เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 27
  พิมพ์  
อ่าน: 34019 เรืองเล่าคนเก่าแก่
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 26 มี.ค. 21, 09:26

ขอบพระคุณครับ

ปลาเสือพ่นน้ำ ผมเคยพบตัวจริงของเขาแค่ครั้งเดียว มีชาวบ้านจับได้ แม่ผมซึ่งเป็นครูของคนที่จับได้เลยขอซื้อต่อ เอามาใส่อ่างน่ำใหญ่ที่บ้านไว้ให้ลูกดู นั่นเป็นเรื่องตั้งแต่ผมยังอายุ 10 กว่าปี หลังๆมานี้ ไม่เคยเห็นปลานี้ในธรรมชาติอีกเลยครับ

ส่วนเรื่อง "ลูกเอ็งกระมัง" นี้ แม้จะต่างไปหน่อย แต่ก็แสดงว่า มีเค้า อยู่ครับ   
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 26 มี.ค. 21, 11:51

ถัดจาก ฆะมัง เมืองพิจิตร ลงไปทางใต้ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร มีตำบลชื่อเดียวกันคือ ฆะมัง เมืองนครสวรรค์ เป็นที่เกิดนิยายรักระหว่างพี่ก้านกับน้องเพียงเพ็ญ ประทับอยู่ในความทรงจำของแฟนานุแฟนละครเรื่อง กรงกรรม อยู่มิรู้คลาย ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 27 มี.ค. 21, 10:19

ตอนเด็กๆเคยได้ยินว่า ปลาช่อนที่แก่มากๆจะกลายเป็นงูเห่า  (หรืองูเห่าแก่มากๆกลายเป็นปลาช่อน?) ความเชื่อนี้ปรากฏอยู่ในโคลงโลกนิติบทหนึ่งว่า
ช้างสาร หกศอกไซร้               เสียงา
งูเห่า    กลายเป็นปลา            อย่าต้อง
ข้าเก่า  เกิดแต่ตา                 ตนปู่ ก็ดี
เมียรัก  อยู่ร่วมห้อง              อย่าไว้วางใจ

จริงๆแล้ว   คนโบราณน่าจะเห็นปลาช่อนงูเห่าหรือปลาช่อนดอกจันทร์  ที่หัวคล้ายกับงูเห่า จนสร้างตำนานว่ามันมาจากงู
ไม่เคยเห็นปลาชนิดนี้ค่ะ    ไม่ทราบว่ากินได้หรือเปล่า   


บันทึกการเข้า
ภศุสรร
อสุรผัด
*
ตอบ: 0


ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 27 มี.ค. 21, 12:23

ขื้นชื่อว่าปลาช่อนก็นะจะกินได้อยู่กระหมังครับท่านอาจารย์เทาชมพู ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 28 มี.ค. 21, 08:20

ขออนุญาตเสริมเรื่องปลาช่อนงูเห่าเล็กน้อย

จาก กระทู้สัตว์ประหลาด ๓

ตอนเด็กๆเคยได้ยินว่า ปลาช่อนที่แก่มากๆจะกลายเป็นงูเห่า  (หรืองูเห่าแก่มากๆกลายเป็นปลาช่อน?) ...จริงๆแล้ว   คนโบราณน่าจะเห็นปลาช่อนงูเห่าหรือปลาช่อนดอกจันทร์  ที่หัวคล้ายกับงูเห่า จนสร้างตำนานว่ามันมาจากงู

ชื่อปลาช่อนงูเห่ามาจากลักษณะหัวและลำตัว และนิสัยที่ดุร้ายพุ่งฉกได้เหมือนงู สังเกตที่โคนหางยังมีลายกลมเหมือนที่หัวของงูเห่าที่เรียกว่า "ดอกจัน"



ปลาช่อนงูเห่าจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ ปลาช่อนดอกจัน มีอยู่ ๒ พันธุ์ คือ Channa aurolineatus เป็นปลาพื้นเมืองของไทย โตเต็มที่ยาวประมาณ ๙๐ เซนติเมตร (บน) และ  Channa marulius เป็นปลาพี้นเมืองของอินเดีย โตเต็มที่ที่เคยพบยาว ๑๘๓ เซนติเมตร (ล่าง)



ไม่เคยเห็นปลาชนิดนี้ค่ะ    ไม่ทราบว่ากินได้หรือเปล่า

ปลาช่อนงูเห่าเป็นปลาหายาก หากพบที่ไหนก็คงเอาต้มยำรับประทานได้เหมือนปลาช่อนทั่วไป  การนำปลาชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ส่วนมากเน้นในเรื่องเป็นปลาสวยงาม  และใช้สำหรับกีฬาตกปลา  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 28 มี.ค. 21, 10:53

ขอบคุณค่ะ

ความเชื่อเก่าแก่ของคนโบราณอีกเรื่องหนึ่ง คือเชื่อว่าความฝันเป็นลางบอกเหตุได้    มีทั้งเหตุดีและเหตุร้าย
ในขุนช้างขุนแผน   เมื่อแม่ของขุนแผน แม่ของขุนช้าง แม่ของนางวันทอง ตั้งครรภ์   ก็เกิดฝันด้วยกันทั้งสามคน ที่เป็นลางบอกล่วงหน้าว่าจะได้ลูก

นางทองประศรีฝันว่าได้แหวนเพชรของพระอินทร์
...นิมิตฝันว่าท้าวสหัสนัยน์       ถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่เหาะดั้นมา
ครั้นถึงจึงยื่นแหวนนั้นให้      นางรับแหวนไว้ด้วยหรรษา
แสงเพชรส่องวาบปลาบเข้าตา   ตื่นผวาคว้าทั่วปลุกผัวพลัน"
ขุนไกรก็ทำนายว่า
ฝันว่าได้ธำมรงค์วงวิเศษ             ของโกสีย์ตรีเนตรอันเฉิดฉาย
เพชรรัตน์อร่ามงามเพริศพราย       บรรยายว่าเป็นสิ่งมิ่งมงคล
จะมีครรภ์ลูกนั้นจะเป็นชาย           ดังทหารนารายณ์มาปฏิสนธิ
กล้าหาญการณรงค์คงทน            ฤทธิรณปราบทั่วทั้งแดนไตร”
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 28 มี.ค. 21, 11:01

ส่วนนางศรีประจัน แม่ของนางวันทอง  ก็ฝันว่าได้แหวนเช่นกัน

" ท่านขาคืนนี้ข้าเจ้าฝัน               ว่าพระวิษณุกรรมนายช่างใหญ่
ถือแหวนประดับงามจับใจ             เอามาส่งให้ไว้กับเรา"

พันศรโยธาสามีนางก็ทำนายว่า
"จึงทำนายฝันไปมิได้ช้า                 ว่าเจ้าฝันนั้นหนาจะมีครรภ์
ได้แหวนประดับลูกจะเป็นหญิง         รูปร่างงามจริงตละแกล้งสรร
ด้วยเป็นแหวนของพระวิศนุกรรม์       จะเป็นช่างใครนั้นไม่ทันเลย"

บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 29 มี.ค. 21, 10:19

อ้างถึง
ถัดจาก ฆะมัง เมืองพิจิตร ลงไปทางใต้ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร มีตำบลชื่อเดียวกันคือ ฆะมัง เมืองนครสวรรค์
ขอบพระคุณครับ ฆะมัง ที่นครสวรรค์ น่าจะ อ.ชุมแสงกระมังครับ ผมเคยแต่นั่งรถผ่านครับ แต่ไม่เคยไปครับ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 29 มี.ค. 21, 12:17

ผู้ใหญ่เมื่อ 100 กว่าปีก่อน เชื่อว่าฝันที่เป็นลางบอกว่าเจอเนื้อคู่ คือฝันถึงงู

ในหนังสือประวัติเจ้าคุณพระประยูรวงศ์  พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ   เล่าไว้ตอนหนึ่งว่า

"  ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นไปประทับอยู่วังหน้า ดำรัสสั่งให้ละครวังหลวงขึ้นไปเล่นให้พวกชาววังหน้าดู (ฉันสันนิษฐานว่า เห็นจะเป็นเมื่อเดือน ๕ ปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๑๐) เวลานั้นท่าน(หมายถึงเจ้าคุณพระประยูรวงศ์) ออกไปอยู่บ้าน พระองค์ใหญ่โสม(หมายถึง  พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนศิริเชฐ พระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูหัว) มีรับสั่งให้คนไปรับท่านเข้ามาดูละคร

วันนั้นเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทอดพระเนตรเห็นท่านเมื่อถือหีบหมากเสวยตามพระองค์ใหญ่โสมไปวังหน้า    เวลาดูละครตัวท่านนั่งอยู่ใกล้ๆกับคนบอกบทตรงหน้าพลับพลา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ประทับอยู่บนพลับพลาเห็นมักทอดพระเนตรมาทางตัวท่านบ่อยๆ แต่ท่านก็ไม่รู้ว่าทรงมุ่งหมายที่ตรงตัวท่าน
ดูละครแล้วก็กลับออกไปบ้านในเย็นวันนั้น    แต่ประหลาดอยู่ที่ในค่ำวันนั้นจะเป็นด้วยบุรพนิมิตสังหรณ์หรืออย่างไรไม่ทราบ พอนอนหลับก็ฝันไปว่า มีงูตัวหนึ่งโตใหญ่  หัวเหมือนพระยานาคที่เขาเขียนไว้ ตัวมีเกล็ดสีเหลืองทั้งตัวตรงเข้ามาคาบที่กลางตัวท่าน   แล้วเลื้อยพาไปทิ้งไว้ตรงหน้าเรือนเก่าที่ท่านเคยอยู่   ความฝันนั้นยังจำได้มั่นคง แต่เวลานั้นตัวท่านยังไม่รู้เรื่องบุรพนิมิตที่เขาถือกัน 
พอเช้าขึ้นไปที่บ้านคุณเล็กพี่สาว ซึ่งแต่งงานใหม่ ไปเล่าความฝันให้พวกผู้ใหญ่ฟังตามซื่อ ด้วยเห็นว่าแปลกประหลาดไม่เคยฝันเช่นนั้นมาแต่ก่อน    พวกผู้ใหญ่ที่ได้ฟังเขาแลดูกันแล้วหัวเราะขึ้นฮาใหญ่ ท่านก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาเห็นขันอย่างไรจึงหัวเราะฮากันเช่นนั้น"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 29 มี.ค. 21, 12:22

แต่ในขุนช้างขุนแผน    เมื่อหญิงสาวจะได้คู่  ไม่มีตรงไหนบอกว่าฝันเห็นงู   แต่กลายเป็นฝันเห็นดอกบัว
ตอนที่นางพิมจะได้คู่  ก็ฝันว่า

ครานั้นนางพิมนิ่มสนิท            เกิดนิมิตประจักษ์ใจเมื่อใกล้สว่าง
ว่าว่ายข้ามน้ำไปได้กลางทาง     กับพี่นางสายทองคะนองใจ
ถึงฝั่งหยั่งตื้นพอยืนตรง             สายทองส่งบัวทองประคองให้
หอมห่อผ้าห่มชมชื่นใจ              แล้วกลับข้ามน้ำได้ดังจินดา
สิ้นฝั่งเท่านั้นก็ตื่นตัว                 ไม่เห็นดอกบัวก็คว้าหา
เสียดายดวงโกสุมปทุมา            อนิจจาอกโอ้มาหายไป...

นางสายทองทำนายฝันว่า
ซึ่งฝันว่าได้ดอกบัวชม               จะได้คู่สู่สมพิสมัย
ชายนี้เห็นทีไม่ใกล้ไกล               คงจะได้โดยพลันมิทันช้า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 30 มี.ค. 21, 19:05

ทีนี้มาถึงเรื่องฝันร้ายบ้าง   คนโบราณเชื่อว่าฝันว่าถูกฆ่า   หรือฟันหัก  เป็นฝันร้ายมาก    จะต้องสูญเสียคนในครอบครัว
ขุนช้างขุนแผน ก็สะท้อนความเชื่อนี้ไว้

๏ ฝ่ายเมียขุนเพชรอินทราฝัน   ว่าถูกฟันตัวขาดเป็นสองท่อน
ผ่าอกขว้างหัวใจไปดงดอน           ตื่นนอนตัวสั่นประหวั่นใจ

ฝ่ายว่าเมียขุนรามอินทรา           ฝันว่าฟันหักเป็นสามซี่
ตกใจผวาคว้าสามี                   พ่อเอ๋ยเมียนี้ช่างฝันร้าย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 01 เม.ย. 21, 12:03

ความเชื่อเก่าแก่อีกอย่างที่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อแล้ว   คือเวลาไม่สบาย ต้องถูกจำกัดให้กินอาหารบางอย่างเท่านั้น
เช่นข้าวจานน้ำ  คือข้าวสวย เทน้ำใส่ ออกมาคล้ายๆข้าวต้ม    อาหารก็ห้ามของสดคาว   กินได้แต่ของแห้งๆอย่างปลาแห้ง   
กล้วยหักมุกเผาเป็นของที่ต้องกินเวลาป่วย    เวลาแข็งแรงดีไม่เคยต้องกินเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 01 เม.ย. 21, 12:05

ย้อนไปเรื่องฝันอีกหน่อย     เมื่อเกิดฝันแปลกๆขึ้นมา จะดีหรือร้ายก็ตาม   คนฝันก็จะไปเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง ไม่เก็บเอาไว้คนเดียว
จากนั้น ผู้ใหญ่จะ "แก้ฝัน" ให้    คำนี้หมายถึงอธิบายความหมายของฝัน  ถ้าเป็นฝันร้ายก็มีคำปลอบใจแถมท้ายคำอธิบาย    เพื่อให้ฝันร้ายกลายเป็นดี
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 01 เม.ย. 21, 18:54

ความเชื่อเก่าแก่อีกอย่างที่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อแล้ว   คือเวลาไม่สบาย ต้องถูกจำกัดให้กินอาหารบางอย่างเท่านั้น

เป็นความเชื่อเรื่อง "ของแสลง" คุณทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ใน หนังสือ เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก ดังนี้

เมื่อสมัยคุณตาคุณยายยังเป็นเด็ก ๆ อยู่  ถ้าเกิดเจ็บป่วยเป็นอะไรไปนิดหน่อยก็ตาม คนนั้นจะต้องถูกจำกัดอาหาร  ให้กินแต่อาหารอ่อน ๆ ที่ย่อยง่าย  ห้ามกินอาหารที่คิดว่าแสลงต่าง ๆ  จนกว่าจะหายเป็นปกติ

ถ้าใครท้องเสีย หรือเป็นบิด  จะต้องกินข้าวต้มเปื่อย ๆ หรือข้าวเปียก กับปลาแห้งป่น  หมูหยอง  กุ้งแห้งป่น  หรือปลาดุกย่างจิ้มน้ำปลา  จะไปวิ่งเล่นหรือกระโดดโลดเต้นไม่ได้  เดี๋ยวจะหายยาก  ถ้าเป็นไข้หวัด แล้วมีอาการไอก็จะห้ามอาหารทอดทุกชนิด  ไข่เจียว ไข่ดาวก็ไม่ได้  ต้องเปลี่ยนเป็นไข่ต้ม  ไข่ตุ๋นหรือไข่เค็ม  อาหารทุกอย่างต้องปิ้งและต้มห้ามทอดเป็นอันขาด  เพราะจะทำให้ไอมากขึ้น  เมื่อไข้สร่างก็จะห้ามกินแตงโม  แตงไทยหรือผลไม้ที่เย็น

ผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือไอ  จะดื่มน้ำแข็งไม่ได้  เพราะจะทำให้เป็นมากขึ้น ต้องดื่มแต่น้ำร้อน ๆ  ชาร้อน  น้ำข้าวร้อน ๆ หรือบางทีก็น้ำมะตูมร้อน ๆ  ที่เรียกว่า"น้ำชูบาน"  ทำด้วยมะตูมสุก ๆ ต้มใส่น้ำตาลนิดหน่อย  บางครั้งก็เอาเนื้อมะตูมไปราดน้ำผึ้งให้กินเป็นของหวาน  แล้วเอาที่เหลือคือเปลือกและเม็ดและเนื้อที่ติดมาต้มทำน้ำชูบาน  อีกอย่างหนึ่งก็คือนำมะตูมอ่อนที่หั่นเป็นแว่น ๆ ย่างไฟจนหอมแล้วชงน้ำร้อนให้ดื่ม  หอม ๆ ดี  แต่สู้น้ำชูบานไม่ได้

ถ้าใครเป็นแผลพุพอง  แผลหกล้มถลอก  หรืออุบัติเหตุอะไรก็ตาม  จะถูกห้ามไม่ให้กินข้าวโพดข้าวเหนียว  ขนมทุกชนิดที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว  กินได้แต่แป้งข้าวเจ้าและข้าวสาลีเท่านั้น  เพราะจะทำให้แผลกลัดหนอง  หายยาก  แผลที่จวนหายแล้วกลับกลัดหนองขึ้นมาอีก  แผลเล็กกลายเป็นแผลใหญ่ขึ้นมา  คุณยายรู้สึกว่า  ที่ผู้ใหญ่ห้ามนี้เป็นเรื่องจริง ๆ เพราะเคยพิสูจน์มาหลายครั้งแล้ว  ครั้งหนึ่งคุณยายหกล้มหัวเข่าแตกเป็นแผลแห้งจวนจะหายดีแล้ว  แต่ยังไม่หายสนิท  คุณแม่ทำข้าวเหนียวมะม่วง  อยากจะกินเหลือเกิน  ก็บอกว่าแผลหายดีแล้ว  จึงกินข้าวเหนียวมะม่วงมากไป  พอรุ่งขึ้นเช้าก็ปวดและกลัดหนองขึ้นมาอีก  ต้องกลับไปเดินขาเขยกอีก

อาหารอร่อย ๆ ดี ๆ ที่ชอบต้องอดไปเพราะเจ็บป่วยมีบ่อย ๆ กำลังเป็นแผลพุพอง  ต้องอดข้าวต้มกุ้ง  กุ้งทอดที่มีมันสีแดงเยิ้มคลุกข้าวอร่อย  แม้แต่กุ้งเผาจิ้มน้ำปลาก็ไม่ได้  อาหารทะเล  หอยนางรม  ปลาทอดอร่อย ๆจิ้มน้ำปลามะนาวต้องอดหมด  ต้องภาวนาขอให้หายเร็ว ๆ จะได้กินอาหารอร่อย ๆ  อาหารพวกนี้ถูกหาว่าคาวจัด  กินแล้วทำให้คันแล้วก็เป็นจริง ๆ ด้วย

หน้าลำไย  ลิ้นจี่  หรือขนุน  ก็ต้องจำกัดให้กิน  เด็ก ๆ กินอะไรไม่รู้จักประมาณ กินจนไม่สบาย  ลำไยกินมากไปก็ตาแฉะ  เพราะร้อนเกินไป  เด็ก ๆ ที่เป็นแผลพุพอง แผลจะเยิ้มมาก  ลิ้นจี่ก็ย่อยยากถ้าธาตุไม่แข็งพอ  เพราะมักทำให้ปวดท้อง ขนุนก็เหมือนกันย่อยยาก  ทุเรียนนั้นร้อนมากห้ามกินตอนกลางคืน  เพราะจะทำให้ร้อนจนนอนไม่หลับ

คุณตาเคยไม่เชื่อฟัง  แอบกินขนุนเสียมากมาย  ทั้งที่ท้องไม่ดีกินยาจวนจะหายอยู่แล้ว กลับเป็นมากขึ้นอีก  เลยจับได้ว่าแอบไปกินขนุนมา  จึงต้องกินยาอีกมากมายกว่าจะหายดี อาหารต่าง ๆ เหล่านี้แสลงจริง ๆ  คุณตาและคุณยายลองมาแล้วแทบทั้งนั้น  แต่แรกก็คิดว่าผู้ใหญ่นี้ใจร้ายใจดำ  หวงไม่ให้กินอาหารอร่อย ๆ  เมื่อเห็นฤทธิ์แล้วจึงรู้ว่าผู้ใหญ่นี้คิดถูก

หมอบอกว่า  ถ้าไม่สบายให้กินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย ๆ ไว้เป็นดีที่สุด  จะรักษาโรคให้หายได้เร็วกว่าให้กินอาหารได้ตามใจเด็ก ๆ  แต่อันที่จริงคุณยายนั้นชอบข้าวเปียกกับปลาดุกย่าง   บางครั้งถึงกับภาวนาไม่อยากให้หาย  เพราะจะอดกินข้าวเปียกกับปลาดุกย่างจิ้มน้ำปลาอร่อย ๆ  ต่อไป  ต้องมากินข้าวสวย  เด็ก ๆ และคนแก่ที่ฟันไม่ดีกินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย ๆ ดีเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 02 เม.ย. 21, 09:09

ความเชื่อเรื่องสัตว์เข้าบ้าน
- ผึ้ง   ถ้าผึ้งมาทำรังทางทิศตะวันตกของบ้าน  จะมีเงินทองโชคดี    แต่ถ้าทำรังทางทิศตะวันออก จะมีคนตาย
- ถ้าเต่าคลานเข้ามาในบ้าน ไม่ดี 
- ตุ๊กแกร้อง ให้นับครั้งดู   ถ้าร้องต่ำกว่า 5 ครั้ง จะเป็นเรื่องไม่ดี  คนอยู่ในบ้านจะพากันเดือดร้อน   ถ้าร้องจำนวนครั้งมากเท่าใดยิ่งดีเท่านั้น
- ถ้าจิ้งจกร้องขึ้นมาตอนกำลังจะออกจากบ้าน  ถือว่าจิ้งจกทัก เป็นลางไม่ดี  ไม่ควรออกจากบ้าน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 27
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 20 คำสั่ง