เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 9692 ทิเบต-ดาไลลามะ
วอสอ
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 23 ต.ค. 01, 10:51

มีใครสนใจประทศนี้ และองค์ประมุขบ้างค่ะ เคยอ่านอัตชีวประวัติขององค์ดาไลลามะแล้วประทับใจมาก
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 11 ต.ค. 01, 01:19

ทะชี เดเล็ก - สวัสดีครับ (ภาษาทิเบตครับ)

กระทู้อันนี้หลุดจากหน้าต่างโลกขึ้นไปบนหลังคาโลกแล้วครับ...

องค์ทะไลลามะท่านว่าทิเบตเป็นประเทศอิสระที่ถูกจีนยึดครองด้วยกำลังทหาร จนท่านต้องไปลี้ภัยในอินเดีย  คนทิเบตจำนวนมากก็ว่ายังงั้น แต่ถ้าถามทางการจีน เขาจะบอกว่าทิเบตไม่ใช่ประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนของเขา เรื่องของการถือประวัติศาสตร์คนละเล่มอีกเหมือนกัน

ที่จริง แต่เดิมมาทิเบตเป็นอาณาจักรหนึ่งของเขาเองจริงๆ มีพระเจ้าแผ่นดินของเขาเอง (สมัยนั้นพระเจ้าแผ่นดินแม้จะเป็นพุทธ แต่ก็ยังเป็นคน ไม่ใช่พระ คือไม่ใช่ระบบสังฆราชาอย่างทิเบตสมัยหลัง) แต่ต่อๆ มา มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไรอะไรผมก็ไม่แม่น แล้วมีสมัยหนึ่ง ที่จีนอ้างว่าหลักฐานทางฝ่ายจีนบอกว่าทิเบตยอมเข้ามาเป็นเมืองจึ้นจีน ตั้งแต่ครั้งฮ่องเต้องค์ไหนก็ไม่ทราบ เขาว่า ฮ่องเต้จีนทรงแต่งตั้ง (หรือรับรอง) ทะไลลามะ จีนคอมมิวนิสต์เดี๋ยวนี้ ซึ่งแม้จะไม่มีฮ่องเต้แล้วก็ยังถือว่าได้รับสืบสิทธิมาตั้งแต่สมัยโน้น จึงว่า ทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีนมาตั้งแต่ครั้งกระโน้น เขาไม่ได้ยกทัพไปตีอีกชาติหนึ่ง เขาเข้าไปในดินแดนของเขาเอง ฝ่ายทะไลลามะต่างหากเป็นพวกที่พยายามแยกดินแดน ยิ่งกว่านั้นจีนบอกว่าการปกครองแบบระบบลามะหรือสังฆราชาธิปไตยเดิมนั้นป่าเถื่อนล้าหลังกดขี่ เป็นศักดินามาก เขาเข้าไปช่วยปลดแอกประชาชนชาวทิเบตด้วยซ้ำ

ผมก็ไม่แม่นอีก ว่าทิเบตเขาเถียงจีนยังไง ผมเดาเอาว่าจะเป็นเรื่องของระบบบรรณาการหรือจิ้มก้องเสียก็ไม่รู้ อย่างที่ไทยกับจีนก็เคยมี กษัตริย์ไทยแต่ก่อนขึ้นครองราชย์แล้วก็จะส่งสาสนไปทำไมตรีกับจีน ไทยเห็นว่าเป็นการทำไมตรีและไปค้าขาย แต่ไทยเรายังเป็นไทอยู่อย่างเดิมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่จีนเห็นว่าเป็นการเข้ามาอ่อนน้อมขอเป็นเมืองขึ้นจีน กรณีทิเบตจะเป็นยังงั้นหรือเปล่าไม่ทราบ ทำให้คนจีนกับคนทิเบตจำประวัติศาสตร์ได้คนละอย่าง

ในแง่การเมือง ตอนนี้ต้องถือว่าในความเป็นจริงจีนมีอำนาจปกครองทิเบตครับ คุณจะเข้าไปเที่ยวทิเบตก็ต้องทำวีซ่าจีน แล้วอย่าไปเรียกว่า ประเทศทิเบต เชียวหนา เจ้าหน้าที่เขาโกรธเอาด้วย

ถ้าไม่พูดกันเรื่องการเมืองแล้ว ผมก็ว่า ดูเฉพาะพระบุคลิกขององค์ทะไลลามะ ผมว่าท่านน่ารักดีครับ (เพื่อนจีนจะโกรธผมรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะทางการจีนตั้งให้ท่านเป็นผู้ร้ายใหญ่คอยยุแยงแบ่งแยกดินแดนจีน) และว่าถึงงานพระนิพนธ์อิงศาสนาพุทธนิกายวัชรยานของท่าน มีหลายชิ้นที่ผมชอบ แต่ผมไม่ขอเถียงว่าทิเบตควรเป็นของใครนะครับ

ทะไลลามะ เป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกโดยจักรพรรดิมองโกล องค์ไหนก็จำไม่ได้แล้ว ว่ากันว่าแปลว่า "ลามะผู้ (มีปัญญาดั่ง) ทะเล"  ตอนนั้นดูจะเป็นตำแหน่งทางสงฆ์ มาเป็นตำแหน่งทางสงฆ์ด้วย และครองอำนาจปกครองทางโลกด้วยนี่ดูเหมือนสมัยหลังต่อมา ท่านองค์ปัจจุบันนี่ว่ากันว่าเป็นดวงวิญญาณดวงเดียวกับทะไลลามะองค์แรกนั่นแหละ เวียนว่ายตายเกิดกลับชาติมาเกิดใหม่ 13 หรือ 14 รอบแล้ว (ท่านองค์ปัจจุบันนี่เป็นองค์ที่เท่าไหร่นะ? - 13? 14?) และถ้าคุณเชื่อตามที่คนทิเบตเขาเชื่อ เขาถือว่าจริงๆ แล้วดวงวิญญาณที่ลงมาเกิดเป็นทะไลลามะตั้งแต่องค์แรกสืบมาตลอดสายนี่ แบ่งภาคมาจากพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร คือพระกวนอิม

ผมไม่เคยไปทิเบต ตอนอยู่เมืองจีนก็ไม่มีเวลาแวะไป แต่เคยไปวัดลามะหลายแห่ง และเคยไปประเทศมองโกเลีย ซึ่งรับวัฒนธรรมพุทธศาสนาสายลามะมามาก คนมองโกลเดี๋ยวนี้ก็ยังไหว้ทะไลลามะอยู่ (แน่นอนว่าทางการจีนเขาไม่ชอบเท่าไหร่ แต่มันคนละประเทศน่ะ) ที่จริงก่อนมองโกเลียจะเป็นคอมมิวนิสต์นั้น ก็เคยเป็นสังฆอาณาจักรแบบทิบตเหมือนกัน แต่ตอนหลังปฏิวัติเป็นสาธารณรัฐเสียหลายสิบปี เพิ่งเลิกเป็นคอมมิวนิสต์ตอนหลังกำแพงเบอร์ลินพังนี่แหละ ราวๆ เกือบ 10 ปีมานี่เอง

โอม... มณิ ปัทเม หุม-
บันทึกการเข้า
เนยบิน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 11 ต.ค. 01, 11:06

ทิเบต เปรียบเหมือนสาวน้อยบริสุทธิ์
แต่บัดนี้ สาวน้อยคนนี้ กำลังถูกย่ำยี
จากสิ่งที่เรียกว่า โลกศิวิไลซ์  ที่ประเทศจีน
ยัดเยียดเข้าไป อีกไม่นานเราคงจะไม่ได้เห็น
ภาพคนสวดมนต์พร้อมหมุนกงล้ออีกต่อไป
สาวน้อยคนนี้ กำลังหลั่งน้ำตา...
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 11 ต.ค. 01, 13:59

ทำไมจีนถึงต้องยึดธิเบต ธิเบตมีทรัพยากรอะไร มันคงเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าเอามากๆถ้ามองจากมุมมองของความถูกต้อง แต่ถ้ามองเป็นปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีขึ้น ผมมองว่าเหตุผลที่จีนอ้างนั้นเป็นเหตุผลข้างๆคูๆ แต่จีนก็จำเป็นต้องยึด
ถ้ามามองกันที่ปัญหาของไต้หวัน เกาะเล็กๆเกาะเดียวมีความสำคัญอะไร ผมว่ามันไม่ได้ง่ายๆแค่เรื่องเสียหน้าแน่ๆ แต่สภาพนั้นมันเหมือนกับสหรัฐกับคิวบา หรือว่าอัฟกานิสถาน(โดยตาลีบัน)และรัสเซียในยุค Rambo III มีหอกจ่ออยู่ที่คอหอยนั้นไม่มีใครชอบหรอกครับ ด้วยเรื่องราวเดียวกันก็มาจับที่ประเทศไทยของเราได้ คงไม่ต้องระบุว่าตรงไหน หรือจะใช้วิธีการใด ความจำเป็นก็คือความจำเป็นครับ

"ไม่มีใครอยากถูกหอกจ่อคอหอยหรอกครับ"

พูดเรื่องนี้แล้วก็อดกลัวไม่ได้ ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองเราตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจเรื่องนี้หรือเปล่า มีปากก็สักแต่พูด กลัวปากเขาจังครับ
บันทึกการเข้า
วอสอ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 11 ต.ค. 01, 17:03

ดีใจจังที่มีคนสนใจกระทู้นี้ คุณนกขรอบรู้จังเลยนะคะ ทะไลลามะองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 14 ค่ะ ท่านน่ารักจริงๆด้วย แล้วก็ genious สุดๆ คนทิเบตก็ใจดีค่ะ

คิดว่าประเทศจีนไปโมเมประวัติศาสตร์ขึ้นมามากกว่าว่าทิเบตคือดินแดนส่วนหนึ่งของเขา เพราะคนทิเบตเองยืนยันว่า หากศึกษาประวัติศาสตร์อย่างถ่องแท้แล้ว จะพบว่าวัฒนธรรม ภาษา และการดำเนินชีวิตของคนทั้งสองประเทศนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ทิเบตรับอิทธิผลจากอินเดียเสียเป็นส่วนใหญ่ แถมในสมัยโบราณ.......ยังเคยแผ่อิทธิพลโดยเฉพาะด้านศาสนาไปยังมองโกเลีย และจีนอีกด้วย

ขอตอบคุณ crazyhorse ค่ะ คิดว่าที่จีนสนใจและเข้าไปขโมยประเทศเขามา เพราะว่าทิเบตเป็นประเทศที่ร่ำรวยอารยธรรมอันเก่าแก่ แค่พระราชวังโปตาลา ก็หารายได้จากนักท่องเที่ยวได้แล้ว ไหนจะเป็นดินแดนที่มีประชากรน้อยแต่พื้นที่เยอะ จีนก็สามารถอพยพผู้คนเข้าไปตั้งถิ่นฐานได้ไม่ยากนัก

อยากเห็นทิเบตเป็นอิสระจากจีนค่ะ เพราะเขาไม่มีความผิดอะไรเลย แถมยังเป็นประเทศที่บริสุทธิ์อย่างที่คุณเนยบินบอก

ทะไลลามะท่านเขียนหนังสือน่าสนใจมากๆหลายเล่ม ไม่เฉพาะแต่ทางด้านศาสนา ท่านยังเขียนในด้านจิตวิทยา ปรัชญา ที่สำคัญท่านช่างมีอารมณ์ขัน (มาก) ความคิดหรือก็แสนที่จะเฉียบคม ไม่เชื่อลองอ่านดูสิค่ะ (หาซื้อบางเล่มได้ที่ Asiabooks...วอสอ ไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกนะคะ) วอสอชอบเล่มนี้ค่ะ The Arts of Happiness. หรือถ้าใครอยากรู้จักทิเบตมากขึ้นโดยผ่านทางภาพยนตร์ ต้องดูSeven Years in Tibet (Brad Pitt) และ Kundun (ชีวประวัติของท่านทะไลลามะค่ะ หนังสวยมาก........แต่ก่อนดูต้องมีBackground เกี่ยวกับประเทศนี้นิดนะคะ)
บันทึกการเข้า
วอสอ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 11 ต.ค. 01, 17:10

ไม่มีอะไรค่ะ วอสอสะกดคำว่า genius ผิดในกระทู้ที่แล้ว ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Peking man
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 23 ต.ค. 01, 20:53

Hmm..... interesting remarks, interesting indeed!

 I will not deny that Tibet at the present moment is under a huge an inevitable pressure to succumb to the force of Chinese cultural imperialism to try to break the Tibetan peoples' ties with their own culture and tradition and try to intergrate them into the Chinese cultural sphere.  Though it is a sad fact that the Chinese authority should be more concerned about,  but does it  constitute or support any credible and legal claims for Tibet's independence? For personally I do not think that it does.



As for another point that came up the above kratoo; the reason or importance of Tibet .. I think that the reason which China needs Tibet is a very straegic one.   If you look at a map, wou will see that Tibet is situated on a high mountain plateau which over looks the Northern region of South Asia. In the era where ICBM where still not common and spy satellites where still a myth... this high plateau is a most ideal place to have in control to monitor any movements and spring into action whenever needed.  To put it into some what more philosophical term I guess that this would be what Zhuang tzi calls as " Wu Yong Zhi Yong "
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 23 ต.ค. 01, 22:51

เห็นด้วยกับคุณ Peking Man ค่ะ  ว่าเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์มากกว่า  เดาๆใจทางจีนเล่นเอาเองนะคะ  ดิฉันจีนยังมีความกลัวว่า  หากปล่อยธิเบตไว้  จะไปมีสัมพันธ์กับทางอินเดียมากกว่าค่ะ  เพราะขึ้นลงทางนั้นสะดวกกว่าทางจีนซึ่งถ้าจำไม่ผิด  จะขึ้นทางจีนนี่ลำบากกว่ามาก  ขนาดขึ้นทางเนปาลผ่านยอดเขาเอเวอเรสต์แล้วยังง่ายกว่าอีก

ธิเบตตั้งอยู่ในที่สูง  จึงมีทำเลดีทางยุทธศาสตร์ที่ถ้าใครมีอิทธิพลเหนือธิเบตได้  เพราธิเบตเองคงไม่มีทางไปขัดแย้งใครได้  ก็สามารถตั้งอุปกรณ์ต่างๆจ่อคอหอยจีนได้ไม่ยาก  ยิ่งเครื่องมือเครื่องไม้อีเลคทรอนิคส์ปัจจุบัน  มีความสามารถอย่างที่เราคาดไม่ถึง  ได้ชัยภูมิอย่างธิเบต  ก็สอดแนมจีนได้สบายเลยค่ะ

ถัดลงเขามาจากธิเบตขึ้นไปทางตะวันออก  ซึ่งเป็นภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน  ก็เป็นที่กันดารห่างไกล  เต็มไปด้วยภูเขาในมณฑลเสฉวน  เป็นที่ที่จีนไปตั้งฐานยิงจรวดไว้ที่ Xichang (อ่านสิชางรึเปล่าไม่ทราบนะคะ)  ซึ่งจีนเองก็มีลับลมคมในซุกซ่อนไว้มากอยู่ค่ะ  ดิฉันว่า จริงๆแล้วจีนคงไม่กลัวอินเดียเท่าไหร่หรอกค่ะ  คงกลัวพวกนักท่องเที่ยวฝรั่งมากกว่าค่ะ หึๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 19 คำสั่ง