เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 26
  พิมพ์  
อ่าน: 18505 ฉากประทับใจในหนังเก่า (4)
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 01 ส.ค. 22, 13:39

ต่อเรื่อง Hollywood canteen…



Andrew Sisters เป็นคณะนักร้องหญิงล้วนที่ดังสุดขีดในยุคนั้น  ผมรู้จักชื่อคณะนี้จากพ่อ  พ่อก็รู้จักมาจากเพื่อนทหารสมัยร่วมรบที่สงครามเวียดนามอีกที  เพลงดังของวงนี้ที่ผมชอบที่สุดคือ Rum and coca-cola (ตอนนี้สมาชิกตายไปหมดแล้ว)



Roy Rogers เป็นดาราคาวบอยขั้นเจ้าพ่อของยุค  เธอเป็นทั้งดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกรเสร็จสรรพ (คิดถึงเจ้าหน้าที่สมัยช่อง 4 บางขุนพรหม ‘เป็น’ ทุกอย่างในคนเดียว)  เพื่อนคู่ใจคือ ม้า ชื่อ Trigger



Joan Crawford ดาราคนนี้ดังแค่ไหนไม่ต้องพูดถึง  ผมมีเรื่องนินทา  คอยแป๊บ



Jimmy Dorsey & his orchestra เป็นวง jazz และ pop standard  ผมเคยได้ยินชื่อนี้มาจากพ่อเช่นกัน  ส่วนชายตัวเล็กที่กินโดนัทคงคุ้นหน้ากันดี  ผมเพิ่งเอ่ยถึงไปไม่นาน



Jane Wyman & Jack Carson  JW คือดาราหญิงคุณภาพคนหนึ่งของยุค เธอเคยได้รับ Oscar 1 ตัว  ได้รับการเสนอชื่อรวม 4 ครั้ง  ส่วน JC เป็นดาราตลกมาจาก Canada



Bette Davis ชื่อนี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ  ผมเคยเล่าความยิ่งใหญ่ให้ฟังมาบ้างแล้ว



Joan Leslie & Robert Hutton  RH เล่นเป็นทหารเกณฑ์หนุ่มตัวนำเรื่องที่ผมเอ่ยถึง  ในที่สุดเธอก็ได้พบกับดาราในดวงใจ  JL นี่ข้อมูลบอกว่าในยุคนั้นเธอดังไม่เบา  แต่ผมไม่เคยได้ชื่อเธอมาก่อน



Golden Gate Quartet นี่ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อเช่นกัน  ข้อมูลบอกว่าเป็นวงผิวดำล้วนวงแรกที่ได้เล่นในงานสาบานตนของประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt  เอามาลงเพราะร้องเพราะดี  ประสานเสียงนุ่มทุ้ม



นอกจากดาราใน clip แล้วยังมีดารารับเชิญมาเล่นโน่นนี่ติงต๊องอีกมาก  รวมทั้งดาราใหญ่ Paul Henreid ที่มาเข้าฉากในบทคนล้างจาน John Garfield โต้โผของงานในบทเด็กเสิร์ฟ Alexis Smith สวยสด Ida Lupino, Eleanor Parker ที่เราคุ้นหน้าดีกับบท Baroness ในเรื่องมนตร์รักเพลงสวรรค์ ฯลฯ อีกเยอะแยะ


ตัวอย่างหนัง



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 02 ส.ค. 22, 13:04

ความจริงยังมีหนังทำนองเดียวกันนี้ (จากโต้โผชุดเดียวกัน) อีกเรื่องนึงออกมาฉายก่อนหน้านี้ 1 ปี ชื่อ Thank you lucky stars  ดาราที่มาร่วมเล่นโน่นนี่ในหนังเรื่องนี้น่าสนใจกว่าเสียอีก  แต่ผมไม่มีโอกาสได้ดู

Errol Flynn (ผมไม่เคยเห็นเธอในบทร้องรำทำเพลงแบบนี้เลย)



Dinah Shore



Bette Davis คนนี้ก็เช่นกัน  เคยเห็นแต่บทร้าย ๆ บนจอ  เพิ่งรู้ว่าเธอก็ร้องเพลงเป็น



Ann Shridan



ซ้ายมือของจอคือ Olivia de Havilland มาแปลกมาก  ไม่เคยเห็นแบบนี้ในจอ (ขวามือคือ Ida Lupino)



Hattie McDaniel จาก Gone with the wind

(แม้จะยิ่งใหญ่ขนาดเป็นดารา Oscar แต่ HM จะมีความเท่าเทียมกับชาวบ้านก็เฉพาะต่อหน้าจอเท่านั้น  นอกเหนือจากที่นี่  เธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานแบ่งแยกสีผิว)



(ตั้งแต่ 1.10 เป็นต้นไป)





Humphry Bogart กับ S.Z. Sakall  (ทั้ง 2 เคยเล่นด้วยกันใน Casablanca - 1942)



SZS เป็นดาราประกอบที่ผมชอบมาก  ได้เคยดูหนังที่เธอเล่นอยู่ 2-3 เรื่อง  เธอตุ้ยนุ้ยน่ารัก  ตย. จากเรื่องนี้ Never say goodbye (1946)  Errol Flynn เล่นบทตลกได้ลื่นไหลมาก



นี่เป็นฉากสรุปของเรื่อง จะเห็น (4.33)  conductor ท่าทางประสาท ๆ คือ SZS ไม่ใช่ conductor ตัวจริง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 09:45

พูดถึงการขนดาราเยอะๆ มาอยู่บนจอพร้อมกัน   ทำให้นึกถึงฉากในการแสดงชื่อ Ziegfeld Follies   ดิฉันไปเจอโดยบังเอิญในยูทูป   ไม่รู้ต้นสายความเป็นมา  รู้แต่ว่าเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงใหม่ๆ
 โลกภายนอกจะลำบากข้าวยากหมากแพงยังไงก็ตาม  ฮอลลีวู้ดปลอบใจด้วยโลกมายาที่เพริศแพร้วอลังการให้คนดูลืมความจริงของชีวิตได้เสมอ
หมายเหตุ  ใครรู้จัก ZF  กรุณาให้ความรู้ด้วยค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 09:48

ยุคเพลงไพเราะ ระบำงามตาของฮอลลีวู้ด  ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 09:51

ฉากนี้รวมดาราสาวสวยแถวหน้าของฮอลลีวู้ด ในยุคก่อนทุกคนในเรือนไทยแห่งนี้เกิด
จำใครได้บ้างคะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 09:54

ก่อนลูซิลล์ บอลล์จะมาเป็นยอดตลกหญิงขวัญใจคนอเมริกันในยุค 1950s  เธอเคยเป็นดาราเกรดบีในหนังใหญ่มาก่อน  เล่นหนังเบาสมอง  ร้องเพลงเต้นระบำในหนังเบาๆเหล่านั้น  จนถึงจุดอิ่มตัวก็มาเล่นหนังชุดทางทีวี  I Love Lucy  ซึ้งโด่งดังไปทั่วโลก

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 09:58

ดาราในยุคนั้นน่าจะต้องฝ่าฟันหนักกว่าดารายุคนี้ กว่าจะขึ้นทำเนียบดาราได้  เพราะจะต้องหล่อ สวย  ร้องเพลงเป็น หรือเต้นระบำคล่อง    แม้แต่ตลกก็ไม่เว้นจากขอบเขตนี้

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 18:18

ฉากนี้รวมดาราสาวสวยแถวหน้าของฮอลลีวู้ด ในยุคก่อนทุกคนในเรือนไทยแห่งนี้เกิด
จำใครได้บ้างคะ



เด่น ๆ คือ Lana Turner ครับ

0.21 - คือ James Stewart (ขวามือ)
0.59 - คือ Hedy Lamarr ดาราที่ได้ชื่อว่า สวยที่สุดบนจอหนัง นอกจากสวยแล้วยังฉลาดด้วย 'Was co-inventor (with composer George Antheil) of the earliest known form of the telecommunications method known as "frequency hopping", which used a piano roll to change between 88 frequencies and was intended to make radio-guided torpedoes harder for enemies to detect or to jam. The method received U.S. patent number 2,292,387 on August 11, 1942, under the name "Secret Communications System"... ขี้เกียจแปล

(อ้างจาก internet movieฯ)

จากข้อมูลยังมี Judy Garland ด้วย  แต่ไม่เห็นใน clip ครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 03 ส.ค. 22, 18:20

The Rite (2011)  เป็นหนังผีสร้างจากหนังสือที่มีพื้นฐานมาจากประสบการณ์จริงของหลวงพ่อหมอผี (the exorcist) ของสำนักคริสตจักร



3.30



5.00



12.55



17.05



18.48






หมายเหตุ - ขอบคุณคุณ KWN Channel


ตัวอย่างหนัง


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 04 ส.ค. 22, 18:55

นักวิจารณ์เมืองนอกนิยามประเภทของหนังที่บีบคั้นอารมณ์จนต่อมน้ำตาแตกว่า Tearjerker Movies  หนังประเภทนี้สร้างติดต่อกันมาทุกยุคสมัย  ผมได้ดูมาเนือง ๆ จนแก่แล้วก็เลิกดู  เท่าที่จำได้ (ว่าร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร)  นอกจาก 2 เรื่องที่เคยเอ่ยถึงมาแล้ว (Madam X, Imitation of life)  ก็มี Terms of endearment (1983)

ผมว่าเรื่องนี้ดังที่สุดเพราะได้ทั้งเงินและกล่อง (หนังยอดเยี่ยม / ผกก. / ดารา ฯลฯ)



อีกเรื่องที่เรียกน้ำตาได้ง่าย ๆ ไม่แพ้กันคือ Steel Magnolias (1989) หนังเรื่องนี้ไม่มาฉายในไทย  ผมได้ดูทางวิดีโอ  ขนาดฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง  พอถึงตอนบีบคั้นน้ำตาก็ปล่อยโฮ ๆ โดยไม่ต้องมานึกสงสัยว่า เอ... เค้าพูดอะไรกันหว่า  สมควรร้องไห้รึเปล่า

เพราะเป็นหนังผู้หญิงจึงรวมดาราหญิงในยุคนั้นมากมาย  ศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ร้านทำผมของ Dolly Parton



ฉากโฮ ๆ



ฉากนี้ร้องไห้ไปขำไป



ต้นเหตุที่ทำให้เกิดหนังเรื่องนี้ขึ้นคือหนู Julia Roberts เธอเป็นโรคเบาหวาน ‘type 1’ ซึ่งต่อมาได้พัฒนาไปถึงขั้นการทำงานของไตล้มเหลว  ต้องมีการเปลี่ยนไต  ในฉากนี้เธออยู่ในระยะ ‘low blood sugar’ … เขียนตามความเข้าใจ  ถ้าผิดพลาดทางทฤษฎีก็ขออภัย  แบบว่ากำลังดูหนัง  ไม่ใช่ดูสารคดี


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 05 ส.ค. 22, 14:16

Julia Roberts เพิ่งเริ่มเล่นหนังได้ไม่กี่เรื่องก็พิสูจน์ฝีมือของการเป็นนักแสดงคุณภาพให้ประจักษ์ด้วยการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar จากเรื่อง Steel Magnolias ที่เพิ่งเล่าไปนี้

ในปีรุ่งขึ้นเธอก็เพิ่มความร้อนแรงด้วยการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar อีกครั้งในบทที่ต่างกันลิบลับจากเรื่อง Pretty Woman ที่ อ. เคยนำเสนอไปนานแล้ว

ต้องออกแรงอีกเป็นครั้ง 3 เธอถึงจะได้ Oscar ไปกอดสมใจจากหนังเรื่อง Erin Brochovich (2000) เล่าเรื่องแม่หม้ายสาวลูกติดถังแตกที่ในที่สุดก็ได้งานทำใน สนง.กฎหมายเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

วันหนึ่งเธอก็ไปเจอสำนวนคดีคาราคาซังเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งใน California ที่มีคนร้องเรียนว่าปล่อยน้ำเสียออกมาสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับประชาชนในละแวก

ความเป็นคนเกาะและกัดไม่ปล่อย  เธอเริ่มสนใจคดีนี้และแอบรวบรวมข้อมูลไปเรื่อย ๆ แบบลับ ๆ จนในที่สุดก็ได้ข้อมูลที่มีน้ำหนักมากพอที่โค่นโรงไฟฟ้าแห่งนั้นได้  ผลจากความสำเร็จทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ  รวมทั้งสถานภาพของ สนง. กฎหมายเล็ก ๆ แห่งนั้นด้วย

หนังสนุกมาก  มีสีสันน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ  เป็นพาหนะชั้นดีที่นำ JR ขึ้นเวทีรับ Oscar ไปอย่างเต็มภาคภูมิ  คู่แข่ง 4 คนที่เหลือต่างทำใจเพราะบทของเธอเด่นมาก

ฉากเด่น ๆ มักเกิดในห้อง







ฉากนี้สะใจที่สุด

[ความสะใจของฉากนี้อยู่ที่คำ slang ว่า blowjob (1.10)  สำหรับคนที่ไม่คุ้นกับคำ slang  คำว่า blowjob (n.) อธิบายถึงการประกอบกิจกรรมทางเพศโดยใช้ปาก (oral sex)]


หนังเรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริงช่วงหนึ่งของ EB ซึ่งทีมงานก็เชิญเธอมาร่วมในฉากหนึ่งด้วย



ตัวอย่างหนัง


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 06 ส.ค. 22, 19:39

หนังของ Julia Roberts เรื่องสุดท้ายที่ผมดู คือ Eat Pray Love (2010) เป็นหนังโรแมนติกเบา ๆ สร้างจาก บันทึกชื่อเดียวกันของ Elizabeth Gilbert เธอเป็นสาวในวัยกลางคนที่มีการศึกษา มีบ้านสวย มีสามี มีอาชีพที่ก้าวหน้าคือเป็นนักเขียนฝีมือดี สรุปแล้วชีวิตเธอสวยหรู  แต่แล้ววันหนึ่งเกิด อนิจจัง ขึ้น เธอเริ่มเซ็งกับชีวิตแต่งงาน (สาเหตุอะไรก็ลืมไปแล้ว) ถึงขั้นลงมือหย่า



เมื่อขบวนการเสร็จสิ้น  เธอกลับไปคุถ่านไฟเก่า (James Franco) แต่ไม่ ‘work’  



เมื่อเซ็งกับชีวิตจนถึงจุด เธอก็ตัดสินใจทิ้งสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองคุ้นเคยไว้เบื้องหลัง  แล้วออกเดินทางท่องโลก เธอใช้ชีวิต 4 เดือนแรกที่ Italy  เพื่อกินและสนุกสนานกับชีวิต (Eat)

(ที่พักแบบนี้เรียกว่า pensione  เหมือน guest house  ดำเนินกิจการภายในครอบครัว  ค่าเช่าไม่แพง  ส่วนใหญ่ไม่มีอาหารเช้าให้  แต่สิ่งดึงดูดคือมักอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว  ในขณะที่โรงแรมปกติทำไม่ได้เพราะกินพื้นที่มาก  ผมไป Italy (ที่ Rome) ทีไรก็พักแบบนี้  ง่าย ๆ  ตอนเย็นก่อนเข้ามาก็แวะซื้ออาหารเช้าสำหรับวันรุ่งขึ้นเตรียมไว้เลย)









อยู่ตั้ง 4 เดือน  เพื่อความกลมกลืนก็จ้างหนุ่มหล่อ (โคตร) มาสอน ‘ภาษา’ Italian  แล้วก็เกือบตกหลุมรักเสน่ห์ของพ่อหนุ่ม









(มีเพลงอันดับ 1 ของ Neil Young ชื่อ Heart of gold ที่พวกเรารู้จักดีดังเป็น background)


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 07 ส.ค. 22, 17:02

คั่นรายการด้วยข่าวการสูญเสีย...



แม้ข่าวการสูญเสียจะอยู่ในแขนงทางดนตรี  แต่คณะของเธอดังติดหูคนครึ่งค่อนโลกซึ่งรวมถึงบ้านเราจากเพลงที่ร้องในหนังซึ่งผมก็ได้ดูและได้บันทึกเอาไว้นานแล้วแต่ยังไม่ถึงคิวลง  ดังนั้นจึงลัดคิวขึ้นมาเล่าเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์  ดังนี้...


ถ้า Georgy Girl (1966) เป็นหนังสีผมจะสนุกสนานกับการชมเป็นอย่างมาก  เพราะจะได้เห็นเมือง London  (อีกหนึ่ง) เมืองโปรดของผมในยุคสมัยที่ผมยังเป็นเด็กเล็ก และเห็นวิวมาประปรายจากการดูหนังทีวี อย่าง ขวัญใจสายลับ สิงห์สำอาง พยัคฆ์ร้าย 707 ฯลฯ  

ถ้าสามารถย้อนเวลาได้  นอกจากกรุงเทพฯ แล้วก็มี London ในยุค 60s นี่แหละที่ผมอยากกลับไปเดินชม  โดยเฉพาะร้านขายรถเหล็กของโปรด

เนื้อเรื่องของหนังเกิดขึ้นในยุด Swinging London (คือ อังกฤษในยุค 60s ครึ่งหลัง) เล่าเรื่องของสาว Georgina หรือ Georgy ที่ยอมรับความเป็นธรรมชาติของตัวเองคือ อ้วน เฉิ่ม  แล้วก็ไม่เคยมีหนุ่มที่เธอหมายปองเหลียวแล  แต่ไม่ใช่ว่าเธอขาดเสน่ห์  ไม่งั้นคงไม่เจอประสบการณ์ชายอายุแก่คราวพ่อ (James Mason) ที่เป็นนายจ้างเจ้าของสถานรับเลี้ยงเด็กที่ผู้ปกครองของเธอทำงานอยู่ ที่ย้อนไปเมื่อครั้งตอนเด็ก ๆ ช่างทำตัวน่ารักเหมือนพ่อคนที่สอง  แต่พอเธอโตขึ้นกลับเปลี่ยนไปและพยายามล่อเธอมาเป็นเมียน้อย

Georgy พักอยู่กับเพื่อนร่วมห้องสาวสวยแต่สำส่อนและสมองกลวง (Charlotte Rampling - นักแสดงคนนี้ต่อมาดังติดหูผมจากการอ่านใน SP  เมื่อไม่กี่ปีมานี้เธอก็ได้เคยเข้าชิง oscar)  



เพื่อนคนนี้ปฏิบัติตนกับเธอเหมือนนายจ้างกับคนใช้  สิ่งที่ทำให้เธอทนอยู่ร่วมได้เพราะเพื่อนมีแฟนรูปหล่อที่เธอหลงใหล (Alan Bates)  วันหนึ่งเพื่อนก็ท้อง (ครั้งที่เท่าไหร่กับใครบ้างหนังไม่ได้บอก)   ทั้ง 2 เลยต้องแต่งงาน  เมื่อชายที่ตัวเองแอบหลงใหลย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน  แล้ววันหนึ่งพ่อหนุ่มก็มองเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายในของ Georgy ความรักก็เกิดขึ้น

0.41 – I’ll tell you what this little episode’s taught me. It’s taught me what it feels like to look like the back end of a bus and sit around every night with nothing to do.
You bitch! We’re not crying are we?
1.12 – No, she’s right Jos. I’m like the back of a bus. My face is too fat. My hair’s like grass. I’m just a mess.


ความสามารถที่ Georgy ยอมรับว่า ‘เป็นเลิศ’ และจุดประกายให้นายจ้างเฒ่าหัวงูหลงไหล



เล่าได้คร่าว ๆ เพราะไม่มีใครย่อย clip ของหนังเรื่องนี้มาสนับสนุนการเล่าเลย  ยังดีที่มี clip ตอนจบของหนัง
 
ในท้ายที่สุดเมื่อ roommate สาวสมองกลวงออกลูกแล้วตัดสินใจไม่เลี้ยง แล้วแยกตัวไป  Georgy กับแฟนที่เคยเป็นผัวของ roommate ก็รับเลี้ยงเด็กแทน  แต่แล้วแฟนเฮงซวยก็เบื่อหน้าที่พ่อแล้วหนีไปอีกคน  Georgy เลยต้องกลับไปยอมแต่งงานกับเฒ่าหัวงูที่ตอนนี้กลายป็นพ่อหม้าย  เพื่อที่จะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเองและเด็กน้อยที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนแต่กลับรักเหมือนลูกตัวเอง



ตัวอย่างหนัง



หนังน่ารักเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในอังกฤษและอเมริกา  การแสดงของ Lynn Redgrave ซึ่งเป็นน้องสาวของ Vanessa Redgrave  เด่นจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar  ต่อมาเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกครั้งจากหนัง Gods and Monsters ในปี 1998 จากบทบาทแม่บ้านขวานผ่าซากอันเป็นบทบาทตรงข้ามกับบทบาทในเรื่องนี้

นี่คือแรงผลักดันให้ผมนั่งดูหนังขาวดำ (ที่พล่ามแล้วพล่ามอีกว่าไม่ช้อบไม่ชอบ) เรื่องนี้



ผมรู้จักเพลง Georgy Girl มาตั้งแต่จำความได้และติดหูมาตลอด  แสดงว่าในสมัยนั้นเพลงต้องดังมาก  สถานีวิทยุถึงเปิดบ่อยจนซึมเข้าไปในหัวเด็กอย่างผม

พอโตขึ้นมาหน่อยก็รู้ว่าเป็นเสียงร้องของวง The Seekers   มาถึงยุคซีดี  ผมก็ออกตามหาแผ่นของวงนี้  เพลงของพวกเขามีทำนองน่ารักทั้งนั้นเลย  ยกตัวอย่างเช่น





3 เพลงนี้เป็นเพลงของวงจาก Australia ที่ข้ามมาดังที่เกาะอังกฤษก่อนจะเหินฟ้าไปฝั่งอเมริกา
 
ผมชอบเพลงนี้ที่สุด



หลังจากยุบวง  สมาชิกคนหนึ่งก็ form วงขึ้นมาใหม่ที่เกาะอังกฤษแล้วตั้งชื่อว่า The New Seekers เจ้าของเพลงดังเพลงนี้ที่นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคบ้านเราจักดีทุกคน



ความดังของเพลงนี้ถึงขนาด บ. น้ำอัดลม ยี่ห้อหนึ่งซื้อลิชสิทธิ์มาดัดแปลงทำ spot โฆษณา  spot นี้มาฉายในบ้านเราด้วย (ตอนนั้น ทีวี เป็นขาวดำ)

(0.41 - ที่ขวดเขียนว่า โคคา-โคลา รึเปล่านะ)

โดยส่วนตัว  เพลงของวงนี้คือ เพลงแห่งความหลังของผม ทุกเพลงให้บรรยากาศสมัยเด็ก ๆ ฟังแล้วรำลึกถึงอย่างเป็นสุข




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 08 ส.ค. 22, 09:18

พูดถึงเจมส์ เมสัน ต้องขอย้อนกลับไปถึงบทที่เขาเล่นได้สมบทบาทที่สุด ในหนังอื้อฉาวปี 1962 เรื่อง Lolita
ที่ว่าอื้อฉาวไม่ใช่เบื้องหลังของหนัง แต่เป็นเบื้องหน้านี่แหละค่ะ  คือทำจากบทประพันธ์ที่เนื้อหาแสลงศีลธรรมในยุคนั้นมาก  กล่าวคือความสัมพันธ์ของพ่อเลี้ยงวัยกลางคนกับลูกเลี้ยงสาวรุ่น   
ในหนังสือบอกว่า โลลิต้าอายุ 12 เท่านั้น แต่ในหนัง เขยิบขึ้นมาเป็น 15 เห็นจะได้ ไม่งั้นไม่ผ่านกรรไกรเซนเซอร์  เจมส์ เมสันคนนี้เคยเป็นต้นแบบคุณชายกลางในจินตนาการของก.สุรางคนางค์  แต่มาถึงในหนัง เขาเข้าสู่วัยกลางคน ทำหน้าตาเนื้อตัวเชยๆ แบบไมห่วงหล่อ  เล่นเอาฝีมือล้วนๆ
ส่วนดาราหน้าใหม่ที่เล่นเรื่องเดียวดัง จากดังก็ดับคือ Sue Lyon  เธอเป็นตำนานของโลลิต้ามาจนปัจจุบัน  ถึงหนังเอามาทำใหม่ก็ลบภาพของเก่าไม่ได้

 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 08 ส.ค. 22, 09:19

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 26
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 20 คำสั่ง