เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 3021 soft power
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 20 พ.ย. 23, 15:35

case study ว่าด้วยความหมายของ soft power - พลังละมุน

เมนูไข่เจียวพลังละมุน ยิงฟันยิ้ม

ไข่เจียวกุ้งสับลิซ่า


ข้าวไข่เจียวไม่ใช่ soft power  แต่ content ที่คิดออกมาอย่างสร้างสรรค์คือ soft power ที่ทำให้คนดูคล้อยตาม และรู้สึกอยากบริโภค product ใน content นั้น ๆ ส่วนลิซ่า คือ influencer ที่เป็นเหมือนพาหนะ ที่จะนำพา content และบรรดา product ที่อยู่ใน content ออกไปสู่สายตาของชาวโลก

ลิซ่า = influencer
content = soft power
ข้าวไข่เจียว = product
พริกน้ำปลา = product
ไอติมกะทิบนขนมปัง = product
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 21 พ.ย. 23, 12:35

สุชาติ สวัสดิ์ศรี อดีตศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. ๒๕๕๔ เสนอคำว่า "อำนาจวัฒนธรรม"


บันทึกการเข้า
vilat
อสุรผัด
*
ตอบ: 2


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 22 พ.ย. 23, 09:44

Soft power กลยุทธ์นี้มีมานานแสนนาน สมัยห้าสิบปีก่อน อเมริกันเปิดสอนภาษาอเมริกันที่ AUA  ฝรั่งเศสเปิดสอนภาษาฝรั่งเศสที่ Alliance francaise พยายามแจกจ่ายวัฒนธรรมให้คนไทตัวเล็กๆๆ ที่แสนจะไม่รู้เรื่องโลก  มายุคนี้เกาหลี เอาตำราสังคมศาสตร์ที่อเมริกายึดครองญี่ปุ่นได้ในทางวัฒนธรรมมาใช้  พี่ไทยวันนี้ ก็มาพูดกันในระบบราชการ ซึ่งแสนจะล้าหลัง  มันก็ได้แค่ แต่งตัวแบบหนังอยุธยา ถ่ายรูปกันเอง เออออกันเองแบบไทๆ ที่เก่งแต่ในพวกเดียวกัน  และเห็นกับข้าวอะไรที่ตัวเองชอบกิน ก็บอกเป็น Soft power ตามแบบ ไทฮวนในกะลาที่ต้วเองครอบตัวเองให้หนาๆๆ เข้าไว้ จะได้ปลอดภัยในตำแหน่งหน้าที่ราดชะกาง  เป็นเช่นนี้แล เอวัง  ทั้งๆที่เหล่าข้าราชการทั่วประเทศ จัดทัวร์ไปดูงานสารพัดประเทศกันแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว มานานแสนนาน  ก็ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ร็อกกก ขืนเดินหน้าเอาจริง มันเสี่ยงกับตำแหน่งเด้ออ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 22 พ.ย. 23, 10:13

 การเห็นข้อบกพร่องของคนอื่น และหน่วยงานอื่นเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อะไรมาก  ดิฉันอยากให้คุณแนะนำบ้างว่า ถ้าไทยจะทำ soft power ของตัวเองให้ได้ผลในสายตาชาวโลกบ้าง ควรทำอย่างไร  มีอะไรที่เป็น soft power ของไทย ในสายตาคุณ

ล่าสุด ผู้นำเกาหลีใต้พาสาวๆ แบล็คพิ้งค์เข้าพระราชวังบัคกิ้งแฮมไปเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์แล้ว   ไม่ต้องเสียค่าประชาสัมพันธ์ ก็เป็นข่าวไปทั่วโลก
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 22 พ.ย. 23, 10:35

เรียนวิชา SOFT POWER 101 กับ คุณครูช่อ พรรณิการ์ ยิงฟันยิ้ม




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 22 พ.ย. 23, 11:00

จาก FB คุณ Jaew Waew Lopanpaibul

บทความเรื่อง Soft Power อ่านแล้วเข้าใจได้ดี  เลยขอนำมาเผยแพร่ต่อ  แต่ต้องขอประทานโทษ ที่ไม่รู้ต้นทางของบทความและผู้เขียน

‘Soft Power’
.
คำว่า Soft Power เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1990 โดย Joseph S. Nye เดิมทีแล้วเป็นแนวคิดที่ถูกใช้ในบริบทของรัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
.
ในบริบทของรัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คำว่าอำนาจจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือ Hard Power และ Soft Power ในส่วนของ Hard Power คืออำนาจเชิงบังคับ ที่อยู่ในรูปแบบของการทหาร การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะก่อให้เกิดความรุนแรง หรือ ทำให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของประเทศเจ้าของ Hard Power นั้นๆ
.
Soft Power จึงมีความหมายเป็นขั้วตรงข้ามของ Hard Power คำนิยามสั้นๆ ที่ได้ใจความของมันคือ “อำนาจแห่งการโน้มน้าวใจ” คุณไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังทางทหารเพื่อสร้างความหลงใหลนี้ แต่คุณต้องใช้ทุนที่มีอยู่ในประเทศ สร้างการโน้มน้าวใจต่อประเทศเป้าหมาย คำว่าทุนในบริบทนี้มีด้วยกัน 3 อย่าง
.
1.ทุนทางวัฒนธรรม
2.ค่านิยมทางการเมือง
3.นโยบายต่างประเทศ
.
ภายใต้กรอบของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศการส่งออก Soft Power ให้สำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของรัฐบาลทั้งสองฝั่ง ฝั่งที่ส่งออกก็ต้องมีรัฐคอยขับเคลื่อนในการผลักดันทุน ฝั่งที่รับก็ต้องมีรัฐบาลที่ได้รับอิทธิพลและหลงใหลทุนเหล่านั้น ถึงจะเรียกว่า Soft Power
.
ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายๆ คนเข้าใจคำว่า Soft Power ผิดคิดแค่ว่าอะไรคือสิ่งที่ได้รับความนิยมก็เป็น Soft Power ทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงมันซับซ้อนมากๆ และในความซับซ้อนนี้ก็สร้างความเข้าใจผิดได้มากเช่นกัน
.
.
[ หนึ่งในกรณีศึกษาของความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น ‘LALISA’ ]
.
เมื่อปี 2021 มีกระแสความชื่นชมว่า ‘LALISA’ เป็น Music Video ที่แสดงความเป็นไทย เป็น Soft Power ที่สร้างความน่าหลงใหลให้กับประเทศไทย แต่มันเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก ถึงแม้เราจะเห็นต้นทุนที่เป็นวัฒนธรรมของไทยในองค์ประกอบของวิดีโอก็ไม่ได้หมายความว่ามันคือ Soft Power ของไทย เพราะ LALISA เป็นเพลงแนว K-Pop จุดประสงค์หลักของมันคือการขายวัฒนธรรมเพลงป็อปเกาหลี ที่มีองค์ประกอบของความเป็นไทยประดับเฉยๆ ดังนั้น มันจึงไม่ใช่ Soft Power แต่อย่างใด
.
น่าเสียดายนักที่เราอยากจะยกตัวอย่างของ Soft Power ประเทศไทย แต่ไม่สามารถทำได้เพราะ “ยังไม่มีอะไรที่เป็น Soft Power ของไทยอย่างแท้จริง” ทำให้คำว่า Soft Power ที่พูดกันอยู่นี้เป็นได้แค่ Buzzword เท่านั้น สถานการณ์ของประเทศไทยกับคำว่า Soft Power ตอนนี้ จะมีเพียงแค่ต้นทุนที่มีแนวโน้มสามารถผลักดันเป็น Soft Power ได้ในอนาคต
.
.
[ ศึกษา Soft Power จากประเทศที่มีอยู่จริง ]
.
ถึงแม้ในตอนนี้ประเทศไทยจะยังไม่มี Soft Power อย่างแท้จริง แต่เพื่อทำให้ผู้อ่านเห็นภาพของอำนาจแห่งความหลงใหล เราอยากจะนำเสนอกรณีศึกษาของ Soft Power จากประเทศญี่ปุ่น ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
.
ประเทศญี่ปุ่นใช้แนวคิด Soft Power กับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (คำว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ คือ แนวคิดของการนำวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มาเพิ่มมูลค่า) เกิดเป็นนโยบาย Cool Japan ที่สนับสนุนวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้มีส่วนในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น Manga, Anime, J-Rock เป็นต้น
.
ความพิเศษของญี่ปุ่นคือมีต้นทุนที่สามารถสร้าง Soft Power ได้จากทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิม และวัฒนธรรมประชานิยม โดยแบ่ง Soft Power ออกเป็น 2 มุมมอง
.
1.Culture Odour วัฒนธรรมดั้งเดิม หรือ สิ่งที่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น เช่น ชุดกิโมโน หรือ เทศกาลทานาบาตะ(การขอพรดวงดาว)
.
2.Mukokuseki วัฒนธรรมประชานิยมมาจาก Manga เป็นส่วนมาก คำนิยามของมันคือ “บางสิ่งหรือบางคนที่ไม่มีความเป็นชาติอยู่” เช่น ตัวละครจากการ์ตูนที่ไม่มีความเป็นญี่ปุ่นเลยแต่เมื่อเห็นแล้วคุณรู้ว่ามันคือวัฒนธรรมประชานิยมของญี่ปุ่น เช่น Attack On Titan
.
ดังนั้น ในกรณีของประเทศญี่ปุ่นเป็นการใช้งาน Soft Power จากทุนทางวัฒนธรรมที่เกิดจากนโยบาย Cool Japan ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาล และสามารถสร้างสรรค์ผลงาน นำไปสู่การส่งออก Soft Power สร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับต้นทุนเหล่านั้น
.
.
[ สถานการณ์ของ Soft Power ที่เป็นได้แค่ Buzzword ในประเทศไทย ]
.
การที่คนบางกลุ่มบอกว่า สัปเหร่อ คือ Soft Power อาจจะเป็นการเข้าใจความหมายคลาดเคลื่อน เช่นเดียวกับการเข้าใจว่า ช็อกมิ้นท์คือ Soft Power สิ่งที่จะเป็น Soft Power ได้นั้นต้องมาจากทุนทั้ง 3 ประเภทตามแนวคิดของ Nye เพราะไทยเราไม่ได้มีต้นทุนวัฒนธรรมประชานิยมที่แข็งแรงแบบญี่ปุ่น เราจึงต้องยึดจากทุนวัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง และนโยบายต่างประเทศ
.
แต่การที่เราไม่มี Soft Power อย่างแท้จริง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีศักยภาพ เรายังมีทุนอยู่มากมายที่มีความสามารถในการผลักดันให้เกิดเป็น Soft Power ส่งออกและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ เราเพียงแค่ต้องเปลี่ยนมุมมองจากที่จะเรียกทุกสิ่งว่า Soft Power เป็นการเรียกสิ่งเหล่านั้นว่า ‘ต้นทุน’ เมื่อเราได้ขอบเขตของต้นทุนแล้ว จะช่วยให้การสนับสนุนและการออกแบบนโยบายเข้าถึงได้ตรงจุด ส่งผลให้ผลักดันต้นทุนไทยสู่การเป็น Soft Power ได้อย่างแท้จริง
.
อาหารไทย การแสดงไทย มวยไทย ทุกๆ สิ่งล้วนเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีความสามารถในการเปลี่ยนเป็น Soft Power ได้ทั้งสิ้น ขาดเพียงนโยบายการผลักดันที่ตรงจุดเท่านั้น
.
.
[ สรุป ]
.
คำว่า ‘Soft Power’ นั้นหมายถึงอำนาจอ่อน ที่มีเป้าหมายในการมอบความหลงใหลและโน้มน้าวใจให้มาชอบ โดยต้องอยู่ในกรอบของแนวคิดต้นทุนทางวัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง และนโยบายต่างประเทศ สถานการณ์ในไทยตอนนี้ยังไม่มี Soft Power อย่างแท้จริง แต่มีต้นทุนที่สามารถผลักดันให้เกิด Soft Power อยู่มากมาย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 23 พ.ย. 23, 09:55

ล่าสุด   อาหารโปรดของแม่การะเกด เป็นพลังละมุนไปแล้ว

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 23 พ.ย. 23, 09:58

เชิญชาวเรือนไทย มาทำและรับประทานพลังละมุน อำนาจอ่อน  อำนาจวัฒนธรรม ฯลฯ กันค่ะ

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 23 พ.ย. 23, 10:35

ขออนุญาตนำ เมนูหมูกระทะพลังละมุน ไปเสริมที่ กระทู้ เมนูหมู หลายเมนู ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 27 พ.ย. 23, 14:50

   กลับมาดึงกระทู้นี้ขึ้นอีกครั้ง
   soft power  เป็นคำฮิทอยู่ในตอนนี้   เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับ hard power
  Hard Power  หมายถึงอำนาจบังคับขู่เข็ญ   ถ้าประเทศหนึ่งบีบบังคับให้อีกประเทศหนึ่งต้องใช้ระบบเงินตราของประเทศแรก  บังคับให้ระบบการศึกษาตามรอยที่กำหนด เช่นต้องเรียนภาษาของประเทศแรก   พวกนี้เป็น hard power  อย่างประเทศแม่ของอาณานิคมใช้กับประเทศในสังกัด
   ตอนนี้ soft power ในไทยเห็นจะออกมาในรูป "จุดขาย"   อะไรที่ขายชาวต่างชาติได้ดี น่าจะถูกนำมาเป็น soft power ทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 01 ธ.ค. 23, 15:01

สาดน้ำทั้งเดือน! “อุ๊งอิ๊ง” โชว์งานซอฟต์พาวเวอร์ กางแผนจัดงานสงกรานต์ ปี 67 ตลอดเดือนเม.ย. ลั่นปักหมุดไทยติด 1 ใน 10 สุดยอดเฟสติวัลโลก

วันนี้ (1 ธ.ค. 66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โพตส์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “แผนงานปีหน้า เริ่มแล้วค่ะ
ประชุมคณะกรรมการการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เมื่อวานนี้ ทั้ง 12 คณะ จาก 11 อุตสาหกรรม ได้เสนองบประมาณเพื่อเตรียมดำเนินการในปีหน้า โดยหลังจากนี้เราจะเสนองบประมาณตามลำดับขั้นตอนต่อไป
และอีกหนึ่งเรื่องใหญ่และน่าตื่นเต้น คือแผนงานใหญ่ปีหน้า วันสงกรานต์จะไม่ใช่แค่เทศกาลแบบในอดีตที่ผ่านมา แต่เราจะจัดงานใหญ่ มหาสงกรานต์ World Water Festival - The Songkran Phenomenon
เราจะปักหมุดให้สงกรานต์ในไทยปีหน้า เป็นเทศกาลที่คนทั้งโลกต้องบินมาเล่นที่บ้านเรา และสงกรานต์ปีหน้า เราจะไม่เล่นน้ำแค่ 3 วันนะคะ แต่จะจัดงานกันทั้งเดือน ทยอยจัดกันทั้งประเทศ 77 จังหวัด
เตรียมวางแผนกันได้เลยนะคะว่าสัปดาห์ไหนของเดือนเมษายน อยากจะไปเล่นน้ำสงกรานต์กันที่จังหวัดไหนค่ะ
มาร่วมกันทำให้สงกรานต์บ้านเรา เป็นเทศกาลที่ทั่วโลกต้องปักหมุดมาเล่นน้ำที่บ้านเรา และทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก”

https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/376908?fbclid=IwAR0Nq86oAZPef_kjD_W6D5nVlnC_xnb5Y5LyCW37oD3KP3StVHGqPNjibRs


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 04 ธ.ค. 23, 11:12

อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ์ เขียนบทความในรูปคำถามคำตอบ   แสดงความเห็นเกี่ยวกับ Soft Power ว่า

ถาม  Soft Power คืออะไรครับ ?
ตอบ  ตอบอย่างนี้ดีกว่า…ผมขอถามว่าถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษแล้ว   มีอะไรที่คุณชมชอบอยากไปเที่ยว อยากจะมี อยากจะเลียนแบบกับเขาบ้าง

ถาม   ผมอยากไปดู แข่ง FA-Cup, ไปพระราชวังบั้คกิ้งแฮม, ชมพิพิธภัณฑ์, แข่งม้าข้ามเครื่องกีดขวาง, อยากส่งลูกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ฯลฯ
ตอบ  ที่พูดมานั่นแหละครับ Soft Power ของอังกฤษ   ที่พัฒนาก่อตัวขึ้น สั่งสมขึ้นโดยธรรมชาติตามรากเหง้าของเขา   รัฐบาลอังกฤษพึ่งโผล่หัวมาสำรวจ มาสอบถามกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง แล้วปรึกษาตกลงวางมาตรการช่วยเหลือส่งเสริม ตามเท่าที่จะทำได้ในกรอบของรัฐเท่านั้น เหตุเพราะได้คิดว่าเป็นหน้าตาเป็นประโยชน์ในทางการค้าทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย

ถาม   รัฐเป็นเจ้ากี้เจ้าการ สร้าง Soft Power ได้ไหม ?
ตอบ  ไม่ได้  เป็นได้แค่พันธมิตรเข้ามีส่วนช่วยเหลือส่งเสริมเท่านั้น  อย่าง FA-Cup มันเป็นวิวัฒนาการในสังคมกีฬาของเขาเอง  พอมีคุณภาพทอดเงาออกมาเป็นหน้าเป็นตาของอังกฤษ   ถึงมากี๊บก๊าบวี้ดบึ้มเชียร์กันในภายหลังว่า  นี่คือ Soft Power ของเรา

ถาม เห็นคณะกรรมการของรัฐบาล ประกาศจะจัดการให้งานสงกรานต์เป็น Soft Power ของไทย เป็นซุปเปอร์เฟสติวอลของโลก ให้สาดน้ำกันทั้งเดือนไปเลย
ตอบ  สงกรานต์เป็นประเพณี เดิมมีวันเดียว แล้วต่อมาถึงขยายอีกสองวันจะได้เป็นวันกลับบ้านรวมครอบครัวไปด้วย ส่วนที่เป็นวันไหล คือไหลไปมีที่พระประแดง ที่ชลบุรีตามหลังมาด้วยนั้น นั่นก็เป็นประเพณีเฉพาะถิ่นเขา รัฐบาลจะให้ไปจัดตามจังหวัดอื่น เรียงไล่กันไปทั้งเดือนทั้งประเทศด้วย อย่างนี้มันก็เป็นของปลอมของแต่งสมมติขึ้นมา  ชาวบ้านเขาก็ไม่เอา ไม่ออกมาสาดน้ำด้วยหรอกครับ ขืนทำไปมันก็เป็นเหมือนทำศัลยกรรมพลาสติก สร้างใบหน้าใหม่ขึ้นมาลวงโลกเท่านั้นเอง อยู่กับใบหน้าเดิมแล้วแต่งให้ดูใสสดชื่นบ้างก็พอแล้วนะครับสำหรับการอยู่ในโลกนื้ ใครที่ผ่าตัดทำหน้าเทียมจนจำหน้าไม่ได้ไปแล้ว ก็กรุณาอย่าฟุ้งซ่านลามปามมาทำศัลยกรรมวัฒนธรรมของผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้เขาเลยนะครับ

ถาม มันไม่มีมีอะไรในไทยที่พอจะตกแต่งจัดการให้เป็นหน้าเป็นตาจนขึ้นชื่อในโลกบ้างไม่ได้เชียวหรือ
ตอบ  ถ้าว่าเฉพาะที่ทอดเงาออกมาให้โลกเห็นแล้วชื่นชมแล้วนั้น ผมก็ว่าประเพณีศิลปวัฒนธรรมที่เกาะเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของเรานั่นก็แรงมากนะครับ  ดังนั้นเมื่อต่างชาติเขาเข้ามาชมพระบรมมหาราชวังกับวัดพระแก้วแล้ว เราก็น่าจะเติมพิพิธภัณฑ์ประมวลภาพและข้อมูลเหล่านี้เข้าไปด้วย ทั้งขบวนพระพยุหะยาตราทางชลมารค, พระราชพิธีแรกนาขวัญฯลฯ

เรื่องอาหารไทยผลไม้ไทยนี่เหมือนกัน ถ้ารู้จักพัฒนายุทธศาสตร์ทั้งระบบแล้วให้ร้านอาหารไทยทั่วโลกเป็นเรือธง ก็น่าจะไปได้อีกไกลมาก

ถาม หนังไทย แฟชั่นไทย ได้ไหมครับ
ตอบ ผมยังไม่เห็นศักยภาพรวมหมู่ที่จะเกิดเป็นกลุ่มการผลิตอันเข้มแข็งขึ้นมาได้ อย่างกลุ่มผ้าไทยเรามีแล้ว แต่กลุ่มออกแบบ กลุ่มจัดแฟชั่น กลุ่มผลิดเสื้อผ้าแบรนด์เนม พวกนี้มันต้องได้ฝีมือพร้อมหน้าพร้อมตาถึงจะเกิด Soft Power ในทางแฟชั่นแบบฝรั่งเศสเขาได้  ศักยภาพพร้อมหน้าแบบนี้ไม่มีเลย

ถาม สรุปแล้วเรื่อง Soft Power นี้ รัฐควรต้องทำอะไรได้บ้าง
ตอบ อย่าเอาเรื่องนี้มาวี๊ดบึ้ม อย่าทำศัลยกรรมสร้างหน้าเทียม เลือกเป้าหมายที่มีศักยภาพมีตัวตนและต้นทุนอยู่แล้วมาเสริมต่อตามครรลองเดิมของเขาเช่นนี้จึงจะเห็นผลได้ ความเข้าใจนั้นก็ต้องให้ชื่อโครงการไปตามเนื้อผ้า เช่น โครงการพัฒนาครัวไทยเป็นครัวโลก  โครงการพิพิธภัณฑ์ศิลปะวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ์ ฯ ทั้งหมดนี้ไม่ต้องเอ่ยอ้างคำว่า Soft Power เลยก็ได้

Soft Power เป็นแค่เงาไม่ใช่ตัวตน อย่าหลงไปสร้างเงา คนไม่ใช่หมา อย่าหลงไปเห่าชิ้นเนื้อที่มองเห็นในน้ำด้วยความหิวโหย


https://www.topnews.co.th/news/855042?fbclid=IwAR01N6yfDvanKExon8HMqGmUOZrUs70OeAjPbQt8R9lcdhzl9qUPiLhoAiY
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 04 ธ.ค. 23, 11:21

จาก Facebook ของ วินทร์ เลียววาริณ 

ช่วงนี้ได้ยินคำว่า soft power ทุกวัน เอะอะอะไรก็ soft power พูดจนเฝือไปหมด
soft power คืออะไรกันแน่?
ในการเมืองโลก การบุกหรือครอบงำประเทศอื่นทำได้สองแบบ แบบแรกคือใช้กำลัง (hard power) บุกเข้าไปเลย (เช่น สงครามอิรัก) หรือกดดันด้วยกำลังภายใน (เช่น สหรัฐฯสั่งให้แคนาดาจับลูกสาวประธานหัวเหวย) หรือขู่ที่จะแบน ฯลฯ
แบบที่สองคือ 'โน้มน้าวใจ' ให้เปลี่ยน ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า soft power
พวก NGO และองค์กรนานาชาติบางแห่งก็เป็นเครื่องมือของ soft power ใน geopolitics ทำหน้าที่ 'เทศน์' ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเปลี่ยนไปในแนวทางที่ต้องการ เช่น เรียกร้องให้เป็นประชาธิปไตย เรียกร้องให้มี human rights หรือค่านิยมบางอย่าง บางครั้งก็ส่งทูตไปกินเลี้ยงกับบางพรรคการเมือง
ถ้าอ่านข่าวแบบวิเคราะห์ ก็จะรู้ว่าพวกนี้ก็คือ soft power ทางการเมืองโลก
Joseph Nye มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คนเขียนเรื่องเกี่ยวกับ soft power เป็นคนแรกๆ อธิบายว่า "soft power ก็คือโฆษณาชวนเชื่อที่ดีที่สุดที่ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ"
เอาละ ก็มาถึงเรื่อง soft power ที่คนบ้านเรากำลังพูดกัน คือ soft power ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
เครื่องมือสำคัญก็ได้แก่ศิลปะด้านต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี หนังสือ มังงะ เสื้อผ้า อาหาร เป็นต้น
สหรัฐฯเป็นเจ้าพ่อในเรื่องส่งออก soft power ด้านภาพยนตร์ นำทีมโดยฮอลลีวูด มันล้างสมองคนได้ เกาหลีใต้เป็นอีกชาติหนึ่งที่ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ภาพยนตร์เกาหลีมีความหลากหลาย และสามารถรวมภาพยนตร์เข้ากับวัฒนธรรมเกาหลีอย่างกลมกลืน กระตุ้นให้โลกเกิดกระแสคลั่งวัฒนธรรมเกาหลี ไปไกลถึงขนาดที่คนต่างชาติอยากเรียนภาษาเกาหลี
ความสำเร็จของเกาหลีใต้เป็นกรณีศึกษาที่ดี มันเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่คิดวางแผนมาตั้งแต่ 30 ปีก่อน คือทศวรรษ 1990 บูรณาการทุกหน่วยงาน
เราเรียนวิธีทำจากเขาได้ เพราะเราก็มีของดีมากมายเช่นกัน อาจมากกว่าเกาหลีด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ดูเหมือนเราพยายามหาคำตอบก่อนตั้งโจทย์ เราพูดถึงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ช็อคมินต์ ฯลฯ โดยยังไม่รู้เลยว่าเราจะทำ soft power ไปทำไม หรือแค่ไหน
นี่ก็คือคิดคำตอบก่อนตั้งโจทย์
เหมือนเจ้าของบ้านยังไม่ได้บรี๊ฟ สถาปนิกก็ออกแบบให้เสร็จแล้วว่ามี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
soft power ของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ เราควรตั้งโจทย์ให้ชัดเจนก่อนว่า เราต้องการอะไร ตั้งเป้าแล้วค่อยมาดูว่า เราต้องทำอะไรบ้าง ใช้หน่วยงานไหนบ้าง ต้องทำกี่ขั้น กี่ปี
ถ้าเราต้องการให้คนต่างชาติสนใจเมืองไทยแบบยั่งยืน (ระดับที่เขาอยากเรียนภาษาไทย) เราอาจต้องทำมากกว่าคิดหาสินค้า และเป้าหมายก็ควรไปไกลกว่าเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยว (กี่รัฐบาลๆ ก็คิดแต่จะเพิ่มนักท่องเที่ยว โดยไม่สนใจว่ามันเพิ่มค่าครองชีพของประชาชนด้วย)
ต้มยำกุ้งและมวยไทยก็ใช่ แต่เรามีมากกว่านั้น
เรามีเรื่องราวมากมาย เรามีประวัติศาสตร์ เรามีศิลปะ เรามีวรรณกรรม หนังสือหลายเล่มของเราที่คนไทยไม่อ่าน ไปดังที่ยุโรป เช่น งานของ แดนอรัญ แสงทอง (เขาได้รับรางวัล Chevalier de l'Ordre des Arts et des Lettres จากกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศฝรั่งเศสด้วย)
หนังหลายเรื่องของเราก็ไปกวาดรางวัลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์
พูดง่ายๆ คือมีคนต่างชาติที่สนใจอยากเสพอาหารสมองจากไทย นอกเหนือจากอาหารท้อง เช่น ต้มยำกุ้ง
แต่เท่าที่กวาดตามองมาหลายปี ยังไม่เห็นนโยบายรัฐที่คิดแปลวรรณกรรมไทยส่งออกเลย มีแต่สำนักพิมพ์เอกชนทำกันเองไปตามมีตามเกิด
ถ้าเราไม่รวมงานศิลปะแขนงนี้เข้าไปในแผน มันจะเป็น soft power ที่สมบูรณ์ได้อย่างไร
ผมได้รับ feedback จากคนต่างชาติหลายคน หลังอ่านนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของผมที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ และจำหน่ายในวงแคบๆ ว่า พวกเขาสนใจและอยากรู้ประวัติศาสตร์เราเพิ่มขึ้น (แต่ เอ๊ะ! เราตัดวิชาประวัติศาสตร์ออกไปแล้วนี่นา)
บ้านเรายังมีอีกหลายพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่เป็น soft power ได้
ระวังอย่ามองทุกอย่างเป็นเงินๆๆ หน้าที่ของ soft power ของชาติก็คือ 'สะกดจิต' คนชาติอื่นให้หันมาสนใจประเทศเราในด้านบวก ไม่จำเป็นต้องเป็นผลกำไรที่เป็นตัวเงินเสมอไป แค่ทำให้เขามีภาพบวกกับเรา ก็คุ้มแล้ว
เพราะยังจำได้ว่าเมื่อปี 2561 รัฐมนตรีท่องเที่ยวของประเทศแกมเบียประกาศต่อชาวโลกว่า หากต้องการเที่ยว เซ็กซ์ ทัวร์ ให้ไปเมืองไทย
ตอนนี้เพิ่มกัญชามาอีกหนึ่ง

วินทร์ เลียววาริณ
23-11-23
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 05 ธ.ค. 23, 20:35

แง่มุมต่าง ๆ ของ soft power จาก "แบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไทยที่มีต่อซอฟต์พาวเวอร์" จัดทำโดย The Attration

https://theattraction.co/the-attraction-soft-power-poll/


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 08 ธ.ค. 23, 10:35

ไม่นิยามจะทำตามได้ไฉน❓

https://www.sanook.com/news/9126586/




บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 19 คำสั่ง