เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 23077 ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 255  เมื่อ 26 ม.ค. 23, 13:49

   ถูกจับโป๊ะจากเจ้าทุกข์ โผล่ออกมาอีกรายแล้วค่ะ  
   ก็หนังสือ Spare นี่ละไม่ใช่อะไรอื่น    ไม่รู้ว่าแฮร์รี่อยากดราม่าเกินเหตุ  หรือความจำไม่ค่อยดีตามประสาเด็กเรียนอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร    พอเขียนลงไป  ไม่ได้ตรวจสอบเสียก่อน  เสียงท้วงก็ตามมาทันทีว่าเรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นนะองค์ชาย
     คือเรื่องสมัยไปเป็นทหาร ต้องไปฝึกบิน   แฮร์รี่เล่าไว้ตอนหนึ่งว่าตอนขึ้นเครื่องไปฝึกบินกับครูฝึก ชื่อจ่าสิบเอกไมเคิล  บูลีย์  จู่ๆโดยไม่ได้บอกให้เขาทันรู้เนื้อรู้ตัว  ครูฝึกก็พาเครื่องร่วงดิ่งลงสู่เบื้องล่าง (stall) ทำเอาแฮร์รี่ใจหาย ขวัญบิน เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา(ซึ่งสำหรับเจ้าชายแล้วยาวนานเหมือนหลายทศวรรษ)  ครูฝึกก็บังคับเครื่องบินให้ทรงตัว กลับสู่สภาพปกติ

    เพื่อให้ความยุติธรรมแก่แฮร์รี่ ก็ต้องบอกว่าเขาไม่ได้เล่าเรื่องแบบโจมตีครูฝึกคนนี้   เล่าชมเชยในทางดี  เพียงแต่เล่าเหตุการณ์เรื่องคุณจ่าจู่ๆก็บินผาดโผนโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำเอาตกใจแทบแย่ว่าจะเล่นซ้อมฆ่าตัวตายกันรึไง    แต่แล้วก็ไม่มีอะไรมาก  แป๊บเดียวก็ผ่านไปด้วยดี    ภายหลัง เมื่อถามครู  ครูยังบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก
  
   พอหนังสือวางตลาด   คุณจ่าซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ได้อ่านเข้า ก็ร้อนเก้าอี้นั่งไม่ติดซีคะ     แกต้องออกมาให้ข่าวว่า เหตุการณ์ที่แฮร์รี่เล่านี้ มันนั่งเทียนเขียนขึ้นทั้งเพ    ไม่มีเหตุการณ์อะไรอย่างที่ว่าเกิดขึ้นสักนิดเดียว
   คุณจ่าเล่าว่า ธรรมเนียมก่อนออกฝึกบิน   มันจะต้องมีการวางแผนการบินกันให้เรียบร้อย   ก่อนขึ้นบิน ทั้งครูและนักเรียนจะต้องมาทำความเข้าใจถึงรายละเอียดตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง  จะไม่มีวันมีเซอร์ไพรส์อะไรกันกลางอากาศแบบนั้น
   อย่างไรก็ตาม  คุณจ่าแกก็พูดดี ไม่ได้ประณามแฮร์รี่ กลับยกย่องชมเชยว่าเป็นนักเรียนที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง   ส่วนข้อความในหนังสือนั้นก็อาจจะเป็นการใส่สีใส่ไข่โดยนักเขียนผีที่เขียนหนังสือเล่มนี้   เพื่อให้รสชาติมันเข้มข้นขึ้นก็ได้
    คำพูดของคุณจ่าสิบเอก ได้รับการสนับสนุนจากทหารอังกฤษอื่นๆด้วย  ว่ามันไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นในความเป็นจริง     ในการฝึก จะไม่มีใครมาเล่นตลกหรือทดสอบประสาทผู้กำลังฝึกบินด้วยวิธีแบบนี้
   แต่ก็อย่างที่รู้กัน    ไม่มีการชี้แจงจากผู้ผลิต  ผู้เขียนหรือเจ้าของหนังสือแต่อย่างใด


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 256  เมื่อ 26 ม.ค. 23, 13:50

 Slingsby T67 Firefly propeller plane ที่แฮร์รี่ใช้ฝึก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 257  เมื่อ 26 ม.ค. 23, 15:11

อ่านข่าวได้ที่นี่ค่ะ
https://www.derbytelegraph.co.uk/news/uk-world-news/prince-harrys-story-spare-book-8060265
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 258  เมื่อ 26 ม.ค. 23, 16:06

   FC ส่งข้อเขียนของ แพตตี้ เดวิส  ลูกสาวอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนมาให้อ่าน    เธอเขียนถึงเจ้าชายแฮร์รี่ หลังจากได้อ่านหนังสือ Spare 
   แพตตี้ตอนนี้อายุ 70 ปี  ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย   ไปหาประวัติเธอมาอ่านก็พบว่าผู้หญิงคนนี้ลุยความร้อนความหนาวมาหลายสนาม น่าจะเกือบตลอดชีวิต     เธอย่อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้มากกว่าองค์ชายของเราหลายเท่า  พอจะเชื่อได้ว่าคำแนะนำของเธอมีคุณค่า ควรแก่การรับฟัง
   พรุ่งนี้จะมาเล่าค่ะว่าเธอเขียนถึงแฮร์รี่ว่ายังไงบ้าง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 259  เมื่อ 27 ม.ค. 23, 10:44

ขอเล่าภูมิหลังของลูกสาวโรนัลด์ เรแกนหน่อยนะคะ

ลูกสาวอย่างแพตตี้ เรียกว่า "ลูกปฏิวัติ" ก็น่าจะได้  ตั้งแต่โตเป็นสาวก็มีเรื่องขัดแย้งรุนแรงกับพ่อและแม่    ชนิดพ่อแม่เอาไม่อยู่    เห็นได้จากเธอปฏิเสธที่จะใช้นามสกุลเรแกน ของพ่อ แต่ใช้"เดวิส" ซึ่งเป็นน่ามสกุลเดิมของแนนซี เรแกนผู้เป็นแม่ เพื่อจะได้แสวงหาอิสระในการประกอบอาชีพ    ไม่ต้องได้ชื่อว่าอยู่ใต้เงาของพ่อ   นอกจากนี้ พ่ออยู่ในพรรครีพับลิกันแท้ๆ  ลูกสาวแอนตี้พรรคนี้อย่างเปิดเผย
ในวัยสาว นอกจากเป็นนักกิจกรรมการเมือง  ต่อต้านนิวเคลียร์   แพตตี้ไปเป็นนักแสดง  เผชิญอุปสรรคขวากหนามหลายอย่าง รวมทั้งถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก "บิ๊ก" ในวงการมายาด้วย  แต่มาเธอก็เปลี่ยนอาชีพเป็นนักเขียน  ผลิตหนังสือออกมาหลายเล่ม 
เธอเคยเขียนหนังสืออัตชีวประวัติ เรื่อง  The Way I See It   แฉเรื่องในครอบครัว ออกมาไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องลับเฉพาะส่วนตัวขนาดไหนของพ่อแม่     ก่อนหน้านี้ก็มี  Home Front เป็นนิยายที่อิงเรื่องจริงจากครอบครัว     สองเรื่องนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
พอล่วงเข้าสู่วัยปลาย   แพตตี้ก็เริ่มสงบลง  อย่างคนเรียนรู้ชีวิตมาจนจบแล้ว   เธอย้อนกลับไปหาพ่อผู้ซึ่งเริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์แล้วในตอนนั้น   กล่าวขอโทษพ่อในการที่เธอเขียนหนังสือแฉเรื่องในครอบครัวออกมาให้โลกรู้    นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่แพตตี้ได้สำนึกผิดก่อนจะสายเกินไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 260  เมื่อ 27 ม.ค. 23, 16:00

ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้อ่าน Spare  ก็เหมือนแพตตี้ได้เห็นเงาสะท้อนตัวเองในอดีต   เธอจึงส่งสารถึงแฮร์รี่ ลงตีพิมพ์ในสื่อ   เสียดายที่ไม่สามารถแปลให้อ่านได้เพราะอาจละเมิดลิขสิทธิ์    ทำได้เพียงเก็บความมาเล่าสู่กันฟัง

เธอเล่าว่าเมื่ออ่านมาถึงตอนที่พระเจ้าชาร์ลส์พูดกับเจ้าชายทั้งสองว่า "ลูกๆ พ่อขอร้อง  อย่าให้ชีวิตบั้นปลายของพ่อเป็นทุกข์นักเลย"  เธอก็หวนนึกถึงพ่อของเธอเองทันที    พระเจ้าชาร์ลส์อยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง  ท่านเองก็ทราบข้อนี้ดี และอยากให้ลูกทั้งสองตระหนักด้วย   แพตตี้ดีใจที่เธอมีโอกาสกล่าวขอโทษพ่อในสิ่งที่เธอทำลงไป คือเขียนแฉเรื่องในครอบครัว   ถึงพ่อเริ่มเป็นอัลไซเมอร์แล้วในตอนนั้น  ไม่ค่อยพูดจา  แต่เธอมองแววตาพ่อก็รู้ว่าพ่อรับรู้คำขอโทษ
สิ่งที่แพตตี้ทิ้งท้ายไว้ให้แฮร์รี่คิด  คือเขามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้ทันหรือเปล่า

แพตติ้เข้าใจอารมณ์ของแฮร์รี่   เพราะตัวเธอเองเคยรู้สึกและเคยทำอย่างเดียวกันมาแล้ว   การเขียนหนังสือแฉตื้นลึกหนาบางในบ้านให้ชาวบ้านรู้กันหมด ก็คือเสียงตีโพยตีพาย ฟ้องคนทั้งโลกว่า ฉันเจ็บ  ฉันช้ำใจ  ฉันถูกรังแก    ฉันถึงต้องมาเปิดเผยความจริงให้รู้กันว่าฉันถูก   ฉันไม่ผิด  นี่ไงเรื่องจริงมันเป็นยังงี้
แพตตี้บอกว่า ตอนนั้นเธอไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เรียกว่าความจริงมันมีอยู่หลาย "จริง"  ไม่ได้มีแค่"จริง"เดียว คือ "ความจริงของฉัน"    พ่อของเธอก็มีความจริง  แม่ก็มีความจริง  ในประเด็นเดียวกัน   
ในเรื่องขัดแย้งระหว่างแฮร์รี่กับพี่ชาย   แฮร์รี่เล่า" ความจริง" ของเขา   แต่เจ้าชายวิลเลียมก็มี "ความจริง" ของตัวเองในเรื่องเดียวกันเช่นกัน   ความจริงในเรื่องเดียวกัน อาจหลากหลายก็ได้
แฮร์รี่เล่าว่าวิลเลียมชกเขาลงไปกลิ้ง   พอได้สติก็บอกน้องชายว่าให้ชกตอบ  แต่แฮร์รี่เล่าว่าเขาปฏิเสธไม่ทำร้ายพี่    แพตตี้แย้งว่า Spare ที่แฮร์รี่เขียนแฉพี่นี่แหละ คือการทำร้ายตอบ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 261  เมื่อ 31 ม.ค. 23, 11:44

แพตตี้ยังเขียนต่อไปว่า  มีคนเคยถามเธอว่าถ้าหากย้อนเวลาไปพูดกับอดีตได้   เธอจะพูดกับตัวเธอเองในอดีตว่าอะไร
เธอตอบว่า จะพูดว่า "อบ่าพูด"
คำที่แฮร์รี่ใช้เรียกพี่ชาย คือ "พี่ชายที่รัก" และ "อภิมหาศัตรูของผม" เป็นคำที่เชือดเฉือนลึกลงไปในใจของวิลเลียม   สร้างรอยแผลที่ไม่มีวันหาย    ถ้าหากว่าแฮร์รี่รู้จักนั่งลง ค่อยๆคิด ค่อยๆสงบสติอารมณ์  เขาคงจะเรียกพี่ชายด้วยคำอื่น ไม่ใช่คำนี้
คำแนะนำของแพตตี้ จากประสบการณ์ตัวเองคือ เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้น  ให้นิ่งเงียบไว้ก่อน ใช้เวลาขณะนั้นค่อยๆคิด ค่อยๆสงบสติใคร่ครวญ   ก่อนจะพูดอะไรออกไป   เพราะวาจาที่พูดออกไปแล้วมันเอากลับคืนมาไม่ได้  วันหนึ่งในภายภาคหน้า  แฮร์รี่อาจจะกลับมาย้อนคิดแล้วสำนึกได้ว่าไม่ควรพูดออกไปเลย
 
แพตตี้ยังให้ข้อเตือนใจอีกว่า  มิใช่ว่าความจริงทุกเรื่องสมควรแก่การป่าวประกาศออกไปให้โลกรู้     ชาวบ้านย่อมอยากรู้อยากเห็นชีวิตของคนดังอยู่แล้วเป็นธรรมดา   อาจอยากรู้เพื่อเพิ่มโลกทัศน์ของตนเอง  หรือไม่ก็อยากรู้อยากเห็นเฉยๆ
แต่ก็มิใช่ว่าความจริงทุกอย่างสมควรจะเปิดเผยออกมาให้โลกรู้เสมอไป    แฮร์รี่อาจจะเชื่อว่า "ความจริงเป็นเรื่องต้องเปิดเผย ไม่ใช่ต้องปิด"   แต่แพตตี้ขอบอกว่า ความจริงบางอย่างมันก็สมควรจะปิดเอาไว้มากกว่า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 262  เมื่อ 31 ม.ค. 23, 12:01

     โดยส่วนตัว เห็นด้วยกับแพตตี้หลายอย่าง    คนที่ล้มลุกคลุกคลานมาแล้วย่อมบรรยายการเจ็บตัวได้ชัดเจนกว่าคนที่ยังไม่เคยล้ม    และย่อมรู้ด้วยว่าไม่ควรเดินแบบไหนให้คะมำล้มคว่ำลงไป 
     ดิฉันไม่ได้อ่านหนังสือของแพตตี้ แต่ไปหาอ่านรีวิวในหลายเว็บ ก็ได้ความจริงมาว่า แพตตี้เองก็เขียนแบบฉีกพ่อแม่เป็นชิ้นๆ  ไม่น้อยไปกว่าแฮร์รี่ทำกับพระเจ้าชาร์ลส์และวิลเลียม   บรรยายถึงความใจดำของประธานาธิบดีเรแกน ที่ไม่ให้ความอบอุ่นแก่ลูกๆ   รักแต่เมียคนเดียว   ส่วนแนนซี เรแกนที่ดูในสายตาประชาชนเป็นสตรีงามเรียบร้อยเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ก็เป็นแม่ใจร้ายที่ทำร้ายลูกทั้งลงไม้ลงมือ  และด่าทอ
    ผ่านมาหลายปี เรียกว่าพ่อแม่ไม่เหลือชิ้นดีแล้ว  แพตตี้จึงสำนึกได้ และเสียใจที่เขียนหนังสือเล่มนั้นออกไป   แม้แต่ในบทความที่เขียนถึงแฮร์รี่  เธอก็ไม่ลืมที่จะวงเล็บว่าอย่าอ่านหนังสือของเธอ   พูดง่ายๆว่าเธออับอาย เสียใจ เศร้าใจกับความวู่วามเอาแต่ใจของตัวเอง     สิ่งที่แพตตี้บอกไว้ระหว่างบรรทัดคือ วันหนึ่ง แฮร์รี่ก็จะเสียใจกับการกระทำของตนเองเช่นเดียวกัน

     ส่วนตัว เห็นว่าตอนนี้แฮร์รี่ก็ไม่ได้มีความสุขกับชีวิตใหม่ที่ตัวเองเลือก     เห็นหน้าตาตอนให้สัมภาษณ์ก็รู้   ดูเครียด ดูไม่สบายใจ  ดูกังวล   แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องลุยไปจนถึงสุดทาง 
     มารอดูกันดีกว่าว่า งานพระราชพิธีวันที่ 6  พฤษภาคมนี้ แฮร์รี่กับเมแกนจะได้รับเชิญมาหรือไม่นะตะ

     ถ้าพระเจ้าชาร์ลส์เลือกสันติวิธี คือประนีประนอมยอมความ  เพื่อลูกชายคนเล็กจะไม่สาวไส้วงศ์ตระกูลให้แหลกยับกว่านี้  (อย่าลืมว่ายังมีความลับอีกหลายเรื่องที่ไม่รู้ว่าแฮร์รี่จะเอาออกมาแฉอีกเมื่อไหร่)  แฮร์รี่ก็คงเดินเข้าวังอย่างผู้ชนะ   และมีโอกาสต่อรองอีกหลายเรื่อง  แลกกับการ "ปิดปาก"   ในคนละความหมายกับที่แพตตี้ เดวิส หมายถึง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 263  เมื่อ 02 ก.พ. 23, 17:44

   บัดนี้  คำตอบที่ว่าแฮร์รี่และเมแกนจะได้รับเชิญไปในงานราชาภิเษกหรือเปล่า  ก็แพล็มออกมาแล้วว่า พระเจ้าชาร์ลส์ตกลงพระทัยจะเชิญลูกคนเล็กและสะใภ้เล็กไปร่วมงานนี้ด้วย      เหตุผลคือ ในเมื่อเป็นงานสำคัญที่สุดในชีวิต  ก็อยากให้ลูกทั้งสองอยู่พร้อมหน้าพ่อ    ไม่อยากให้คนใดคนหนึ่งขาดหายไป     และอีกอย่างก็คือจะได้เป็นการประสานรอยร้าว (หรืออาจเรียกได้ว่ารอยแตกไม่มีชิ้นดี)  เพื่อจะให้แฮร์รี่เลิกโจมตีพ่อและญาติกาทั้งหลายเสียที  ในเมื่อทางฝ่ายราชสำนักก็ทอดไมตรีมาให้ประนีประนอมกันแล้ว
    แหล่งข่าวภายในยังให้เหตุผลฟังหยดย้อยแก่พระเจ้าชาร์ลส์ต่อไปว่า เป็นเพราะทรงเป็นเจ้านายที่มีน้ำพระทัยเมตตา   ทรงให้อภัยคนอื่นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ   ดังนั้นไม่ว่าแฮร์รี่จะประณามหยามเหยียด พ่อ พี่ แม่เลี้ยง พี่สะใภ้ขนาดไหน   พ่อก็ยังรักและประสงค์จะอ้าแขนรับกลับบ้านอยู่แล้ว    ในพิธีสำคัญที่สุดในชีวิต พ่อก็อยากให้ลูกรักทั้งสองได้เป็นประจักษ์พยานด้วย
    แต่ข่าวก็ยังยอมรับกล่าวต่อไปว่า เจ้าชายวิลเลียมไม่เห็นด้วยเอาเลย    ถือว่าสายสัมพันธ์ของพี่น้องก็ขาดสะบั้นยากจะคืนดีกันแล้ว    เจ้าฟ้าหญิงแอนน์และเจ้าฟ้าชายเดวิด ผู้เป็นอาก็ต่อต้านแฮร์รี่หัวชนฝา     ถ้าหากว่าพระเจ้าชาร์ลส์ดึงดันเอาแฮร์รี่กลับมาร่วมวง  การคืนดีกับลูกชายคนเล็กก็คือเปิดฉากทะเลาะกับลูกชายคนโตและน้องสาวน้องชายแบบไม่นับยก จนตายกันลงไปข้างหนึ่ง   
   ส่วนความหวังของพ่อที่ว่า ถ้าให้อภัย ประนีประนอมกับลูก ลูกก็จะไม่ออกหนังสือ Spare 2 3 4 ตามมาอีก    น่าจะเป็นการมองผ่านทุ่งลาเวนเดอร์มากไปหน่อยหรือเปล่า    ถ้าไม่เขียนหนังสือแฉวงศ์ตระกูล  เจ้าตัวจะเอาอะไรกิน   พ่อก็ต้องคืนยศเจ้า  คืนรายได้จากกระเป๋าพ่อให้ลูกอยู่ดีกินดีต่อไป   แล่วงานล่ะ จะต้องทำเหมือนเดิมไหม   หรือว่ายังสามารถอยู่ในอเมริกาได้ตามสบาย  สรุปว่าพ่อไม่มีอำนาจต่อรองเลย  ทุกอย่างอยู่ในมือลูกชายคนนี้หมด
   ถึงย้อนกลับมาสู่คำถามว่า   เรื่องอะไรอีกบ้างที่พ่อกลัวนักกลัวหนา  ไม่อยากให้ลูกชายแฉออกมาอีก   ชาวบ้านคงจะรู้ในเวลาไม่นานเกินรอ     
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 264  เมื่อ 03 ก.พ. 23, 11:30

            นึกถึงข้อความ "เจ้าชายหลงทางคืนวัง" กับเรื่อง The Return of the Prodigal Son
- หนึ่งในนิทานคำสอนคริสต์ศาสนา

           เรื่องจากรูปวาดโดยศิลปินเอก Rembrandt เล่าเหตุการณ์ท้ายเรื่อง เมื่อลูกชายคนเล็กที่ได้ออกจากบ้านไป
พร้อมกับมรดกส่วนของตนกลับมาบ้านในสภาพยากไร้หลังจากได้ผลาญทรัพย์จนสิ้นแล้ว ได้พบกับผู้เป็นพ่อที่ยังคงรักและ
ให้อภัย ในขณะที่พี่ชายไม่เห็นด้วยกับการยกโทษให้น้อง

นิทานจบสวยงาม แต่ชีวิตจริง...ยังไม่จบ,ต้องตามต่อไป


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 265  เมื่อ 03 ก.พ. 23, 12:44

ชีวิตจริงจะดูไม่จืด ยิ่งกว่านิทาน
หากแฮร์รี่เรียกร้องให้พ่อและพี่ชายกล่าวขอโทษเขาด้วย  อย่างที่เขาลั่นวาจาไว้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 266  เมื่อ 06 ก.พ. 23, 08:27

เจอแล้ว! เจอแล้ว!
หญิงลึกลับผู้ที่โลกอยากรู้ว่าเป็นใคร    ในเมื่อนางคือผู้ที่เจ้าชายแฮร์รี่เล่าไว้หมดเปลือกในหนังสือ Spare  ว่าเป็นผู้ได้ "พรหมจรรย์" ของเขาไป

มนุษย์เราทั้งหลายต่างก็มีกิจกรรมส่วนตัวที่สาธารณชนก็รู้ๆกันว่าใครๆก็มี    แต่ไม่ต้องมาบอก เช่นการกินอยู่หลับนอนในแต่ละวัน   เรื่องพวกนี้คนดังทั้งหลายที่เขียนอัตชีวประวัติตนเองก็ย่อมจะเว้นไว้   แต่ในหนังสือ Spare  แฮร์รี่ได้เว้นสิ่งที่ควรเขียน และไม่เว้นสิ่งที่ไม่ควรเขียนไว้หลายเรื่อง   
หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมทางเพศกับ "หญิงที่แก่กว่า" ในทุ่งนาหลังผับแห่งหนึ่ง   ทิ้งไว้ให้เข้าใจว่าเมาเละเทะด้วยกันทั้งคู่

สื่อพากันคาดคะเนว่านางผู้ลึกลับผู้นั้นน่าจะเป็นลูกหลานข้าราชบริพาร  หรืออาจเป็นหญิงสาวมีตระกูลสักคนที่พ่อแม่เข้านอกออกในราชสำนักได้    แต่ก็ไม่มีใครสืบหาได้ว่าใคร จนกระทั่งหญิงผู้นั้นออกมาแฉตัวเอง
ชาวอังกฤษก็อ้าปากค้างกันอีกรอบ  เมื่อพบว่า หญิงสาวคนที่ว่า  ไม่ใช่ไก่แก่แม่ปลาช่อน  อายุแก่กว่าแฮร์รี่เพียง 2 ปี
ที่อ้าปากค้างกันขึ้นอีกคือ นางเป็นเพียงเด็กเลี้ยงม้าในตำหนักไฮโกรฟของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
(ยุคก่อน stable boy มีแต่เพศชาย แต่ยุคปัจจุบัน อนุญาตให้ผู้หญิงทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานเลี้ยงม้า เรียกว่า stable girl ได้)
 นางชื่อ ซาช่า วูลพาวล์   ปัจจุบัน อายุ 40 ปี เป็นแม่ลูกสอง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 267  เมื่อ 06 ก.พ. 23, 08:44

ซาช่าให้เหตุผลว่า นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าแฮร์รี่จะเอาความสัมพันธ์มาแฉลงในหนังสือ  โดยไม่เคยติดต่อบอกกล่าวนางสักครั้ง     ถึงแม้ว่าในหนังสือไม่ได้ระบุชื่อหรือรูปพรรณสัณฐานของนาง  แต่เพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นก็ย่อมรู้ว่าคือนางเอง
นางก็เกิดกลัวขึ้นมาว่า จะมีการถูกแฉผ่านสื่อขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง  แล้วนางก็จะถูกกลุ้มรุมด้วยบรรดานักข่าวและช่างภาพจนไม่เป็นอันกินอันนอน     นางก็เลยออกมาแฉเสียเอง ด้วยการขายเรื่องนี้ให้สื่ออังกฤษ 2 ฉบับด้วยกัน เปิดเผยความจริงออกมาหมดเปลือก
ไม่มีใครรู้ว่าซาช่าได้ค่าตอบแทนไปเท่าไหร่  แต่ก็คงไม่น้อยสำหรับคนฐานะอย่างนาง   ปัจจุบันซาช่าทำงานเป็นคนงานขับรถแบคโฮ มีลูก 2 คน

เรื่องที่ซาช่าเล่าก็คือตอนนั้นแฮร์รี่เป็นนักเรียนที่อีตัน อายุ 16   กลับมาพักที่ตำหนักไฮโกรฟ  ก็เล่นหัวเป็นกันเองกับบรรดาคนงานหนุ่มๆสาวๆในตำหนัก 
คืนที่เกิดเหตุ   เป็นวันที่ซาช่าฉลองวันเกิด  นางจะครบรอบ 19 ปีในวันรุ่งขึ้น ก็ชวนเพื่อนฝูงรวมเจ้าชายด้วยไปผับ  แฮ์รี่ก็ไป   ซื้อเหล้า 10 แก้ว  พอดื่มกันได้ที่ก็ชวนซาช่าออกไปสูบ(?) กันข้างนอก   จากนั้นก็คงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหลังผับ
ซาช่าเล่าว่า ทั้งหมดกินเวลาราว 5 นาที  เจ้าชายกับนางก็กลับเข้าไปในผับ แต่ไม่เข้าไปพร้อมกัน เพื่อมิให้คนอื่นผิดสังเกต
จากวันนั้น  ทั้งสองก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย

ซาช่าเล่าว่า เจ้าชายแฮร์รี่เล่ารายละเอียดในเรื่องถูกต้องหมด   รวมทั้งขั้นตอนที่เล่าออกมาหมดเปลือกด้วย    แต่นางก็แถมท้ายว่า ไม่เคยคิดว่าแฮร์รี่จะเอาเรื่องนี้ออกมาแฉในหนังสือ    ทำไมจะต้องเล่าละเอียดถึงขั้นนั้นด้วย


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 268  เมื่อ 06 ก.พ. 23, 08:45

 ยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 269  เมื่อ 06 ก.พ. 23, 09:57

ยังไม่มีข่าวยืนยันว่าซาช่าเป็นผู้หญิงตัวจริงในหนังสือหรือเปล่า    คนที่รู้ดีที่สุดคือแฮร์รี่ ก็ยังไม่เปิดปากออกมา    แต่เรื่องนี้ก็คงทำให้สื่อได้ข่าวฮือฮากันอีกสักพัก


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.094 วินาที กับ 20 คำสั่ง