ศ.ดร.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา

[เทาชมพู]

ขอแสดงความเสียใจ ที่วงการหนังสือได้สูญเสียนักวิชาการและนักเขียนผู้มีคุณค่าอย่าง  ศ.ดร.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา  เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2545

ในวันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2545  คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    มีกำหนดการเตรียมมอบ
โล่ห์  "อักษรศาสตร์ดีเด่น"  แก่ท่าน   เนื่องในวาระครบรอบ 84 ปี คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่พอดี  แต่ท่านได้จากไปเสียก่อน

นับเป็นความสูญเสียที่ประมาณมิได้  
ขอแสดงความเสียใจต่อเพื่อนร่วมงาน และลูกศิษย์ของท่านมา ณ โอกาสนี้

[นกข.]

ใจหายครับ

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนร่วมงาน และศิษย์ของท่านมาด้วย ณ ที่นี้

ไม่มีโอกาสเสียแล้วที่จะได้พบอาจารย์และเรียนอาจารย์ด้วยตนเองว่า ผมติดตามอ่าน ภารตนิยาย วิกรมจริต (นิทานนางตุ๊กตาแก้ว) และงานอื่นๆ ของท่านอยู่ และถือตัวเองเป็นลูกศิษย์ทางตัวหนังสือของท่านด้วย

เข้าใจว่า อาจารย์ศักดิ์ศรีเคยไปศึกษาวิชาว่าด้วยภาษาบาลีหรือสันสกฤต หรือไม่ก็วรรณกรรมอินเดียโบราณ ที่สหรัฐฯ (ที่ฟิลาเดลเฟีย?) เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว

[จ้อ]

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

[ภูวง-ภังคี]

มาร่วมแสดงความเสียใจด้วยครับ
พวกเราติดตามงานของท่านตั้งแต่เขียนลงในสตรีสารและได้มีโอกาสสัมผัสกับท่านเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยด้วย

[ภาธร]

มาร่วมแสดงความเสียใจด้วยเช่นกันครับ
ผมเคยได้พบท่านตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยครับเพราะศรัทธางานเขียนของท่านมาก

[N.K.Kh.]

As I said, I was one of his fans and followers, although I never met him in person (and it is already too late now).



I just talked with my parents, checking with my Dad on something he used to tell me some time ago, which I happened to remember. More than 30 years ago, there were only a few Thai students in Philadelphia, so everybody knew everybody. And Acharn Saksee, who were 2 years older than my father, lived in the same apartment building as my father (who was taking medical training course) then. My father remembers Acharn Saksee as a brilliant student of Pali-Sanskrit. According to my father, one of Acharn Saksee's professors of Sanskrit, a special visiting professor to his university, was one of the former presidents of India.  After returning to Thailand, my father rarely saw Acharn Saksee, as they moved in different circles. The first chance in many years that my father will see Acharn Saksee again will be at the temple, at Acharn Saksee's memorial service.



I have asked my Dad to also pay respect to Acharn Saksee on my behalf at the temple.

[บัวบรรณ]

อาจารย์ศักดิ์ศรี เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสามารถในด้านอักษรศาสตร์
มีความเป็นปราชญ์ในด้านภาษาบาลีและสันสกฤต
โดยส่วนตัวเคยได้มีโอกาสร่ำเรียนกับท่านในสมัยยังเยาว์
ยังจำความเป็นอาจารย์ของท่านที่ต้องการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ให้ศิษย์ได้เป็นอย่างดี

เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปฟัง ท่านพูดเกี่ยวกับภารตนิยายซึ่งเป็นหนังสือที่นำมารวบรวมขึ้นใหม่อีกครั้ง...เป็นหนังสือที่ท่านใช้ความพยายามอุตสาหะในการแปล

การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการนักวิชาการและวรรณกรรมไทย
ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวของท่านด้วยค่ะ

ผลงานหลายเล่มของท่านมีประโยชน์และมีคุณค่ามาก เช่น ภารตนิยาย
เวตาลปัญจวิงสติวิกรมจริต ศักดิ์ศรีนิพนธ์ ศักดิ์ศรีวรรณกรรม ฯลฯ

[k]

ถ้าจำไม่ผิด เคยถูกจับไปเรียนกับท่านช่วงหนึ่งตอนปิดเทอม
เพราะภาษาไทยตัวแย่มาก ไม่ทราบว่าท่านใส่แว่นตา
ชอบใส่เสื้อพระราชทานสีขาวหรือเปล่าครับ
ถ้าใช่ ท่านสอนเก่งมากมาก แล้วก็ดุ ปากคมกริบเลย
เป็นความทรงจำที่ดีมากนะครับ อย่างไรก็ขอแสดงความเสียใจด้วยเช่นกันครับ

[ส้มหวาน]

ท่านดุมากค่ะ เคยเรียนกับท่าน ท่านเก่งมากด้วย ขอแสดงความเสียใจค่ะ