สืบเนื่องจากกระทู้ของคุณส้มหวาน RW702 ค่ะ

[ปลาดุกไร้นาม]

คือ วันนี้ได้มีโอกาสมาอ่านกระทู้ในเว็บบอร์ดนี้น่ะคะ แล้วได้อ่านกระทู้ของคุณส้มหวานในกระทู้ที่เกี่ยวกับการฑูตน่ะคะ.....
 
เลยอยากเรียนถามคุณ นกข. หรือท่านที่รู้บ้างค่ะ คือสงสัยนิดหน่อยน่ะคะ.....ซึ่งได้อ่านกระทู้ของคุณส้มหวานแล้วก็ค่อนข้างกระจ่างมากค่ะ (เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอ่านค่ะ....ในแง่ของกฎหมาย) พอดีอ่านไปแล้วเกิดข้อคำถามสงสัยอีกนิดน่ะคะ

คำถามที่ 1 อยากทราบว่า จะเป็นไปได้ไหมค่ะ ที่จะใช้หนังสือการเดินทางของสองประเทศพร้อมกันน่ะคะ หมายถึงว่า เข้าออกประเทศไปอีกประเทศที่ตัวเราเองก็มีหนังสือเดินทางเขา (คือ หมายถึงเข้าไปในนามสัญชาติของประเทศเขาน่ะคะ) แล้วขากลับมาเมืองไทยก็ใช้หนังสือเดินทางไทยแทนน่ะคะ (ในกรณีที่เราไปต่างประเทศไม่เกินเดือนน่ะคะ) โดยกรณีสมมติว่า เราเป็นบุคคลสองสัญชาติน่ะคะ เกิดที่ต่างประเทศ แล้วเดินทางกลับมาอยู่ไทย แต่ยังครองหนังสือเดินทางของชาติที่เกิดอยู่น่ะคะ (โดยที่ต่ออายุหนังสือเดินทางของชาตินั้นได้อยู่แม้จะอายุเกิน 18 ปี ที่ระบุให้เลือกสัญชาติแล้วก็ตาม ซึ่งทางสถานฑูตของประเทศนั้นบอกว่า ไม่ต้องเลือกสัญชาติก็ได้คะ) แล้วทางนี้เราก็มีสัญชาติไทยด้วยค่ะ คือ มีบัตรประชาชนของไทย มีหนังสือเดินทางของไทยเหมือนกันค่ะ

คำถามที่ 2 คนที่มีสองสัญชาติจะมีผลดี ผลเสียอย่างไรบ้างค่ะ (อยากรู้เป็นกรณีศึกษาค่ะ)

[ปลาดุกไร้นาม]

ไม่ทราบตัวเองจะเขียนงงๆ ไปหรือเปล่านะคะ .....ถ้าอ่านแล้วงง ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ

[นกข.]

ตอบอย่างตรงไปตรงมา ในทางปฏิบัติก็มีคนทำกันอยู่เป็นปกติครับ

แต่ในแง่หลักการ อาจจะมีคนตั้งข้อสงสัยเอากับคนที่ทำเช่นนั้นได้ คงต้องแล้วแต่ความเข้มงวดไม่เข้มงวดของกฏหมายหรือระเบียบของแต่ละประเทศ บางทีก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่เป็นคนๆ ไปด้วย เพราะมันก็มีทางที่จะมองไปได้ว่า คล้ายๆ พวกที่เป็นมนุษย์ร้อยชื่อหรืออาชญากรที่มีหนังสือเดินทางหลายฉบับ อันนี้คงจะไปห้ามคนมองหรือเซ้าซี้ไม่ได้ (ถึงแม้จะมีสุจริตชนอีกแยะที่เผอิญถือหนังสือเดินทางสองเล่มก็ตาม)

แต่ถ้าเราได้หนังสือเดินทางมาโดยสุจริต ทั้งสองทาง เพราะเราเผอิญถือสองสัญชาติจริงๆ นี่นา ไม่ได้ไปปลอมมาหรืออะไร เราก็ต้องมีสิทธิใช้สิครับ ก็เป็นเอกสารประจำตัวเราทั้งสองเล่มจริงๆ นี่ เราเป็นคนสองสัญชาติจริงๆ นี่นา  

เท่าที่ผมเคยทราบมา ถ้าตามระเบียบของประเทศที่เกี่ยวข้องไม่มีกำหนดโทษก็ใช้ไปเถอะครับ ก็ใช้หนังสือเดินทางไทยเวลาจะเข้าเมืองไทย ใช้หนังสือเดินทางประเทศอีกประเทศเวลาจะไปเข้าประเทศนั้น ส่วนเวลาจะไปไหนที่ไม่ใช่ประเทศทั้งสอง คุณก็เลือกเอาเองแล้วกัน บางทีหนังสือเดินทางไทยอาจจะต้องขอวีซ่าบางประเทศ แต่อีกเล่มไม่ต้องขอวีซ่า ก็เลือกได้

ปัญหาที่ผมเคยทราบมา และไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาทำอย่างไร คือ ในกรณีที่ (เพราะอะไรก็แล้วแต่) ชื่อในหนังสือเดินทางไทยกับอีกฉบับเกิดไม่ตรงกัน อย่างนั้นคุณต้องระวังวางแผนเวลาซื้อตั๋วด้วย เพราะเขาตรวจหนังสือเดินทางด้วยนี่ครับเวลาคุณเช็กอิน ต้องหยิบให้ถูกเล่ม

ในทางการเมืองระหว่างประเทศ หนังสือเดินทางอเมริกันหรือประเทศฝรั่งบางประเทศอาจไม่เหมาะกับการเดินทางไปในบางพื้นที่นะครับ  เช่น แถวตะวันออกกลาง เพราะคุณอาจเป็นเป้าของผู้ก่อการร้ายได้ จะไปในประเทศยังงั้นคุณก็เป็นคนไทยดีกว่าเป็นคนอเมริกันครับ แต่บางประเทศผู้ถือหนังสือเดินทางอเมริกันเข้าได้ไม่ต้องมีวีซ่า ก็สะดวกกว่า

[นกข.]

ขออภัยนะครับ แต่ว่า การทูต สะกด ท. ทหารครับผม ฑ. มณโฑ ออกจะเป็น ฑ. ที่หรูหราไปหน่อย ใช้ ท. ทหารธรรมดาๆ ก็ได้ครับ เพราะนักการทูตก็เป็นคนธรรมดาๆ นี่เอง...

[ส้มหวาน]

เท่าที่เห็น ข้อดีของการมีหนังสือเดินทางสองฉบับก็คงจะเป็นความสะดวกในการเดินทางไปประเทศอื่นๆซึ่งหากใช้หนังสือเดินทางของไทยจะยุ่งยากเรื่องวีซ่ามาก ส่วนข้อเสียของการมีหนังสือเดินทางสองฉบับนั้น ดิฉันไม่ทราบค่ะ  คุณนกข พอจะคิดออกไหมคะ  ว่าแต่ว่าคุณนกข มีหนังสือเดินทางกี่ฉบับคะ  

[ปลาดุกไร้นาม]

ขอบคุณคุณ นกข. มากนะค่ะ ที่บอกมาน่ะคะ

[การะเกด]

ผมขอถามด้วยคนครับ ว่าถ้าเกิดเพื่อนของผมแต่งงานกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่แล้วสามีของเค้ากำลังศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ เค้าจะต้องติดตามสามีไปด้วย เค้าจะสามารถขอวีซ่าเข้าอังกฤษได้ทั้ง 2ประเทศคือขอที่ไทยและจีนได้หรือไม่ครับ

[นกข.]

ขออนุญาตเดามั่วครับ ยังไม่มีเวลาตรวจสอบ

วีซ่าไปเมืองจีนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยขอ น่าจะได้ไม่ยาก อย่างน้อยก็ขอวีซ่านักท่องเที่ยวได้ ยิ่งเป็นคนไทยที่จะแต่งหรือแต่งแล้วกับคนจีนยิ่งไม่น่ามีปัญหา แต่วีซ่าไปอังกฤษ ก็ต้องเอากฏระเบียบของอังกฤษเข้าจับแหละครับ ในกรณีไปเมืองจีน คือเพื่อนคุณขอวีซ่าไปเข้าประเทศของสามีเอง แต่ในกรณีไปอังกฤษ คือทั้งเพื่อนคุณทั้งสามีเป็นคนต่างชาติทั้งคู่กำลังจะขอวีซ่าเข้าไปในต่างประเทศ อันนี้ก็คงไม่ง่ายเหมือนขอวีซ่าไปจีน แต่ผมว่าถ้าอธิบายกันดีๆ กงสุลอังกฤษก็น่าจะเข้าใจและน่าจะยอมให้สามีภรรยาไปอยู่ด้วยกัน

ทำนองกลับกัน สามีจะมาเมืองไทย อันนี้ต้องดูระเบียบทางการไทยครับ ซึ่งผมไม่แม่น ลืมไปแยะแล้ว แต่ผมก็เห็นมีมาอยู่เมืองไทยหลายคู่ ที่แน่ๆ ขอวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาได้แน่ คนจีนมาเที่ยวเมืองไทยเยอะแยะไป แต่มีอีกข้อหนึ่งที่ซ้อนเข้ามา ซึ่งไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปหรือยังคือรัเบียบของทางการจีนเองที่กัน หรือกรองคนจีนของเขาเองในการออกนอกประเทศ สมัยก่อนเคยมีปัญหา บางทีคนจีนที่จะได้ทุนไปดูงานเมืองไทยโวยวายว่าทำไมสถานทูตไทยที่ปักกิ่งวีซ่าให้ช้า ปรากฏหลายหนว่าพาสปอร์ตยังมาไม่ถึงเราเลยกำลังผ่านทางการจีนอยู่ มีครับ

[ส้มหวาน]

ดิฉันแต่งงานกับชาวเยอรมัน เวลาจะไปอังกฤษ 1 สัปดาห์ สามีดิฉันไม่ต้องขอวีซ่าเข้าอังกฤษ(เพราะเข้าไปไม่กี่วันเท่านั้น)  เพราะแกถือพาสปอร์ตของเยอรมัน แต่ดิฉันต้องขอวีซ่าเข้าอังกฤษเพราะพาสปอร์ตของดิฉันยังเป็นของประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะมีตราอนุญาติให้อยู่ในประเทศเยอรมันนีก็ตาม (แต่สามรถไปในประเทศกลุ่ม เชงเกนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะดิฉันมีฐานะเท่ากับคนเยอรมันซึ่งสามารถอยู่ในประเทศกลุ่มเชงเกนได้นานๆโดยไม่ต้องใช้วีซ่า) ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าค่ะ
เพื่อนของคุณการะเกดถือพาสปอร์ตของประเทศไหนล่ะคะ ดิฉันเดาเอาว่าการจะต้องขอวีซ่าเข้าประเทศนั้นๆหรือไม่ น่าจะขึ้นอยู่กับว่าคุณถือพาสปอร์ตของประเทศใดสิทธิและกฏเกณฑ์ต่างๆที่จะมีผลต่อคุณเมื่ออยู่นอกประเทศที่คุณมสิทธิที่จะอยู่(ไม่ว่าจะเป็น ไทย หรือ จีน) น่าจะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของประเทศที่คุณถือพาสปอร์ตอยู่นะคะ  ไม่ทราบว่าดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ

[ส้มหวาน]

อ่านแล้วกลัวคุณการระเกดจะงง  ขอสรุปง่ายๆอีกทีโดยใช้กรณีของดิฉันเอง

คือดิฉันมีสิทธิเท่าคนเยอรมันเม่ออยู่ในประเทศเยอรมันนี  แต่เมื่อออกนอกเยอรมันนี (ไม่นับกลุ่มเชงเกน) ดิฉันมีสิทธิเป็นคนไทย ซึ่งเป็นผลมาจากพาสปอร์ตไทยที่ดิฉันถืออยู่ค่ะ

คุณ นกข คะ ดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ

[การะเกด]

ขอบคุณนะครับทุกท่านที่ช่วยตอบคำถาม
แล้วถ้าเพื่อนผมแต่งงานแล้วและอยู่ที่ที่เมืองจีน แล้วจะต้องตามสามีไปเรียนที่อังกฤษ ต้องขอวีซ่าไปอังกฤษที่เมืองจีนหรือจะต้องกลับมาขอวีซ่าที่เมืองไทยครับ

[นกข.]

น่าจะได้ทั้งสองที่ครับ
ถ้ามีถิ่นพำนักที่เมืองจีน น่าจะลองขอที่สถานทูตสถานกงสุลอังกฤษในเมืองจีนก่อน และควรจะอ้างถึงคำขอวีซ่าของสามีด้วยจะได้ไปด้วยกันเป็นเรื่องเดียวกันครับ