"เพลงแปลง" ดังได้สดับมา

[เทาชมพู]

That's Amore เป็นเพลงฮิทของดีน มาร์ตินตั้งแต่ปี 1953   บรรยายถึงความรู้สึกของคนที่ตกอยู่ในห้วงรัก ด้วยถ้อยคำตลกสนุกสนาน     นคร มงคลายนนำมาแปลงเป็นไทย ว่า รักรวนเร   โดยเอาคำท้ายของ Amore  (อ่านว่าอะมอเร่) มาเป็น รวนเร  
นักร้องหญิงคือเพ็ญแข กัลย์จาฤก

ส่วนเด๊ดสะมอเร่ ที่แปลว่า ตาย มาทีหลัง เป็นสำนวนที่คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์คนหนึ่งดัดแปลงจาก That's Amore  มาใช้ในการเขียนบทความ   แล้วก็ฮิทติดอันดับเป็นที่รู้จักกันนับแต่นั้น

[พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่]

Diana - อย่าอายน่า

[พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่]

แล้วทำนองก็มาถึงลูกทุ่ง ฮักกันบ่ได้ดอก

[เทาชมพู]

อย่าว่าแต่คนไทยแปลงเพลงจากฝรั่งมาเป็นไทย    ฝรั่งเองก็แปลงเพลงฝรั่ง จากของชาติหนึ่งเป็นอีกชาติหนึ่งเช่นกัน
อิตาลีมีเพลงเพราะๆของตัวเองมากมายหลายเพลง  หนึ่งในนั้นคือเพลงท้องถิ่นของเนเปิล  แต่งโดย Giambattista และ Ernesto de Curtis  เมื่อปี 1902  ชื่อว่า  "Torna a Surriento" หรือ "Come Back to Sorrento"
Doc Pomus และ Mort Shuman เอามาปรับใหม่เป็นเพลงร็อค  ใส่เนื้อใหม่ ชื่อว่า"Surrender"  มีราชาเพลงร็อค เอลวิส เพรสลีย์เป็นคนร้อง

Surrender  ขึ้นอันดับ 1  ทั้งสหรัฐและอังกฤษในปี   1961 เป็นหนึ่งในเพลงขายดีติดอันดับของเอลวิส

[เทาชมพู]

เพลงเดิม  ร้องโดย ดีน มาร์ติน

[เทาชมพู]

เพลงแปลงอีกเพลงที่ประวัติทำนองเดียวกัน คือ O Sole Mio  ถือกำเนิดในเนเปิล  ตั้งแต่ปี  1898 ผู้แต่งคือ Giovanni Capurro  ชื่อภาษาอิตาเลียนแปลเป็นอังกฤษว่า  "my sun" หรือ "my sunshine"
เพลงนี้ใช้ร้องเป็นเพลงโอเปร่า    นักร้องโอเปร่าดังๆเคยร้องกันมาทุกคน

[เทาชมพู]

จากนั้นก็กลายมาเป็นเพลงของราชาร็อค เอลวิส เพรสลีย์  ชื่อ It's Now or Never ขึ้นอันดับ 1 ในปี 1960 ขายได้ 20 ล้านแผ่นทั่วโลก

[เทาชมพู]

มีเพลงของสเปนเพลงหนึ่งชื่อ La Paloma  แปลว่านกเขา   หรือ The Dove" ในภาษาอังกฤษ  แต่งโดย Sebastián Iradier (ภายหลังสะกดนามสกุลว่า  Yradier) ราวๆ ค.ศ. 1860    ทำนองไพเราะจนนำไปแปลงเป็นหลายภาษา แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ เอลวิส เพรสลีย์นำมาร้องในเนื้อใหม่  ชื่อว่า No More ในหนัง  Blue Hawaii

[พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่]

(ขอนอกประเด็นต้นกระทู้)

ถ้าเพลงฝรั่งจากเพลงฝรั่งด้วยกันเอง ผมนึกถึงเพลงนี้

ราวทศวรรษที่ 1920 กว่า ๆ มีเพลงพื้นเมืองของรัสเซียชื่อ Дорогой длинною (Dorogoj dlinnoju) ประพันธ์ทำนองโดย Boris Ivanovich Fomin



จนปี 1968 Mary Hopkin ได้ร้องเพลง Those Were The Days จนเพลงนี้ได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

[nathanielnong]

[เทาชมพู]

มีกระทู้มากมายในเรือนไทยที่ "แยกซอย" เมื่อยาวขึ้น   อย่างกระทู้นี้เริ่มด้วยการดัดแปลงเพลงฝรั่งเป็นไทย   ต่อมาก็แยกสาขาเป็นเพลงญี่ปุ่นหรือจีนดัดแปลงเป็นไทย  หรือแปลงเป็นฝรั่ง
แล้วก็ตัดซอยใหม่เป็นเพลงฝรั่งดัดแปลงเป็นเพลงฝรั่ง 
ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ไม่ขัดข้อง  ก็ขออนุญาตให้มีแยกซอยไปเรื่อยๆนะคะ ถ้ามีใครอยากแยก
ตอนนี้ จำได้ว่ามีเพลงฮิทหลายเพลงทีเดียวของอเมริกา  เอาทำนองมาจากเพลงฝรั่งเศส   ไทยก็รับมาจากอเมริกา น้อยคนจะรู้ต้นตอของเพลง
จึงอยากจะบันทึกไว้

Beyond the Sea เป็นเพลงยอดฮิทของ Bobby Darin  นักร้องเพลงป๊อปยอดนิยมในยุค 1950s ถึงต้น 1960s
แต่งเนื้อโดย Jack Lawrence  ให้เป็นเพลงรักของคนที่เฝ้ามองออกไปหาคนรักที่โพ้นทะเล

[เทาชมพู]

ที่จริงคือเพลง La Mer ของ charles trenet พรรณนาความงามของท้องทะเล

[เทาชมพู]

ย้อนกลับเข้าถนนใหญ่ ว่าด้วยเพลงฝรั่ง ไทยนำมาแปลงอีกครั้ง
คราวนี้เป็นเพลงฝรั่งย้อนกลับไปถึง ค.ศ. 1930   ชื่อ "On the Sunny Side of the Street" แต่งทำนองโดย  Jimmy McHugh และเนื้อร้องโดย  Dorothy Fields. เป็นเพลงประกอบละครบรอดเวย์ ดาราคือ Harry Richman และ Gertrude Lawrence.

[เทาชมพู]

ส่วนเพลงไทย คือ "รักไม่รู้ดับ"  ผู้ร้องคือนักร้องหญิงยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ล่วงลับไปแล้ว   คุณสวลี ผกาพันธุ์

[เทาชมพู]

เมื่อค.ศ. 1952    แฮงค์ วิลเลียมส์ ราชาเพลงลูกทุ่งของอเมริกา  ใช้เวลาแต่งเพลง Your Cheatin' Heart ทั้งเนื้อร้องและทำนองเสร็จ ภายในเวลาสั้นๆ   บรรยายถึงอดีตภรรยาที่หย่ากันไปแบบแตกร้าวต่อไม่ติด      เพลงนี้ติดอันดับฮิทถึง 6 สัปดาห์