เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 3487 ภาษาอเมริกันวันละคำ Hate crime/Hate speech
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 01 เม.ย. 21, 14:18

สองคำนี้กำลังอยู่ในกระแสทีเดียวค่ะ   เพียงแต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักศัพท์นี้เท่านั้น  แต่ถ้าเป็นการกระทำ  เอ่ยขึ้นมาก็คงจะ "อ๋อ" กันหลายคน

อเมริกากำลังเป็นดินแดนแห่งขวัญผวาของคนเอเชียที่ไปตั้งถิ่นฐานหรือทำงานอยู่ที่นั่น    เพราะอาชญากรรมเกิดถี่ๆขึ้นกับคนหน้าตาคล้ายๆจีน  ไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายจีนหรือชาติอื่นในเอเชียก็ตาม    ที่สำคัญเกิดกับผู้สูงวัย เป็นเป้าหมาย
ล่าสุดที่อยู่ในกระทู้อเมริกาจลาจล คือภัยที่เกิดกับคุณป้าวัย 65  ชาวฟิลิปปินส์ที่ไปตั้งถิ่นฐานอยู่อเมริกามาหลายทศวรรษ
เธอกำลังเดินอยู่แถวไทม์สแควร์ ในเมืองนิวยอร์คอยู่ดีๆ   ก็มีชายวัย 38  ร่างล่ำบึ้กปราดเข้าไปชกท้องจนล้ม  แล้วกระทืบซ้ำจนล้มลงไป  ทั้งๆไม่รู้จักกัน ไม่มีเรื่องกันมาก่อน   ที่ร้ายพอกันคือเหตุเกิดหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  พอรปภ.เห็นเหตุการณ์ ก็ยืนมองเฉยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะช่วย   ซ้ำยังไปปิดประตูทางเข้าไม่ให้เธอมีโอกาสหนีมาขอความช่วยเหลืออีกด้วย

ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้ว  ตั้งข้อหาเพิ่มจากข้อหาทำร้ายร่างกาย คือข้อหา hate crime  ด้วย

ต่อไปจะอธิบายว่า hate crime คืออะไร  ตอนนี้รอนักเรียนมาเข้าชั้นก่อนนะคะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 08:54

คำว่า Hate crime  มีชื่ออื่นๆด้วย เช่น  bias-motivated crime หรือ  bias crime  เป็นการประกอบอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากอคติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างของคนร้ายที่มีต่อเหยื่อ  มีแรงจูงใจมาจากสภาพพื้นฐานบางอย่างของเหยื่อ  เช่นเชื้อชาติ ศาสนา เพศสภาพ หรือ ลักษณะทางกายภาพ   
คนร้ายกับเหยื่ออาจไม่เคยรู้จักหน้าค่าตา   ไม่เคยมีเรื่องราวกัน    เพียงแต่เหยื่อมีลักษณะตรงกับอดติของคนร้าย  คนร้ายก็ลงมือกระทำการรุนแรงได้ทันที 

ส่วนในกรณีคนร้ายเห็นเหยื่อแต่งเนื้อแต่งตัวดี ดูออกว่าเป็นคนรวย เดินผ่านมา  ก็ตรงเข้าไปกระชากกระเป๋า ทำร้ายเหยื่อจนล้มลุกคลุกคลาน    แบบนี้ไม่ถือว่าเป็น hate crime   เพราะคนร้ายไม่ได้มีความจงเกลียดจงชังเหยื่อ   เพียงแต่ประสงค์ทรัพย์สินเพราะดูออกว่าเป็นคนมีเงินเท่านั้น    ถ้าเหยื่อคนเดียวกันแต่งตัวโทรมๆเดินมา  คนร้ายก็ไม่สนใจ   
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 09:52

ผมมาแอบฟังอยู่ข้างห้องครับ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 12:09

จาก statista

เกิดเหตุ เฮท ไครม์ เพิ่มสูงขึ้นในปี 17 - 19 เป็นวันละประมาณ 2 คดี


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 12:56

...


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 15:48

ในขณะที่อเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก   สังคมคนอเมริกันก็เกลื่อนไปด้วย hate crime  จน FBI จำแนกอาชญากรรมประเภทนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน ว่า

1  hate crime ที่เกิดจากสีผิว คือคนผิวดำถูกเกลียดชังมากที่สุด รองลงมาคือผิวขาว จากนั้นก็ผิวเหลือง คือเอเชีย
2   hate crime ที่เกิดจากเพศสภาพ  คือเกลียดชังพวกรักร่วมเพศ  ไม่ว่าชายรักชาย  หญิงรักหญิง มาอันดับหนึ่ง   ่
เพราะฉะนั้นใครที่อยากไปอยู่อเมริกา  จะได้เสรีภาพและเสมอภาคเต็มร้อย ที่จะรักเพศเดียวกันโดยไม่มีใครว่า  ขอให้รู้ว่าไม่จริง   ศาสนาบางนิกายอย่างศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิค ถือว่ารักร่วมเพศเป็นบาป 
ล่าสุด ทางรัฐอาคันซอส์ ก็ออกกฎหมายยินยอมให้แพทย์พยาบาลปฏิเสธการรักษาคนไข้รักร่วมเพศได้ หากว่าขัดกับความเชื่อทางศาสนาของตน

ส่วน Southern Poverty Law Center ได้จัดอันดับของเหยื่อ hate crime ในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายที่ถูกเกลียดชังอันดับแรกคือพวกรักร่วมเพศ  ต่อมาคือคนอเมริกันเชื้อสายยิว   คนผิวสี  คนมุสลิม คนเชื้อสายอเมริกากลาง เช่นพวกเมกซิกัน  แล้วรั้งท้ายคือคนผิวขาว
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 03 เม.ย. 21, 09:36

จาก statista

เกิดเหตุ เฮท ไครม์ เพิ่มสูงขึ้นในปี 17 - 19 เป็นวันละประมาณ 2 คดี

          วันละประมาณ 20 คดี  

justice.gov  


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 03 เม.ย. 21, 20:12

ดูภาพแล้วทำให้นึกย้อนไปถึงเมื่อช่วงปลายทศวรรษ 2510  ได้ไปเรียนอยู่ที่ Knoxville, TN  ซึ่งอยู่ในละแวกพื้นที่ชายขอบชนแดนกันในช่วงสงครามการเมืองระหว่างรัฐฝ่ายเหนือ (Union states) กับ รัฐฝ่ายใต้ (Confederate states)   ในช่วงเวลาที่ผมไปเรียนต่อนั้น อยู่ในช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายของผู้คนผิวสีจากใต้ขึ้นเหนือและกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในรัฐต่างๆทั่วประเทศอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกระบวนทัศน์ (paradigm shift)อย่างกว้างขวางและอย่างต่อเนื่องของคนอเมริกันในเรื่องของการยอมรับความแตกต่างระหว่างกันของคน ของสังคม ของความเป็นมนุษย์ ฯลฯ อันเป็นผลสืบเนื่องที่มีต่อมาจากเหตุการณ์เกี่ยวกับประธานาธิบดี John F. Kennedy เมื่อปี 1963  ผนวกกับกระบวนทัศน์ของผู้คนในยุค Hippy ที่เฟื่องฟู อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามเวียดนามที่ทวีความรุนแรงเป็นอย่างมาก

ที่ขยายภาพออกมาก็เพียงเพื่อจะนำเรื่องแต่เพียงว่า จากการที่ผมได้มีโอกาสสนทนากับคนผิวสีทางภาคใต้หลายคนที่อยู่ในช่วงเวลาของการมีแนวคิดหรือที่อยู่ในระหว่างการย้ายถิ่น (เขาเหล่านั้นได้เล่าให้ผมฟังเอง พบกันในระหว่างการเดินทางบนรถ Greyhound หรือบนรถไฟ)    และพอจะฉายภาพของความเกี่ยวข้องกันได้ใหมว่า ด้วยเหตุใดหรือพื้นฐานใดจึงมีการจำแนกและมีการประมวลเรื่องออกมาเป็นภาพ graphic ดังที่ อ.เทาชมพูได้นำมาแสดง ซึ่งได้เน้นเป็นการเฉพาะในเรื่องของการมีกฎหมายและการต้องมีข้อกำหนดในเรื่องของการต้องมีการรายงานและการจัดทำในเรื่องของ Hate Crimes

(พาออกนอกถนนไปแล้ว ไม่ทราบว่าพากลับเข้ามาในถนนเดิมได้ใหมเนี่ย  ยิงฟันยิ้ม)
บันทึกการเข้า
Jalito
องคต
*****
ตอบ: 478


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 13:50



(พาออกนอกถนนไปแล้ว ไม่ทราบว่าพากลับเข้ามาในถนนเดิมได้ใหมเนี่ย  ยิงฟันยิ้ม)
น่าสนใจครับ แยกเป็นกระทู้ใหม่เลยมั้ยครับ อาจารย์ตั้ง อาจารย์เทาชมพู
ผมจองที่นั่งก่อนเลย
บันทึกการเข้า
pratab
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 14:03

ในขณะที่อเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก   สังคมคนอเมริกันก็เกลื่อนไปด้วย hate crime  จน FBI จำแนกอาชญากรรมประเภทนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน ว่า ..........


...........
ส่วน Southern Poverty Law Center ได้จัดอันดับของเหยื่อ hate crime ในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายที่ถูกเกลียดชังอันดับแรกคือพวกรักร่วมเพศ  ต่อมาคือคนอเมริกันเชื้อสายยิว   คนผิวสี  คนมุสลิม คนเชื้อสายอเมริกากลาง เช่นพวกเมกซิกัน  แล้วรั้งท้ายคือคนผิวขาว

    อยากทราบว่าทำไมคนชาติต่างๆหลายชาติ ถึงเกลียดหรือไม่ชอบคนยิว ผมไม่เคยติดต่อคบหากับยิวจึงไม่เข้าใจ ขอความกรุณาท่านใดพอเข้าใจเรื่องนี้โปรดให้ความรู้ด้วยครับ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 18:39

(พาออกนอกถนนไปแล้ว ไม่ทราบว่าพากลับเข้ามาในถนนเดิมได้ใหมเนี่ย  ยิงฟันยิ้ม)
น่าสนใจครับ แยกเป็นกระทู้ใหม่เลยมั้ยครับ อาจารย์ตั้ง อาจารย์เทาชมพู
ผมจองที่นั่งก่อนเลย

แฮ่ะๆ ผมคงจะมีแต่ส่วนที่เป็นน้ำมากกว่าส่วนที่เป็นเนื้อ มีเนื้อของเรื่องไม่มากพอที่จะเล่าความได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว  ต้องขอยกให้ อ.เทาชมพู พิจารณา ครับ  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 19:19

มาโหวตยกมือว่าอยากฟังคุณตั้งเล่าถึงประสบการณ์เพื่อนผิวสีที่คุณเคยพบค่ะ    ขอเชิญไปตั้งกระทู้ใหม่เลยค่ะ
จะตั้งชื่อว่าอะไรก็แล้วแต่คุณตั้งจะเห็นสมควรค่ะ

คำว่า "คนผิวสี" อาจหมายถึงคนผิวดำในอเมริกา   หรือหมายถึงคนเชื้อชาติต่างๆที่ไม่ใช่ฝรั่งผิวขาวก็ได้   เมื่อก่อนนี้เราเรียกแบ่งแยกไปตามสีผิวเลย  เช่น ผิวดำ  ผิวเหลือง ผิวแดง(อินเดียนแดง)  แต่ปัจจุบัน เมื่อมีรณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิว   คำที่ใช้น่าจะเรียกรวมกันว่า "ผิวสี" 
ดิฉันมีประสบการณ์คนผิวสี ที่เป็นเชื้อสาย African-american น้อยมาก   สมัยที่ไปเรียน  รัฐโคโลราโดเกือบไม่มีคนเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันเลย   พวกเขามักอยู่กันมากในรัฐทางใต้ อย่างหลุยเซียนา จอร์เจีย  พวกนี้   โคโลราโดเป็นรัฐเกิดขึ้นทีหลังเมื่อคนอเมริกันมุ่งหน้าไปพิชิตตะวันตกกัน   
ในเมืองที่เรียนอยู่  ถ้ามีคนเชื้อสาย AA  ก็คือนักศึกษามาเรียนในมหาวิทยาลัย   ไม่มีมาตั้งถิ่นฐาน  แต่มีคนผิวสีอีกประเภทคือพวกเมกซิกัน   เพราะทางใต้ติดกันรัฐนิวเมกซิโก   พวกนี้อพยพมาตังถิ่นฐานในเมกซิโกแล้วกระจายขึ้นมาถึงโคโลราโด   มารับจ้างทำงานในฟาร์ม แล้วก็เลยให้กำเนิดลูกหลานกลายเป็นคนอเมริกันไป
ตอนกลับไปเยี่ยมถิ่นเดิม ติดต่อกัน 10 ปีเพราะลูกไปเรียนในเมืองเดียวกับที่พ่อแม่เคยเรียน   ก็พบคนเชื้อสายเมกซิกันเต็มเมืองไปหมดแล้ว     
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 19:23

ในขณะที่อเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก   สังคมคนอเมริกันก็เกลื่อนไปด้วย hate crime  จน FBI จำแนกอาชญากรรมประเภทนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน ว่า ..........
...........
ส่วน Southern Poverty Law Center ได้จัดอันดับของเหยื่อ hate crime ในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายที่ถูกเกลียดชังอันดับแรกคือพวกรักร่วมเพศ  ต่อมาคือคนอเมริกันเชื้อสายยิว   คนผิวสี  คนมุสลิม คนเชื้อสายอเมริกากลาง เช่นพวกเมกซิกัน  แล้วรั้งท้ายคือคนผิวขาว

    อยากทราบว่าทำไมคนชาติต่างๆหลายชาติ ถึงเกลียดหรือไม่ชอบคนยิว ผมไม่เคยติดต่อคบหากับยิวจึงไม่เข้าใจ ขอความกรุณาท่านใดพอเข้าใจเรื่องนี้โปรดให้ความรู้ด้วยครับ

จากประสพการณ์ที่ได้มีโอกาสสัมผัสโดยตรงในกิจกรรมส่วนตัวและในวาระงานในระดับต่างๆเท่าที่พอจะมีของผม  คำตอบสั้นๆที่ดูจะเหมาะสมมากที่สุดสำหรับคำถามที่ว่ามานั้นอยู่ในคำว่า attitude ที่ฝังอยู่ในจิตสำนึกว่า ในเรื่องใดๆก็ตามจะต้องได้รับผลที่ค่อนไปทางด้าน gain และ superiority  ซึ่งทั้งหลายเหล่านั้นก็เพื่อความคงอยู่อย่างคงกะพัน (endurance) ของ clan  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 19:37

    อยากทราบว่าทำไมคนชาติต่างๆหลายชาติ ถึงเกลียดหรือไม่ชอบคนยิว ผมไม่เคยติดต่อคบหากับยิวจึงไม่เข้าใจ ขอความกรุณาท่านใดพอเข้าใจเรื่องนี้โปรดให้ความรู้ด้วยครับ

  ขออธิบายคร่าวๆก็แล้วกันนะคะ   ถ้าพูดละเอียดอาจจะกลายเป็นตำราเล่มเบ้อเริ่มเลยก็ได้

   ยิวเป็นที่เกลียดชังของคนหลายชาติ โดยเฉพาะฝรั่ง   มีสาเหตุหลายประการ
   ๑   มาจากความเชื่อทางศาสนา     คริสตศาสนิกชนเชื่อว่า กษัตริย์ยิวตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นปรปักษ์ตัวร้ายของพระเยซูคริสต์  คือ Herod ที่สั่งฆ่าทารกทุกคนในช่วงที่พระเยซูประสูติ  เพื่อไม่ให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำ  อีกคนคือ  Pontius Pilate ที่ร่วมมือกับพวกโรมันสั่งประหารพระเยซู
   ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันต่อมาว่า ยิวคือกลุ่มคนที่ถูกสาป  ไม่มีดินแดนของตัวเอง ต้องกระจายไปอยู่ตามประเทศต่างๆในยุโรป
   ๒  ยิวเป็นชาติที่มีหัวทางธุรกิจการเงินอย่างสูง     ไปอยู่ในประเทศไหนก็รวยที่นั่น เพราะแหลมคมในการค้าขายยากจะหาใครเทียบ     รวยจนกลายเป็นเจ้าหนี้ของเจ้าของถิ่น   เมื่อเป็นเจ้าหนี้ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ลูกหนี้จะไม่ชอบใจ  
   การที่ยิวคุมเศรษฐกิจของเยอรมนีอยู่หมัด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ฮิตเลอร์ไม่พอใจ จนเป็นที่มาของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ๋ถึง ๖ ล้านคน
   ๓  จนทุกวันนี้ ยิวก็ยังคุมเศรษฐกิจในโลกตะวันตกอยู่   แต่เป็นอย่างเงียบๆไม่กระโตกกระตาก  มีอำนาจเงินมากพอจะบันดาลทิศทางการเมืองในหลายประเทศได้  
   อาจจะมีเหตุผลอื่นๆด้วย   แต่ขอบอกย่อๆแค่นี้ค่ะ   ใครอยากเสริมก็เชิญนะคะ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 04 เม.ย. 21, 19:42

ขออภัย อ.เทาชมพู ครับ  ยิงฟันยิ้ม

ได้นำกลับเข้าสู่เรื่องราวของกระทู้นี้แล้วด้วยคำศัพท์ 2-3 คำที่ได้กล่าวถึงที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของคำว่า Hate crime / Hate speech  
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.08 วินาที กับ 20 คำสั่ง