เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27
  พิมพ์  
อ่าน: 38952 โควิด-๑๙ มหันตภัยโลก (ภาคต่อ 'โคโรนาไวรัสอู่ฮั่น')
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 375  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:41

    ความเชื่อมโยงเหล่านี้ ยังเกี่ยวพันกับทุนที่ให้กับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น ย้อนหลังไปถึง 10 ปีก่อนหน้าการเกิดโควิด จากการเปิดเผยในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 ห้องชีวนิรภัยระดับสี่ของอู่ฮั่นนั้น ตั้งขึ้นได้จากฝรั่งเศสออกแบบ แคนาดาส่งตัวอย่างไปไวรัสร้ายแรง และได้ทุนจาก NIAID สหรัฐฯ โดยมีการวิจัยสร้างไวรัสร้ายแรงต่างๆ รวมทั้ง ไวรัสกลุ่มโคโรนา (ซึ่งโควิด อยู่ในกลุ่มนี้)
     โดยมีรายงานความบกพร่องในระบบความปลอดภัยมาตลอด
     ปี 2016 กระทรวงพลังงานสหรัฐ ได้เตือน NIH ถึงการปฏิบัติการ ปรับแต่งไวรัส แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
     เดือนตุลาคม 2017 เจ้าหน้าที่จาก NIAID ได้มาที่สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น และได้รับรู้ถึงกระบวนการปรับแต่งไวรัส Ebola และ ความไม่พร้อมของห้องชีวะนิรภัยระดับสี่    โดยได้แจ้ง F Gray Hadley NIAID รวมทั้งสถานทูตสหรัฐฯ กรุงปักกิ่งในวันที่ 19 มกราคม 2018 แต่การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการปรับแต่งไวรัสนั้นไม่ถูกระบุเพราะเกรงว่าความร่วมมือระหว่าง NIH และ อู่ฮั่นจะถูกระงับ
     ในวันที่ 31 มีนาคม 2019 เจ้าหน้าที่จากประเทศแคนาดาจาก Toronto, Pearson, International Airport เที่ยวบิน AC 031 ได้นำตัวอย่างไวรัส Ebola 12 สายพันธุ์เป็นจำนวน 24 หลอดและไวรัสนิป้าห์เป็นจำนวน 6 หลอด ใส่ในภาชนะน้ำแข็งแห้ง 33 ปอนด์โดยส่งมาจากห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับสี่ ที่ Winnipeg
     Dan Brouillette Deputy Secretary กระทรวงพลังงานได้เตือน Fauci ถึงการที่ช่วยสถาบันไวรัสอู่ฮั่น ในการวิจัยไวรัสโคโรนา จะเสี่ยงต่ออันตรายและจะกลายเป็นการคุกคามทางทหาร และไม่ได้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาอย่างเดียวที่สถาบันไวรัสอู่ฮั่น แต่ยังรวมถึงการวิจัยที่หน่วยงานสหรัฐร่วมมือปฏิบัติกับกลุ่มอื่นๆ ในประเทศจีน
    แต่ทั้งนี้ Fauci ได้กล่าวว่าไม่ได้มีความเชื่อมโยงดังกล่าว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 376  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:42

     ทั้งนี้ มีการสัมภาษณ์มากกว่า 60 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมทั้งมีหลักฐานจากกรรมาธิการ ของรัฐสภาสหรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดโควิด โดยได้มีหมายสอบสวน และพบเอกสารทางอีเมลระหว่างเจ้าหน้าที่ ของ NIH และองค์กรต่างๆ
      หลังจากการแพร่ระบาดโควิด ในปี 2019 ในเดือนกรกฎาคม 2023 USAID NIH ได้ยุติ โครงการ 125 ล้านเหรียญ DEEP VZN (discovery and extrapolation of emerging pathogens Viral Zoonoses) ซึ่งรวบรวมไวรัสจากสัตว์ป่าและค้างคาวจากที่ต่างๆ ทั่วโลกและเพื่อคาดคะเนว่าไวรัสตัวไหนจะก่อให้เกิดการระบาดทั่วโลก และยุติการให้ทุนต่อสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นในปัจจุบัน และต่อเนื่องไปถึงอีก 10 ปี
      บันทึกฉบับจริงถึงผู้อำนวยการ สถาบัน วิจัยไวรัสอู่ฮั่น วันที่ 17 กรกฎาคม 2023 ยุติการให้ทุนและต่อเนื่องไปอีก 10 ปี มีการเปิดเผยชัดเจนจากรัฐสภา
       ทั้งนี้ทุนวิจัยดังกล่าวได้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2020 และสาเหตุสำคัญที่ยุติ ก็คือ การกระทำผิดทางวิจัยก่อให้เกิดแล้ว หรือมีความเสี่ยงให้เกิดอันตราย โดยทำให้ไวรัสมีความร้ายแรงมากขึ้นกว่าที่กำหนดในโครงการ
        ทั้งนี้ บันทึกมีสำเนาส่งถึง ด็อกเตอร์ Zhengli Shi ที่ทราบในนาม Bat Lady ด้วย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 377  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:44

     ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2023 มีการเปิดเผยถึงนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันไวรัสอู่ฮั่น ที่น่าจะมีส่วนในการระบาดของโควิด เสียชีวิตโดยตกจากตึกของสถาบัน
     ดร Steven Quay หมอและนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อโดยมีผลงานตีพิมพ์กว่า 360 ชิ้นและคิดค้นยารักษาที่ผ่านการรับรองจาก อย. สหรัฐ 7 รายการ และถือสิทธิบัตร 90 รายการ และเชี่ยวชาญ ด้าน RNA เทคโนโลยี เป็นคนแรกๆ ที่ให้หลักฐานแก่กรรมมาธิการสภาสหรัฐ ในวันที่ 26 มิถุนายน 2021
     หลักฐานที่ให้โดยสังเขปประการที่หนึ่งได้แก่ ไวรัสแรกเริ่มนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในคนที่ตลาดสด แต่เป็นคนที่รับตัวเข้าโรงพยาบาลที่ห่างจากสถาบันไวรัสอู่ฮั่น 3 กิโลเมตรเป็นผู้ชายอายุ 39 ปี และการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิดอีก 3 ล้านตัวอย่าง ไวรัสจากชายคนดังกล่าวถือเป็นไวรัสต้นตอที่สุด   
     ประการที่สองการค้นหาไวรัสโควิดในน้ำและสิ่งแวดล้อมที่ตลาดสดนั้นไม่พบเลย
     ประการที่สามการตรวจหาไวรัสโควิดในสัตว์นานาชนิด 80,000 ตัวอย่าง ไม่พบไวรัสโควิดเช่นเดียวกันและประการที่สี่เลือดในธนาคารเลือด 9,952 ตัวอย่าง ก่อนเดือนธันวาคมปี 2019 ไม่พบหลักฐานของการติดโควิด
 
      โควิดมีลักษณะพิเศษที่สามารถเข้ามนุษย์จากการที่มี furin cleavage site และ dimer code (CGG-CGG dimer) ที่ไวรัสอื่นๆ ในกลุ่ม Sarbeco ไม่มี ได้แก่ SARS-CoV1 Bat-SARS like coronavirus WIV1 bat coronavirus RaTG13 และ bat strains อื่นๆ ที่ไม่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้ มาอย่างน้อย 1,000 ปี
      ลักษณะพิเศษของตำแหน่งนี้ใช้ในการพัฒนาสร้างไวรัสใหม่ gain of function ตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งทั้ง ดร. Shi และ Daszak ก็ยอมรับว่า ไม่มีกระบวนการตามธรรมชาติที่โควิดจะมีตำแหน่ง furin site พิเศษนี้

     คำถามต่อไป เป็นไปได้หรือไม่ ที่ไวรัสโคโรนาจากธรรมชาติ จะผสมรวมกันหรือ recombination ทำให้เกิดโควิด ทั้งนี้ กระบวนการเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นเนื่องจากระหว่างกลุ่มของไวรัสโคโรนา จะมีกลไกที่ต่อต้านการควบรวมหรือการที่มี hot spots ต่างกัน
    โควิดถูกปรับแต่งมาตั้งแต่ต้นเพื่อให้มีความสามารถในการแพร่จากคนสู่คน ทั้งนี้ ส่วนของโควิด ที่เกาะติดและเข้าสู่เซลล์มนุษย์ได้นั้นมีความพร้อมสมบูรณ์อยู่แล้วถึง 99.5%
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 378  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:46

    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย (ตอนที่ 2)
      สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น เคยได้ประกาศว่า ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างไวรัสโคโรนาใหม่ ด้วยวิธีการต่างๆ จาก Ralph Baric ที่ North Carolina มานานแล้ว
      การสอบสวนของรัฐสภาสหรัฐในเรื่องการสร้างไวรัสใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2022 ซึ่งสามารถดูได้จาก YouTube เนื่องจากมีความยาวมากจึงได้มีการจัดแบ่งเป็น ตอนที่หนึ่งและสอง
First senate hearing on gain of function research since start of pandemic - part 1 and 2 (2022)
https://www.youtube.com/live/koUvMznvsqs?si=Mm9gTDRQuty3m1RJ

https://www.youtube.com/live/rinfVVWwwyY?si=2nC9glZUP0VLoCW9

และต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบัน จนมีความสำเร็จในการแปรญัตติที่จะระงับทุนของ NIH และหาตัวคนที่รับผิดชอบการเสียชีวิตของมนุษย์หลายล้านคน

     การสอบสวนของวุฒิสภาความมั่นคงของมาตุภูมิ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2022 (ตอนที่สองใน YouTube) พบว่าการทดลองสร้างไวรัสใหม่ให้รุนแรงกว่าเดิมนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2002 ถึง 2003 และจนกระทั่งในปี 2011 มีรูปแบบการสร้างไวรัสที่เป็นมาตรฐาน
     นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นพยานและให้หลักฐาน ได้แก่ Richard H Ebright จากสถาบัน Waksman มหาวิทยาลัย Rutgers Steven Quay จาก Atossa Therapeutics และ Kevin M Esvelt จาก MIT
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 379  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:48

      Steven Quay เป็นพยานให้การ และให้หลักฐานของการที่โควิดเกิดจากการปรับแต่งให้เกิดโรคในคน และไม่ได้มาจากธรรมชาติ Steven ให้การ ต่อรัฐสภาตั้งแต่มิถุนายน 2021 และ 3 สิงหาคม 2022 (YouTube ตอนที่หนึ่ง)
       รัฐสภา ได้ลำดับเหตุการณ์การศึกษา สร้างไวรัสใหม่ ที่มีการยุติ ในปลายสมัยโอบามา และ NIH ได้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่โดยให้ทุนแก่ North Carolina และ ดร Shi ซึ่งต่อมาได้ถูกให้ยุติแต่กระนั้น มีการให้ทุนใหม่โดย NIH โดยไม่มีการให้ตรวจสอบจากกรรมการภายนอก จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิด
      Richard H Ebright ยืนยันว่ามีการยุติการให้ทุนของ NIH จริง แต่ NIH ยังทำต่อ คำอธิบายว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ยังคงทำการวิจัยที่อันตรายเหล่านี้คำตอบก็คือมีผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุนวิจัยหรือชื่อเสียงที่ได้จากการตีพิมพ์
      Kevin ได้สนับสนุนในการให้ยุติกระบวนการศึกษา สร้างไวรัสใหม่ ทั้งนี้ ด้วยหลักฐานที่เชื่อมโยงการเกิดโควิดและการให้ทุนกับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นทั้งนี้สามารถที่จะกลายเป็นอาวุธทำลายร้ายแรง หรือ weapon of mass destruction
      ดร Robert Redfield ผู้อำนวยการ CDC ในช่วง 2018 ถึง 2021 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้น ในฐานะที่อยู่ในคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดี เช่นเดียวกับ Fauci ได้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการที่ Fauci ปฏิเสธโควิดจากห้อง lab ทั้งที่มีหลักฐานคัดค้านกับการเกิดตามธรรมชาติ และกล่าวซ้ำในวันที่ 21 มีนาคม 2023
      ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ที่มีชื่อเสียง ได้กล่าวเปิดโปง Daszak ประธานองค์กร EcoHealth alliance มาแล้ว จากการที่ท่านเป็นประธาน Lancet Commission และได้ตั้ง Daszak ในการสืบหาต้นตอของโควิด ปรากฏว่า Daszakโกหกมาตลอด (ใช้คำว่า Lie) นอกจากนั้น ยังเปิดเผยว่า Ian Lipkin จาก Columbia ซึ่งทำหนัง contagion ในปี 2011 และเป็นผู้ที่มาเยี่ยมที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพหลายครั้งระหว่างที่เราได้รับทุน จากสหรัฐฯเป็นอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ EcoHealth alliance และพยายามล้มล้างทฤษฎีการเกิดจากแลป และทำให้เป็นทฤษฎีสมคบคิด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 380  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:49

     ในวันที่ 26 เมษายน 2023 รัฐสภาสอบสวน Samantha Powell ของ USAID การให้ทุนกับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น
     วันที่ 5 มีนาคม 2023 รัฐสภาสหรัฐ สืบสวนกรณีบทความในวารสารเนเจอร์ (Proximal Origin) ที่ตีพิมพ์ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 หลังจากเกิดโควิดได้สองเดือน จากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ และพบว่าFauci มีการร่างบทความ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อ โดยในงานนี้ เป้าหมายคือ การดิสเครดิต “โควิด เกิดจากแล็บ” รวมทั้ง Jeremy Farrah (Oxford Welcome Trust) และปัจจุบัน เป็นChief Scientist ของ WHO ตั้งแต่ 2023 ได้เกี่ยวข้องกับรายงานตีพิมพ์ฉบับนี้แต่ไม่ได้มีชื่ออยู่
     บันทึกจากสภาคองเกรส ในวันที่ 5 มีนาคม 2023 ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 ที่Fauci และ Collins และ อย่างน้อยอีก 11 คนที่ได้มีการประชุมผ่าน conference call และตัว Fauci และ Collins ได้ ถูกเตือนว่า โควิดอาจจะเกิดจากสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นโดยการตั้งใจที่จะสร้างไวรัสใหม่
     สามวันหลังจากนั้น นักวิทยาศาสตร์สี่คนที่ร่วมประชุมได้ร่างบทความ Proximal origin และส่งดราฟท์ให้ Fauci และ Collins เพื่อตรวจทานและแก้ไขก่อนที่จะส่งไปยังวารสารเนเจอร์
     ในวันที่ 16 เมษายน 2020 หลังจากที่ตีพิมพ์ในวารสารแล้ว Collins ได้อีเมล ถึง Fauci แสดงความผิดหวังว่า เนื้อหายังไม่รุนแรงพอที่จะล้มล้างโควิดมาจากแล็บ และ ต้องการให้ NIH กดดันมากขึ้น ดังนั้นในวันต่อมา Fauci ได้สำทับในการให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาวว่า โควิดไม่ได้เกิดจากแล็บ และเป็นทฤษฎีสมคบคิด
     บันทึกของรัฐสภาสหรัฐฯ จากการสอบสวนชัดเจนว่า มีการพยายามล้มล้างและป้ายสี ว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด โดยบทความที่ตีพิมพ์นั้นถือเป็นภารกิจสำคัญและ Kristen Andersen Scripps research ถึงกับเขียนไปหาวารสารเนเจอร์ ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2020 ให้แสดงสิ่งรอบด้าน ที่น่าจะเป็นกำเนิดโควิดที่แท้จริง แต่อย่างไรก็ตามกลับได้พูดในสาธารณะ ว่าโควิดนั้นมาจากตัวนิ่ม หรือลิ่นpangolin และมาจากธรรมชาติแน่


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 381  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:51

     จากการสอบสวนของรัฐสภาฯ พบว่า การกล่าวอ้างโควิดมาจากตัวนิ่มหรือตัวลิ่นนั้น Andersen เองก็ไม่ได้เชื่อหลักฐานจาก pangolin ว่าจะสามารถล้มล้าง การหลุดออกมาจากแล็บได้ และตัว Lipkin เอง ในขณะที่ร่างบทความในเนเจอร์นั้นได้ให้ความเห็นและเหตุผลว่า โควิดนั้นยังสามารถมาจากสถาบันอู่ฮั่นได้ จากการที่สถาบันมี การศึกษาไวรัสโคโรนา จากค้างคาวมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการเกิดในมนุษย์รายแรกทำให้ไม่สามารถตัดการเกิดจากแล็บได้
      ดร Holmes เห็นด้วยกับ Lipkin และ ติดต่อกับ Farrar โดยพูดว่าโควิดแม้จะใกล้เคียงกับซาร์สแต่มีลักษณะแปลกออกไปเหมือนกับมีการปรับแต่งเพื่อให้เข้ามามนุษย์และแพร่กระจายออกไปทั้งนี้ด้วยหลักฐานทางระบาดวิทยาที่น่ากังวล
      Lipkin อีเมล หา Farrah และขอบคุณที่จัดการเรื่องบทความพร้อมกับบอกว่า มีข่าวลือในประเทศจีนเองว่า มีการสร้างโควิดเป็นอาวุธชีวภาพ Farrah ตอบว่าทราบแล้วรวมทั้งมีข่าวในสหรัฐเองด้วย   ดังนั้นต้องรีบปล่อยบทความนี้ไปให้เร็วที่สุดและจะเป็นคนกดดันวารสาร เนเจอร์เอง  รวมทั้งแก้ไขคำพูดในบทความ ให้รุนแรงขึ้นว่า ไม่มีทางที่โควิดจะเกิดขึ้นจากการปรับแต่งทางแล็บ โดยตัวAndersen เอง ได้ตอบว่า “ชัวร์” (sure)
      Kristen Andersen และ Robert Garry จาก รร แพทย์ Tulane ในเวลาต่อมา ถูกหมายเรียกและสาบาน คำให้การต่อ รัฐสภาสหรัฐในเดือนกรกฎาคม 2023 และมีการลำดับไทม์ไลน์ของบทความ Proximal origin รวมทั้งเปิดเผยความเชื่อมโยงของการให้ทุนจากสหรัฐ
      Paul A Gosar กรรมาธิการใน Natural resources และ ในการ กำกับดูแล และหาคนรับผิดชอบ (oversight and accountability) ได้มีบันทึกถึงกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เพนตากอนในวันที่ 4 ธันวาคม 2023 ถึงเรื่องการที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังคงให้ทุนกับ EcoHealth alliance ต่อ และการที่มีความสำเร็จในการแปรญัตติ ที่จะยุติ สอง ทุน ในปีงบประมาณ 2024 ของ NIH ที่ให้ต่อ EHA หรือ EcoHealth alliance ในการหาไวรัสโคโรนาและทำการสร้างไวรัสใหม่
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 382  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:54

    แต่เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังคงให้ทุนองค์กรนี้อย่างต่อเนื่องทั้ง ๆ ที่ หลายกระแส ชี้ไปในทางการเกิดโควิดจากการสร้างไวรัสใหม่ของสถาบันไวรัสอู่ฮั่น และแม้แต่ผู้ตรวจการ ยังได้มีบันทึกแสดงให้เห็นถึง ความประพฤติที่ผิดพลาดขององค์กรนี้ในการใช้ทุนจาก NIH ที่ส่งไป สถาบันไวรัสอู่ฮั่น
     Gosar ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐแจงข้อมูลเกี่ยวกับการให้ทุนต่อ EHA จำนวนเงินทั้งหมดที่ให้โครงการ และที่ยังมีการให้ทุนอย่างต่อเนื่อง การให้ทุนการวิจัยในเรื่องการต่อต้านอาวุธที่มีการทำลายล้างสูง ให้รายงานผู้ที่ทำงานร่วมกับองค์กรนี้โดยให้ชื่อทั้งหมด รายละเอียดของการทำงานไม่ว่าจะเป็นทุนโดยตรงหรือเป็นทุนที่แยกย่อยออกไป ให้รายงานทุนที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐให้ผ่าน EHA ไปยังต่างประเทศ ให้รายงาน ว่ายังมีโครงการใดอีกบ้างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างไวรัสใหม่ที่ยังดำเนินอยู่และกระทรวงกลาโหมสหรัฐยังคงที่จะทำการศึกษาการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงขึ้นอีกหรือไม่
       Gosar นอกจากส่งบันทึกให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐแล้ว ยังส่งให้ NIH สถาบันวิทยาศาสตร์ของสหรัฐและ USAID และกล่าวว่า EHA ไม่สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนใดๆทั้งสิ้น หลังจากเหตุการณ์โควิด ที่เกิดขึ้นที่อู่ฮั่นและคำสัญญาในการรับทุนว่าจะทำการคาดคะเนและป้องกันโรคระบาดแต่อาจจะเป็นคนที่ก่อขึ้นมาเองด้วยซ้ำ

โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย (ตอนที่ 3)

     ในประเทศไทยเองนั้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบไปด้วยประชาชนและแพทย์ ได้ยื่นหนังสือต่อคณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬา และเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้พิจารณาว่า การร่วมมือกับ EHA เป็นสิ่งที่สมควรกระทำหรือไม่และอาจทำให้ตกเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดข้อหาอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
     ทั้งนี้ ยังได้มีบันทึกก่อนหน้า ถึงคณบดี ในวันที่ 17 ตุลาคม 2023 เวลา 13.44 น. เลขรับที่ 14113 / 2566
     และในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 ทางกลุ่มได้แสดงความขอบคุณ นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่แสดงจุดยืนในเรื่องนี้

     สภาคองเกรสสหรัฐ ผ่านการแปรญัตติ พิจารณางดการให้ทุนแก่ NIH ในการสร้างไวรัสใหม่ที่อันตราย รายละเอียดสามารถดูได้จากวิดีโอรายงานเรื่องนี้
       Fauci ได้ถูกหมายที่ต้องให้การต่อคองเกรส สหรัฐ ในวันที่ 7 และ 8 มกราคม 2024 วันละ 7 ชั่วโมงเกี่ยวกับการระบาดโควิด และตามด้วยประชาพิจารณ์ โดยมีข้อสำคัญ เรื่องการวางแผนโกหกปกปิดที่มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 รวมทั้งโดนเปิดโปงความเชื่อมโยงการให้ทุนกับอู่ฮั่น และการถูกห้ามไม่ให้ทำการสร้างไวรัสใหม่แต่ยังคงทำต่อตั้งแต่ 2018 จนถึงปัจจุบัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 383  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 11:55

การประชุมขององค์การอนามัยโลกเจนีวา ที่นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้รับเชิญเข้าประชุมในคณะทำงาน STAG (strategic and technology advisory group) วันที่ 23 ถึง 24 พฤศจิกายน 2023 เรื่อง การวางแผนรับมือโรคอุบัติใหม่ แต่ทั้งนี้ยังรวมถึงกระบวนการเซ็นเซอร์ทั้งโลกทั้งนี้ไม่สามารถให้รายละเอียดได้เนื่องจากสัญญาของการไม่เผยแพร่

ข้อมูลและหลักฐานการเก็บไวรัสใหม่จากค้างคาวและสัตว์ป่า ของศูนย์วิทยาศาสตร์ รวมทั้งการที่ไม่ได้ประโยชน์จากการหาไวรัสใหม่และความเสี่ยงอย่างสูงที่จะมีการติดเชื้อในการปฏิบัติการ ได้มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในวันที่ 10 เมษายน 2023 และแสดงเหตุผลของการยุติความร่วมมือกับสถาบันองค์กร ของสหรัฐ ทั้งหมดและ EHA และหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ใช้เวลา 6 เดือนในการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานก่อนตีพิมพ์

ก่อนหน้าที่จะทำการตีพิมพ์ David Willman นักข่าวที่ได้รับรางวัลพูลิเซอร์ ที่สัมภาษณ์และเก็บข้อมูลจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมทั้งข้อมูลเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบจากคณะบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ แล้ว ได้สอบถามรองคณบดีฝ่ายวิจัยของคณะแพทย์ศาสตร์จุฬา ถึงความเห็นในการสืบเสาะหาไวรัสในค้างคาวโดยที่การศึกษาดังกล่าวถือว่าเป็นการวิจัยที่มีความเสี่ยงสูง

อ่านต่่อได้ที่
https://mgronline.com/qol/detail/9670000005954
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 384  เมื่อ 24 ม.ค. 24, 18:21

   จาก  เฟซบุ๊ก "Yong Poovorawan" หรือ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
   
    การระบาดในไทย ระลอกแรก ในปีพ.ศ 2563 เป็นสายพันธุ์ S ต่อมาระบาดในระลอกที่ 2 ปลายปี 2563 ที่ตลาดกลางกุ้ง สายพันธุ์ระบาดเป็นสายพันธุ์ G (D614G) ในปีต่อมา 2564 การระบาดเกิดขึ้นที่สถานบันเทิงที่ทองหล่อ เป็นสายพันธุ์ alpha  และระลอกที่ 4 กลางปี 2564  เป็นสายพันธุ์ delta ส่วนสายพันธุ์ omicron เริ่มระบาดตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นระยะเวลาค่อนข้างที่จะยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ย่อยโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน (มกราคม 2567)เป็นสายพันธุ์ JN.1

     สายพันธุ์ที่ระบาดและครองพื้นที่ส่วนใหญ่จะเบียดบังและกดสายพันธุ์เดิมให้หายไป เพราะสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายได้เร็วกว่า ติดต่อได้ง่ายกว่าหรือมีลูกหลานได้มากกว่าก็จะเป็นสายพันธุ์เด่น ด้วยกฎเกณฑ์ของวิวัฒนาการ สายพันธุ์ที่เกิดใหม่จะติดต่อง่าย แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิมมาตลอด และจะลดความรุนแรงของโรคลง เพื่อความอยู่รอดตามทฤษฎี ืnatural selection ของ Charles Darwin และโรคโควิด 19 ก็จะอยู่กับเราเป็นโรคประจำฤดูกาลต่อไป โดยการระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้ให้บทเรียนทางวิทยาศาสตร์กับเราเป็นจำนวนมาก
อ่านรายละเอียดได้ที่
https://www.facebook.com/yong.poovorawan


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 385  เมื่อ 05 ก.พ. 24, 10:35

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในประเทศไทย เดือนมกราคม ๒๕๖๗

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้าโรงพยาบาล อยู่ประมาณ ๘๘-๑๐๒ ราย/วัน

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต อยู่ในระดับ ๔-๑๑ ราย/สัปดาห์



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 386  เมื่อ 04 มี.ค. 24, 09:35

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในประเทศไทย เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้าโรงพยาบาล ลดลงทีละน้อยจาก ๗๗ ราย/วัน ในสัปดาห์แรก เป็น ๖๖ ราย/วัน ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต ลดลงทีละน้อยเช่นกันจาก ๕ ราย/สัปดาห์ ในสัปดาห์แรก เป็น ๒ ราย/สัปดาห์ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 387  เมื่อ 04 มี.ค. 24, 10:44

ไปงานเลี้ยงมา  ผู้คนไม่สวมหน้ากากกันเลย
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 388  เมื่อ 01 เม.ย. 24, 10:35

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในประเทศไทย เดือนมีนาคม ๒๕๖๗

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้าโรงพยาบาล ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จาก ๖๖ ราย/วัน ในสัปดาห์แรก เป็น ๑๐๔ ราย/วัน ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นทีละน้อยจาก ๓ ราย/สัปดาห์ ในสัปดาห์แรก เป็น ๕  ราย/สัปดาห์ ในสัปดาห์ที่สามของเดือน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 389  เมื่อ 23 เม.ย. 24, 13:50

‘หมอธีระ’ เผยยอดป่วยโควิด คาดพุ่งวันละเกือบหมื่นแล้ว น่าเป็นห่วงมาก ดับไป 3

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง สถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด19 ระบุว่า

“วิเคราะห์การระบาดของไทย…” สัปดาห์ล่าสุด 14-20 เม.ย.2024 จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,004 ราย เสียชีวิต 3 ราย ปอดอักเสบ 292 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 101 ราย

พบว่าผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งขึ้น 18.26% ขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน จำนวนปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 20.66% และใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้น 17.44% คาดประมาณจำนวนคนติดเชื้อใหม่ต่อวันอย่างน้อย 7,172-9,961 ราย

อย่างไรก็ตาม จำนวนติดเชื้อจริงน่าจะมากกว่านี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปีนี้และปีก่อน จะพบว่าการติดเชื้อ การป่วย ป่วยรุนแรง เพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ baseline ตั้งต้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีแตกต่างกัน โดยจำนวนผู้ป่วยช่วงก่อนสงกรานต์ของปีนี้สูงกว่าปีก่อนหลายเท่า

การระบาดปีก่อน ส่งผลให้ติด ป่วย ตายมากขึ้น ต่อเนื่องไปถึงต้นมิ.ย.ในปีนี้ จึงน่าเป็นห่วงมาก การป้องกันตัวระหว่างใช้ชีวิตประจำวันมีความสำคัญ ยืนยันว่า ด้วยความรู้ทางการแพทย์ โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ติดแต่ละครั้ง นอกจากเสี่ยงป่วย ป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิตแล้ว ยังเสี่ยงต่อ Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตระยะยาวอีกด้วย ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าตามแก้ไขครับ

 อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8196936


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 19 คำสั่ง