เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 23956 ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 195  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 11:23

อ่านไปอ่านมา  ชักสงสัยแล้วว่าคนที่รับจ้างเขียนหนังสือให้แฮร์รี่  แกตั้งใจจะให้ขายดีหรือจะเผ่าผัวเมียคู่นี้ให้เหลือแต่ขี้เถ้า กันแน่
แต่ละเรื่องที่เล่ามา  ถ้าไม่ก่อความอัปยศอดสูแก่ญาติพี่น้อง ก็เป็นภัยสะท้อนกลับแบบบูมเมอแรงให้ทั้งผัวและเมียโดนด่าแบบไม่ได้ผุดได้เกิดทั้งนั้นเลย
เอาเรื่องเล็กๆมาคั่นบ้างดีกว่า  เรื่องใหญ่ๆอ่านไม่ไหว  มึนค่ะ

เรื่องลิปกลอส ศึกระหว่างเคทกับเมแกน
ลิปกลอสเป็นเครื่องสำอางที่ชาวเรือนไทยฝ่ายหญิงย่อมรู้จักดี   คนไทยเราเรียกว่า "ลิปมัน"ทำเป็นแท่งเหมือนลิปสติค     ทำจากขี้ผึ้ง กับส่วนผสมอื่นอีกนิดหน่อย ทาแล้วริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้ง  
ผู้หญิงมีเอาไว้ติดกระเป๋า  ผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากแต่งหน้าทาปากมาแต่เช้า      รู้สึกว่าปากแห้งก็ควักขึ้นมาทาเสียทีหนึ่งให้สวยงามดังเดิม

เรื่องไม่ควรเกิดแต่เกิดจนได้  ย้อนหลังไปในค.ศ. 2518  สมัยยังไม่อำลาพระราชวงศ์  เจ้าชายวิลเลียม พระชายาเคท  เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนไปออกงานหนึ่งด้วยกัน
เมแกนก็นึกได้ว่าลืมเอาลิปมันมา   เลยออกปากขอยืมเคทหน่อย   เรียกสิ่งนี้ว่า "ของอเมริกัน"  (American thing)
เคทสะดุ้ง  แล้วก็ควานมือลงในกระเป๋าถือ   หยิบลิปมันของตัวเองขึ้นมาด้วยท่าทีไม่เต็มใจ ส่งให้เมแกน
เมแกนก็บีบลิปมันใส่ปลายนิ้วตัวเอง แล้วยกปลายนิ้วขึ้นทาปาก  เคทก็ทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจ

สรุปเนื้อความว่า กะอีแค่ขอยืมของใช้นิดๆหน่อยๆตามประสาเพื่อนสะใภ้   เคทก็ยังแสดงกิริยาหยิ่งยะโส   รังเกียจเดียดฉันท์ใส่เมแกน ได้ลงคอ    

ไม่รู้ว่าแฮร์รี่ไม่รู้จักลิปมันของผู้หญิง เพราะตัวเองเป็นชาย หรือเมแกนอ่อนมารยาทสังคมกันแน่
เพราะผู้หญิงที่มีมารยาทเขาไม่ยืมกัน  เป็นใคร ใครก็ไม่อยากให้

ลิปมันหรือลิปกลอสเป็นของใช้ส่วนตัวเกือบจะเท่ากับแปรงสีฟัน     ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากให้คนอื่นเอาปากมาทาซ้ำบนแท่งทาปากของตน    เพราะปากอีกปากอาจเพิ่งผ่านการกินอาหาร  ผ่านกินเหล้า หรือมีเชื้อหวัดเชื้อเริมติดอยู่  
แม้ว่าเมแกนไม่ได้เอาลิปมันของเคททาซ้ำบนปากตัวเอง แต่บีบใส่ปลายนิ้วแล้วทา  เชื้อโรคจากปลายนิ้วก็ยังติดเนื้อขึ้ผึ้งได้อยู่ดี  

คนที่ควรถูกตำหนิคือเมแกนนั่นละ  เป็นถึงดัชเชส  มีเลขาฯและข้าทาสบริวารเต็มตำหนัก  ออกงานทั้งทีทำไมไม่รู้จักสั่งให้ตระเตรียมข้าวของในกระเป๋าถือให้เรียบร้อย    นับเป็นความสะเพร่าเอามากๆ  นี่ข้อหนึ่งละ  
อีกข้อคือสะท้อนว่าเมแกนมาจากสังคมระดับมั่วซั่วกันไปหมดไม่ว่าเสื้อผ้า ของกิน ของใช้   ใช้ปนกันเละเทะ  ไม่รู้จักมารยาทสังคมใดๆ
ผิดกับเคทที่ทางบ้านอบรมมาดี  ไม่เคยมีเรื่องทุลักทุเลแบบนี้เลย


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 196  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 12:41

งานมโนรำพึง

               เด็กชาย เกิดมาพร้อมกับความสงสัยของพ่อว่าไม่ใช่ลูกตน พ่อคนนี้ที่ไม่รักแม่, มีหญิงอื่นอย่างเปิดเผย
ครั้นเติบโตขึ้นไม่ทันไรก็กลายเป็นกำพร้าแม่แต่ยังเล็ก ซ้ำพี่ชายยังทำตัวเหินห่าง จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอยู่เพียงลำพัง
ในบ้านใหญ่โตรโหฐานมีกด(ฎ)ระเบียบจารีตกำกับ
               วิถีชีวิตของเด็กชายเมื่อเติบโตเป็นเด็กหนุ่มจึงก้าวไปตามพล็อตหนังชีวิตวัยรุ่น กลายเป็นเด็กขบถแตกแถว
หันเข้าหายาเสพติด แต่ยังไม่ถึงกับแหกทางโค้งตกถนนไป
               เมื่อถึงวัยหนุ่ม ออกผจญภัยโลกกว้าง ผ่านแดนสงครามและแดนแสงสี จนได้มาพานพบกับผู้หญิงที่คลิกกัน
ได้มอบใจและความไว้วางใจฝากชีวิตไว้ว่า เธอจะดูแลเด็กน้อยในร่างชายคนนี้และพาออกไปจากครอบครัวที่เจ้ายศเย็นชา
ไร้รัก ไปสู่โลกใหม่ที่เป็นอิสระเสรีมีความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้วาดฝันสร้างครอบครัวอบอุ่นของสองเรา  
               วันนี้เด็กน้อยในร่างชายหนุ่มได้โอกาสปลดปล่อยระบายความคับข้องหมองใจที่เก็บกดมายาวนานและย้อนคืน
ทุกคนในครอบครัวเดิมที่เคยทำกับตนไว้ในอดีต ที่สำคัญงานนี้คือการสร้างรายได้อย่างมากมายเพื่อครอบครัวใหม่ของตน

ตัวสำรองหัวใจมีแผลตั้งแต่เกิด


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 197  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 12:59

คุณหมอให้พล็อตนิยายที่ทำท่าว่า Netflix เอาไปขายรอบสองได้อีกแล้วละค่ะ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

มีเรื่องเล็กที่ตีแสกหน้าคนได้อีกเรื่องหนึ่ง   อ่านเจอในทวิตเตอร์
ย้อนหลังไป ตอนที่เจ้าชายวิลเลียมประกาศหมั้นกับนางสาวเคท มิดเดิลตัน   สื่ออังกฤษก็แซ่ซ้องสรรเสริญเจ้าชายแฮร์รี่ว่ารักพี่ชายมาก   จนยกแหวนหมั้นไพลินล้อมเพชรของไดอาน่าให้พี่ชายหมั้นพี่สะใภ้  
ข่าวนี้ทำให้แฮร์รี่ได้ใจมหาชนไปเต็มๆ  เพราะแหวนดังกล่าวเป็นแหวนที่ชาร์ลส์ใช้หมั้นไดอาน่ามาก่อน    ต่อมาก็ตกทอดเป็นมรดกให้ลูกชายคนเล็ก   น้องชายใจกว้างมาก    ยกให้พี่ชายหมั้นสาว  แทนที่จะเก็บไว้หมั้นแฟนตัวเอง

บัดนี้ ข่าวก็ตีแสกหน้ามหาชนว่าแฮร์รี่เผยความจริง ว่าไม่ได้ยกแหวนให้พี่ชายสักหน่อย   หลังจากแม่ตาย  พี่ชายก็ถามหาว่าแหวนแม่อยู่ไหน   แล้วยึดเอาไปซะดื้อๆงั้นแหละ!


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 198  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 13:03

แหวนไพลินขนาด 12 กะรัต ล้อมเพชรลูก    ราคาในปี 1981  คือ  £390,000, (คิดเป็นเงินไทยปัจจุบัน 15,907,965.56 บาท)
ถ้าซื้อขายกันในตลาดปัจจุบัน  ราคาน่าจะสูงกว่านั้น


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 199  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 13:05

ดูชัดๆ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 200  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 15:18

นี่ไง  มาแล้ว เร็วปานสายฟ้าแลบ
อานัส ฮักกานี หนึ่งในผู้นำของตาลีบัน ตอบแฮร์รี่มาแล้วในทวิตเตอร์
ไม่รู้คนรับสารจะเย็นสันหลังบ้างหรือเปล่า

แปล   
นายแฮร์รี่ (โปรดสังเกตว่าเรียกแบบไม่มียศถาบรรดาศักดิ์)   ผู้คนที่คุณสังหารไม่ใช่ตัวหมากรุกบนกระดาน   แต่ล้วนเป็นมนุษย์  พวกเขามีครอบครัวที่เฝ้ารอการกลับคืน      ในบรรดานักฆ่าของอัฟกานิสถาน  มีน้อยคนนักที่มีมารยาทอย่างคุณในการเผยมโนธรรมของตนว่ามีมากน้อยแค่ไหน  และสารภาพในการลงมือประกอบอาชญากรรมสงครามด้วยตัวเอง


บันทึกการเข้า
Rattananuch
อสุรผัด
*
ตอบ: 37


ความคิดเห็นที่ 201  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 18:10

ถ้าวิลเลี่ยมไม่ได้เอานาฬิกาไปแลกแหวนไพลิน คาร์เทียร์เรือนนั้นก็ต้องอยู่กับวิลเลี่ยม แล้วที่เมแกนใส่ก็ไม่ใช่ของไดอาน่าแบบที่อ้างน่ะซิคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 202  เมื่อ 07 ม.ค. 23, 19:41

ก็มีคนสงสัยอย่างคุณ Rattananuch มากเหมือนกันค่ะ   ถ้าพี่ชายยึดแหวนไปจากน้องเอาดื้อๆ  นาฬิกาก็ยังอยู่กับพี่ชายเหมือนเดิม  ไม่จำเป็นต้องแลกกัน
เพราะฉะนั้นนาฬิกาบนข้อมือเมแกนก็อาจเป็นนาฬิกาคาเทียร์รุ่นเดียวกัน  ที่นางหามาสวมโชว์ชาวบ้านก็ได้

หรืออาจเป็นได้ว่าแฮร์รี่กุเรื่องแหวนขึ้นมา   ใส่ร้ายพี่ชายเพราะโกรธพี่โกรธพ่อ เลยสวมวิญญาณเด็กเลี้ยงแกะไม่ยั้งปาก
ดังนั้นจริงๆแล้วก็มีการแลกแหวนกับนาฬิกาจริงๆ   เมแกนก็ได้ของจริงของไดอาน่าไปสวม

หรือ..(หลาย "หรือ" มากๆ) เป็นฝีมือของเมียสั่งนักเขียนผีให้ปั้นพล็อตนี้ขึ้นมา     เหมือนนางกำกับอยู่หลายตอนในหนังสือ
เพื่อจะอ้างว่า แหวนของเคทน่ะจริงๆของฉันนะยะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 203  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 10:07

นักอ่านบางคนสงสัยว่า หนังสือ Spare มีหลายตอนที่แฮร์รี่ไม่ได้เขียนเอง หรือสั่งให้นักเขียนผีเขียนให้  แต่คนสั่งให้เขียนในนามของแฮร์รี่  
ก็จะใครเสียอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ you know who     เพราะข้อความบางตอนนั้นมันสะท้อนวิธีคิดของนางชัดๆ  ไม่ใช่วิธีคิดของแฮร์รี่

วิธีคิดของแฮร์รี่   พูดง่ายๆว่าคิดแบบโลกหมุนรอบตัวเอง  ฉันเป็นศูนย์กลางคนเดียว    ฉันคิดงั้น ฉันรู้สึกงี้  ส่วนคนอื่นรู้สึกยังไงช่างหัวมัน   ฉันไม่เคยเฉลียวใจเลยคนอื่นๆเขาก็มีความคิดมีความรู้สึกเหมือนกัน  อาจจะมีเหตุผลหรือความจำเป็นยิ่งกว่าฉันก็ได้  พูดง่ายๆคือคิดแบบใจเขาใจเราไม่เป็น

ด้วยเหตุนี้ มีตอนหนึ่งที่แฮร์รี่เอ่ยถึงพระเจ้าชาร์ลส์  อย่างจาบจ้วงล่วงเกินเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะสามารถดูหมิ่นพ่อตัวเองได้  ก็เลยมีคนสงสัยขึ้นมาว่า น่าจะไม่ใช่แฮร์รี่เขียนเอง

" ผมว่า(ปัญหา)มันไม่ได้เกิดจากเรื่องเงินหรอก  ถึงพ่อกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายให้ลูก แต่จริงๆแล้วสิ่งที่พ่อกลืนไม่ลงคือมีใครคนหนึ่งเข้ามากุมราชวงศ์ไว้ได้ต่างหาก   ใครคนหนึ่งที่เข้ามาเป็นจุดเด่น   ใครที่เจิดจรัสและเป็นของใหม่บดบังรัศมีพ่อเสียสนิท    ตามที่พ่อเคยเจอมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง    พ่อก็เลยไม่อยากจะอยู่ในสภาพด้อยแสงอีกเป็นครั้งที่สอง"

ขอยาดมก่อนแปลไทยเป็นไทยค่ะ
หมายความว่า ชาร์ลส์อิจฉาลูกสะใภ้หน้าใหม่ที่เข้ามาเฉิดฉายเปล่งประกายแบบเดียวกับที่ไดอาน่าเคยเป็นมาแล้ว  สมัยไดอาน่าเป็นที่รักที่นิยมของประชาชนนั้น  เจ้าชายชาร์ลส์ดับแสงไปสนิทใครๆก็รู้  
ประชาชนแห่แหนกันมาเต็มสองข้างทางไม่ว่าไปไหนเพียงแต่ขอให้ยลโฉมไดอาน่า  ไม่มีใครอยากดูเจ้าชาย  ชาร์ลส์เองก็เคยยอมรับข้อนี้อย่างเขินๆ แกมขื่นหน่อยๆ

พิโธ่พิถัง
คนอย่างดาราหางแถวที่แม้แต่อเมริกาเองก็ไม่รู้จักซีรี่ส์ Suits ที่นางเล่นเนี่ยนะ   จะเฉิดฉายเปล่งประกายไปทั่วอังกฤษในพริบตา  ช่างไม่ส่องกระจกเอาภาพไดอาน่ามาเทียบเสียเลย  
เจ้าหญิงเป็นลูกผู้ดีเชื้อสายขุนนาง สวยสดแบบกุหลาบอังกฤษเต็มร้อย  ไม่ว่าแต่งกายหรือแสดงกิริยามารยาทออกแขกออกเหรื่อดูเหมาะเจาะงดงาม    เข้าถึงประชาชนด้วยความจริงใจ   คนถึงชื่นชม
ตัวเองมีอะไรเหมือนบ้าง

ไหนเคยคร่ำครวญว่าถูกเหยียดผิวจากคนโน้นคนนี้นักหนาไง   ถ้าชาวอังกฤษในวังเขาเห็นนางต่ำต้อยเพราะสีผิว   ชาวอังกฤษนอกวังก็คงรู้สึกไม่แตกต่างกันนักหรอก   จะเปล่งประกายได้ตรงไหน

สรุปว่าวิธีคิดแบบฉันสวยฉันเก่งฉันเริ่ด แต่ขณะเดียวกันฉันก็ถูกอิจฉาริษยาสารพัดจากบุคคลที่อยู่เหนือชั้นกว่าฉันมาก    ไม่ใช่วิธีคิดของแฮร์รี่แน่นอน



บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 204  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 14:17

ฮิฮิ ผมภาษาอังกฤษอ่อนแอ ตามอ่านในนี้แหละดีแล้วครับ

ตัวหนังสือ spare ที่กลายเป็นหอก spear เล่มนี้ ผมคงไม่คลื่นไส้เท่าไหร่ เพราะมันไม่ต้องทนเห็นจริตจะก้านผู้หญิงคนนั้นเหมือนใน Netflix ครับ

อ่าน ๆ ไปก็อดคิดไม่ได้ คนเราอะไรมั่นจะโง่เง่าได้ปานนั้น ไม่ต่างจากปู่ทวดเลย คือโง่แบบไม่น่าเชื่อ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 205  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 15:22

โบราณเขาเรียก เชื้อไม่ทิ้งแถวค่ะ
นับว่าเป็นบุญของพวกวินด์เซอร์อยู่บ้างที่วิลเลียมไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้    สมมุติว่าแฮร์รี่เป็นพี่ชาย  วิลเลียมเป็นน้อง  ชาวอังกฤษคงภาวนาให้ถอดยศถอดตำแหน่งรัชทายาทไปเร็วๆ

มีเรื่องผ่านสายตาแต่ย้อนกลับไปหาเว็บนั้นไม่เจอแล้ว   หรือว่าจะอยู่ในทวิตเตอร์ก็ไม่แน่   คือมีคนโพสว่าตอนแฮร์รี่ไปประจำการเป็นทหารอยู่ในอัฟกานิสถาน    กองทัพอังกฤษเครียดมาก  เพราะจะต้องระแวดระวังความปลอดภัยให้รัชทายาทอันดับ 3  กันอย่างสูงสุด (ตอนนั้นวิลเลียมยังไม่แต่งงาน) 
ถึงแม้ส่งไปประจำการในสมรภูมิ ก็ต้องเลือกสถานที่ที่ปลอดภัย    มีทหารยามเฝ้ากัน 24 ชม.    ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ไปนอนกลางดินกินกลางทราย  ลาดตระเวนเสี่ยงกับระเบิด หรือขึ้น ฮ. ฝ่าดงกระสุนปืนใหญ่  อย่างคนอื่นๆ

เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องที่คุยว่าสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามไป 25 ศพนั้นราคาคุยหรือเปล่าก็ไม่รู้   ตอนนี้ทางฝ่ายตาลีบันก็ออกข่าวมาแล้วว่า วันที่แฮร์รี่อ้างว่าออกรบ ยิงข้าศึก  วันนั้นตามหลักฐานไม่มีบันทึกถึงการโจมตีสู้รบกัน     เพราะฉะนั้นคนที่แฮร์รี่ยิงตายคือพลเรือนเหยื่อสงคราม   ไม่ใช่ทหาร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 206  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 15:25

แสบมะ?


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 207  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 15:29

งานมโนรำพึง
               เด็กชาย เกิดมาพร้อมกับความสงสัยของพ่อว่าไม่ใช่ลูกตน พ่อคนนี้ที่ไม่รักแม่, มีหญิงอื่นอย่างเปิดเผย
ครั้นเติบโตขึ้นไม่ทันไรก็กลายเป็นกำพร้าแม่แต่ยังเล็ก ซ้ำพี่ชายยังทำตัวเหินห่าง จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอยู่เพียงลำพัง
ในบ้านใหญ่โตรโหฐานมีกด(ฎ)ระเบียบจารีตกำกับ
               วิถีชีวิตของเด็กชายเมื่อเติบโตเป็นเด็กหนุ่มจึงก้าวไปตามพล็อตหนังชีวิตวัยรุ่น กลายเป็นเด็กขบถแตกแถว
หันเข้าหายาเสพติด แต่ยังไม่ถึงกับแหกทางโค้งตกถนนไป
               เมื่อถึงวัยหนุ่ม ออกผจญภัยโลกกว้าง ผ่านแดนสงครามและแดนแสงสี จนได้มาพานพบกับผู้หญิงที่คลิกกัน  ได้มอบใจและความไว้วางใจฝากชีวิตไว้ว่า เธอจะดูแลเด็กน้อยในร่างชายคนนี้และพาออกไปจากครอบครัวที่เจ้ายศเย็นชา  ไร้รัก ไปสู่โลกใหม่ที่เป็นอิสระเสรีมีความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้วาดฝันสร้างครอบครัวอบอุ่นของสองเรา  
               วันนี้เด็กน้อยในร่างชายหนุ่มได้โอกาสปลดปล่อยระบายความคับข้องหมองใจที่เก็บกดมายาวนานและย้อนคืนทุกคนในครอบครัวเดิมที่เคยทำกับตนไว้ในอดีต ที่สำคัญงานนี้คือการสร้างรายได้อย่างมากมายเพื่อครอบครัวใหม่ของตน
ตัวสำรองหัวใจมีแผลตั้งแต่เกิด 

พี่ชายเขาไม่ได้ห่างเหินนะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 208  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 15:42

    คนที่วางแผนให้แฮร์รี่ปล่อยเรื่องราวในหนังสือ Spare ออกมา น่าจะมีหลายคน เช่นทางฝ่ายผู้ผลิต  ผู้จัดจำหน่าย  ผู้เขียน  ผู้ให้ข้อมูล   ต่างทำการบ้านกันเคร่งเครียด ว่าเล่มแรกนี่จะต้องแง้มประตูบานไหนบ้าง จึงจะเปรี้ยงและปัง
    จากนั้นค่อยเปิดบานที่สอง สามและสี่ต่อไป   เพราะจำนวนญาติในวังมีให้ขายอีกเยอะ   โครงกระดูกในตู้ที่ผู้คนยังไม่เคยเจอ และนึกไม่ถึง  ก็ยังมีอีกหลายโครง  เอาให้พังพินาศกันไปทุกวังไม่เหลือหลอ
   ยิ่งฝ่ายหนึ่งพัง อีกฝ่ายยิ่งรวย

   ข้อได้เปรียบของทางฝ่ายแฮร์รี่คือรู้ดีว่าทางสำนักพระราชวังวินด์เซอร์มีหลักการประจำใจ  " ไม่บ่น ไม่โต้ตอบ"  พูดง่ายๆคือหุบปากสนิทกับเสียงโจมตีทุกข่าว      เพราะฉะนั้น ก็กลายเป็นเป้านิ่งให้ยิงได้สบาย   อย่างดีก็เอี้ยวตัวหลบไปมา แต่ไม่มีวันจะสวนกลับมาด้วยสไนเปอร์ หรือแม้แต่กระสุนซ้อมยิงเป้า
   หนังสือเล่มนี้ต่อให้โกหกโกไหว้หมดทุกตอนทุกเรื่อง  ชาร์ลส์และวิลเลียมก็ไม่มีวันออกมาเถียง   อย่างดีก็ให้สื่ออังกฤษ อ้าง "ข่าววงใน" ตอบอ้อมๆแอ้มๆ       ยิ่งแฮร์รี่เลือกข่าวที่รู้กันแค่ 2 คน อย่างเรื่องพี่น้องชกต่อยกันในครัว    คนที่สามที่ไหนจะมาตอบแทนวิลเลียมได้ว่าไม่จริง    วิลเลียมเองก็ถูกตำแหน่งอุดปากไว้ไม่ให้พูด    ยังงี้ฝ่ายน้องชายยิ่งชกได้ไม่อั้น
  เอ! เล่าเรื่องชกกันในครัวรึยังคะ?
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 209  เมื่อ 08 ม.ค. 23, 16:14

เหตุ(อ้างว่า)เกิดในครัวของ Nottingham Cottage ซึ่งเป็นตำหนักเล็กๆในบริเวณ  Kensington Palace  แฮร์รี่กับเมแกนมาพำนักอยู่ชั่วคราวก่อนย้ายไปอยู่ที่ Frogmore Cottage



บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15 16 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 19 คำสั่ง