กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์)
(เห่ชมเครื่องหวาน)
 
แถว 117: แถว 117:
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน  เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน  เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกล  เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
ร้อนนักรักแรมไกล  เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
-
รังไรโรงด้วยแป้ง   เหมือนนกแกล้วทำรังรวง
+
รังไรโรยด้วยแป้ง   เหมือนนกแกล้งทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวง  ยังยินดีด้วยมีรัง
โอ้อกนกทั้งปวง  ยังยินดีด้วยมีรัง
๏ ทองหยอดทอดสนิท  ทองม้วนมิดคิดความหลัง
๏ ทองหยอดทอดสนิท  ทองม้วนมิดคิดความหลัง
แถว 130: แถว 130:
คิดความยามเยาวมาลย์  เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ
คิดความยามเยาวมาลย์  เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
=== เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์ ===
=== เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์ ===
<tpoem>
<tpoem>

รุ่นปัจจุบันของ 09:24, 14 ตุลาคม 2555

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

บทประพันธ์

เห่ชมเครื่องคาว

โคลง
๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อนพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุนเฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อนอกให้หวนแสวง ฯ
             
กาพย์
๏ มัสมั่นแกงแก้วตาหอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกงแรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัดวางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลาญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้มเจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหนไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
๏ หมูแนมแหลมเลิศรสพร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชางห่างห่อหวนป่วนใจโหย
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่นวางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรยฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
๏ เทโพพื้นเนื้อท้องเป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครันของสวรรค์เสวยรมย์
๏ ความรักยักเปลี่ยนท่าทำน้ำยาอย่างอกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลมชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศรสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็นเช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
๏ เหลือรู้หมูป่าต้มแกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสดฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอมสนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้องนอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกลยลอยากนิทรคิดแนบนอน
๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้ารุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
๏ รังนกนึ่งน่าซดโอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวงเหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
๏ ไตปลาเสแสร้งว่าดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้องเป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงในใคร่ครวญรักผักหวานนาง ฯ
             

เห่ชมผลไม้

โคลง
๏ ผลชิดแช่อิ่มโอ้เอมใจ
หอมชื่นกลืนหวานในอกชู้
รื่นรื่นรสรมย์ใดฤๅดุจ นี้แม่
หวานเลิศเหลือรู้รู้แต่เนื้อนงพาล ฯ
             
กาพย์
๏ ผลชิดแช่อิ่มอบหอมตรลบล้ำเหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปานหวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ
๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริงรสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
คิดความยามพิสมัยหมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น
๏ ผลจากเจ้าลอยแก้วบอกความแล้วจากจำเป็น
จากช้ำน้ำตากระเด็นเป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
๏ หมากปรางนางปอกแล้วใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรงปรางอิ่มอาบซาบนาสา
๏ หวนห่วงม่วงหมอนทองอีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทราอุราแนบแอบอกอร
๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่นเรียกส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวิลลิ้นลมงอนชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน
๏ พลับจีนจักด้วยมีดทำประณีตน้ำตาลกวน
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวนยลยิ่งพลับยับยับพรรณ
๏ น้อยหน่านำเมล็ดออกปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์
มือใครไหนจักทันเทียบเทียมที่ฝีมือนาง
๏ ผลเกดพิเศษสดโอชารสล้ำเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบางสางเกศเส้นขนเม่นสอย
๏ ทับทิมพริ้มตาตรูใส่จานดูดุจเม็ดพลอย
สุกแสงแดงจักย้อยอย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย
๏ ทุเรียนเจียนตองปูเนื้อดีดูเหลือเรืองพราย
เหมือนศรีฉวีกายสายสวาทพี่ที่คู่คิด
๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอมผลงอมงอมรสหวานสนิท
กลืนพลางทางเพ่งพิศคิดยามสารทยาตรามา
๏ ผลเงาะไม่งามแงะมล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
หวนเห็นเช่นรจนาจ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม
๏ สละสำแลงผลคิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าทิ่มปิ้มปืนกามนามสละมละเมตตา ฯ
             

เห่ชมเครื่องหวาน

โคลง
๏ สังขยาหน้าไข่คุ้นเคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสีโศกย้อม
เป็นนัยนำวาทีสมรแม่ มาแม่
แถลงว่าโศกเสมอพ้อมเพียบแอ้อกอร ฯ
             
กาพย์
๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลงแจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำแทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
๏ ลำเจียกชื่อขนมนึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดยโหยไห้หาบุหงางาม
๏ มัศกอดกอดอย่างไรน่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความขนมนามนี้ยังแคลง
๏ ลุดตี่นี้น่าชมแผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกงแคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่องามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกรายชายพกจีบกลีบแนบเนียน
๏ รสรักยักลำนำประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียนเทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัดสามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดมก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อนเพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกลเมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
๏ รังไรโรยด้วยแป้งเหมือนนกแกล้งทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวงยังยินดีด้วยมีรัง
๏ ทองหยอดทอดสนิททองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบังแต่ลำพังสองต่อสอง
๏ งามจริงจ่ามงกุฏใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
เรียมร่ำคำนึงปองสะอิ้งน้องนั้นเคยยล
๏ บัวลอยเล่ห์บัวงามคิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคลสถนนุชดุจประทุม
๏ ช่อม่วงเหมาะมีรสหอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไลคลุมหุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
๏ ฝอยทองเป็นยองใยเหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามเยาวมาลย์เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ
             

เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์

โคลง
๏ หวนเห็นหีบหมากเจ้าจัดเจียน มาแม่
พลูจีบต่อยอดเนียนน่าเคี้ยว
กลี่กล่องกระวานเขียนมือญี่ ปุ่นเฮย
บุหรี่ใส่กล่องเงี้ยวลอบให้เหลือหาญ ฯ
             
กาพย์
๏ หมากเจียนเจ้างามปลอดพลูต่อยอดน่าเอ็นดู
กระวานอีกกานพลูบุหรี่ให้ใจเหลือหาญ
๏ เช็ดหน้าชุบน้ำอบหอมตรลบดอกดวงมาลย์
บังอรซ่อนใส่พานส่งมาให้ไม่เว้นวัน
๏ เดือนสามสำเภามามีใบชาชาติจุหลัน
ถ้ำคู่อยู่เคียงกันกับให้เห็นเป็นปริศนา
๏ เดือนห้าหน้าร้อนจัดเจ้าให้พัดด้ามจิ้วมา
เรื่องร้อนผ่อนเพทนาเพื่อพนิดาไม่ละเลย
๏ คำนึงถึงเดือนหกทั่วทายกตามโคมเคย
งามสุดนุชพี่เอยได้เห็นกันวันบูชา
๏ เดือนแปดวันเพ็ญเจ้าย่อมไปเข้าพระพรรษา
รับศีลอย่างสีกาด้วยเจตนาจำนงใน
๏ เห็นนวลครวญครุ่นคิดกำเริบจิตวาบหวั่นไหว
ไปได้ก็จะไปโอบเอวอุ้มพุ่มพวงพยุง
๏ ยามฝนดลเดือนสิบเริ่มข้าวทิพย์เจ้าจะหุง
หาของต้องการปรุงมุ่งใจจิตประดิษฐ์ประดอย
๏ เดือนสิบเอ็ดเด็ดแดดิ้นยามกฐินทุกวันคอย
เห็นเรือไล่ถี่ซอยกลอยกลับเห็นเช่นแรกสม
๏ คิดรูปน่ารักเหลือคิดนุ่มเนื้อน่าเชยชม
คิดเนตรขำค้อนคมผมหอมชื่นรื่นรสคนธ์
๏ ฤดูเดือนสิบสองหญิงชายซ้องแซ่อึงอล
ขึ้นล่องท่องเที่ยวชลยลผ้าป่าราตรีกาล
๏ เซ็งแซ่เสียงเภรีปานเรียมตีทรวงประหาร
พาทย์ฆ้องก้องกังวานสารดุจน้องร้องเรียกเรียม
๏ ทุกลำลอบเล็งลักษณ์ไม่พบพักตร์เจ้างามเสงี่ยม
ดูไหนไม่เทียบเทียมร่วมรักเรียมรูปร่างรัด
๏ เดือนยี่พิธีพญาโยนชิงช้าชนแออัด
สาวหนุ่มกำหนดนัดทัศนาแห่แลหากัน
๏ เรียมเตร่ตรวจทุกช่องไม่เห็นน้องเนื้อนวลจันทร์
ว้าวิ่นดิ้นแดยันหันเห็นท่าชิงช้าโยน
๏ เชี่ยวชาญกระดานต้นโยกเยกยลคนหกโหน
ถือท้ายกายอ่อนโอนโดนคิดได้ดั่งใจถวิล
๏ แรมค่ำร่ำไห้หวนแห่อิศวรย่ำยามยิน
เคยเห็นเป็นอาจิณช้าหงส์เห่เล่ห์ลมพราหมณ์
๏ โอมอวดสวดสำเนียงไม่เหมือนเสียงนางนงราม
ล้ำเลิศเฉิดโฉมงามยามเย็นเช้าเจ้าอ่านฉันท์
๏ อ่อนหวานสารเสนาะเพราะอักษรกลอนพาดพัน
แจ้งเจื้อยใจจาบัลย์ทุกวันหวังฟังเสียงสมร
๏ ห้าค่ำย่ำยามปลายแห่นารายณ์เร่งอาวรณ์
อยู่ใกล้จะใคร่จรไปรับเจ้าเคล้าคลอมา
๏ เดือนแรมเหมือนเรียมค้างเรื่องรักร้างแรมขนิษฐา
แรมรสแรมพจนาแรมเห็นหน้านิ่งนอนแรม ฯ
             

เห่บทเจ้าเซ็น

โคลง
๏ ดลเดือนมหะหร่ำเจ้าเซ็นปี ใหม่แม่
มะหง่นประปรานทวีเทวษไห้
ห่อนเห็นมิ่งมารศรีเสมอชีพ มานา
เรียมลูบอกไล้ไล้คู่ข้อนทรวงเซ็น ฯ
             
กาพย์
๏ ดลเดือนเรียกมหะหร่ำขึ้นสองค่ำแขกตั้งการ
เจ้าเซ็นสิบวันวารประหารอกฟกฟูมนัยน์
๏ มหะหร่ำเรียมคอยเคร่าไม่เห็นเจ้าเศร้าเสียใจ
ลูบอกโอ้อาลัยลาลดล้ำกำสรวลเซ็น ฯ
             

เชิงอรรถ

เครื่องมือส่วนตัว