่ายใน ส่ำพลไกรเกริกหาญ ส่ำพลสารสินธพ สบศาสศรเพลิง เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้า โลกล้วนสดุดี ฯ
             
โคลง ๔
๏ บุญเจ้าจอมภพพื้นแผ่นสยาม
แสยงพระยศยินขามขาดแกล้ว
พระฤทธิ์ดังฤทธิ์รามรอนราพณ์
แลฤๅ ราญอริราชแผ้วแผกแพ้ทุกภาย ฯ
๏ ไพรินทรนาศเพี้ยงพลมาร
พระดั่งองค์อวตารแต่กี้
แสนเศิกห่อนหาญราญรอฤทธิ์ พระฤๅ
ดาลตระดกเดชลี้ประหลาดเหล้าแหล่งสถาน ฯ
๏ เสร็จเสวยศวรรเยศอ้างไอยศูรย์ สรวงฤๅ
เย็นพระยศปูนเดือนเด่นฟ้า
เกษมสุขส่องสมบูรณ์บานทวีป
สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้าแหล่งล้วนสรรเสริญ ฯ
             

เหตุการณ์ทางเมืองมอญ

ร่าย
๏ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัสดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุบริหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยี่ย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์ แต่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพ กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยียบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศ ธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตรา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุบาตร จักยาตราตรู่เช้า เสด็จเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระผาดผายสู่ห้องหาอนุชนวลน้อง
หนุ่มหน้าพระสนม ฯ
๏ ปวงประนมนบเกล้างามเสงี่ยมเฟื้ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
๏ กรตระกองกอดแก้วเรียมจักร้างรสแคล้ว
คลาดเคล้าคลาสมร ฯ
๏ จำใจจรจากสร้อยอยู่แม่อย่าละห้อย
ห่อนช้าคืนสม แม่แล ฯ
             
ร่าย
๏ เสร็จเสาวนีย์สั่งสนม เนืองบังคมคำราช พระบาททันนิทรา จวนเวลาล่วงสาง พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้า แสงทองจ้าจับเมฆ รังสีเฉกฉายฉัน ไก่แก้วขันเจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแหว้วเสียงใส จึ่งบรมไทธิราช ยุรยาตรยังที่สรง ชำระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นตรลบ หอมอวลอบอายขจร ทรงบวรวิภูษิต สนับเพลาพิศพรายพร้อย ชายไหวย้อยยะยาบ ชายแครงทาบเครือวัลย์ รัตพัสตร์พรรณยรรยง ฉลองพระองค์เพริศแพร้ว มกรแก้วเกยูร ตาบไพฑูรย์เรืองจรัส สะอิ้งรัตนประพาฬ สอดสังวาลเฉวียงองค์ มกุฎทรงเทริดเกศ อย่างอิศเรศรามัญ สรรเป็นรูปอุรเคนทร์ เพญพะพานแผ่เศรียร แสงวิเชียรช่อช่วง ธำมรงค์ร่วงรุ้งพราย รายนพรัตน์ชัชวาล เครื่องอลงการโอ่อ่า งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาด ยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา ลีลายังวังราช ไหว้บัวบาทบิตุรงค์ ขอลาองค์ท่านไท้ ไปเผด็จดัสกรให้ เหือดเสี้ยนศึกสยาม สิ้นนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระฟังความลูกท้าวลาเสด็จศึกด้าว
ดั่งเบื้องบรรหาร ฯ
             
โคลง ๓
๏ ภูบาลอื้นอำนวยอวยพระพรเลิศล้น
จงอยุธย์อย่าพ้นแห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ จงเจริญชเยศด้วยเดชะ
ชาวอยุธย์อย่าพะพ่อได้
จงแพ้พินาศพระวิริยภาพ พ่อนา
ชนะแด่สองท่านไท้ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
๏ สงครามความเศิกซึ้งแสนกล
จงพ่ออย่ายินยลแต่ตื้น
อย่าลองคะนองตนตาชอบ ทำนา
การศึกลึกเล่ห์พื้นล่อเลี้ยวหลอกหลอน ฯ
๏ จงแจ้งแห่งเหตุเบื้องโบราณ
เป็นประโยชน์ยุทธการกล่าวไว้
เอาใจทหารหาญเริงรื่น อยู่นา
อย่าระคนปนใกล้เกลือกกลั้วขลาดเขลา ฯ
๏ หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้สบสถาน
เจนจิตวิทยาการกาจแกล้ว
รู้เชิงพิชัยชาญชุมค่าย ควรนา
อาจจักรอนรณแผ้วแผกแพ้พังหนี ฯ
๏ หนึ่งรู้บำเหน็จให้ขุนพล
อันสมรรถมือผจญจืดเสี้ยน
อย่าหย่อนวิริยะยลอย่างเกียจ
แปดประการกลเที้ยรถ่องแท้ทางแถลง ฯ
๏ จงจำคำพ่อไซร้สั่งสอน
จงประสิทธิ์สมพรพ่อให้
จงเรืองพระฤทธิ์รอนอริราช
จงพ่อลุลาภได้เผด็จด้าวแดนสยาม ฯ
             
ร่าย
เสด็จสั่งความโอวาท ไท้ธประสาทพระพร แต่ภูธรเอารส ธก็ประณตรับคำ อำลาท้าวลีลาศ ยุรยาตรยังเกยชัย เสนาในเตรียมทัพ สรรพพลห้าสิบหมื่น ขุนคชหื่นหาญแกล้ว ขับช้างแก้วพัทธกอ รอรับราชริมเกย ควาญเคยคัดท้ายเทียบ เสด็จย่างเหยียบหลังสาร ทรงคชาธารยรรยง อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่องพุดตานตกแต่ง แข่งสีทองทอเนตร ปักเศวตฉัตรฉานฉาย คลายคชบาทยาตรา คลี่พยุหคลาดแคล้ว คล้ายนายทแกล้ว ย่างเยื้องธงทอง แลนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ ถับถึงทวารกรุงแก้วเดียรดาษพลคลาดแคล้ว
คล่ำคล้ายคลาขบวน ฯ
             
โคลง ๓
๏ ด่วนเดินโดยโขลนทวารพวกพลหาญแห่หน้า
ล้วนทแกล้วทกล้ากลาดกลุ้มเกลื่อนสถล มารคนา ฯ
             

พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี

โคลง ๒
๏ ยกพลผ่านด่านกว้างเสียงสนั่นม้าช้าง
กึกก้องทางหลวง ฯ
๏ ปวงประนมนบเกล้างามเสงียมเฟื้ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
๏ ล่วงลุด่านเจดีย์สามองค์มีแห่งหั้น
แดนต่อแดนกันนั้น ฯ
             
โคลง ๔
๏ มาเดียวเปลี่ยวอกอ้าอายสู
สถิตอยู่เอ้องค์ดูละห้อย
พิศโพ้นพฤกษ์พบูบานเบิก ใจนา
พลางคะนึงนุชน้อยแน่งเนื้อนวลสงวน ฯ
๏ สลัดไดใดสลัดน้องแหนงนอน ไพรฤๅ
เพราะเพื่อมาราญรอนเศิกไสร้
สละสละสมรเสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกำนามไม้แม่นแม้นทรวงเรียม ฯ
๏ สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้งยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หายห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวายวางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้าหยุดได้ฉันใด ฯ
๏ พลมอญเมิลมืดท้องรัถยา
อเนกนิกรอาชาชาติช้าง
ทวนทองเถือกทอตาเปลือยปลาบ
เทียวธวัชแลสล้างเฟื่องฟ้าปลิวปลาย ฯ
             
ร่าย
๏ ฝ่ายนครกาญจน จัดพลพวกด่าน ผ่านไปสืบเอาเหตุ ในขอบเขตรามัญ เขาก็พากันรีบรัด ลัดเล็ดลอดเลาะดง ตรงไปทางแม่กษัตริย์ จัดกันซุ่มเป็นกอง มองเอาเหตุเอาผล ยลนิกรรามัญ เดินแน่นนันต์นองเถื่อน เกลื่อนมาทั่วออกทิศ หวันก่อกิจดัสกร แก่พระนครตระหนัก เห็นฉัตรปักห้าชั้น กั้นบนเบื้องหลังสาร เขาก็ทราบการโดยขนาด ว่าอุปราชขุนทัพ เร็วรีบกลับมาบอก แดออกญาผ่านเผ้า เจ้านครกาญจนบุริน ยินยุบลข่าวศึก พิลึกลาญขวัญ แหลกแสกกมลทะท้าว ร้าวอุระขุนเมือง เคืองใจราษฎร์ทุกผู้ รู้ตรลอดไพร่นาย เขาทั้งหลายตริกัน ขวัญเกี่ยงกินเผือนเผือด เลือดสลดหมดหน้า บเห็นถ้าต่อรบ รู้ว่าทบบมิทาน รู้ว่าราญบมิรอด คิดเททอดครัวแตก แหกหนีหน้าอย่าพะ เขามละบ้านเมือง เปลืองเปล่าผู้หมู่ชน ชวนกันซนกันซุก บุกป่าดงป่าแดง แฝงเอาเหตุเอาผล ยลกระแหน่เศิกไสร้ เพื่อลงลักษณะให้ ส่งท้าวแถลงความ ท่านนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ ชาวสยามคร้ามเศิกสิ้นทั้งผอง
นายและไพร่ไป่ปองรบร้า
อพยพหลบหลีกมองเอาเหตุ
ซุกซ่อนห่อนให้ข้าศึกได้ไปเป็น ฯ
             
ร่าย
ส่วนนเรนทรสมญา มหาอุปราชรามัญ ธก็ให้ผันพลผ้าย ย้ายมาโดยทางเถื่อน ทัพหน้าเคลื่อนพลเดิม ลุลำกระเพินบมิหึง จึ่งพระยาจิดตอง ให้พลกรองเวฬู ปูเป็นสะพานผ่านชล เร่งเดินพลข้ามฟาก มากนิกรคั่งคาม พวกชาวสยามเห็นตระหนัก จึ่งลงลักษณ์สารสื่อ ใส่ชื่อทั่วตัวขุน ถ้วนทุกมุลทุกนาย แดออกญามหาด ทูลบัวบาทมหิบาล เขาก็รับสารขึ้นม้า รับมาเร็วฤๅช้า บอกข้อเข็ญความ ท่านนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ กองทัพตามกันเต้าเสียงสนั่นลั่นเท้า
พ่างพื้นไพรพัง เพิกฤๅ ฯ
             
โคลง ๔
๏ ดลยังเวียงด่านด้าวโดยมี
เมืองชื่อกาญจนบุรีว่างว้าง
ผู้ใดบ่ออกตีตอยต่อทัพนา
ยลแต่เหย้าเรือนร้างอยู่ไร้ใครแรม ฯ
๏ สอดแนมจักจับถ้อยไถ่ความ
ฤๅบ่ได้ชาวสยามสักผู้
จักสืบจักเสาะถามเหตุห่อน รู้แฮ
รู้ว่าชาวเมืองรู้เล่ห์แล้วหลีกหนี ฯ
๏ ธก็กรีธาทัพเข้าเนาเมือง
ประทับอยู่แรมคืนเคืองสวาทไหม้
คำนึงนุชไป่เปลืองจิตท่าน ถวิลนา
เจ็บอุระราชไข้ขุนแค้นคับทรวง ฯ
๏ ระลวงรำลึกอ้าบังอร
ยลแต่แสงศศิธรถ่องฟ้า
แสงจันทร์บ่ส่องสมรหมดเทวษ
ถวิลบ่ลืมนวลหน้าแม่แม้นนวลจันทร์ ฯ
๏ พระฝืนทุกข์เทวษกล้ำแกล่ครวญ
ขับคชบทจรจวนจักเพล้
บรรลุพนมทวนเถื่อนที่ นั้นนา
เหตุอนาถหนักเอ้อาจให้ชนเห็น ฯ
๏ เกิดเป็นหมอกมืดห้องเวหา หนเฮย
ลมชื่อเวรัมภาพัดคลุ้ม
หวนหอบหักฉัตราคชขาด ลงแฮ
แลธุลีกลัดกลุ้มเกลื่อนเพี้ยงจักรผัน ฯ
๏ พระพลันเห็นเหตุไซร้เสียงดวง แดเฮย
ถนัดดั่งภูผาหลวงตกต้อง
กระหม่ากระเหม่นทรวงสั่นซีด พักตร์นา
หนักหฤทัยท่านร้องเรียกให้โหรทาย ฯ
๏ ทั้งหลายล้วนจบแจ้งเจนไสย ศาสตร์แฮ
เห็นตระหนักแน่ในเหตุห้าว
จักทูลบ่ทูลไทเกรงโทษ ท่านนา
เสนอแต่ดีกลบร้าวเผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
๏ เหตุนี้ผิวเช้าชั่วฉุกเข็ญ
เกิดเมื่อยามเย็นดีดอกไท้
อย่าขุนอย่าลำเค็ญใจเจ็บ พระเอย
พระจักลุลาภได้เผด็จเสี้ยนศึกสยาม ฯ
๏ ครั้นฟังบพิตรเพี้ยงฟังหู หนึ่งนา
หูหนึ่งแหนงคำสูซึ่งพร้อง
ไป่ไว้หฤทัยภู-ธรพรั่น อยู่นา
นึกเร่งกริ่งเกรงต้องแต่แพ้ดัสกร ฯ
๏ สระเทินสระทกแท้ไทถวิล อยู่เฮย
ฤๅใคร่คลายใจจินต์จืดสร้อย
คำนึงนฤบดินทร์บิตุเรศ พระแฮ
พระเร่งลานละห้อยเทวษไห้โหยหา ฯ
๏ อ้าจอมจักรพรรดิผู้เพ็ญยศ
แม้พระเสียเอารสแก่เสี้ยน
จักเจ็บอุระระทดทุกข์ใหญ่ หลวงนา
ถนัดดั่งพาหาเหี้ยนหั่นกลิ้งไกลองค์ ฯ
๏ ณรงค์นเรศวร์ด้าวดัสกร
ใครจักอาจออกรอนรบสู้
เสียดายแผ่นดินมอญพลันมอด ม้วยแฮ
เหตุบ่มีมือผู้-อื่นต้านทานเข็ญ ฯ
๏ เอ็นดูภูธเรศเจ้าจอมถวัลย์
เปลี่ยวอุระราชรัน-ทดแท้
พระชนม์ชราครันครองภพ พระเอย
เกรงบพิตรจักแพ้เพลี่ยงพล้ำศึกสยาม ฯ
๏ สงครามครานี้หนักใจเจ็บ ใจนา
เรียมเร่งแหนงหนาวเหน็บอกโอ้
ลูกตายฤใครเก็บผีฝาก พระเอย
ผีจัดเท้งที่โพล้ที่เพล้ใครเผา ฯ
๏ พระเนานัคเรศอ้าเอองค์
ฤๅบ่มีใครดงคู่ร้อน
จักริจักเริ่มรงค์ฤๅลุ แล้วแฮ
พระจักขุ่นจักข้อนจักแค้นคับทรวง ฯ
๏ พระคุณตวงเพียบพื้นภูวดล
เต็มตรลอดแหล่งบนบ่อนใต้
พระเกิดพระก่อชนม์ชุบชีพ มานา
เกรงบ่ทันลูกได้กลับเต้าตอบสนอง ฯ
             
ร่าย
๏ เมื่อนั้นเจ้าธานินทร์ บุรินทรศักดิ์สีมา ทุกบุราราชอาณาเขต ประเทศนครสิงห์สรรค์ ศรีสุพรรณทุกภาย เขาก็ขยายครัวครอก ซอกไปซ่อนไปซุก บุกป่าแดงป่าดง แล้วก็ลงลักษณ์ข่าวสาร ส่งอาการเหตุห้าว มาบังคมทูลท้าว ธิราชผู้ผ่านถวัลย์ แลนา ฯ
             

สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร

สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ

พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ

พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย

พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก

ทัพหลวงเคลื่อนพล ช้างทรงพระนเรศวรและพระเอกาทศรถฝ่าเข้าไปในกองทัพข้าศึก

พระนเรศวรทรงสร้างสถูปและปูนบำเหน็จทหาร

สมเด็จพระวันรัตขอพระราชทานอภัยโทษ

เครื่องมือส่วนตัว