เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 14
  พิมพ์  
อ่าน: 7557 ถามคุณตั้งเรื่องหิน
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 18 ส.ค. 22, 18:19

นอกจากศิลาแลงจะมีแมงกานีสสูงแล้ว ก็มีเหล็กในรูปของสนิมเหล็ก (Fe2O3)ในปริมาณสูงอีกด้วย  น้ำที่อยู่ในบริเวณที่มีศิลาแลงนี้จะมีกลิ่นคาวและมีฝ้าสนิมเหล็กลอยอยู่ที่ผิวหน้า   

ก็วิธีการแก้ไขง่ายๆเพื่อลดหรือกำจัดกลิ่นคาวและฝ้าสนิมเหล็กที่ลอยอยู่ ด้วยการทำให้ทุกส่วนของมวลน้ำนั้นๆได้สัมผัสกับอากาศ เช่น ให้น้ำไหลผ่านฝักบัว (การ aerate น้ำ) เพื่อทำให้พวกสนิมเหล็กตกตะกอน แล้วให้ผ่านถ่านไม้เพื่อการดูดซับกลิ่น ไม่จำเป็นจะต้องไปใช้ถ่านกัมมันต์ที่มีราคาสูง เพียงเลือกใช้ถ่านไม้ที่มีขายกันทั่วไป เลือกก้อนที่มีน้ำหนักมากหน่อย เพราะมีปริมาณเนื้อ Carbon มาก  (ผมเองก็ใช้วิธีนี้)

ผมเห็นว่า บางเรื่องที่เราเห็นว่าเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมแจนกลายไปเป็นวัฒนธรรมประจำถิ่นของชาวบ้านนั้น หลายๆเรื่องก็อาจจะมีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่ เช่นในกรณีการตักน้ำใส่ตุ่ม การมีสระน้ำในบริเวณโบราณสถาน ในแง่คิดหนึ่ง ก็มิใช่วิธีการที่แยบยลในการกำจ้ดตะกอนหรือกลิ่นใดๆหรือ ??  นอกเหนือไปจากการนำมาเก็บไว้เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้สะดวก     ก็คิดไปเรื่อยเปื่อยนะครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 18 ส.ค. 22, 19:26

ในอีกมุมหนึ่งก็มีเรื่องน่าสนใจว่า ศิลาแลงบางแหล่งที่เกิดจากกระบวนการผุพังทำลาย อาจจะมีปริมาณธาตุโปแตสเซียมอยู่ในตัวสูง (K _Potassium)  ซึ่ง K ก็คือหนึ่งในธาตุที่พืชต้องการในด้านของดอกผล และในแหล่งศิลาแลงเองก็อาจจจะมีซิลิก้าในบางรูปในปริมาณสูง (amorphous silica) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นในกระบวนการหากินและเจริญเติบโต    เมื่อธาตุเหล่านี้ถูกนำพาไปสะสมกันอยู่ในพื้นที่ๆต่ำกว่า ก็จะทำให้ผืนดินนั้นๆมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าที่อื่น   
     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 19 ส.ค. 22, 18:57

ฝากคำถามใหม่มาให้คุณตั้งค่ะ

ทับทิมเป็นหินหรือเปล่าคะ

ทับทิมเป็นชื่อเรียกรัตนชาติในตระกูลแร่ Corundum ที่มีสีแดง    ทับทิมที่เอามาทำเป็นเครื่องประดับมีอยู่ 2 ชนิด คือพวกที่มีเนื้อโปร่งใส สีแดงเข้ม (เช่นที่เรียกว่าทับทิมสยาม)  และพวกที่มีเนื้อทึบแสง สีแดงเข้มหรือสีชมพู (เช่นที่เรียกว่าทับทิมพม่า)

เลยลองไล่เรียงการใช้คำต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องของรัตนชาติ ก็น่าสนใจดีครับ    คำว่า Stone ที่ใช้กับรัตนชาติ มีอยู่หลายความหมาย   แรกก็คือ stone ใช้กับก้อนกรวดที่เป็นขุดได้มาจากผืนดินที่ดูว่าสามารถเอามาทำเป็นเครื่องประดับได้ (ornamental stone)   เมื่อดูว่าสามารถเอามาขัดแต่งหรือเจียรนัยให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวได้ ก็จะเรียกว่า precious stone  ซึ่งหมายรวมถึงความเป็นสินค้าที่สามารถค้าขายกันได้    หากผลของการเจียรนัยได้ของที่มีความสวยงาม เด่นออกมาเป็นของตัวเอง ก็จะเรียกชื่อรัตนชาตินั้นๆตามชื่อแร่ประจำตัวมัน   เมื่อเอามันไปประกอบเป็นของใช้ในการแต่งกาย (สายสร้อย เข็มกลัด...) หรือเอารัตนชาติหลากหลายที่เจียรนัยแล้ว เอามาจัดอยู่รวมกัน ก็เรียกว่า jewelry    แล้วก็กลับมาใช้คำว่า genuine stone อีก เพื่อแสดงว่ามันเป็นของที่เกิดในธรรมชาติโดยแท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงของจากธรรมชาติอื่นๆที่มีสีแสงเหมือนกันกับตัวแร่ชนิดที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวนั้นๆ เลยเหลือคำว่า stone ตัวเดียว    แล้วก็เพื่อแยกออกจากของเลียนแบบ (imitation) ที่ได้มาจากการสังเคราะห์ขึ้นมาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหรรม (synthetic)  หรือปลอมขึ้นมาจากวัสดุอื่นๆเช่นจากแก้วสี (fake) 
   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 19 ส.ค. 22, 19:08

เอามาฝากค่ะ

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 19 ส.ค. 22, 19:35

ว่าด้วยเรื่องทับทิม

บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 19 ส.ค. 22, 20:02

ภาพที่แสดงประกอบคำถามของ อ.เทาชมพู นั้น  มีองค์ประกอบต่างๆ (โดยเฉพาะรูปทรงของผลึกแร่) บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นแร่ Garnet (โกเมน)  

Garnet เป็นกลุ่มแร่กลุ่มหนึ่งที่มีการนำมาใช้เป็นรัตนชาติอย่างหลากหลายตั้งแต่โบราณโน้น เป็นแร่ที่มีหลากสี (แดงเข้ม เขียว ขี้ม้าอ่อน สีน้ำล้างถุงกาแฟ...)  เกิดได้ในหลายกระบวนการทางธรณีฯ  สีที่คุ้นเคยกันก็คือสีแดง เป็นแร่ Pyrope   แร่ตัวนี้มีความใกล้เคียงกับทับทิม (Ruby)ในเชิงของคุณสมบ้ติทางกายภาพที่ปรากฎออกมา  

ท่านที่ไปเที่ยวประเทศเช็ค (Czech) แล้วมีโปรแกรมไปชมเมืองเก่าชื่อ Cesky Krumlov   หากมีช่องเวลาก็น่าจะลองแวะชม Garnet สีแดง มีขายอยู่ในร้านต่างๆในเมืองนั้น   ประเทศเช็คมีแหล่ง Garnet ที่ใหญ่มากทีเดียว  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 11:24

รูปที่นำมาประกอบคำถาม ดิฉันนึกว่าเป็นทับทิมเสียอีกค่ะ  กลายเป็นโกเมน
เคยเห็นว่าเป็นพลอยสีแดงแก่   ไม่สดเหมือนทับทิม  ราคาก็ย่อมเยากว่าด้วย  จัดอยู่ใน semi-precious stone คำนี้ต้องถามคุณตั้งอีกเหมือนกันว่าหมายถึงอะไร   หมายถึงพลอยที่ราคาไม่แพงใช่ไหมคะ
รูปข้างล่างนี้เขาบอกว่าเป็นแหวนโกเมนของเก่า  สมัยวิคตอเรียน  มีโอปอล์ประดับด้วยค่ะ
โอปอล์ก็เป็นเรื่องที่น่าถามอีกเรื่องหนึ่ง ว่ามันเป็นหิน หรือเป็นแร่  ใช่ไหมคะ  ทำไมสีสันราวกับประดิษฐ์ขึ้นมา


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 18:38

รูปที่นำมาประกอบคำถาม ดิฉันนึกว่าเป็นทับทิมเสียอีกค่ะ  กลายเป็นโกเมน
....


เป็นเรื่องปกติครับ  ยิ่งเป็นของที่เจียรนัยแล้ว ก็จะยิ่งยากที่จะจำแนกได้ แม้แต่ตัวผมเองที่เรียนวิชาแร่วิทยา(Mineralogy)มา มีฐานความรู้พอสมควรก็ยังผิดพลาดได้ง่ายๆ หรือตอบไม่ได้เลย   ในกรณีตามภาพนี้ ผมแยกได้จากรูปทรงของผลึกและลักษณะตัวหินที่ติดอยู่กับมัน   หากเป็นของที่เจียรนัยแล้ว ก็จะต้องขอจับขึ้นมาส่องกับแสงแดดเพื่อดูสีด้านข้าง หากมีสีที่เปลี่ยนไปก็อาจจะต้องบอกว่าเป็นทับทิม   

Garnet เป็นแร่ที่มีโครงสร้างของผลึกในระบบ Isometric system (แกนนอนยาวเท่ากัน 2 แกน แกนตั้งยาวเท่าแกนนอน 1 แกน ทำมุม 90 องศาซึ่งกันและกัน)   ส่วน Ruby เป็นแร่ที่มีโครงสร้างของผลึกในระบบ Trigonal System (แกนนอนยาวเท่ากัน 3 แกน ทำมุม 60 องศา  แกนตั้ง 1 แกนทำมุม 90 องศากับแกนนอน)   ลงลึกมาทางวิชาการเล็กน้อยเพื่อจะขยายความว่า แสงขาว(แสงอาทิตย์)ที่ส่องผ่านไปในแนวแกนที่มีความยาวเท่ากัน แสงที่โผล่ออกมาก็จะเหมือนๆกัน   แต่หากส่องผ่านแกนตั้งที่ยาวไม่เท่ากันกับแกนนอน(แกนตั้ง)  แสงที่โผล่ออกมาของบางความถี่จะโผล่ออกมาในเวลาที่ไม่เท่ากัน  ซึ่งจะทำให้สังเกตเห็นว่าสีของพลอยนั้นๆต่างกันเมื่อมองจากด้านบนหรือด้านข้าง     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 19:06

ไปหารูปโกเมนกับทับทิมมาเปรียบกัน  เจอภาพนี้ แต่อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยชัดเจน  ต้องรอคุณตั้งอธิบายค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 19:08

แยกไม่ออกเลยค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 19:58

ส่วนชิ้นนี้เป็นเข็มกลัดทับทิม ของห้าง Van Cleef & Arpels  ในปี 1950


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 20 ส.ค. 22, 20:14

เรื่อง Opal ของ อ.เทาชมพู  ทำให้นึกขึ้นได้ว่าลืมไปอีกคำครับ     Gem และ Gemstone  ซึ่งดูจะหมายถึงหินใดๆหรือแร่ใดๆที่เอามาขัดแต่งแล้วสามารถทำเป็นเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์และดูมีราคา ยกระดับ/ยกฐานะให้กับตัวมันเองและผู้สวมใส่ ??

Opal มีความสวยงามในเรื่องของการเล่นกับแสงแล้วสะท้อนสีต่างๆออกมา  เนื้อแท้ของมันก็คือ สารประกอบ Silica ในรูปแบบที่มีโมเลกุลของน้ำอยู่ในตัว  

ขอพักสำหรับวันนี้ครับ    acute office syndrome กำลังบุกรุกครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 132  เมื่อ 21 ส.ค. 22, 10:04

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) เนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง

พักผ่อนมากๆนะคะ   ยังไม่ต้องตอบกระทู้ก็ได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 133  เมื่อ 21 ส.ค. 22, 17:48

ขอบคุณมากๆในความห่วงใยครับ   ก็เป็นมาระยะหนึ่งแล้วครับ   แก้เองด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดตามที่มีแพร่หลายอยู่ในเว็ปสุขภาพต่างๆครับ  ก็ได้ผลดี จะมีบางครั้งที่เกิดการวางตัวอยู่ในตำแหน่งที่ผิด มันก็จะปวดและจี๊ดขึ้นไปบนศีรษะ     วิธีการอีกอย่างหนึ่งที่ผมทำร่วมไปด้วยหลังการทำกายภาพแล้ว คือการนั่งในตำแหน่งที่สบาย ตำแน่งที่ทำให้ไม่รู้สึกมีอาการใดๆ  ทำการหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆหายใจออกจนสุดแล้วหยุดนิ่งๆนิดนึง แล้วจึงค่อยๆหายใจเข้าแบบเบาๆ-ค่อยๆหายใจออกแบบเบาๆ  กำหนดใจให้นิ่ง แล้วค่อยๆผ่อนคลายกล้ามเนื้อต่างๆที่รู้สึกว่ามีการเกร็ง เช่น การปล่อยใหล่ให้ห่อ ตกลงไป  การปล่อยมือให้กางออกเป็นธรรมชาติ(มิใช่การกางมือ) ...  ประมาณสองสามนาทีก็จะรู้สึกคล้ายทุกอย่างหยุดนื่ง รู้สึกสบาย รู้สึกเบา และเริ่มเข้าอาการหลับใน  หากรู้สึกอยากจะหลับไปตามที่ใจกำลังเพลิดเพลินเรื่องอะไรๆอยู่ก็ปล่อยไป  หรืออยากจะออกจากอาการใกล้หลับในนั้น ก็ออกได้เลย คือใช้กำลังภายในทางจิตใจเข้าช่วย  ยิงฟันยิ้ม 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 21 ส.ค. 22, 18:46

น่าสนใจค่ะ  ท่านผู้อ่านเรือนไทยลองทำอย่างคุณตั้งดูบ้าง ก็ผ่อนคลายดีนะคะ ยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 14
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 19 คำสั่ง