เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 2644 บาปบุญมีจริง
ลูกนวมินทรฯ 2505@i-kool.com
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 18 ต.ค. 01, 01:58

จำได้ไหมค่ะว่า อัฟกานิสถานน่ะสั่งระเบิดพระพุทธรูปที่เก่าแก่รวมพันปี ตอนนี้เลยโดนสั่งบอมเลย หรือคิดกันว่าอย่างไรค่ะ
บันทึกการเข้า
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 17 ต.ค. 01, 04:54

มันอาจจะ หรือไม่ก็ไม่ทราบน่ะครับ
การคิดว่าบาปบุญมีจริง โดยยกตัวอย่าง กันแบบเห็นชัด ๆ นี่ก็พูดยาก เพราะจะให้ผมบอกว่า ตาลิบันสั่งบอมบ์ พระพุทธรูป เลยต้องโดนบอมบ์ มันก็จะเป็นตรรกะ เดียวกันกับที่ บางคนบอกว่า รัฐบาลสหรัฐ ดำเนินนโยบายต่างประเทศ ไม่ดี ไปทำร้ายคนอื่นเค้า เลยทำให้ พวกผู้ก่อการร้าย มาบอมบ์ ตึกเวิล์ดเทรด แล้วก็เพนตาก้อน
ผมไม่ค่อยชอบตรรกะ หรือกฎแห่งกรรมนี้เท่าไหร่ เพราะว่า คนรับเคราะห์ ไม่ใช่คนที่กระทำ คนบนตึกเวิล์ดเทรด ไม่ได้เป็นคนไปก่อบาปกรรมไว้อย่างที่พวกผู้ก่อการร้ายว่า
แล้วตอนนี้ คนที่ตายจากการโจมตีของอเมริกัน ก็ไม่ใช่ คนที่ไปบอมบ์พระพุทธรูป หรือเห็นด้วยกับการบอมบ์ ทั้งหมด มีคนบริสุทธิ์ โดนลูกหลงด้วยเช่นกัน
ผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่า ถ้าเป็นบาปกรรม ทำไมถึงตามสนองคนที่ไม่ได้ทำหรือก่อกรรมนั้นโดยตรงล่ะครับ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 17 ต.ค. 01, 15:24

ผมไม่เห็นด้วยนะที่ว่าเพราะตาลีบันทำลายพระพุทธรูปแล้วทำให้โดนอเมริกาบอมบ์นั้นเป็นเพราะกรรม แต่การที่ตาลีบันทำลายพระพุทธรูปแล้วทำให้ชาวพุทธในไทยจำนวนมากเกลียดชังตาลีบันนี่สิคือกรรมแท้ๆ หรือถ้าจะขยายความต่อไป กรรมนี้เองทำให้เมื่อตาลีบันถูกอเมริกาบอมบ์ ผลกรรมจากการทำลายพระพุทธรูป ทำให้ชาวพุทธในไทยจำนวนหนึ่งรู้สึกเห็นดีเห็นงามกับการบอมบ์นั้น แก่นพุทธคือปัญญาครับ
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 18 ต.ค. 01, 00:16

ที่น้องเขาว่าบาปบุญมีจริงนั้นผมเห็นด้วย ผมเชื่อเรื่องกรรมครับ

แต่ขณะเดียวกัน การให้ผลของกรรมเป็นอะไรที่สลับซับซ้อนมาก เพราะคิดง่ายๆ ว่าคนเราไม่ได้เกิดมาทำกรรมอย่างเดียวในชาติหนึ่ง แต่ทำไม่รู้กี่ล้านอย่าง การกระทำอย่างหนึ่งส่งผลกระทบเป็นใยแมงมุมเป็นสายไปอีกแยะ ดังนั้นเวลากรรมจะให้ผล จะให้ผลเมื่อไหร่ ยังไง เท่าไหน ไหนก่อนไหนหลัง ... ดูเหมือนตำราจะว่า มีแต่พระพุทธเจ้าแหละครับที่รู้แน่ๆ ว่าการให้ผลของกรรมของสัตว์โลกกรณีหนึ่งๆ เป็นมาอย่างไร มีที่มาที่ไปยังไง

ยังมีเรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่อีก ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะถ้าเราเชื่อแต่ผลของกรรมเก่าอย่างเดียวก็เป็นอะไรที่เรียกว่านิยัตินิยม ถูกกำหนดมาแล้วตายตัวดิ้นไม่ได้ (จะโดยกรรมเก่าหรือโดยพรหมลิขิต หรือโดยดวงก็ตาม) ซึ่งไม่ใช่ความคิดของพุทธศาสนา ไม่ยังงั้นคนที่ไปฆ่าเขาก็จะบอกได้ว่า ช่วยไม่ได้ ชาติที่แล้วเขาฆ่าผมนี่ ผมไม่มีอำนาจเหนือการกระทำของผม กรรมเก่ามาบังคับให้ผมฆ่าเขา ซึ่งไม่จริงเสมอไป ทางพระท่านว่าแก้ตัวไม่หลุดครับ คุณไม่ต้องทำกรรมใหม่คือฆ่าเขาก็ได้นี่นา คุณมีเสรีในการกระทำในระดับหนึ่ง แล้วคุณก็ต้องรับผิดชอบผลที่เกิดจากการกระทำของคุณด้วย
บันทึกการเข้า
สายลม
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 18 ต.ค. 01, 13:58

ถ้าชาวพุทธเรามีความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างท่านเจัาของปัญหานี้ และมีความเขัาใจในหลักของพระพุทธศาสนาอย่างท่านในความเห็นที่ ๓ แลัว  โลกนี้สว่างไสวแน่ครับ  ไม่มืดมัวสับสนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่ขาดความเป็นวิญูญูชน ไม่รู้ผิดรู้ถูก ไม่รู้บาปบุญคุณโทษ ทั้งที่เป็นชาวพุทธ

  เรื่องของกรรมวิบากคือผลของกรรมนั้น เป็นอจินไตย  คือไม่สามารถนึกคิดเอาได้ด้วยตรรกะ แต่เป็นเหตุเป็นผลที่สลับซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้ที่ยังไม่ได้วิชชาสามจะอธิบายได้  วิชชาสามเป็นวิชชาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อย่างทั่วถึง ครบถ้วน หมดจด  ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน  แม้แต่พระอรหันต์ก็มีได้ไม่เท่าเทียม

   เรื่องผลของกรรมเป็นเรื่องวิชชาที่สอง ชื่อว่าจุตูปาตญาณ เป็นญาณทัสนะที่รู้ชัดถึงสัตว์ผู้กระกรรมใดไว้ จะได้รับผลแห่งกรรมนั้น ชึ่งบางเรื่องอาจจะทันเห็น อย่างที่เราเรียกกันว่า กรรมทันตา บางเรื่องอาจไม่ทันเห็น ที่เรียกว่า กรรมยังตามไม่ทัน    แต่ที่แน่ๆคือกรรมต้องตามทันในวันหนึ่ง เพียงแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

   มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยพยายามอธิบายหลักพระพุทธศาสนาในเชิงตรรกะ โดยใช้ปัญญาของปุถุชนหรือโลกียปัญญา แม้แต่พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงบางรูป ก็ยังใช้โวหารบิดเบือนพุทธวจนะ สั่งสอนไปตามอัตโนมัติของตน เพราะเกรงว่าจะถูกหาว่าคร่ำครึ ไม่ทันสมัย ไม่เป็นวิทยาการสมัยใหม่ ทำให้หลักพระพุทธศาสนาผิดเพี้ยนไป บรรดาพุทธศาสนิกชนที่ไม่ได้ศึกษาหลักพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องแท้จริง ก็เชื่อแต่คำสอนของพระสงฆ์ที่ตนนับถือ เวลาไปอ้างอิงก็จะกล่าวว่า เป็นธรรมะของท่านผ้นั้น ท่านผุ้นี้ โดยมิไดัสนใจเลยว่าในเรื่องนั้นๆพระบรมศาสดาได้สอนไว้อย่างไร
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 17 คำสั่ง