เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 20643 เทวดาไทย vs เทวดาฝรั่ง
ศศิศ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 26 ต.ค. 01, 18:02

แต่เดิมทีตำราทางพราหมณ์ นั้น พระอินทร์ไม่ได้มีกายาสีเขียวหรอกครับ ออกดำ-แดง เลยล่ะ อาจเกิดการบอบช้ำจากการถูกยึดอำนาจก็เลยเขียวเป็นจ้ำ ๆ ต่อมาก็เลยเขียวทั้งตัวไม่หาย ก็เลยมาเป็นสีเขียวอย่างเช่นทุกวันนี้ ( มั่วแหลกละเอียดเลย  ไม่รู้เหมือนกันว่า เหตุไฉนไหนผิวกายจึงมาเป็นสีเขียวได้ ... )
บันทึกการเข้า
Neo
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 07 พ.ย. 01, 04:34

รัศมีจากมรกตที่ชฏาทำให้มีสีเขียว
บันทึกการเข้า
Caeruleus
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 23 พ.ย. 01, 03:13

ขอออกนอกเรื่องพระอินทร์แล้วย้อนไปที่ต็นกระทู้นิดนึง - Leprechan นี่ใช่ Leprechaun หรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
ladydunce
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 18 มี.ค. 06, 00:52

 #14   คุณเทาชมพูคะ

Link เสียค่ะ มีข้อมูล Save ไว้ไหมคะ?
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 18 มี.ค. 06, 04:17

 ตอบ ค.ห. 18 (คนละอันกับ bad link ใน คห 14 ค่ะ)

เดิมที อินเดียเขานับถือพระอินทร์ก่อนที่ตรีมูรติเข้ามา (ตรีมูรติ คือ พระเป็นเจ้า สามพระองค์
ได้แก่ พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ รวมเป็นเอกภาพหนึ่งเดียว ใครใหญ่กว่าก็ขึ้นอยู่ว่าเป็น
พราห์มลัทธิไหน ถ้าเป็นพราห์มที่นับถือพระพรหมก็จะบอกว่าพระพรหมเป็นใหญ่ ถ้าเป็นพราห์มที่
นับถือพระอิศวรก็จะบอกว่าพระอิศวรเป็นใหญ่ )

ต่อมาพลเมืองถูกกวาดต้อนให้นับถือตรีมูรติ เพราะชาวอารยันที่รุกเข้ามาต้องการแสดงความเหนือ  
พระอินทร์จึงถูกร่นถอยให้เป็นเพียงเทวดาองค์เล็ก ๆ

พุทธเรายังนับถือพระอินทร์มากกว่า จะเห็นได้จากวรรณคดีชาดก และก็ เห็นได้จาก ประวัติพระ
พุทธเจ้า(พระปฐมโพธิกถา) และพระอินทร์จึงมีบทบาทเข้ามาร้อนอาสน์วุ่นวายกับพระเอกในวรรณคดีเสมอ
ไทยรับวรรณคดีมาจากอินเดีย แต่รับมาทางพุทธ ....
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 18 มี.ค. 06, 08:39

 ตอบคุณ ladydunce
ไม่มีค่ะ น่าเสียดาย
เป็นเว็บที่เก็บกระทู้เก่าๆในห้องมองอดีตของไกลบ้าน พันทิป
คุณพระนายก่อตั้งขึ้น

หลายปีมาแล้วคุณพระนายเคยแวะเข้ามาคุยในเรือนไทย
แต่ปัจจุบันหายเงียบไป
เลยไม่ทราบจะติดตามถามใครค่ะ
บันทึกการเข้า
HotChoc
มัจฉานุ
**
ตอบ: 62


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 19 มี.ค. 06, 13:47

 ขอเพิ่มเติมลำดับชั้นของทูตสวรรค์ในคริสต์ศาสนานะครับ เรียงจากต่ำไปสูง

1. Angels
2. Archangels
3. Principalities
4. Powers
5. Virtues
6. Dominions
7. Thrones
8. Cherubim
9. Seraphim

แต่ละระดับก็มีหน้าที่ของตนเอง แต่มนุษย์จะคุ้นเคยกับ 2 ระดับแรกที่สุดเพราะเป็นผู้นำสารจากพระเจ้ามาสู่มนุษย์ (angel แปลว่า messenger ในภาษาฮิบรู) เทพเจ้าในความเชื่ออื่นๆ (เช่นสุเมเรียนหรือบาบิโลเนียน) ก็หลงเข้ามาเป็นเทวดาระดับสูงบ้าง แต่ส่วนมากจะกลายไปเป็นพลพรรคซาตานไป
บันทึกการเข้า
ราตรีประดับดาว
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 29 มี.ค. 06, 13:13

 ทำบุญอะไรจึงได้ไปสวรรค์ในแต่ละชั้น?
*สวรรค์
คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียดอันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา มีทั้งหมด 6 ชั้น

เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที งดงามตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาจุติ ไม่มีความแก่บังเกิดขึ้นเหมือนในเมืองมนุษย์

วิมานปราสาทคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม มีขนาดแตกต่างกัน มี ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีอาหารทิพย์บังเกิด ขึ้น มีบริวารคอยรับใช้ใกล้ชิด เสื้อผ้าเป็นทิพย์ วิจิตรงดงาม บังเกิดขึ้นให้สวมใส่ กิจกรรมแต่ละวันก็มีการเที่ยวเพลิดเพลินบันเทิงอยู่กับการชมสวน

การสังสรรค์กันระหว่างทวยเทพทั้งหลาย ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็น เทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะอะไรนั้น ก็ ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้
บันทึกการเข้า
ราตรีประดับดาว
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 29 มี.ค. 06, 13:14

 เกิดบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

มีจาก หลายสาเหตุ คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ ค่อยเป็นไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์


เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมีท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ
บันทึกการเข้า
ราตรีประดับดาว
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 29 มี.ค. 06, 13:15

 เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา
คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไร ก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน    ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป



เกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต
คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป
บันทึกการเข้า
ราตรีประดับดาว
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 29 มี.ค. 06, 13:15

 เกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
คือ เมื่อ   ครั้งเป็นมนุษย์ เห็นผู้อื่นทำบุญแล้วได้รับ การยกย่อง ส่งเสริม จึงอยากจะทำบุญนั้นบ้าง อยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง เมื่อละโลกแล้ว  จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป




เกิดบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ   ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป






ความเป็นอยู่ของชาวสวรรค์แต่ละชั้น    จะมีความประณีตยิ่งๆ ขึ้นไปตามลำดับชั้น ถ้าใครทำบุญมามาก จนครบทุกอย่างดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ปรารถนาจะไปอยู่ ณ ที่ใด ก็สามารถจะไปสวรรค์ชั้นที่ต้องการได้   เหตุแห่งการกระทำที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุหลักๆ เป็นภาพรวมของการทำบุญที่ทำให้ไปเกิดในสวรรค์ในแต่ละชั้นแต่อาจ  จะมีองค์ประกอบและปัจจัยอย่างอื่นเสริมอีกด้วย
บันทึกการเข้า
ราตรีประดับดาว
อสุรผัด
*
ตอบ: 20


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 29 มี.ค. 06, 13:17

 ศึกษา เพิ่มเติมได้ที่นี้ครับ

 http://www.dmc.tv/pages/guide

หรือ

 http://www.dmc.tv  
บันทึกการเข้า
111
มัจฉานุ
**
ตอบ: 55


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 17 เม.ย. 06, 13:12

 ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เป็นสวรรค์ที่มีความแปลกอย่างหนึ่งคือ มีเทพผู้ยิ่งใหญ่ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเทพ และฝ่ายมาร ปกครองร่วมกันบนสวรรค์ชั้นนี้
บันทึกการเข้า
นพณัฐ
อสุรผัด
*
ตอบ: 7

เรียนมัธยมปลาย ม.4 สายศิลป์ภาษา-ฝรั่งเศส มารีย์วิทยา นครราชสีมา


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 17 เม.ย. 06, 22:29

 ถ้าหากเรียก charlie's fairy คงจะเป็นหนังเด็กไปมั้งครับ ชาร์ลีย์แองเจิล ส่อให้เห็นถึงเซ็กซี่นะ ผมว่า
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 19 คำสั่ง