กาพย์ห่อโคลงพระศรีมโหสถ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 16:19, 23 ตุลาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: พระศรีมโหสถ

บทประพันธ์

ร่าย
๏ ศรีสิทธิจิตรสกนธ พิมลพิมตประนตประนม บังคมคัลอัญชวลี ตรีนรเทพผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิชาญไชยเดช อันวิเศศวิศาล ถ้วนสบสถานตระศักดิ์ จงบริรักษช่วยชี้ ทิศที่ทางใด ผี้ง่ายไสจงได้เหน ขอเปนที่กางที่กั้น กลฉัตรตั้งร่มรมยเกษี ศัลยแสนทวีหมื่นไหม้ จากอยุธยาไทย ที่พึ่งพูนเกษม ฯ
             
๏ หญิงชายหลายส่ำซ้องมามีก้องถ้องแถวทาง
ฝูงบ่าวสาวสำอางรางชางแกล้งแต่งดูงาม ฯ
๏ หญิงชายหลายส่ำซ้องโนเน
ฝูงบ่าวสาวสรวลเสยั่วยิ้ม
ดูงานผ่านโลเกศวรราช
แต่งแง่แพร่พรายพริ้มพรึบพร้อมพรูมา ฯ
๏ ราตรีศรีส่องฟ้าแสงสว่างหล้าฉ่าฉาวชล
คับคั่งนั่งเสียดสนดูกลเหล้นเต้นหนังรำ ฯ
๏ ราตรีศรีส่องฟ้าแสดงโฉม
แสงสว่างกลางโพยมโจมแจ่มฟ้า
มหรสพจบการโลมใจโลกย
เบียนบ่ายรายเรียงหน้านั่งล้อมเล็งแล ฯ
๏ ลายชายลายนุ่งเกี้ยวยกย่างเลี้ยวเอี้ยวโอนดู
ดอกไม้ใส่ห้อยหูพรั่งพรูบ่ายม่ายเมียงหญิง ฯ
๏ ลายชายลายนุ่งเกี้ยวเกไล
ยกย่างพลางจงใจจ่อชู้
ทัดเพยียเขี่ยกันไรเพราเพริด
เมียงม่ายกลายกลางสู้เสียดส้องแลหา ฯ
๏ เทวครีศรีสรดแสรงคาดชายแครงแบ่งทองท่อ
เสื้อหย้นหม่นศรีมอเลื่อมตอเกลี้ยงเมี่ยงโอ่อม ฯ
๏ เทวครีศรีเส้งแสดสรรพางค
คาดกร่ายชายทองวางร่วงรุ้ง
ศรีฟ้าผาสนองบางเยาย่อง
อมเมี่ยงเชียงชมดฟุ้งกลิ่นกลุ้มใจหญิง ฯ
๏ เดิรกลางพลางดีดนิ้วชูชายหิ้วผิ่วนำเพลง
บ่าวหนุ่มครุ่มเสียงเครงวังเวงหวั่นปั่นใจหญิง ฯ
๏ เดิรกลางพลางดีดนิ้วนำเพลง
ฝูงบ่าวพราวพรูเครงเพรียกพร้อม
หญิงฟังหวั่งใจเลวงรศราค
แย้มอยู่ภู่เฟื่องห้อมเสียดซ้องตาแล ฯ
๏ เยื้องกรายผายลีลาสาวสอดตาหว่าใจหวัง
ลักแลแต่เบื้องหลังดูหนังหน่ายบ่ายเบือนมา ฯ
๏ โชยชายกรายแกว่งเยื้องลีลา
สาวหนุ่มชุมชายตาต่อต้าน
ลักแลแต่ไกลมาเมียงม่าย
นอกปึ่งคนึงในห้านหื่นเร้าเสียวสมร ฯ
๏ ผาดเหนเพญผ่องหน้าโฉมหลากหล้าอ่าเอวกลม
คิ้งก่งทรงในนมแต่งผมไปล่ไรเพริดเพรา ฯ
๏ ผาดเหนเพญภาคเนื้อนวลนม
ตุมเต่งเลงไรผมไปล่แปล้
อกแบนแอ่นเอวกลมกาเมศ
คิ้วก่งทรงในแท้แยบยิ้มเปรมปราย ฯ
๏ ผิวพรรณกรรณเกษแสงนุ่งท้องแดงแต่งเชิงชาย
ห่มหิ้วริ้วทองพรายเดิรกรายนาดผาดกลางฝูง ฯ
๏ ศรีพรรณกรรณเกษเยื้องยูรหงษ์
นวยเน่งแฝงฝูงพงษ์พวกพ้อง
ท้องแดงแต่งชายผจงลายเลิศ
ห่มสะใบใยหญ้องหริ่งริ้วทองพราย ฯ
๏ ละมุนบุญแต่งแล้วละม่อมแก้วแผ้วผันผาย
ละไมไปล่ชูชายละเมียดม่ายบ่ายชำเลือง ฯ
๏ ละมุนบุญแต่งแกล้งเกลาเฉลา
ละม่อมกล่อมกลมเปลาเปล่งแก้ม
ละไมไปล่งามเอาใจโลกย
ละเมียดเอียดละอายแต้มต่อล้อฤามี ฯ
๏ รศรวยชวยชราบชู้หลงใหลสู้อยู่จนตาย
หื่นหวนป่วนใจชายฤาคลายได้ไฝ่ฝันหา ฯ
๏ รศรวยชวยชราบชู้ชายใด
หลับตื่นมลืนหลงไหลคคว้าง
หื่นหวนป่วนปองใจรึงราค
ฤาใคร่ไคลคลาข้างแนบเนื้อนวลสมร ฯ
๏ สองแลแปรต้องกันสองกระสัลปั่นใจหา
สองใฝ่ใคร่กรีธาสองตาต่อจ่อใจหวัง ฯ
๏ สองแลแปรต่อต้องตากัน
สองใส่ใจยวนยรรย่อนไส้
สองหวังหญั่งความศัลย์สมโยก
สองป่วนกวนกามไหม้รุ่มร้อนหวนโหย ฯ
๏ วันนี้พี่พอพบมาบันจบสบสมนาง
กล้องแกล้งแต่งสรรพางคจะวายเจ้าเปล่าไปฤา ฯ
๏ ยามเอยนวันนี้พี่พอพบ
บุญบ่ายชายมาจบหนุ่มเหน้า
กล้องแกล้งแต่งงามสบตาโลกย
เรียมจะละวางเจ้าเปล่าเปลื้องไปฤา ฯ
๏ แมลงภู่สู่เกษรบห่อนเว้นเผ่นพาดคฤา
เอาชราบอาบถูกถือกระพือปีกผีกแฝงตัว ฯ
๏ แมลงภู่สู่ต้องกลีบบัวบาน
กลั้วกลิ่นบินเมียงมาลยย่ามย้ำ
เอาชราบอาบคนธารรวยรื่น
ปีกป้องปคองพานซ้ำซ่านฟุ้งหอมหวน ฯ
๏ บกลัวตัวจผิดชีวิตรม้วยด้วยบุษบง
กลิ่นกลั้วมัวเมาหลงระวงย้ำฉ่ำดวงมาลย ฯ
๏ บกลัวตัวต้องสิ่งเสียชนม์
ใจจ่อต่อโกมลซุ่นไซ้
อบอาบส่ายเสาวคนธ์ยีย่ำ
คลึงเคล่าเอารศไล้ลูบล้วงดวงมาลย ฯ
๏ หะห่ายหน่ายใจนักแมลงภู่จักรักบัวบาน
ชมชราบอาบคนธารสำราญแล้วแผ่วผันหนี ฯ
๏ หะห่ายหน่ายหน้าใครเสสรวล
แมลงภู่สู่ฤาสงวนดอกไม้
ชมชราบอาบเอานวลรวยรื่น
กลั้วกลิ่นยินรศได้เหญื่อแล้วบินหนี ฯ
๏ ฉาบฉมอมชราบชูบินวี่วู่สู่ภุมรี
โกสุมหุ้มอับศรีวารีเพรียวเหี่ยวดูดาย ฯ
๏ ฉาบฉมอมอู้มโอชบินบน
สมสู่ภูมรีรนร่อนไม้
โกมุทอุดดมคนธโรยร่วง
เหี่ยวหายมลายรศไร้เปลี่ยวแล้วดูดาย ฯ
๏ ทรามสงวนด่วนเดาถนัดบดุจสัตว์กัดกลิ่นอาย
รักแก้วแล้วฤาคลายบผายจากพรากนฤมล ฯ
๏ ทรามสงวนด่วนขึ้งขุ่นอารมณ์
ใช่สัตวลัดแลงชมชราบเหล้น
รักแล้วแก้วเกลียวกลมสมอยู่
บบ่ายคลายคลาเว้นห่างร้างถึงยาม ฯ
๏ ตัวเรียมเทียมจามรีเชื้อชาตรีถี่ถนอมขน
ข้องหนามท่ามกลางคนเสียชนมสู่อยู่ปลดไป ฯ
๏ เรียมเทียมจามรีรู้สงวนขน
ข้องหนามท่ามกลางคนไล่ล้อม
เสียชีวิตรบคิดตนน้องนาฏ
อยู่เปลื้องเคืองคนอ้อมออกพ้นคงคืน ฯ
๏ กลชายหลายลิ้นแลบคมปแปลบแสบเสียวใจ
เคียวคดกดตรงไฉนปราไศรยแสร้งแกว่งทอดตัว ฯ
๏ กลชายหลายลิ้นฬ่อลวงหญิง
ความสัจตัดไฉนจริงหนึ่งน้อย
เคียวคดกดตรงจริงฤาซื่อ
ปากเปล่าเล้าโลมร้อยเล่ห์ล้วนลวงหญิง ฯ
๏ เรียมฤาคือบันทัดช่างชาญดัดขัดเกลาขยัน
ทอดเขียนเรียนพระธรรม์ใช่สันเคียวเบี้ยวบิดงอ ฯ
๏ ใจเรียมเทียมดุจด้วยบันทัด
คนช่างเกลาเหลาดัดรอบรู้
ทอดเขียนระเมียนอรรถธรรเมศ
ใช่อันสันเคียวคู้คดค้อมคมหนา ฯ
๏ ปากอย่าตาพริบเพื่อนกลิ้งกลอกเกลื่อนเลื่อนใบบัว
คิดมาหน้าใคร่หัวมีผัวไพ่ไฝ่กลางสนาม ฯ
๏ ปากอย่าตาเพ่งเผื้อนพรูพรับ
ชลในใบบัวกลับกลอกกลิ้ง
คิดมาน่าสรวลศับท์ไพเพิด
ลำไพ่ในผัวทิ้งทอดไว้ในสนาม ฯ
๏ นงนุชสุดสวาศเฮยพี่บเคยเอ่ยคำงาม
รักแล้วแก้วเกลากามกล่าวถามน้องห้องหอทงัน ฯ
๏ นงนุชสุดเสน่ห์ล้ำสงสาร
พี่บ่เคยเฉลยหวานหว่านเหล้น
รักน้องสนองในการพารฤกษ์
ถามข่าวกล่าวฤาเว้นสิ่งสร้างหอทงัน ฯ
๏ หน้าหัวตัวเต่าคับใครจะนับจับเหวี่ยงยอ
ยื่นหัวกลัวต้องตอหดคอเข้าเจ่าหลบหาย ฯ
๏ หน้าหัวตัวต้อมเต่าตุงหลัง
ผู้ใดใฝ่แสวงหวังเหวี่ยงเว้น
ยื่นหัวกลัวตอฝังแฝงอยู่
หดคอตอเข้าเร้นด่าวดิ้นดินเลน ฯ
๏ คำจริงสิ่งเรียมบอกคือช้างออกงอกงางาม
มีมันปั่นเหลือลามบขามค้อนห่อนหดคืน ฯ
๏ คำจริงสิ่งนี้พี่ฤาถอย
งาพญาสารสอยแส่ค้อน
มีมันปั่นหมายคอยลามไล่
ไม่ขามความเยินย้อนห่อนหย้นคืนหลัง ฯ
๏ คำชายหมายขีดน้ำลบเลือนกล้ำคำกลับกลาย
ร่องรอยถอยถมหายลิ้นชายล่อส่อเสมอกัน ฯ
๏ คำชายหมายขีดน้ำเลือนลบ
เส้นบหายมลายกลบเกลื่อนสน
รอยร่องท่องแถวหลบหลายเลิศ
แยบคายลายลมลิ้นล่อเลี้ยวโลมหญิง ฯ
๏ ตัวพี่นี้กล่าวสารคือเหล็กจารลานแผ่นผา
เส้นสายลายเลขาเป็นปรากฏสรดฤาหาย ฯ
๏ คำพี่ที่แกล้งกล่าวเฉลยสาร
คือเหล็กจารลานกลางอ่านแจ้ง
แลเห็นเส้นสายจารลายเลิศ
รจนาปรากฏแกล้งแต่งไว้ฤาหาย ฯ
๏ ลิ้นงูพรูพรายแพร่งลิ้นลมแต่งแห่งชายไฉน
ดุจกันหวั่นจงใจแก้ไขคล่องต้องติดตาม ฯ
๏ ลิ้นงูพรูพรายแพร่งพรายหลาย
ลิ้นเล่ห์เปรลมชายกล่าวเกี้ยว
ดุจกังหันเหินหายโปรยเปล่า
แก้ไขใจคดเคี้ยวล่อลิ้นลาวล ฯ
๏ ตราชูดูทางเที่ยงบบ่ายเลี่ยงเหวี่ยงเสมอกัน
ลิ้นเดียวเหนี่ยวกลางคันบผันปลิ้นลิ้นเรียมเหมือน ฯ
๏ ตราชูดูลิ้นดิ่งเดียวตรง
บบ่ายคลายเอนลงเงี่ยง้ำ
เตรียบตรูคู่คำองคยมเรศ
ชั่งบาปบุญบุญก้ำกึ่งลิ้นเรียมเหมือน ฯ
๏ เกรือกเปรียบเทียบพระลอบสู่ขอต่ออาษา
ทำอุคร์สนุกเสน่หาปืนยาพิศม์ติดตรึงตาย ฯ
๏ กลก่อลอราชร้างเมืองมา
บสู่อยู่อาษาหนึ่งน้อย
ทำอุคร์สนุกเสน่หาสองราช
เขายิงสิ่งสรรพร้อยร่างเร้าเสียสกล ฯ
๏ ตัวเรียมเทียมบูรณกเหาะเหินผงกผกผยองไป
อาษาฝ่าเอาใจพิธูรไท้ได้นางงาม ฯ
๏ ตัวเรียมเทียมด้วยดุจบูรณก
ไปพะนันขันสกายกบาศไท้
อาษานาคนาลกลุลาภ
พระพิธูรไปได้ท่านท้าวอวยนาง ฯ
๏ เกรือกเปนเช่นภูมีกรุงจลณีขี่เมืองขวาง
บ่รู้ผู้ลักนางไปทางไต้ไม่ติดตาม ฯ
๏ เกรือกเปนเช่นไท้เทพจลณี
ศักดิ์ใหญ่ไกรษรสีห์คคู้
เขาลักอัคเทวีลีลาด
ทางได้ไป่ฤารู้อยู่ร้างฤาตาม ฯ
๏ เรียมคือพระสุทนบ่คิดชนม์ก่นทางไป
ข้ามเขาเซราซฤกไพรนานไกลสบพบมะโนหะรา ฯ
๏ เรียมคือนฤเบศไท้สุทน
บุกป่าฝ่าเซราชลเชี่ยวช้า
เดิรเดียวเปลี่ยวใจจนทนเทวศ
ตามนางทางเทียมฟ้าเช่นเชื้อสาวสวรรค์ ฯ
๏ เกรือกเหมือนเงื่อนบพิตรรถสิทธิสนิทนนทา
รุกริบสิบสองพะงาควักตาให้ใส่ขุมขัง ฯ
๏ เกรือกเหมือนเงื่อนท้าวผ่านสากล
รักมารดาลมัวมนทข่าวไข้
สิบสองจองทันอนทการเนตร
แล้วส่งลงขุมให้ร่ำร้อนฤาเสบย ฯ
๏ บหลงจงหญิงพาลพระกุณาลสารใส่ใจ
หญิงร้ายส่ายเสียไกลพิดไสมยอยู่คู่ครองสอง ฯ
๏ ไม่หลงจงจ่อด้วยหญิงพาล
ในกุณาลสารปานเปรียบไว้
เปนรเบียบเทียบเทียมทานธรรเมศ
หญิงร้ายขจายกลไหม้หลีกเลี้ยวแลงหนี ฯ
๏ เกรือกเกลื่อนเหมือนพาลีได้มารศรีปรีปึงไป
ฝากน้องต้องติดใจพิดไสมยอยู่คู่เคียงเอง ฯ
๏ เกรือกเหมือนเงื่อนเมื่อครั้งพาลี
รับนุชอุดดมศรีฝากน้อง
เสียสัตย์ตัดชนม์ชีพิตรนาศ
เอาเองเพลงปืนต้องท่าวล้มไลลาญ ฯ
๏ กล่าวจริงยิ่งปานกระษัตรธตรฐตรัสตัดขาดใย
สู้ละพระรามไปป่าไกลฉิบสิบสี่ปี ฯ
๏ ใจจริงสิ่งนี้พี่ถือสัตย์
เอาเยี่ยงเพียงจักรพรรดิ์ผ่านหล้า
คงคำกำจัดรัตน์ราเมศ
สิบสี่ปีไปช้าฆ่ามล้างฝูงมาร ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

กาพย์ห่อโคลง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี โปรดให้พิมพ์ประทานในวันปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๗๕ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร

[ขอขอบคุณ คุณ gignoi สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน]

เครื่องมือส่วนตัว