เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12
  พิมพ์  
อ่าน: 5374 เลี้ยงสัตว์ - สัตว์เลี้ยง
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 04 ธ.ค. 22, 19:15

ในปัจจุบันนี้ดูจะเห็นเฉพาะกระรอกและกระแต เห็นมันไต่สายไฟและกำแพงรั้วบ้านที่อยู่ในพื้นที่ๆยังคงมีสวน  ส่วนกระจ้อนซึ่งชอบเดินหากินบริเวณผิวดินนั้น เกือบจะไม่พบเห็นเลย  สำหรับกระถิกหรือตัวเล็น ก็ไม่เคยเห็นมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ก็เข้าใจว่าน่าจะยังจะพบได้ในตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงต่างๆ 

ได้กล่าวถึงหนูที่เอามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เลยนึกถึงหนูพุก  ก็เป็นหนูที่เอามาเลี้ยงเหมือนกัน หากแต่เป็นการเลี้ยงเพื่อการเอามาทำเป็นอาหาร   หนูพุก เป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบันแทนการเรียกว่า หนูนา  เป็นหนูที่ชาวนาไม่ชอบเพราะมันกัดกินทำลายผลิตผลในปริมาณที่มาก เป็นหนูที่ชาวนาจะต้องกำจัด หรือต้องจำกัดปริมาณ  ทางหนึ่งที่ทำกันก็คือด้วยการเอามันมาทำอาหาร เพราะมันเป็นพวกหนูที่ค่อนข้างจะไม่สกปรก กินแต่ข้าวและอาหารอื่นๆที่มีอยู่ในผืนนา อยู่ในโพรงดินในนา มีตัวอ้วนพีในช่วงเวลาที่ทำการเกี่ยวข้าว

อาหารที่ทำด้วยเนื้อหนูพุกน่าจะมีอยู่หลายแบบ  แบบหนึ่งที่ผมเคยกินและเห็นว่ามีความอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว ก็คือเอามาผัดเผ็ดพริกแกงใส่ใบโหระพา  จะติดขัดไม่ให้คะแนนความอร่อยสูงมากก็ดูจะเกี่ยวกับชื่อของเนื้อสัตว์ที่เอามาทำที่มีคำว่า'หนู'อยู่ในชื่อนั้น 

ในปัจจุบันนี้ เมื่อเราขับรถขึ้นเหนือตามเส้นทางหลักที่ผ่านพื้นที่ปลูกข้าวที่สำคัญ จะพบว่ามีเพิงอยู่ข้างทางที่ยกป้ายขายหนูนาย่าง  หากจะถามว่าขายดีหรือไม่ ไม่ทราบ? รู้แต่ว่ามีอาชีพการเลี้ยงหนูนาหรือหนูพุกเพื่อการบริโภค  ก็น่าจะแสดงว่ามีคนนิยมกินหนูนาในปริมาณที่มากพอควร บ่งชี้ถึงสถาพการขาดแคลนผลิตผลที่เป็นไปตามธรรมชาติ     
บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 552


ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 04 ธ.ค. 22, 19:27

กระถิกหรือตัวเล็น ก็ไม่เคยเห็นมานานหลายสิบปีแล้ว /quote]

เพิ่งได้ยินชื่อสัตว์ชนิดนี้เป็นครั้งแรก เป็นความรู้ใหม่จริงๆค่ะ เดี๋ยวต้องไปหารูปดูในเน็ท
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 04 ธ.ค. 22, 19:29

ผมจะหายไปจากกระทู้นี้สักพักใหญ่จนถึงเกือบปลายเดือน  หะแรกคิดว่าจะขึ้นเหนือไปในช่วงกันยายน-ตุลาคม หากไปช่วงนั้นก็จะได้เห็นสัตว์เลี้ยงประเภทแมลง ซึ่งอาจจะเอากลับมาเพื่อให้หลานได้เห็นเพื่อการเรียนรู้โลกกว้าง  ก็คือ ตัว 'กว่าง' ครับ     ดูจะเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทแมลงเท่านั้น(?)ที่มีการเอามาเลี้ยงกันในลักษณะของสัตว์เลี้ยงที่ต้องให้ความใส่ใจในการดูแลเฉกเช่นสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 05 ธ.ค. 22, 08:28

เดินทางปลอดภัยค่ะคุณตั้ง
เคยได้ยินเรื่องเอากว่างมากัดกัน  แต่ไม่เคยเห็นค่ะ

ตัวกว่าง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 05 ธ.ค. 22, 08:37

นานมาแล้วเคยดูการ์ตูน Chip 'n' Dale ของดิสนีย์ แสดงนำโดยเจ้าตัวน้อยขนาดกระรอกแต่หางสั้น มีลายทางยาวบนหลัง เรียกว่า Chipmunk 
อยากรู้ว่ามันคือตัวอะไร  ก็ไปเปิดหนังสือดู   เขาบอกว่ามันคือกระถิก หรือกระเล็น
แต่ต่อมาคนแปลการ์ตูนเรียก chipmunk  ว่า กระแต   ชื่อกระถิกหรือกระเล็นก็เลยไม่มีใครรู้จักอีกค่ะ

เพิ่งรู้ว่ามันอาศัยอยู่ในเขตร้อนอย่างประเทศไทยด้วย



บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 05 ม.ค. 23, 18:53

หายไปนานหลายวัน ไปเติมสุขให้กับตัวเองมาด้วยสิ่งต่างๆที่เป็นธรรมชาติทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม   ได้กินผักสดใหม่ที่ชาวบ้านปลูกเอง เอาผลที่ผลิตได้เกินพอหรือกินไม่ทันนำมาวางขาย ไร้สารเคมีต่างๆและในราคาถูก  เช่น ถั่วลันเตาสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่ใช่แบบ Pea ที่เห็นกันทั่วไป  เห็ดแชมปิญองสดก็มีวางขาย .....ฯลฯ
 
ราคาของในตลาดสดชุมชนพื้นบ้านยังอยู่ในกรอบห้าบาทสิบบาท  ที่เป็นอาหารสำเร็จรูปแล้ว ส่วนมากก็อยู่ในเกณฑ์ 20 บาท หรือ 10 บาท มีอยู่น้อยเมนูมากที่จะอยู่ในเกณฑ์ 30 บาท    ได้กินปลาดุกอุย(เลี้ยง)ย่างกับเตาถ่าน  ได้กินผักนึ่งหรือต้มแนมกับสารพัดน้ำพริก ผักก็มีเช่น มะระขี้นกลูกจิ๋วๆ ผักขี้หูด ยอดหวาย(หางหวาย) ผักกูด ผักเชียงดา ใบจิก(กระโดน) เพกา(มะริดไม้,ลิ้นฟ้า) ....

ได้นอนหลับอย่างสนิทในห้องนอนเปิดหน้าต่างกว้าง รับอากาศเย็นตามธรรมชาติของพื้นที่ราบที่ติดภูเขาและทุ่งนาข้าว

ที่ยังดีใจอยู่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ยังคงพบเห็นนกกะปูดตัวใหญ่ นกกวัก และนกอื่นๆอยู่ในบริเวณพื้นที่ ซึ่งแสดงว่าความเป็นธรรมชาติยังคงมีอยู่ค่อนข้างจะสมบูรณ์       
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 05 ม.ค. 23, 19:52

เห็นรูปการ์ตูน Chipmunk แล้วทำให้คิดถึง 'ไอ้รอก'  กระรอกจากห้วยขาแข้งของผมที่เคยเลี้ยงดูแลกันมานาน เขาเป็นลัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งที่ผมมีความรู้สึกผูกพันกับเขามาก ไม่น้อยไปกว่าสุนัขพันธุ์ French Bulldog ชื่อ บาแก็ตต์ (ขนมปังฝรั่งเศส) ที่เป็นส่วนหนึ่งในชิวิตของผมมาประมาณ 10 ปี

กระแตและกระรอกบินก็เคยเลี้ยง แต่ไม่ติดใจที่จะเสาะหาและนำมาเลี้ยงต่อไป  กระแตออกไปทางเป็นสัตว์ที่กินทุกอย่าง หากินในเวลากลางวัน  มีหน้ายาวและฟันเรียง  กระรอกบินเป็นสัตว์ฟันแทะหากินในเวลากลางคืน  สัตว์ทั้งสองชนิดนี้สามารถเลี้ยงให้เชื่องใด้ แต่ตัวผมเห็นว่ามันมีความแข็งกระด้างลึกๆอยู่ภายในตัวของมัน และดูพร้อมจะหนีห่างอยู่เสมอ   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 06 ม.ค. 23, 18:51

ดูจะมีสัตว์ฟันแทะอยู่ 2 ชนิดที่นิยมเอามาเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินของเด็กเล็ก

   ตัวหนึ่งก็คือกระต่าย ซึ่งมีหลากหลายสีและหลากหลายสายพันธุ์ บ้างก็ในเรื่องของใบหู บ้างก็ในเรื่องของขน ...ฯลฯ  สมัยก่อนโน้น..น การเลี้ยงกระต่ายเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะว่าอาหารหลักของมันคือหญ้าปล้องสด ก็ต้องไปเที่ยวหาเก็บเกี่ยวมาให้มัน แถมกระต่ายมันก็เป็นประเภทกินไม่หยุด ย่อยแล้วถ่ายมูลออกมาเป็นเม็ดๆได้ตลอดเวลา ก็โชคดีที่หญ้าปล้องมีอย่างอุดมและมีอยู่ในละแวกพื้นที่เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย  ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องไม่ยากแล้ว เพราะมีอาหารสำเร็จรูปสำหรับมันเป็นการเฉพาะ    เด็กๆจะชอบเพราะมันมีความเชื่อง มีขนนิ่มฟู และยอมให้จับเนื้อต้องตัวได้ แต่ที่สำคัญดูจะเป็นเรื่องของความหน้าหวานและความไม่ดุแบบแยกเขี้ยวยิงฟัน

เนื้อกระต่ายก็กินได้และจัดเป็นอาหารในระดับพ่อครัวที่มีฝีมือจึงจะกล้าทำให้กินกัน เมนูเนื้อกระต่ายเกือบทั้งหมดจะพบอยู่ในร้านอาหารฝรั่งเศส   ทำแบบไทยๆเราก็เอามาย่างและผัดเผ็ด หรือย่างแล้วผัดเผ็ด  ยังไม่เคยเห็นแบบที่เอามาแกง จะมีก็เป็นแบบน้ำขลุกขลิกแห้งๆ  ถามว่าอร่อยใหม ก็ทานได้ หากเป็นเนื้อที่อร่อยจริงก็คงจะมีการเลี้ยงเพื่อการนั้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันกันพอสมควรมานานแล้ว เพราะว่าระยะการท้องของมันสั้นและออกลูกได้ครั้งละหลายตัว ก็คือในรอบปีจะมีได้หลายครอก   

ก็น่าคิดอยู่ว่า ก็น่าจะมีการลองคิดเมนูอาหารจากเนื้อกระต่ายที่มีความอร่อยแบบไทยๆ อาจจะมีโอกาสเป็นอาหารที่ต้องลองกินในระดับสากลไปก็ได้ 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 06 ม.ค. 23, 19:29

อีกตัวหนึ่งก็คือ หนู  ก็จะมีหนูถีบจักรแบบไทยๆ ซึ่งเป็นการเลี้ยงเพื่อดูกิจกรรมของมัน ไม่รู้ว่าในปัจจุบันนี้ยังนิยมเลี้ยงกันอยู่หรือไม่  ก็มีอีกหนูหนึ่งที่ในปัจจุบันนิยมเอามาเลี้ยงกัน คือเจ้า Hamster  หนูแฮมเสตอร์ค่อนข้างจะเคลื่อนไหวช้า ขนนิ่ม จับต้องตัวได้ มีความน่ารัก ข้อสำคัญคือ สามารถเฝ้าดูกิจกรรมของมันในแต่ละวันได้คล้ายกับ Reality Show

หนูแฮมเสตอร์มีความโชคดีมากกว่าพวกหนูสีขาวที่มีขนเกรียน(หนูถีบจักร ?) ซึ่งพวกหนูสีขาวขนเกรียนนี้ดูจะถูกเพาะเลี้ยงไว้เพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องทางสุขภาพต่างๆของมนุษย์
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 99  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 20:10

ได้กล่าวถึงแมลงที่เรียกว่า กว่าง ว่าเป็นแมลงชนิดเดียวที่เอามาเลี้ยงนั้น ต้องขออภัยที่ใจเร็วไปหน่อยครับ  แท้จริงแล้วก็ยังมีแมลงอื่นๆอีกที่มีการเลี้ยงกัน เช่น จิ้งหรีด  แล้วก็มีพวกที่ลักษณะรูปร่างไม่ต่างกันนักแต่เรียกว่า แมง  ซึ่งการเลี้ยงพวกแมลงและแมงนั้น มีทั้งการเลี้ยงเพื่อสันทนาการ และการเลี้ยงเพื่อเป็นอาหารของคนและสัตว์   อีกไม่นานเราๆทั้งหลายอาจจะได้เห็นเมนูอาหารจากสัตว์ที่เรียกว่าแมลงบางชนิดแพร่หลายก็ได้

เรียนวิชาวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เป็นเด็กช่วงมัธยมต้นแบบท่องจำว่า แมลงส่วนมากมีปีกและมี 6 ขา ส่วนแมงนั้นมี 8 ขา  เรียนต่อมาก็ได้รู้ว่าทั้งแมลง แมง กุ้ง กั้ง ตะขาบ กิ้งกือ ปู  ก็ล้วนจัดเป็นกลุ่มสัตว์ประเภทเดียวกัน เป็นพวกลำตัวมีโครงสร้างลักษณะเป็นปล้อง (Phylum Arthropoda) แต่ต่างจำพวกกัน (Class) 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 17:57

กว่าง   

ผมไม่เคยได้เสาะหาและเพาะเลี้ยงด้วงกว่างด้วยตัวเอง เคยแต่มีโอกาสได้เลือกว่าจะเอาตัวใหนที่พร้อมชนแล้วมาเลี้ยง เอามันมาเลี้ยงด้วยการให้มันเกาะบนท่อนอ้อยยาว 2-3 ข้อ? (ปล้อง? หรือ ข้อปล้อง?  ฮืม)  จะใช้วิธีการแขวนท่อนอ้อยหรือวางท่อนอ้อยราบๆก็ได้  แต่จะต้องมีการใช้ด้ายเหนียวผูกเขามันโยงติดไว้กับท่อนอ้อย เพราะมันบินได้และมักจะบินหนีในยามวิกาล   วิธีดีที่สุดก็คือเลี้ยงในกล่องไม้ไผ่สานที่ใส่อ้อยไว้ให้มันกิน   จำได้ว่า เคยเลี้ยงตัวเมียเพื่อล่อจับตัวผู้ด้วย ซึ่งได้ผลและพบมันขณะกำลัง mate กัน บนท่อนอ้อย 

ตัวกว่างมีได้หลายสี ที่จำได้ดูจะมึสีดำ สีน้ำตาลดำ และสีดำแดงเข้ม  และก็มีที่ใต้ท้องของมันบางตัวก็มีขนเป็นกำมะหยี่สีเหลืองตามรอยต่อของปล้องท้อง   กว่างที่เอามาชนกันนั้นก็มีลักษณะบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน มีชื่อเรียกแยกกันไป ก็มี กว่างกิ กว่างแซม กว่างโซ่ง   

ที่พอจำได้ กว่างที่นิยมเอามาชนกันก็จะเป็นกว่างโซ่ง ลักษณะที่สำคัญคือ ตัวค่อนข้างใหญ่ มีเขาบนและล่างโง้งยาวสวย (ไม่ออกไปรูแบบฟันเหยิน)   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 18:36

กว่างกิ  เป็นกว่างที่มีเขาด้านล่างยาวกว่าด้านบน  ก็เป็นกว่างนักสู้ที่สำคัญ แม้ว่ายากที่จะใช้เขางัดให้คู่ต่อสู้หงายท้องได้(แพ้)   

สำหรับกว่างแซมจะมีลำตัวเล็กกว่ากว่างโซ่ง และรูปทรงของตัวดูจะออกไปทางแบนมากกว่าหลังเต่าโค้งนูนแบบกว่างโซ่ง อีกทั้งมีสีออกไปทางสีน้ำตาลแดงมากกว่ากว่างโซ่ง

ในสมัยเด็กนั้น การชนกว่างในหมู่เด็กๆไม่มีเรื่องของการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งมวลเป็นไปเพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว  ตัวผมเองนั้นชอบกว่างแซมมากกว่ากว่างกิ ไม่นิยมกว่างโซ่ง (ก็ไม่ทราบเหตุผลลึกๆของตัวเองเหมือนกัน)   
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 102  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 19:11

เมื่อจะเอากว่างมาขวิดกัน ก็ทำได้ด้วยการเอาตัวมันมาวางอยู่บนขอนอ้อยเดียวกัน  มี 2 วิธีการที่ใช้ วิธีการหนึ่งคือ ใช้ไม้ทรงเหลี่ยมขนาดประมาณด้ามตะเกียบปั่นที่แก้มของมัน (เสมือนว่ามีผู้มาตบแก้มท้าทาย  ฮืม  ยิงฟันยิ้ม) ด้านซ้ายบ้าง-ขวาบ้างเพื่อให้เดินเข้าไปขวิดกัน   อีกวิธีการหนึ่งก็ใช้ตัวเมีย โดยเอาใส่กลัก(กล่องเล็กๆ)วางไว้ตรงกลางท่อนอ้อย กว่างตัวผู้ทั้งสองฝั่งก็จะเดินเข้ามาขวิดกันเพื่อแย่งตัวเมีย

กว่างจะแพ้-ชนะกันด้วยการขวิดกัน งัดกันจนอีกตัวหนึ่งหงายท้อง ไม่ถึงกับต้องมีเลือดตกยางออก   นึกขึ้นได้ว่า กว่างแซมดูจะเป็นกว่างที่มีการออกเสียงคล้ายเสียง ซี่ๆ ซึ่งมักได้ยินเมื่อมันกำลังฮึกเหิมหรือในขณะมันพลิกหงายท้อง

กว่างมีอายุสั้น น่าจะระหว่าง 1-3 เดือน ??  แล้วก็จะแก่ตายไปเอง สมัยเด็กๆเรียกกันว่า มันคอหักตาย ซึ่งก็มีทั้งตายแบบต้องหงายท้องตีนชี้ฟ้า และแบบถูกสตาร์ฟวางเอาไว้
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 103  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 19:22

มาถึงเรื่องอยากรู้เรื่องหนึ่งว่า ด้วยเหตุใด หรือ ทำไม แมลงทั้งหลายนั้น เมื่อเวลาตายมักจะอยู่ในในลักษณะที่ต้องหงายท้อง  เช่นกัน พวกสัตว์เลื้อยคลานสี่เท้า ก็ดูจะเห็นภาพเป็นเช่นนั้น
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 104  เมื่อ 09 ม.ค. 23, 17:07

เขียนทับศัพท์ผิดไป 1 คำ   เพลินและเผลอไปครับ  สตาร์ฟ ขอแก้เป็น สตัฟฟ์ ครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.604 วินาที กับ 20 คำสั่ง