Lady Susan Hussey ในวัย ๘๓ นางสนองพระโอษฐ์ในระดับติดเตียง/แท่นบรรทมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เพราะได้ถวายการรับใช้มาแล้วตั้งแต่คุณหญิงอยู่ในวัย ๒๑ ...หรือ ๖๒ ปีมาแล้ว อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
และเพราะความดีงามของคุณหญิง ซึ่งติดตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าไปรอบโลกตลอดมา ...คิงชาร์ลส์จึงทรงโปรดให้คุณหญิงเป็นหนึ่งของ companion (เพราะยกเลิกตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์) ของควีนคามิลลา โดยเฉพาะในงานเลี้ยงรับรองระบบนานาชาติ
ฉะนั้นในงานรับรองระบบนานาชาติของควีนคามิลลาเมื่อวานซืน คุณหญิงฮัซซี่จึงอยู่ ณ ที่ตรงนั้นด้วย ทุกคนสังสรรค์กันอย่างเสมอภาค (ในงานนี้มีทั้งควีนเรเนียแห่งจอร์แดน ควีนมาลธิลเดแห่งเบลเยี่ยม และเจ้าหญิงแมรี่แห่งเดนมาร์ก) คือไม่มีใครต้องเข้าเฝ้าใคร ต้องถอนสายบัวแก่ควีนองค์ใด ...อย่างเป็นทางการ
แต่หญิงอังกฤษผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักสังคมสงเคราะห์ของอังกฤษ ผู้ที่ข่าวเล่าว่าเกิดที่อังกฤษ แต่มีเชื้อสายแอฟริกันก็โผล่มางาน ในชุดออกสไตล์แอฟริกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งทรงผมสไตล์แอฟริกันอย่างไม่ปรานีปราศรัย
คุณหญิงฮัซซี่ก็ทักทายแล้วถาม เธอคนนั้นก็ตอบว่าเธอเป็นคนอังกฤษ คุณหญิงฮัซซี่ก็ยังถามอยู่ว่า แต่คุณเป็นชนกลุ่มหรือเผ่าไหนของแอฟริกา (มาก่อน)
***ก็เธอแต่งตัวโจ่งครึ่มประกาศตนเองโครม ๆ ถึงปานนั้น
หากเป็นหญิงไทยเกิดที่อังกฤษ แล้วแต่งชุดผ้าซิ่นไทย ตีเสียว่าในแบบภาคกลาง หรือออกเป็นอิสาณ ออกเป็นใต้ เหนือ หรือลานนาแล้วอยู่ในงานเดียวกันนั้น ก็ตอบไปซิว่าเป็นชุดของคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ที่ประเทศไทย ก็หมดเรื่อง
ผม (และคนส่วนมาก) ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โตใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คุณผู้หญิงคนนี้จะเป็นจะตายขึ้นมา ว่าเป็นเรื่อง racist เป็นเรื่องรังเกียจผิว (เฮ้อ! เฮ้อ! เฮ้อ! ผมขอถอนหายใจสามครั้ง)
คุณกิจจา บุรานนท์ ให้ความเห็นไว้ใน
เฟซบุ๊ก