นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 06 ต.ค. 00, 00:00
|
|
เรื่องภาษาลาว ผมก็ไม่ชำนาญ แต่ผมเข้าใจว่าจะตรงกันข้ามกับที่คุณนิรันดร์ว่ามาครับ ทั้งไทยทั้งลาวออกเสียงชื่อเมืองหลวงของลาวได้ถูกต้องอยู่แล้ว ว่า เวียงจันทน์ (แต่ในภาษาลาว เขาใช้ เวียงจัน เฉยๆ ) คนออกเสียงผิดในกรณีนี้คือฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคมต่างหากครับ ที่เป็นคนเพี้ยน ออกเสียงสำเนียงฝรั่งว่า เวียนเชียน แต่เขียนใช้ตัว ti เวลาออกเสียงเป็น ช. ครับ ทางเมืองจีน ปักกิ่งเป็นภาษาไทยกลายครับ คนจีนสำเนียงจีนกลางออกเสียงว่า เป่ยจิง แปลว่า มหานครทางเหนือ (ผมเคยเขียนล้อๆ ไว้ว่า ปักกิ่งก็คือ อุดรธานี) สำเนียงแต้จิ๋วแท้ๆ ออกเสียงว่า ปักเกียครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทิด
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 06 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ผมว่าลิ้นคนไทยนี่เลียนสำเนียงของภาษาต่างชาติได้ค่อนข้างง่ายกว่าชาติอื่นๆ นะครับ เพราะเท่าที่รู้จักเพื่อนอยู่หลายประเทศทั้งที่พูดจีน (หลายสำเนียง) ญี่ปุ่น พูดแสปนนิช หรือภาษาฮินดี แล้วก็พูดอังกฤษทั้งอเมริกัน ออสเตรเลีย อ้อ..รัสเซีย กับ เช็ค ก็มี เวลาเจอหน้าตั้งวงกิน วงคุยกันก็มักจะมีการถามการสอนภาษาของแต่ละที่กันทุกครั้ง ผมสังเกตว่าลิ้นคนไทยมักจะไม่ค่อยมีปัญหาใรการดัดแปลงเลียนเสียงคำยากๆ ซึ่งเท่าที่ฟังสำเนียง หรือคำที่ออกเสียงยากที่สุดคือภาษาจีนนี่แหละครับ สวีดิชก็ยาก คนที่ออกเสียงเลียนสำเนียงภาษาอื่นได้ยากที่สุดเห็นจะเป็นญี่ปุ่น กับอเมริกันนี่แล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกมณี
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 06 ต.ค. 00, 00:00
|
|
อ้าว..คุณหลวงนิลฯก็เคยไปจีบสาวอักษรฯเหมือนกันหรือเจ้าคะ คิกคิก ^_^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 06 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ก็คิดเหมือนกันน่ะค่ะ ว่าคงไม่มีใครทราบจริงๆหรอกว่าการออกเสียงภาษาสันสกฤตแท้ๆนั้นเป็นอย่างไร เพราะมันตายไปนานแล้วอย่างคุณนิลกังจาว่า แต่คาดว่าเค้าก็คงมีการสืบทอดมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และก็คงนับได้ว่า คนอินเดียเค้าใกล้ชิดกับภาษาสันสกฤตมากกว่าเรา ความเพี้ยนที่จะมีก็คงมีน้อยกว่า
ก็ตัดสินใจยากน่ะค่ะ ถึงได้มาขอความเห็น จริงๆแล้วดิฉันก็ไม่ใช้ ชานดราแน่ๆค่ะ คิดว่าจะใช้ จันดรา เพื่อประนีประนอมทั้งสองฝ่าย เพราะการใช้ในครั้งนี้ เป็นชื่อยานอวกาศที่ไม่ได้ใช้ในความหมายของคำทั่วๆไปที่หมายถึง พระจันทร์ ก็ใจชื้นขึ้นหน่อยว่า แม้ในหมู่พระสงฆ์ ก็มีกลุ่มที่เห็นว่าควรกลับไปรักษาสำเนียงที่ใกล้เคียงของๆเค้ามากกว่า การทำไปตามๆกันมันคงไม่ยุ่งยากอย่างนี้ แต่มันขัดๆกับความรู้สึกของดิฉันยังไงไม่ทราบน่ะค่ะ
อย่างที่คุณทิดว่า ดิฉันก็เห็นด้วยว่า หากให้ออกเสียงเป็นคำๆเดี่ยวๆแล้ว คนไทยสามารถออกเสียงได้ใกล้เคียงมาก แต่การพูดภาษาต่างประเทศทั้งประโยคทั้งข้อความที่ประกอบกันด้วยหลายๆคำแล้ว ใหม่ๆดิฉันก็งงว่าทำไมฝรั่งฟังเราไม่รู้เรื่อง ใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะเข้าใจว่า ระบบการออกเสียงของเราค่อนข้างจะตายตัว เป็น static ไม่มีการลื่นไหลต่อเนื่องของโทนเสียง แต่ภาษาตะวันตกจะมีความลื่นไหลต่อเนื่องมาก เสียงวรรณยุกต์ก็ต่างงกันไปตามตำแหน่งของคำในประโยค ตรงนี้แหละค่ะที่ลิ้นเราแข็งกว่าเค้า มันอธิบายลำบาก ต้องออกเสียงกันใหได้ยินจึงจะยกตัวอย่างได้
ปล เห็นด้วยค่ะว่าน่าจะทำให้ preview ได้ ตรวจทานที่เขียนไม่ได้เลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เด็กติดเกาะ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ไม่ค่อยทราบหลักการแปลเป็นภาษาไทยหรอกค่ะ แต่อยากจะแนะว่าถ้าหากจะต้องการตรวจทานข้อความก่อนส่งก็ทำได้ค่ะแต่มันจะมี trick นิดหนึ่ง ว่าให้เขียนข้อความก่อนโดยไม่ใส่ชื่อ แล้วพอเขียนเท่าที่อยากจะเขียนเสร็จแล้วก็กด post message แต่เพราะว่าไม่ได้ใส่ชื่อจะมีหน้าเตือนว่าให้กลับไปใส่เสีย เพราะฉะนั้นเราก็ถือโอกาสนี้อ่านตรวจทานไปเสียเลย เพราะข้อความจะมีขนาดใหญ่ขึ้นอ่านง่ายขึ้นค่ะ อ่านเสร็จเราก็กด back แล้วก็กลับไปแก้และใส่ชื่อเสีย อาจจะไม่สะดวกสักนิดแต่ก็คงพอไหวน่ะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
อ่านจนตาลาย...
ขอตอบคุณนิลกังขาเรื่องชื่อผู้ค้นพบการกระเจิงแบบรามันกับชื่ออดีตประธานาธิบดีอินเดียก่อนก็แล้วกัน... เมื่อกี้นี้โทรไปถามเพื่อนชาวอินเดียมาได้ความว่า... ท่านผู้ค้นพบการกระเจิงแบบรามันมีชื่อว่า Chandrasekhara Venkata Raman ส่วนท่านอดีตประธานาธิบดีนั้นชื่อ Venkata Raman เป็นคนละคนกัน ส่วนข้อที่ว่านามสกุลเดียวกัน..มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกันหรือไม่นั้น เพื่อนไม่ทราบ
สำหรับเรื่องการออกเสียงและสะกดคำในภาษาสันสกฤตนั้น ทั้งฝรั่งและทั้งไทยต่างก็ถอดมาจากอักษรเทวนาครีทั้งคู่ และก็มีเพี้ยนไปจากการออกเสียงในภาษาสันสกฤตแท้ ๆ ทั้งคู่ แม้แต่คนอินเดียในยุคก่อนเองก็คงจะออกเสียงอักษรเทวนาครีตัวหนึ่ง ๆ หรือคำหนึ่ง ๆ ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นประเทศใหญ่ แต่ละถิ่นแต่ละภาคก็อาจจะมีสำเนียงเฉพาะถิ่น ไม่เหมือนกัน ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ก็คือภาษาจีนนั่นไง คำเดียวกันแต่ออกเสียงได้หลายอย่าง แล้วแต่ว่าเป็นสำเนียงจีนแต้จิ๋ว หรือจีนฮกเกี้ยน หรือจีนกวางตุ้ง ฯลฯ
เมื่อเป็นเช่นนี้นักปราชญ์ราชบัณฑิตฝรั่งและไทยจึงต่างก็ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับตนขึ้นมา อย่างเช่นอักษรเทวนาครีในภาษาสันสกฤตตัวหนึ่ง ฝรั่งอาจจะเห็นว่าออกเสียงตรงกับตัว j ของเขามากที่สุด จึงกำหนดให้ใช้ตัว j สำหรับอักษรเทวนาครีตัวนั้น ในขณะที่ไทยอาจจะเห็นว่าตรงกับตัว ช มากที่สุด จึงใช้ตัว ช ตัวอย่างเช่น คำในภาษาสันสกฤตที่แปลว่าพระเจ้าแผ่นดิน ไทยเห็นควรออกเสียงว่า "ราชา" แต่ฝรั่งเขียนเป็น "raja" แทนที่จะเป็น "racha" อย่างนี้เป็นต้น
ทั้ง "ราชา" ในภาษาไทย และ "raja" ในภาษาฝรั่ง ต่างก็หมายถึงพระเจ้าแผ่นดินในภาษาสันสกฤต หมายถึงสิ่งเดียวกัน เทียบมาตรฐานแล้วเข้าใจตรงกัน แต่ถ้าหากมีคนไทยสักคนบอกว่า "raja" ต้องออกเสียง(และสะกด)เป็น 'ราจา' ต่างหาก ฉันจะสะกดเป็น 'ราจา' เพราะลองออกเสียงฟังดูแล้วใกล้เคียงกับที่ฝรั่งออกเสียงคำว่า "raja" มากกว่า ถ้าสมมุติว่าเป็นเช่นนี้จริง แล้วคำว่า 'ราจา' ในภาษาไทยหมายความว่าอะไรล่ะ?...
ฉันใดก็ฉันนั้น... ถึงแม้ว่าคำที่สะกดว่า "chandra" ฝรั่งทั่ว ๆ ไปจะออกเสียงว่า 'ชานดร้า' หรือ 'แชนดร้า' หรืออะไรก็แล้วแต่ หากต้องการรักษาความหมายว่า "chandra" นี้หมายถึงดวงจันทร์ หากจะสะกดเป็นภาษาไทยก็ควรสะกดว่า "จันทรา" มากกว่า 'จันดรา'
ตอบคุณพวงร้อย...
คำว่า "จันทรา" มาจากคำสันสกฤตว่า "จนฺทฺร" [จัน-ทฺระ] ตรงกับคำบาลีว่า "จฺนท" [จัน-ทะ] ซึ่งมาจาก "จทิ" ธาตุในความ"ปรารถนา" "ชอบ" "ชอบใจ" "ทำให้เกิดสุข" "เป็นสุข" "สบาย" "รุ่งเรือง" "ส่องสว่าง" "สวยงาม" เมื่อนำมาปรุงเป็นคำนามด้วยวิภัติปัจจัยตามหลักไวยากรณ์สำเร็จเป็น "จนฺทร" หรือ "จนฺท" แล้ว แปลตามรูปวิเคราะห์ว่า "ผู้ให้ความสว่าง(ในยามราตรี)" แต่ศัพท์นี้ใช้หมายถึงพระจันทร์ [เหมือนกับคำว่า "ศศิธร" ซึ่งแปลตามรูปวิเคราะห์ว่า "ผู้ทรงไว้ซึ่งกระต่าย" แต่ศัพท์นี้ใช้หมายถึงดวงจันทร์]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
วันหนึ่งได้ลองถามเพื่อนชาวอินเดียที่อยู่ในห้องทำงานเดียวกันและเห็นบอกว่าเคยเรียนภาษาสันสกฤตมาเหมือนกันว่า "How do you pronounce the name 'Dhrฺtarasฺtฺra' ?" ฟังเพื่อนออกเสียงให้ฟังตั้งหลายรอบแล้ว ก็ยังยากที่จะจับได้ว่าเป็น "ธฺฤตราษฺฏฺร" [ทฺริ-ตะ-ราด-สฺตฺระ] (สะกดอย่างไทย ๆ ก็คือ "ธฤตราษฎร์")
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
อ้อ...ชื่อข้างบนนี้มาจากตัวละครในเรื่องภควัทคีตา ตัว dh = ธ ตัว rฺ = ฤ ตัว t = ต ตัว a = เสียงสระอะ ตัว r = ร ตัว a มีขีด(bar)ข้างบน(ซึ่งเขียนไม่ได้ในที่นี้) = า ตัว sฺ = ษ ตัว tฺ = ฏ การถอดอักษรเทวนาครีเป็นอักษรโรมันและอักษรไทยอย่างข้างบนนี้เป็นสัญนิยมที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก
รัชกาลที่ ๖ ท่านเป็นปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญภาษาสันสกฤตชนิดหาตัวจับยากท่านหนึ่งของเมืองไทย จะสังเกตว่าชื่อหรือนามสกุลที่พระองค์ทรงพระราชทานให้แก่บุคคลต่าง ๆ นั้นมักจะเป็นคำสันสกฤต และการสะกดชื่อหรือนามสกุลเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษพระองค์ท่านก็ยึดหลักสัญนิยมที่ว่านี้ อย่างเช่นใครชื่อ "สุคนธา" ท่านก็จะสะกดให้เป็น "Sugondha" หรือ "อภิรมย์" ท่านก็จะสะกดให้เป็น "Abhirom" เพราะฉะนั้นใครที่เห็นชื่อหรือนามสกุลในลักษณะนี้ ก็ให้นึกถึงหลักการอ่านที่ว่าไว้ อย่าไปอ่านเป็น "สุกนทา" หรือ "อบิรม" ให้เจ้าของชื่อเขาไม่พอใจล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เพื่อนสนิทที่เมืองไทยคนหนึ่งขอให้ช่วยตั้งชื่อหลานชายที่กำลังจะเกิดให้หน่อย ก็ได้ตั้งให้ไปถูกตามหลักทักษา (รู้วันเกิดเพราะจะผ่าคลอด) ไพเราะ สวยหรู ความหมายดี (มีความหมายเหมือนชื่อคนตั้งเป๊ะเลย!) แล้วคิดเสร็จก็โทรศัพท์ไปบอก พร้อมแยกคำ-วิเคราะห์ศัพท์ให้ด้วย เพราะชื่อนี้ไม่มีในพจนานุกรม กลัวว่าทางเขตเขาจะไม่ยอม พอเพื่อนถามว่าแล้วชื่อนี้จะสะกดเป็นภาษาอังกฤษยังไงล่ะเนี่ยะ ก็ถามว่าจะสะกดแบบหลักนิยมอย่างรัชกาลที่ ๖ (อย่างที่พูดข้างบน) หรือจะเอาแบบการถ่ายเสียงตามหลักของราชบัณฑิตยสถานล่ะ เพื่อนก็ถามว่าทั้งสองแบบเป็นยังไงล่ะ พอบอกตามหลักนิยมของรัชกาลที่ ๖ ไป เพื่อนรีบบอกเลยว่า "ไม่เอา ๆ... สะกดแบบนี้แปลกๆ ... งั้นเอาแบบราชบัณฑิตยสถานดีกว่า..."
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ใครที่อ่านอักษรเทวนาครีไม่ออก และอยากได้อรรถรสของเรื่องนี้ (ซึ่งพากษ์ที่แปลเป็นภาษาไทยไม่มี) แนะนำให้อ่านพากย์ภาษาอังกฤษเล่มข้างล่างนี้ เล่มนี้ได้ชื่อว่าเป็นพากย์ภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด มีโศลกเป็นอักษรเทวนาครีอย่างต้นฉบับ มีการถ่ายเสียงอักษรเทวนาครีเป็นอักษรโรมัน(ภาษาอังกฤษ)ตามหลักสัทนิยม มีคำแปลโศลก และมีคำอธิบายเนื้อความอย่างละเอียด  http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/reurnthai96x24.jpg'>
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
กระผมขอใช้สิทธิพาดพิงครับ .. ท่านประธาน ... คุณ Anonymous มาพูดถึงนามสกุลผม - ผมต้องโวย - ต้องโวยว่า - - ยังหาคนร่วมใช้นามสกุลไม่ได้เลยครับ แฮ่ะๆ ขอบคุณคุณ Anonymous ที่เปิดโอกาส แหะๆ นามสกุลผมถอดเป็นอักษรโรมัน เป็นดังที่คุณ Anonymous ยกมาแหละครับ ซึ่งฝรั่งร้อยละทั้งร้อยเห็นแล้วก็มึน ออกเสียงไม่ถูก ไม่เหมือนเสียงในภาษาไทย เชื่อว่านามสกุลพระราชทานอีกหลายสกุลก็เช่นเดียวกัน แต่วิธีถอดของ ร. 6 ท่านเป็นไปตามหลักภาษาสันสกฤตเดิมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ดิฉันก็ขอประท้วงคุณ เอ อะนอนีมัส เหมือนกันค่ะ อิอิ
แหม ดิฉันไม่ได้ว่าจะออกเสียงเพื่อตาม "ฝรั่ง" ซักกะหน่อย ไม่ได้ได้มีที่ไหนว่าไว้เลยว่าที่มาคิดถึงการสะกดว่า จันดรา เพราะฝรั่งเค้าว่ายังงั้นเลยนะค้า ไม่ได้ไปถามฝรั่งนี่นา คิดว่าบอกแล้วนี่คะว่าไปถามคนอินเดีย แต่ทั้งนี้แหละทั้งนั้น ต้องการให้ใกล้เคียงการออกเสียงจากต้นภาษาสันสกฤตเสียมากกว่า ใช่ว่าจะทำไปตามใจชอบหรือหลับหูหลับตาตามฝรั่งก็หาไม่นะคะ
คุยกับเพื่อนชาวอินเดียบอกเค้าว่าคนไทยจะออกเสียงอย่างนี้ เค้าก็ทำหน้างงๆว่าทำไมถึงเจตนาที่จะออกเสียงให้ผิดไปเล่า ดิฉันมาตรองดูถึงได้แง่คิดน่ะค่ะ ว่าจริงอยู่ ไม่มีใครทำได้ใกล้เคียงภาษาสันสกฤตที่สุด แต่เรามาสะกดแบบนี้เพื่ออะไร ไม่ใช่ว่าจะค้านเพื่อ "จะค้าน" ของเก่าที่เราทำตามกันสืบๆมานะคะ เพียงแต่ต้องการหาเหตุผล หากเหตุผลของดิฉันอยู่ที่ "เคารพ" การออกเสียงของภาษาเดิม แล้วมาพิจารณาว่า การปฏิบัติที่เราทำตามๆกันมานี้ตรงกับเหตุผลนั้นหรือไม่ ถ้าไม่แล้วก็อยากทราบว่าเพราะอะไร เป็นการถามเพื่อต้องการเข้าใจ ไม่ใช่ถามเพื่อท้าทายไม่ยอมรับของเก่า
ข้อที่ว่า คนที่ตั้งกฏแบบนี้เป็นคนที่มีความสามารถแล้ว ให้เชื่อไปตามนั้น ให้ทำตามไปตามนั้น ก็ยังไม่สามารถไขข้อข้องใจของดิฉันได้เลยค่ะ ไม่ได้เป็นการหมิ่นนะคะ แต่ดิฉันมองอะไรโดยใช้หลักกาลามสูตรเป็นที่ตั้ง ถ้ายังไม่เข้าใจในเหตุผลที่แท้ ที่ไม่ใช่ว่า "ทำตามผู้ใหญ่" ไปเหอะ อะไรแบบนั้น ก็ยังตะหงิดๆใจอยู่น่ะค่ะ มิได้มีใจลบหลู่ดูหมิ่นผู้ใหญ่ หรือมิได้เคารพมีใจไม่ยอมเชื่อว่า ร๖ ท่านทรงมีพระปัญญาลึกล้ำ เลยแม้แต่น้อยนะคะ คิดว่าการที่เรากระทำเพื่อได้รับความรู้ มิใช่หลับหูหลับตาทำตามไป ก็ใช่ว่าเป็นการกระทำที่ขาดความจงรักภักดี หรือเห็นฝรั่งดีกว่าคนไทยนะคะ คิดว่าไม่เกี่ยวกันเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ขอบคุณคุณ Anonymous มากค่ะ ที่กรุณาไปค้นมาให้ และอธิบายให้กระจ่างแจ้งจริงๆ ชื่นชมกับการอธิบายให้อย่างละเอียดของคุณมานานแล้วค่ะ ;-) แถม cross reference วิธีการใช้คำแทนความหมายดังตัวอย่างของคำว่า ศศิธร มาด้วย อย่างนี้รู้ใจจริงๆค่ะ เพราะคิดว่าคงเป็นการมาจากให้ความนัย ไม่ใช่ศัพท์ตรงตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Anonymous
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ยังมีอีก ๒ ศัพท์ที่สำเร็จมาจาก "จทิ"ธาตุ เหมือนกัน (แต่ปรุงมาจากวิภัติปัจจัยคนละตัว) คือ
"จทิร" [จะ-ทิ-ระ] - จทิระ - ผู้ให้แสงสว่างสุกใส(ในยามราตรี) หมายถึงดวงจันทร์
"จนฺทิมนฺตุ" [จัน-ทิ-มัน-ตุ] - จันทิมันตุ์ - ผู้มีแสงสว่างเป็นปกติ(ในยามราตรี) หมายถึงดวงจันทร์ ศัพท์นี้มักใช้ในรูปปฐมาวิภัติว่า "จันทิมา"
รูปกริยาคือ "จนฺทติ" แปลว่า ย่อมส่องแสง ย่อมรุ่งเรือง ย่อมส่องสว่าง ย่อมสวยงาม ฯลฯ
ยังมีศัพท์อีกหลายสิบคำทั้งในภาษาบาลีสันสกฤตที่หมายถึงดวงจันทร์ เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเรือนไทย จึงจะขอนำไปตั้งเป็นกระทู้ใหม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Homeless UK
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 07 ต.ค. 00, 00:00
|
|
ผมเห็นด้วยกับคุณพวงร้อยครับ การไม่ปฎิบัติตามไม่ได้หมายความว่าลบหลู่หรือดูมิ่นของเดิม การทำให้ถูกต้องตามหลักภาษานั้นสำคัญก็จริงอยู่ แต่ผมไม่เห็นว่าเป็นหลักตายตัวที่ทุกคนจะ ต้องปฎิบัติเหมือนกันหมดและละเมิดไม่ได้
การอนุรักษ์ภาษา และวัฒนธรรมไทยนั้นผมเห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยที่ว่าเคยเป็นมาอย่างไร จะต้องเป็นไปอย่างนั้นตลอดกาล ( แฮะๆๆ มันฟังดูเหมือนเผด็จการนะครับ ) สิ่งต่างๆ นั่นมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ภาษาก็เหมือนกัน คำๆ เดียวกันเมื่อก่อนมีความหมายหนึ่ง เดี๋ยวนี้มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน ขนาดหลักไวยกรณ์บางหลักยังเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา นับประสาอะไรกับภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาที่ยังไม่ตายเหมือนกัน โดยเฉพาะในเรื่องทาง วิทยาศาสตร์นี่ มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา บางอย่างไม่มีบัญญัติในราชบัณฑิตยสถานด้วยซ้ำไป
ผมว่าอยู่ที่ผู้ใช้จะอ้างอิงสิ่งใด การอ้างอิงไม่เหมือนกันก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะผิด ผมว่าเราควรเคารพในความคิด และเหตุผลของผู้อื่นครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|