เรไร
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 19 ก.พ. 02, 17:58
|
|
แอบหลังหนุ่ม ๆ เข้ามาชมความงามนางอัปสราด้วยคนนะคะ บางรูป ถึงน่ากลัว แต่ก็สวยจังเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศศิศ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 19 ก.พ. 02, 18:08
|
|
สวยจริง ๆ ครับ....อยากรู้จังว่าตอนที่ขึ้นมาจากเกษียรสมุทรนั้น จะสวยงามแค่ไหนหนอ...อิอิ อัปสรา ศิลาสลัก....รูปไหนที่เป็น...ตัวแทนแห่งรัก พิษณุหริเกศวร?
แล้วมีอีกมั้ยครับ อัปสรา.....เนี่ย ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 00:44
|
|
มาดูอัปสรนครวัดดีกว่า สวยดีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 01:34
|
|
ช่วยบอกหน่อยว่าใช้กล้องอะไรได้มั้ยคะ กำลังเก็บข้อมูลวันหลังได้ซื้อมั่งค่ะ ขี้เกียจหอบกล้อง SLR กับเลนส์ตัวเบ้อเร่อแล้วค่ะ แต่กะว่าจะรอให้เทคโนโลยี(และราคาด้วย)มันอยู่ตัวซะก่อน
เดาเอาว่าคงใช่ค่ะว่าเอาแบบมาจากชีวิตในวังจริงๆ เป็นปกติของระบบสมมติเทพที่ต้องการยกระดับองค์กษัตริย์ให้เทียมเทพ จึงจำเป็นที่จะต้องยกเอารูปที่เตือนให้คนนึกถึงของจริง จึงมีแรงจูงใจให้มากที่จะจำลองภาพจากราชสำนักไปทำเป็นรูปประดับที่ให้คนคิดว่าเป็นภาพจากสรวงสวรรค์ เพื่อเป็นการตอกย้ำทางจิตใต้สำนึกไงคะ
เคยไปแค้มป์อพยพคนเขมรนานมาแล้วค่ะ ไปทำงานแถวๆชายแดนมาก่อน คนเขมรที่มาอยู่ในค่ายก็พยายามรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไว้อย่างเหนียวแน่น พวกนางละครรำจะแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนนางอับสราเลยค่ะ แล้วเค้าก็ยังเรียก อัปสรา กันอยู่ เด็กๆที่ฝึกรำอยู่นี่บอกยากมากเลยค่ะ เพราะรำเขมรนั้น ตัวรำต้องยกนิ้วเท้าขึ้นตลอดเลยค่ะ มันไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย แต่มันเหมือนในรูปสลักน่ะค่ะ ลองเดินด้วยการยกนิ้วเท้าขึ้น ได้สองก้าวก็เกือบคะมำแล้วค่ะ
เห็นว่าคตินางอับสราของเค้าก็อาจจะเป็นอย่างในอินเดียที่มีนางรำประจำในวิหารที่บูชา คือนอกจะรำถวายเทพแล้ว ก็ยังบำเรอความสุขให้ผู้เป็นใหญ่ด้วย (อันนี้ไม่แน่ใจว่ามั่วผิดไปรึเปล่านะคะ มันเลือนไปมากแล้วค่ะ และไม่ได้ไปค้น) เลยเป็นแบบจำลอง fantasy ของคนในสมัยนั้นว่านี่เป็นรูปลักษณ์ของสตรีที่งามแบบที่กำลังนิยมกันน่ะค่ะ คืออาจจะมีการเติมแต่งให้เป็น "ความงามสัมบูรณ์" ตามค่านิยมน่ะค่ะ
แต่ดิฉันชอบหน้าแบบนี้นะคะ มันดูคลาสสิคอย่างบอกไม่ถูก เคยมีเพื่อนคนนึง มีพื้นเพมาจากอุบล เค้าสวยมากเลยค่ะ แล้วหน้าแบบนางอับสรานี่แหละ คือหน้าเป็นเหลี่ยมแบบ chiseled มาเลย แล้วตาหวานคม ปากรูปสวยเหมือนอัปสราจริงๆ ดูในรูปสลักอาจจะไม่ใช่ความสวยอย่างที่เรานิยมกันในปัจจุบัน แต่ดูหน้าเพื่อนแล้วเค้าทั้งหวานทั้งคม งามแบบไม่จืดตาจริงๆเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 11:26
|
|
กล้องที่ใช้เป็น Kodak DC220 น่าจะ obsolete ไปสัก 2 ปีได้แล้วละมังครับ ซื้อใช้มาได้ราว 4 ปีแล้ว ความละเอียดก็แค่ 1.3M pixel อัดลงกระดาษใหญ่กว่า 4x6 คงออกอาการแน่นอน ถ้าคุณพวงร้อยจะเลือกซื้อน่าจะลองแวะไปที่ Bluplanet ที่นั่นมีผู้เชี่ยวชาญอยู่เยอะเชียวครับ
คุณจอมกระต่าย พิษณุหริเกศวรคือใครหรือครับ เล่าให้ฟังบ้างสิครับ
คุณ นกข. รอหน่อยนะครับ มีของฝากเหมือนกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แจ้ง ใบตอง
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 13:24
|
|
สวยกันทุกนางเลยครับ อย่างนี้ต้องขออนุญาตนำเสภาขุนช้างขุนแผนที่ชมความงามของสาวเชียงใหม่ มาชมนางอัปสรา ดังนี้ครับ
ใส่ตุ้มหูซ้ายขวาระย้าย้อย เอวบางร่างน้อยนมถนัด ดังประทุมตูมเต่งเคร่งครัด จำปาทัดถันได้ไม่ลอดทรวง..
ความงามของผู้หญิงนี่ ทั้งไทยทั้งขอมเห็นจะชอบคล้ายๆ กันนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เรไร
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 13:58
|
|
แต่ที่แน่ ๆ คุณแจ้งชอบแบบออกนอกหน้าเลยใช่ไหมคะ ไปหาคำกลอนมาประกอบความเห็นได้พร้อมสรรพเชียวค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศศิศ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 14:48
|
|
พิษณุหริเกศวร ก็คือ สุริยวรรมันที่ 2 น่ะครับ จากเรื่อง สุริยวรรมัน ของทมยันตีครับ กล่าวถึงการสร้าง ปราสาทนครวัด แล้วเค้าก็ว่ากันว่า จะมีรูปอัปสราที่สวยที่สุดอยู่รูปหนึ่ง ที่จำลองมาจาก นางชลันธรี ผู้เป็นดวงใจของพิษณุหริเกศวร น่ะครับผม...อิอิ ขอโทษด้วยครับ ที่แก่นิยายเกินไป...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 16:03
|
|
แฮ่ๆ มิน่าไม่เคยได้ยินเลย มาจากนิยายของคุณทมยันตีนี่เอง ส่วนนางชลันธรีจะเป็นคนไหน อันนี้ไม่รู้จริงๆ เพราะในสายตาผมก็สวยๆกันตั้งหลายคนแน่ะครับ  ไหนๆแล้วแถมซักหน่อย กษัตริย์ของเขมรนี่จะอยู่ในสถานะของเทวราชาครับ คือเป็นเทพแบบไม่ต้องสมมติกันให้ยุ่งยากเลยแหละ เมื่อสวรรคตก็จะเป็นเทพเต็มตัวครับ กรณีสูรยวรรมันที่๒ มีพระนามหลังสวรรคตแล้วว่า "บรมวิษณุโลก" ครับ ว่าแต่ว่ายังสงสัยไม่หายว่าคุณทมยันตีแกไปเอาชื่อนี้มาจากไหนกันน้อ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 20 ก.พ. 02, 19:18
|
|
สาวที่คุณพวงร้อยพูดถึงที่อยู่ประจำวิหารเทพเจ้าในอินเดีย ดูเหมือนจะเรียกว่า เทวทาสี แต่จะเป็นพวกเดียวกับอัปสราขแมร์หรือไม่ก็ไม่ทราบครับ
ตามนิทานเดิมของฮินดู นางอัปสรก็เป็น ... จะเรียกอะไรดี ... หญิงบริการบนสวรรค์ มีหน้าที่บำเรอเทวดาที่เป็นผู้ชาย ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตนยกเว้นบางคนที่หนีหน้าที่ลงมาได้สามีเป็นมนุษย์ บางทีก็ถูกเทวดาใช้ไห้เป็นดาวโป๊ไปยั่วยวนทำลายตบะของมนุษย์ที่ชักจะทำท่าจะเก่งเกินเทวดา ดูๆ ก็น่าสงสารพวกเธอ เหมือนเป็นวัตถุทางเพศอย่างหนึ่งเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 21 ก.พ. 02, 06:10
|
|
ขออภัยท่านผู้ร่วม "เล่น" เน็ตท่านอื่น แต่ผมจะต้องตามไปออกตัวอย่างนี้ต่อท้ายความเห็นผมอีกหลายทีแหละครับ จนกว่าผมเองจะหายผวา เพราะไม่ทราบว่าจะมีใครตั้งตนเป็นครูใหญ่หรือสารวัตรเว็บผ่านมาคลิกเข้ามาตรวจเข้าเมื่อไหร่ ไอ้ที่ผมว่ามาข้างบนนั้น ผมได้ยินมารู้มาเท่าไหร่ก็เล่าสู่กันฟังเท่านั้นนะครับ ตรงไหนจำไม่ได้ก็บอกไว้ชัดว่า จำไม่ได้ หรือไม่แม่น ตรงไหนจำผิดไป รู้ผิดมา ถ้ามีคนกรุณาแก้ไขเพิ่มเติมผมก็จะขอบคุณ แต่ที่ว่ามานี่จำตำราไม่ได้ครับ ไม่มีแหล่งอ้างอิงครับ ถ้าจะเอาผมไปเข้าห้องสอบกันละก็ผมยอมแพ้ครับ เชิญสารวัตรเว็บไปข้างหน้าเถอะครับ สารวัตรเว็บทำบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความเห็นสบายๆ ในนี้เสียหมดแล้วครับ รู้ตัวรึเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 21 ก.พ. 02, 11:32
|
|
ทำใจให้สบายค่ะคุณนกข. เรือนไทยตั้งมาปีกว่าแล้ว เราก็คุยกันมาเรื่อยโดยไม่ต้องมีบรรณานุกรมหรือเชิงอรรถประกอบความเห็นของเราให้เกร็งกันเปล่าๆ ใครอยากรู้ก็ถาม ใครจำอะไรได้ก็บอก มากบ้างน้อยบ้างก็ไม่เห็นมีใครมาคาดคั้นอะไรกับใคร เพราะที่นี่คือกระดานสนทนา ไม่ใช่กระดานรายงาน หรือกระดานวิทยานิพนธ์
เรื่องนางอัปสรขอบอกว่าจำถูกแล้วค่ะ นางอัปสรกลุ่มใหญ่เกิดขึ้นหลังกวนเกษียณสมุทร ที่เทวดากับอสูรเอานาคมาชักคะเย่อ มีเขาพระสุเมรุปั่นอยู่ตรงกลาง ส่วนที่ลอยขึ้นมาเป็นครีมมีพิษร้ายที่พระอิศวรฉวยไปกลืนจนพระศอดำ พระลักษมี ธันวันตรี(แพทย์เทวดา) และนางอัปสร นางอัปสรเหล่านี้เป็นของกลาง ไม่มีใครรับไปเป็นภรรยา ทั้งที่ยังสาวสวย นานๆก็ถูกใช้ลงมาทำลายตบะฤาษี ที่จำได้คือนางเมนกาถูกใช้มาทำลายตบะพระวิศวามิตรจนเกิดลูกสาวคือศกุนตลา คลอดลูกเสร็จก็กลับสวรรค์ไม่มาเลี้ยงดู อีกคนคืออุรวศี แต่ทำอะไรลืมไปแล้วต้องไปหาหนังสือดร.ศักดิ์ศรีมาอ่าน ส่วนนางอัปสรา ก็มาจากอัปสรนั่นละค่ะ ภาษาสันสกฤต บาลีเรียกว่าอัจฉรา ดิฉันคิดว่าสาวประดับผนังนครวัดคงเป็นรูปแบบของคนงามในสมัยนั้น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์เคยเขียนล้อเอาไว้ในเรื่องสั้น ที่นางอัปสรสวยที่สุดในนครวัดได้แบบมาจากนางตะเภาเหาะ หล่อนเป็นหญิงงามแห่งนคร พูดอีกทีคือโสเภณี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 21 ก.พ. 02, 14:08
|
|
เรื่องนางอัปสรที่เกิดขึ้นตอนกวนเกษียรสมุทร ทำให้สงสัยอยู่อย่างครับ ก่อนหน้านั้นมีนางอัปสรอยู่บ้างแล้วหรือเปล่า เพราะรูปสลักการกวนเกษียรสมุทรที่นครวัดปรากฎเหล่าอัปสรจำนวนมากอยู่เหนือเหล่าเทพและอสูรที่ร่วมกันกวน ผมยังข้องใจอยู่ว่านั่นคือผลิตผลจากการกวน หรือเป็นเหล่าเชียร์ลีดเดอร์รุ่นดึกดำบรรพ์ซะก็ไม่รู้ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 21 ก.พ. 02, 14:36
|
|
ไม่มีทะเบียนสำมะโนครัวของชาวสวรรค์อยู่ในมือเสียด้วย เลยจนใจค่ะไม่รู้ว่านางอัปสรมีกี่รุ่น รุ่นแรกเกิดเมื่อไร คิดว่ารุ่นที่เกิดในเกษียณสมุทรน่าจะเป็นรุ่นตามกฏหมายสวรรค์ที่ยอมรับกันเป็นทางการ ส่วนภาพในนครวัดดิฉันเดาง่ายๆว่าไหนๆจะสร้างนครวัดเป็นเขาพระสุเมรุตั้งอยู่กลาง น้ำ ก็ต้องดึงเอาตอนกวนเกษียณสมุทรขึ้นเป็นหลัก เมื่อกวนตอนนั้น จะขาดนางอัปสรเสียก็เหมือนเล่นหนังไม่มีนางเอก มีแต่ตัวประกอบ จึงมีนางอัปสรลอยกันอยู่เต็มผนังเท่าที่จะเห็นงาม เอาเป็นว่าช่วงนั้นกวนน้ำนมกันมาพักใหญ่ ครีมคือนางอัปสรลอยขึ้นมาหมดแล้ว พอไหวไหมคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศศิศ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 21 ก.พ. 02, 16:07
|
|
ตอนกวนก็จะได้ทั้ง สุรา แล นารี.... โฮ่ ๆๆๆ ช่างสุขเกษมแช่มชื่นเสียจริงหนอ...ครบองค์ประกอบเลย 55555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|