à¸à¸™à¸à¸™à¸„ร
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 15:47, 6 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
พระนิพนธ์: พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ
มีเพียงภาค ๑ ภาคเดียว
บทประพันธ์
ภาค ๑ บนฟ้า
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงพญากมลมิตรฤทธิ์กล้า | ||
กระเดื่องเลื่องชื่อฦาชา | เลอศักดิ์รัษาสัตย์ทรง | ||
ยิ่งใหญ่ในสกลคนธรรพ์ | ผองพรรณ์พึงพิศพิศวง | ||
อาภรณ์อาภาอ่าองค์ | เพราพริ้งยิ่งยงทรงลักษณ์ | ||
เธอพร่ำทำพรตกฎกล้า | บูชาพระศุลีมีศักดิ์ | ||
แรงเรี่ยวเชี่ยวฌานนานนัก | เพ่งพักตร์ภักดีศีวะ | ||
แจ่มใจในพรตปลดบาป | กำหราบโทโสโสโมหะ | ||
ร้อยฉนำสำรวมโยคะ | แรงตบะบ่มรักภักดี ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | พระวิศเวศวรเรืองศรี | ||
เอี่ยมอาสน์ไกลาสคีรี | เอมอิทธิ์ทฤษฎีตรีภพ | ||
แลเพ่งเล็งพิศทิศทศ | ปรากฎทุกแหล่งแจ้งลบ | ||
ส่วยเนตรทัศนาปรารภ | แลพบกมลมิตรจิตน้อม | ||
บ่มตบะบำเพ็ญเห็นชัด | บรรทัดธรรมบถอดผอม | ||
โดยแบบดาบสพรตพร้อม | หว่านล้อมน้ำใจในบุญ | ||
มเหศวรหวนทรงสงสาร | ชมฌานเชิดเนื่องเครื่องหนุน | ||
หมายเอื้ออุปถัมภ์ค้ำคุณ | ค้ำจุนจินตนาอารี | ||
จึ่งเสด็จจากหล้าผาขาว | ดังดาวดูเด่นเพ็ญศรี | ||
เอี่ยมองค์ทรงรูปโยคี | ศศีเสียบเผ้าเพราพราย ฯ | ||
พระอิศวรตรัสแก่พระยาคนธรรพ์ว่า | |||
๏ อ้าพญากมลมิตรจิตแผ้ว | คือแก้วก่องเกิดเฉิดฉาย | ||
ไพบุลย์คุณธรรมกำจาย | ชนหลายรู้เฟื่องเลื่องฟ้า | ||
กอบกรรมทำกิจพิธี | ภักดีต่อเราเจ้าหล้า | ||
จักให้พรเจ้าเรามา | ปรารถนาฉันไหนใคร่อวย | ||
อยากได้อย่างใดให้ขอ | อย่าท้อใจสะเทินเขินขวย | ||
ศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์ล้ำร่ำรวย | อำนวยไม่ห้ามตามใจ ฯ | ||
พญาคนธรรพทูลตอบว่า | |||
๏ อ้าพระำธำรงคงคง | พระคุณกรุณาหาไหน | ||
ข้าบำเพ็ญบุญคุณมัย | โดยใจจงรักภักดี | ||
ใช่เลศเหตุใคร่ได้ลาภ | เอิบอาบอิทธิ์กล้ากว่ากี้ | ||
ขอคุณกรุณาปรานี | ข้าทาสบาทธุลีสืบไป | ||
ให้นั่งตั้งจิตคิดรัก | อยู่หน้าสามิภักดิ์ใกล้ๆ | ||
เท่านี้มีสุขปลุกใจ | แสนหมื่นอื่นไม่หมายดล ฯ | ||
พระอิศวรตรัสว่า | |||
๏ อ้าพญาคนธรรพ์บรรเจิด | เชาว์เ้ชิดชูเฉลิมเพิ่มผล | ||
เหมาะหมดพจมานบานมน | จักถกลเกียรติ์ไกรใหญ่นัก | ||
เรามีวาจาว่าไว้ | ว่าให้พรเธอเลอศักดิ์ | ||
จักขอเร่งขอข้อรัก | ขอจักรจวบนัยใจปอง ฯ | ||
พญาคนธรรพ์ทูลว่า | |||
๏ ข้าแต่พระศศิเศขร | อาทรอุปถัมภ์ล้ำผอง | ||
พระหทัยใฝ่ม่งทรงปอง | โดยคลองการุณบุญมัย | ||
ประโยชน์โปรดใหญ่ให้ข้า | ผู้ฝ่าบทศรีอดิศัย | ||
ขอนางพางจันทร์ขวัญใจ | งามใสเนตรสองส่องฟ้า | ||
เหมือนสีพระศอทรงศักดิ์ | เหมือนจันทร์อันปักเกศา | ||
ได้แนบนงคราญกานดา | ภริยาเยาว์ยวนควรครอง | ||
ยามพิศเนตรนางพางเห็น | ศัมภูผู้เป็นเจ้าของ | ||
จักรื่นอารมณ์สมปอง | เพิ่มภักดิ์รักละอองบทมาลย์ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | พระศุลียินคำร่ำขาน | ||
เห็นเรื่องเบื้องน่าช้านาน | ทราบการณ์แน่หนักจักมี | ||
ตรัสว่าอ้าเจ้าเมามันท์ | ซึ่งสรรภริยาอ่าศรี | ||
แสงเนตรสีนิลรูจี | รังสีเล่ห์แสงศศิธร | ||
ส่อเข็ญเป็นภัยใหญ่หลาย | ย่อมร้ายยิ่งฤทธิ์พิษศร | ||
เร่งระวังตั้งตัวกลัวร้อน | สังหรณ์เห็นเหตุเภทภัย | ||
จงสมจิตหวังดังมาด | ไ่ป่คลาดบรรหารขานไข | ||
ตรัสเสร็จเสด็จกลับฉับไว | วับไปจากหน้าคนธรรพ์ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรปรีเปรมเหมหรรษ์ | ||
บังคมก้มราบกราบพลัน | คืนจากพนารัญทันที | ||
อันความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า | หน้าตาซีดซัวมัวศรี | ||
เหตุเพราะทรมานนานปี | ในที่มัวหม่นมลทิน | ||
เดชะพระอิศวรทรงยศ | เคลื่อนกายหายปลดหมดสิ้น | ||
เรืองรองผ่องพักตร์เพียงอินทร์ | อื่นสิ้นไป่เปรียบเทียบทัน ฯ | ||
๏ คืนสู่นิเวศน์วิจิตร | โศภิตพรายแสงแสร้งสรร | ||
คิดโฉมชายาลาวัลย์ | ศรีจันทร์คือศรีนัยนา | ||
เคร่าใคร่ได้เคลียเมียมิ่ง | นั่งนิ่งเหิมหรรษ์ฝันหา | ||
ป่วนใจใฝ่่ขวัญกันดา | นึำกหน้านวลใยใคร่ยล ฯ | ||
๏ หยุดนั่งยั้งนอนห่อนได้ | วนไปเวียนมาสับสน | ||
ออกห่างปรางคำอำพน | เดินด้นสู่สวนมาลี ฯ | ||
๏ เห็นนางนวลศรีมีโฉม | ดังโสมส่องหล้าราศรี | ||
เนาเรือเหนือสรัสปัทมี | ตรณี่จันทร์นวลชวนชม | ||
พายเงินงามเงาเพราพราย | นวลฉายยึดด้ามงามสม | ||
เรือน้อยลอยน้ำขำคม | บัวฉมชูล้อมห้อมเรือ | ||
งามน้ำงามนางกลางชล | งามกุมุทอุตบลล้ำเหลือ | ||
สะโรชนงรามงามเจือ | งามเรือลอยน้ำอำไพ | ||
พิศรูปเพลินลักษณ์ศักดิ์ศรี | งามฉวีคือชวาน่าใคร่ | ||
นวลนงค์องค์ลอองยองใย | รูปลไมแลลม่อมพร้อมเพรา | ||
คิดเจ้าคือจันทร์ครรพิต | งอนจริตงามแจร่มแช่ลมเฉลา | ||
เสมอเสมือนเดือนเด่นเพ็ญเพรา | น่าพเ่น้าพนอน้อมออมองค์ ฯ | ||
๏ เล็งโฉมโลมนางห่างนุช | ไกลสุดกลางสระระหง | ||
ใคร่เคล้าคลึงขวัญบรรจง | เอื้อมห่อนถึงองค์นงลักษณ์ | ||
นางเหลืองนัยนามาแล | คือแขส่องสรวงดวงจักษุ์ | ||
สบเนตรนางยิ้มพริ้มพักตร์ | ยั่วรักยิ่งเร่งใจร้อน | ||
เพศเนตรนวลนางกลางสินธุ์ | คือนิลสีศอมหิศร | ||
แสงศอแสงโฉมศศิธร | ในเนตรบังอรรวมพร้อม ฯ | ||
๏ โฉมเฉลา | รูปเย้าใจยวนหวนหอม | ||
ได้น้องแนบกายหมายออกม | จักถนอมใจสนิทชิดเชื้อ | ||
เนตรนางอย่างนั้นมั่นใจ | พระศุลีอวยให้แก่เผือ | ||
เชิญเจ้าจากสระละเรือ | นิ่มเนื้อแน่งน้อยกลอยใจ | ||
วันนี้พี่เฝ้าพระศิวะ | ได้ชมเดชะอดิศัย | ||
ศอนิลปิ่นจันทร์พรรณ์ไร | จำได้ในเนตรนางน้อง | ||
เจ้าจงมีใจใสสุข | ปราศทุกข์ปลดทิ้งสิ่งหมอง | ||
ผิวน้ำผ่อง่ล้ำลำยอง | หวังครอบเวียนเคล้าเมารัก | ||
อุ่นแนบแอบเนื้อเหนือหมอน | ปัจถรณ์แท่นคำจำหลัก | ||
บรรเทิงเริงรมย์ชมพักตร์ | พิศรักพี่ร้อนห่อนคลาย | ||
อีกข้อขอถามนามนาง | สำอางเอี่ยมองค์ทรงฉาย | ||
อย่าอิดจิตเอื้อนเบือนอาย | เคืองคายขุ่นข้องหมองใจ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | นางอนุศยินีศรีใส | ||
สู่ฝั่งบังคมทูลไป | ข้าไซร้เป็นข้าบทมาลย์ | ||
นามอนุศยินีมีจิต | มานิตภูวนัยใสศานติ์ | ||
เคารพนบน้อมจอมปราณ | ภูบาลกรุณาปรานี ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรเรืองรงค์ทรงศรี | ||
เปรมใจได้แน่งนารี | ดังศุลีอวยอัตถ์ตรัสไว้ | ||
แย้มหยิ่มอิ่มในใจสุด | เชยนุชชวนน้องผ่องใส | ||
สู่มนเฑียรทองยองใย | หฤทัยบรรเทิงเริมรมย์ ฯ | ||
๏ อุ้มนางวางแนบแอบน้อง | กรคล้อมกายคลึงสึงสม | ||
ก่ายกุมจุมพิตชิดชม | เกลียวกลมคลอเคล้าเมากาม | ||
เกี่ยวกวัดรัดรึงคลึงเคล้น | เหิมเห็นซึ่งสวรรค์ชั้นสาม | ||
ฉมชื่นรื่นรสนงราม | ในยามสิงสมรมณีย์ ฯ | ||
๏ สองผาสุกทุกเมื่อ | แนบเนื้อนวลน้องผ่องศรี | ||
เนาเินินไกลาศคีรี | ปวงภัยไป่มีมาพ้อง ฯ | ||
๏ ฝ่ายพญากมลมิตรจิตชื่น | เริงรื่นอารมณ์สมสอง | ||
เย็นเช้าเฝ้าสงวนนวลน้อง | ปกป้องรักษาอาทร | ||
เผอเรอเย่อหยิึ่งยิ่งยวด | โอ่อวดออกชื่อลือฉ่อน | ||
นงแสนแน่นสรวงปวงอร | นางอมรนางมนุษย์สุดแม้น | ||
เมียเราเพราพรายฉายเฉิด | ล้ำเลิศองค์อื่นหมื่นแสน | ||
สาวสวรรค์ชั้นสิ้นดินแดน | ไป่แม้นเมียข้าลาวัลย์ | ||
เนตรนางอย่างศอมหิศร | ฤารชนีกรเฉิดฉัน | ||
เนตรไหนไป่เปรียบเทียบทัน | เนตรนางพางจันทร์รูจี | ||
่นางในไตรภพจบชั้น | มาแข่งขันน้องต้องหนี | ||
เมียท่านเมียใครไหนดี | หาเช่นโฉมศรีสุดค้น ฯ | ||
๏ เที่ยวอวดเที่ยวโอ้โอหัง | ใครฟังหมั่นไส้ทุกหน | ||
กำเริบเอิบในใจตน | ใครยลย่อมสิ้นยินดี ฯ | ||
๏ วันหนึ่งสากลย์คนธรรพ์ | พร้อมกันสังคีตดีดสี | ||
เป็นที่เหิมเหมเปรมปรี | ต่างมีสุขล้ำสำราญ | ||
บางองค์ทรงรำทำเพลง | บังคลบรรเลงศัพท์สาร | ||
บรรเทิงเริงรื่นชื่นบาน | ในวารอิ่มเอมเปรมใจ ฯ | ||
๏ ฝ่ายพญากมลมิตรจิตโอ่ | มาถึงซึ่งสโมสรใหญ่ | ||
รีบเฉลยเอ่ยนามทรามวัย | อวยนัยะนานารี | ||
เกิดกล่าวเป็นปากเป็นเสียง | โต้เถียงดันดึงอึงมี่ | ||
อันนางอนุศยินี | งามดียิ่งใครในภพ | ||
ใครกล้ามาแกล้งแข่งบ้าง | คือนางองค์ไหนใคร่สบ | ||
เนตรนางพางจันทร์พัลลภ | ไตรภพห่อนเปรียบเทียบน้อง | ||
ใครพิศพิศวงนงนุช | ศรีสุทธิ์แสงใสไร้สอง | ||
แจ่มเจิดเลิศล้ำลำยอง | เนตรน้องคมขำอำไพ ฯ | ||
๏ เมื่่อนั้น | เพื่อนพญาคนธรรพ์หมั่นไส้ | ||
ยิ้มเยาะเคาะคัดขัดไป | โรคในโลกนี้มียา | ||
พอแก้พอไขได้บ้าง | แยบอย่างเยื้องยักรักษา | ||
งูกัดรัดรึงตรึงตรา | กลัดกล้าเพราะฤทธิ์พิษเร้า | ||
ยังหาโอสถปลดได้ | มีมากรากไม้ใบเถา | ||
แรงฤทธิ์ปลิดพลันบรรเทา | งูเห่าพิษร้อนผ่อนร้าย | ||
แต่ชายอันพิษความสวย | กัดนั้นจักป่วยห่อนหาย | ||
โรครักโรคหลงทรงกาย | จักคลายความร้อนห่อนมี | ||
ท่านจงแจ้งใจไว้บ้าง | อันนางภริยาอ่าศรี | ||
นัยนาทาครามงามดี | รังสีคือจันทร์ขวัญตา | ||
ตางามตามจิตคิดเถิด | งามเลิศแลเพ็ญเช่นว่า | ||
แต่องค์นงคราญกานดา | ใช่ตาทั้งองค์นงลักษณ์ | ||
ภาคอื่นดื่นอยู่ดูบ้าง | แก้มคางโฉมยงทรงศักดิ์ | ||
นาสิกเกศาน่ารัก | พร้อมพรักแน่แล้วฤาไร | ||
เราอ้างนางหนึ่งพึงชม | เพราะผมเพ็ญทองผ่องใส | ||
อีกนางร่างจมูกถูกใจ | ไฉไลแลรับกับพักตร์ | ||
บางนางงามเหลือเมื่อนิ่ง | บางหญิงหัวเราะเพราะหนัก | ||
อีกองค์ทรงศรีดีนัก | นางหนึ่งพึงรักรูปทรง | ||
บางนางสอางเอวอ้อนแอ้น | อีกองค์ควบแขนแสนส่ง | ||
หนึ่งความงามจริตติดองค์ | ใครเห็นเป็นมงคลตา | ||
จักว่างามเนตรงามยิ่ง | กว่าหญิงซึ่งงามนาสา | ||
ฤานางเสียงหวานกานดา | งามกว่านางอื่นหมื่นพัน | ||
นงรามงามเกล้าเผ้าดก | จักยกว่ายิ่งสิ่งสรรพ์ | ||
ฤาความงามแก้มงามกรรณ | งามกว่าอื่นนั้นฉันใด | ||
ต่างนางต่างงามยามยวน | ต่างนางต่างนวลแจ่มใจ | ||
จักว่าใครงามกว่าใคร | ข้าไม่เห็นด้วยทั้งนั้น ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรคิดขุ่นหุนหัน | ||
เนตรขวางพลางตอบคำพลัน | พูดเล่นเช่นนั้นป่วยการ | ||
ความงามสามภพจบสิ้น | ทุกถิ่นทิพาศัยไพศาล | ||
ประมวลถ้วนไซร้ไป่ปาน | เนตรเจ้าเยามาลย์เมียตู | ||
นางไหนใครกล้ามาขัน | จักอั้นหัวหดอดสู | ||
โฉมศรีโสภาน่าดู | ใครรู้จักความงามจริง | ||
ย่อมว่าหาใครใม่เปรียบ | เทียบเนตรนงรามงามยิ่ง | ||
เพราะเขลาเจ้าหาญค้านติง | ไป่กริ่งกล่าวคำสำนวน ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | เพื่อนพญาคนธรรพ์พลันสรวล | ||
ความงามหลามหลากมากล้วน | ตั้งขบวนเป็นแห่แลลาน | ||
งามนวลงามเนตรงามหน้า | ล้วนเป็นวาจาของท่าน | ||
อาจมีคำขัดทัดทาน | หาพยานยืนปากยากล้น | ||
ความงามอันเกิดแต่ปาก | แห่งผัวพูดมากร้อยหน | ||
ห่อนมีหลักค้ำคำคน | ปวงชนไป่เชื่อเบื่อใจ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรติดอกหมกไหม้ | ||
สูอย่าเยาะเย้ยไยไพ | เจ้าไซร้ตาบอดสอดรู้ | ||
หยิ่งแล้วยังแถมแกมโง่ | พูดโป้พูดปดอดสู | ||
อันเนตรนงรามงามตรู | ใครดูย่ิมพะวงหลงเพลิน | ||
อย่าว่าแต่ชายสามานย์ | แม้มุนีมีฌานหาญเหิน | ||
บ่มตละน่าเบื่อเหลือเกิน | จำเริญโยคะละกาม | ||
เป็นที่หวาดหวั่นพรั่นจิต | วาสพรุสฤทธิ์คิดขาม | ||
จึ่งจัดอัจฉราวายาม | กวนกามกอบกรรมทำลาย | ||
ยียวนชวนชื่นรื่นรส | เพื่อพรตหล่นแหลกแตกหาย | ||
ไปสมประสงค์จงร้าย | สิ้นหมายหมดวายามะ | ||
แม้นให้ภริยาข้ายั่ว | คงขรัวฌานแตกแหลกหละ | ||
เหลือทั้นเหลืออดลดละ | โยคะจักดับฉับพลัน | ||
ทนเนตรบังอรห่อนได้ | เราไม่กล่าวแกล้งแสร้งสรร | ||
โฉมศรีโศภาลาวัลย์ | ดวงจันทร์คือดวงนัยนา ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | เพื่อนพญาคนธรรพ์หรรษา | ||
ตบหัตถ์ตรัสตอบวาจา | ไม่ช้าได้เล่นเห็นจริง | ||
ที่ใกล้ไหล่เขาเรานี้ | โยคีพรตกล้ามาสิง | ||
เชี่ยวฌานนานไม่ไหวติง | ปราศสิ่งยั่วยวนชวนชัก | ||
ท่านใคร่สำแดงวนิดา | จงเชิญกัลยาณิ์ทรงศักดิ์ | ||
สู่ไหล่คีรีที่พัก | เยื้องยักยั่วเย้าโยคี | ||
เชิงยวนชวนให้เธอหลง | น้ยนานวลนงทรงศรี | ||
แม้นนางล้างกิจพิธี | ของมหามุนีได้จริง | ||
จึ่งจักประจักษ์หลักอ้าง | ว่านางงามปลอดยอดหญิง | ||
เราไซร้ไป่หาญค้านตึง | ทุกสิ่งนอบน้อมยอมตาม ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรเจ็บช้ำคำหยาม | ||
ฤาคิดรอบคอบตอบความ | ในยามหันหุนขุ่นใจ | ||
ท่านท้าข้าไซร้ไป่พรัน | อันนางพางจันทร์แจ่มใส | ||
อาจล้างพิธีชีไพร | แน่ได้ดังจิตคิดเจียว | ||
เราปองลองเล่นเช่นท้า | ใจข้าไป่พรั่นหวั่นเสียว | ||
ดวงเนตรโฉมยงองค์เดียว | อาจเหนี่ยวพรตโง่โยคี | ||
ให้ตบะหล่นแหลกแตกทิ้ง | ห่อนนิ่งอยู่ได้ในที่ | ||
จักเกิดเสียวสันทันที | ราคีกำหนัดกลัดใจ | ||
แม้นมิสมหวังดังว่า | เศียรข้าจักบั่นหั่นให้ | ||
เป็นเครื่องบูชาตราไว้ | ที่ในแม่น้ำคงคา ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | เพื่อนพญาคนธรรพ์พลันว่า | ||
อย่าชล่ากล้าเล่นเจรจา | พูดบ้าบุ่มไปไป่ดี | ||
จักตัดเศียรเซ่นเช่นว่า | เธอใช่พระมหาฤาษี | ||
ทรงนามทักษะโยคี | พระประชาบดีเดชิต | ||
เศียรขาดแล้วมีมาเปลี่ยน | เศียรท่านใช่เศียรนักสิทธิ์ | ||
หัวขาดจักขาดชีวิต | จักติดหัวใหม่ได้ฤา | ||
พูดพลางหัวเราะเยาะเย้ย | ท่านเอยอุตส่าห์อย่าดื้อ | ||
เราว่าจงฟังยั้งมือ | ผ่อนปรือคืนคำจำไว้ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรหันหุนมุ่นไหม้ | ||
จากชุมนุมพลันทันใด | รีบไปยังองค์ชายา ฯ | ||
๏ พบนางกลางสวนยวนจิต | ยิ่งพิศผูกพันหรรษา | ||
เสาวภาคโศภิตติดตา | นัยนาคมขำล้ำลบ | ||
แจ่มลักษณ์จิ้มลิ้มริมสระ | ปัทมะคันธินกลิ่นกลบ | ||
ฤาษีชีไพรในภพ | แลสบเนตรน้องต้องรัก ฯ | ||
๏ พิศนางพลางกล่าววาจา | ดูราโฉมยงทรงศักดิ์ | ||
มีชายใจพาลหาญนัก | ลบหลู่นงลักษ์เลิศฟ้า | ||
กล่าว่าถ้าเจ้าเพราพริ้ง | เลิศยิ่งนางใดในหล้า | ||
เชิญองค์นงคราญกานดา | ยังไหล่ภูผาข้างโน้น | ||
ยวนองค์โยคีมีฌาน | ให้ร่านรุมในใจโผน | ||
ร้อนราคราวไฟไหม้โชน | เอนโอนโยคะละทิ้ง | ||
แม้นนางทำได้ประจักษ์ | จักว่านงลักษณ์ยอดหญิง | ||
น่าแค้นคำเขาเขลาจริง | ค้านติงความงามทรามวัย | ||
พี่ท้าว่าองค์นงลักษณ์ | จักให้ประจักษ์จนได้ | ||
แม้นไม่ได้ดังหวังใจ | พี่ไซร้จักตัดเศียรตู | ||
ทิ้งในแม่น้ำคงคา | บูชาเพื่อปลดอดสู | ||
ขอเชิญนางน้องลองดู | ค้ำชูขอท้าวาที | ||
ใช้เนตรโฉมยงทรงฉาย | ทำลายพรตดื้อฤาษี | ||
ให้สมศรัทธาสามี | ดังที่ได้กล่าวท้าไว้ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | นางอนุศยินีศรีใส | ||
ยินตรัสขัดอกตกใจ | หฤทัยหวาดหวั่นพรั่นทรวง | ||
อ้ำอึ้งตลึงแลแดลาญ | เยาวมาลย์ทุกข์เท่าเขาหลวง | ||
อึดอัดขัดเข้มเต็มตวง | พักตร์เผือดเดือดดวงแดร้อน ฯ | ||
นางอนุศยินีกล่าวว่า | |||
๏ ข้าแต่พระปิ่นปราเณศ | ทรงเดชจงยั้งฟังก่อน | ||
เกรงผิดจิตข้าอาวรณ์ | โทษกรณ์ก่อนเกิดกองร้าย | ||
บาปนักจักล่อนักธรรม | เพื่อดาบสกรรมรส่ำรสาย | ||
เธอบำเพ็ญบุญหนุนกาย | มั่นหมายกุศลผลดี | ||
แม้นเรานอกรีดกีดขวาง | มุ่งร้ายหมายล้างฤาษี | ||
ทางดีที่ได้ไป่มี | อัคคีลวกเราเี่ร่าร้อน | ||
บาปกรรมทำทุกข์แม่นมั่น | โทษทัณฑ์เราเขือเหลือถอน | ||
กริ่งภัยใจข้าอาวรณ์ | ช้าก่อนจงฟังยั้งคิด ฯ | ||
๏ วอนพลางนางเพ่งเล็งพักตร์ | เหตุรักให้ร้อนถอนจิต | ||
เพียงเพลิงเริงไล่ใกล้ชิด | ยิ่งคิดยิ่งคร้ามขามนัก | ||
วาจาบังอรวอนว่า | นัยนาดูองค์ทรงศักดิ์ | ||
พจน์นางแพ้เนตร์นงลักษณ์ | ยิ่งชมยิ่งชักให้ร้าย | ||
กมลมิตรพิศเนตรนวลนุช | แสนสุดใจรักฤาหาย | ||
ห่อนยินวาทาธิบาย | ชมเนตรโฉมฉายเพลินไป | ||
ยิ่งนึกยิ่งแน่ในจิต | นักสิทธิ์ไป่ทรงองค์ได้ | ||
ตาเพ็ญเช่นนั้นมั่นใจ | อาจพร่าพรตให้เอนเอียง | ||
นางวอนห่อนเป็นประโยชน์ | เพราะเนตรนงโพธเธอเถียง | ||
ไป่ยั้งฟังคำสำเนียง | บ่ายเบี่ยงว่าวอนอ่อนใจ ฯ | ||
๏ สามีมิฟังดังว่า | กัลยาณิ์พรึงพรั่นหวั่นไหว | ||
ข่อนๆ ร้อนตัวกลัวภัย | หฤทัยนิ่งนึกตรึกตรอง | ||
ความจริงในใจใคร่รู้ | ยั่วดูแต่สองต่อสอง | ||
นักสิทธิ์คงใคร่ในคลอง | รดิกรรมทำนองทางใน | ||
เรางามยิ่งสามโลกกว้าง | อาจล้างดาบสพรตใหญ่ | ||
จักสิทธิ์สมหวังดังใจ | ฤาไม่สำเร็จอยากรู้ | ||
ใคร่ทราบก็เหลือจะใคร่ | อายใจก็เหลืออดสู | ||
กริ่งโทษเทียมไฟใหม้ภู | โฉมตรูลังเลหฤทัย ฯ | ||
๏ เธอวอนทรามวัยใจตื้น | นางขืนคำวอนห่อนไหว | ||
จูงกรพากันครรไล | มุ่งหน้ามาในไพรพน | ||
แลหาดาบสพรตกล้า | แทบใกล้ไหล่ผาปลายหน | ||
พบโยคียงทรงตน | อานนนิ่งแน่แลนาน | ||
คือหลักปักไว้ไป่เคลื่อน | แม่นเหมือนต้นไม้ไพศาล | ||
ฝูงปลวกทำรังยังปราณ | สำราญอยู่รอบโยคิน | ||
หนวดเธอทอดไปในพน | ปลิวไปในหนบนหิน | ||
ผมขาวยาวเฟื้อยเลื้อยดิน | มุนินทร์ห่อนไหวใจกาย | ||
กิ้งก่าเพศหญิงวิ่งหนี | บนตัวฤาษีซ่อนหาย | ||
กิ้งก่าเพศชายไล่กราย | เร่รายตัวหญิงวิ่งล้อ | ||
ดาบสอดแดแน่นิ่ง | มันวิ่งบนกายสอสอ | ||
ฌานเพ่งฤาพลั้งรั้งรอ | เหมือนตอปักไว้ในดิน | ||
ลืมเนตรแลไปในหาว | จักษุใสขาวคือหิน | ||
ไป่เห็นอันใดในดิน | ไป่ยินอันใดในฟ้า ฯ | ||
๏ สององค์ทรงเห็นนักสิทธิ์ | ให้คิดเคลือบแคลงแสยงสยบ | ||
ไตร่ตรองถ่องท้วนทวนทบ | คือคบเพลิงเร้าเผาแรง | ||
เปี่ยมฌานปานนั้นพรั่นนัก | ทรงศักดิ์เลิศล้ำคำแหง | ||
จะยั่วโยคะระแวง | เรี่ยวแรงบาปกรณ์ร้อนร้าย | ||
สงสัยใจตรึกนึกพรั่น | โทษทัณฑ์จักมากหลากหลาย | ||
กอบก่อกองกรรมทำลาย | จักสลายสุขสันต์มั่นคง ฯ | ||
๏ ฝ่ายพญากมลมิตรพิศนาง | พิศพลางพิสมัยใหลหลง | ||
บังเกิดกำเริบเอิบองค์ | นัยนาโฉมยงเช่นนี้ | ||
มุ่งร้ายหมายมาน่าจะ | สำเร็จเด็ดตบะฤาษี | ||
คิดแค้นคำท้าวาที | ยิ่งมีจำนงปลงใจ | ||
ชี้เชิญชายามารศรี | ยุวดีลำยองผ่องใส | ||
อัญเชิญโฉมเจ้าเข้าไป | ล่อให้เห็นองค์นงเยาว์ | ||
เชิงชวนยวนยั่วโยคะ | ดาบสปลดตละเพราะเจ้า | ||
พี่จักแฝงไม้ในเงา | อยู่เฝ้าใฝ่ยั้งฟังดู ฯ | ||
๏ สองกรทรงกอดยอดรัก | จุมพิตชิดพักตร์ในผลู | ||
เกี่ยวกวัดรัดโลมโฉมตรู | เหมือนคู่จักร้างห่างนาน ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | นางสุโลจนากล้าหาญ | ||
ห่อนขัดภัสดาว่าวาน | เยาวมาลย์มุ่งเย้าเข้าไป | ||
ยืนตรับยับยั้งสังเกต | เห็นเนตรลืมอยู่ดูใส | ||
มุ่งเขม็งเล็งแลแต่ไกล | ปราศไหวน่าหวั่นพรั่นจริง | ||
เข้าไปใกล้หน้าดาบส | ทรงพรตแข็งขืนยืนนิ่ง | ||
จักยั่วจักยวนชวนอิง | ห่อนทิ้งโยคะละลด | ||
เธอบงนงรามทรามวัย | ฤาไม่ก็ไม่ปรากฎ | ||
นางเยาะเฉพาะพักตร์นักพรต | ช้อยชดเชิงชวนยวนยี ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | ปาปะนาศน์มหาฤาษี | ||
ทรงฌานนานยืนหมื่นปี | ไป่มีใครกล้ามากราย | ||
ลืมเนตรห่อนเห็นอันใด | กรรณ์ไซร้ห่อนฟังทั้งหลาย | ||
โยคะยิ่งล้ำกำจาย | กระสับกระส่ายฤามี ฯ | ||
๏ อันเมื่อโฉมยงทรงฉาย | มุ่งร้ายต่อตบะฤาษี | ||
องค์พระปาปะนาศน์มุนี | สำรวมอินทรีย์นิ่งนาน | ||
รู้สึกมายามายวน | ทบทวนทำนองปองผลาญ | ||
โยคีมีใจรำคาญ | เหตุการกลใดใคร่แล | ||
น้อยๆ ค่อยรู้สึกตน | เห็นนางโศภณเพ็ญแข | ||
นัยนานิลนวลยวนแด | ยิ่งแลยิ่งล้ำอำไพ | ||
ท่วงทีท่าทางอย่างล้อ | ใครหนอน่าชิดพิสมัย | ||
นักสิทธิ์คิดหลายหฤทัย | เหตุใดมาเพ่งเล็งพิศ | ||
แม่นมั่นปัญญาฌานะ | โยคะเคร่งครัดชัดจิต | ||
ทราบเหตุเลศกลต้นคิด | มันกวนชวนชิดทั้งนี้ | ||
มุ่งร้ายหมายผลาญฌานกู | สู่รู้จังไรใช่ที่ | ||
กำเริบมาเล่นเห็นดี | มุนีเธอข:-)นัยนา ฯ | ||
๏ อันนางอนุศยินี | เห็นเนตรโยคีซ้ายขวา | ||
เขียวเขม็งเล็งดูกานดา | ประุหม่ามุ่นอกตกใจ | ||
หวาดหวั่นพรั่นทรวงดวงจิต | สุดคิดจักทรงองค์ได้ | ||
เซซวนซุดสลบซบไป | ล้มในพนารัญทันที ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรเห็นเมียเสียศรี | ||
วิ่งไปใกล้องค์มุนี | โอบอุ้มยุวดีชายา | ||
กอดทับกับฤทัยไหวหวั่น | องค์สั่นบนแผ่นภูผา | ||
ริกรัวกลัวกรรมนำพา | เกรงเดชพระมหามุนี ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | ปาปะนาศน์มหาฤาษี | ||
รู้เรื่องเคืองใจโยคี | จึ่งมีวาจาสาปไป ฯ | ||
ฤาษีสาบว่า | |||
๏ ดูราเมียผัวตัวเอิบ | กำเริบใจบาปหยาบใหญ่ | ||
อันเนตรนงรามทรามวัย | จักได้รับผลบัดนี้ | ||
นางยั่วโยคะละเมิด | จงเกิดเป็นมานุษี | ||
กมลมิตรผู้พญาสามี | เห็นดีรู้ด้วยช่วยกัน | ||
จงมีกำเนิดมานุษ | ผ่องผุดเพ็ญลักษณ์รังสรรค์ | ||
สองมุ่งใจสมัครรักกัน | ให้พลันเริศร้างห่างไป | ||
รันทมกรมกรรมทำงน | ล้างตนในห้วงทุกข์ใหญ่ | ||
จนสิ้นบาปกรรมทำไว้ | จึ่งให้สิ้นสาปหลาบจำ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรพิศเนตรนางขำ | ||
เจ็บหนักจักจากตรากตรำ | คราวกรรมจำร้างห่างน้อง | ||
ยิ่งพิศภริยอาดูร | ยิ่งพูนทุกข์ทนหม่นหมอง | ||
ก้มวอนกรไหว้ใจตรอง | พลางสนองวาจาว่าไป ฯ | ||
กมลมิตรกล่าวแก่ฤาษีว่า | |||
๏ ข้าแต่พระมหามุนี | ข้านี้ทำบาปหยาบใหญ่ | ||
ลวนลามความผิดติดใจ | หฤทัยหวาดหวั่นรันทด | ||
ผ่อนโทษโปรดเถิดโยคี | จงสาปให้มีกำหนด | ||
รู้เขตคำแช่งแบ่งลด | เปลื้องปลดทุกข์น้อยถอยไป ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | ปาปะนาศน์บรรหารขานไข | ||
ซึ่งเจ้าเนาเข็ญเห็นภัย | คิดใคร่คืนสองครองกัน | ||
จักสมโดยหวังดังใจ | โดยนัยที่เราสาปสรร | ||
เมื่อใดได้ทลวงจ้วงฟัน | จวบจ้ำห้ำหั่นกันลง | ||
เมื่อนั้นกำหนดปลดบาป | สิ้นสาปไป่คลาดมาดม่ง | ||
กล่าวพลางดาบสพรตยง | เธอสำรวมองค์องค์ต่อไป | ||
๏ เมื่อนั้น | กมลมิตรจิตสั่นหวั่นไหว | ||
พิศเนตรนงรามทรามวัย | อรไทยพิศหน้าสามี | ||
นางใคร่จำพักตร์ภรรดา | เธอใคร่จำหน้ามารศรี | ||
จักพรากจากพลันทันที | สองมีใจเศร้าเปล่าทรวง ฯ | ||
๏ ตกจากฟากฟ้ามาดิน | พลัดถิ่นอาศัยในสรวง | ||
พึงหลาบบาปเขือเหลือตวง | ผาหลวงสูงใหญ่ไป่ปาน ฯ | ||
๏ นางเข้าสู่ครรภ์มหิษี | พระนาธิบดีใสศานติ์ | ||
ทรงนามชัยทัตภูบาล | ตระการเรียรติ์องค์ทรงยศ | ||
ครองอินทิราลัยไกรเกรียง | สำเนียงฦาชาปรากฎ | ||
ปราศปัจจามิตรคิดคด | ยงยศเยงสิ้นดินดอน ฯ | ||
๏ กมลมิตรสู่ครรภ์มหิษี | พระนราธิบดีชาญศร | ||
ทรงนามธรรมราชภูธร | เธอครองนครอละกา | ||
ไพรีเข็ดนามขามยศ | ปรากฎเดชเดื่องเลื่องหล้า | ||
สำราญบานใจไพร่ฟ้า | ทั่วหน้าสุขเกษมเปรมปรี ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | องค์พระมเหศวรเรืองศรี | ||
เนาอาสน์ไกลาศคีรี | เป็นที่อิ่มเอมเปรมตา | ||
พิศเพ่งเล็งดูรู้แจ้ง | ทุกแหล่งในสวรรค์ชั้นหล้า | ||
เห็นพญาคนธรรพ์ภรรดา | ชายายุพยงนงคราญ | ||
ตกจากฟากฟ้ามาดิน | ทิ้งถิ่นทิพาศัยไพศาล | ||
ทราบแจ้งแห่งเหตุเภทพาล | เกิดทุกข์รุกรานปานนั้น | ||
นิ่งนึกตรึกตรองคลองธรรม | โทษกรรมเกิดก่อส่อศัลย์ | ||
เพราะเหตุเนตรนางพางจันทร์ | เช่นกันกับสีศอเรา | ||
โดยละเมิดเกิดกอบกองทุกข์ | เพลิงลุกร้อนยิ่งผิงเผา | ||
อันกายโฉมยงนงเยาว์ | ยังเนาในสวรรค์ชั้นฟ้า | ||
นางไซร้ไปเกิดในดิน | กรุงอินทราลัยใต้หล้า | ||
เราจักอุปถัมภ์นำพา | รักษาทรากใส่ใจจำ | ||
เหตุศรีแห่งศอเราไซร้ | แบ่งส่วนไปในเนตรขำ | ||
จักทอดทิ้งทรากตรากตรำ | ห่างหายหลายฉนำฤาควร | ||
อันพญาคนธรรพ์นั้นไซร้ | หฤทัยซวนเซเหหวน | ||
พูดพล่อยเสเพลเรรวน | ปั่นป่วนเพราะเราเข้าเจือ | ||
ศรีจันทร์ศรีศอศรีศยาม | ในเนตรนงรามงามเหลือ | ||
เธอเห็นสาวน้อยลอยเรือ | ห่อนเบื่อนัียนาบ้าฟุ้ง | ||
คิดไปไม่เป็นความผิด | แห่งพญากมลมิตรจิตยุ่ง | ||
ฤทธิ์อนงค์หลงใหลไคล้คลุ้ง | ควรเราเข้าพยุงเธอไว้ ฯ | ||
๏ ตรึกพลางพระมหาเทวะ | โดยพระกรุณาธยาศัย | ||
หยิบดอกอัมพุชอำไพ | พลางปักลงไว้ในดิน | ||
กลายเป็นเกาะนัอยลอยอยู่ | แลดูสำอางกลางสินธ์ | ||
มีเมืองเรืองแข่งแหล่งอินทร์ | โศภินไพจิตรพิศพราย | ||
ปราสาทราชฐานกาญจน์แก้ว | เพริศแพร้วจำรัสเรืองฉาย | ||
ห่อนมีชนใดใกล้กราย | เมืองหม้ายอยู่ร้างกลางชล ฯ | ||
๏ จัดเสร็จพระอิศวรทรงเดช | ปล่อยเหตุให้เกิดเป็นผล | ||
กมลมิตรกันน้องสองตน | อนุสนธิ์คำสาปมุนี ฯ | ||