รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]

[nathanielnong]

นี่เป็นอีกหนึ่งวงคู่ที่ได้มีโอกาสฉายแสงหลังจากที่วง The Carpenters ดับแสงไปแล้ว  คู่หู England Dan & John Ford Coley เพลงของพวกเขาได้รับการนิยามว่าเป็น soft rock  สองเพลงแรกดังในบ้านเรามาก  ทั้งเพราะและชวนฝัน






ผมซื้อแผ่นฯ รวมฮิตของวงนี้พบว่าบรรจุเพลงเพราะ ๆ ทั้งนั้นเลย 











หลังจากยุบวง  ED ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว  ผมเคยได้ยินเพลงหนึ่งของเธอทางวิทยุ  เป็นผลงานที่ลืมไม่ลง

เพลงนี้ไม่ได้เป็น single เป็นแค่ร่องหนึ่งใน album เดี่ยวแผ่นแรกของเธอ  แสดงว่าดีเจคงซื้อ album นี้ไว้แล้วเอาเพลงนี้มาเปิดให้ฟัง

[nathanielnong]

England Dan Seals มีพี่ชายอยู่คนหนึ่งเป็นศิลปินเพลงเช่นกัน  เธอเป็นครึ่งหนึ่งของวงคู่ชื่อ Seals & Crofts  ชื่อเสียงของวงนี้อยู่ในช่วงต้น 70s  ความที่ในขณะนั้นวง The Carpenters กำลังร้อนฉ่า  ความดังของวงจึงกลบ S&C เสียเกือบมิด (จากประสบการณ์ของกบใส่แว่นในกะลาครอบ)  อย่างไรก็ตามในปี 1972 มีเพลงหนึ่งดังออกมาจากลำโพงวิทยุ  ดังใส่หูผมอยู่นานจนลืมไม่ลงจนบัดนี้



นั่นเป็นฉบับ acoustic  ฉบับ single นั้น 'หรูหรา' กว่า  ดังนี้



อีกเพลงที่ดังคู่กันมา  เพลงนี้ไม่ได้เป็น single  เป็นแค่ร่องหนึ่งใน album  ดีเจเจ้าของแผ่นฯ คงเห็นเพราะเลยเอามาเล่นให้ผมฟัง  ซึ่งก็เพราะจริง ๆ และลืมไม่ลงอีกเช่นกัน  ตอนที่อยู่ในช่วงแสวงหา  ใครต่อใครก็ตามหาเพลงนี้กันให้จ้าละหวั่น  ตอนนั้น youtube ยังไม่แข็งแรง  หาไม่เจอ

[nathanielnong]

เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงบรรเลงกันบ้าง  ขอบเขตการฟังเพลงทางวิทยุแบบบ้าระห่ำของผมซาลงเมื่อเข้ายุค 80s  พอปลาย 80s ก็เลิกหมุนแป้นแล้ว  แนวเพลงมันเปลี่ยนไป  หันมาฟังแต่แผ่นเสียงที่ซื้อสะสมไว้แทน  จากประสบการณ์  เพลงบรรเลงที่ตัดเป็น single ขึ้นอันดับ billboard นั้นจะชุกชุมในยุค 60s  พอเข้าสู่ยุค 70s ก็น้อยลง

นี่เป็นเพลงดังเพลงหนึ่งที่อเมริกาในยุค 60s  เล่นโดยคณะ Village Stompers เป็นศิลปินต้นฉบับที่นำเพลงนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 2 ของตาราง billboard



เท่าที่รำลึกได้  ฉบับที่เป็นต้นฉบับนี้ไม่ได้ยินบ่อยเท่าฉบับนี้



ผมว่าที่ได้ยินฉบับนี้บ่อยเพราะมีคลื่นรายการเพลงฝรั่งคลื่นหนึ่งนำเพลงนี้มาเป็นเพลงเปิดรายการ  ผมไม่รู้ว่าดีเจเอาฉบับนี้มาจากไหน  ฉบับนี้ไม่ได้เป็น single และชื่อศิลปิน Billy Strange ก็เป็นคนแปลกหน้าบนอันดับเพลง billboard อย่างมาก  Album ของเธอไม่เคยผ่านอันดับ 100 ขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ

[nathanielnong]

John Denver เป็นนักร้องแนว country แท้ ๆ ที่สามารถสยบหูนักฟังเพลงแนว pop ได้  เพลงของเธอข้ามฟากจากฝั่ง country มาขึ้นอันดับในฝั่ง pop เป็นว่าเล่น  และที่แปลกคือเพลงที่ขึ้นอันดับฝั่งตาราง pop มีจำนวนมากกว่าฝั่งตาราง country

ใครจะคิดว่าเพลง country จ๋าเพลงนี้จะสามารถขึ้นอันดับ 1 บนตาราง billboard ฝั่ง pop และคว้าแผ่นเสียงทองคำได้



นักฟังเพลงฯ รู้จักชื่อ JD ดีทุกคน  และรู้จักเพลงของเธอมากมาย  ผมจะเล่าว่าในยุค 70s เธอเป็นนักร้อง country ฝ่ายชายที่ดังที่สุด  จุดสูงสุดของเธออยู่ที่ปี 1974 และ 1975  ช่วง 2 ปีที่ว่าเธอออก album ถึง 3 ชุด เป็นชุดแผ่นคู่ 1 ชุดคือชุดการแสดงสด  อีก 2 ชุดอัดใน studio ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ทั้งคู่  ส่วนชุดการแสดงสดขึ้นได้ถึงอันดับ 2 (สมัยเด็ก ๆ สมองยังไม่ค่อยเต็มกระโหลก  แผ่นเสียงคู่แผ่นไหนที่ไต่อันดับได้ไม่ได้ไกล  ผมมักอดคิดไม่ได้ว่า  'ก็เล่นออกทีเดียว 2 แผ่น  มันก็หนักน่ะซี  จะไปไต่อะไรได้ไหว'

แผ่นเสียงทั้ง 3 ชุดนี้ส่ง singles ออกมาเข้าหูผมอย่างสนุกสนาน  เริ่มต้นที่เพลงรักหวานจ๋อยอันดับ 1 แผ่นฯ ทองคำ



Ballad จืด ๆ แต่สามารถคว้าแผ่นเสียงทองคำมาได้



และเพลงที่เพราะมาก (เฉพาะหูผมเพราะมันไต่อันดับ (pop) ไปได้ไม่ไกล)

(ที่ผมว่าเพราะ  เพราะเปิดจากแผ่นเสียงในชุด stereo ช่วงหลังของเพลงกระหึ่มมาก  ลำโพงปล่อยออกมาหมดทุกเครื่องดนตรี)





มีต่อ...

[เทาชมพู]

ในบรรดาเพลงของจอห์น เดนเวอร์ เพลงนี้เป็นเพลงโปรด
จอห์น เดนเวอร์ดังระเบิดเถิดเถิงในรัฐนี้   ช่วง 1970s   ไม่ว่าไปไหนจะได้ยินเสียงเพลง  และข่าวของเขา
ทำให้รัฐไกลปืนเที่ยงรัฐนี้ ดังขึ้นมาในพริบตา

[nathanielnong]

แผ่นเสียงชุดนี้เป็นชุดที่ดังที่สุดของ John Denver  สำหรับนักฟังเพลงฝรั่งตามความนิยมและเล่นแผ่นเสียงด้วย  ใครไม่ได้ซื้อแผ่นนี้เป็นต้องโดนค่อนขอด  ช่วงนั้นร้านขายแผ่นเสียงนานาแห่งต่างมีแผ่นนี้ประดับอยู่บนหิ้งกันทั้งนั้น  เพลงทุกเพลงเพราะเสนาะหู

Single เพลงแรกของแผ่น ฯ ไต่ขึ้นอันดับ 1 ด้วยความรวดเร็วและคว้าแผ่นทองคำ  ตอนผมฟังครั้งแรกทางวิทยุมันมีทำนองธรรมด้าธรรมดา  หลังจากซื้อแผ่นฯ (เพราะความบ้าเห่อ)  ฟังไปฟังมาตามความสะดวกแล้วเพราะจริง ๆ

Single นี้ดังทั้ง 2 ด้าน  ด้าน B คือเพลงที่เปิดในบ้านเราบ่อยกว่าด้าน A ด้วยซ้ำ



ตามติดมาด้วย Single ที่ 2 มีนักร้องสาว Olivia Newton John มาช่วยร่วมร้อง  ผมว่า ONJ เป็นแรงจูงใจให้ดีเจบ้านเราเปิดเพลงนี้ทุกวัน  



ส่วน single ที่ 3 เริ่มแผ่ว  แต่ความเพราะคงที่



คัดเลือกเพลงอื่น ๆ ในแผ่นที่มีความเพราะไม่น้อยหน้ามาให้ฟัง






จบที่เพลงเอกที่ได้รับเลือกเป็นชื่อ album  ฟังด้วยเครื่องเสียงดี ๆ แล้วหลับตา  เคลิ้มไปเลยละ






มีต่อ...

[เทาชมพู]

[nathanielnong]

ผมไม่ได้ซื้อแผ่นคู่ของ John Denver  เนื่องจากไม่ชอบการแสดงสด  เพราะเป็นการเอาเพลงที่อัดใน studio มาร้องให้ฟัง  ผมไม่นิยม  แถมเป็นแผ่นคู่ด้วยราคาแพงจะตายเกิดไม่ถูกใจขึ้นมาผมต้องซึมไปเป็นอาทิตย์ด้วยความเสียดายเงิน  อีกทั้งแผ่น ฯ ชุดนี้ตัด single ออกมาเพียงเพลงเดียวคือ Thanks God ฯ ซึ่งเคยรวมอยู่ในแผ่น Back home again ที่ผมมีอยู่แล้ว



อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งเพลงในแผ่นคู่นี้ที่วิทยุบ้านเราเอามาเปิด  แล้วก็เพราะมากกกกกก



หลังจากแผ่นฯ 3 ชุดนี้ชื่อเสียงของ JD ก็เริ่มถดถอยตามหลักของธรรมชาติ  เธอยังคงออกเพลงใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ  แต่ไม่สามารถกู้ความนิยมกลับมาได้อีกแล้ว  อย่างไรก็ตามดีเจวิทยุก็ยังคงความซื่อสัตย์นำเพลงของเธอมาเปิดให้ผมฟังอย่างสม่ำเสมอ  ต่อไปอีกนานเลยละ






3 เพลงนี้เป็นเพลงฮิตชุดท้ายในบ้านเรา  แต่ไม่ได้ฮิตที่บ้านเขา







เวลาเห็นชื่อเพลง Take me homeฯ ทีไรจะนึกถึงอีกเพลงของเธอที่ในสมัยนั้น  ใครที่หัดเล่นกีต้าร์  เพลงนี้จะเป็นบทเรียนบังคับ



เล่ามา 3 ตอน  เกือบลืมบอกว่าเพลงโปรดตลอดกาลของผมคือเพลงนี้

[เทาชมพู]

คุณโหน่งเล่าถึงจุดจบที่แสนเศร้าของจอห์น เดนเวอร์หรือยังคะ
จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตาย

[nathanielnong]

คุณโหน่งเล่าถึงจุดจบที่แสนเศร้าของจอห์น เดนเวอร์หรือยังคะ
จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตาย

ครับ  ตอนโน้นสับสนกับข้อมูล  โหน่งได้ข่าวว่าเมา  ข่าวที่รู้มาจากการแปลซึ่งไม่รู้ว่าแปลเพี้ยนรึเปล่า 

20 กว่าปีผ่านไปข้อมูลมั่นคงขึ้นครับ

He was just offshore when the plane ran out of fuel. The National Transportation Safety Board reports that he turned in his seat to find the fuel selector valve, causing him to apply the right rudder accidentally. The 53-year-old lost control and died in the resulting crash.

The NTSB said Denver was not adequately trained for the transition to this aircraft type and was inexperienced in flying it.

Two days after the 1997 crash, the Associated Press reported that NTSB spokesperson Matt Furman said Denver did not have a valid license because his medical certificate was denied.

[nathanielnong]

ย้อนเวลากลับไปในยุค 50s

ในช่วงเวลาเดียวกันมีกลุ่มนักร้องประสานเสียง girl group ที่มีความดังไม่แพ้ The Chordettes คือ 3 พี่น้อง The McGuire Sisters  บัดนี้ออกเดินทางไกลไปกันหมดแล้วเช่นกัน




Sincerely นี้ดังในอันดับเพลงมาก  ติดอันดับ 1 นานถึง 10 อาทิตย์  นี่เป็นเพลงเดียวที่ได้ยินทางวิทยุ  นำเสนอโดยรายการ golden oldies  หลังจากที่ซื้อปูมเพลงของ Joel Whitburn  มาครอบครองก็พบว่ายังวงนี้ยังมีเพลงดังอันดับ 1 อีกเพลงที่ติดอันดับนานถึง 4 อาทิตย์  แต่ผมไม่เคยได้ยิน



ต่อมาผมซื้อแผ่น CD รวมเพลงของวงมาฟัง  พบว่ามีความชอบเพลงของพวกเธอน้อยกว่าเพลงของวง TC  อย่างไรก็ตามมี 3 เพลงที่น่าฟังมาก





(เพลงโปรดของผม)

[nathanielnong]

ในบรรดาวงผู้หญิงล้วนในยุคก่อนโพ้นไม่มีวงไหนดังเกิน The Andrew Sisters  ความดังของวงนี้มีมาก่อนสงครามโลกครั้ง 2 เสียอีก  

สำหรับผมเองไม่รู้จักหรอกชื่อวงนี้  แล้วก็จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเพลงของวงนี้จากในรายการ golden oldies  ความจริงก็ไม่ควรเอามาเขียนเพราะอยู่นอก ‘กรอบ’ แม้สมาชิกดั้งเดิมจะตายไปกันหมดแล้ว  แต่เอามาลงเพื่อให้ครบสมบูรณ์  

ผมรู้จักชื่อวงนี้จากพ่อ  พ่อเล่าว่าตอนไปร่วมทำสงครามที่เวียดนาม  รู้จักฝรั่งเพื่อนทหารที่ชอบฟังเพลง  เพื่อนพ่อเล่าว่าวง AS ดังมาก  ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  วงนี้ก็ไปร่วมเล่นเพลงปลอบขวัญทหาร  พ่อเล่าว่าที่แคมป์ใหญ่ที่เวียดนามยังมีแผ่นเสียงของวงนี้ (ขนาดทำสงครามยังมีช่วงผ่อนคลายฟังเพลง) ปะปนอยู่กับแผ่นวง 60s อื่น ๆ  เพื่อนพ่อเปิดเพลงของวงนี้ให้ฟังหลายเพลงแต่พ่อจำได้เพลงเดียวเพราะทำนองติดหูมาก

ชื่อเพลง Rum and Coca-Cola ที่พ่อเอ่ยถึงนี้ติดอยู่ในใจผมเป็นสิบ ๆ ปี  ตอนนั้นรู้แต่ชื่อเพลง  ก็อยากรู้จังว่ามันมีทำนองอย่างไร  ถามพ่อ ๆ ก็ฮัมไม่ได้เพราะไม่คุ้นกับมัน  บอกแต่ว่าฟังครั้งแรกก็ติดใจ

จนกระทั่งผมได้ไปอเมริกาครั้งแรกเมื่ออายุได้ 30 ขวบเด๊ะ  จุดประสงค์แรกก็คือหาซื้อแผ่นเสียงนั่นแหละ  ตอนนั้นอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการสูญพันธุ์ของแผ่นเสียงกับการถือกำเนิดของแผ่น CD  แล้วผมก็ได้แผ่นของ AS ในรูปแบบของ CD
 
พอกลับมาถึงบ้านก็รีบเปิดเพลง Rumฯ ทันที  นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน  แหม... ตรงตามที่พ่อบอกจริง ๆ  ทำนองติดหูแกะไม่ออก  ผมเปิดฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่านับ 10 หน  เอาให้สะใจกับการรอคอยฟังมาเป็นหลายสิบปี

เพลงนี้ออกตลาดในปลายปี 1944  ขึ้นถึงอันดับ 1 บนตาราง billboard ในต้นปีต่อมา  และค้างอยู่นานถึง 10 อาทิตย์


พออิ่มแล้วก็เริ่มฟังเพลงอื่นต่อ  ปรากฏว่านอกจากเพลง Rumฯ แล้วไม่มีเพลงไหนที่ถูกหูผมเลย น่าจะเป็นเพราะทำนองล้าสมัย (สำหรับหูผม) มากไป  ไม่เหมือนเพลงของ The McGuire Sisters หรือ The Chordettes  ที่ดังทีหลัง  ถ้ารู้อนาคตว่าต่อไป อตน. จะครองโลก  ต่อไปจะมี file หนัง/เพลง  ผมคงไม่ควักตังค์ (ดังหนึบ) ซื้อแผ่น AS นี้อย่างแน่นอน  ก็มันแพงจะตายชักตั้ง 30 กว่าเหรียญ (ค่าเมื่อ 30 กว่าปีก่อน) แน่ะ

แนะนำเพลงอื่นของวงที่ ผมว่า ... ก็เออวะ



เพลงแรกของวงซึ่งติดอันดับ 1 ทันทีในปี 1938  ตอนนั้นตาราง billboard ยังไม่เกิดเลยไม่รู้ว่าชื่อตารางอะไร  Wikiฯ บอกมา



นี่เป็น clip ของวงฯ อยู่ในหนังชื่อ Hollywood Canteen (1944)  เป็นการสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจบรรดาทหารหาญที่เข้าร่วมสงครามครั้งที่ 2  มีดารามากมายในสังกัดของ studio มาช่วยโผล่หน้า (cameo) ให้คนดูเช่นผมตื่นตาตื่นใจ



ตัวอย่างหนัง

[เทาชมพู]

เคยดูคลิปนี้หรือเปล่าคะ

[nathanielnong]

ผิดพลาดครับ

[nathanielnong]

ผิดพลาดครับ  รีบไปหน่อย  'ชาติ'ตะโกนเรียกเลยลนลาน