เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
อ่าน: 5274 เลี้ยงสัตว์ - สัตว์เลี้ยง
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 150  เมื่อ 24 ม.ค. 23, 19:32

นกเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งการเลี้ยงนั้นดูจะตั้งอยู่ในองค์ประกอบในเรื่องของความสวยงาม เสียง พื้นที่ใช้สอย เวลาและความง่ายในการดูแล  นกที่นิยมเลี้ยงกันเกือบทั้งหมดจะอยู่ในตระกูลนกที่เรียกว่า นกหงส์หยก นกแก้ว นกขุนทอง นกเขา นกหัวจุก 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 151  เมื่อ 24 ม.ค. 23, 20:05

ฝักเพกา


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 152  เมื่อ 24 ม.ค. 23, 20:07

นกหงส์หยก น่ารักมากค่ะ


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 153  เมื่อ 25 ม.ค. 23, 19:14

นกหงส์หยกเป็นนกที่น่ารักครับ   ดูจะเป็นนกที่ต้องเลี้ยงในกรงเท่านั้น หากหลุดออกไปในธรรมชาติก็คงจะเอาชีวิตรอดได้ยาก  เป็นนกที่ต้องเลี้ยงหลายตัวพร้อมๆกัน เพราะมันเป็นนกที่ต้องมีสังคม ต้องมีเพื่อนซี้ มีเพื่อนคุย และมีคู่อยู่ข้างตัว  ซึ่งก็อาจจะเพราะการต้องมีเพื่อนใกล้ตัวอยู่เสมอนั้น มันจึงชอบเล่นกับกระจก   

นกหงส์หยกน่าจะเป็นนกเลี้ยงในประเภทนกสวยงาม และประเภทนกที่มีพฤติกรรมที่น่ารัก  คือให้ภาพออกไปทางด้านความนุ่มนวลที่มีอยู่ในธรรมชาติ จึงดูจะเป็นนกเลี้ยงที่เหมาะสมสำหรับเด็กในวัยกำลังเริ่มเรียนรู้ธรรมชาติด้านรูปธรรมและนามธรรม (ในเชิง generosity)       
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 154  เมื่อ 25 ม.ค. 23, 20:12

ก็มาถึงนกแก้ว   

เมื่อพูดถึงการเลี้ยงนกแก้ว ผมเห็นว่า ผู้คนส่วนมากน่าจะนึกไปถึงการเลี้ยงนกแก้วตัวใหญ่ของต่างประเทศ พันธุ์ที่มีสีสวยงามต่างๆ และนกกระตั้ว  แต่ผมนึกไปถึงการเลี้ยงนกแก้วแขก และ นกแก้วโมง (นกแก้วโม่ง)  นกแก้วพันธุ์ของบ้านเราก็มีหลายชนิดเช่นกัน แต่จำได้เพียง 2 สายพันธุ์ที่กล่าวถึง
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 155  เมื่อ 27 ม.ค. 23, 18:22

นกแก้วเป็นนกที่น่ารัก ชอบออกเสียงกอกๆแกกๆ เป็นนกขี้เล่น ชอบแหย่เพื่อนหรือคู่ของตน  ตาดำขยายใหญ่-เล็กได้ตามอารมณ์  ก็เคยเลี้ยงทั้งนกแก้วแขก(นกแขกเต้า)และนกแก้วโมง(นกแก้วโม่ง)  ผมเรียกชื่อตามที่ได้ยินชาวบ้านเขาเรียกกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ชื่อในวงเล็บนั้นมาได้รู้จัก  อายจัง เมื่อเริ่มหยุดเดินทำงานในพื้นที่ป่าดงแล้ว

นกแก้วเป็นนกที่ชาวบ้านดูจะไม่นิยมเลี้ยงกันเลย อาจจะเป็นเพราะด้วยเรื่องของอาหารของมัน หรือไม่ก็การที่ไม่มีเวลาอยู่บ้านมากพอที่จะไปสอนให้มันพูดได้ หรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องขวนขวายปีนต้นไม้ไปเอาลูกของมันมาเลี้ยง 

สมัยยังทำงานอยู่นั้น ในพื้นที่ป่าดงและชนบท ในช่วงเวลาสายและช่วงบ่ายแก่ๆ เราจะเห็นนกแก้วเกาะกลุ่มบินกันเป็นฝูง ได้ยินมันส่งเสียงดังไปทั่วท้องฟ้า ตอนเช้าก็บินไปหากิน ทิศทางที่มันบินไปทำให้รู้ว่าแถวใหนมีต้นไทรป่าขนาดใหญ่  ตกบ่ายแก่ๆก็บินกลับรังที่อยู่ตามโพรงไม้ในผืนป่าอีกลักษณะหนึ่ง  เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงเช้า-เย็นในพื้นที่ๆทำสวนอยู่ ก็ยังพอได้เห็นฝูงนกแก้วเกาะกลุ่มบินอยู่ แต่ในปัจจุบันนี้ไม่เห็นเลย  เคยเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ได้รับจากธรรมชาติ ก็ยังนึกถึงอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 156  เมื่อ 27 ม.ค. 23, 18:55

ก็มีข้อสังเกตว่า ฝูงนกแก้วที่เห็นบินอยู่นั้น เมื่อสมัยยังเด็กอยู่จะเห็นเป็นฝูงค่อนข้างใหญ่  เมื่อทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาทางตะวันตกของไทยเรา ฝูงนกที่เห็นก็จะมีนกในหลักน่าจะ 30 ตัวขึ้นไป  ในอีก 10 กว่าปีต่อมาก็เห็นฝูงเล็กลง  ในที่สุด ในพื้นที่ทำสวนก็เห็นสักประมาณ 10 ตัว    ผมไม่มีความรู้มากพอว่านกแก้วที่บินเป็นฝูงอยู่นั้นจะเป็นแก้วแขกหรือแก้วโมง  ที่รู้ในขณะเดินทำงานในบริเวณที่มีต้นไทรป่า ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าแก้วโมง 

นกแก้วเป็นนกที่ชาวบ้านเขาไม่ล่าเพื่อเอามาทำอาหาร ซึ่งดูจะมีอยู่เพียงเหตุผลเดียวที่ไม่ทำ ก็คือ เมื่อยิงมันแล้วไม่ค่อยจะได้ตัวมัน ด้วยที่ปากมันเป็นจะงอย จะแขวนห้อยต่องแต่งอยู่ไม่ค่อนจะตกลงถึงพื้นดิน

โดยส่วนตัว ผมชอบนกแก้วแขก มันมีอารมณ์หลากหลายดี มีทั้งหวาน โกรธ ประจบ งอนง้อ...  แปรเปลี่ยนรวดเร็วและแสดงออกทั้งทางเสียง ทางตา และอากัปกริยาต่างๆ     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 157  เมื่อ 28 ม.ค. 23, 19:16

ต้นไทรเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญในระบบนิเวศของป่าดง  ต้นไทรเอื้ออำนวยปัจจัย 4 ให้แก่สัตว์ต่างๆในผืนป่า ให้ทั้งร่มเงา อาหาร ที่พักอาศัย และเป็นยา(ความเห็นของผม)จากอนุพันธุ์(Derivatives)ของอาหารที่สัตว์ได้กินจากส่วนต่างๆของต้นไทร 

แม้ต้นไทรจะเป็นประเภทกาฝากที่น่าจะพบเห็นกระจัดกระจายได้ทั่วไปในผืนป่า ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น   แต่จากประสบการณ์การเดินป่าเดินดงทำงานของผม แม้จะเห็นต้นไม้ที่เป็นประเภทกาฝากคล้ายต้นไทรมากอยู่ก็ตาม พบว่าต้นไทรขนาดใหญ่ที่เหมาะเป็นแหล่งปัจจัย 4 ของสัตว์นั้นพบน้อยมาก

ต้นไทรเป็นพวกต้นไม้ประเภทกาฝาก จัดเป็นต้นไม้ที่ไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจในการอุตสาหกรรมป่าไม้ ในพื้นที่สัมปทานทำไม้ ต้นไทรจึงถูกตัดโค่นทิ้งไปอย่างไร้ค่า  ผมได้ทำงานในผืนป่าบางแห่งทั้งก่อนและหลังจากที่ต้นไทรได้หายไป   ที่เคยได้ยินเสียงบินของนกกก(นกเงือก หรือ นกกาฮัง) นกแกง (นกเงือกเล็ก หรือ นกแก๊ก)  ที่ได้เคยเห็นฝูงนกแก้วบินตอนเช้าและตอนบ่าย  ที่เคยเห็นฝูงนกเขาเปล้าเกาะกิ่งต้นไทร  ที่เคยเห็นนกกุลุมพูเกาะยอดไม้ (นกกะลุมพู หรือ นกลุมพู) ....ฯลฯ   เงียบหายไปหมดเลย ในช่วงเวลาหลังการเปลี่ยนแปลงเพียงประมาณ 3 เดือน     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 158  เมื่อ 29 ม.ค. 23, 18:15

ทราบว่าต้นไทรมีหลายชนิด  แต่ไม่มีความรู้ว่าต้นไทรใหญ่ในป่าที่ออกดอกออกผลเลี้ยงสัตว์ต่างๆนั้นมีชื่อพันธุ์ว่าอย่างไร  ไทรทุกชนิดดูจะเป็นต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสาขาและใบค่อนข้างหนาแน่น นกจึงค่อนข้างจะชอบ แต่ก็มีข้อน่าสังเกตว่า ไม่มีรังนกที่ต้นไทร

ต้นกร่างและต้นโพธิ์ก็เป็นต้นไม้ที่นกชอบ   ต้นกร่างดูจะพบในพื้นที่ชานเมืองและในชนบทเป็นหลัก  ต้นโพธิ์ก็ดูจะพบเฉพาะในพื้นที่เมืองเป็นหลัก     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 159  เมื่อ 29 ม.ค. 23, 19:33

นึกถึงนกกะรางหัวหงอก ก็เป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่เลี้ยงกัน  เป็นนกที่มีความว่องไว กระโดดไปมาเก่ง ชอบส่งเสียงร้องดัง เป็นนกที่ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม จะพบเห็นในป่าได้บ่อยครั้งในช่วงต้นๆฤดูฝน เพราะมันจะบินลงต่ำหากินกับหนอน แมลง และสัตว์หน้าดินตัวเล็กๆ ซึ่งจะมีชุกชุมในช่วงเวลานั้น

ผมไม่เคยเลี้ยงนกกะราง แต่ชอบกิจกรรมของพวกมันบางอย่าง   ในขณะที่เดินทำงานในพื้นที่ในช่วงต้นฤดูฝนที่มีฝนเริ่มตกบ่อยครั้ง  เดินทำงานอยู่เงียบๆ อยู่ดีๆก็มีกลุ่มนกกะรางกลุ่มเล็กๆบ้าง บางทีก็กลุ่มใหญ่ขนาดประมาณ 10+ ตัวบ้าง บินในระดับใกล้ผิวดิน ส่งเสียงดังจ๊อกแจ๊กจอแจ ลงดินคล้ายกับนัดตีกัน  การณ์เช่นนี้มักจะบ่งบอกถึงจุดที่มีกลุ่มเห็ดกำลังเบ่งบาน โดยเฉพาะเห็ดโคน  มันไม่ได้ลงไปกินแต่มันลงไปเล่น ลงไปตีเห็ดให้กระจุยกระจายอย่างสนุกสนาน ก็ไม่รู้ว่ามันโกรธเคืองมาแต่ปางใด  ก็เลยทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา ไปเก็บเห็ดโคนของอร่อยเอามาทำอาหารกินกัน

ก็มีการคิดเลอะเทอะแบบสนุกสนานกันไปว่าเสียงร้องของนกก็คล้ายกับเสียงว่า เจ็กโครกๆ และหมวกเห็ดก็เป็นทรงของหมวกกุยเล้ย หรือว่านกมันไม่ชอบอะไรที่เป็นจีน เมื่อพบเห็นก็เลยต้องรุมไล่
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 160  เมื่อ 31 ม.ค. 23, 19:24

พูดถึงนกกะราง เลยนึกถึงนกที่คนพื้นบ้านเรียกว่านกหัวขวาน แต่ในทางวิชาการเรียกว่า นกกะรางหัวขวาน   

เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าด้วยเหตุใดจึงใช้คำว่านกกะรางนำหน้าทั้งๆที่หน้าตา รูปทรง และสีขนต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง  ไปค้นดูจึงทราบว่า กะรางเป็นชื่อเรียกพวกนก(วงศ์นก)กินแมลง และก็ได้เห็นภาพของนกชนิดต่างๆในวงศ์นี้ที่มีสีขนสวยงามมาก   ผมไม่มีความรู้ว่ามีการเอานกในวงศ์นกกะรางชนิดใดบ้างมาเลี้ยงและมีความแพร่หลายกันมากน้อยเพียงใด

เมื่อครั้งยังเดินทำงานในป่าดงพงไพรนั้น เคยเห็นนกต่างๆมากมาย เกือบทั้งหมดที่เห็นนั้นไม่รู้จักเอาเลย ที่รู้จักและจำได้มีน้อยชนิดมาก  (นกกะรางหัวขวานเป็นนกที่ทำให้ผมต้องไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับนกมาอ่าน หนังสือที่หาได้ในเวลานั้นเป็นหนังสือคู่มือดูนก ของ นพ.บุญส่ง เลขะกุล (พ.ศ.2517) เพิ่งวางตลาดใหม่ๆ)  นกหัวขวานเป็นนกกินแมลง เจาะต้นไม้ และอยู่โพรง มีสีขนออกไปทางโทนสีเหลือง-น้ำตาล มีลายสีดำพาด พื้นที่ๆผมคุ้นเคยพบเห็นนกหัวขวานมากจะเป็นพื้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างป่าไผ่รวกกับป่าไม้ใบที่ค่อนข้างจะโปร่ง  โดยเฉพาะในพื้นที่ด้านตะวันตกของ(ห้วย)ลำตะเพิน ในเขต ต.ลาดหญ้า หรือตะวันออกของแควใหญ่ ไม่เลยขึ้นไปเหนือเขื่อนท่าทุ่งนา  บนผืนดินในพื้นที่บริเวณที่เป็นที่ราบในบริเวณนี้ มี(ตัว)แย้ อยู่มากมาย วิ่งกันเพ่นพ่านไปหมด  แต่ละตัวมีใหญ่ขนาดประมาณ 3 นิ้วมือเลยทีเดียว  ก็ได้สนุกสนานและเรียนรู้กับชีวิตแย้ในพื้นที่นี้พอสมควร  ครั้งหนึ่งก็ได้ช่วยมันรอดจากการถูกงูกิน  งูเลื้อยลงรูไปดักจับมันกิน เมื่อขุดขึ้นมา งูก็ยังงับไม่ปล่อย ดีที่งูเป็นพวกมีฟันเป็นราว(มีพิษน้อยหรือไม่มีพิษ) มันก็เลยรอด     

เมื่อมีสัตว์ชนิดหนึ่งกินหนอนและแมลงตามต้นไม้ และก็อีกชนิดหนึ่งกินหนอนและแมลงตามพื้นดิน ก็เลยดูจะบ่งบอกว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นผืนดินที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากทีเดียว  ซึ่งก็ดูจะมีข้อสนับสนุนว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ดูจากวิถีของนกบางชนิด(นกนางแอ่น ?)ที่เจาะตลิ่งทรายของแม่น้ำแควใหญ่แถวนั้น ให้เป็นโพรงทำเป็นรังที่อยู่อาศัย ซึ่งก็น่าจะเป็นพวกนกกินแมลง 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 161  เมื่อ 01 ก.พ. 23, 18:16

บ้านผมมีนกกางเขนมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ เกือบจะทุกปีจะต้องมีลูกนกที่กำลังหัดบินตกลงมา ผมก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือไม่ให้ถูกแมวจรจัดมาขย้ำ  ด้วยที่มันเป็นพวกนกกินแมลง ที่ผมทำก็คือ ใช้พวกเนื้อไก่หรือหมูสดๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วป้อนมัน ก็ดีอยู่อย่างหนึ่งที่นกกางเขนเป็นพวกนกที่แข็งแรง ไม่ชอบอยู่นิ่ง ว่องไวอยู่ตลอดเวลา เลี้ยงเพียงสองสามวันมันก็แข็งแรงพอจะบินได้อีก  พ่อแม่ของมันจะคอยบินเวียนไปมาตามหาและส่งเสียงร้องเรียก  พอได้พักฟื้น ดูแข็งแรงดีพอได้  ก็จะเปิดกรงให้มันบินออกไปเอง บินออกไปเกาะรั้วบ้านเพื่อตั้งหลัก  เท่านั้นแหละครับ ก็จะมีทั้งพ่อ-แม่ รวมทั้งพี่ป้าน้าอาอีก 4-5 ตัว บินว่อนไปมา ส่งเสียงกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด น่าเอ็นดูดีครับ เดาว่าคงจะมีทั้งการสอบถาม การก่นด่า การให้กำลังใจ และการเร่งให้บินตามไป 

ปีนี้ เมื่อวานนี้ก็มีลูกนกกระจอกตกลงมา สภาพที่เห็นก็คือ เท้าหงิก นอนหัวขมำ มีอาการคอบิด  รู้อยู่ว่ารอดยาก แต่ก็ให้ความอบอุ่นกับเขา ป้อนน้ำ และจัดท่านอนให้ดี  เลี้ยงอยู่ได้ประมาณ 3 ชม. ก็สิ้นลม   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 162  เมื่อ 01 ก.พ. 23, 18:53

นกที่แต่ก่อนนั้น ตามปกติแล้วจะพบในพื้นที่ชายป่าที่มีการทำไร่ ทำสวนและทำนา   แต่ในปัจจุบันนี้มีนกเหล่านั้นบางชนิดที่พบได้อย่างเป็นปกติในพื้นที่เมือง กทม.  ที่พบมากที่สุดน่าจะเป็นนกเขาชวา  นกเขาใหญ่ก็พบเห็นเป็นปกติมากขึ้น สำหรับนกเขาไฟก็เริ่มเห็นเช่นกัน   นกเขาเขียวก็เคยเห็น แต่พบน้อยครั้งมาก   นกกาเหว่าก็ดูจะเริ่มขยับขยายตัวเป็นนกเมือง เช่นเดียวกันกับนกโพระดก (มาๆหายๆ) ส่วนนกกระจอกนั้น กลายเป็นนกเมืองไปแล้ว   

ก็มีของแปลกมาใหม่ คือ นกกระยาง นานๆก็เห็นมันบินเกาะกลุ่มกันในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ    ผมเลี้ยงปลาหางนกยูงในอ่างบัวเพื่อกำจัดยุง เมื่อปลาตัวโตเต็มที่ มันก็แอบบินลงมากิน แรกๆก็ไม่เข้าใจว่า อยู่ดีๆปลาหางนกยูงก็หายไปหมด จนได้เห็นกับตาคาหนังคาเขา ไม่รู้ว่ามันมีสันชาตญาณอะไรถึงได้รู้ถึงปานนั้น   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 163  เมื่อ 02 ก.พ. 23, 17:44

มาถึงนกขุนทอง ดูจะเป็นนกที่ผู้คนชอบจะเลี้ยงกัน เป็นนกที่มีความสามารถในการลอกเลียนเสียงต่างๆได้เป็นอย่างดีและมีน้ำเสียงที่มีความชัดเจนเท่ากับเสียงต้นทางที่มันเลียนแบบมา    นกบางตัวมีความสามารถในการจดจำได้ค่อนข้างจะเร็ว บางตัวกว่าจะเลียนเสียงได้ก็ช้าเอามากๆ   นกขุนทองเป็นนกที่ค่อนข้างจะมีความว่องไว กระโดดไปมา ไม่หยุดนิ่ง ชอบเอียงคอ/ตะแคงหัวไปมา นัยว่าพยายามจะฟังเสียงให้ชัด จะได้เลียนเสียงได้อย่างใกล้เคียงมากที่สุด  นกบางตัวก็มีความเชื่อง บางตัวก็ไม่ยอมให้ถูกตัวเลย เมื่อถูกจับตัวก็จะใช้เท้าจับ ถีบออก ปากก็จะจิก/งับไว้    หากเลี้ยงนกขุนทองตั้งแต่วัยยังต้องป้อนข่้าว-ป้อนน้ำ คลุกคลีกับมันพอสมควร มันก็เชื่องมากพอที่เราจะปล่อยให้มันบินไปบินมา เกาะที่โน่นที่นี่มันจะบินไปที่ไม่ห่างจากตัวเจ้าของ บางทีก็บินมาจับอยู่ที่ไหล่ บางทีก็บินมาร่วมวงอาหาร .... น่ารีกดีครับ   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 164  เมื่อ 02 ก.พ. 23, 18:57

น่าจะเคยสังเกตเห็นกรงที่ใช้เลี้ยงนกนั้นมีตั้งแต่เป็นกรงแขวนทำด้วยลวด  เป็นกรงกึ่งถาวรที่สร้างขึ้นจากฐานบนดิน  และเป็นกรงที่รังสรรค์ขึ้นมาจากงานฝีมือของช่างไม้   กรงนกขุนทองที่นิยมใช้กันจะเป็นงานฝีมือช่างไม้ มีลักษณะเป็นเรือนทรงไทย มีหลังคาไม้    สำหรับกรงของนกเขาทั้งหลายจะนิยมกรงทรงกลมที่ซี่ของลูกกรงทำด้วยไม้ ซึ่งก็ดูจะมีแยกเป็นทรงออกไปทางแบนและแบบสูงสำหรับนกเขาต่างชนิดกัน   กรงของนกหัวจุกจะนิยมใช้กรงทรงสี่เหลี่ยมที่ซี่ของลูกกรงทำด้วยไม้   

กรงนกและการจัดกรงดูจะบ่งบอกถึงเจตนา อุปนิสัยใจคอ และความเข้าใจในตัวนกของคนเลี้ยงนกชนิดนั้นๆ

 

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.08 วินาที กับ 20 คำสั่ง