ลิลิตตะเลงพ่าย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(อาเศียรวาท)
(เหตุการณ์ทางเมืองมอญ)
แถว 21: แถว 21:
=== เหตุการณ์ทางเมืองมอญ ===
=== เหตุการณ์ทางเมืองมอญ ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัสดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุบริหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยี่ย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์ แต่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพ กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยียบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศ ธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตรา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุบาตร จักยาตราตรู่เช้า เสด็จเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ พระผาดผายสู่ห้อง  หาอนุชนวลน้อง
 +
หนุ่มหน้าพระสนม ฯ
 +
๏ ปวงประนมนบเกล้า  งามเสงี่ยมเฟื้ยมเฝ้า
 +
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
 +
๏ กรตระกองกอดแก้ว  เรียมจักร้างรสแคล้ว
 +
คลาดเคล้าคลาสมร ฯ
 +
๏ จำใจจรจากสร้อย  อยู่แม่อย่าละห้อย
 +
ห่อนช้าคืนสม แม่แล ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ เสร็จเสาวนีย์สั่งสนม เนืองบังคมคำราช พระบาททันนิทรา จวนเวลาล่วงสาง พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้า แสงทองจ้าจับเมฆ รังสีเฉกฉายฉัน ไก่แก้วขันเจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแหว้วเสียงใส จึ่งบรมไทธิราช ยุรยาตรยังที่สรง ชำระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นตรลบ หอมอวลอบอายขจร ทรงบวรวิภูษิต สนับเพลาพิศพรายพร้อย ชายไหวย้อยยะยาบ ชายแครงทาบเครือวัลย์ รัตพัสตร์พรรณยรรยง ฉลองพระองค์เพริศแพร้ว มกรแก้วเกยูร ตาบไพฑูรย์เรืองจรัส สะอิ้งรัตนประพาฬ สอดสังวาลเฉวียงองค์ มกุฎทรงเทริดเกศ อย่างอิศเรศรามัญ สรรเป็นรูปอุรเคนทร์ เพญพะพานแผ่เศรียร แสงวิเชียรช่อช่วง ธำมรงค์ร่วงรุ้งพราย รายนพรัตน์ชัชวาล เครื่องอลงการโอ่อ่า งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาด ยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา ลีลายังวังราช ไหว้บัวบาทบิตุรงค์ ขอลาองค์ท่านไท้ ไปเผด็จดัสกรให้ เหือดเสี้ยนศึกสยาม สิ้นนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ พระฟังความลูกท้าว  ลาเสด็จศึกด้าว
 +
ดั่งเบื้องบรรหาร ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๓</sup>
 +
๏ ภูบาลอื้นอำนวย  อวยพระพรเลิศล้น
 +
จงอยุธย์อย่าพ้น  แห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๔</sup>
 +
๏ จงเจริญชเยศด้วย  เดชะ
 +
ชาวอยุธย์อย่าพะ  พ่อได้
 +
จงแพ้พินาศพระ  วิริยภาพ พ่อนา
 +
ชนะแด่สองท่านไท้  ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
 +
๏ สงครามความเศิกซึ้ง  แสนกล
 +
จงพ่ออย่ายินยล  แต่ตื้น
 +
อย่าลองคะนองตน  ตาชอบ ทำนา
 +
การศึกลึกเล่ห์พื้น  ล่อเลี้ยวหลอกหลอน ฯ
 +
๏ จงแจ้งแห่งเหตุเบื้อง  โบราณ
 +
เป็นประโยชน์ยุทธการ  กล่าวไว้
 +
เอาใจทหารหาญ  เริงรื่น อยู่นา
 +
อย่าระคนปนใกล้  เกลือกกลั้วขลาดเขลา ฯ
 +
๏ หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้  สบสถาน
 +
เจนจิตวิทยาการ  กาจแกล้ว
 +
รู้เชิงพิชัยชาญ  ชุมค่าย ควรนา
 +
อาจจักรอนรณแผ้ว  แผกแพ้พังหนี ฯ
 +
๏ หนึ่งรู้บำเหน็จให้  ขุนพล
 +
อันสมรรถมือผจญ  จืดเสี้ยน
 +
อย่าหย่อนวิริยะยล  อย่างเกียจ
 +
แปดประการกลเที้ยร  ถ่องแท้ทางแถลง ฯ
 +
๏ จงจำคำพ่อไซร้  สั่งสอน
 +
จงประสิทธิ์สมพร  พ่อให้
 +
จงเรืองพระฤทธิ์รอน  อริราช
 +
จงพ่อลุลาภได้  เผด็จด้าวแดนสยาม ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
เสด็จสั่งความโอวาท ไท้ธประสาทพระพร แต่ภูธรเอารส ธก็ประณตรับคำ อำลาท้าวลีลาศ ยุรยาตรยังเกยชัย เสนาในเตรียมทัพ สรรพพลห้าสิบหมื่น ขุนคชหื่นหาญแกล้ว ขับช้างแก้วพัทธกอ รอรับราชริมเกย ควาญเคยคัดท้ายเทียบ เสด็จย่างเหยียบหลังสาร ทรงคชาธารยรรยง อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่องพุดตานตกแต่ง แข่งสีทองทอเนตร ปักเศวตฉัตรฉานฉาย คลายคชบาทยาตรา คลี่พยุหคลาดแคล้ว คล้ายนายทแกล้ว ย่างเยื้องธงทอง แลนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๒</sup>
 +
๏ ถับถึงทวารกรุงแก้ว  เดียรดาษพลคลาดแคล้ว
 +
คล่ำคล้ายคลาขบวน ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง ๓</sup>
 +
๏ ด่วนเดินโดยโขลนทวาร  พวกพลหาญแห่หน้า
 +
ล้วนทแกล้วทกล้า  กลาดกลุ้มเกลื่อนสถล มารคนา ฯ
 +
</tpoem>
 +
=== พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี ===
=== พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี ===
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร ===
=== สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร ===

การปรับปรุง เมื่อ 16:25, 4 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

อาเศียรวาท

ร่าย
๏ ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้า หล้าล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจแกล้วบมิกล้า บค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ทุกเขตทุกด้าว น้าวมกุฎมานบ น้อมพิภพมานอบ มอบบัวบาทวิบุล อดุลยานุภาพ ปราบดัสกรแกลนกลัว หัวหั่นหายกายกลาด ดาษเต็มท่งเต็มดอน พม่ามอญพ่ายหนี ศรีอโยธยารมเยศ พิเศษสุขบำเทิง สำเริงราชสถาน สำราญราชสถิต พิพิธโภคสมบัติ พิพัฒน์โภคสมบูรณ์ พูนพิภพดับเข็ญ เย็นพิภพดับทุกข์ สนุกสบสีมา ส่ำเสนานอบเกล้า ส่ำสนมเฝ้าฝ่ายใน ส่ำพลไกรเกริกหาญ ส่ำพลสารสินธพ สบศาสศรเพลิง เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้า โลกล้วนสดุดี ฯ
             
โคลง ๔
๏ บุญเจ้าจอมภพพื้นแผ่นสยาม
แสยงพระยศยินขามขาดแกล้ว
พระฤทธิ์ดังฤทธิ์รามรอนราพณ์
แลฤๅ ราญอริราชแผ้วแผกแพ้ทุกภาย ฯ
๏ ไพรินทรนาศเพี้ยงพลมาร
พระดั่งองค์อวตารแต่กี้
แสนเศิกห่อนหาญราญรอฤทธิ์ พระฤๅ
ดาลตระดกเดชลี้ประหลาดเหล้าแหล่งสถาน ฯ
๏ เสร็จเสวยศวรรเยศอ้างไอยศูรย์ สรวงฤๅ
เย็นพระยศปูนเดือนเด่นฟ้า
เกษมสุขส่องสมบูรณ์บานทวีป
สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้าแหล่งล้วนสรรเสริญ ฯ
             

เหตุการณ์ทางเมืองมอญ

ร่าย
๏ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัสดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุบริหึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร เพื่อกษัตริย์สองสู้ บร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยี่ย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธก็เอื้อนสารเสาวพจน์ แต่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพ กับนครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยียบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิหยอน ไปพักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้ลีลาศ ธก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลบ่มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้วธให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง คั่งคับนับเหลือตรา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรธเทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุบาตร จักยาตราตรู่เช้า เสด็จเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระผาดผายสู่ห้องหาอนุชนวลน้อง
หนุ่มหน้าพระสนม ฯ
๏ ปวงประนมนบเกล้างามเสงี่ยมเฟื้ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง ฯ
๏ กรตระกองกอดแก้วเรียมจักร้างรสแคล้ว
คลาดเคล้าคลาสมร ฯ
๏ จำใจจรจากสร้อยอยู่แม่อย่าละห้อย
ห่อนช้าคืนสม แม่แล ฯ
             
ร่าย
๏ เสร็จเสาวนีย์สั่งสนม เนืองบังคมคำราช พระบาททันนิทรา จวนเวลาล่วงสาง พื้นนภางค์เผือดดาว แสงเงินขาวขอบฟ้า แสงทองจ้าจับเมฆ รังสีเฉกฉายฉัน ไก่แก้วขันเจื้อยแจ้ว ดุเหว่าแหว้วเสียงใส จึ่งบรมไทธิราช ยุรยาตรยังที่สรง ชำระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นตรลบ หอมอวลอบอายขจร ทรงบวรวิภูษิต สนับเพลาพิศพรายพร้อย ชายไหวย้อยยะยาบ ชายแครงทาบเครือวัลย์ รัตพัสตร์พรรณยรรยง ฉลองพระองค์เพริศแพร้ว มกรแก้วเกยูร ตาบไพฑูรย์เรืองจรัส สะอิ้งรัตนประพาฬ สอดสังวาลเฉวียงองค์ มกุฎทรงเทริดเกศ อย่างอิศเรศรามัญ สรรเป็นรูปอุรเคนทร์ เพญพะพานแผ่เศรียร แสงวิเชียรช่อช่วง ธำมรงค์ร่วงรุ้งพราย รายนพรัตน์ชัชวาล เครื่องอลงการโอ่อ่า งามสง่าขัตติเยศ พระแสดงเดชผังผาย กุมแสงกรายกรนาด ยุรยาตรอย่างไกรสร จากศีขรคูหา ลีลายังวังราช ไหว้บัวบาทบิตุรงค์ ขอลาองค์ท่านไท้ ไปเผด็จดัสกรให้ เหือดเสี้ยนศึกสยาม สิ้นนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ พระฟังความลูกท้าวลาเสด็จศึกด้าว
ดั่งเบื้องบรรหาร ฯ
             
โคลง ๓
๏ ภูบาลอื้นอำนวยอวยพระพรเลิศล้น
จงอยุธย์อย่าพ้นแห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา ฯ
             
โคลง ๔
๏ จงเจริญชเยศด้วยเดชะ
ชาวอยุธย์อย่าพะพ่อได้
จงแพ้พินาศพระวิริยภาพ พ่อนา
ชนะแด่สองท่านไท้ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ
๏ สงครามความเศิกซึ้งแสนกล
จงพ่ออย่ายินยลแต่ตื้น
อย่าลองคะนองตนตาชอบ ทำนา
การศึกลึกเล่ห์พื้นล่อเลี้ยวหลอกหลอน ฯ
๏ จงแจ้งแห่งเหตุเบื้องโบราณ
เป็นประโยชน์ยุทธการกล่าวไว้
เอาใจทหารหาญเริงรื่น อยู่นา
อย่าระคนปนใกล้เกลือกกลั้วขลาดเขลา ฯ
๏ หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้สบสถาน
เจนจิตวิทยาการกาจแกล้ว
รู้เชิงพิชัยชาญชุมค่าย ควรนา
อาจจักรอนรณแผ้วแผกแพ้พังหนี ฯ
๏ หนึ่งรู้บำเหน็จให้ขุนพล
อันสมรรถมือผจญจืดเสี้ยน
อย่าหย่อนวิริยะยลอย่างเกียจ
แปดประการกลเที้ยรถ่องแท้ทางแถลง ฯ
๏ จงจำคำพ่อไซร้สั่งสอน
จงประสิทธิ์สมพรพ่อให้
จงเรืองพระฤทธิ์รอนอริราช
จงพ่อลุลาภได้เผด็จด้าวแดนสยาม ฯ
             
ร่าย
เสด็จสั่งความโอวาท ไท้ธประสาทพระพร แต่ภูธรเอารส ธก็ประณตรับคำ อำลาท้าวลีลาศ ยุรยาตรยังเกยชัย เสนาในเตรียมทัพ สรรพพลห้าสิบหมื่น ขุนคชหื่นหาญแกล้ว ขับช้างแก้วพัทธกอ รอรับราชริมเกย ควาญเคยคัดท้ายเทียบ เสด็จย่างเหยียบหลังสาร ทรงคชาธารยรรยง อลงกตแก้วแกมกาญจน์ เครื่องพุดตานตกแต่ง แข่งสีทองทอเนตร ปักเศวตฉัตรฉานฉาย คลายคชบาทยาตรา คลี่พยุหคลาดแคล้ว คล้ายนายทแกล้ว ย่างเยื้องธงทอง แลนา ฯ
             
โคลง ๒
๏ ถับถึงทวารกรุงแก้วเดียรดาษพลคลาดแคล้ว
คล่ำคล้ายคลาขบวน ฯ
             
โคลง ๓
๏ ด่วนเดินโดยโขลนทวารพวกพลหาญแห่หน้า
ล้วนทแกล้วทกล้ากลาดกลุ้มเกลื่อนสถล มารคนา ฯ
             

พระมหาอุปราชายกทัพเข้าเมืองกาญจนบุรี

สมเด็จพระนเรศวรทรงปรารภเรื่องตีเมืองเขมร

สมเด็จพระนเรศวรทรงเตรียมการสู้ศึกมอญ

พระนเรศวรทรงตรวจเตรียมทัพ

พระมหาอุปราชทรงปรึกษาการศึกแล้วยกทัพเข้าปะทะทัพหน้าของไทย

พระนเรศวรทรงปรึกษายุทธวิธีเอาชนะศึก

ทัพหลวงเคลื่อนพล ช้างทรงพระนเรศวรและพระเอกาทศรถฝ่าเข้าไปในกองทัพข้าศึก

พระนเรศวรทรงสร้างสถูปและปูนบำเหน็จทหาร

สมเด็จพระวันรัตขอพระราชทานอภัยโทษ

เครื่องมือส่วนตัว