ขอบคุณครับ
ยังอดไม่ได้ ขออภัยครับ
คุณดวง ถ้าชีวิตความเป็นอยู่ภายใต้ระบอบถนอมประภาสนั้นเป็นไปโดยปกติ แล้วเหตุการณ์วันมหาวิปโยคเกิดขึ้นได้อย่างไรไม่ทราบ อารมณ์ร่วมของประชาชนมาจากไหนครับ คุณกำลังจะบอกงั้นหรือว่า วีรชนทุกคนที่สละชีวิตในวันนั้นมีชีวิตเรื่อยๆ มาเรียงๆ เป็นปกติ แล้วจู่ๆ อยู่มาวันหนึ่งก็เป็นบ้า ลุกขึ้นมาล้มรัฐบาลเล่นโดยไม่มีเหตุผล ?
ไม่เป็นการหมิ่นน้ำใจวีรชนสมัยนั้นไปหน่อยหรือครับ หมิ่นมากกว่าที่คุณเกรงใจเพื่อนคุณที่ฝรั่งเศสจนไม่กล้าถามว่าไปแวร์ซายล์บ่อยไหม "เพราะค่าเข้าชมวังก็แพง" เอ๋อ?


? ทำไมไปเกรงใจตรงนั้น ยังไม่เห็นเหตุ แต่ทีกล่าวหาคนอื่นว่ายกเมฆ คุณพูดได้ กล่าวว่าเมืองไทยสมัยเผด็จการถนอมประภาสเป็นเรื่องปกติ คุณพูดได้ sense ในเรื่องความเกรงใจของคุณนี่ แปลกประหลาดมากครับ
ถ้าคุณไม่ให้ผมเรียกสมัยโน้นว่า ระบอบทหาร โดยอ้างเหตุผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยโน้นไม่ได้แตกต่างอะไรจากสิ่งที่เราได้มีได้รับอยู่ในสมัยนี้ภายใต้ประชาธิปไตยเลย มันก็เป็นปกติเหมือนๆ กันนั่นแหละ ก็น่าเศร้าว่าคุณไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่คุณเองได้รับอยู่เดี๋ยวนี้ โดยที่คนรุ่นก่อนคุณขึ้นไปเขาไม่มีโอกาสได้ และเขาปรารถนาที่จะได้จนได้ต่อสู้เพื่อให้คนรุ่นหลังอย่างคุณได้รับในสิ่งที่มีค่า แต่คุณไม่เห็นคุณค่าเลย
ผมเรียกสีสีหนึ่งว่า สีเขียวขี้ม้า เพราะมันเป็นสีเขียวขี้ม้าจริงๆ คุณอาจจะไม่ชอบคำว่าขี้ม้า ก็บอกกันดีๆ ได้ อาจพอจะเลี่ยงเรียกเสียเป็น สีกากีแกมเขียว ได้ เพราะจะเรียกชื่ออย่างไรในสารัตถะมันก็อันเดียวกัน แต่คุณจะปฏิเสธว่ามันไม่ใช่สีเขียวซักหน่อย เป็นสีชมพูต่างหาก นี่ ผมกล้ำกลืนไม่ลงครับ ผมตาไม่บอดสี