เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 1927 ตุ๊กตาหินโบราณ
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 16 ก.ค. 22, 10:43

จาก FB ของ Arnond Sakworawich
14 กรกฎาคม เวลา 08:25 น.  ·

การค้นพบตุ๊กตาหินโบราณร่วม 100 ตัวที่ใต้ถนนข้างกำแพงแก้ววัดพระแก้ว
สำนักพระราชวังซ่อมถนนบริเวณกำแพงแก้ววัดพระศรีรัตนศาสดารามฝั่งศาลหลักเมืองและกระทรวงกลาโหม เมื่อทำท่อระบายน้ำและขุดถนนพบตุ๊กตาหินโบราณที่ชำรุดนิดหน่อยนับร้อยตัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ขุดค้นและให้กรมศิลปากรบูรณะให้สภาพดีเยี่ยมดังเดิม ตุ๊กตาหินเหล่านี้น่าจะมาจากเมืองจีนเป็นหินอับเฉาถ่วงท้องเรือใบสำเภาที่เราใช้ค้าขายกับจีน ขาไปบรรทุกหนัก ขากลับมีแต่ของเบาเช่นแพรไหม ใบชา เลยต้องซื้อตุ๊กตาหินถ่วงท้องเรือกลับมากันเรือโคลงเคลง

ผมไปวัดพระแก้วมา เห็นตุ๊กตาหินใหม่เอี่ยมอ่องมาตั้งเพิ่มเต็มไปหมดรอบวัดพระแก้วราวหนึ่งร้อยตัวเลยถามเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าทรงพระกรุณาให้กรมศิลปากรขุดค้นข้างกำแพงแก้ว แต่ยังอยู่ในรั้วพระบรมมหาราชวัง แล้วนำมาบูรณะและจัดแสดงในวัดพระแก้ว
อย่าได้นึกว่าเป็นของใหม่หรือทำเลียนแบบของโบราณ แต่เนื่องจากฝังดินมาเป็นร้อยปี การสึกกร่อนจะน้อยกว่าตุ๊กตาหินที่ตากแดดตากลมมาเป็นร้อยปีครับ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 16 ก.ค. 22, 10:43

 ยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ก.ค. 22, 11:12

ตุ๊กตาหินในวัด ไม่ใช่ของแปลกสำหรับคนไทย เป็นที่คุ้นตากันมายาวนานเกือบเท่าอายุของกรุงเทพก็ว่าได้   บางตัวก็เล็กๆไม่กี่ฟุต บางตัวก็มหึมา  ไม่ควรเรียกว่าตุ๊กตา แต่ควรเรียกว่ารูปสลักหิน
คำบอกเล่าต่อๆกันมาคือ รูปหินเหล่านี้นำมาจากเมืองจีน  เรียกกันว่าเป็น "อับเฉาเรือ" คำนี้ไม่ใช่ภาษาไทย  เป็นภาษาจีนออกเสียงแบบไทยๆ มาจากคำว่า 壓艙石 (จีนกลางออกเสียงว่า หย่าชัง/สือ) แปลว่า "หินถ่วงท้องเรือ"

คำบอกเล่าต่อๆกันมาคือ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 สยามค้าขายสินค้ากับประเทศจีน ทางเรือสำเภา เวลาเดืนทางไปจีน บรรทุกสินค้าไปเต็มเรือ  ขายหมดแล้ว พอขากลับ สินค้าที่ขนกลับมาจากจีนเป็นสินค้าน้ำหนักเบา เช่นพวกผ้าแพรผ้าไหม เรือสำเภาต่อด้วยไม้ น้ำหนักเบา เมื่อเจอคลื่นลมแรงจะโคลงจนล่มได้
สำเภาไทยจึงหาหินมาถ่วงน้ำหนักไว้ใต้ท้องเรือเพื่อปรับสมดุล   หินพวกนี้คือที่มาของรูปสลักจีนเหล่านี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 16 ก.ค. 22, 11:31

    หินที่ใช้แกะสลัก เป็นหินประเภท   agalmatolite ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียก หินฮ่วยเส่งง้ำ ภาษาไทยว่าอะไรไม่รู้ค่ะ   (เดี๋ยวคุณเพฺ็ญชมพูหรือท่านอื่นๆที่รู้คงเข้ามาบอกเอง)       เป็นหินสีเขียวอมเทา มีมากในประเทศจีนและญี่ปุ่น   ลักษณะพิเศษของหินคือ เมื่อขุดขึ้นมาใหม่ๆ เนื้อยังอ่อน   สามารถแกะสลักได้ง่าย  แกะแล้วทิ้งตากแดดตากลมไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ จะแข็งตัวเป็นหินเนื้อแข็ง  ผ่านไปเป็นร้อยปีก็ยังไม่แตกพัง
    ข้อนี้ตอบโจทย์ของสิงโตหินคาบแก้วได้หายข้องใจ ว่าทำไมแก้วที่ใหญ่กว่าปากสิงโตถึงเข้าไปอยู่ในปากได้   ก็เพราะตอนทำ ดินยังนุ่มอยู่นั่นเอง
   ส่วนคำถามว่า หินเหล่านี้แกะเรียบร้อยมาจากเมืองจีน ใส่สำเภาเอามาขายไทย เพราะได้ราคาดีกว่าขนเอาหินแท่งๆใส่เรือมาอย่างเดียว   หรือว่าขนหินแท่งใส่เรือมาแล้วค่อยมาสลักในไทย   เดาว่าน่าจะทำได้ทั้ง ๒ แบบ  แต่อย่างแรกน่าจะเยอะกว่า  เพราะถ้าขนหินแท่งมาสลักในไทยหลังจากข้ามน้ำข้ามทะเลมาหลายเดือน หินน่าจะแข็งหมดแล้ว สลักตัวใหญ่ๆยาก   ถ้าทำได้ก็คือตุ๊กตาจีนตัวเล็กๆ สลักโดยช่างเชื้อสายจีนในไทย   อาจจะทำกันเป็นหมู่บ้าน ดังที่มีชื่อตรอกสลักหินเป็นหลักฐานอยู่

   ในรัชกาลที่ ๒ และต่อมารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  การค้าสำเภาเฟื่องฟูรุ่งเรืองมาก  เพราะทรงค้าสำเภาเองตั้งแต่ยังทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์          ทรงมีพระราชนิยมในศิลปกรรมจีน   จะเห็นได้จากตุ๊กตาหินจีนและรูปจำหลักหินแบบต่างๆ ตามวัดที่ทรงสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์  นอกจากนี้ก็ได้จากพ่อค้าชาวจีนนำมาถวายเป็นเครื่องบรรณาการ    เรียกว่าพระเจ้าแผ่นดินก็โปรดปราน และพ่อค้าจีนก็ได้ทั้งหน้าตา และโปรโมทสินค้าได้ด้วย


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 16 ก.ค. 22, 11:40

 ปัจจุบัน  ในประเทศจีนก็ยังมีสินค้าแกะสลักด้วยหิน agalmatolite กันอยู่


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 10:41

     ต่อมาในเดือนกรกฎาคม  2565   สำนักพระราชวัง เผยแพร่ข้อมูล ในหมวดข่าวประชาสัมพันธ์และกิจกรรม เรื่อง “ขุดพบประติมากรรมหินสลัก ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง" ความว่า

    เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๔ ในการปรับปรุงเส้นทางเข้าชมภายในพระบรมมหาราชวัง บริเวณประตู มณีนพรัตน์ไปยังประตูสวัสดิโสภา ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างได้ขุดพบประติมากรรมหินสลักจำนวนมาก จึงได้ทำการเปิดการขุดค้นทางโบราณคดี จากหลักฐานพบว่าเป็นประติมากรรมรูปบุคคลหลากหลายเชื้อชาติ และสัตว์ในเทพนิยาย ซึ่งจารึกที่พบบนประติมากรรมหินสลักบางตัว ระบุเป็นภาษาจีน ว่าทำที่มณฑลกวางตุ้ง มณฑลกวางโจว
     จากการสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในเบื้องต้นพบว่า ประติมากรรมหินหลักเหล่านี้ปรากฏในภาพถ่ายเก่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดับตกแต่งอยู่โดยรอบพระอารามและมีการโยกย้ายในรัชสมัยต่อๆกันมา ซึ่งมีหลักฐานจากภาพที่ตีพิมพ์ในหนังสือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ทำการอนุรักษ์ซ่อมแซมประติมากรรมหินสลัก และนำมาประดับในวัดพระศรีรัตนศาสดารามบริเวณตำแหน่งเดิมหรือใกล้เคียงตามหลักฐานที่ปรากฏ

ภาพข้างล่าง คือภาพถ่ายเก่า


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 10:49

ตุ๊กตาหินโบราณเหล่านี้กลายเป็นเรื่องฮือฮา   ก่อให้เกิดคำถามตามมาหลายคำถาม ถึงที่มา จุดประสงค์ของการนำมาวาง  ตลอดจนการนำไปฝังดิน  
ขอรวบรวมความเห็นและคำตอบมาให้อ่านกันค่ะ


จาก FB  สยามพหุรงค์ โดย หนุ่มรัตนะ

ตุ๊กตาหินอ่อนประดับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
.
ข่าวการค้นพบตุ๊กตาหินอ่อนจำนวนมากที่ถูกฝังดินอยู่บริเวณนอกพระระเบียงคดในสนามหญ้าระหว่างรั้วกำแพงพระบรมมหาราชวังในปีพุทธศักราช 2564 และได้นำขึ้นมาบูรณะและถูกนำมาตั้งไว้ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับในยุคสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
.
ตุ๊กตาหินอ่อนนี้มีประวัติเริ่มต้นในระหว่างที่กรุงเทพมหานครครบรอบ 100 ปี ตรงกับปีพุทธศักราช 2425 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บรรดาเจ้านายต่างๆ ร่วมฉลองเสด็จพระราชกุศลจัดการซ่อมแซมบูรณะวัดทั้งหมด หนึ่งในการนี้โปรดเกล้าฯ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ากมลาศเลอสรร (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแก่เจ้าจอมมารดาเที่ยง) รวมทั้งมิสเตอร์อาบาศเตอร์ร่วมจัดหาตุ๊กตาจากต่างประเทศ รวมทั้งเจ้าฟ้ามหามาลาไปตัดหินที่สระบุรีให้ทำการซ่อมแปลงเครื่องประดับศิลาและกระถางต้นไม้ต่างๆ รวมทั้งหุ้มทองแดง ลงรักปิดทองรูปมารแบกสุวรรณเจดีย์ทั้งสอง และสั่งศิลาเครื่องตั้งประดับพระอารามใหม่เป็นอันมาก ซึ่งปรากฏอยู่ในภาพถ่ายเก่าถึงการมีอยู่ของตุ๊กตาหินอ่อนเหล่านี้ซึ่งถูกตั้งประดับเรียงรายในบริเวณวัด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 10:51

จนเมื่อถูกขุดค้นพบใหม่ในปี 2565 จึงมีหลายคนสงสัยว่าตุ๊กตาเหล่านั้นสูญหายไปและถูกฝังได้อย่างไร ซึ่งจากการดูภาพเก่าในช่วงระยะเวลาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ภาพที่ทำการลงสีนี้) พบเริ่มมีการประดับตุ๊กตาจำนวนน้อยลง จนกระทั่งสูญหายหมดในช่วงระยะเวลาที่กรุงเทพมหานครครบรอบ 150 ปี ตรงกับปีพุทธศักราช 2475 ตรงกับรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีบัญชีรับ-จ่ายเกี่ยวข้องกับการรื้อย้ายตุ๊กตาและงานประดับกระถางต้นไม้อยู่ในรายการบูรณะ
.
ในภาพเป็นตุ๊กตาหินอ่อนประดับอยู่หน้ากรอบประตูหินหน้าหอพระคันธารราษฎร์ในสมัยรรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ดูจากลักษณะกระเบื้องหลังคามีการทาสีขาวใหม่เป็นการบูรณะวัด น่าจะเป็นในช่วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชสมโภช ครั้งที่ 2 ในปีพุทธศักราช 2454
.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 10:54

'ไกรฤกษ์ นานา' เปิดหลักฐานเก่าสุด ไขปริศนาต้นตอ 'ตุ๊กตาหินวัดพระแก้ว'

 ถาม : อาจารย์คะ รูปแกะสลักหินอ่อนที่ลานวัดพระแก้ว มีที่มาที่ไปอย่างไร ตามหลักฐานเก่าสุด ที่เคยถูกค้นพบค่ะ ?
   ตอบ : มีคำยืนยัน ทั้งข้อมูลและรูปภาพครับ พบต้นตอ มีอยู่ในเอกสารเก่าสุดจากต่างประเทศ สมัยรัชกาลที่ 5
     ตามที่ได้มีการค้นพบ รูปแกะสลักหินอ่อนจำนวนมาก ฝังอยู่ใต้ดินภายในวัดพระแก้ว เมื่อเร็วๆนี้ ตรวจสอบแล้วมีบันทึกอยู่ในเอกสารต่างประเทศ ที่เชื่อถือได้ จากสมัยรัชกาลที่ 5 ดังต่อไปนี้ :-
  ( 1 ) หนังสือชื่อ Turrets, Towers & Temples เขียนโดย Esther Singleton ตีพิมพ์ที่อังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1898 เขียนว่า” วัดที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงามที่สุดในสยามเห็นจะเป็นวัดพระแก้ว ภายในตกแต่งด้วยรูปปั้นสลักศิลา โดยรอบพระอุโบสถ เป็นศิลปกรรมที่สั่งเข้ามาจากเมืองจีน ในรัชกาลก่อน
       แต่ยังมีรูปปั้นหินอ่อน เป็นรูปผู้มีชื่อเสียงจากยุโรปหลายตัว ถูกสั่งทำเป็นพิเศษ สำหรับปี ค.ศ. 1882 เพื่อประดับตบแต่งคราวบูรณะวัดพระแก้ว ครั้งใหญ่เนื่องในงานฉลองสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี โดยพระอนุชาของพระเจ้าแผ่นดิน “


https://www.thaipost.net/x-cite-news/182106/
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 11:17

จาก FB  JUDIA Gallery ยูเดียเเกลเลอรี่

#ตุ๊กตาหินโบราณวัดพระแก้ว
หนังสือพิมพ์ L’Illustration ฉบับวันที่ 31 ตุลาคม ปี 1891 (พ.ศ. 2434) ลงภาพข่าวงานพระราชพิธีทรงผนวชเป็นสามเณรของสมเด็จเจ้าฟ้า #มหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2434
ความน่าสนใจอยู่ที่มุมขวาของภาพปรากฎภาพลายเส้นของ #ปราสาทพระเทพบิดร ใน #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งถูกประดับประดาด้วยด้วย #ตุ๊กตาหินแกะสลัก ในอิริยาบทต่างๆเป็นจำนวนมาก
ตุ๊กตาหินเหล่านี้ตรงกับรูปลักษณ์ของตุ๊กตาที่พึ่งค้นพบจากริมกำแพงพระบรมมหาราชวังเมื่อไม่นานมานี้ และหากนับจากปีที่ฉลองพระนครครบ 100 ปี ( พ.ศ. 2425) แสดงว่าตุ๊กตาหินเหล่านี้ถูกวางประดับไว้เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว ณ วันที่หนังสือถูกตีพิมพ์ออก
ไป


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 11:22

ข้อมูลที่มาของตุ๊กตาหินพวกนี้    อ่านได้จากคำตอบของคุณ ภาณุเมศวร์ บุนนาค ใน FB ที่โพสตอบคุณ Kornkit Disthan



ทูล สมเดจพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์

ด้วยการแต่งวัดพระศรีรัตนศาสดารามครั้งนี้ หม่อมฉันได้มอบให้พระยารัตนโกษา แลพระอนุรักษโยธา เปนผู้ทำรูปสัตวรูปคนด้วยศิลาเปนเครื่องประดับตั้งรายตามวัดตามแต่จะทำได้ แต่ศิลาที่จะทำนั้น ศิลาเขาฉะโงกที่กรมช้างทำไว้แต่เดิมจะมีอยู่บ้าง ฤๅท่านจะทรงคิดหาเพิ่มเติมขึ้นบ้าง ถ้าพระยารัตนโกษาจะไปขอประทานศิลาทำรูปสัตวเหล่านี้ ขอให้ท่านรับสั่งให้จ่ายให้ทำการตามสมควรที่จะทำได้

จดหมายมา ณ วันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะเอกศก ๑๒๔๑
สยามินทร์

https://www.facebook.com/thepmontri.limpaphayom/posts/pfbid028DUQySyZGN84uEQdrjMiqiTfFV4jkYnhQ4r6eVhs7V5kYswmU5UTNVe79p7p7FBql?comment_id=1223689215073925&reply_comment_id=1241665623272223&notif_id=1658031163254791&notif_t=comment_mention&ref=notif
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 11:32

จากพระราชหัตถเลขาข้างบนนี้ ทำให้ได้คำตอบว่าตุ๊กตาหินเหล่านี้ทำในประเทศไทยนี้เอง   ไม่ได้ส่งมาจากจีน และไม่ได้เป็นอับเฉาเรือ
สร้างขึ้นเฉพาะกิจ   คือเพื่อประดับตบแต่งคราวบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามครั้งใหญ่  เนื่องในงานฉลองสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี พ.ศ. 2425
หินที่ใช้สลักคือหินจากเขาชะโงก จังหวัดนครนายก    อาจจะมีหินจากที่อื่นด้วย
เพราะดูจากรูปถ่ายข้างล่างคห.นี้   ตุ๊กตาหินน่าจะแกะสลักจากหินมากกว่า 1 ชนิด



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 12:18

ตุ๊กตาหินเหล่านี้ตั้งประดับวัดพระแก้วอยู่จนถึงรัชกาลที่ 7   จึงถูกย้ายออกจากวัด  หลักฐานได้จากราชกิจจานุเบกษาปี 2473 สรุปค่าใช้จ่ายในการบูรณะค่ารื้อย้ายตุ๊กตา กระถางต้นไม้ จำนวนเงิน 431 บาท


หลักฐานจากFB  คุณ "หนุ่มรัตนะพันทิป ณล"



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 17 ก.ค. 22, 12:21

ทำไมถึงต้องเอาไปฝังดิน   
ม.ร.ว. ชัยนิมิตร นวรัตน เฉลยคำตอบว่า

ทำไมต้องฝังดิน ?
สมัยที่ยังไม่มีเครื่องทุ่นแรง ง่ายที่สุดคือขุดแล้วฝัง เรื่องนี้ไม่แปลก สมัยรัชกาลที่ ๕ ก็มีการเอาปืนใหญ่วังหน้าที่ไม่ใช้แล้วฝังภายในกำแพงพระราชวังบวรสถานมงคลนั่นแหละครับ
สมัยนี้มาขุดพบเข้าบอกว่าอยู่กลางสนามหลวง

 
บันทึกการเข้า
Neo
อสุรผัด
*
ตอบ: 4


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 18 ก.ค. 22, 01:02

อาจารย์ครับ แล้วทำไมสภาพ ตุ๊กตาพวกนี้มันเหมือนใหม่มากๆ ทุกตัวเลยหล่ะครับ มันอยู่ใต้ดินเป็นร้อยๆปีเลยใช่มะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 19 คำสั่ง