ควันหลงจากหนังเรื่อง Fame…
คราวที่แล้วเล่าว่าเพลงจากหนังเรื่องนี้ได้เข้าไปชิง Oscar เพลงประกอบหนังยอดเยี่ยมถึง 2 เพลง ลืมบอกไปว่า ผลออกมา หนึ่งในนั้นสามารถคว้ามาได้ด้วยคือเพลง Fame แต่รางวัลไม่ได้ไปถึงมือของ Irene Cara เหมือนเพลง Flashdance ฯ ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่ได้ร่วมในการแต่งเนื้อร้องหรือทำนองเพลง แค่ร้องให้เฉย ๆ
ส่วนอีกเพลงคือ Out here on my own ซึ่งพลาดรางวัลไปนั้น แต่งเนื้อร้องและทำนองโดยคู่พี่น้อง Michael และ Lesley Gore
ควันหลงที่อยากเล่าอยู่ตรงนี้
LG เป็นนักร้องในยุคกลาง 60s ในวัยเพียง 16 ขวบ เธอประเดิมอาชีพนักร้องด้วยเพลงดังสนั่นอเมริกาในปี 1963 ชื่อเพลง It’s my party
(เธอเกิดปี 1946 อ่อนกว่า Helen Reddy, Carly Simon และเท่ากับ Linda Ronstadt แต่ความที่เธอดังเร็วกว่า เลยกลายเป็นนักร้องในยุค 60s ขณะที่ HR (เกิด 1941) CS (เกิด 1943) เกิดก่อนแต่ดังช้ากว่าจึงกลายเป็นนักร้องในยุค 70s ซึ่ง 2 ยุคนี้มีแนวเพลงต่างกัน ส่วน LR เกิดปีเดียวกันแต่ดังทีหลังก็เลยกลายเป็นนักร้องในยุค 70s เช่นกัน)
ความดังของเพลง It's ฯ นี้นอกจากทำนองติดหูแล้ว เนื้อร้องยังน่าสนุก แถมน้ำเสียงของเธอก็ไปกันได้ดี เนื้อเพลงกล่าวถึงสาวน้อย Lesley (ในเนื้อไม่ได้บอกว่าชื่ออะไรก็เลยเหมาเอาว่าคือคนร้องนั่นแหละ) ที่โดนแฟนหนุ่ม Johnny และเพื่อนสาวคนสนิท Judy พร้อมใจกันหักหลังด้วยการแอบไปคั่วกันเอง หนำซ้ำยังมาหยามหน้าในงานวันเกิดของเธอ
เนื้อเพลงน้ำเน่าแบบนี้ทำให้วัยรุ่นวุ่นรักโดยเฉพาะสาว ๆ กรี๊ดกันสลบ ส่งผลให้ยอดขายพุ่งหน้าตั้งไปติดอันดับหนึ่งของตารางเพลง billboard และค้างอยู่นานถึง 2 สัปดาห์ซึ่งในยุคนั้นหานักร้องหญิงทำสถิติแบบนี้ได้ยาก
กระแสรุนแรงแบบนี้ทำให้ บ. แผ่นเสียงต้นสังกัด ใช้กลยุทธ์น้ำขึ้นให้รีบตัก ไม่รอช้าที่จะจับเธอมาร้องเพลงที่ 2 ออกสู่ตลาดตามมาติด ๆ ภายในช่วงเวลาห่างกันเพียง 2 เดือน
เนื้อเพลงของเพลง Judy’s turn to cry นี้เป็นตอนต่อจากเพลงแรก กล่าวถึงในที่สุด Johnny แฟนหนุ่มของเธอก็กลับใจแล้วทิ้งโค้งวกกลับมาหาเธอ (ด้วยสาเหตุอะไรต้องฟังเพลงเอา) เป็นชัยชนะเหนือนัง Judy เพื่อนจอมหักหลัง (เป็นผมละก็ขอตบไอ้ ‘หน้าหม้อ’ Johnny ซัก 40 ทีก่อนแล้วค่อยให้อภัย)
เพลงที่ 2 นี้ดังตามคาดแม้จะไม่ถล่มหูเท่าเพลงแรก อย่างไรก็ตาม 2 เพลงดังกล่าวความที่เป็นเพลงที่มีเนื้อหาต่อเนื่องกันเหมือนหนังชุดทางทีวี และออกอากาศในเวลาไล่หลังกัน เหล่าดีเจวิทยุจึงสนุกกับการเปิดเพลงทั้งสองติดต่อกันไป
นี่คือเรื่องราวความรักของสาวน้อย Lesley ที่ชาวอเมริกันล้วนได้ยินมานมนาน
ในปี 1986 เพื่อนผมคนหนึ่งซื้อแผ่น Lesley Gore, the Anthology มาให้ ผมดีใจจนเนื้อเต้น ที่ถึงกับเนื้อเต้นเพราะเธอไม่เอาตังค์ ถ้ามาคิดตังค์ทีหลัง ผมคงต้องเปลี่ยนจาก ดีใจจนเนื้อเต้น เป็น ดีใจมาก
แผ่นเสียงชุดนี้ทำออกมาในโอกาสพิเศษเพราะปี 1986 มันหมดยุคของเธอไปแล้ว เป็นแผ่นคู่ คือมี 2 แผ่นเสียงอยู่ในซอง ซึ่งหมายความว่าซองเป็นแบบ gatefold คือเปิดกางได้ ชื่อแผ่นถ้าแปลแบบกันเองก็คือแผ่นรวมเพลง singles ของเธอนั่นเอง

หน้ากลางเมื่อเปิดกางออกมานอกจากมีรูปของนักร้องแล้วยังมีตัวหนังสือยุ่บยั่บ ผมลงมืออ่านโดยยังไม่ต้องฟังเพลง ตัวหนังสือเล่าความเป็นมาของเพลง singles ต่าง ๆ ที่ LG ร้องเริ่มตั้งแต่เพลงแรกคือ It’s ฯ และเพลงที่สองคือ Judy’s ฯ ความเป็นมาของทั้ง 2 เพลงนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้ว แต่พอมาเพลงที่ 3 นี่ซิ ผมอ่านอย่างขะมักเขม้น ข้อมูลบอกว่า เนื้อเพลงของเพลงที่ 3 นี้คือส่วนที่หายไปอันเป็นตอนกลางของเรื่องความรักของหนู Lesley
เนื้อของเพลงเริ่มต้นหลังจาก Johnny แฟนหนุ่มหน้าหม้อทรยศไปหลงระเริงกับเพื่อนซี้ Judy ทำให้หนู Lesley อกหักดังเป๊าะ ต้องไปนั่งคร่ำครวญหวนไห้ฟาดงวงฟาดงากับดวงดาวบนท้องฟ้า ความจริงนี่ลำดับของเพลงนี้ต้องเป็นเพลงที่ 2 แล้วจึงตามมาด้วยเพลง Judy’s ฯ เป็นเพลงที่ 3 อันเป็นตอนจบแบบ happy ending แต่ทำไม บ.แผ่นเสียงถึงปล่อยออกมาเป็น single แค่ 2 ตอนจบก็ไม่รู้
สรุปแล้วมาฟังชีวิตรัก (เน่า ๆ) ที่ครบชุดของหนู Lesley กัน
เพลงแรก It’s my party
เพลงที่สอง Just let me cry นี้เป็นเพลงเดียวของ LG ที่วิทยุบ้านเราเอามาเปิด และกระหน่ำเปิดจนนักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุครู้จักเป็นอย่างดี ในขณะที่บ้านเขาไม่เคยได้ยินเพราะมันไม่ใช่ single ดีเจวิทยุจึงไม่มีสิทธิเปิดออกอากาศ ส่วน 2 singles นั่นผมไม่เคยได้ยินในยุคของมัน ไม่รู้มีใครเคยได้ยินบ้าง ที่ผมไม่เคยได้ยินอาจเป็นเพราะยังเด็ก ยังไม่รู้จักการหมุนปุ่มหาคลื่นบนหน้าปัดวิทยุ แต่เพลง Just ฯ นี้ฮิตมายาวนานหลายปี ตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งผมโตอยู่ ม. ต้นแล้วก็ยังคงได้ยินอยู่ประปราย มันกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดตลอดกาลของผม
ตอนที่เพื่อนซื้อแผ่นฯ มาให้ผมถึงดีใจจนเนื้อเต้น เพราะผมมีเพลงนี้ของเธอแต่อยู่ใน cassette tape เพลง It’s ฯ นั้นเคยได้เห็นเพียงชื่อกับรู้ความดังของมัน ไม่เคยได้ยินตัวเพลง ส่วนเพลง Judy's ฯ นี่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำนองเพลง Just ฯ นี้ผมว่าเพราะไม่แพ้ 2 เพลง singles นั้นเลย
และจบด้วยเพลงที่ 3 คือ Judy’s turn to cry

Fun fact คือ ในเนื้อเพลง หนู Lesley เป็นสาวน้อยถวิลรัก แต่ LG สาวน้อยคนร้องเป็น lesbian จากการสัมภาษณ์เธอเล่าว่ารู้สึกชอบผู้หญิงมาตั้งแต่ก่อนอายุ 20 โน่น วงการมายานี่สนุกจริง ๆ