เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 31
  พิมพ์  
อ่าน: 19796 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 04 พ.ค. 23, 14:21

แล้วมาดูความเปลี่ยนแปลงของแนวเพลงวง girl group ในยุคของผม

Sister Sledge เป็นวง girl group ที่โด่งดังในช่วงสั้น ๆ ของปลายยุค 70s ซึ่งยังอยู่ในยุค disco  สองเพลงดังนี้เป็นขาประจำทั้งในวิทยุและในบาร์ ฯ



single ที่ 2 นี้ดังกว่า single แรก  ในกาลเวลาต่อมามีหลายเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่นำเพลงนี้เข้ามาประกอบ



นำเสนอ

(หมายเหตุ – จังหวะน่าขยับขาทั้งนั้น)


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 05 พ.ค. 23, 14:21

ในปี 1969 ความดังของเพลงนี้แผ่กระจายไปครึ่งค่อนโลก  รวมถึงประเทศไทยของเรา


มันครองอันดับ 1 บนตารางเพลง billboard นานถึง 6 สัปดาห์  ถ้าเป็นนักฟังเพลงฯ แบบเหนียวแน่นจะพบกับความประหลาดใจว่า  ศิลปินที่สร้างเพลงดังได้ขนาดนี้กลับไม่มีเพลงอื่น ๆ ตามมาอีกเลย  นั่นเป็นเพราะแฟนเพลงคาดหวังกับเพลงต่อมาของพวกเขามาก  พอวิทยุกระจายเสียง single ต่อมาซึ่งไม่ถูกหู  แฟนเพลงก็เลยเลิกนิยม  การแก้ตัวก็ไม่ประสบผล  วงนี้ก็เลยดับ  เหลือแต่ตำนานที่เป็นตัวอย่างของ one hit wonder ตัวพ่อ





นี่ก็วง One hit wonder อีกหนึ่งในหลาย ๆ วงที่วิทยุบ้านเราเปิดให้ฟังในช่วงปลาย 60s




บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 06 พ.ค. 23, 14:18

ย้ายมาเพลงบรรเลงกันบ้าง...

เพลงของ Henry Mancini เคยดังอบอวลอยู่ในบรรยากาศของกรุงเทพฯ อย่างสม่ำเสมอ  นักฟังเพลงฯ คุ้นเคยกับเพลงของเธอมากมาย  ที่รู้จักอย่างกว้างขวางก็ Moon river 

จะนำเสนอเพลงอื่น ๆ ที่น่าจะคุ้นหูโดยอาจไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของเธอ








(2 เพลงนี้มีคนนำมาเล่นใหม่มากมาย  แต่ถ้าทำนองแบบนี้ละก็ฝีมือ HM ละ)


และถ้าใครได้ดูหนัง Thorn birds ที่ Richard Chamberlain หล่อสุดขีดคลั่ง (โดยไม่รู้ว่าเธอเป็น gay) ละก็  คงคุ้นกับเพลง title นี้  ฝีมือ HM เช่นกัน



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 07 พ.ค. 23, 12:29

ได้ยินเพลงดังๆของ Henry Mancini มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น  ชอบมากค่ะ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 07 พ.ค. 23, 15:08

ตอนเด็ก ๆ ได้ยินเพลงเหล่านี้  มันเป็นเพลงดังจากฝั่งอังกฤษที่ล่องทะเลมาดังฝั่งไทยด้วย






นำเสนอ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 08 พ.ค. 23, 14:30

เท่าที่สังเกต ช่วงครึ่งหลังของยุค 70s  จะมีเพลงจากนักร้องชื่อแปลก ๆ ดังออกมาจากวิทยุให้ได้ยินมากมาย  ประเภทดังเพลงเดียวแล้วก็หายไป  ตัวอย่างของศิลปินเหล่านี้ ที่ตายไปแล้ว ที่เคยนำเสนอก็ Randy VanWarmer

อีกคน (ที่ตายไปแล้วเช่นกัน) ก็ Peter McCann กับเพลงนี้






แล้วก็คนนี้ Sammy Johns  ศิลปินเพลงประเภท one hit wonder  คือออกเพลงมาเพลงเดียวแล้วก็ดังแล้วก็หายต๋อมไปเลยหรือไม่มีเพลงดังอีกเลยหลังจากนั้น 






ศิลปิน one hit wonder เหล่านี้  ถ้ามือผมไม่ถูกผีสิงหมุนปุ่มวิทยุให้ว่อนเพื่อหาคลื่นเพลงฝรั่งฟัง  ผมคงไม่เคยได้ยินเพลงของพวกเขา
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 10 พ.ค. 23, 14:45

John O’ Banion (16 February 1947 – 14 February 2007) ไม่ใช่นักร้อง one hit wonder ด้วยซ้ำ  แต่วิทยุก็เอาเพลงของเธอมาเปิด  ได้ยิน 2 เพลงนี้ประเภท ‘from time to time’




(เพราะมากทั้ง 2 เพลงเลยนะ)


วันหนึ่งในช่วงนั้นผมออกไปร่อนตามปกติ  ทุกครั้งที่ออกร่อน  ผมจะปิดท้ายรายการก่อนซมซานกลับบ้านด้วยการไปเดินดูแผ่นเสียงตามแหล่งโน้นแหล่งนี้  เผื่อฟลุ้ค  

ไม่รู้ว่าผิดปกติทางจิตรึเปล่า  แต่ผมจับสังเกตได้ว่าเวลาได้จับแผ่นเสียง  จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ตาม  ผมจะเกิดความสุขแบบลึก ๆ  เวลาหยิบแผ่นขึ้นมาดู  พิจารณาด้านหน้าด้านหลัง  สงสัยใคร่รู้ว่าซองในที่ใส่ตัวแผ่น ฯ จะมีรูป เนื้อเพลง ฯลฯ หรือไม่  ถ้าเป็นแผ่นแบบ gatefold คือสามารถเปิดกางได้  ก็สงสัยใคร่รู้เพิ่มว่ากางออกแล้วจะเป็นรูปอะไร  

ที่สงสัยใคร่รู้เพราะแผ่นเสียงที่ส่งเข้ามาจากอเมริกาจะหุ้มด้วยพลาสติกอ่อนเพื่อความปลอดภัยกันแผ่นหลุดหายระหว่างเดินทาง  ทำให้ไม่สามารถเปิดดูนั่นดูที่ได้เลย  แม้แต่แอบดูก็ไม่ได้  ผนึกมิดชิดมาก

แต่ถ้าเป็นแผ่นก๊อปปี้ที่จำหน่ายโดย บ. EMI ละก็ล่อนจ้อน  ไม่มีแผ่นพลาสติกหุ้มแบบแน่นหนาเพื่อความปลอดภัย  จะเปิดจะแง้มดูได้โดยสะดวก  แล้วซองในที่ใส่ตัวแผ่นฯ จะเป็นซองพลาสติกจืด ๆ  เสมอ  เพราะมันเป็นแผ่นก๊อปปี้ราคาถูกกว่าจะไปทำเลียนแบบให้เหมือนของแท้ทำไมให้เปลืองต้นทุน  section นี้ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ไปเฉียด  รู้สึกเสี่ยว  

วันนั้นที่ section ของแผ่นจากอเมริกา (เรียกกันเองว่า แผ่นนอก) ผมเห็นแผ่นของ JOB  เคยได้ยินแต่เพลงของเธอเพิ่งเคยเห็นหน้าก็วันนั้นแหละ  โอ้โฮ... หล่อจัง  สมกับที่ร้องเพลงเพราะ


(ภาพจากคลังของอากู๋)


ผมหยิบแผ่น ฯ ของเธอขึ้นมาพิจารณาทันที  อย่างแรกคือดูรายชื่อเพลง  แปลกจังเพลงที่วิทยุเปิดให้ฟังไม่ยักรวมอยู่ในแผ่น  แล้วมันไปอยู่ที่ไหนละหว่า  มาถึงจุดนี้ความอยากซื้อก็ลดน้อยลง  ต่อให้หน้าหล่อแค่ไหนก็ขอชะงัก  สมัยก่อนเบี้ยกระจิ๊ดหอยกระจุ๊ด  จ่ายเงินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้  ต้องตั้งสติ  ไม่งั้นความซวย (คือเงินหมดก่อนเวลาอันควร) จะมาเยือนโดยไม่รอช้า
 
กาลเวลาผ่านไปหนึ่งเฟี้ยว  จนกระทั่งผมมีปูมรายชื่อเพลงของ Joel Whitburn  ก็มาถึงเวลาที่นึกถึง JOB  ปรากฏว่าหาชื่อคนร้องเจอแต่หา 2 เพลงนี้ไม่เจอ  แล้วกาลเวลาก็ผ่านไปอีก  คราวนี้หลายเฟี้ยว  จนกระทั่งถึงยุค อตน.  ผมถึงรู้ความเป็นไปเป็นมาของ 2 เพลงดังกล่าว

… O'Banion won the prestigious Tokyo Music Festival Award in 1982, with "I Don't Want to Lose Your Love". He also sang two songs for the Japanese period film Legend of the Eight Samurai; "I Don't Want This Night to End" and "White Light"… (หมายเหตุ – เพลง White light ไม่เคยได้ยิน)

สรุปแล้ว  2 เพลงดังกล่าวกระจายเสียงอยู่นอกอเมริกา  อย่างที่บอกว่าดีเจวิทยุบ้านเราหูตาอย่างกับเหยี่ยว  ผมจึงมีโอกาสได้ฟังเพลงเพราะที่ชาวอเมริกา (ในสมัยนั้น) ไม่เคยได้ยิน

สำหรับในอเมริกา JOB มีเพลงขึ้นอันดับอยู่เพลงเดียวแล้วไปไม่ถึง top 20 ด้วยซ้ำ  แล้วผมก็จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินทางวิทยุรึเปล่า



นำเสนอเพลงอื่นที่ผมว่าเพราะ  เป็นฉบับนำมาร้องใหม่  อย่างไรก็ตามต้นฉบับเพราะกว่า



ต่อไปก็นำเสนอความหล่อของเธอ



หมายเหตุ - ความหล่อที่ว่านี้เกิดขึ้นในสายตาของผมในยุค 70s
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 11 พ.ค. 23, 14:33

The Playmates



เพลงข้างบนนี้ดังเฉพาะที่บ้านเรา  นำเสนอเพลงที่ดังที่สุดที่บ้านเขา  แต่ผมไม่เคยได้ยินจากวิทยุ





Freddie Scott




บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 12 พ.ค. 23, 14:43

รายการ Golden oldies กันอีกวัน

The Browns




นำเสนอ





บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 12 พ.ค. 23, 15:13

ประทับใจเพลง The Three Bells ตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกค่ะ   บรรยายชีวิตของคนได้เห็นภาพมากในเนื้อสั้นๆไม่กี่คำ
ไม่แปลกใจที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐ

ของเดิมมาจากฝรั่งเศส  ชื่อ  Le Trois Cloches
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 13 พ.ค. 23, 14:39

ประทับใจเพลง The Three Bells ตั้งแต่ได้ยินครั้งแรกค่ะ   บรรยายชีวิตของคนได้เห็นภาพมากในเนื้อสั้นๆไม่กี่คำ
ไม่แปลกใจที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐ

ของเดิมมาจากฝรั่งเศส  ชื่อ  Le Trois Cloches

ความรู้เพิ่มเติม  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 13 พ.ค. 23, 14:42

ในต้นยุค 70s วิทยุเปิดเพลงนี้บ่อยมาก




ตอนนั้นผมคิดว่ามันต้องเป็นเพลงที่ฮิตสุด ๆ ในอเมริกา   กาลเวลาผ่านไป  รายละเอียดมาถึงตา/หูผมว่านั่นเป็นความคิดของเด็ก ๆ   อย่างแรกมันเป็นวงจากฝั่งอังกฤษ  อย่างที่สอง มันเป็นเพลงที่ไม่ดังเลย  ไม่เข้าอันดับในบ้านเกิดของพวกเขาเสียด้วยซ้ำ  ส่วนที่อเมริกาก็ไต่ไปได้ถึงอันดับ 48 เท่านั้นเอง  อะไรฟะ  เพลงเพราะจะตาย

อย่างไรก็ตามอีก 3 ปีต่อมา  วิทยุก็เอาเพลงของพวกเขามาเปิดอีก  ก็เพราะอีกนั่นแหละ


เพลงติดอันดับ 5 ที่บ้านเกิดของพวกเขา  แต่ไปไม่ไหวที่อันดับของอเมริกา


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 14 พ.ค. 23, 14:32

หลังจากหมดยุครุ่งเรืองของวงคู่อมตะ The Carpenters  ก็เป็นโอกาสอันดีของวงนักร้องคู่ (อย่างเป็นกิจจะลักษณะ  ไม่ใช่รวมการเฉพาะกิจ) หน้าใหม่ที่จะโผล่ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งกันมากมาย  หนึ่งในนั้นคือวงคู่ 2 ผัวเมีย The Captain & Tennille  ความดังของวงนี้มาเร็วและไปเร็ว  แค่ 2 ปีก็เริ่มโรยรา  แต่ในช่วง 2 ปีนั้นทั้งคู่ฝากผลงานดี ๆ ไว้มากมาย  และดีเจบ้านเราก็รับมาปล่อยให้ผมฟังไม่มีขาด

ประเดิมเริ่มแรกด้วยเพลง signature ของวงที่ขึ้นอันดับ 1 บนตาราง BB 



จากนั้น single ทองคำก็ตกเป็นของวงติดต่อกันอีก 4 เพลง







ที่มาที่ไปของ single ทองคำแผ่นที่ 5 นี้  ผมได้ยินมาตั้งแต่แรกเริ่ม (ก็จาก นส. Starpics นั่นแหละ)  เพลงอยู่ใน album แผ่นที่ 2 ซึ่งปล่อย single ทองคำล่วงหน้าไปแล้ว 2 เพลง  นับเป็นสถิติที่ไม่ใช่ย่อย  แต่เบื้องบนไม่อยากจบแค่นี้ จึงปล่อย single แผ่นที่ 3 ซึ่งทางวงบอกว่าไม่เห็นจะเพราะตรงไหนเลย  ใส่ไว้ในแผ่นให้มันเต็มแผ่นเท่านั้น  ผลปรากฏว่าชาวบ้านชาวช่องชอบฟังและวิ่งออกไปซื้อแผ่น (single) กันมากมายจนยอดขายสูงขนาดคว้าแผ่นทองคำมาได้

(ต้นฉบับของเพลงนี้ร้องโดยคณะ America อีกหนึ่งวงโปรดของผม  อยากพูดถึงที่สุดแต่ (ตอนนี้) ยังไม่มีสมาชิกคนไหน ‘ออกเดินทาง’ กันเลย)







มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 15 พ.ค. 23, 14:27

พอ album ที่ 3 ของวงออกตลาด  เพลงไม่ถูกใจผู้บริโภค  ความนิยมก็ลดลง  รวมถึงที่บ้านเรา  อย่างไรก็ตาม  ในจำนวน single ที่ตัดออกมาจากแผ่น  เพลงนี้เพลงเดียวยังคงล่องลอยอยู่แถวลำโพงวิทยุ


ลืมบอกว่า นักร้อง backup คือพี่ ๆ น้อง ๆ ของ Toni Tennille


ในปี 1978  album ที่ 4 ตอกย้ำความความดังที่ถดถอยลง  แต่ 2 singles นี้  ยังคงอบอวลอยู่ในบรรยากาศของกรุงเทพฯ





ในปี 1979 ทั้งคู่ก็ส่งเพลงดังขึ้นมาอีก 1 เพลง  เป็นเพลงอันดับ 1 แผ่นที่ 2  เพลงนี้ไม่ได้ดังเฉพาะที่บ้านเขา  บ้านเราก็ดังมาก เปิดบ่อยจนกลายเป็นเพลงโหล  หลังจากเพลงนี้ชื่อของวงก็จางหายไปกับกาลเวลา



นำเสนอ







ในช่วงกำลังดังสุดขีด  มีผู้ผลิตเสนอโอกาสให้ทั้งคู่จัดรายการ variety show ทางทีวีซึ่งได้รับนิยมเป็นอย่างมาก  รายการดำเนินไปได้ราว 1 ปี  ทั้งคู่ก็พบว่าชอบร้องเพลงและออกแสดงสดมากกว่าจึงยื่นขอเลิกสัญญา   ผมจำไม่ได้ว่ารายการของพวกเขาเคยมาเมืองไทยหรือเปล่า  แต่จำข่าวได้  เพิ่งมามีโอกาสได้ชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ทาง Youtube






พักวงคู่ในยุค 70s ตรงนี้ก่อน

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 16 พ.ค. 23, 14:26

สำหรับ Peter Cowap นี้  หานักฟังเพลงฯ คนไหนจำได้ยากมาก (ยกเว้นผม  อย่างที่เคยโม้ว่าผมไม่ใช่นักฟังเพลงฯ แบบปกติเหมือนใคร ๆ)  แต่ถ้าเปิดผลงานของเธอ  บางคนอาจจะคุ้นหู  ผมได้ยินเพลงนี้ในช่วงที่อยู่ ม. ต้น  มันเป็นเพลงที่ไม่ฮิตในบ้านเขาเลย







อีกหนึ่งศิลปิน One hit wonder ในช่วงต้น 70s  ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าใครได้ชื่อว่าศิลปิน one hit wonder  ฟังไปเรื่อย ๆ  เพลงไหนเพราะก็จัดให้สมองจำไว้


(ตอนนั้นผมนึกว่าเป็นเสียงของผู้หญิง  ชื่อของเธอก็ไม่ช่วยในการตัดสินใจเสียด้วย)


FNXJxQ.jpg" border="0
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 31
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง