เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 591 รัฐเท็กซัสแยกตัวเป็นเอกราช
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 30 ม.ค. 24, 17:17

    เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567 Blockdit World Update รายงานความเคลื่อนไหวถึงการจะแยกเอกราชของรัฐเท็กซัส ซึ่งมีการะดมทหารทั้งสองฝ่าย รวมทั้งการต้านคำสั่งศาล โดยผู้ว่าการรัฐได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้วนั้น
     ล่าสุดต่อมาในวันเดียวกัน Blockdit World Update ออกมาเผยแพร่สถานการณ์ระหว่างเท็กซัสกับรัฐบาลกลางสหรัฐที่กำลังเผชิญหน้ากันว่า
     เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เคยระบุถึงปริมาณหนี้สินของสหรัฐฯ ว่า 34 ล้านล้านดอลลาร์น่ากลัวมาก ล่าสุดต้นเดือน ม.ค.2567 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานว่าหนี้สินสหรัฐเกิน 34 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้ว  เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 ล้านล้านดอลลาร์ เลยจุดน่ากลัวไปเป็นเหวหายนะ , CEO ของ JPMorgan ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มาถึงจุดตกต่ำแล้ว กำลังเคลื่อนตัว “ถึงหน้าผา” เนื่องจากหนี้สาธารณะที่สูงที่สุดในโลก
     ที่กำลังร้อนฉ่าตอนนี้คือสาธารณรัฐเท็กซัส ประกาศกฎอัยการศึก ต่อต้านคำสั่งศาลฎีกา ดินแดนนี้ประชากรรวม 30 ล้านคน เศรษฐกิจ GDP อันดับ 2 สัดส่วนราว 8.6% ของสหรัฐ มูลค่าราว 1.985 ล้านดอลลาร์ (มากกว่าไทย 4.36 เท่า) อันดับที่ 8 ของโลก GDP ต่อหัว 63,000 ดอลลาร์
      เท็กซัส มีจำนวนทหารกองกำลังพิทักษ์ชาติของตนเอง 115,000 นาย ที่ขึ้นกับผู้ว่าการรัฐ ตามโครงสร้างการปกครองไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลาง มีตำรวจ นายอำเภอหน่วยงานความมั่นคงของตนเอง
      ล่าสุดสาธารณรัฐเท็กซัสได้ชูธงเอกราช แล้ว ถ้าแยกเป็นประเทศใหม่จะร่ำรวยมากจากทรัพยากรน้ำมัน เพราะไม่ต้องส่งรายได้ให้ใคร ตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ จะกลายเป็นประธานาธิบดี รวมทั้งมีคณะมนตรีตนเอง และมีสถานะระหว่างประเทศในสหประชาชาติ
       รัฐบาลกลางสหรัฐ ได้สั่งให้กลาโหม และกองทัพส่งรถถัง M1 Abrams และรถหุ้มเกราะ M2A2 Bradley มุ่งไปยังชายแดนเท็กซัสแล้ว อันจะเกิดการประจันหน้ากับทหารเท็กซัส ที่ได้รับคำสั่งให้บล็อคทหารส่วนกลางไปยังชายแดนด้านติดกับเม็กซิโก
      รัสเซีย ขานรับไวกริบโดยสภาดูมา เตรียมที่จะประชุมลงมติ รับรองสาธารณรัฐประชาชนเท็กซัส เป็นประเทศใหม่ , หัวหน้าพรรค Just Russia หนึ่งใน 5 พรรคการเมืองของรัสเซีย แสดงความยินดี และจะยกย่องสาธารณรัฐประชาชนเท็กซัส
       ส่วนจีน ก็เด้งรับไวกริบเช่นกัน โดยระบุว่า จีนต่อต้านการรุกรานเท็กซัสด้วยอาวุธอย่างรุนแรง เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐ เคารพเจตจำนงเสรีของประชาชนในรัฐเท็กซัส และรัฐบาลจีนจะจัดหาอาวุธให้กับรัฐเท็กซัส เพื่อรักษาสันติภาพในท้องถิ่นและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จีนสนับสนุนการเจรจาที่เท่าเทียมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย เพราะเห็นได้ชัดว่าสันติภาพในภูมิภาคในอเมริกากลางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก
       คาดว่า…สหรัฐ มัวแต่ไปเปิดสงครามบ่อนทำลายชาติอื่นทั่วโลก หันกลับมาอีกที หลังบ้านตัวเองโดนรัสเซีย และจีน บ่อนทำลายไปเสียแล้ว แม้รัฐบาลไบเดน จะเคลื่อนอาวุธ และกองทัพไปขู่ ฝ่ายเท็กซัสก็จะไม่กลัว
      อ่านต่อได้ที่
      https://www.thaimoveinstitute.com/103341/


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 30 ม.ค. 24, 17:19

อ่านเพิ่มเติมค่ะ
https://www.thaimoveinstitute.com/103349/
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 31 ม.ค. 24, 10:35

เกิดอะไรขึ้นในเท็กซัส จะประกาศเอกราชจริงหรือ

'จ่าโอ' พันจ่าโท สิทธิกร กันใจยา คนไทยที่ไปเป็นทหารแห่งกองทัพเรืออเมริกา จะมาเล่าให้เรื่องจริงฟัง

บันทึกการเข้า
superboy
พาลี
****
ตอบ: 222


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 31 ม.ค. 24, 13:30

World Update นี่ไม่ไหวจริงๆ ครับอาจารย์ ล่าสุดเพิ่งลงข่าวอเมริกายอมแพ้ยกธงขาวต่อเยเมนไปแล้ว เดี๋ยวก่อนครับพี่น้อง!! ส่วนจ่าโอเท่าที่เคยฟังใช้ได้เลยครับ

ข่าวเท็กซัสขอแยกตัวมีข่าวมานานพอสมควร ตอนทรัมป์เลือกตั้งชนะใหม่ๆ ก็ออกมาโวยวาย สองปีที่แล้วก็โวยวาย ส่วนตัวผมอยากให้แยกออกแล้วอเมริกาเคลื่อนทัพเข้ามายึดคืนจะได้หมดปัญหา พูดแบบนี้อย่าหาว่าผมเป็นพวกบ้าสงครามเลย แค่ต้องการขจัดปัญหาให้มันแล้วๆ กันไป

ก่อนหน้านี้เท็กซัสในอดีตเป็นของเม็กซิโก แต่ขอแยกตัวเพราะคิดว่าอยู่กับอเมริกาดีกว่า ฉะนั้นแล้วเรามารับรู้เรื่องราวอดีตรัฐนี้กันสักนิด

+++++++++++++++

สหรัฐฯ ผนวก “เท็กซัส” หลังขอรวมประเทศหลายครั้ง ไฉนยืดเยื้อ?

29 ธันวาคม ปี 1845 (พ.ศ. 2388) สหรัฐอเมริกาผนวกเท็กซัสเป็นรัฐลำดับที่ 28 ของประเทศ ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เท็กซัสเคยเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโก พื้นที่นี้ถูกบุกเบิกโดยชาวสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ในยุคแห่งการสำรวจและค้นพบ (Age of Exploration and Discovery)

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1820 สเปนอนุญาตให้โมเสส ออสติน (Moses Austin) นักธุรกิจชาวอเมริกันนำครอบครัวมาอยู่ในเท็กซัส ก่อนเม็กซิโกจะเป็นเอกราชจากสเปนหลังจากนั้นไม่นาน (ประกาศเอกราชเมื่อปี 1810 สำเร็จในปี 1821) เท็กซัสซึ่งขณะนั้นมีชุมชนชาวอเมริกันกว่า 300 ครอบครัวจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโก โดยมีพลเมืองที่ผูกพันกับสหรัฐอเมริกามากกว่า

จากความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศเม็กซิโก เท็กซัสจึงประกาศแยกตัวเพื่อปกครองตนเองในนามสาธารณรัฐเท็กซัสเมื่อปี 1836 พร้อมความปรารถนาของนักการเมืองและบุคคลสำคัญของเท็กซัสที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาในทศวรรษ 1840-1860 ก็ผลักดันนโยบายขยายพื้นที่จากฝั่งตะวันออกของทวีปไปจรดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตก

แม้จะมีปัจจัยส่งเสริมทั้งการเป็นเอกราช พลเมือง และความต้องการของรัฐบาลเท็กซัสเอง แต่การผนวกดินแดนนี้ของสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด ความยืดเยื้อนั้นมาจากปัญหาภายนอกและภายในของสหรัฐฯ เอง

หลังเป็นเอกราชแยกตัวออกจากเม็กซิโก รัฐบาลเท็กซัสเสนอตัวเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาในสมัยของประธานาธิบดีแอนดรู แจ็คสัน (Andrew Jackson, ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1829-1837) และ มาร์ติน แวน บูเรน (Martin Van Buren, ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1837-1841) แต่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เพราะเกรงจะมีปัญหากับเม็กซิโก และความขัดแย้งภายในอันคุกรุ่นของปัญหาทาส โดยมีกลุ่มที่ต้องการให้เลิกทาส (Abolitionist) จากรัฐทางตอนเหนือ กับรัฐทางใต้ที่สนับสนุนการมีทาส เพราะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ต้องการแรงงานทาสจำนวนมาก แตกต่างจากรัฐทางเหนือที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม

ท็กซัสเองเป็นดินแดนที่มีพื้นที่เกษตรกรรมและมีทาสจำนวนมาก รัฐสภาสหรัฐอเมริกาที่มีเสียงข้างมากเป็นผู้แทนฯ จากรัฐทางเหนือจึงไม่ต้องการให้เท็กซัสเข้าร่วมกับรัฐอื่น ๆ ทางใต้ที่ส่งเสริมการมีทาส กระทั่งสมัยของจอห์น ไทเลอร์ (John Tyler) ประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1841-1845 เขาเป็นคนรัฐทางใต้ที่ต้องการผนวกเท็กซัสและผลักดันนโยบายนี้อย่างหนัก แต่สมาชิกรัฐสภาของรัฐทางเหนือยังคงยืนกรานคัดค้านนโยบายดังกล่าว

แม้จะให้การรับรองเอกราชของสาธารรัฐเท็กซัส แต่เม็กซิโกเองไม่ต้องการให้เท็กซัสรวมกับสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด และยังต้องการทวงคืนดินแดนเท็กซัสอยู่ ปัญหาเท็กซัสถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกานำกลับมาพิจารณาอีกครั้งในปี 1842 เนื่องจากเม็กซิโกเริ่มเสริมกำลังประชิดพื้นที่ของเท็กซัส ประธานาธิบดีซานตา แอนนา (Santa Anna) ของเม็กซิโก ถึงกับประกาศว่าการผนวกเท็กซัสของสหรัฐอเมริกาจะนำไปสู่สงครามอย่างแน่นอน ขณะที่อังกฤษก็เข้าแทรกแซง โดยสนับสนุนให้เท็กซัสเป็นรัฐอิสระในฐานะรัฐกันชน (Buffer State) รวมถึงโน้มน้าวให้เท็กซัสเลิกทาส ซึ่งนั่นสร้างความไม่พอใจแก่ชาวอเมริกันในรัฐทางใต้อย่างยิ่ง

หลังจากการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเท็กซัส กับจอห์น ไทเลอร์ ในเดือนเมษายน ปี 1844 เท็กซัสได้ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อการรวมกับสหรัฐอเมริกา แต่สนธิสัญญาดังกล่าวระบุให้เท็กซัสมีทาส จึงมีมติคัดค้านถึง 2 ใน 3 จากวุฒิสมาชิกของรัฐสภาสหรัฐอเมริกา กระทั่งต้นปี 1845 เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับการผนวกเท็กซัส จอห์น ไทเลอร์ จึงนำมติดังกล่าวเสนอต่อวุฒิสภาอีกครั้งและได้รับความเห็นชอบในที่สุด แต่เขาต้องหมดวาระการดำรงประธานาธิบดีก่อนดำเนินการใด ๆ ต่อ นโยบายดังกล่าวถูกสานต่อโดย เจมส์ เค. โพล์ก (James K. Polk) ประธานาธิบดีคนถัดมา

นโยบายของเจมส์ เค. โพล์ก มีคำขวัญหาเสียงว่า “รวมเท็กซัสและยึดครองโอเรกอน” (The re-annexation of Texas and re-occupation of Oregon) เป็นหนึ่งในตัวเรียกคะแนนเสียงให้เขาชนะการเลือกตั้ง เหตุผลของการผนวกเท็กซัสชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จากการประชาสัมพันธ์ของฝั่งรัฐบาลซึ่งชี้แจงว่าชาวเท็กซัสส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกัน และการปกครองตนเองของสาธารณรัฐเท็กซัสกำลังถูกคุกคามและแทรกแซงจากเม็กซิโกกับอังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้นผลผลิตทางการเกษตรบนพื้นที่ขนาดใหญ่ของเท็กซัสคือแหล่งวัตถุดิบราคาถูกสำหรับอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของประเทศ รัฐทางเหนือจึงเริ่มใจอ่อน

รัฐบาลโดยการนำของเจมส์ เค. โพล์ก เริ่มดำเนินการเพื่อให้การผนวกเท็กซัสลุล่วงโดยสมบูรณ์ ทั้งเตรียมพร้อมทางการทหารสำหรับรับมือเม็กซิโกในกรณีเกิดสงครามขึ้นจริง มีลำดับเหตุการณ์ในปี 1845 ดังนี้

– 28 กุมภาพันธ์ รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ผ่านกฎหมายอนุญาตการผนวกเท็กซัสเป็นรัฐลำดับที่ 28 ของประเทศ

– 4 มีนาคม เจมส์ เค. โพล์ก แถลงการณ์ว่า สหรัฐอเมริกาจะผนวกเท็กซัส

– 28 มีนาคม รัฐบาลเม็กซิโกประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ

– 28 พฤษภาคม เจมส์ เค. โพล์ก แต่งตั้ง นายพลซาคารี เทเลอร์ (Zacary Taylor) ผู้บัญชาการทหารดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ มาประจำที่กองบัญชาการหลุยส์เซียนา ติดกับเท็กซัส พร้อมคำสั่งเคลื่อนกำลังเข้าเท็กซัสได้เลยหากเม็กซิโกรุกรานเท็กซัส

– 15 มิถุนายน นายพลซาคารี เทเลอร์ได้รับคำสั่งให้ตรึงกำลังที่บริเวณแม่น้ำรีโอแกรนด์ ในดินแดนเท็กซัส ประชิดกับฝั่งเม็กซิโก

– 23 มิถุนายน รัฐสภาสาธารณรัฐเท็กซัส มีมติเห็นชอบในการเข้าร่วมกับสหรัฐอเมริกา โดยเรียกประชุมกรณีพิเศษเพื่อยืนยันครั้งสุดท้ายในวันที่ 4 กรกฎาคม

– 13 ตุลาคม รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกานำเสนอผลการหยั่งเสียงคนอเมริกันต่อการผนวกเท็กซัส ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันเห็นชอบด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว

– 29 ธันวาคม สหรัฐอเมริกาประกาศรวมเท็กซัสเป็นรัฐที่ 28 ของประเทศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเท็กซัสเป็นรัฐเกษตรกรรม มีแรงงานทาสจำนวนมาก จึงอยู่ในกลุ่มรัฐทาสลำดับที่ 15

แม้จะไม่เกิดการปะทะกันหรือสงครามระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกาทันทีหลังการผนวกเท็กซัส แต่นโยบายขยายดินแดนไปฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และความต้องการพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ชายฝั่งแปซิฟิก อันได้แก่ ดินแดนแคลิฟอร์เนียบน (Uper California) นิวเม็กซิโก (New Mexico) และยูทาห์ (Utah) ท้ายที่สุดนำไปสู่สงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก (The U.S. – Mexican War) ระหว่างปี 1846-1848

ด้วยความเหนือกว่าหลาย ๆ ด้าน ทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และกลยุทธ์ ประกอบกับผู้บัญชาการที่มีความสามารถ กองทัพอเมริกันมีชัยชนะในสมรภูมิต่าง ๆ จนสามารถบุกยึดกรุงเม็กซิโกซิตี้ได้สำเร็จ นำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญา (The Treaty of Guadalupe Hidalgo) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 1848 สาระสำคัญ คือ

1. เม็กซิโกยอมถอนสิทธิการเป็นเจ้าของพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ชายฝั่งแปซิฟิก นั่นคือ 3 ดินแดนข้างต้น ที่ต่อมากลายเป็นรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาดา ยูทาห์ แอริโซนา รวมถึงบางส่วนของรัฐนิวเม็กซิโก โคโลราโด และเท็กซัส

2. สหรัฐอเมริกาจ่ายเงิน 15 ล้านดอลลาร์ให้แก่เม็กซิโก สำหรับดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ที่กลายเป็นของสหรัฐฯ ในปี 1848 (ทุกดินแดน ยกเว้นเท็กซัสที่ถูกผนวกไปตั้งแต่ปี 1845)

3. สหรัฐอเมริกายอมชดใช้หนี้สินจำนวน 3.25 ล้านดอลลาร์แก่คนอเมริกันแทนรัฐบาลเม็กซิโก

4. ลุ่มแม่น้ำรีโอแกรนด์คือพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก

การขยายดินแดนจรดชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐบาลสประธานาธิบดีเจมส์ เค. โพร์คจึงบรรลุเป้าหมาย ทั้งการผนวกเท็กซัส สงครามกับเม็กซิโกเพื่อดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงการเจรจาเพื่อแบ่งเขตโอเรกอนกับอังกฤษ เป็นผลให้ทำให้เกิดการอพยพหลั่งไหลของชาวอเมริกันไปยังดินแดนตะวันตกอย่างคึกคักนับตั้งแต่นั้น

อ้างอิงจาก

https://www.silpa-mag.com/history/article_98661

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 31 ม.ค. 24, 16:58

ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูและคุณ superboy ค่ะ
มิน่า ไม่เห็นมีสื่อไทยเว็บไหนลงข่าวนี้เลย ยกเว้นเว็บที่ดิฉันไปเอามาให้อ่านกัน
มันคนละเรื่อง คนละโลก กันเลยนะคะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 31 ม.ค. 24, 17:35

งั้นข่าวที่ว่า "เท็กซัสงัดอัยการศึก ตั้งสมาพันธรัฐระดมทหาร25รัฐสู้รบ.กลาง ขณะสหรัฐขนกองทัพกห.อารักขาไบเดนตรึงทำเนียบขาว"  ก็เฟคนิวส์ทั้งหมดใช่ไหมคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 04 ก.พ. 24, 11:30



แนวคิดเรื่องรัฐเท็กซัสอยากแยกตัวจากสหรัฐออกมาเป็นอิสระ  เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นจริง  ดำเนินมานานพอสมควรแล้ว อย่างวิดีโอข้างบนนี้เผยแพร่มาเมื่อ 11 ปีก่อน
แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็นได้ว่าจะเป็นความจริง 
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 ก.พ. 24, 10:35

เท็กซัสจะแยกประกาศเอกราช ? จากคนไทยในเท็กซัส ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 22 ก.พ. 24, 17:08

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 19 คำสั่ง