วันนี้ (ณ เวลาที่เขียน) ได้ดูหนังอีกเรื่องที่ติดอยู่ในใจมานาน มันชื่อ Mrs. Brown, you've got a lovely daughter (1968) เป็นหนังตลก ชื่อของหนังมาจากเพลงดังสุดกู่ของคณะ Herman's hermit เพลงนี้ดังในเมืองไทยด้วย เป็นเพลงหนึ่งที่ได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ ทำนองน่าร้ากน่ารัก
Peter Noone หัวหน้าวงเป็นหนึ่งใน 'teenage idol' ของสาว ๆ บ้านผมเลย ทุกหนังสือเพลงฝรั่ง (i.s. song hits และ ฯลฯ) กับ หนังสือ SP ลงภาพของเขาเป็นประจำ (ผมจำไม่ได้ว่าในปีนั้นหนังสือ SP ถือกำเนิดแล้วยัง แต่ตั้งแต่รู้ความก็เห็นหน้าของเธอในหนังสือที่ว่ามาแทบทุกฉบับ)

ความดังของเพลงรวมถึงรูปลักษณ์ของนักร้องนำ (ที่บ้านเกิดคือ อังกฤษ) ทำให้มีการทำหนังออกมาฉาย ที่จริงช่วงนั้นศิลปินวัยรุ่นคนไหนดังก็จะมีการสร้างหนังให้พวกเขาเล่นออกมาฉายล่อเงินเป็นประจำ ที่มาบ้านเราแน่ ๆ ก็หนังของ The Beatles, Cliff Richard, Elvis Presley แล้วก็เรื่องนี้ (เป็น 1 ใน 2 เรื่อง) ของคณะ HH อย่างไรก็ตามผมไม่เคยดูเรื่องไหนซักเรื่อง พวกพี่ ๆ เคยดูบ้าง เคยถามก็ไม่เห็นเล่าอะไรนอกจากว่า รอบปฐมทัศน์ จะมีคณะนักร้องของไทยมาแสดงดนตรีบนเวทีหน้าจอ ทุกโรงหนังสมัยก่อนจะมีเวทีกว้างหน้าจอเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ รอบปฐมทัศน์จะเป็นรอบเช้าของวันเสาร์ เพื่อให้กิจดำเนินจนจบสิ้นก่อนรอบปกติคือ 10 โมงเช้า
สำหรับหนังเรื่องนี้ผมจำได้จากการดูตัวอย่างทางทีวี
เนื้อเรื่องก็บางเบาแบบหนังวัยรุ่นร้องเพลงทั่วไปที่เน้นความหล่อของศิลปินมากกว่า PN เล่นเป็นหนุ่มชาว Manchester ชื่อ Herman ที่ได้รับมรดกเป็นหมาแข่งพันธุ์ greyhound ชื่อ Mrs. Brown เขากับพรรคพวก (สมาชิกวง) ก็เอามาลองแข่ง แต่ก่อนจะเข้าแข่งได้ก็ต้องจ่ายเงินค่าสมัครซึ่งหนุ่มพวกนี้ไม่มี ก็เลยต้องตั้งวงเล่นดนตรีเพื่อหาเงิน (แน่นอน) พอได้เข้าแข่งก็ปรากฏว่าชนะได้ถ้วย แล้วก็น่าจะได้เงินด้วยแต่คิดว่าคงเล็กน้อย
หลังงานก็มีแมวมองมาทาบทามให้นำหมาไปเข้าแข่งในรายการใหญ่กว่านี้ที่ London หนุ่มทั้งคณะก็ทำตาม แต่ความที่ยังถังแตกก็เลยไปพักที่บ้านแมวมองระหว่างนั้นก็ทำงานหาเงินไปด้วย แมวมองชื่อ Mr. Brown กับเมีย Mrs. Brown มีลูกสาวสวยเป็นนางแบบ สองหนุ่มสาวก็ปิ๊งกัน แต่ได้ไม่นานเพราะสาวต้องไปทำงานที่ Italy ระหว่างส่งสาวออกเดินทาง H เฟอะฟะทำ Mrs. Brown (หมายถึงหมา ไม่ใช่แม่แฟน) หาย
ก็มีการตามหาแต่ไม่เจอ ก็เลยอดเข้าแข่ง หนุ่ม ๆ คอตกกอดคอกันกลับบ้าน แต่ไม่นานก็ได้หมาคืน (เพราะอะไรขี้เกียจ 'จิ้ม' อธิบาย) ปรากฏว่า Mrs. Brown ทำงามหน้าไปท้องกลับมา แล้วก็ออกลูกมา 1 ตัว (น่าร้ากกกก)
หนังจบที่ H ต้องฟื้นฟู Mrs. Brown ให้กลับมาแข่งแรงอีกเพื่อจะได้เอาเข้าแข่ง ส่วนแฟนสาวก็ไป ๆ มา ๆ

ทิวทัศน์เมือง Manchester ในปลาย 60s ผมหลงไหลประเทศอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็จากหนังทีวีที่เคยดูอย่าง ขวัญใจสายลับ, พยัคฆ์ร้าย 707, สิงห์สำอาง, The Champions (จำชื่อไทยไม่ได้) ฯลฯ แม้ทีวีที่ดูจะเป็นขาวดำแต่ก็ยังให้บรรยากาศสดชื่นน่าไปเที่ยว ตอนนั้นยังเด็ก ความคิดความอ่านมีกระจิ๋วหลิว คิดออกมาได้เท่านี้ ความจริงทุกที่ในสากลโลกก็เหมือนกันหมดคือมีทั้งที่สวยและไม่สวย เมือง M ในภาพนี่เห็นแล้วหดหู่จัง มีแต่ตึกเน่า ๆ ท่าจะเป็นย่านสังคมของชนชั้นแรงงาน

เอามาให้ชมลังน้ำอัดลมทำด้วยไม้ เห็นแล้วโหยหาจัง

สาวในย่าน (ชั้นแรงงาน) ที่แอบหลงรักพระเอก เห็นภาพแบบนี้ทีไรอดคิดไม่ได้ว่า ส้วมจะเป็นอย่างไรหนอ

นี่คือ Mainframe Computer ในปี 1968

สาวที่พระเอกปิ๊ง เป็นลูกสาวของ Mr. & Mrs. Brown

การถ่ายหนังที่อังกฤษก็มีคนมุงเหมือนกัน

พระเอกกับ Mrs. Brown และลูกน้อยหอยสังข์
หนังยาวเกือบ 2 ชม. แต่ผมใช้เวลาดูประมาณครึ่ง ชม. เศษ ๆ ปกติ ณ ปัจจุบัน หนังแนวนี้ผมไม่รบกวนกล้ามเนื้อนิ้วเพื่อ 'คลิก' แล้ว 'โหลด' มันมานั่งถ่างตาดูหรอก แต่มันเป็น nostalgia ก็เลยดูเพื่อตอบสนองความโหยหา ดูแล้วก็อดรำพึงในใจไม่ได้ว่า PN ไม่เห็นหล่อสมกับได้ชื่อว่าเป็นขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกเลย หน้าตาจืด ๆ แถมหุ่นก็ไม่ดี ปู่ CR ร่วมยุคดูดีกว่ามาก
หนังมีเพลงน่ารัก ๆ สอดแทรกอยู่ประปราย นอกจากเพลงที่ใช้เป็นชื่อหนังแล้วยังมีเพลงดังอีกเพลงที่คุ้นหูพวกเรานักฟังเพลงฝรั่งมากกว่าคือ A Kind of Hush (2.55) ส่วนเพลงเอกอยู่ที่ 9.16
ฉากที่ออกเพลงนี้เป็น plot ที่ผมชอบมาก คือให้ตัวละครมีชื่อ Mrs. Brown สองรายคือหมากับคน แต่นึกไม่ถึงว่าเพลง Mrs. Brown ... นี้จะเกี่ยวกับหมา เพราะลูกสาว Mrs. Brown ก็สวยน่ารัก นึกว่าจะเกี่ยวกับฝั่งนี้ หลอกไปได้จนเกือบจบเรื่อง
ตัวอย่างหนัง เพลงนำเรื่องเพลงนี้ก็เพราะ
มาพาดพิงถึงวงดนตรีคณะนี้ในบ้านเรา ความดังของพวกเขาไม่แพ้ที่อเมริกาหรืออังกฤษ ขนาดในยุคนั้นเทคโนโลยีทางการสื่อสารยังหลับสนิทอยู่ แต่นักฟังเพลงฝรั่งบ้านเรารู้จักเพลงของพวกเขามากมาย อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่าเพลง Mrs. Brown ฯ นี้แม้จะดังที่สุดในอันดับเพลง BB จะดังติดหูนักฟังเพลงฝรั่งชาวไทยรึเปล่า แต่ A kind of hush นี่ดังแน่และดังอยู่นานกว่าที่ควรเพราะคณะ The Carpenters เอามาปลุกชีพให้ดังต่อไปอีกในเวลาต่อมา
ส่วนเพลงที่ฮิตสุดกู่มากกว่าเพลงอื่น ๆ แม้มันจะไม่ดังในอันดับเพลง BB เลยคือ
กับเพลงนี้ ที่มาดังเมื่อคณะ Wynners เอามาปลุกชีพ
หมายเหตุ - ถ้า PN ม่องเท่ง ผมคงมีโอกาสเขียนถึงเพลงของวงนี้อีก... มากมาย