เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 7305 ฝ่ายมูจาฮีดินยึดกรุงคาบูลได้แล้วครับ (ข่าวล่า)
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
 เมื่อ 30 พ.ย. 01, 21:44

ข่าวล่าสุดแจ้งว่าผ่ายมูจาฮีดินยึดเมืองหลวงของอัฟกานิสถานคืนจากตาลีบันได้แล้วครับ

หวังว่าคงจะหยุดการทิ้งระเบิดเร็วๆนี้ครับ
บันทึกการเข้า
วรณัย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 14 พ.ย. 01, 08:46

ความวุ่นวายเรื่องใหม่เกิดขึ้นแล้ว
1. ตาลีบันทำสำเร็จ สงครามภาคพื้นดินจะปะทุ
2. ปากี ให้การสนับสนุนตาลีบัน แต่ไม่สนับสนุนพันธมิตร
3. อุเบ็ค ทาจิค สนับสนุนพันธมิตร
4. รัสเซียไม่สนับสนุน พันธมิตร
5. อเมริกายังกล้าไม่ส่งทหารไปลงปากี
6. พันธมิตรสังหารหมู่ ตาลีบัน 600 ศพที่เมอชาอีชา
7. พันธมิตรไม่ยอมให้อดีตชาร์อีชา กลับมาปกครอง ตามอเมริกา
8. ปุชตุนกว่า 60 % ทั่วอัฟกา คงไม่ยอมให้ชนกลุ่มน้อยมาปกครอง
9. ตาลีบันเตรียมสถาปนา กันดาฮา เมืองทางศาสนาเป็นเมืองหลวงอยู่แล้ว
10. จักวรรดิ์นิยมอเมริกา กำลัง แยกแล้วปกครอง
11. ระบอบ พันธมิตร เลวร้ายกว่าตาลีบันหลายเท่า
12. ไม่มีข่าวยุทธศาสตร์ของอัลเกดา และตาลีบันเลย
13. ยุทธการทิ้งระเบิดของอเมริกา ทำกับอัฟกานิสถานน้อยกว่าทำกับฮานอยและลาว
14. อย่าเชื่อสื่อตะวันตก เพราชาวทาจิค อุสเบ็ค ที่อยู่ในกองทัพพันธมิตรภาคเหนือมีประชากรประมาณ 6 % ของประชากรทั้งหมด
15.นักรบมูจาฮีดีน ในคราวสงครามขับไล่รุสเซีย มีปุชทาน(รวมทั้งตาลีบัน)เป็นแกนนำ
16. พวกเขารอ และกำลังหลอกล่ออเมริกาและตะวันตกให้สงทหารเข้ามาเสียที
17. สหประชาชาติเริ่มแตกคอกับอเมริกา
18. รุสเซียไม่สนับสนุนอดีตกษัตริย์ แต่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี
19. คาบูลเป็นเมืองที่ยึดง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอัฟกานิสถาน
20. อย่าเชื่อ CNN รอดูความรุนแรงที่จะมีมากขึ้น


21. ขอให้สันติภาพเกิดขึ้นเสียที อย่ายิงและทำลายเด็ก คนแก่ ผู้หญิง ไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 14 พ.ย. 01, 10:01

หา Rambo III ดูซะ แล้วเปรียบเทียบกับสงครามครั้งนี้ แล้วจะรู้ว่าใคร อะไร ยังไง ในอัฟกานิสถาน
บันทึกการเข้า
วาภิ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 14 พ.ย. 01, 10:50

เย้ดีใจจังเลย
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW843x003.jpg'>
บันทึกการเข้า
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 14 พ.ย. 01, 11:03

เหตุการณ์พลิกผันเยอะมาก ทำไมอยู่ ๆ บิน ลาเดน ถึงออกมาพูดเหมือนยอมรับว่าเป็นคนก่อการร้ายจริง ๆ
แล้วฝ่ายเหนือก็ยึดกรุงคาบูล ได้อย่างง่ายดาย เหมือนตาลิบันจะถอนทหารไปเฉย ๆ ไม่อยู่ในเมืองแล้ว หรือว่าฝ่ายตาลิบันจะหันไปใช้สงครามกองโจรอยู่บนภูเขา แบบนี้ต่อให้มีรัฐบาลใหม่จริง  มีกองกำลังสหประชาชาติเข้าไปดูแล แต่กองกำลังนั้นก็อาจจะถูกลอบโจมตีจากฝ่ายตาลิบันได้หรือเปล่า
บันทึกการเข้า
Joe:|
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 14 พ.ย. 01, 14:36

เสร็จไปแล้วหนึ่ง แล้วประเทศใดจะเป็นรายต่อไป -_-!
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 15 พ.ย. 01, 00:06

ถ้าพูดในแง่เคร่งศาสนา  และการกดขี่ผู้หญิงแล้ว  เท่าที่พอได้ยินมา  พวก Northern Alliance ก็ไม่ต่างจากพวกตาลีบันเท่าไหร่หรอกค่ะ  คงต้องดูกันไปก่อนอีกล่ะค่ะ  ว่าจะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อประชาชนชาวอัฟกานี
บันทึกการเข้า
Joe:|
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 15 พ.ย. 01, 14:41

คุณพวงร้อยครับ CNN จะฉายสารคดีของ Saira Shah เรื่อง "Unholy War" ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้เธอกลับเข้าไปในอัฟกานิสถานอีกครั้งหลัง เพื่อไปหาเด็กหญิงที่เธอสัมภาษณ์ไว้ในสารคดี "Beneath the Veil"



วัน-เวลาฉาย:

Unholy War

Saturday, 8 p.m. EST

Sunday, 11 a.m, 4 p.m,

7 p.m., and 11 p.m. EST



Beneath the Veil

(Encore Presentation)

Saturday,

2 p.m. EST



http://www.cnn.com/CNN/Programs/presents/' target='_blank'>http://www.cnn.com/CNN/Programs/presents/
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 16 พ.ย. 01, 20:44

ขอบคุณมากค่ะ คุณโจ  แต่ดิฉันไม่มีเคเบิ้ลทีวีน่ะซี  แถมวันนั้นก็จะไปดูฝนดาวตกอีกด้วย  ยังไงดูแล้วรบกวนมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
บันทึกการเข้า
นิลลา
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 18 พ.ย. 01, 20:35

เสียดายจังไม่ทันได้ดู  คุณ joe ได้ดูหรือเปล่าคะ  รบกวนช่วยเล่าสู่กันฟังหน่อย
บันทึกการเข้า
Joe:|
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 20 พ.ย. 01, 15:15

ดูตอนกลางๆเรื่องนะครับ คุณซาร่ากลับเข้าไปอัฟกันอีกครั้งหลังจากที่อเมริกันเริ่มบอมบ์กลุ่มตาลีบัน ส่วนใหญ่ก็กลับที่หมู่บ้านที่เคยแวะไปคราวก่อน ไปสัมภาษณ์เด็กที่ถืออาวุธอยู่แนวหน้า ไปดูค่ายผู้ลี้ภัย มีช่วงหนึ่งชาวบ้านบอกว่ากล่องช่วยเหลือที่เครื่องบินอเมริกันหย่อนทิ้งลงไปนั้น กลุ่มอัฟกันที่ไปถึงก่อนเป็นพวกทหาร(พันธมิตรฝ่ายเหนือ?) ที่ไปถึงเร็วกว่าเพราะรู้ข่าวจากการทหาร แล้วพวกนั้นก็เอาอาหารมาขายชาวบ้านต่อในตลาด :-(  



ซาร่ากล่าวว่าถึงตอนนี้ศัตรูเก่าคือตาลีบันจะจากไปแล้ว แต่ศัตรูที่เหลือก็คือความแร้นแค้น พืชผลก็ปลูกไม่ได้มานานแล้ว ประชาชนกำลังอดอยากเจ็บป่วย จะฟื้นฟูได้ก็คงอีกหลายปี



เมื่อซาร่ากลับไปหาเด็กหญิงสามคนที่แม่เธอถูกตาลียันฆ่าต่อหน้าต่อตาเมื่อคราวก่อน พากเธอยังอยู่ในบ้านที่เดิมกับพ่อของเธอ ไม่กล้าออกไปไหนเพราะกลัวทหารรวมทั้งฝ่ายเหนือด้วย โรงเรียนในหมู่บ้านก็ไม่มีให้ไป ทั้งๆที่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆกันออกมาซัก 20 กม.เริ่มเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงแล้ว แต่พ่อของเด็กก็ไม่ยอมทิ้งบ้าน ถึงซาร่าจะอาสาออกค่าย้ายบ้านให้แต่พ่อแกก็หัวแข็งยังไงก็ไม่ยอม



สุดท้ายซาร่าก็ยอมรับว่าเรื่องนี้เกินกว่า"quick fix" จะแก้ได้ครับ แต่อย่างน้อยการศึกษาและสิทธิของสตรีก็เริ่มฟื้นขึ้นมาบ้างแล้ว



ในรูป: พ่อของเด็กกับเด็กหญิงที่อยู่ในบ้าน เมื่อซาร่ากลับไปหาอีกครั้งที่สอง
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW843x010.jpg'>
บันทึกการเข้า
Joe:|
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 20 พ.ย. 01, 15:24

บรรยากาศในโรงเรียนเด็กผู้หญิงครับ อนาคตของชาติอยู่ที่นี่
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW843x011.jpg'>
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 20 พ.ย. 01, 15:28

ขอบคุณมากค่ะ คุณโจ  ดิฉันอ่าน นสพ ที่สัมภาษน์ Saira Shah ด้วยค่ะ  เค้าก็ว่า  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอฝืนกฏประจำใจของนักข่าวที่ดี  คือจะไม่สร้างความผูกพันส่วนตัวกับ ผู้ที่เป็นข่าว  แต่เธอรู้สึกขัดแย้งกับอารมณ์ส่วนตัวมาก  จนไม่คำนึงถึงหลักปฏิบัติของนักข่าวอาชีพ  แบบทำไปตาม "เสียงเพรียกจากปิติภูมิ" น่ะค่ะ

ข่าวยังว่า  เธอและช่างภาพต้องลักลอบเข้าอัฟกานิสถานอย่างผิดกฎหมาย  ไปจ้างพวกมุจาฮะดีนนำทาง  เค้าก็พาไปหลงบนเขาสูงถึง หมื่นกว่าฟิตเสียอีก  ต้องซมซานหาทางกันอยู่นาน  ตัว ไซร่า เองก็มีอาการน้ำแข็งกัด(frostbite) จนปากชาพูดไม่ชัด  เธอก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแบบนั้น  แล้วก็รู้สึกลำบากใจมาก  ที่อยากจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น  แต่แล้วก็ต้องยอมรับว่า  ตัวเองไม่มีพลังอำนาจใดๆ  แม้แต่จะช่วยทำให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นบ้างเพียงเล็กน้อย  เพราะมันเป็นระบบสังคมทั้งระบบ  ที่ไม่อาจแก้ได้เพียงด้วยการให้เงินแก่ครอบครัวหนึ่ง  เพื่อแก้ปัญหาส่วนหนึ่งได้เท่านั้น  เพราะมันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทุกๆส่วน  ที่เกินกว่าคนๆเดียวจะแก้ให้ได้

ดิฉันว่า  ปัญหาส่วนใหญ่นั้นมาจากความมุ่งมั่นที่บางครั้งมีมากเกินไปของพลเมืองเค้านั่นแหละค่ะ  ที่ไม่ยอมให้อะไรเปลี่ยนไปต่อให้หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ถอย  การเปลี่ยนแปลงต่างๆมันก็เกือบจะเป็นไปไม่ได้  แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ  ความมุ่งมั่นแบบนี้  มันก็จำเป็นต่อการอยู่รอดในทะเลทรายอันทุรกันดาร  แต่ไปถึงจุดหนึ่ง  มันก็กลับไปด้วยกันไม่ได้กับโลกปัจจุบันน่ะค่ะ  หากเค้าไม่ยอมตามโลกไปให้ทัน  มันซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้ด้วยน่ะค่ะ
บันทึกการเข้า
Joe:D
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 20 พ.ย. 01, 16:42

นับถือซาร่าในความเด็ดเดี่ยวของเธอจริงๆครับ อ่านความเห็นท่อนสุดท้ายของคุณพวงร้อยแล้วนึกถึงภาพยนต์เรื่อง The God must be crazy ที่สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวป่าอาฟริกันที่ไม่ต้องพึ่งการตามโลกภายนอก แต่วันหนึ่งก็มี(ว่าที่)เทคโนโลยีหลุดเข้ามา (ขวดโค้กที่นักบินโยนทิ้งลงมา)ทำให้สังคมวุ่นวายไป (แย่งกันเป่าขวดร้องเพลงกัน :-)

อีกเรื่องคือ Contact ที่ตอนนึงพระเอกถามนางเอกว่าเทคโนโลยีทำให้มนุษยชาติมีความสุขขึ้นจริงๆหรือ ฤาแต่ทำให้ลำบากขึ้นที่ต้องขวนขวายหามาใส่ตัวไม่รู้พอ แต่ผมว่าถ้าอยู่กันแบบเดิมไม่เปลี่ยนชีวิตก็คงเรียบสงบเกินไปมั๊งครับ

ถ้าดินแดนแถบอัฟกานิสถานไม่มีน้ำมันก็ไม่รู้ว่าต่างชาติเช่นอังกฤษ รัสเซีย อเมริกันจะเข้าไปยุ่งด้วยตั้งแต่แรกรึเปล่าหนอ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 21 พ.ย. 01, 00:58

ถ้าคุณไปถามพวกผู้ชาย  ก็แน่ล่ะค่ะ  เค้าไม่อยากให้อะไรเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น  แต่ลองไปถามผู้หญิงสิ่  คำตอบต้องต่างกันแน่ๆเลย  แล้วทีนี้เราจะทำยังไงดีล่ะคะ  จะปล่อยให้สังคมค่อยๆคลี่คลายขยายตัวไปตามวิถีที่คนครึ่งหนึ่งของสังคมนั้นยังทนทุกข์  หรือจะเข้าไปเกี่ยวข้อง  

ดิฉันไม่มีคำตอบให้หรอกค่ะ  บอกได้แต่ว่า  ถ้าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น  ก็มองแต่หาทางบรรเทาทุกข์ของคนที่สุดทนได้เท่านั้นเองค่ะ  มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์  

โลกมันแคบลงทุกวันๆน่ะค่ะ  จะเลี่ยงไม่ให้ขอบเขตของแต่ละวัฒนธรรมที่เคยอยู่ต่างหากจากกัน  ไม่มากระทบกันนั้น  คงเป็นไปได้ยากขึ้นทุกทีน่ะค่ะ  ถึงอังกฤษ อเมริกัน รัสเซียไม่ไปยุ่ง  ไม่นานก็ต้องมีใครคนอื่นเข้าไปยุ่งอยู่ดีแหละค่ะ  แม้แต่ในประเทศของเค้าเอง  มีกชุ่มชนเผ่าหลากหลาย  ที่ต่างก็จ้องจะขึ้นมามีอิทธิพลเหนือกลุ่มอื่น  มันเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก  เหมือนในอดีตเช็คโกสโลเวเกีย  ถ้าเป็นสมัยโบราณ  เค้าก็ฆ่ากันตายเอง กลืนชาติกันไปเอง  แล้วเรื่องราวเหล่านั้นก็ถูกกลืนหายไปกับผู้มีชัย  แต่มาปัจจุบัน  เราได้รับรู้เห็นด้วยถึงสิ่งที่เกิดอย่างนี้  ก็ต้องเผชิญกับปัญหาใหม่  ที่บรรพบุรุษของเราไม่ต้องเผชิญมาก่อน  คือการได้รับรู้เรื่องราวในต่างแดนน่ะค่ะ

ขอจบห้วนๆอย่างนี้นะคะ  เพราะมันยากเกินปัญญาที่จะตรองได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง