ลิลิตพระลอ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(ยาตรา)
(๒๓๗ รัญจวนถึงชายา)
แถว 1,096: แถว 1,096:
</tpoem>
</tpoem>
-
=== ๒๓๗ รัญจวนถึงชายา ===
 
=== ๒๓๙ ปั่นป่วนใจ ===
=== ๒๓๙ ปั่นป่วนใจ ===
=== ๒๕๑ ชมดง ===
=== ๒๕๑ ชมดง ===

การปรับปรุง เมื่อ 09:12, 5 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

สรรเสริญอยุธยา

ร่าย
๑ ศรีสิทธิฤทธิไชย ไกรกรุงอดุงเดชฟุ้งฟ้า หล้ารรัวกลัวมหิมา รอาอานุภาพปราบทุกทิศ ฤทธิรุกราญผลาญพระนคร รอนลาวกาวตาวตัดหัว ตัวกลิ้งกลาดดาษดวน ฝ่ายข้างยวนแพ้พ่าย ฝ่ายข้างลาวประลัย ฝ่ายข้างไทยไชเยศ คืนยังประเทศพิศาล สำราญราษฎร์สัมฤทธิ พิพิธราชสมบัติ พิพัฒนมงคล สรสกลสีมา ประชากรเกษมสุข สนุกทั่วธรณี พระนครศรีอโยธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมยศโยคยิ่งหล้า ฟ้าฟื้นฟึกบูรณ์ ฯ
             
โคลง ๔
๒ บุญเจ้าจอมโลกเลี้ยงโลกา
ระเรื่อยเกษมสุขพูลใช่น้อย
แสนสนุกศรีอโยธยาฤๅร่ำ ถึงเลย
ทุกประะเทศชมค้อยค้อยกล่าวอ้างเยินยอ ฯ
๓ รู้มลักสรบศาสตร์ถ้วนหญิงชาย
จักกล่าวกลอนพระลอเลิศผู้
ไพเราะเรียบบรรยายเพราะยิ่ง เพราะนา
สมปี่ลู้เสียงลู้ล่อเล้าโลมใจ ฯ
๔ สรวลเสียงขับอ่านอ้างใดปาน
ฟังเสนาะใดปูนเปรียบได้
เกลากลอนกล่าวกลการกลกล่อม ใจนา
ถวายบำเรอท้าวไท้ธิราชผู้มีบุญฯ
             

เมืองสรวง

ร่าย
๕ กล่าวถึงขุนผู้ห้าว นามท่านท้าวแมนสรวง เปนพระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวงมีศักดิ์ ธมีอัคเทพีพิลาส ชื่อนางนาฎบุญเหลือ ล้วนเครือท้าวเครือพระยา สาวโสภาพระสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล มนตรีคัลคับคั่ง ช้างม้ามั่งมหิมา โยธาเดียรดาษหล้า หมู่ทกล้าทหาร เฝ้าภูบาลนองเนือง เมืองออกมากมียศ ท้าวธมีเอารสราชโปดก ชื่อพระลอดิลกล่มฟ้า ทิศตะวันออกหล้า แหล่งไล้สีมา ท่านนาฯ
             

เมืองสรอง

ร่าย
๖ มีพระยาหนึ่งใหญ่ ธไซร้ทรงนามกร พิมพิสาครราช พระบาทเจ้าเมืองสรอง สมบัติหลวงสองราชา มีมหิมาเสมอกัน ทิศตะวันตกไท้ท้าว อคร้าวครองครองยศ ท้าวธมีเอารสราชฦๅไกร ชื่อท้าวพิไชยพิษณุกร ครั้นลูกภูธรธใหญ่ไซร้ ธก็ให้ไปกล่าวไปถาม นางนามท้าวนามพระยา ชื่อเจ้าดาราวดี นางมีศรีโสภา เปนนางพระยาแก่ลูกไท้ ลูกท้าวธได้เมียรัก ลำนักเนตรเสนหา อยู่นานมามีบุตร สุดสวาทกษัตริย์สององค์ ทรงโฉมจันทรงามเงื่อน ชื่อท้าวเพื่อนท้าวแพง จักแถลงโฉมเลิศล้วน งามถี่พิศงามถ้วน แห่งต้องติดใจ บารนี ฯ
             

ท้าวแมนสรวงยกไปรบเมืองสรอง

ร่าย
๗ เมื่อนั้นไท้แมนสรวง พญาหลวงให้หา หัวเมืองมาริปอง ว่าเมืองสรองกษัตริย์กล้า อย่าช้าเราจะรบ ชิงพิภพเป็นเมืองออก เร่งบอกให้เรียบพล นายกคณชุมกัน ครันเทียบพลเศิกเสร็จ ท้าวธเสด็จพยุหบาตร ลีลาศจากพระนคร คลี่นิกรพลพยู่ห์ สู่แดนศึกบ่มิช้า เดียรดาษพลช้างม้า เพียบพื้นภูมิน ฯ
             

ท้าวพิมพิสาครราชขาดคอช้าง

ร่าย
๘ ส่วนนรินทรราชา พิมพิสาครราช พระบาทครั้นได้ยิน ว่าภูมินทร์แมนสรวง ยกทัพหลวงมากระทั่ง ท้าวธก็สั่งพลออกรับ ตับตามกันเดียรดาษ พระบาทเสด็จบ่มิช้า พลหัวหน้าพะกัน แกว่งตาวฟันฉะฉาด แกว่งดาบฟาดฉะฉัด ซ้องหอกซัดยะยุ่ง ซ้องหอกพุ่งยะย้าย ข้างซ้ายรบบ่มิคลา ข้างขวารบบ่มิแคล้ว แกล้วแลแกล้วชิงข้า กล้าแลกล้าชิงขัน รุมกันพุ่งกันแทง เข้าต่อแย้งต่อยุทธื โห่อึงอุดเอาชัย เสียงปืนไฟกึกก้อง สะเทือนท้องพสุธา หน้าไม้ดาปืนดาษ ธนูสาดศรแผลง แขงต่อแขงง่าง้าง ช้างพะช้างชนกัน ม้าผกผันคลุกเคล้า เข้ารุกรวนทวนแทง ระแรงเร่งมาหนา ถึงพิมพิสาครราช พระบาดขาดคอช้าง ขุนพลคว้างขวางรบ กันพระศพกษัตริย์ หนีเมื้อเมืองท่านไธ้ ครั้นพระศพเข้าได้ ลั่นเขื่อนให้หับทวาร ท่านนา ฯ
             

เมืองสรองป้องกันเมืองได้ ท้าวแมนสรวงถอยทัพ

ร่าย
๙ งานรักษาพระนคร ท้าวพิชัยพิษณุกรกันเมืองได้ ไท้แมนสรวงเสด็จคืน ท้าวพิชัยยืนครองพิภพ ปลงพระศพราชบิดาแล้วไสร้ ธก็ให้สองพระงาหน่อเหน้า ไปอยู่ด้วยย่าเจ้าวังเดียว กับสองนางเฉลียวฉลาด พี่เลี้ยงราชธิดา โดยธตราชื่อชื่น ชื่อนางรื่นแลนางโรย โดยรักษาสองอ่อนท้าว สองสมเด็จเสด็จด้าว สู่ห้องเรือนหลวง ท่านแล ฯ
             

พระลอครองเมืองสรอง

ร่าย
๑๐ เมื่อนั้นไท้แมนสรวง พระยาหลวงผู้มีศักดิ์ ให้ไปกล่าวนางลักษณวดี นางมีศรีสวัสดิ์ลออ ให้แก่พระลอดิลก ยกเปนอัคมหิษี มีบริพารพระสนม ถ้วนทุกกรทกำนัล ประกอบสรรพสมบูรณ์ จึงนเรนทร์สูรราชบิดา สวรรคาไลยแล้วเสด็จ พระลอเสด็จเสวยราชย์ โฉมอภิลาสสระผม ดิสฟ้าชมบรู้ โฉมพระลอเลิศแก้ว กว่าท้าวแดนดิน แลนา ฯ
             

ยอโฉมพระลอ

โคลง ๒
๑๑ รอยรูปอินทร์หยาดฟ้ามาอ่าองค์ในหล้า
แหล่งให้คนชม แลฤๅ ฯ
๑๒ พระองค์กลมกล้องแกล้งเอวอ่อนอรอรรแถ้ง
ถ้วนแห่งเจ้ากูงาม บารนี ฯ
๑๓ โฉมผจญสามแผ่นแพ้งามเลิศงามล้วนแล้
รูปต้องติดใจ บารนี ฯ
๑๔ ฦๅขจรในแหล่งหล้าทุกทั่วคนเที่ยวค้า
เล่าล้วนยอโฉม ท่านแล ฯ
๑๕ เดือนจรัสโพยมแจ่มฟ้าผิบได้เห็นหน้า
ลอราชไซร้ดูเดือน ดุจแล ฯ
๑๖ ตาเหมือนตามฤคมาศพิศคิ้วพระลอราช
ประดุจแก้วเกาทัณฑ์ ก่งนา ฯ
๑๗ พิศกรรณงามเพริศแพร้วกลกลีบบงกชแก้ว
อีกแก้มปรางทอง เทียบนา ฯ
๑๘ ทำนองนาสิกไท้คือเทพนฤมิตไว้
เปรียบด้วย ขอกาม ฯ
๑๙ พระโอษฐ์งามยิ่งแต้มศศิอยู่เยียวยะแย้ม
พระโอษฐ์โอ้งามตรู บารนี ฯ
             
ร่าย
๒๐ พิศดูคางสระสม พิศศอกกลมกลกลึง สองไหล่พึงใจกาม อกงามเงื่อนไกรสร พระกรกลงวงคช นิ้วสลวยชดเล็บเลิศ ประเสริฐสรรพสรรพางค์ แต่บาทางค์สุดเกล้า พระเกศงามล้วนเท้า พระบาทไท้งามสม สรรพนา ฯ
             

พระเพื่อนแพงรัญจวน

โคลง ๔
๒๑ ขับซอยอราชเที้ยรทุกเมือง
ฦๅเล่าพระลอเลืองทั่วหล้า
โฉมบาบพิตรเปลืองใจโลก
สาวหนุ่มฟังเปนบ้าอยู่เพี้ยงโหยหน ฯ
๒๒ เล่าฦๅโฉมท้าวทั่วเมืองสรอง
ขจรข่าวถึงหูสองพี่น้อง
รทวยดุจวัลย์ทองครวญไคร่ เห็นนา
โหยลห้อยในห้องอยู่เหยี้ยมฟังสาร ฯ
๒๓ พระแพงพระเพื่อนเพี้ยงพิศวง
นับอยู่ในใจจงจอดไท้
มลักเห็นดอกกลหลงฉงนเงื่อน อยู่นา
อกอ่อนรทวยไหม้สรากหน้าตาหมอง ฯ
             

นางรื่นนางโรยเป็นคู่คิด

๒๔ นางโรยนางรื่นขึ้นไปเยือน
เห็นราชสองหมองเหมือนดั่งไข้
ทุกวันดุจดวงเดือน งามชื่นไส้นา
หมองดั่งนี้ข้าไหว้บอกข้าขอฟัง หนึ่งรา ฯ
๒๕ ผิวไข้พูลพยาธิไซร้ยาหาย ง่ายนา
ไข้หลากทั้งหลายใครช่วยได้
ไข้ใจแต่จักตายดีกว่า ไสร้นา
สองพี่นึกในไว้แต่ถ้าเผาเผือ ฯ
             
โคลง ๒
๒๖ ข้าฟังเหลือที่พร้องสองสมเด็จพระน้อง
กล่าวนี้กลใด ฯ
๒๗ ใดขัดใจแม่ ณ เกล้าสองสมเด็จพระเจ้า
บอกไว้งานเผือ ฯ
             
ร่าย
๒๘ เจ็บเผือเหลือแผ่นดิน นะพี่ หลากระบิลในแหล่งหล้า นะพี่ บอกแล้วจะไว้หน้าแห่งใด นะพี่ ความอายใครช่วยได้ นะพี่ อายแก่คนไสร้ท่านหัว นะพี่ แหนงตัวตายดีกว่า นะพี่ สองพี่อย่าถามเผือ นะพี่ เจ็บเผือเหลือแห่งพร้อง โอ้เอนดูรักน้อง อย่าซ้ำจำตาย หนึ่งรา ฯ
             
ร่าย
๒๙ ข้าไหว้ถวายชีพิต เผือข้าชิดข้าเชื่อ เขือดังฤๅเหตุใด ธมิไว้ใจเท่าเผ้า สองแม่ ณ หัวเจ้า มิได้เอนดูเผือฤๅ ฯ
             
โคลง ๔
๓๐ เสียงฦาเสียงเล่าอ้างอันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใครทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับไหลลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้าอย่าได้ถามเผือ ฯ
๓๑ สิ่งนี้น้องแก้วอย่าโศกา นะแม่
เผือจักขออาสาจุ่งได้
ฉันใดราชจักมาสมสู่ สองนา
จักสื่อสารถึงไท้หากรู้เปนกล ฯ
๓๒ ความคิดผิดรีตได้ความอาย พี่เอย
หญิงสื่อชักชวนชายสู่หย้าว
เจ็บเผือว่าแหนงตายดีกว่า ไสร้นา
เผื่อหากรักท้าวท้าวไป่รู้จักเผือ ฯ
๓๓ ไป่ห่อนเหลือคิดข้าคิดผิด แม่นา
คิดสิ่งเปนกลชิดชอบแท้
มดหมอแห่งใดสิทธิ์จักสู่ ธแม่
ให้ลอบลองท้าวแล้อยู่ได้ฉันใด ฯ
             
ร่าย
๓๔ ภายในสองนางขอบ ว่ามิชอบภายนอก ดอกห้ามว่าผิดใหญ่ เขือคิดใช่ความดี มีผู้รู้น่ากลัว เสียตัวเผือลูกไท้ จะไว้ผิดในแหล่งหล้า จะไว้หน้าแห่งหนใด ข้าเดาใจสองสบ พบกระแหน่สองศรี ใจกษัตรีมีเสียชอบ เราจะประกอบจงควร ซึ่งสองครวญจุ่งได้ ไว้ความร้ายแก่เรานา ข้าก็ว่าสองพงาอยู่เกล้า สองท้าวเจ้าไป่รู้ ไว้เผือผู้อาสา ครานี้พี่ บ ผิด ความคิดสอง บได้ สองบพิตรจักไว้ สองพี่เลี้ยงเยียใด ฯ
             
ร่าย
๓๕ ข้าจะใช้ชาวในผู้สนิท ชิดชอบอัชฌาสัย ไปซื้อขายวายล่อง แล้วให้ท่องเที่ยวเดิร สรรเสริญสองโฉมศรี ทั่วบุรีพระลอ ขับซอยอยศอ้าง ฦๅลูกกษัตริย์เจ้าช้าง ชื่นแท้ใครเทียม เทียบนา ฯ
             

ยอโฉมพระเพื่อนพระแพง

โคลง ๔
๓๖ ทุกเมืองมีลูกท้าวนับมี มากนา
บเปรียบสองกษัตรีพี่น้อง
พระแพงแม่ศรีสวัสดิ์ยิ่ง คณนา
พระเพื่อนโฉมยงหย้องอยู่เพี้ยงดวงเดือน ฯ
๓๗ โฉมสองเหมือนหยาดฟ้าลงดิน
งามเงื่อนอัปสรอินทร์สู่หล้า
อย่าคิดอย่าควรถวิลถึงยาก แลนา
ชมยะแย้มทั่วหน้าหน่อท้าวมีบุญ ฯ
๓๘ หมื่นขุนถ้วนหน้าส่ำหัวเมือง ก็ดี
อย่าใคร่อย่าคิดเคืองสวาทไหม้
สมภารส่งสองเรืองสองรุ่ง มานา
สองราชควรท้าวไท้ธิราชผู้มีบุญ ฯ
             

พระลอรัญจวน

โคลง ๒
๓๙ ยอยศสองอ่อนท้าวฦๅทั่วทุกแดนด้าว
ลอราชได้ฟังสาร ฯ
๔๐ ฟังตระการอยู่เกล้าให้เร่งเบิกเขาเข้า
มาสู่โรงธาร ท่านแลฯ
๔๑ ฟังสารสองหนุ่มเหน้าจอมราชครวญคิดอ้า
อคร้าวหัวใจ ท่านนา ฯ
๔๒ มลักนึกในคแคล้วผิพี่มีบุญแก้ว
พี่เพี้ยงไปสม เจ้านา ฯ
             
ร่าย
๔๓ ชมข่าวสองพี่น้อง ต้องหฤทัยจอมราช พระบาทให้รางวัล ปันผ้าเสื้อสนอบ ขอบใจสูเอาข่าว มากล่าวต้องติดใจ บารนี ฯ
             
โคลง ๒
๔๔      ฉันใดกูจักได้สมพระนุชน้องไท้
อ่อนท้าวทั้งสอง ฯ
๔๕ ท้าวธจำนองโคลงอ้างโคลงบพิตรเจ้าช้าง
ชื่อแท้ใดเทียม เทียบนา ฯ
             
โคลง ๔
๔๖ เรียมฟังสารอ่านอ้างอันผจง กล่าวนา
ถนัดดั่งเรียมเห็นองค์อะเคื้อ
สองศรีสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
นอนแนบสองข้างเนื้อแนบเชื้อ ชมเชย ฯ
             
โคลง ๒
๔๗ พระกรเกยผากไท้มือลูบทรวงไล้ไล้
ทำเล่ห์ให้เขาเห็น ฯ
             

นางพี่เลี้ยงใช้คุณไสย

ร่าย
๔๘ เปนปฤศนาแล้วไส้ ธ ก็ให้เลี้ยงดูโดยขนาด เขาก็ลาพระบาทเมื้อเมือง หน้ารุ่งเรืองชมชื่น ไปบอกแก่นางรื่นนางโรย โดยยุบลทุกสึ่ง จึ่งสองนางพี่เลี้ยง ทูลแด่สองเนื้อเกลี้ยง ถี่ถ้วนสารแสดง ฯ
             
ร่าย
๔๙ จึ่งแสวงหายายมด ไปจรดผู้ยายำ จำเอาแต่ผู้สิทธิ์ รู้ชิดใช้กลคล่อง บอกทำนองทุกอัน ครัน ธ ช่วยลุไซร้ ตูจะให้ ลาภจงครัน จะให้รางวัลจงพอ ครั้นพระลอสมสองแล้ว อยู่ช่างยายมดแก้ว อะคร้าวใครปาน เปรียบเอย ฯ
             
โคลง ๓
๕๐ ยายฟังสารยายสั่นหัวยายเคยแต่ตัวชั่วตัวช้า
ยายจักลองเจ้าหล้าบ่ได้หลานเอย ฯ
             
โคลง ๒
๕๑ ยายเคยใครอย่าไส้ยายช่วยยายชักให้
ถ่องแท้จักไป สู่นา ฯ
             
ร่าย
๕๒ ยายว่าเยียกระใดเขาทุกผู้ ตูรู้จักเขาทั่วหน้า ย่อมชั่วช้ามิเปนกล เห็นแต่ตูสามคนแก่แม่มดเถ้า แก่เจ้าแม่มดใหญ่ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็เต้า เว้นแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ธรู้ศิลป์รู้ศาสตร์ ธ มีอำนาจมีบุญ คุณตูไกลท่านไท้ สองราชนั้นฤๅได้ อาจยื้อฤๅถึง เลยนา ฯ
             
ร่าย
๕๓ ดังจึงตูจะรู้จัก หมอสิทธิศักดิ์สามคน รู้พระมนต์มีฤทธิ์ ลูกศิษย์ปู่สมิงพราย ยายก็นำไปบอก จึงจรอกหมอแล้วมา ข้าก็เข้าไปสู่ ปู่หมอเถ้าเจ้าหมอหลวง บำบวงบอกทุกประการ วาน ธ ช่วยกังวล หมอกล่าวกลยายมด ตูนี้ยศยังต่ำ ลองแต่ส่ำพอดี พอแรงผีแรงมนต์ เจ้าสากลผ่านหล้า หน้าผู้ใดจะลองลุ สนองนางทุทรฮู ว่า ธ เอนดูรู้จัก ผู้มีศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีฤทธิ์มีอำนาจ อาจลอง ธ มาได้ ตูจะให้ลาภจงเต็มกอง ตูจะให้ทองเต็มโกฎิ ทั้งผู้บอกโสดจะรางวัล เชิญบอกพลันอย่าช้า จงดูรู้จักหน้า ท่านให้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ
             
ร่าย
๕๔ หมอว่าในใต้ฟ้า ทั่วแหล่งหล้าผู้ใด ใครจักเทียมจักคู่ ปู่เจ้าปู่สมิงพราย ธ ว่าให้ตายก็ตายทันเห็น ธว่าให้เปนก็เปนทันใจ จะลองใครใครก็มา จะหาใครใครก็บอยู่ จะไปสู่ท่านไส้ ไว้ตูจะนำไป เถ้าว่าทางไกลจรล่ำ วันนี้ค่ำสองนางเมือ พรุ่งนี้เช้าเขือเขียวมา สองนางลาสองเถ้า ไปบอกแก่สองเจ้า สองอ่อนท้าวยินดี ยิ่งนา ฯ
             

พระเพื่อนพระแพงทำอุบายป่วย

โคลง ๔
๕๕ สองศรีเสวภาคย์ได้ฟังสาร
ถนัดดั่งพระภูบาลจักเต้า
คือสุริยส่องบัวบานสรดร่อ กันนา
เกรงเกลือกเยียวความเร้ารั่วรู้ฤๅดี ฯ
๕๖ สองกรกลเกียดเกี้ยวกรรชิด
แสร้งใส่กลปกปิดเงื่อนไว้
ความขำซ่อนซอนมิดงำแง่ งามนา
เอาชอบลอบปนให้แปลกร้ายเปนดี ฯ
๕๗ พี่เลี้ยงเห็นเล่ห์แล้วยินฉงน อยู่นา
สองใส่กลเหนือกลใช่น้อย
ไหว้พระย่ายังยลหลานราช ฤๅแม่
สองอยู่สองเศร้าสร้อยสรากหน้าตาหมอง ฯ
๕๘ หมอดูหมอว่าให้รับขวัญ
ขวัญอ่อนเขจรจรัลจิ่มฟ้า
ขวัญเที่ยวทั่วแดนบรร-พตป่า ดงนา
ให้รับขวัญอย่าช้าพรุ่งเช้าวันดี ฯ
๕๙ ย่าเจ้าฟังข่าวร้อนอาดูร เดือดนา
เขือเร่งเร็วไปทูลแด่ไท้
พระภูบดินทร์สูรย์ปิตุราช สองนา
ข้าพี่เลี้ยงไปไหว้บอกท้าวทุกอัน ฯ
๖๐ ครั้นฟังธิราชร้อนรนใจ อยู่นา
หมอจักเอาอันใดเร่งให้
ไปรักเรียกขวัญในเขาปู่ พระเอย
หมอสั่งเขือข้าได้ชอบช้างตัวเร็ว ฯ
๖๑ เขือไปอุปกาศแล้วเขือมา
ทูลแด่สองธิดาอยู่เกล้า
สองฟังหฤหรรษาชมชื่น ใจนา
สองพี่เร็วไปเช้าช่วยน้องจงพลัน ฯ
๖๒ เบิกเอาช้างต้นชื่อเทียมลม ธพี่
กับพระพายุพลันสมชื่อแท้
เทียมใจเลิศแลชมฝีย่าง มันนา
เร็วเร่งเร็วนักแล้เลิศด้วยเดิรพลัน ฯ
             
โคลง ๒
๖๓ ไก่ขันเขียวผูกช้างมาเทียบทั้งสองข้าง
แนบข้างเกยนาง ฯ
๖๔ ไป่สันทางสั่งไท้พระแต่งจงสรรพไว้
เยียวปู่เจ้าเรามา ฯ
๖๕ เผือจักลาแม่ ณ เกล้าจักอยู่เยียวเจียนรุ่งเช้า
จักช้าทางไกล ฯ
             

นางพี่เลี้ยงไปหาหมอเฒ่า

ร่าย
๖๖ ขึ้นช้างไปผผ้าย มาคคล้ายโดยทาง ถับถึงกลางจรอกปู่ หมอเถ้าอยู่แลเห็น แสร้งแปรเปนโฉมมลาก เปนบ่าวภาคบ่าวงาม สองถึงถามหาปู่ ปู่หัวอยู่ยแย้ม ข้อยว่าสองแสล้ม มาแต่ด้าวแดนใด ฯ
             
โคลง ๒
๖๗ สองคนึงในใคร่รู้ลูกหลานปู่ฤๅผู้
อื่นโอ้ไป่งาม บารนี ฯ
๖๘ กามกรรหายยั่วข้างคิดแต่จักช้าช้าง
ท่านไส้จักเป็น ป่วยนา ฯ
             
ร่าย
๖๘ บนานเห็นเปนปู่ รูปเถ้าอยู่ดูหลาก สองประจากษ์ตกใจ ใครจักปูนปู่ได้ ปู่ช่วยสองลูกไท้ แต่นี้ฤๅไป อื่นเลย ฯ
             
โคลง ๒
๗๐ เสียไฟเป่าหิ่งห้อยแรงปู่นี้รู้น้อย
เผือไป่รู้เลยนอ ฯ
             

หมอเฒ่าพานางพี่เลี้ยงไปหาปู่เจ้า

ร่าย
๗๑ เชิญปู่หมอขึ้นขี่ ขับช้างปรี่ปรึงตาม ทั้งสามไปรร่าย บ่ายหน้าสู่เขาเขียว เหลียวแลทางจรลิ่ว เหลียวแลทิวเทินป่า ฝ่าแฝกแขมแกมเลา ดงประเดาประดู่ หมู่ไม้ยางไม้ยูง ตเคียนสูงสุดหมอก พยอมดอกมุ่งเมฆ อเนกไม้หลายพรรณ มีวัลย์เวียนเกี้ยวกิ่ง ไม้แมกมิ่งใบรบัด ลมพานพัดรลอก ดอกดวงพวงเผล็ดช่อ กระพุ่มห่อเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการกลิ่นหอมหื่น ชื่นซรุกลูกเหลืองล่อน ใบอ่อนต้นลำอ้วน กิ่งก้านแกมงาม ฯ
             
ร่าย
๗๒ ตามกันไป บ หึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิงค่างบ่างชนี ผีผิวร้องน่ากลัว หัวหูพองอยู่คคร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขวัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเลมไพร หมู่หมีไปคคล้าย นางช้าผ้ายคคล่ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปีนป่าย ฝ่ายช้างพังเซราซรึก สัตว์พันฦกพันลาย หมอมิกลัวกลายจระคล่าย เข้าป่าไปคลายคล้าย ด่วนดั้นโดยทาง ฯ
             
ร่าย
๗๓ เอนดูสองนางตกใจกลัว รรัวหัวอกสั่น ลั่นททึกททาว สราวตามหมอผะผ้ำ เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยยหนอง จรเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นขวักไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กล่ำตากระเหลือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ่ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสรกเง้างูด ทิ้งทูดบ่นพพึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระหวาด ผาดฟังตกใจกลัว หมอเถ้าหัวไปพลาง โลมสองนางอย่าตกใจ บเปนใดดอกนะแม่ กระแหน่นี้จะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง หมอมิกลัวเกรงสักสิ่ง ขับช้างวิ่งขึ้นเขา เคร่ากันไปบหึง ถับถึงแต่ตีนเขา หมอเถ้าลงจากช้าง ไว้สองนางอยู่แต่ไกล หมอจึ่งเข้าไปสู่ ปู่เจ้าปู่สมิงพราย ถึงถวายกรกราบไห้ บอกว่าพระหลานไท้ เพื่อนท้าวแพงทอง ฯ
             
โคลง ๒
๗๔ ทำงนสองเท่าฟ้ามาทำบวงให้ข้า
นำพี่เลี้ยงสองมา ฯ
๗๕ ปู่เจ้าว่าหมอไส้ไปเรียกมาให้ใกล้
แทบนี้อย่าขาม ฯ
๗๖ หมอบอกความสองเจ้าพระปู่ให้สองเข้า
ไปสู่แล้วเชิญเขือ ฯ
๗๗ สองเห็นเสือกราบเฝ้าคร้ามกลัวก้มกรานเข้า
ไปกราบไหว้ทั้งสอง ฯ
             
ร่าย
๗๘ ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเปนแมว แถวจราศศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉมปู่เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับตระเลือกเปนบ่าว พึงมล่าวโฉมกล้องแกล้ง งามอรรแถ้งโถงเถง ทรงลักเลงเสสรวล สคราญครวญงามถนัด รบัดเปนกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบาชา อันแต่งมาทุกสึ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ
             
โคลง ๒
๗๙ ทุกขธิดาเท่าฟ้าเห็นแต่พระเจ้าข้า
พระปู่เจ้าองค์เดียว ฯ
๘๐ ขับเขียวมาแต่เช้าสองให้เชิญพระเจ้า
โปรดเปลื้องทุกข์หลาน ท่านเทอญ ฯ
๘๑ เชิญช่วยภารลุแล้วเงินแลทองกองแก้ว
อเนกข้าขอถวาย ฯ
๘๒ กามกรรหายเหิ่มไหม้พระช่วยพระชักให้
ลอราชพ้นความตาย ฯ
             
ร่าย
๘๓ ปู่ไป่ผายตอบถ้อย อยู่น่อยหนึ่งบมินาน ปู่ก็ธิญาณเล็งดู กูจะช่วยควรฤๅมิควร รู้ทั้งมวลทุกอัน ด้วยผลกรรม์เขาแต่ก่อน ทำหย่อนหย่อนตึงตึง ส่วนจะถึงบมิหยุด เท่าว่าจะพลัดสุดพลันม้วย ด้วยผลกรรมเขาเอง แต่เพรงเขาทั้งสอง ทำบุญปองจะไจ้ ขอได้พึ่งบุญตู ปู่ดูเสร็จจึ่งว่า สองนางอย่ากล่าวอ้าง ถึงสินจ้างสินบล ตนกูจักไปสู่ ถึงที่อยู่สองเจ้า เขือเข้าไปก่อนกล่าว ข่าวดังนี้ให้ฟัง กูจะไปภายหลังบช้า ผิมิวันนี้อ้า พรุ่งนี้กูถึง ฯ
             
ร่าย
๘๔ สองพึงใจคำปู่ ไหว้รับอยู่บมิวาง สองนางสนองคำตอบ ขอบคำพระปู่เจ้า เสมออำมฤตร้อยเต้า มาโสรจให้สร่างสเบย ฯ
             
ร่าย
๘๕ พระเอยเขือข้ามา จักตายช้าตายมอด เนื้อนกหลอดหนทาง สางแสกทูดคูดเค้า ขอพึ่งบุญพระเจ้า จงพ้นความกลัว ฯ
             
โคลง ๒
๘๖ ปู่หัวอยู่ยะแย้ม ข้อยว่าสองแสล้ม
อย่าร้อนใจเขือ ฯ
             
โคลง ๓
๘๗ สองนางเมือเห็นวันจงทันออกปากป่า
ไปว่าหลานแก้วถ้าถ้าท่านทูลสาร ฯ
             

กระบวนกลับชมไพร

ร่าย
๘๘ มินานนางโรยนางรื่น ไหว้ปู่ชื่นชมลา กับหมอมาขึ้นช้าง เลียบเดิรข้างตีนเขา คืนไต่เต้าตามทาง เหลียวหลังพลางจะไจ้ ชมไม้ไหล้สอาด เหมือนปราสาทพิศาล คือพิมานมนเทียร อาเกียรณ์แกมดอกแดง แสงดุจปัทมราค ภาคใบเขียวสรด คือมรกตรุ่งเรือง ดอกเหลืองเพียงทองสุก ขาวดุจมุกดาดาษ โอภาสพรรณพิจิตร พิพิธภูมิลำเนา งามเอาใจใช่น้อย คล้อยลงถึงดินต่ำ เลงสบส่ำพฤกษา งามพอตาตาดู เพราะพอหูหูฟัง นกประนังกันร้อง เพราะไพรก้องป่าก้อง เพรียกพื้นพงพี ฯ
             
ร่าย
๘๙ เสียงโนรีสาริกา สัตวาฝูงดุเหว่า แขกเต้าเคล้าคลิ้งโคลง นกเอี้ยงโองคู่เคียง เสียงแซงแซวภูรโดก โคกม้าม่ายนางนวล กระสาสรวลกระสันต์ กางเขนขันแผ่แพน แอ่นอกจอกจิบกด ขุนยูงชดขนฟ้อน กระหย้อนหางฟฟาย นางยูงรายรอบเฝ้า ทรายทองเคล้าคู่เคียง ระมั่งเมียงม่ายคู่ เกลื่อนกล่นอยู่คคล่ำ บรู้กี่ส่ำกี่สาร เห็นตระการสรนุก จริวจราวซุกจรจรัล บรู้กี่พรรค์ปูปลา นกหกดาดาษอยู่ หงส์เหิรสู่สระสรง เป็ดน้ำลงลอยล่อง ทุงทองท่องจรจรัล จากพรากพรรค์ฟูมฟอง คับแคครองคู่หว้าย ดอกบัวผ้ายจับบัว ภมรมัวเมาซราบ อาบลอองเกสร สลอนบุษบาบาน ตระการดอกบัวแดง แฝงบัวขาวคลี่คล้อย สร้อยสัตบรรณบงกช รรวยรสกลิ่นจงกล นิโลตบลโกมุท อุบลบุษบัวเผื่อนฉลับ ป่ากลัวกลับกลายสรนุก สำราญสุขเปรมปรีดิ์ ช้างเร็วรี่ผาดผัง ถึงวังใกล้ปราสาท รับขวัญราชธิดา ขวัญสองมาสมสู่ อยู่กับองค์อ่อนไท้ ไฟแดดอย่ารู้ไหม้ ไข้อย่ารู้ถึง แม่เลย ฯ
             
โคลง ๒
๙๐ คำนึงใดอย่าแคล้วลุลาภโดยใจแก้ว
อยู่เคล้าฤๅคลา หนึ่งเลย ฯ
             

ตั้งโรงพิธีรับปู่เจ้า

ร่าย
๙๑ ส่วนธิดาทั้งสอง ตั้งเตียงทองรองราชอาสน์ พิดานดาษดัดบน เทียบขนนเขนยตระสัก ม่านปักแพร้วแพรพรรณ สรรพของหอมหาได้ สรรพดอกไม้หาถ้วน ล้วนแก้วต่างข้าวตอก ช่อดอกไม้เงินทอง ของกินสรรพอาหาร ตระการแกล้มเหล้าเข้า แต่งไว้รับปู่เจ้า ว่าแต่งไว้รับขวัญ ฯ
             
โคลง ๒
๙๒ ไป่ทันว่าจะแจ้วพระปู่เจ้ามาแล้ว
ก่อนแล้ถึงเรือน ฯ
             
ร่าย
๙๓ เห็นหาวเหมือนจรคลุ้ม ชรอุ้มบนเวหา สองสงกาจะไจ้ สองประนมมือไหว้ รอยปู่เจ้าเรามา ฯ
             
โคลง ๒
๙๔ แลหาสองพี่เลี้ยงเห็นแต่ไกลมาเพี้ยง
ดั่งได้กินเมือง ฯ
๙๕ ประนังเนืองนั่งเฝ้าข้าจึ่งลงช้างเข้า
มากราบไหว้สองนาง ฯ
๙๖ สองแลพลางสองไหว้ใดดั่งนี้รอยไท้
ปู่เจ้าเราฤๅ ฯ
๙๗ เขาว่าคือท่านแท้พระปู่เสด็จมาแล้
อย่าได้สงกา ฯ
๙๘ มาจะอาราธน์ปู่เจ้ากรประนมตั้งเกล้า
กราบไหว้ทั้งหลาย ฯ
๙๙ ปรายข้าวตอกดอกไม้ถวายธูปเทียนทองไหว้
กราบเกล้าสดุดี ฯ
๑๐๐ พระมียศยิ่งฟ้าขอพระเอนดูข้า
ท่านให้เห็นองค์ ท่านนา ฯ
             

ปู่เจ้าสำแดงตนทำอาถรรพ์

โคลง ๔
๑๐๑ สองผจงอาราธนไหว้อารักษ์
ขอท่านแสดงสิทธิศักดิ์อย่ากั้ง
ขอเปนที่พำนักนิตยแด่ เผือนา
ขอพระปู่เจ้าตั้งแต่งให้เปนตัว ฯ
๑๐๒ บัดเดี๋ยวพระปู่ให้เห็นองค์ ท่านนา
งามรูปงามโฉมยงอะเคื้อ
บผอมบพีทรงบหนุ่ม งามนา
บแก่ผมผิวเนื้อปากคิ้วตาตรู ฯ
๑๐๓ สองเจ้าเห็นปู่เจ้าสองชม ชื่นนา
สองกราบกรบังคมเคี่ยมไหว้
สองถวายเครื่องอุดมสบสิ่ง แลนา
ผจงแต่งบูชาไท้ปู่เจ้าจงเอา ฯ
๑๐๔ ปู่เห็นสองเจ้าเพ่งภักดี อยู่นา
ใจปู่ปองปรานีหนุ่มเหน้า
ปู่เอากระยาศรีผจงแต่ง ถวายนา
เห็นปู่รักสองเจ้าพี่น้องยินดี ฯ
๑๐๕ แล้วสองกราบไหว้บ่ำบวงสรวง ท่านนา
ความยากแถลงทั้งปวงถี่ถ้อย
ขอพระช่วยชูทรวงทุกข์เทวษ ไส้พ่อ
ลุลาภเขือข้าข้อยท่าได้โดยจง ฯ
๑๐๖ จักถวายแก้วเก้าโกฏิเงินทอง
แลสิ่งแลเกวียนกองลาภให้
วัวควายเผือกเขาทองหงส์ห่าน หมูนา
เป็ดไก่เหล้าเข้าไหว้ปู่เจ้าแทนคุณ ฯ
๑๐๗ ปู่ฟังปู่ว่าอ้าอดสู บารนี
สองอย่าบนบานตูเกลียดจ้าง
ภักดีสิ่งเดียวดูดียิ่ง ดีนา
ความโรคเขือจักร้างอย่าร้อนใจเขือ ฯ
๑๐๘ ใช่กลผีไส้ขาดมเมอมา อยากนา
เร่ร่อนขวนขวายหาเตร่ต้อง
ขุกเท็จกล่าวมารษาจำท่าน บนนา
ทำบาปมาเลี้ยงท้องร่างร้ายฤๅอาย ฯ
๑๐๙ เรานี้เราเทพเจ้าจอมผา ไส้นา
เขาใส่สมญาเราปู่เจ้า
แรงบุญส่งสนองมาพูนเพิ่ม แลแม่
เสวยพิภพล้านเข้าชั่วฟ้าล่มกัลป์ ฯ
๑๑๐ สิทธิฤทธิเรืองเดชน้อยผลบุญ ส่งนา
สร้างกุศลเปนทุนบ่ร้อน
สมบัติดั่งมีกุลไหลหลั่ง มานา
สรรพพิภพช้าช้อนเลิศล้วนสมบูรณ์ ฯ
๑๑๑ ปู่เห็นสองเจ้าปู่ปรานี นักนา
จักช่วยสองกษัตรีย์อย่าร้อน
จักเชิญพระลอลีลาสู่ สองนา
สองแม่อย่าไข้ข้อนอยู่ถ้าฟังสาร ฯ
๑๑๒ สองไหว้สองกราบเกล้าสองถาม
ยังเท่าใดขุนงามจักเต้า
ปู่เฉลยใช่คนทรามคนชั่ว นะแม่
ขุนขี่เกล้าหน่อเจ้าแผ่นผู้มีบุญ ฯ
๑๑๓ หมอเถ้าหมอแก่แก้คุณความ มากนา
จักกำหนดโดยถามไป่ได้
หลานเอยค่อยพยายามฤๅรอด เราเลย
บร่างนานนักไท้ธิราชผ้ายถึงเรา ฯ
             
โคลง ๒
๑๑๔ สองนงเยาว์เคร่าถ้าแม้ว่าเห็นพระช้า
จึ่งให้ไปเตือน ปู่เทอญ ฯ
๑๑๕ เตือนสองสระเกศแก้วพระประสิทธิ์ให้แล้ว
ปู่เจ้าลาสอง ฯ
๑๑๖ มองตาเมิลปู่ผ้ายหายบัดเดี๋ยวเห็นคล้าย
คลาศเพี้ยงลมลิว ฯ
             
ร่าย
๑๑๗ เฉียวฉิวถึงที่อยู่ ปู่เอาไม้เลี้ยงไม้ไล่ ไม้ไผ่ไขว่ลูกลม เขียนพระตนกลมอยู่กลาง เขียนสองนางข้างแลองค์ สองอนงค์กอดรูปท้าว โนมน้าวชักชวนมา ยันต์มายารายรอบ รายขอบทั้งสี่คู่ ปู่ชปณมนต์เมิลไม้ ยางใหญ่ได้เจ็ดอ้อม ปู่ปั่นมือตีค้อม ยอดตั้งติดดิน ฯ
             

พระลอคลุ้มคลั่ง

ร่าย
๑๑๘ ครั้นยางยินคำปู่ ใจพระลออยู่บมิกลม ปู่เอาลูกลมปักปลายยาง วางมือบัดเดี๋ยวดาย ปลายไม้ผายยยัน ใบไม้ผันยย้าย คล้ายลุกตรงตระบัด ลมพัดลูกลมผัน กลกังหันคคว้าง ลอบพิตรเจ้าช้าง ปั้นเพี้ยงลมผัน ฯ
             
โคลง ๔
๑๑๙ ฝันเห็นพระเพื่อนไท้แพงทอง
สองแนบนอนแนมสองตราบไท้
สองศรีสอดกรตระกองกอดราช แลนา
ชวนชักไปไล้ไล้สู่บ้านเมืองสรอง ฯ
             
โคลง ๒
๑๒๐ พระทองผทมตื่นขึ้นสทึ่นเที้ยรสรอื้น
ประหว่าโอ้โหยหา ฯ
             
ร่าย
๑๒๑ บ่คลาสมปฤดีบพิตร พระสนมสะกิดกันดู เห็นพระภูธรพิการ จึ่งเอาสารพิกล ดลแด่ภควดี ชนนีนาถรู้ข่าว ร้อนผผ่าวหฤทัย ธไปยังลูกบพิตร ท้าวธเห็นผิดแก่ตา ธ ก็ว่า บาบงกชจอมใจ พ่อเปนใดแก่อกแม่ ท้าวก็ทูลแด่แม่ ณ หัว วันนี้ตัวขาสั่น ใจข้าปั่นผัดผัน คืนนี้ฝันเห็นถนัด ว่าสองกษัตริย์เพื่อนแพงทอง นอนแนบสองข้างข้า หน้าแนบหน้าอิงอร สองสอดกรกอดเกื้อ โลมลูบเชื้อเชิญไป ใจข้าไหวดังจะผก อกข้าปั่นดังจะคว่ำ ทุกข์บรู้กี่ส่ำแสนเศร้า จักใคร่เต้าไปหา เยียวลูกลาแม่ ณ เกล้า ขอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวเอนดู ลูกรา ฯ
             

พระแม่ให้นายแก้วนายขวัญหาหมอมาแก้ได้

โคลง ๔
๑๒๒ ออกท้าวฟังลูกไท้ทูลสาร
ถนัดดังใจจักลาญสวาทไหม้
น้ำตาท่านคือธารแถวถั่ง ลงนา
ไห้บรู้กี่ไห้สรอื้นอาดูร ฯ
๑๒๓ ตีอกโอ้ลูกแก้วกลอยใจ แม่เอย
เจ้าแม่มาเปนใดดั่งนี้
สมบัติแต่มีในภพแผ่น เรานา
อเนกบรู้กี้โกฏิไว้จักยา พ่อนา ฯ
๑๒๔ นายแก้วจักอยู่เร้งไปหา
เร็วเร่งพระโหรมาอย่าช้า
หาหมู่หมื่นแพทยาหมอภูต มานา
หาแม่มดถ้วนหน้าหมู่แก้กฤติยา ฯ
๑๒๕ นายขวัญหาจุ่งถ้วนทั้งหลาย
ทุกหมื่นขุนมุลนายช่วยไล้
เถมิลไพร เร่งขวนขวายยาป่า มานา
ยาเทศทั้งปวงไว้ฝ่ายข้างชาวคลัง ฯ
๑๒๖ คลังกูคลังลูกแก้วกูนา
จักจ่อมจ่ายเยียวยาหน่อเหน้า
สิ้นทั้งแผ่นดินราแม่ลูก ก็ดี
สิ้นแต่สินจงเจ้าแม่ได้แรงคืน ฯ
๑๒๗ ขวนขวายถึงขนาดพร้อมเพรียงกัน
หมอว่าใดทำสรรพ์สิ่งนั้น
บนานพระลอพลันสรว่าง เสบยนา
ถ้อยหมู่หมอมาหั้นท่านให้เหลือเฟือ ฯ
๑๒๘ ออกท้าวธิราชได้แรงรมย์
นางพระยาพระสนมชื่นหน้า
มนตรีไพร่เมืองชมสดชื่น เสบยนา
ลอบพิตรเจ้าหล้าสว่างคลุ้มหายมัว ฯ
             

ปู่เจ้าเพิ่มกำลังอาถรรพ์

โคลง ๒
๑๒๙ สองบัวบุษป์อยู่ถ้าฟังข่าวพระลอช้า
อกร้อนคือไฟ ฯ
๑๓๐ ให้ไปเตือนปู่เจ้าปู่ว่ามีหมอเถ้า
แก่แก้คุณเรามากนา ฯ
             
ร่าย
๑๓๑ ปู่ก็เอาธงสามชาย รายยันต์มากกว่าเก่า เขียนพระลอเจ้าอยู่กลาง เขียนสองนางแนบสองข้าง กอดเจ้าช้างรัดรึง ชักทึงท้าวชวนเต้า แล้วปู่เป่าตะเคียนใหญ่ เก้าอ้อมใช่สามาญ ปลายไม้กรานก้มลง ปู่เอาธงปักผลักขึ้น ต้นไม้ฟื้นฟฟั่น ใบไม้สั่นฟฟัด ลัดลุกขึ้นยืนตรง ลมลิ่วธงททัด พัดถูกธงทท้าว ลมสร้าวเสียวเฉียวฉิว ปลิวกระพือยาหยูก ถูกพระองค์ท่านไท้ ถนัดดังสองนางไล้ ลูบให้แลเห็น องค์นา ฯ
             

พระลอฟั่นเฟือนหนักขึ้น

ร่าย
๑๓๒ ท้าวธเปนหนักเล่ากว่าก่อน ดังเห็นสองอ่อนแก่ตา มาชักไท้ธสู่หย้าว มาเชิญท้าว ธ สู่เรือน ใจท้าว ธ เฟือนฟฟั่น สั่นพระองทท้าว น้าวพระองค์ยยัน ผันพระพักตร์บพิตร ไปยังทิศตวันออก เขาจึงบอกนาฎบุญเหลือ ธ รีบเมือยังลูกไท้ ไห้มาพลางรันทด สลดฤทัยพระองค์ ทรุดนั่งลงแลพระพักตร์ พระลอลักษณดิลก ทาบตีอกร้องไห้ มือทุ่มทรวงไล้ไล้ ลูกแก้วกับตน แม่เอย ฯ
             
โคลง ๔
๑๓๓ เจ้าไข้ทุกข์แม่เพี้ยงภูเขา ลูกเฮย
เจ้าเคลื่อนทุกข์บางเบาสว่างร้อน
มาเห็นพ่อเงียบเหงาหนักกว่า ก่อนนา
ทุกข์เร่งซ้อนเหลือซ้อนยิ่งฟ้าทับแด ฯ
๑๓๔ หญิงชายเหลือแหล่งหล้าฤๅยล ยากนา
เห็นแต่เราสองคนคู่ม้วย
ฉันใดพ่อกับตนเปนดั่ง นี้นา
แม้พ่อตายตายด้วยพ่อแล้จอมใจ แม่เอย ฯ
๑๓๕ นายขวัญนายแก้วเร่งขวนขวาย หนึ่งรา
หาหมู่หมอทั้งหลายทั่วหน้า
มาเร็วเร่งยาสายสมรแม่ เร็วรา
เดิรด่วนอย่าได้ช้าช่วยด้วยหัวใจ ฯ
๑๓๖ หาสิ้นสบส่ำถ้วนมดหมอ
ทั้งแผ่นดินฤๅหลออยู่ได้
มาแก้พระเลืองลอฤๅเคลื่อน คลายเลย
พระแม่ไท้เห็นไท้ลูกท้าวพิศวง ฯ
๑๓๗ ท่านไท้ชุมถ้วนมิ่งมนตรี ท่านนา
เผยม่านผายเสาวนีย์ท่านพร้อง
สมเด็จปิ่นภูมีศวรราช เรานา
ยา บหายไข้ข้องสวาทแค้นคาใจ ฯ
๑๓๘ ตรวจไตรหาหน้าหมู่มดหมอ
ดีจะยังเหลือหลออยู่บ้าง
สิ่งใดจะพึงพอคิดเร่ง คิดนา
ใดชอบทำอย่าร้างเร่งเทิ้ญเร็วทำ ฯ
             

หมอสิทธิไชยแก้ได้

ร่าย
๑๓๙ มนตรีจำพระกฤษฎีกา ตรวจหาหมอทุกผู้ จึงรู้ว่าหมอสิทธิไชย นั้นออกไปอยู่ป่า รู้มลักกว่าทั้งหลาย คุรพันลายพันลึก ตรึกไตรศาสตราคม บันสมสิทธิสามรรค ชำงัดโดยคุณโดยฤทธิ์ ธประกาศิตเสร็จสรรพ เขาเร่งรับปู่เข้ามา ปู่ตั้งลากูณฑ์พิธี พลีเทพผู้มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิมนตราคม บันสมทํโดยศาสตร์ ให้พระลอราชหายหลง ให้ท้าวธสรงอุทกมนต เจ้าสากลสว่างเสบย เสวยโอสถประสิทธิ์ อันมีฤทธิ์พิเศษ สระพระเกศพระสกนธ์ ตั้งมณฑลสามชั้น บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปิศาจ อากาศไว้ภูตคณา อยู่รักษาทุกแห่ง แล้วแต่งการเอิกเกริก เบิกสมโภชพิธี เป็นบายศรีทำขวัญราช พระบาทให้รางวัล สรรพ์อุปโภคพิพิธ แก่หมอสิทธิไชย หมอถัดไปโดยลำดับ ให้สำรับเสื้อผ้า ให้แก่หมอถ้วนหน้า ผู้อยู่เฝ้ารักษา ท่านนา ฯ
             

ปู่เจ้าเกณฑ์พลผีป่ายกไปรบเมืองสรวง

โคลง ๔
๑๔๐ เอ็นดูสองราชไท้ธิดาท่านนา
ท่าบ่เห็นโหยหาอกไหม้
พระลอราชจักมาฤาไป่มาเลย
สองราชละห้อยไห้แต่ถ้าภูบาล ฯ
๑๔๑ จึ่งใช้สองพี่เลี้ยงไปพลัน
ถามปู่เป็นฉันใดดั่งนี้
ข้าไปบังคมคัลพระปู่ แลนา
พระปู่เฮยยังกี้เมื่อท้าวจักมา ฯ
๑๔๒ ปู่เล็งเห็นทั่วแล้วทุกอันนาแม่
บอกข่าวเขาแก้กันแต่งเฝ้า
มดหมอจักเทียมทันเขายากนักนา
ไว้ปู่จักกลอยเถ้าต่อด้วยเข้าเอง ฯ
             
โคลง ๒
๑๔๓ เขืออย่าเกรงเกลือกข้าสองจักพลันเห็นหน้า
พระบาทท้าวจักถึง แม่แล ฯ
             
ร่าย
๑๔๔ ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้าคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษกุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเป็นนายเป็นมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่หมูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเป็นกากภาษา เป็นหัวกาหัวแร้ง แสร้งเป็นหัวเสือหัวช้าง เป็นหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ละคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธ์ยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาดดากันผาดเผ้ง ระเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสะเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไซร้ กูจึ่งจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ
             
โคลง ๔
๑๔๕ น่าดูพล ปู่เจ้าจอมผา
อึงอึดอัมพรคลาคลาดเต้า
ผีผาภูตคณา นับโกฏิเกรียงแฮ
ไคลคลี่พลคลาเต้าด่วนได้โดยโพยม ฯ
๑๔๖ พิศเพี้ยนผีพวกพ้องเพียงพล มารแฮ
เต็มป่าพฤกษ์ไพรสณฑ์แหลกหลู้
บนานก็มาดลแดนราช
ผีฝ่ายแดนขุกรู้เร่งเร้งเรียกกัน ฯ
             
ร่าย
๑๔๗ มากลากลาดกันแดน ผีแขกแค้นเข่นขุก ผีแดนรุกรบพุ่ง แล่นไล่ยุ่งโลดเต้น บ้างหลบบ้างหลีกเร้น บได้ตอบตี ฯ
             
โคลง ๔
๑๔๘ ผียยุ่งรบกับด้วยผีแขวง แดนนา
ผีทุ่มผีไล่แทงผาดผ้าย
ผันแผงแผดรบแรงร้องเร่ง พลนา
ผีแขกรุกราญร้ายรบเร้ารอนผลาญ ฯ
             
ร่าย
๑๔๙ ผียยุ่งรบกัน ครรชิตฤทธิราวี ผีทุ่มผีไล่แทง รบแรงผันเผ็งแผด ผีเจ้าแจดจ้ายจ้าย ร้องเร่งพลคล่ำคล้าย ผาดผ้ายรุกราญ ฯ
             

หมอสิทธิไชยหมดทางแก้

ร่าย
๑๕๐ ผีบันดาลไฟคคลุ้ม ให้ควันกลุ้มเวหา ด้วยแรงยาแรง มนต์ ผีแดนทนทานยาก จึ่งฝากข่าวแก่ลม กึกก้องอมพรมี่ ลัดพลัดปรี่ปรึงมา บอกแก่เทพดาเสื้อเมือง ฟ้าหล้าเหลืองอุบาทว์ อากาศคลุ้มเปนควัน ฟ้าเครงครรชิตผ่า ใจเมืองบ้าดังจะผก หัวอกเมืองดังจะพัง เทพดาฟังฟฟั่น ตกใจสั่นระรัว กลัวฤทธิ์พระปู่ ผู้มีเดชเกรียงไกร หมอสิทธิไชยเล็งเห็น ทีนี้เข็ญเกิดใหญ่ ปู่หมอใคร่ใจดู ครูกูชี้ให้เห็น อันเปนนั้นปรตยักษ์ ด้วยสิทธิศักดิ์ผีสาง จึ่งทูลแด่ออกนางนาฎชนนี ฟังคดีอัศจรรย์ ว่าจะกันกันบได้ ให้มาเห็นเข็ญปลาด ทุกประ การนาฎพิลาป สองมือทาบตีอกไห้ ใครจักช่วยเจ้าได้ ลูกแก้วกับตน แม่เฮย จอมใจแม่ฮา ฯ
             
โคลง ๔
๑๕๑ ปู่หมอใดดั่งนี้อกกู
เชิญปู่เล็งแลดูก่อนไส้
ปู่เอยเอนดูตูเชิญช่วย ตูรา
ปู่ช่วยลุจักให้กึ่งแล้เมืองหลวง
๑๕๒ ปู่ดูปู่ว่าพ้นแรงนัก แม่ฮา
เทพดาสิทธิศักดิ์ท่านใช้
ผีสางสุรารักษ์เราพ่าย หนีนา
ยาท่านเติมมาให้เสื่อมข้างยาเรา ฯ
๑๕๓ ที่สู้ดูที่สิ้นจักกัน แลนา
ทุกเทพผีสางสรรพ์พ่ายแพ้
ยังยาหยูกทุกอันเราเสื่อม ไปนา
มนต์แลยาจักแก้ท่านได้ฉันใด ฯ
๑๕๔ ปรานีออกท้าวราชมารดา ท่านนา
ฟังเร่งแสนโศกาหมื่นไหม้
น้ำตาบ่เสบยตาแถวถั่ง ลงนา
ไห้บ่รู้กี่ไห้แหบแห้งหัวใจ ฯ
             

พระลอเสวยสลาเหิน ขอลาไปหาพระเพื่อนพระแพง

ร่าย
๑๕๕ ผีภายในแล่นออก แลนา ผีภายนอกแล่นเข้า แลนา เทพดาปู่เจ้าสั่ง แลนา มาทำดั่งปู่สอน แลนา ให้ย่อหย่อนทุกสิ่ง แลนา จึ่งให้สารไปกล่าว แลนา จึ่งให้ข่าวไปถึง แลนา สมึงพรายผู้เถ้า แลนา ปู่เจ้าฟังแล้วไส้ แลนา ปู่จึ่งใช้สลาเหิร แลนา เดิรเวหาไปสู่ แลนา ตกลงอยู่รคน แลนา ปนหมากเสวยท่านไท้ แลนา ครั้นท่านได้หยิบเสวย แลนา บนานเลยลอราช แลนา ใจจะขาดรอนรอน แลนา ถึงสายสมรพี่น้อง คิดบลุเลยข้อง ขุ่นแค้นอาดูร ฯ
             
โคลง ๔
๑๕๖ ท้าวทูลธิราชไท้ชนนี
ไหว้บาทบงกชศรีใส่เกล้า
ข้าพระอยู่มามีใจเหนื่อย พระเอย
จักใคร่ลาพระเจ้าเที่ยวเหล้นพนาสนฑ์ ฯ
๑๕๗ ออกท้าวฟังลูกไท้ทูลลา ท่านนา
เจ้าแม่เปนใดนาดั่งนี้
มดหมออยู่รักษาสงวนราช นะพ่อ
สุดกำลังเขาชี้ยากแท้ทุกอัน ฯ
๑๕๘ ผีสางเขาส่งซ้ำเติมมา มากนา
มนตรมายายาหยูกซ้ำ
วันใดราชลีลายกย่าง ไปนา
อกแม่ผอมไข้ขว้ำหล่มหล้มพระองค์ ฯ
๑๕๙ พระลอลาบ่ได้ทนทุกข์ อยู่นา
บัดนั่งบัดนอนลุกละห้อย
ไอศวรรย์บ่เปนสุขเสวยโศก ไส้นา
โหยคนึงเสน่ห์สร้อยบ่ได้สร่างเสบย ฯ
๑๖๐ นางเมืองนั่งแนบเฝ้าจอมกษัตริย์
ถนอมบาทบงกชรัตน์ใส่เกล้า
พระสนมรำเพยพัดไกวแกว่ง วีนา
พระราชชนนีเล้าลูบไล้โลมขวัญ ฯ
๑๖๑ พระลอบสร่างเศร้าศรีหมอง อยู่นา
หลับมเมอหาสองหนุ่มหน้า
เคลิ้มไคล้หวาดใจปองหองไป่ ลุเลย
คิดคนึงโอ้อ้าใคร่กลั้นใจตาย ฯ
๑๖๒ ตื่นขึ้นวอนว่าข้าจักไป
ประพาสชมไพรพลางไล่ช้าง
ชมพนมพนาไลยพลางไล่ มฤคนา
ชมป่าดงพงกว้างเถื่อนถ้ำสระศรี ฯ
๑๖๓ ออกท้าวฟังลูกไท้ปรารมภ์ อยู่นา
ปากว่าจะไปชมช่อไม้
ครั้นไปจะไปสมสองนาฎ แลนา
ใส่เล่ห์วอนไจ้ไจ้จักห้ามฉ้นใด ฯ
๑๖๔ หาโหรหาถ้วนมิ่งมนตรี
หาปู่สิทธิไชยลีลาศเต้า
แถลงคำแก่นกษัตรีย์ทุกสิ่ง แลนา
โหรว่าจักห้ามเจ้าแผ่นหล้าฤๅฟัง ฯ
๑๖๕ สิทธิไชยทูลแด่เจ้าจอมกษัตริย์
แม้นเทพมาทัดทัดบ่ได้
มนตรีว่าเห็นขัดทุกสิ่ง แลนา
จักส่งสารถึงไท้สืบสร้องกลความ ฯ
             
โคลง ๒
๑๖๖ ธขอบคำความมนตรีกลกล่าวดีชอบแท้
แก้อื่นบได้แก้ดั่งนี้เห็นควร ฯ
๑๖๗ จึ่งเสด็จยวรยาตรเต้ากล่าวแก่พระลอเจ้า
พ่อเฮ้ยปรานี แม่รา ฯ
             
ร่าย
๑๖๘ แม่ฟังคำพ่อว่า ใคร่เล่นป่าชมเขา แม่เดาใช่คำจรึง พ่อคำนึงอื่นไส้ พระบอกจงจริงให้ แม่รู้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ
             
โคลง ๒
๑๖๙ ข้ารำพึงอื่นแท้จะบอกความจริงแล้
พระห้ามขัดใจ ลูกนา ฯ
๑๗๐ สิ่งใดพอใจแก้วยังห่อนฤๅให้แคล้ว
ขัดข้องใจขุน แม่นา ฯ
๑๗๑ เปนตามความชอบแล้วจ้กแต่งตามใจแก้ว
ก่ำพร้าฤๅขืน อื่นเลย ฯ
๑๗๒ พระเอยหัวใจข้าคิดใคร่ไปเห็นหน้า
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ
๑๗๓ ความปองลูกบ่ได้บ ร้างเห็นหน้าไท้
ธิราชแล้นะหัว ลูกเอย ฯ
๑๗๔ ลาบัวบาทเจ้าหล้าไปสู่สองแล้วข้า
จึ่งผ้ายคืนมา ฯ
             

พระแม่อาดูร

โคลง ๔
๑๗๕ เจ้าไปแล้วเจ้าจักคืนเมือ ลูกเอย
เนื้อสู่เสือฤๅเสือจักไว้
ฟังคำพ่อคิดเหลือเหลือที่ คิดนา
คิดบ่ได้ล้วนได้แต่ร้อนฤๅเสบย ฯ
๑๗๖ โดย ธ คิดชอบถ้อยคลองความ
จักแต่งไปสู่ถามพี่น้อง
จักรับพงางามสองสู่ พระนา
ได้ง่ายฤๅขัดข้องเท่าเส้นยองใย ฯ
๑๗๗ ดำริห์โดยราชนี้เยียวนาน
เยียวพ่อสองเยาวมาลย์ห่อนให้
ทางไกลเที่ยวทูลสารยลยาก พระเอย
ข้าพระไปเองได้ง่ายแท้ทุกอัน ฯ
๑๗๘ พ่อไปแล้วนะเจ้าคืนมา รอดฤๅ
บ รอดเลยราชาอย่าผ้าย
ยาอีกสิ่งมนตราคมยิ่ง ยานา
ผีก็ร้ายคนร้ายรอดได้กลใด ฯ
๑๗๙ เมืองเราอุบาทว์ร้ายแรงนัก ลูกเอย
เขาส่งผีสางศักดิ์ข่มแล้ว
ฤๅบาปิ่นไตรจักรจักรอด ฤๅพ่อ
หล้มแผ่นดินหล้มแก้วแม่หล้มไอศวรรย์ ฯ
๑๘๐ รอยท้าวทูลบาทเบื้องบุญขจร
พระปู่เขาเรารอนขาดเกล้า
เขาคุมเคียดจักหลอนทำโทษ แทนนา
ฤๅพ่อจักไปเข้าสู่เงื้อมมือเข็ญ ฯ
๑๘๑ ถึงกรรมจักอยู่ได้ฉันใด พระเอย
กรรมบ่มีมีใครฆ่าข้า
กุศลส่งสนองไปถึงที่ สุขนา
บาปส่งจำตกช้าช่วยได้ฉันใด ฯ
๑๘๒ ผิไปแล้วและถึงกรรม์ ก็ดี
ตกนรกแสนศัลย์หมื่นไหม้
เสวยสุขโสดเสวยสวรรค์เพราะอยู่ ก็ดี
บ อยู่เลยลาไท้ธิราชแล้วจักไป ฯ
๑๘๓ ทาบตีอกไห้พ่างเมือมรณ์
คำแม่สอนสุดสอนบ่ได้
รอยกรรมราชจักหลอนจักล่อ พระฤๅ
รู้เท่ารู้เว้นไว้กลัดกลุ้มมัวมน ฯ
๑๘๔ จำศีลบท่อยถ้วนเจ็ดวัน ลูกเอย
คลังคลี่ทานผลปันเท่าฟ้า
ขอมีลูกใจธรรม์ชายชอบ ใจนา
แม่จึ่งได้เจ้าหล้าแม่แล้สุดใจ แม่เอย ฯ
๑๘๕ สิบเดือนอุ้มท้องพระลอลักษณ์
สงวนบ่ลืมตนสักหนึ่งน้อย
ตราบพระปิ่นไตรจักรเสด็จคลอด มานา
ถนอมอาบอุ้มค้อยคอ้ยลูบเลี้ยงรักษา ฯ
๑๘๖ แลวันสามคาบป้อนเปนนิตย์
บมิให้ใครทำผิดแผกเจ้า
แสนสงวนคู่ชีวิตฤๅใคร่ กลายเลย
เทียรผดุงคุ้งเท้าตราบรู้เสวยเอง ฯ
๑๘๗ บรรจงกับเข้าแต่งของเสวย
บ มิได้เลินเล่อเฉยหนึ่งน้อย
สรรพเครื่องพระลูกเฮยไตรตรวจ แต่งนา
บ วางใจกึ่งก้อยแก่ผู้ใดทำ ฯ
๑๘๘ แต่น้อยแม่พร่ำเลี้ยงรักษา พ่อนา
จนเจริญชนมาตราบได้
สมบัติผ่านภูวดาถวัลยราช
ฤๅพ่อจำจากให้แม่นี้ตรอมตาย ฯ
๑๘๙ คงชีพหวัดได้พึ่งภูมี พ่อแล
ม้วยชีพหวังฝากผีพ่อได้
ดังฤๅพ่อจักลีลาจาก อกนา
ผีแม่ตายจักได้ฝากให้ใครเผา ฯ
๑๙๐ สุดใจสุดแม่ห้ามภูธร
สอนบ่ฟังแม่สอนจักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
แม่อยู่ตั้งแต่เศร้าโศกร้อนฤๅเสบย ฯ
๑๙๑ ลูกเอยจากแม้โอ้กรรมใด นาพ่อ
ตั้งแต่คิดเด็จไปสู่สร้อย
แม่เดียวอยู่อาไลยทนเทวษ แลนา
มาแม่จะชมน้อยหนึ่งให้คลายใจ ฯ
             

พระแม่จุมพิตสั่ง

โคลง ๔
๑๙๒ ชมปรางชมผากเผ้าริมไร เกศนา
เชยปากตาตรูไตรเพริศพริ้ง
ชมพักตรดั่งแขไขขวัญเนตร
บพิตรพ่องามสิงคลิ้งจูมแก้มเชยกรรณ ฯ
๑๙๓ จูบนาสิกแก้วแม่หอมใด ดุจนา
จูบเคียงคางคอใจจักขว้ำ
จูบเนื้อจูบนมใสเสาวภาคย์ พระเอย
จูบไหล่หลังอกซ้ำจูบข้างเชยแขน ฯ
๑๙๔ จักเชยพระลูกถ้วนสรรพางค์
พระลูกประนมกรพลางจึ่งพร้อง
พระควรจูบแต่กลางกระหม่อม ไส้นา
แก้มเกศพระเจ้าต้องสั่งข้าพระควร ฯ
๑๙๕ ลูกรักแก้วแม่เอ้ยปรานี แม่รา
พระบาทบงกชศรีใส่เกล้า
ฤๅบาปิ่นภูมีทัดแม่ ใยพ่อ
ขอจูบบัวบาทเจ้าสั่งเจ้าจอมใจ ฯ
๑๙๖ พระรักพระว่าไว้เหนือหัว
ข้าบาทบงกชกลัวบาปได้
พระคุณโปรดเปนตัวสอนสั่ง มานา
ข้าไป่แทนคุณไท้เท่าเส้นใยยอง ฯ
๑๙๗ รอยกรรมจักจากเจ้าจอมกษัตริย์
รอยบาปเพรงจำพลัดออกท้าว
พระคุณไป่แทนขัดใจดั่ง นี้นา
ยาหยูกเขาโน้มน้าวลูกให้ใหลหลง ฯ
             

พระแม่ประทานโอวาทและอำนวยพร

ร่าย
๑๙๘ เมื่อนั้นอนงคเทพี ชนนีนาฎราชรันทด สลดหฤทัยดั่งจะหว่า ท้าว ธ ก็ว่าเจ้าลอลักษณ์ แม่รักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่นี้จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี ศรีกษัตริย์มีเจ็ดสิ่ง พระมิ่งแม่จงจำ ยำคำแม่อย่าคลา รีตท้าวพระยาอย่าคลาด อย่าประมาทลืมตน อย่ารคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึ่งทำ คิดทุกคำจึ่งออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกกรม อย่างมชมความเท็จ ริรอบเสร็จเกื้อทางธรรม์ ทีจะกันกันจงหมั้น ทีจะคั้นคั้นจงเปนกล ส่องต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรีโดยยุกติ์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญเพรียงไพร่เพรียงเมือง อาญาเรื่องเรื้อยราษฎร์ กันนิกรอาจเกื้อไพรี ดับกลีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแช่ง แต่งคนให้คนรัก ชักชวนคนสู่ฟ้า เบื้องหน้าเทพยอยศ จงปรากฎชอบแล้ว อย่าได้แคล้วรำพึง คำนึงอย่ารู้มลาย จงอย่าหายยศพ่อ ต่อม้วยฟ้าหล้าสวรรค์ กัลปประลัยอย่ารู้ลาญ ภูบาลเจ้าจงจำ ตามคำแม่โอวาท พ่อสุดสวาทแก่แม่เฮย จงสวัสดิ์แก่เจ้าเทอญ ฯ
             
โคลง ๔
๑๙๙ จงเจริญศรีสวัสดิ์เรื้องเดชา
ทุกข์โศกโรคไภยาอย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลา พาลพ่ายฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้องขุ่นแค้นอารมณ์ ฯ
๒๐๐ ขอลุสมสบสร้อยสองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทางเสน่ห์นั้น
ขอคิดอย่าใจจางคำแม่ สอนนา
ขอพ่อเร็วคืนกั้นขอบแคว้นไกรกรุง ฯ
๒๐๑ ขอฝากฝูงเทพไท้ภูมินทร์
อากาศพฤกษาสินธุ์ป่ากว้าง
อิศวรนรายณ์อินทร์พรหเมศ ก็ดี
ช่วยรักษาเจ้าช้างอย่าให้มีไภย ฯ
๒๐๒ ได้คืนชีพิตเจ้าจอมกษัตริย์
จักแต่งธงธวัชฉัตรเพริศแพร้ว
เทียนทองระย้ารัตนงามชื่น ตาแฮ
เป็ดไก่บายศรีแก้วแต่งแก้สบสถาน ฯ
             
โคลง ๒
๒๐๓ ท้าวฟังสารท่านไท้บังคมก้มกราบไหว้
รับถ้อยคำสอน ฯ
๒๐๔ รับพรใส่เศียรไว้แก้เกศเช็ดบาทไท้
ท่านท้าวชนนี ท่านนา ฯ
๒๐๕ กรชลีเหนือเกล้าลาสมเด็จท้าวเจ้า
สู่ท้องโรงธาร ฯ
             

พระลอโองการสั่งเสนามนตรี

ร่าย
๒๐๖ โองการสั่งมนตรี ผู้ภักดีต่างใจ อยู่ระไวต่างองค์ ดำรงรั้งรักษา ภาราเราจงบำรุง ผดุงราษฎร์อย่าให้เคือง ศัตรูเมืองเร่งบำบัด หนึ่งจอมกษัตริย์แก่นไท้ ถนอมบาทบงกชไว้ เหมือนเมื่อเที้ยรกูยัง ฯ
             
ร่าย
๒๐๗ แล้วตรัสสั่งขุนพล พวกพหลเหี้ยมหาญ เร่งเตรียมการพยุหบาตร จัตุรงคราชเรืองรบ ครบทุกหมู่ทุกหมวด ตรวจให้สรรพโดยเขบ็จ จัดให้เสร็จโดยขบวร กูจักยวรยาตรเต้า ในวันรุ่งพรุ่งเช้า แต่งตั้งเตรียมพลัน ฯ
             

พระลอสั่งลาพระชายา

ร่าย
โคลง ๒
๒๐๘ เสร็จผายผันสู่ห้องเรือนหลวงโลมลาน้อง
อยู่เจ้าจงดี แม่ฮา ฯ
๒๐๙ เรียมจะลีลาศเต้าอยู่แม่อยู่อย่าเศร้า
ไป่ช้าคืนสม แม่แล ฯ
๒๑๐ ลักษณวดีกรมทรวงสร้องทุกข์แทบเลือดตาย้อย
เนตรน้ำนองนูน ฯ
๒๑๑ นบนิ้วทูลเจ้าหล้าพระองค์อาจละข้า
บาทไว้ผู้เดียว พระเอย ฯ
๒๑๒ ทางไกลเปลี่ยวสัตว์ร้ายผีคนองหลอนคล้าย      
ทำเล่ห์ให้เห็นตัว ฯ
๒๑๓ กลัวศัตรูฝ่ายหน้าหลังพระเสียใจข้า
ดุจดับแก้วสองดวง ฯ
๒๑๔ ขอห้ามหวงเจ้าหล้าอยู่ปกเกศเกล้าข้า
พระบาทท้าวอย่าไป ฯ
             
โคลง ๔
๒๑๕ สิ่งใดในโลกล้วนอนิจจัง
คงแต่บาปบุญยังเที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรังตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บุญบาปแล้ก่อเกื้อรักษา ฯ
๒๑๖ จากนุชเรียมขุ่นไข้อารมณ์ เรียมนา
จากที่สมไปสมเกลือกแคล้ว
ผิจักอยู่อกกรมเกรียมสวาท นาแม่
จำพี่จำจากแก้วไป่ช้าคืนสม ฯ
๒๑๗ พระไปแม้พระได้สมสอง
ไหนจะคืนคงครองครอบเกล้า
อย่าคิดอย่าจงปองสองปล่อย มาฤๅ
สองจักลองโลมเล้าอยู่ว้าวังขัง ฯ
๒๑๘ จำจากใช่จากด้วยชังสมร แม่นา
จากแม่รักฤๅรอญขาดได้
เด็จบัวแม่เด็จอรยังเยื่อ ใยนา
ไปบ่ลืมน้องไท้อย่าร้อนรนทรวง ฯ
             

(บทที่ ๒๑๘ ฉบับสมุดไทยเป็นดังนี้)

๒๑๘ จำจากจำราศสร้อยสายสมร พี่นา
มนตรยายำจำจรไต่เต้า
อยู่ฤาสมสุขอรชาเยศ เลยแม่
แม้มิตายจากเจ้าจักบ้าเสียคน ฯ
             
๒๑๙ สุดทานสุดทัดท้าวสุดบุญ
ทรงโศกพัตรซบซุนร่ำไห้
เหนือบาทยุคลขุนครวญคร่ำ ไปนา
สยายเกศเช็ดบาทไท้ธิราชไว้เปนเฉลิม ฯ
๒๒๐ เห็นโศกเพิ่มโศกท้าวกลอยนาง
พลางพระโลมนุชพลางปลอบน้อง
อย่าโศกจะเปนลางในพฤกษ์ ไพรนา
ดับทุกข์ดับเทวษข้องขุ่นแค้นเสียโฉม ฯ
๒๒๑ เสร็จโลมเสร็จสั่งเจ้าจอมสนม
สนมอยู่อย่าเกรียมกรมอกไหม้
ปวงนางรับคำคมบัวบาท ท่านนา
ซบสอึกสอื้นไห้แซร่ซร้องแรงโรย ฯ
๒๒๒ เสียงโหยเสียงไห้มี่เรือนหลวง
ขุนหมื่นมนตรีปวงป่วยซ้ำ
เรือนราษฎร์ร่ำตีทรวงทุกข์ทั่ว กันนา
เมืองจะเย็นเปนน้ำย่อมน้ำตาครวญ ฯ
๒๒๓ เห็นไห้ทุกหมู่ถ้วนหญิงชาย
ใจสั่นรันทดกายท่านไท้
สูเอยอย่ากรรหายเหิมโศก นักนา
ทุกข์นักมักเกิดไข้มักไข้พลันตาย ฯ
             
ร่าย
๒๒๔ โศกเสื่อมคลายใจราช เสร็จสั่งนาฎสั่งสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล ท้าว ธ บ ทันไสยา แสงจันทราโอภาส ดาราดาษดารก ตกต่ำคล้อยเจียนรุ่ง ผกายพรึกพุ่งอัมพรา ไก่ตื่นตาปรบปรือ ปีกกระพือขันเร้า เสียงดุเหว่าเกริ่นร้อง เสด็จสู่ห้องบังคน นางถวายชลเอางาน ภูบางสู่ที่สรง ชำระพระองค์ บ นาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นลลุง ปรุงปนทองธารทรง ผจงสนับเพลาบวร ภูษาภรณ์เลื่อมลาย รัดพัสตรพรายไพจิตร พิศชายไหวยยาบ ชายแครงคาบเครือวัลย์ พิพิธพรรณเสื้อสนอบ รัดอุระรอบเรืองรอง สังวาลตรองตาบประดับ ทับทรวงแสงร่วงรุ้ง พลอยเพ็ชรพุ่งยรรยง ทรงทองกรจำรัส พาหุรัดรูปมังกรกลาย ธำมรงค์พรายเพริศแพร้ว มกุฎแก้วแสงใส ทรงพิไชยอาวุธเสร็จ บพิตรเสค็จนวยนาด ดั่งพระยาราชไกรสร จากศิขรคูหารัตน์ บัดถึงเกยบมินาน ขุนช้างชาญควาญขับ ประทับเทียนเกยแก้ว ทรงคอคชสารแล้ว เคลื่อนแคล้วพลพฤนท์ ฯ
             

ยาตรา

โคลง ๒
๒๒๕ แตรสังข์พิณพาทย์ฆ้องเสียงประโคมครื้นก้อง
แหล่งหล้ากรุงไกร ฯ
             
โคลง ๔
๒๒๖ พระยาไชยนุภาพล้ำเลิศเหลือ
ชาญชำนิเศิกเสือปราบแผ้ว
งามสรรพลักษณเจือใจราช สงวนนา
ข่ายภู่รัตคนแพร้วเพริศพร้อมดาวทอง ฯ
๒๒๗ สองขอยอยศไท้มหิมา
ดูดั่งองค์อมราสู่หล้า
พาหนะดุจคเชนทราจอมเทพ เปรียบฤๅ
พลดั่งพลหยาดฟ้าแหล่งหล้าสรรเสริญ ฯ
             
ร่าย
๒๒๘ ธงหน้าเดินนำพล ธงโบกบนสัญญา เคลื่อนพลดาโดยด่วน ถ้วนทุกหมู่ทุกหมวด ขุนตำรวจสารวัด จัดแจงเดิรคู่เคียง ม้าเดิรเรียงเดิรราย ขยายระยะโดยควร นายถือทวนหมายมาด ภู่แดงดาษปลิวปลาย สพายแล่งศรมหิมา เครื่องอาชายรรยง งามบรรจงเพริศแพร้ว ล้วนแก้วก่องแกมมาศ อัศวชาติสินธพ แลเลิศลบเผ่นผยอง ลองเชิงร้องเครงครืน สู้ศึกยืนบ่มิพ่าย นายขี่ขับเข้มแขง ล้วนตำแหน่งยศเจ้าหล้า ขุนม้าหมื่นม้าครัน พันม้านายม้ามาก พิศโสภาคย์โสภา มากดาษดาแต่งแง่ แผ่ตนตามเจ้าหล้า แห่ไปหน้าก็มาก แห่หลังหลากเหลือหลาย แห่ฝ่ายซ้ายดาษดา แห่ฝ่ายขวาดาษเดียร พิศเพียนพร้อมงามสรรพ คณนานับบมิถ้วน ล้วนม้าลักษณม้าเลิศ เฉกโฉมเฉิดแห่งหล้า พิศยิ่งงามถ้วนหน้า ยิ่งม้าเมืองบน ฯ
             
ร่าย
๒๒๙ แลพวกพลยรรยง ธงนำพลยยับ ดับกองร้อยกองพัน แห่กองทันกองแล่น แห่แหนแน่นขุนหมื่น ดูระรื่นมหิมา คณนาไปสล้าง พวกพลด้างพลดาบ พลกำซาบธนู ดูพลหอกพลห้าว ดูพลง้าวพลงาม พลเขนตามเสโลห์ โตมรสลอนปืนไฟ ย่อม พลไกรโอ่อ่า งามสง่าพรรณราย ไพร่เดิรนายเดิรดับ สำหรับถ้วนขุนหาญ ขี่สารสูงแกล้วกล้า ดาบหน้าสลาบครุฑควร เดิร โดยขบวรแหนแห่ นายแวงแหล่เหลือหลาย นายแวงซ้ายแวงขวา นายแวงหน้าแวงหลัง แวงจัตุลังคบาท รักษาราชนฤบดี นายแวงสี่ตีนช้าง ช้างพระคชกรรกง แวงองครักษ์ตำรวจ กวดขันแหนแห่ห้อม ล้อมพระคชสำหรับ ขับทวิรถรัตนาสน์ พลหน้าดาษดูยง อลงกฎกุญชร บวรวิภูษา เครื่องราชาธิราช งามถึงขนาดเพริศพร้อม งามเครื่องงามพลห้อง เสด็จไท้พระบาท ท่านนา ฯ
             
ร่าย
๒๓๐ ดูดาษกลิ้งกลดพรรณราย บดชุมสายพรายพรรณ มยุรฉัตรชั้นเพราพริ้งเพริศ กรรชิงเฉิดตรูตราโลก พัดโบกพัดจามร พัดภูธรยยาบ สองตราบข้างยยับ ประดับกษัตริย์ กำนัลสรรพโภคพิพิธติดตาม คานหามเก้าอี้ บ รู้กี้หมู่สังกัด ขนัดนายพลแกล้วกล้า แห่หนหน้าเหลือแหล่ แห่หนหลังเหลือหลาย แห่หนซ้ายเหลือตรา แห่หนขวาเหลือไตร นอกจากไปสองฝ่าย เปนข่ายขอบกรรกง ยรรยงศัพทไกรเกรียง เสียงแตรสังข์พาทย์ฆ้อง กึกก้องเสทือนธรณิน ไท้ธิบดินทรลีลา มีมหิมาอาจอง ดูยรรยงกว่าชิ่นแล ฯ
             
โคลง ๔
๒๓๑ พระองค์โอภาสเพี้ยงศศิธร
เสด็จดุจเดือนเขจรแจ่มฟ้า
ดวงดาวดาษอัมพรเรียงเรียบ
ดูดุจพลเจ้าหล้ารอบล้อมเสด็จโดย ฯ
             

ครวญ

โคลง ๔
๒๓๒ พระเลงแลราษฎร์รั้วเรือกสวน เรือกนา
พิศไร่นานึกอวรอ่อนไท้
ป่านี้รูปรอยครวญถึงพี่
อกอ่อนรทวยไหม้คร่ำแค้นใครโลม ฯ
๒๓๓ จักไปบใคร่แคล้วเทพี พี่เอย
จักใคร่คืนคิดศรีฝ่ายหน้า
ไปดีอย่าไปดีใดดั่ง นี้นา
คิดเร่งอ้างว้างว้าห่วงหน้าคิดหลัง ฯ
๒๓๔ หนหลังเสาวภาคย์ล้วนความรัก
ยาหยูกเขาขลังนักฝ่ายหน้า
จักคืนพระลอลักษ์ฤๅใคร่ คืนเลย
ตัดฝ่ายคืนเจ้าหล้าแต่ตั้งจักไป ฯ
             
ร่าย
๒๓๕ คลี่ไคลพลคล้ายคล้าย แลนา เร่งฝ้ายเร่งคลาดคลา แลนา ล่วงแดนนาแดนไร่ แลนา ไต่ทางหลงทางหลาย แลนา กลายถิ่นฐานบ้านนอก แลนา ต้นหนบอกตำบล แลนา ให้หยุดพลเอาทับ แลนา ไพร่พรึบจับการจวน แลนา แต่งตามขบวนเขบ็จ แลนา ท้าว ธ เสด็จพพลาทอง แลนา เสนานองนั่งเฝ้า ลอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวมหิมา ฯ
             
ร่าย
๒๓๖ พี่เลี้ยงข้าถนอมบาท ชาวมหาดเปนกำนัล เฝ้าคั่งคัลโดยกำหนด พระสุริยลดลงต่ำ จะใกล้ค่ำระเรื่อย ลมฉ่ำเฉื่อยฉุนสมร พระภูธรคำนึง ถึงพระราชเทพี ลักษณวดีเพื่อนภิรมย์ โฉมสนมหนุ่มหน้า มือลูบอกโอ้อ้า ด่วนร้างเรียมตรอม อยู่แลฯ
             
โคลง ๔
๒๓๑ พระองค์โอภาสเพี้ยงศศิธร
เสด็จดุจเดือนเขจรแจ่มฟ้า
ดวงดาวดาษอัมพรเรียงเรียบ
ดูดุจพลเจ้าหล้ารอบล้อมเสด็จโดย ฯ
๒๓๒ พระเลงแลราษฎร์รั้วเรือกสวน เรือกนา
พิศไร่นานึกอวรอ่อนไท้
ป่านี้รูปรอยครวญถึงพี่
อกอ่อนรทวยไหม้คร่ำแค้นใครโลม ฯ
๒๓๓ จักไปบใคร่แคล้วเทพี พี่เอย
จักใคร่คืนคิดศรีฝ่ายหน้า
ไปดีอย่าไปดีใดดั่ง นี้นา
คิดเร่งอ้างว้างว้าห่วงหน้าคิดหลัง ฯ
๒๓๔ หนหลังเสาวภาคย์ล้วนความรัก
ยาหยูกเขาขลังนักฝ่ายหน้า
จักคืนพระลอลักษ์ฤๅใคร่ คืนเลย
ตัดฝ่ายคืนเจ้าหล้าแต่ตั้งจักไป ฯ
             
ร่าย
๒๓๕ คลี่ไคลพลคล้ายคล้าย แลนา เร่งฝ้ายเร่งคลาดคลา แลนา ล่วงแดนนาแดนไร่ แลนา ไต่ทางหลงทางหลาย แลนา กลายถิ่นฐานบ้านนอก แลนา ต้นหนบอกตำบล แลนา ให้หยุดพลเอาทับ แลนา ไพร่พรึบจับการจวน แลนา แต่งตามขบวนเขบ็จ แลนา ท้าว ธ เสด็จพพลาทอง แลนา เสนานองนั่งเฝ้า ลอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวมหิมา ฯ
             
ร่าย
๒๓๖ พี่เลี้ยงข้าถนอมบาท ชาวมหาดเปนกำนัล เฝ้าคั่งคัลโดยกำหนด พระสุริยลดลงต่ำ จะใกล้ค่ำระเรื่อย ลมฉ่ำเฉื่อยฉุนสมร พระภูธรคำนึง ถึงพระราชเทพี ลักษณวดีเพื่อนภิรมย์ โฉมสนมหนุ่มหน้า มือลูบอกโอ้อ้า ด่วนร้างเรียมตรอม อยู่แลฯ
             
โคลง ๔
๒๓๗ เห็นเดือนดุจดั่งหน้าเพาพงา พี่เอย
เรียมเรียกนงนุชมาพี่ถ้า
เลงแลเหล่าเห็นตรากต่าย เปล่านา
เดือนยะแย้มแย้มหน้าใคร่กลั้นใจตาย ฯ
๒๓๘ เห็นดาวเดียรดาษห้องเวหา
เหมือนหมู่สาวสนมมาใฝ่เฝ้า
พิศดูย่อมดาราเรียงรอบ ไปนา
โอ้อ่อนสาวสนมเหน้าหนุ่มร้างแรมสมร ฯ
             
โคลง ๒
๒๓๙ นอนเดียวเปลี่ยวอ้างว้างกรกอดอกไห้ช้าง
จากชู้เมียไกล อกนา ฯ
๒๔๐ พิศไพรเพยียรวดเร้าหอมกลิ่นกลกลิ่นเจ้า
พี่ฟุ้งหอมขจร บารนี ฯ
๒๔๑ นกสมสมรปากป้อนถนัดดั่งเจ้าเยียวอ้อน
อ่อนให้เรียมโลม ฯ
๒๔๒ คิดถึงโฉมอ่อนอ้าถนัดดั่งจะเห็นหน้า
หนุ่มเหน้าสุดใจ พี่เอย ฯ
๒๔๓ ฉันใดสองพี่เลี้ยงบปากสักคำเพี้ยง
ดั่งใบ้ฤๅควร นะพี่ ฯ
๒๔๔ วานช่วยสรวลแก้หน้าชาวนอกฉันนี้อ้า
พี่เอ้ยวานดู หนึ่งรา ฯ
             
โคลง ๔
๒๔๕ เห็นบ้าน บ ดุจบ้านเมืองเรา พี่เอย
เรือนโรงรุกรุยเขารูปร้าย
บ เห็นที่จักเอาสักหยาด เลยพี่
เห็นดั่งนี้สู้หม้ายอยู่แล้ฤๅแล ฯ
๒๔๖ พระเอยอาบน้ำขุ่นเอาเย็น
ปลาผอกหมกเหม็นยามอยากเคี้ยว
รุกรุยราคจำเปนปางเมื่อ แคลนนา
อดอยู่เยียวดิ้วเดี้ยวอยู่ได้ฉันใด ฯ
๒๔๗ ยามไร้เด็ดดอกหญ้าแซมผม พระเอย
หอมบ่หอมทัดดมดั่งบ้า
สุกกรมรำดวนชมเชยกลิ่น พระเอย
หอมกลิ่นเรียมโอ้อ้ากลิ่นแก้วติดใจ ฯ
๒๔๘ สองนายสนองนาถถ้อไปมา
พระหากเจรจาใจจอดน้อง
หัวใจหนึ่งโหยหาสองเพื่อน แพงนา
ใจหนึ่งนึกนางห้องหนุ่มหน้าพระสนม ฯ
             
โคลง ๒
๒๔๙ พระตนกลมแก่นไท้กรกอดหมอนม่ายไหม้
สวาทว้าหัวใจ ฯ
๒๕๐ เดือนสุทธิใสส่องฟ้าลอบพิตรเจ้าหล้า
ท่านท้าวเสด็จไป ฯ
             

๒๓๙ ปั่นป่วนใจ

๒๕๑ ชมดง

๒๕๔ ชมไม้

๒๖๘ ถึงพรมแดนเมืองสรอง

๒๗๘ แปลงตน

๒๘๖ ข้ามแม่น้ำกาหลง

๒๘๘ คิดถึงเมือง

๒๙๖ เสี่ยงน้ำ

๓๐๖ ให้สืบหาที่อันสมควร

๓๑๕ รอวันดี

๓๑๘ พระลอตามไก่

๓๑๙ มาถึงสวน

๓๒๙ ชมสวน

๓๔๗ คะนึงนาง

๓๕๑ พระลอนิมิตเล่าความฝัน

๓๖๐ เพื่อนแพงครวญถึงพระลอ

๓๗๕ นางนิมิต

๓๘๒ ทำนายฝัน

๓๘๙ ทราบข่าวผู้มาเที่ยว

๔๐๓ พบกันที่สระ

๔๑๑ เล่นน้ำ

๔๑๙ สี่พี่เลี้ยง

๔๓๐ เสียกล เผยความจริง

๔๔๖ เชิญพระลอ

๔๔๙ สนทนา

๔๕๘ นางพี่เลี้ยงเข้าวัง

๔๖๐ ข่าวดี

๔๖๙ พระย่าสุดสวาท

๔๗๗ ทูลลาเที่ยวสวน

๔๘๕ เสี้ยมสอน

๔๙๒ ประสบกัน

๔๙๘ ชมโฉม

๕๐๘ เข้าห้อง

๕๓๖ สมฤดี

๕๓๙ ตะวันเย็น

๕๕๕ อาลัย

๕๖๕ โอดครวญ

๕๗๘ ปลอมเข้าวัง

๕๘๙ ได้ครึ่งเดือน

๕๙๑ ความแพร่

๕๙๙ ความพยาบาทพระย่า

๖๐๐ ความสวามิภักดิ์ถึงขนาด

๖๐๔ สามกษัตริย์เข้าสู้

๖๐๗ ขัตติยมรณ์

๖๑๑ พระสสุรีพิลาป

๖๒๓ ปริเวทนาการ

๖๓๓ สดุดี

๖๓๕ เชิญพระชนนีเมืองสรวง

๖๔๔ มนตรีเตือน

๖๕๑ เชื่อฟัง

๖๕๖ แบ่งธาตุสามกษัตริย์

๖๕๖ ฉลองสถูป

๖๕๙ กวีนิพนธ์

เครื่องมือส่วนตัว